WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


ก้าวตามอย่างเร็ว จนช้าเกินไป....
chotikan14
จาก Tik
IP:49.48.220.219

จันทร์ที่ , 17/2/2557
เวลา : 10:29

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

      
" น้ำชาร้อนๆ...ในฤดูหนาว
หรือน้ำชาปนน้ำแข็ง...ในฤดูร้อน......ช่างมีค่าเหมาะสมต่อผู้กระหายอย่างยิ่ง

แต่หากว่า...ท่านต้องดื่มน้ำชาเย็นเยือก...ในความหนาว
หรือดื่มน้ำชาร้อนๆ....ในความอบอ้าว

ขอทายว่า....ท่านถูกบังคับ....
หรือไม่ก็...เป็นผู้เลียนแบบ...ที่ไม่เข้าใจ "

---------------------------------

-เจตนา.... อยากให้รู้คุณค่าของเงิน ที่พึ่งจะเริ่ม "หาไม่ยาก" ...

-โดยแต่ก่อน "เงินหายาก" ก็ใช้ทิ้งขว้าง คือได้ประโยชน์น้อย และไม่ก้าวหน้า...

-ขอให้ฝันร้าย หรือเส้นทางติดตามที่มีด ...หมดไปด้วยความเข้าใจและทักษะตั้งแต่นี้ไปครับ






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 2 จาก >>> 1  2  3  

คำตอบที่ 31
      
-หลักสูตรต่อต้านญี่ปุ่น....

- "New ALTIS" ออกแล้ว เกียร์ AUTO 7 speeds คงดีกว่าเก่าแน่นอน ....ในส่วนของผม สรุปแล้ว ไม่มีที่จอด และไม่มีเงิน ใช้เก๋ง 4ป.คันเก่าต่อเป็นปีที่ 18 ....จึงรื้อภายใน เพื่อซักพรม และเปลี่ยนพลาสติคกันน้ำที่ประตู....งาน DIY

-อยากได้รถใหม่มากกว่า จึงทำงานเนือยๆ หรือไม่ค่อยเต็มใจทำ ซักพรมไม่ค่อยสะอาด พลาสติคใหม่ก็ติดไม่ประณีต แต่ไม่มีใครรู้.... แมวคุมงานหลับครับ...





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik อังคาร, 25/2/2557 เวลา : 19:45  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69460

คำตอบที่ 32
      
-เมื่อกว่า 18 ปีทีแล้ว ตอนจองซื้อ ขอเรียกสคัพเพลทตามชาวบ้านไทยก่อนนะครับ ตามรูปบนเป็นหนึ่งในเหตุผลที่จองซื้อรถรุ่นนี้... เพราะชอบความประณีต และเจาะจง คิดเอง/เออเองแบบนั้นครับ.....

-รูปล่างพลาสติคตัวล่างพิมพ์ HONDA .......เป็นรถร่วมค้าเฉพาะรุ่น ROVER / HONDA ตอนนี้ก็เป็น ROVER / BMW...... ทีมแข่งก็มีร่วมทีม เช่น MCLAREN HONDA.....

-ให้ความรู้สึกเรื่อง ร่วมค้า / ร่วมทีม ในขบวนการรถยนต์ ไว้ในใจนะครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik อังคาร, 25/2/2557 เวลา : 20:58  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69461

คำตอบที่ 33
       -รูปแนบคต.นี้ รถผมเองคือรถโตโยต้า 106 วางเครื่องใหม่ TD25TI ของนิสสัน.....ในไทยเรียก "ผสมข้ามพันธ์"....ไม่ได้เรียกร้องผลใดๆ... คือผม "LET IT BE" (หรือช่างมัน...ฉันหน้าด้าน) เรื่องนี้แล้วครับ...

