คำตอบที่ 91
       หวัดดีครับ พี่ธัช โปรเจ็คป๋องแป๋ง
ดูจากขนาดยางน่าจะประมาณ 31 นิ้ว

แนะนำเรื่องตอกสลัก + แกนเร่ง + สปริงปั๊มครับ จะได้มีสโตกคันเร่งเพิ่มขึ้น ตั้งน้ำมันให้หนักกว่าอากาศเล็กน้อย
ลดความความดันหม้อน้ำ ตาม คต 76 เลย
เติม นมค > 6.5 ลิตร ช่วยลดความร้อนได้
ถ้าบูตไม่สูงท่อเดิมกรองเดิมสบายครับ

Turbo KZ ตัวมันเล็กครับ ให้บูตปกติประมาณ 4 - 6 ปอนด์ ต้นมาไว เกาะบูตที่ 1300 RPM ถ้าจะแช่นานๆ ที่ >3000 RPM ต้องผ่อนๆ บ้างครับ
เรื่องความร้อนจะขึ้นเร็วมาก เพราะโข่งไอเสียมันเล็ก แต่เครื่อง KZ จะมีหม้อน้ำที่ใหญ่กว่า 5L โดยจะยาวกว่าที่ด้านล่าง ทำให้ KZ ระบายความร้อนได้ดีกว่า
ถ้าจะเปลี่ยนหม้อน้ำต้องเปลี่ยนกันหินใหม่ด้วย เพราะจุดยึดสกรูต่างกัน
แนะนำลดความร้อนด้วยพัดลมไฟฟ้าครับ

คำแนะนำข้างต้น ผมพรินซ์ไปให้ร้านทำปั๊มเขาสามารถเข้าใจได้เลยใช่มั้ยครับ จาก : Tanatach(Tanatach) 2/7/2556 16:29:26 [124.122.136.119] เรื่องรอบเครื่องผมจะเปลี่ยนเกียร์ที่ประมาณ 2200-2500 รอบ และเกียร์ 5 ผมเลี้ยงรอบประมาณ 2800-3000 รอบ จาก : Tanatach(Tanatach) 2/7/2556 16:32:13 [124.122.136.119] เรื่องฝาหม้อน้ำ ร้านทำหม้อน้ำเขาใส่ฝาแต่งมาให้ ใช้แทนกันได้มั้ยครับ จาก : Tanatach(Tanatach) 2/7/2556 16:33:37 [124.122.136.119] เรื่องโข่งหลัง ถ้าท่อไอเสียผมใช้ 3 นิ้ว และค่อยลดลง 2.5 นิ้วจะช่วยเรื่องความร้อนลดลงได้มั้ยครับ จาก : Tanatach(Tanatach) 2/7/2556 16:34:47 [124.122.136.119] เรื่องพัดลมไฟฟ้าต้องใช้ขนาดเท่าไหร่ครับ รบกวนแนะนำด้วยครับ จาก : Tanatach(Tanatach) 2/7/2556 16:35:56 [124.122.136.119] ตามที่คุยกันเลยครับพี่ Degsure ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากๆเลยครับ จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 2/7/2556 18:00:21 [58.8.151.4] พี่ม้าเขียวทำอะไรไปมั่งแล้วครับ แนะนำเยอะจำไม่ได้ จาก : degsure(degsure) 2/7/2556 23:40:08 [223.207.84.170] ทำหม้อน้ำให้ใหญ่ขึ้น แล้วก็ติดออย์คูลเลอร์ครับ...ยังเก็บงบอยู่น่ะครับ แล้วเร็วๆนี้จะมาปรึกษาเรื่อง.. จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 4/7/2556 0:24:58 [58.8.175.22] ...เจาะฝากระโปรงเพื่อระบายความร้อนหนะครับ จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 4/7/2556 0:25:17 [58.8.175.22] เรื่องออยล์คูลเลอร์ ต้องระวังเรื่องแรงดันนะครับ โดยเฉพาะเส้นที่เลี้ยงแกนเทอร์โบ จาก : degsure(degsure) 4/7/2556 10:57:15 [203.170.250.169] แผงความร้อนต้องแข็งแรงไม่งั้นมีแตก เต็มห้องเครื่อง น้ำมันจะขาด ทั้งเครื่องและเทอร์โบก็จะพังนะครับ จาก : degsure(degsure) 4/7/2556 10:58:28 [203.170.250.169]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 92
       เรื่องตอกสลัก ปกติ ร้านทำปั๊มจะรู้จักครับ ส่วนแกนเร่งกับสปริงก็เอาตามรูป
จากรูปเป็นตัวเดิมๆ ที่ 5L และหลายๆ รุ่นใช้อยู่ จุดต่อสปริงมันใกล้จุดหมุนทำให้วงสวิงมีน้อย
ตัวแต่งจะมีจุดต่อที่ปลาย วงสวิงมีมากกว่า ซึ่งต้องตอกสลักปั๊มเพื่อให้ระยะที่เพิ่มจากวงสวิงมีที่ไปครับ

เรื่องความร้อนตราบใดที่ใช้โข่งเล็กและรอบจัด ความร้อนในลูกสูบจะสะสมเยอะกว่าปกติ แม้เราจะต่อท่อใหญ่ขึ้น
สภาพแรงดันไอเสียที่รอออกที่ท่อ ก็เหมือนรถที่จอดรอจ่ายตังค์ค่าทางด่วน ยังไงๆ ก็ออกไม่ทัน
สภาพปกติก็ไหลคล่อง พอสภาพแออัดก็อัดกัน ออกไม่ทันครับ
ส่วนท่อก็เหมือนถนนหลังทางด่วน ไหลลื่นโล่งได้ก็ได้เปรียบครับ

วิธีแก้ก็ต้องใช้เวสเกต ปกติ KZ เป็นแบบเวสเกตใน ควบคุมได้ระดับนึง แต่ถ้าไอเสียโอเวอร์ มันก็เอาไม่อยู่ บูตไหล เครื่องจะฮีทได้ครับ
เครื่อง KZ หรือหลายๆ ตัวจึงมี EGR Valve ไว้ค่อยควบคุมอีกชั้นหนึ่ง แต่ 5L ไม่มีครับ ระวังบูตไหลอย่างเดียว