-ในคต.ก่อนเรื่อง เงื่อนไขเลือก แลนด์ครุยเซอร์กระบะ รหัส 7 ซึ่งมีช่วงล่างคานแข็ง 2 แบบในรุ่นคือ แหนบหน้า/แหนบหลัง กับ คอยล์สปริงหน้า/แหนบหลัง ....ขอให้เดาเรื่องราคา 2 รุ่น รหัสเดียวกันไว้ตามความชอบ หรือตามคาดคะเนที่นิยม.... ในใจนะครับ

-แล้วลองคิดเปรียบกับ LN106 / LN111 ซึ่งมีหลักการความคล้ายกัน...ราคาที่รถที่แตกต่างกัน ในเงื่อนไขใด และเหมือนกันหรือไม่ เทียบใจใจดูครับ...

-ถ้าสับสนบ้าง หรือจับทิศทางความนิยมของคนไทยที่วางเงื่อนไขเลือก/ราคาสูงกว่า ไม่เป็นระเบียบ ถ้าไปเทียบกับต่างประเทศ จะยิ่งไปกันใหญ่...

-เลือกและคัดทิ้งเงื่อนไขที่ขัดแย้งกันลงบ้าง ว่าจะใช้เหตุผลหรือใช้ความรู้สึก การพยายามขีดเส้น หรือถือรวมไว้ไม่ทิ้ง ผลจะยิ่งกว่าการข้ามพันธ์ตามรูปนี้อีกครับ

 แก้ไขเมื่อ : 26/2/2557 5:23:45





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik อังคาร, 25/2/2557 เวลา : 21:14  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69462

คำตอบที่ 34
       -หากท่านใด ขับรถไปในเส้นทางมีจุดหมาย และไม่ถูกแซง หรือมีแต่แซงขึ้นหน้ารถคันอื่นๆตลอดทาง หมายถึง..."เร็วกว่า"....

-ถ้าขับไปในเส้นทางที่มีจุดหมาย แต่ไม่พบรถให้แซง หรือไม่ถูกแซงเลย อาจหมายถึงความเสี่ยง ว่าจะเป็น "ทางลัด"...หรือ.."หลงทาง"....

-ถ้ามีจุดหมาย และมีคำถามเรื่อง "ทางลัด" คงเป็นคนไทยแน่นอน ดังเช่นจะเห็นคำถามหรือการคิดแปลกๆ ในจุดหมายเดินทางแบบเดิมๆเสมอ อาจประเมินความหมายเป็นต้องการ ...พิเศษกว่า,ประเมินผู้อื่นต่ำกว่าตนเอง หรือไม่ไว้ใจใคร..... มองเป็นลักษณะได้ครับ

-แต่มองอย่างวิเคราะห์ คงหมายถึงแวดล้อมที่ไว้ใจไม่ได้ ทำให้เป็นผลอย่างนั้น....และนี่คือสิ่งที่คนไทย ต้องช่วยกันแก้ไขส่วนรวมครับ

--------------------------------------

ขออนุญาตฝากไว้.....ไม่มีความหมายใดๆครับ

http://www.youtube.com/watch?v=E9XQ2MdNgKY

http://www.youtube.com/watch?v=hOKuAigsrec

-งาน cover.... ที่แปลก(ไม่มีเครื่องดนตรีช่วย)และมีคุณค่า(ไพเราะ) จนเป็นทางเลือกได้.....

 แก้ไขเมื่อ : 26/2/2557 5:52:27

 แก้ไขเมื่อ : 26/2/2557 9:03:46



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.207.16.160 พุธ, 26/2/2557 เวลา : 05:39  IP : 223.207.16.160   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69477

คำตอบที่ 35
       -ขอวางความเห็นเพื่อไปเทียบกับการใส่แว่นกันแดดในห้องส่งหรือในร่ม และเพื่อเผยแพร่ภาพ ดังนี้ครับ

-นานเกิน 10 ปีแล้ว ต้องแจ้งเวลาเพราะมีสถิติในเวลานั้นกำหนดคุณสมบัติบางอย่างอยู่........ผมไปเที่ยวแม่ฮ่องสอน ได้ไปพักรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ก็ถูกใจ... ในส่วนกลางของรีสอร์ทได้เห็นการบรรจุแมลง(ตากแห้ง) เรียกการเก็บซากไม่เป็นขอโทษด้วย ลงซองพลาสติค ซองละ 1 ตัว ปิดผนึก เหมือนขนม ถามคนงานที่ทำการอยู่จึงทราบว่า ส่งไปจำหน่ายเพื่อการสะสม และได้รู้ว่าเจ้าของรีสอร์ท เป็นนักสะสมแมลง ความสนใจจึงพาส่วนของครอบครัวผมไปที่บ้านเจ้าของรีสอร์ท....