ครั้นไอเสียออกไม่ทัน ความร้อนก็เลยสะสมหนักขึ้นและไปเอ่อที่หม้อน้ำแทน จนเกิดความดันโอเวอร์กว่าสเปคฝาหม้อน้ำ น้ำออกไม่ทัน
มันก็เลยดันแหลก ทั้งหม้อน้ำ ฝาสูบ ฝาข้างเครื่อง ซีลต่างๆ เป็นที่มาเรื่องน้ำหายและฝาแตก

วิธีง่ายสุดก็เจาะรูให้แรงดันมีทางออกและติดพัดลมไฟฟ้าที่หม้อน้ำ เพื่อช่วยลดความร้อนครับ

 แก้ไขเมื่อ : 3/7/2556 6:40:13

เรื่องขนาดและราคาไม่มีข้อมูลครับ จาก : degsure(degsure) 2/7/2556 23:41:27 [223.207.84.170] ขอบพระคุณครับ ได้ความรู้ขึ้นเยอะเลย ผมคงค่อยๆ เรียนรู้กลัวบานปลาย จาก : Tanatach(Tanatach) 3/7/2556 9:16:55 [124.122.136.119]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 93
       แย่ซะแล้วครับ 5L ตัวรักตัวหวง สูบ 3 ทะลุ ซะงั้นเลย

ของเสียงเพื่อนๆ ที่ยังติดตาม 5L เป็นกำลังใจพร้อมคำแนะนำหน่อยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 94
       มาเป็นกำลังใจครับ เพราะอะไรสูบ 3 ถึงทะลุครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 95
       กระจาย ได้ไงอะคับ เล่าให้ฟังหน่อย...เปนกำลังใจให้ปลุกปั้น5Lกลับมา แรง เหมือนเดิมนะ....ขาดเหลือไร กริ๊งกร๊าง มาบอกกันคับ เผื่อพอช่วยไรได้บ้าง...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 96
       ขอบคุณครับพี่ฟลุ๊ค พี่ De boy

คาดการว่าระบบน้ำมันจ่ายรอบสูงไม่พอครับ ตอนนี้กำลังปรับปรุงอะไรนิดหน่อยครับ + งานประจำเยอะมากมาย เดี๋ยวมาอับเดทครับ

ขยายลูกปั๊มได้แล้วครับพี่.....หุๆๆๆๆๆ จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 25/8/2556 0:51:36 [58.8.76.180] เป็นผลพลอยโมไปแล้วครับ ie ie จาก : degsure(degsure) 25/8/2556 16:03:29 [183.88.8.35]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 97
       คันป่วยกลับบ้านแล้วครับ หลังจากไปหาหมอมา 2 สัปดาห์
ก่อนอื่นก็อวดโฉมรองเท้าใหม่ก่อนเลย อิอิ ซึ่งนี่แหละครับสาเหตุข้างเคียงที่ทำให้ป่วยจนสูบทะลุ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 98
       ได้ยินมานานแล้วครับว่าเล่นโบต้องโมปั๊มน้ำมันห้ามขาด

โดยพื้นฐานผมจะปรับแกนฝาปั๊มเพื่อให้น้ำมันสั่งจ่ายมากขึ้น จนกระทั่งได้แมก 18 นิ้วมาครอง
ตามแนวความคิดว่า ยางแก้มเล็กจะเบาและทำความเร็วสูงได้ดี

แต่พอหลังจากใส่ 265/60R18 หน้าแมก 9 นิ้ว (วงล้อก็พอๆ กับ ยาง 31 นิ้ว ) ก็พบว่าคำนวณผิดไปเยอะเลยครับ
ความบางของแก้มยางจะทำให้ความกลมของล้อโดยรวม กลมคงที่มากขึ้น ล้อที่กลมขึ้นเลยมีเส้นรอบวงมากกว่าล้อที่ยางแบน เมื่อวัดในแนวตั้งจากพื้นถึงกลางล้อ
ปัญหาที่ตามมาอันแรกคือไมล์ที่แข็งขึ้นอีก และ การเร่งเครื่องที่ต้องเหยียบเพิ่มขึ้นอีก
ที่เป็นเช่นนี้เพราะได้ทดเฟืองท้าย 3.7 มาก่อนหน้า พอบวกกับ แมก 18 นิ้ว ไมล์ก็เลยแข็งโป๊กเลยทีเดียว

ตอนนี้ตั้งไมล์เริ่มต้นตอนจอดสนิทที่ 35 kml ครับ พอเข็มชี้ 100 ก็เท่ากับความเร็ว 100 จริงพอดี

ครั้นเครื่องเร่งไม่ออก แรงตก วิ่งแทบไม่ไหว เลยปรับตั้งบูท + แกนน้ำมัน ตามสูตรที่ได้ทดลองมา ก่อนหน้า
เป็นผล ครับ 3.7 + 18 กลับมากระชุ่มกระชวย ปี๊ดปร๊าด ไม่มีแรงตก
ทั้งใช้งานในเมืองนอกเมือง ทำงาน ซื้อกับข้าว เป็นปกติมาตลอด
จนกระทั่งวันนั้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 99
       จากไมล์ที่แข็งโป๊กเลยเลยทำให้รอบเหลืออย่างมาก
วิ่ง 100 km รอบเครื่องแค่ 2200 - 2300 RPM
ก็เลยลองกด 3 - 4 - 5 ในโหมด 3500 +++ RPM บูตของโบฮิตาชิ ชี้ที่ 12 +++ ปอนด์
ตาที่มองเห็นความเร็วเข็มอยู่ที่ 140 -150 km (ประมาณ 160 - 170 km GPS) เป็นระยะทางประมาณ 10 กม
และถอนคันเร่งเมื่อถนนไม่ปลอดภัย

พอจะส่งแรงต่อก็รู้สึกอะไรบางอย่าง เสียงดูดอากาศหายไป เสียงแช๊ดดดด หายไป เครื่องไหลลื่นเหมือนไม่มีลูกสูบซะงั้น
แต่รถก็ยังเร่งวิ่งปกติ บูตมาปกติ ควันไม่ขาวไม่ดำ
เลยประคองรถหาที่สงบๆ จอดเพื่อเช็คสภาพก่อนซึ่งลำดับอาการตามนี้ครับ

1. เครื่องวิ่งต่อเนื่องได้ตามปกติ แต่การเร่ง การบูตและเสียงจะผิดปกติไป
2. กำลังจะจอดเครื่องเดินเบาสะดุด และ สบัดรุนแรง ต้องเร่งรอบให้เกิน 1500 ถึงไม่สบัด ปรับรอบมือเพื่อรักษารอบไว้
3. หาที่ปลอดภัยดับเครื่องเปิดฝากระโปรง พบ จุกก้านวัดน้ำมันกระเด็นออกมาพร้อมควันขาวอย่างรุนแรงที่รู้ก้านวัดน้ำมันพุ้งออกมา
4. ปรับตั้งรอบมือเพื่อรักษารอบที่ 1500 และติดเครื่อง ได้เป็นปกติ แต่ยังมีควันขาว พวยพุง ออกรูก้านวัดน้ำมัน
5. ทดลองดันก้านวัดน้ำมันเข้าที่ แต่ไม่ได้ มีแรงดันออกมามาก ผิดปกติ
6. เคลื่อนรถด้วยความเร็วต่ำเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย (กลับบ้านก่อนเผื่อไม่เป็นไรมาก)
7. ครั้นถึงบ้านตรวจเช็คเบื้องต้น สันนิษฐานว่าเครื่องหลวมแน่นอน เพราะแรงดันมาจากห้องเครื่องโดนตรง
8. ปลดสายดูดไอน้ำมันออก ปลดกรองอากาศออก ปลดท่อไอดีออกบางท่อ เพื่อไม่ให้น้ำมันเครื่องเข้าสูบที่เหลือ
9. ประครองรถด้วย 3 สูบไปอู่ตามเส้นทางชนบท (ห่างบ้าน 30 กม) ด้วยสภาพควันขาวท่วมถนนกว่ารถไก่ย้าง
10. เมื่อถึงอู่ คำถามแรกคือมีคิวไหม ==> มีครับ ==> ถอดโล้ด ==> เอาเครื่องมือมา ==> โป๊กเป๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ
11. โอจอร์จ พบรูที่สูบสามครับ จบอาการทันที

***ประมาณการเบื้องต้นน่าจะ 2 หมื่น +++ สำหรับทำสูบใหม่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 100
       เมื่อดูจากสภาพภายในเครื่อง และเท่าที่สอบถามข้อมูลหลายๆที่ น่าจะสรุปได้ว่า น้ำมันชดเชยที่รอบสูง ไม่เพียงพอ ลูกสูบร้อนจัดเกินไป
โดยเฉพาะ สังเกตจากแกนฝาปั๊มที่มีร่องรอยการขีดของแกนน้ำมัน ว่า รอยมันหายไปที่บูตมากกว่า 8 ปอนด์
คาดว่าที่มากกว่า 8 ปอนด์ขึ้นไปจึงมีแต่อากาศ แถมรอบจัดที่ ++ 3500

+ ปั๊มที่ทำมานานถึง 8 ปี (2005-2013) แล้ว ระบบชดเชยรอบเดินเบาคงไม่เสถียรแล้ว เมื่อถอนคันเร่ง น้ำมันที่ไปเลี้ยงหน้าสูบเพื่อลดความร้อนจึงไม่พอ
+ สภาพปั๊มน้ำ มีโครงสร้างที่กร่อนอย่างมาก การไหลเวียนของน้ำจึง ไม่สมบูรณ์
+ วาล์วไอเสียที่มีเขม่าเกาะหนา 3 - 5 mm ไอเสียไหลออกได้ลำบาก
+ โข่งหลังเล็กเบอร์ 4 รีดไอเสียมาก
+ โชคชะตา (ดีที่ไม่ติดบนยอดเขา, ไม่ดีที่ต้องจ่ายๆ อีกแล้ว)

เมื่อทุกอย่างพอดีก็เลย =====>>>>> ปุ๊...............เงียบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 101
       ถึงจะไม่อยากกล่าวโทษวาล์ว แต่พอดูระบบวาล์วก็น่าจะมีผลเยอะครับ
วาล์วไอดีปิดไม่สนิท เป็นผลให้เกิดปรากฏการณ์เบิร์นเนอร์ในห้องเผาไหม้ วิ่งผ่านวาล์วไอดีออกวาล์วไอเสียโดยบูตของเทอร์โบทจะอัดพนไฟในจังหวะที่วาล์วไอเสียเปิด
และปรากฏการณ์เบิร์นเนอร์แบบนี้สามารถตัดเหล็กได้ดีที่เดียว
วาล์วไอเสียที่เขรอะขระ ทำให้ไอเสียไหลไม่สะดวกและเขม่าที่เกาะ จะเป็นเหมือนถ่านหิน แดงอยู่แบบนั้น ไม่ดับจนกว่าจะดับเครื่องและเย็นตัวลง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 102
       ถือว่าโชคดีละครับที่กระบอกสูบไม่มีปัญหาใดๆ แค่ลูกสูบเป็นรูอย่างเดียว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 103
       แต่มีงานเพิ่มคือระบบน้ำ ซึ่งก่อนหน้าอยากทำมานานแล้ว

มันกร่อนมากแล้วครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 104
       เมื่อได้ยกเครื่องแล้วอย่าลืมจุดเล็กๆ น้อยๆ นะครับ คันนี้วิ่งมา 350,000 km แล้ว (ไมล์แข็งมาตลอด 12 ปี)
โดยเฉพาะ หลักสะพานไฟ

 แก้ไขเมื่อ : 27/8/2556 17:52:52

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 105
       จากนิยามการแก้ปัญหาถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลงอะไร ปัญหาก็จะยังเกิดขึ้นอีกเสมอ
เมื่อได้ยกเครื่องต้องทำให้ครบไม่งั้นก็จะเป็นอีก
สรุปงานที่ทำไปครับ