-บ้านเป็นเรือนไม้ ปลูกยกระดับราวๆ 1 เมตร หรือมีใต้ทุนโล่ง แต่เดินรอดไม่ได้ คนงานที่พาไปเรียกเจ้าของและแนะนำความสนใจของผมและครอบครัว ช่วงแรกที่ไปหา พวกผมยืนอยู่ที่พื้นดิน ยังไม่ได้ขึ้นบ้าน เจ้าของเดินมาที่บันได ....พอคนงานไปแล้ว พวกผมก็เริ่มคำถาม ราวๆ2-3 ประโยค เขาเห็นว่าอาจมีข้อความอีกหลายประโยค จึงนั่งลงที่พื้นหัวบันได....

-หลังจากได้ข้อความแล้ว ยังสนใจต่อ เขาจึงพาไปชมสิ่งที่เขาสะสมไว้... เป็นคนหนุ่มใจดี มารยาทงาม พอการพาชมแมลง ซึ่งมีที่เก็บมั่นคงผ่านไปหลายตู้ เขาจึงเริ่มบอกว่า เขาเป็นนักสะสมมีอันดับ และเป็นอันดับสอง ถ้านับเฉพาะป.ไทย(ในตอนนั้น)อันดับจะจัดจากจำนวนชนิของแมลงที่ครอบครอง.... แมลงที่สะสม บินไปจับที่อินเดียและที่อื่นๆ หรือไปทั่ว..... และแจ้งว่า รักงานสะสมแมลง แต่บางครั้งที่ต้องการเงิน ก็ต้องขายบ้าง เล่าเพื่อให้เห็นการดำเนินมารยาท และหลักการทำงานสะสม ...ครับ

-เป็นกำไรของการท่องเที่ยวในครั้งนั้นครับ.....เมื่อกลับออกมา ผมบอกสมาชิกในครอบครัวว่า เขานั่งลงที่หัวบันได เพราะการยืนคุยกันต่างระดับ อาจนับเป็นการเสียมารยาทได้ การนั่งลงเพื่อปรับระดับมองใกล้เคียง คือพวกผมยืนที่พื้นดิน เขานั่งที่ความสูง 1 เมตร หมายถึงมารยาทดี เป็นส่วนน้อยที่ยังให้ความสำคัญกับเรื่องมารยาทต่อผู้อื่น... และที่สำคัญ เขาเป็นนักสะสมระดับนั่งเครื่องไปจับแมลงต่างประเทศ แต่ไม่รำคาญคนเริ่มต้นอยากรู้ ไม่รีบบอกระดับความสามารถ และใจดีพาชมไม่เสียตังค์ด้วยครับ

-ผมเองในตอนทำงานกลางแจ้ง ก็ใส่แว่นกันแดด แต่หากคนระดับเดียวกัน หรือระดับนายจ้าง เข้ามาคุยด้วย โดยเขาไม่ใส่แว่นกันแดด ผมก็ต้องถอดออก ตอนคุยกับเขาครับ

-ตอนขับรถก็เช่นกัน ถ้าในหน้าที่ขับโดยไม่คุยกับคนนั่งข้างเลย ผมก็ไม่ถอดครับ แต่ขับไปคุยไป เขาไม่ใส่แว่น ผมก็ถอดครับ

-รถผมในแต่ก่อนมีวิทยุสื่อสารทุกคัน แต่หากมีคนโดยสารที่ไม่ไช่นักวิทยุเช่นเดียวกัน ไปด้วยแม้แต่เป็นผู้อาศัยเดินทาง เครื่องจะถูกปิดครับ ยกเว้นต้องการความช่วยเหลือ จึงค่อยเปิด