1. ลูกสูบใหม่ + แหวน + สลักลูกสูบ 4 ลูกสแตนด์ดาร์ด
2. ชาร์ปอก ชาร์ปก้าน กันรุน 4 ชุด
3. วาล์วไอเสียใหม่ 4 ตัว
4. ฟีดฝา + ฟิตวาล์ว + ปลอกวาล์ว ใหม่
5. ฝาหน้าปั๊มน้ำใหม่
6. ปั๊มน้ำใหม่
7. ประเก็นฝาสูบ ฝาข้างเครื่อง ฝาหน้า ประเก็นเขาไอเสีย ประเก็นเขาไอดี ใหม่
8. ซีลหน้าเครื่อง ท้ายเครื่อง ใหม่
9. เชื่อมรอยต่อท่อน้ำมันเลี้ยงเทอร์โบกลับ + กาวแคร้งก์น้ำมัน ใหม่
10. ล้างทำความสะอาดภายใน ฝักบัว หัวเจ็ต ช่องอากาศเขาไอเสีย ช่องอากาศเขาไอดี
11. ส่งทำลูกปั๊ม 12 mm พร้อมหัวฉีดขึ้นเครื่องเทส ระบุเทอร์โบฮิตาชิ
12. ใส่คลัชท์วีโก้ 10 กว่าๆ นิ้ว + หวีวีโก้ + ลูกปืนหวีวีโก้
13. เจียรฟายวีล ปรับระยะความสูงคลัชท์ให้เท่าสแตนด์ดาร์ด ปรับแต่งหัวหมูหลบ 10 นิ้ว
13. น้ำมันเครื่องใหม่ + น้ำยาหม้อน้ำใหม่
14. อัดกาวระบบท่อใหม่หมด

อย่าเผลอสวนคันอื่นมากนะครับพี่ เดี๋ยวได้ยกเกียร์ KZ ขึ้นไปแทนอีกหนึ่งชิ้น 555 จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 26/8/2556 11:20:59 [58.8.158.195] ช่วงนี้ท่องเย็นไว้โยมๆๆๆ ให้ขึ้นใจไว้ครับ หุๆๆ จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 26/8/2556 11:21:23 [58.8.158.195] ตอนนี้ต้องทำสมาธิเยอะๆ ครับ รู้สึกว่า ถ้าเผลอ มีไส้ขาดแน่ๆ จาก : degsure(degsure) 27/8/2556 11:54:32 [203.170.250.169] 5555 ครับ ขอให้มีความสุขกับเครื่องสภาพใหม่ครับพี่ ไว้จะไปทำตามบ้างครับ จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 27/8/2556 16:58:25 [110.168.244.7] รอ 12 mm อับเดทการกินก่อนครับ (11 mm ไม่เอานะ) ช่างที่ทำบอกว่าจะติดใจ จาก : degsure(degsure) 27/8/2556 17:55:53 [203.170.250.169] มีสัญญาว่าถ้าติดใจ จะยกเบียร์ให้ลังนึง แล้วตอนนี้ก็เริ่มเห็นอะไรๆ แว๊บๆ แล้วครับ หุหุหุ จาก : degsure(degsure) 27/8/2556 17:57:08 [203.170.250.169]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 106
       อับเดทสเปครถล่าสุดครับ

1. เทอร์โบฮิตาชิ โข่งหลัง#4 + เวสเกตแยก
2. ปั๊ม 12 mm + ฝาปั๊ม
3. แมก 18 นิ้ว หน้า 9 นิ้ว 9 ก้าน offset เล็กน้อย
4. ยาง Aurora 265/60 R18
5. เฟืองท้าย 3.7 (11/41)
6. หม้อลมเบรค 1.5 ชั้น
7. Inter cooler 20 x 2.5 นิ้ว 13 หลอดเหลี่ยม

ระหว่างนี้ รันอิน สูบใหม่ วาล์วใหม่สัก 2000 โล

หากใครเจอขับช้าก็แซงไปก่อนนะครับ

 แก้ไขเมื่อ : 26/8/2556 8:01:15

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 107
       พี่ครับ นี่เทพมาจุติ จริงๆ กูรู 5L ผมคารวะ

เก็บภาพมาเล่าต่อเองครับ ยังไม่เทียบเท่าปรมาจารย์ท่านอื่นเลยครับ แต่ก็ขอบคุณนะครับ จาก : degsure(degsure) 27/8/2556 11:55:36 [203.170.250.169]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 108
       เฟือง 3.7 เกียร์ 5 ที่ความเร็ว 100 kmh ครับ (ติดลบนิดๆ)

รอบเครื่องจะเบาไปไหมครับแบบนี้

เรื่องน้ำมันกับปั๊ม 12 mm เดี๋ยว รันอินครบแล้วใช้งานปกติเมื่อไหร่จะเอามาเล่าต่อครับ

ถ้าจะเป็นแบบพี่ แล้วรบกวนพี่ทำให้ค่าใช้จ่ายซักเท่าไหร่ครับ ทำกับแล้วจบแพงก็ยอมครับ จาก : Tanatach(Tanatach) 27/8/2556 14:20:27 [110.168.121.117] จากที่ทดลองโน้นนี่นั่นก็ หลายสตางค์อยู่ แต่ถ้าระบุเจาะจงเป็นงานๆ ก็พอแชร์ได้ครับ จาก : degsure(degsure) 27/8/2556 18:48:26 [203.170.250.169] เรื่องจบหรือไม่ต้องมีระบุในใจเลยครับแค่ไหน ผมก็เคยคิดจะจบ แต่ก็อยากรู้ไปเรื่อย เลยลองไปเรื่อยครับ จาก : degsure(degsure) 27/8/2556 18:49:37 [203.170.250.169] เครื่องคงเงียบน่าดู จาก : pomelo_man(pomelo_man) 28/8/2556 13:59:34 [171.99.0.42]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 109
       คุน Degsure ขอเบอโทหน่อย ผมใช้สปอตไรเดอ ลงโบ จะเปลี่ยนเฟืองท้าย ขอปรึกษาหน่อย

ส่งในกล่องข้อความแล้วครับ จาก : degsure(degsure) 12/9/2556 16:27:43 [203.170.250.169]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 110
       สวัสดีครับพี่ผมแจ็คบ้านค่ายนะครับ ช่วงนี้ผมยุ่งมากไม่ได้คุยกัเลย พ้นรันอินยังครับ

สวัสดีครับพี่แจ๊ค จาก : degsure(degsure) 13/9/2556 11:46:50 [203.170.250.169]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 111
       ยังรันอินอยู่เลยครับ ไม่กล้ากดเยอะ แต่ก็มีหนักเป็นบางช่วงบ้างแล้ว ตอนนี้เพิ่งวิ่งได้ 1000 โล +- ตั้งเป้าไว้ 2000 โล
หลักๆ ก็คุม ไม่เกิน 2500 RPM บูตไม่เกิน 5 - 8 ปอนด์ ครับ