-บางส่วนที่เล่ามา เป็นเหตุผลที่ผมบอกสมาชิกในบ้าน อย่าดูรายการแบบที่แจ้งไปแล้ว ไม่ได้รังเกียจ แต่เป็นการไม่อุดหนุนรายการคุณภาพต่ำ และกลัวเขาติดเชื้อ หรือจำการไม่รู้จักมารยาท ซึ่งผมคิดว่าเป็นมรดกไทย ที่ไม่ควรเสียหายไป....เพราะเป็นเรื่องดีจริงหัวข้อหนึ่งในน้อยข้อ ที่ไทยพอจะอวดต่างชาติได้ครับ

-----------------------------------------

-ผมต้องการขายรถเก่าที่มีอยู่ 3 คัน เพื่อซื้อรถเก๋งแบบ4ป. ใหม่ 1 คัน แต่ความต้องการนั้นไม่ใช่ความอยากได้รถใหม่ที่สนใจมาก หรืออยากขายรถเก่าที่ไม่ถูกใจ... เป็นเพียงแนวทางที่ต้องการเริ่มละทิ้งการใช้รถแบบเกินหน้าที่เครื่องมือ ซึ่งเป็นผมเอง....หมายถึงจะเริ่มยอมรับหลักทั่วไปครับ....

-แต่ตอนนี้ล้มแผนการซื้อรถใหม่ ใช้เหตุผลเรื่องเงินไม่พร้อม และประเมินตนเองต่ำลง ในเรื่องรายได้ กรณีต้องการผ่อน....

-รถเก่า เป็นเงินในอดีต ที่ใช้ไปแล้ว หมายถึงไม่มีภาระต้องผ่อนอีกแต่มีค่าซ่อม...ส่วนรถใหม่ ถ้าไม่มีเงินเก็บก็คือเงินอนาคต...อยากปรับเปลี่ยนนิสัยใช้รถให้ถูกต้องกว่า มาขัดกับหหลักการใช้เงิน ที่สำคัญกว่า

-ผมเขียนถึงตนเอง เพียงต้องการให้สังเกตการใช้เหตุผล และการเลือก อย่างน้อย เวลาที่ผ่านมาอย่างยาวนาน คงทำให้ผิดน้อยลง และเป็นตัวอย่าง "เพี้ยนน้อย" ให้ท่านอื่นๆได้คิดตามบ้าง...

-สมาชิกในบ้าน อยากเปลี่ยนงาน เพราะมีช่องทางที่อื่นเงินเดือนสูงกว่า แต่ต้องไปต่างจังหวัด ไกลบ้าน ....ผมให้ความเห็นว่า " รายรับไม่สำคัญเท่ารายเหลือ" เป็นคำที่เรียนรู้จากท่านอื่นมาอีกต่อ....บอกเขาว่า ความก้าวหน้า มีรายได้ เป็นส่วนประกอบ แต่หลายคนที่หลงทางจนเสียเวลา ก็เนื่องจากโดนเงินล่อให้หลงทางไปครับ...

-อีกคนในบ้าน โทรถามผมเส้นทางไปสถานการศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดที่ผมอยู่ ผมนึกไม่ออก จึงถามเขาว่า มีธุระสำคัญเปล่า เขาบอกเพื่อนถาม ....ผมบอกว่าถ้าเป็นการบอกผู้อื่น คำตอบต้องแม่นยำ หรือถูกต้อง ไม่เช่นนั้น การอยากช่วย อาจกลับไปทำให้เขาเสียเวลา ถ้าคำตอบนั้นไม่ใช่ แต่เขาเชื่อถือเราเพราะเป็นคนพื้นที่ว่า "ใช่" ดังนั้นการ"หวังดี"ต่อผู้อื่น ต้อง"ดี"จริงด้วย.....