น้ำมันถังแรก ใช้ไป 63 ลิตร ไมล์ชี้ 537 ระยะจริงได้ 537 x 1.265 = 679 KM
ใช้น้ำมันไป 10.7 โลลิตร ส่วนมาก เดินเบาเครื่องตลอด ทั้งเช้า เย็น

ตอนนี้ยังไม่ชินกับปั๊ม 12 mm ที่โมมาครับ มันแตกต่างออกไปเยอะเลย (หรือเพราะไม่กล้ากด)
แต่คร่าวๆ ตัวปั๊มมันแบ่งการทำงานได้ 3 โหมด (จากการบังคับเท้าในการใช้งาน)
1. โหมดออกตัวรอบต่ำ (<2000 RPM) มีแรงบิดเยอะมาก รถกระชากออกได้อย่างแรง เสียวเกียร์สูงรอบต่ำจะรูด
2. โหมดรอบกลางๆ (2000 - 2500 RPM) ขับได้ปกติเหมือนปั๊มเดิม ไม่รุนแรงนัก กินน้ำมันปกติ
3. โหมดรอบสูงหรือ เร่งสปีด (>2200 RPM) รู้สึกเลยว่ากินน้ำมันมาก แรงบิดเยอะ ปานว่าไส้จะขาดง่ายๆ

ประกอบกับคลัชท์วีโก้ 10 นิ้ว คลัชท์เกาะดีจนรถกระชากหลังติดเบาะสบายๆครับ (ติดเบาะเพราะยันคลัชท์ไว้ )
เนื่องจากเป็นคลัชท์สแตนด์ดาร์ด เลยไม่หนัก และ ไม่กระโดดครับ
ประทับใจตรงที่ คลัชท์ส่งแรงบิดออกตัวสูง เรื่องเกียร์ 1 ซึมเศร้าหายไปเลยครับ ซ้ำยังเงียบสนิท กลายเป็นเสียงกรองกับเสียงปั๊มดังแทน

ตอนนี้ลดโช๊คหลังเหลือ เบอร์ 2 ให้มันซับแรงบิดไปที่แหนบ + โช๊คก่อน ลงล้อ ช่วยถนอมไส้ในได้เยอะครับ
ครบ 2000 โล ก็จะเข้าสู่การขับปกติ ทั้งใกล้ - ไกล จะวัดการกินน้ำมันมาเล่าต่อครับ

นี่แหละถึงเตือนว่าอย่าเผลอกดสวนคันอื่น....เดี๋ยวได้ยกเกียร์ห้าแอลลงไปใส่เคแซดแทน หุๆๆ จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 13/9/2556 14:24:33 [110.168.214.67] เกียร์รูด ระเบิดขึ้นมาซ่อมใหม่ยกใหม่ยังไง เดี๋ยวมันก็กลับบ้านเก่าเหมือนตามไปเพราะรับไม่ไหวครับ.... จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 13/9/2556 14:25:34 [110.168.214.67] ถ้าเซทนี้ไปไม่รอด พี่ม้าเขียวเตรียมหา N/A 200 ม้า ให้ด้วยนะครับ จาก : degsure(degsure) 15/9/2556 6:44:57 [171.5.187.37] งั้นไปเบนซินวี8 UZ เลยครับ หุๆๆๆ จาก : ม้าเขียวกทม.(ม้าเขียวกทม.) 17/9/2556 0:31:26 [58.8.175.201]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 112
       ขออนุญาติเจ้าขอกระทู้ครับ แจ้งพี่ๆ ทุกท่านครับ หากท่านใด หาเฟือง11/41และ 10/43โตต้า หน้าหลัง สอบถามได้ครับ ที่บ้านมีอยู่ 2 ชุดขอบคุณครับ แบ่งกันใช้ครับ หรือ เอา8/39 มาแลกเพิ่มส่วนต่างก็ได้ครับ

ขอเบอร์ โทรหน่อยครับ สนใจ 11/41 จาก : pomelo_man(pomelo_man) 18/9/2556 18:45:23 [183.89.75.162] เสือเทา 085-4856106 จาก : tiger02(tiger02) 18/9/2556 21:50:32 [223.204.125.36] แก้ไขครับ 085-485-6105 จาก : tiger02(tiger02) 18/9/2556 21:51:29 [223.204.125.36]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 113
       ขุดมาเล่าต่อครับ
จะมีคนเบื่อไหมนี่

รอ ๆ จาก : reloaded(reloaded) 31/10/2556 14:12:56 [202.129.36.114]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 114
       ไม่น่าเบื่อหรอก เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์นะครับ (ตามอ่านอยู่)

ใคร สนใจ โตโยต้า 2001 เครื่อง 5 L 4 ประตูโฟว์วีล ไปแต่ง แค่ 260000 ติดต่อ 088-809-4547 จาก : poxJE(poxJE) 4/11/2556 13:20:51 [223.207.251.33]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 115
       งานเยอะครับเลยมาเล่าต่อช้าไปหน่อย
ผ่านไปเกือบๆ 3 เดือนแล้ว เพิ่งวิ่งได้แค่ 3800 กม จากหน้าไมล์
แต่ระยะทางจริงๆ ที่ล้อได้สัมผัสถนน มันมากกว่ามากเพราะ เรโชที่ได้จากการใช้เฟือง 3.7 เพี้ยนไปเยอะ
ยิ่งล่าสุดจับคู่กับ แมก 18 นิ้ว เลยทำให้เรโชเพี้ยนกว่า แมก 17 อีกครับ หรือไมล์แข็งกว่านั่นเอง

ไมล์แข็งคืออาการที่เลขไมล์บอกระยะทางได้น้อยกว่า ระยะทางจริงที่รถวิ่ง หรือ ช่วงขายาว อาการแถมคือเครื่องตื้อกินแรง หนักคันเร่ง
ไมล์อ่อนคืออาการที่เลขไมล์บอกระยะทางได้มากกว่า ระยะทางจริงที่รถวิ่ง หรือ ช่วงขาสั้น อาการแถมคือเครื่องจัดจ้านรอบสูง แต่เบาคันเร่ง
โดยอาการแถมที่เกิดขึ้นอยู่ภายใต้ตัวแปรของ ระยะทาง กับ เวลาในการเดินทาง เดียวกัน