 แก้ไขเมื่อ : 26/2/2557 13:44:05

 แก้ไขเมื่อ : 26/2/2557 13:56:31

 แก้ไขเมื่อ : 27/2/2557 5:59:34



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.207.16.160 พุธ, 26/2/2557 เวลา : 13:35  IP : 223.207.16.160   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69482

คำตอบที่ 36
       -ขอวางความเห็นเรื่องมารยาทต่ออีกนิด เพื่อจะโยงไปหาผลความคิดเรื่องรถไทเกอร์ที่ผมชอบและรถ106 ที่ผมใช้ครับ...

-"มารยาทเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึง" ...ได้รับรู้มาว่า..

-จีน....มีวัฒนธรรมเก่าแก่กว่า (2000) ปี
-ญี่ปุ่น...มีวัฒนะรรมประณีตลึกซึ้ง เวลากว่า (500) ปี
-ไทย...มีวัฒนธรรมสวยงาม อายุราว (200) ปี

-เก่าแก่ / ลึกซึ้ง / สวยงาม ....ล้วนเป็นคุณค่าทั้งสิ้นครับ...

-นางงามจักรวาลคนที่ 2 ของไทย มีความสวยงามถึงระดับสูงสุดจากการคัดเลือกตัวแทนจากประเทศต่างๆทั่วโลก ในปีที่ได้รับเลือก ในรอบสุดท้าย ซึ่งเหลือจำนวนที่คัดไว้ 5 ท่าน จะเป็นผู้ชนะเลิศ 1 ท่าน และรองอีก 4 ท่าน...ในปีที่ นส.ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ได้รับตำแหน่ง มีเต็ง1 คือนางงามเกาหลี เธอสวยและเด่นมาก ถ้าตัดสินที่ความงาม เธอคงได้รับตำแหน่งไปแล้ว ...แต่การเลือกนางงามจักรวาล กรรมการตัดสิน ต้องการภาพรวมที่ดีที่สุด จึงมีข้อสุดท้ายคือการสัมภาษณ์ครับ

-นางงามของไทย เป็นลูกครึ่งไทย/ออสเตรีย พูดภาษาอังกฤษได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องใช้ล่าม เธอกล่าวในโอกาสสัมภาษณ์ รอบสุดท้ายความว่า เธอเป็นคนไทย ประเทศของเธอมีวัฒนธรรมสวยงาม แต่ในประเทศก็ยังมีภาวะคนยากจนรวมอยู่ด้วย.....ฯ.... เป็นความเห็นที่ทำให้เธอชนะใจคนฟัง ตอบสวยงามมากและด้วยตนเอง...ใครได้ดูคลิปหรือภาพนิ่งตอนประกาศผล จะได้รับความรู้สึกของนางงามเกาหลี หรือเต็ง1 ด้วยครับ

-นำมาเล่าอีกครั้ง เพื่อเตือนให้ทราบว่าของ "ดีจริง" ไทยก็มี อย่าก้าวเร็วจนทิ้งสิ่งมีค่าไป เพราะอาจต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ เหมือนพม่า,กัมพูชา ซึ่งเคยรุ่งเรือง และล่มสลายไป... ตอนนี้มาเริ่มจับกลุ่มรอฟื้นตัวในไทยแถวๆมหาชัย.....

-ประณีต คือขั้นตอนมากไม่ใช่เรื่องมาก ...เรียบง่ายก็อยู่ในบรรทัดความสวยงามหรือมีเสน่ห์ได้ครับ

-มีความเป็นผู้นำ คือเสียสละ/ทำเพื่อผู้อื่น ...เป็นผู้มีความประณีต และความเรียบง่าย ..เป็นคุณสมบัติหรือลักษณะของผู้ที่มีโอกาสรวย และมีรายเหลือ(เก็บ)

-การขายมุข/มุม เหมือนการตดให้ดูตลก ก็เป็นจุดเด่นได้ แต่คงตดให้ตลกทุกวันไม่ได้หรอกครับ...

-ผมมองว่ารถไทเกอร์ 4WD แบบ 4ป.ท้ายบรรทุก มีขนาดเท่ากับ 106 ในแบบตัวถังเดียวกัน สวยทั้งคู่ ..ถ้าต้องตัดสิน โดยผมๆให้ไทเกอร์สวยกว่า..