ที่บอกว่าแมก 18 ทำให้ไมล์แข็งกว่า แมก 17 เพราะขนาดของยางที่ใช้ครับ
แมก 18x9 จับคู่ยาง 265/60/R18
แมก 17x8 จับคู่ยาง 265/65/R17
พื้นฐานเอามาตั้งเทียบแล้วมองด้วยตาเปล่า สูงเท่ากัน หน้าเท่ากัน ประมาณๆ ยาง 31 นิ้ว จนอุปโลมไปว่า แมก 18 ยางเบากว่า ต้องปรี๊ดกว่า
แต่ครั้นได้ลงทุนจ่ายไปซื้อมาครองและใช้งานจริง ทำให้ต้องรู้สึกผิดหวังครับ เพราะนั่นเป็นการอุปโลมที่ผิด
ถึงแม้ยางจะเล็กกว่า แต่เส้นรอบวงมากกว่า ผลคือไมล์แข็งขึ้นอีก แม้เพียงเล็กน้อย แต่ก็ทำให้ข้ามเส้นแดงลิมิตของ 5L ที่ลงเฟือง 3.7 อยู่แล้วไปอีกเยอะ

จากการทดสอบจริงในการเดินทาง ตจว ที่ระยะทางบนแผนที่บอกว่า 209 กม
ที่แมก 17 + 265/65/R17 เฟือง 3.7 ได้ระยะบนไมล์ = 172 กม
ที่แมก 18 + 265/60/R18 เฟือง 3.7 ได้ระยะบนไมล์ = 165 กม

มิน่าละทำไมถึงวิ่งไม่ค่อยออกเพราะไมล์มันแข็งกว่านี่เอง 55555555

*** อาการเส้นรอบวงนี้ เฉพาะ แมกกับยางที่ผมใช้ 2 วงนี้นะครับ
*** ตัวแปรที่ขาดไม่ได้คือลมยาง ไม่อ่อนไม่แข็งเกินไป สังเกตจากหน้ายางให้มีรอยดำๆ ข้างๆ บนหน้ายาง เติมลมแข็งแบบให้วิ่งไม่เต็มหน้ายางเล็กน้อย (32- 35 psi)
*** หรืออาจจะเป็นเพราะยางของแมก 18 ยังใหม่เอี่ยม ดอกยางเต็ม เลยวงใหญ่กว่า
*** แต่ช่างผู้มีประสบการณ์แนะนำว่า เนื้อยางใหม่ๆ มันดูดถนน วิ่งไม่ออกหรอก ต้องรอให้ยางมันเก่าก่อนสัก 1 ปี แรงม้าจะมาเอง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 116
       "เอาน่าไมล์แข็งก็แข็ง ปรับเข็มไมล์ชดเชยเอา" อ่ะ เริ่มที่ 35 ไปเลย ได้ 100 ตรงเป๊ะ อิอิ

คราวนี้ขอกล่าวถึงพลังงานที่ใช้ไปครับ เพราะรันอินครบ 2000 โลแล้วก็เริ่มขับแบบปกติตามแต่สภาพถนน นั้นๆ เร็วบ้างช้าบ้าง
แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเร็วซะมากกว่า เพราะอยู่แต่บนทางด่วนประจำ ต้องคอยหนีรถรุ่นใหม่ๆ ที่แรงปรี๊ดๆ กดหาย กดหาย เยอะ
บางทีก็ต้องค่อยฉีกออกมาแซงรถบรรทุก หรือ รถคุณลุงที่ขับเรื่อยๆ บ่อยๆ
หน่ำซ้ำ ยังเจอถนนรถติด การจราจรคับคลั่ง และบ่อยครั้งที่ติดเครื่องเปิดแอร์ให้เจ้าตัวเล็กนอน เป็น ชั่วโมงๆ
ที่ขาดไม่ได้คือแตะคันเร่งเบิ้นเครื่องให้ได้ยินเสียงเป็นลูกๆ เบาๆ ตลอด

เอาแบบง่ายๆ ว่า ไม่อยากต้องมาคลานเป็นเต่า แล้วมาบอกว่าประหยัดครับ ก็เลยขับมันแบบไม่คิดอะไรเลย กดได้กด ผ่อนได้ผ่อน แซงได้แซง
ดูซิว่ากินแค่ไหน หึหึหึ "ช่างมัน" แต่ ก็ไม่ถึงขั้นที่ เหยียบกระจายนะครับ เพราะเดี๋ยวกระจายอีก
เป็นผลครับ จากการไม่ปราณีเท้า เข็มน้ำมันตกฮวบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนเศร้า "ปั๊ม 12 มม มันซด ขนาดนี้เลยเหรอ" อยากถอดออกโยนทิ้งทันที

และสุดท้ายก็เติมน้ำมันเต็มถัง เอา เรโชที่ได้ล่าสุดคือ 1.266666 มาคูณ และหาร จำนวนน้ำมันดู
ไม่น่าเชื่อครับว่า เข็มน้ำมันที่ตกมากมาย จนน่าตกใจ แต่พอคูณเรโชแล้วยังได้ถึง 10.4 กม/ลิตร ซึ่งมันขัดแย้งกับความรู้สึกมาก

สมัยเฟืองดั่งเดิม ล้อเบาๆ ถนอมแล้ว ถนอมอีก คลานเป็นเต่า กว่าจะได้ 10.4 กม/ลิตร แต่ตอนนี้ขับตามสภาพจริงกับทำได้เท่าๆ กัน เพอร์เฟค สุดๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 117
       ต่ออีกนิดหลังจาก ขี้โม้ ไปเยอะ

แมก 18 + 265/60/R18 + เฟือง 3.7 ผมว่ามันหนักแรงเกินไป สู้แมก 17 เซทเก่าไม่ได้ ยิ่งที่ความเร็วเกิน 130 kmh(GPS) ขึ้นไป เร่งไม่ค่อยออกแล้ว
ถ้าอยากให้วิ่งออกคงต้องลุ้นว่าเครื่องจะกระจายอีกไหม เพราะคันเร่งมันเหลือ กดได้อีกเยอะ แต่เดี๋ยวพังครับ ผ่อนดีกว่า
ประเด็นคือ ไมล์แข็งขึ้น วิ่งได้ไกลขึ้นอีกนิดนึงที่รอบเครื่องเท่าเดิม

ข้อเสียคือ ยิ่งเร็วยิ่งหวือ เอาอยู่ยาก ออกตัวแรงหายไปเยอะ ถึงขั้นกลัวว่าจะขึ้นห้างไม่ไหวเลยทีเดียว
วิธีแก้คือต้องเดินเบาให้มากกว่า 1000 RPM เตรียมพร้อมออกตัว เพราะ 5L เป็นเครื่อง Direct ไม่มีทอร์คที่รอบต่ำ ต่างจาก D4D ที่จัดทอร์คได้ทุกรอบ
ง่ายๆ ก็แค่ปรับรอบมือเวลาเจอจุดคับขั้น วิธีนี้ทดลองหลายทางลาดแล้ว ออกตัวขึ้นเนินได้สบาย โล่งใจไปเยอะครับ (เลียนแบบรถบดถนน เร่งเครื่องรอไว้)
แต่คงไม่เหมาะสำหรับท่านๆ ที่ไม่ชอบความวุ่นวายในการใช้งาน
ส่วนตัวเองก็อาจจะกลับไปใช้เฟือง 3.9 อีกครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กลับว่า ในแต่ละวันต้องเจอสภาพถนนแบบไหน ครับ

เกียร์ 5 ที่ทางปกติ ดีครับ รอบต่ำและขับที่ 110 - 120 ตามป้ายความเร็วได้ยาวไม่ต้องผ่อน ซึ่งรู้สึกว่า ยิ่งวิ่งนานเท่าไหร่ยิ่งประหยัดเป็นเงาตามตัว
ล่าสุดเดินทางกลับบ้านเกิดมา ด้วยระยะทางเดิมๆ ที่เคยวิ่ง ไป-กลับ เกือบๆ 600 กม และต้องมาเติมน้ำมันเต็มถัง เพื่อวิ่งไปทำงานปกติในวันจันทร์
ท่านที่ใช้ 5L คงรู้นะครับว่า 600 กม น้ำมันในถังเหลือเท่าไหร่
แต่คราวนี้ไปกลับมาแล้วน้ำมันเหลือครึ่งถัง สามารถวิ่งทำงานต่อได้อีกทั้งอาทิตย์ สบายมากครับ
ข้อเสียคือขึ้นเนินยาวลำบาก แม้ตัวปั๊มจะทำให้มีแรงขึ้นเนินไม่ต้องถอนเกียร์ แต่พวกระบบส่งกำลังอื่นๆ อาจจะพัง เลยลดเกียร์ 4 สบายใจกว่า

ปั๊ม 12 mm ยอมรับว่าจ่ายหนัก จ่ายมาก เปลืองกว่า แต่ทำให้รถหนักๆ ลอยตัวเร็วแล้ววิ่งเรื่อยๆ กดเบาๆ ที่รอบต่ำ
ทำให้ชดเชยกันไปกับ ปั๊มเดิมๆ ที่การจ่ายน้อยกดหนักและรอบสูง
ข้อเสียคือเสียงปั๊มดัง นึกถึง Isuzu TFR 2500 Di ซิครับ แกร๊กๆๆๆๆๆๆๆ อยู่คนละแยกถนน ยังได้ยิน
อีกเรื่องนึงคือที่รอบเครื่องสูงๆ รู้สึกว่าปลายแรงมันหมด ต่างจาก ปั๊มเดิมที่ลากได้ยาวกว่าแลมีแรงอัดมากกว่า ในช่วง 3000 - 4000 RPM (อาจจะกลัวพังจนคิดไปเอง)

สุดท้ายก็เรื่องคลัชท์ 10 นิ้วของวีโก้ พร้อมหวี
พอใจมากครับเพราะใช้มา 3 เดือนแล้ว เสียงคลัชท์หายไปเลย แถมเวลาเลียคลัชท์ออกตัว ได้ทอร์คสูงมาก กดได้ไม่ต้องกลัวลื่น จับม้าลงล้อได้ครบ
ข้อเสียก็คงเรื่องน้ำหนัก แต่ดูไม่ออกครับเพราะมันอยู่ข้างใน

คลัชท์ 10 นิ้วใส่แล้วไม่ติดหรือครับ ใส่ได้พอดีหรือต้องแปลงตรงไหนมั้ย อยากลองบ้าง จาก : Tanatach(Tanatach) 5/11/2556 13:03:17 [115.87.84.59] ติดแน่นอนครับ แก้โดยการลดมุมกะทะหวีคลัชท์ และ เจียรเสื้อเกียร์ออกเล็กน้อย รูน็อตตรงกันพอดี จาก : degsure(degsure) 5/11/2556 13:15:18 [203.170.250.169] ทำตอนยกเครื่องเลยง่ายครับ ถ้าโหมดปกตินอนหงายท้อง คงต้องยกหลายรอบ เพราะลองหมุนไฟล์วีลไม่ได้ จาก : degsure(degsure) 5/11/2556 13:16:24 [203.170.250.169] เกือบลืมอีกเรื่องนึงคือต้องลดความสูงไฟล์วีลลงด้วย เพราะ คลัชท์ 10 นิ้ว หนากว่า 9 นิ้ว จาก : degsure(degsure) 5/11/2556 16:01:58 [203.170.250.169] โดยการถอดไฟล์วีลไปกลึงปาดหน้าออก ลดความสูงให้เท่าระยะเดิมของ 9 นิ้ว จาก : degsure(degsure) 5/11/2556 16:03:57 [203.170.250.169]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 118
       หลังจาก Overhall เครื่องกลับมาแล้ว รู้สึกสภาพอะไรหลายอย่างเปลี่ยนไป เพราะตอนลื้อประกอบเปลี่ยนอุปกรณ์ไปเยอะ
หลายคนถามว่าทำไมไม่เปลี่ยนเครื่อง เพราะว่าไม่อยากให้บอดี้รถเสียรูปครับ ยิ่งถ้าได้ D4D มาลง คงต้องจบไม่ลงแน่ เดี๋ยวก็หาเรื่องแรงอีก
คงได้ตามมาเรื่องช่วงล่างอีกมากมาย กว่าจะพอใจอีกรอบคงหลายแสน
อีกอย่างนึง ถึงแม้เครื่องไม่เสียหายอะไรก็มีแผนจะจัดการอยู่แล้วครับ