-แต่ในภาพรวม ไทเกอร์4ป.ท้าบรรทุก คงเอาชนะรถ106ไม่ได้ เพราะรถ106 มีสีเด่นประจำรุ่น,เลขรุ่นของรถเป็นความหมายในป้ายทะเบียนได้, มีออฟชั่นหรือของแต่งรองรับมากกว่า,เป็นคานแข็งจากโรงงาน...เป็นเหตุผลรวมเข้าไป....ที่ไม่ใช่เพราะผมใช้รถ106 ลองนึกตามดูได้ครับ

แต่ไทเกอร์ 4WD แบบมีแค็ป จะเป็นภาพชนะเมื่อเทียบกับรถ106 ที่แปลงเอาบอดี้แบบมีแค็ปของไมตี้มาใช้ แพ้เยอะด้วย ...รายละเอียดขอชี้ในโอกาสข้างหน้า เพราะข้อความยาวเหมือนกันครับ....


-คงหมดข้อความแล้วครับ...นึกไม่ออก หากท่านที่ได้อ่าน คิดว่าพอนำไปไตร่ตรองได้บ้าง ก็อยากบอกว่าเพื่อตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อส่วนรวมในต่อไป ซึ่งตัวท่านก็อยู่ในส่วนนั้นด้วยครับ

-----------------------------------------------

-อยากขอร้องต่อผู้ที่เคยใช้งานคำว่า..."ถูกๆ,สุดคุ้ม,สภาพ90-99, VIP,5ดาว,เทพ,นางฟ้า...ฯ " เพื่อบอกสภาพสินค้า ขอให้ระวังการใช้ในครั้งต่อไป เพราะมีผลต่อความเชื่อถือในภาพรวมของคนไทย ซึ่งน้อยลงเรื่อยๆ ในทุกครั้งที่ท่านเคยใช้ไป เหมือนตักหรือวักน้ำออกจากถังน้ำขนาด 20 ลิตร วันนี้ระดับ 5ดาวของไทย อาจหมายถีงปริมาณจริงเพียง 12 ลิตร และปีหน้าอาจเหลือ 11ลิตร ...เมื่อท่านเลิกใช้งาน ไปใช้เงินที่หามาด้วยคำเหล่านั้น ท่านอาจพบว่าลูกหลานของท่านไปที่ไหนๆของโลกใบนี้ได้ด้วยเงินที่หาไว้ แต่ไปบอกใครๆว่าเป็นคนไทยไม่ได้ เพราะจะเกิดการระแวงทันที....ขอฝากให้คิดด้วย ถ้ารับฟังก็ ขอใน"ครั้งต่อไป"เท่านั้นครับ

---------------------------------------

-เข้ามาแก้ไขคำผิด ...จึงขอวางงานของคนคิวบาที่มีผลงานไปถึงระดับอินเตอร์ฯ....คงรู้จักผลงานนี้กันอยู่แล้ว แต่อยากให้ดูลักษณะคนคิวบาอีกครั้งครับ

http://www.youtube.com/watch?v=cuPYQyaCGNA

-ป.คิวบา ในปัจจุบันลำบากมาก ต่างกับในอดีตมากมาย ความบันเทิงที่ชาวตะวันตกไปทิ้งรอย เป็นทั้งรสนิยม และทักษะระดับสูง และเมื่อถึงจุดวิกฤต ชาวคิวบา ทำทุกอย่างเพื่อให้ก้าวตามโลกต่อไป ของใช้หรือทุกอย่าง ต้องถูก reuse ซ้ำแล้วว้ำเล่า จนหมดสภาพ ไม่สามารถดัดแปลงผสมใช้ได้ ความลำบากทำให้ชาวคิวบาในปัจจุบัน มีทักษะช่างสูง และอดทนยิ่ง ได้เนื่อหาจากสารคดี และ GOOGLE ครับ....