อาการที่ตกค้างหลังจากนำมาใช้งานคือมีน้ำมันดีเซลหยดลงพื้นอย่างนอง
เมื่อสำรวจพบว่าออกมาจากตัวปั๊มแน่นอน เครียดครับว่า ปั๊ม 12 ทำเรื่องเข้าแล้ว หรือมันเป็นของปลอมยัดไส้
เมื่อกลับไปที่ร้านซ่อมเครื่อง เขาเปลี่ยน Valve ให้ 1 ตัว 300 บาท เพราะมีร่องรอยน้ำมันดีเซลออกที่นี่
แต่ก็ไม่หายครับ กลับไม่ทันถึงบ้าน ไหลเจิ่งพื้นเป็นน้ำเลย

แผนสองคือเข้าร้านปั๊มดีกว่าน่าจะฟันธง (หรือฟันเราหว่า) ได้ดีกว่า
ครั้งแรกขันเร่งน็อตเบอร์ 17 ที่ท่อน้ำมันกลับเพราะเกลียวมันไม่แน่น => เอากลับมาวิ่งได้ 1 รอบ ดีเซลก็ออกมาท่วมพื้นอีก
ครั้งที่สองเปลี่ยนท่อยางน้ำมันกลับด้วย => เอามาวิ่งได้ 1 วัน ตื่นเช้ามาท่วมเจิ่งพื้นคือเก่า
เครียดหนักครับว่า เครื่องพัง น้ำมันรั่ว แก้ไม่จบ โทรปรึกษาร้านปั๊มที่เดิม
ได้คำแนะนำฟันธงคือให้ยกฝาปั๊ม 1 ครั้งเพราะอุปกรณ์ภายนอกเปลี่ยนหมดแล้ว เหลือภายในและทิศของรอยรั่วมาจากฝาเท่านั้น

ครั้งที่ 3 จีงถอดฝาออกอีกครั้ง และเปลี่ยนโอริงภายในทั้งชุด ประมาณ 3 ตัว เปลี่ยนท่อโลหะน้ำมันกลับ 1 เส้น ในตำแหน่งศรแดง
แหวนทองแดง 2 ตัว หมดไป 400 บาท
ตั้งแต่วันนั้นยันวันนี้ไม่มีดีเซลหยดให้เห็นอีกเลยครับ

ที่เปลี่ยนใหม่หมดเพราะคนละร้านกันครับ ไม่อยากคาดเดาเลยเปลี่ยนยกชุดอีกครั้ง ซึ่งร้านก็การันตีว่าหายขาด 100% อาการนี้แก้ง่าย
แต่รู้สึกว่าร้านนี้เขาแอบลดน้ำมันลงเล็กน้อย เพราะตอนลองเครื่องควันดำเกินไป
แอบเคืองว่าควันดำนิดหน่อย เครื่องแรงกระฉูดแอบลดทำไมไม่บอกเรา แต่ที่ได้มาคือ การกินน้ำมันที่ไม่ต่างจากปั๊มเดิมๆ แต่จ่ายทันเวลากดหนักครับ

เดือนหน้าจะเดินทางไกลไปเชียงใหม่ จะทดลองโหมดประหยัดเอามาอวดสักหน่อย คาดหวัง 14 โลลิตร ให้ได้ เหอเหอเหอ
แล้วค่อยมาโม้ต่อครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 119
       มาติดตามครับ น่าจะเป็น 5L แรง+ประหยัด 1 เดียวในเวป ถ้าวิ่งทางยาวได้ 14 กม./ลิตร กระบะใหม่ๆยังทำไม่ได้เลยครับกับการใช้งานจริง

ขาขึ้นไม่คิดได้ไหม เอาขาลงอย่างเดียว น่าจะไหวครับ ^^ จาก : degsure(degsure) 5/11/2556 16:08:26 [203.170.250.169] ผมเอา sprd ขับ2 เครื่อง 1KD ออโต้ ล้อ 30.6 นั่ง 6 คน กระเป๋ว 6 ใบ ไปลำบาง เชียงใหม่ วิ่งไม่เกิน 130 จาก : flook_(flook_) 6/11/2556 3:19:55 [171.97.45.226] ประหยัดสุด ได้ 12 กม. แต่ทางเนินไม่ดัน ครับ จาก : flook_(flook_) 6/11/2556 3:22:44 [171.97.45.226] รอผลทริปเหนือ ของพี่ครับ จาก : flook_(flook_) 6/11/2556 3:23:30 [171.97.45.226] จากจำนวนผู้โดยสาร + สัมภาระ แล้ว โหดไม่ใช่เล่นนะครับ ได้ 12 ก็สุดยอดแล้วครับ จาก : degsure(degsure) 6/11/2556 17:03:48 [203.170.250.169]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 120
       รีวิวก่อนไปเชียงใหม่ครับ

เมื่อวันหยุดที่ผ่านมาได้ทดสอบการเดินทางง่ายๆ
ผู้ใหญ่ 2 เด็ก 1 ไม่มีสัมภาระ

เริ่มจากหมู่บ้าน มุ่งหน้าเข้าเมือง และวนไปวัดเขาสุกิม
ไปเล่นน้ำต่อที่น้ำตกพริ้ว ก่อนยิ่งยาวกลับบ้าน บนเส้นทางสุขุมวิท ปกติ
มีขึ้นๆ ลงๆ บ้างเป็นช่วงๆ ไม่มาก ไม่ชัน

การใช้งาน
วิ่งขวายาวตลอดการเดินทางประมาณ 50%
จี๊ดจ๊าด 20%
หลบซ้าย ไหลตาม 20%
อื่นๆ เช่น จอดไฟแดง ชล่อตามสภาพถนน 10%

พฤติกรรมทั่วไป
ติดเครื่องเปิดแอร์ให้เด็ก 1 ชม
ออกตัวไฟแดงทิ้งช่วงประมาณ 1 - 2 กม
ดันเกียร์ 5 ขึ้นเนิน นานๆ จึงลง 4 บ้าง
ทิ้งช่วงยามคับขัน
เข้าโค้งความเร็วคงที่

ค่าเฉลี่ยความเร็วประมาณ 110 kmh (90 - 120 kmh)

อัตราการบริโภค
เติมดีเซลธรรมดา 1000 บาท ไปกลับหมดเรียบ (ติดลบนิดหน่อย)
1000 บาท ได้ประมาณ 32 ลิตร ระยะทางในแผนที่ 343 กม
คำนวณการกินน่าจะประมาณ 10.2 - 10.5 กม/ลิตร

ขอความเห็นครับว่าเป็นอย่างไรบ้าง

แสดงความคิดเห็นย่อย