 แก้ไขเมื่อ : 28/2/2557 6:01:58

 แก้ไขเมื่อ : 28/2/2557 13:16:32



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.207.16.160 พฤหัสบดี, 27/2/2557 เวลา : 08:47  IP : 223.207.16.160   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69493

คำตอบที่ 37
       ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝหน ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาก๏ฟฝ๏ฟฝาง๏ฟฝ๏ฟฝ้นบ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอบ๏ฟฝลง๏ฟฝ๏ฟฝาง ๏ฟฝ๏ฟฝวน๏ฟฝาก๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอง๏ฟฝ๏ฟฝาง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝีค๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ้บน๏ฟฝ๏ฟฝ็นค๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝหน๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝาง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝใดท๏ฟฝาต๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝุก๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ็นค๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝยก๏ฟฝ๏ฟฝอง..(๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาผลป๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝยช๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ)...๏ฟฝรณ๏ฟฝ รถ๏ฟฝ๏ฟฝะบ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝยฟ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝากิน ๏ฟฝ๏ฟฝาจ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝับรถ๏ฟฝ๏ฟฝะบะตอน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวท๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาน ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝากิน๏ฟฝ๏ฟฝิง๏ฟฝ ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝหต๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝิด๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝยช๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอผ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาก๏ฟฝ๏ฟฝาพ๏ฟฝ๏ฟฝรต๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝองรถ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝูก๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝะก๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาผลป๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝยช๏ฟฝ๏ฟฝแบบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝลก ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝหน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝรถ๏ฟฝ๏ฟฝะบ๏ฟฝ4๏ฟฝ๏ฟฝะต๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอง๏ฟฝังไงก๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝรถ๏ฟฝ๏ฟฝะบ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ็นกัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝลก ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝรถ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝอง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝแบบรถ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝยง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอท๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝิน๏ฟฝาก๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝรถ๏ฟฝ๏ฟฝะบ๏ฟฝ 4๏ฟฝ๏ฟฝะตูน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝแบบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝหต๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ...๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอท๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอต๏ฟฝอธ๏ฟฝรกิจ๏ฟฝอง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝิตรถ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวค๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝยจะซ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝรถ๏ฟฝ๏ฟฝะบ๏ฟฝ 4 ๏ฟฝ๏ฟฝะต๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝะท๏ฟฝ๏ฟฝับ๏ฟฝสนรถ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝึง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอกัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาง๏ฟฝรก.๏ฟฝับ๏ฟฝ๏ฟฝอค๏ฟฝ๏ฟฝรถ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ็นก๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอกันแบบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝรถ๏ฟฝ๏ฟฝะบะซ๏ฟฝ่งต๏ฟฝอง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝองยน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอก๏ฟฝรพาณิช๏ฟฝ๏ฟฝแบบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝลซ๏ฟฝ่งต๏ฟฝอง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝัง๏ฟฝีซ๏ฟฝ๏ฟฝูง ๏ฟฝ๏ฟฝอง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝีต๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝองยน๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝแทค๏ฟฝิค๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝีป๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝใดท๏ฟฝ๏ฟฝแบบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาง๏ฟฝ๏ฟฝาก๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ..๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาจ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝหต๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ็นผลจาก๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝีก๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝยง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝีท๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝสนแพง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาก๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝยก๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝีก๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝยง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝีฟ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอง๏ฟฝาก"๏ฟฝ๏ฟฝ"ลง๏ฟฝ๏ฟฝ "๏ฟฝ๏ฟฝาง"๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝิด๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอน๏ฟฝาก๏ฟฝ๏ฟฝรฝ๏ฟฝาฝืน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาก"๏ฟฝ๏ฟฝ" ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ็นป๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝศท๏ฟฝ่คน๏ฟฝ๏ฟฝวน๏ฟฝหญ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ็นค๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝูง๏ฟฝัก ๏ฟฝ๏ฟฝในป๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาก๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝรถ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝับ๏ฟฝ๏ฟฝรทุก๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวบ๏ฟฝรทุก๏ฟฝ๏ฟฝ่งของไปด๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวน๏ฟฝหญ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝศน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอค๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาง๏ฟฝัง๏ฟฝ๏ฟฝัด ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝแบบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝรถ๏ฟฝ๏ฟฝะบ๏ฟฝ4๏ฟฝ๏ฟฝะต๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝรถ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝองรถ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาน๏ฟฝาท๏ฟฝับ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝษฐีท๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝีถูก๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝรถ๏ฟฝ๏ฟฝะบ๏ฟฝ 4๏ฟฝ๏ฟฝะต๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝยท๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวน๏ฟฝหญ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอกันแบบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝรถยน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝะต๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ้คน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝรถ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอก๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาน๏ฟฝอง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาก๏ฟฝอท๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝะซ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝยคัน รถ๏ฟฝ๏ฟฝะบ๏ฟฝ 4 ๏ฟฝ๏ฟฝะต๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝีด๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝีก๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอก๏ฟฝ๏ฟฝสกัด๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝิบโตของรถ๏ฟฝ๏ฟฝะบ๏ฟฝ 4 ๏ฟฝ๏ฟฝะต๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ....๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาบ๏ฟฝาง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ ๏ฟฝัง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝยจะดีข๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาก ๏ฟฝ๏ฟฝิก๏ฟฝอก๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝยบ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝอน๏ฟฝ๏ฟฝวบ๏ฟฝาน๏ฟฝ๏ฟฝวช๏ฟฝอง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝลก "๏ฟฝ๏ฟฝ" ๏ฟฝิด๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝะตัก๏ฟฝวง๏ฟฝีด๏ฟฝ๏ฟฝาจาก"๏ฟฝ๏ฟฝาง"๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝาง๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝวน๏ฟฝาจ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ

ย ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ : 2/3/2557 13:23:15

 แก้ไขเมื่อ : 2/3/2557 13:24:00





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แว่น ชม. จาก ลุงแก๊ส เสาร์, 1/3/2557 เวลา : 20:08  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69543

คำตอบที่ 38
       คนดี ดีในมุมไหน มุมของใคร มุมจากล่างขึ้นบน หรือบนลงล่าง ส่วนมากจะมองล่างไม่มีความหมาย ให้บนเป็นคนกําหนด ล่างผู้ใดทําตามบนทุกอย่างถือว่าเป็นคนดี ที่น่ายกย่อง..(ได้แค่นั้น บนเอาผลประโยชน์ไป)...กรณี รถกระบะ ป้ายฟ้า ที่ต้องใช้ทํามาหากิน น่าจะเหมาะสมกับรถกระบะตอนเดียวที่เอามาใช้งาน ใช้ทํามาหากินจริงๆ มันสมเหตุสมผล เกิดประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการรายได้จากสภาพการต่อเติมของรถ แต่ลูกเล่นและการหาผลประโยชน์แบบไทยๆที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก กําหนดให้รถกระบะ4ประตู ซึ่งมองยังไงก็เป็นรถกระบะ เป็นกันทั่วโลก แต่ในไทยให้ถือเป็นรถเก๋ง ต้องเสียภาษีแบบรถเก๋งเพียงเพื่อที่จะหาเงินจากความเป็นรถกระบะ 4ประตูนํามาเก็บภาษีแบบไม่สมเหตุสมผล ...หรือเพื่อที่จะเอื้อต่อธุรกิจของผู้ผลิตรถ ที่กลัวคนไทยจะซื้อรถกระบะ 4 ประตู จนกระทบกับยอดรถเก๋ง จึงเอื้อกันระหว่างขรก.กับพ่อค้ารถหรือไม่ เป็นการเอื้อเฟื้อกันแบบไทยๆหรือไม่ ทําให้รถกระบะซึ่งต้องใช้เครื่องยนต์เพื่อการพาณิชย์แบบเครื่องดีเซลซึ่งต้องใช้กําลังซีซีสูง ต้องเสียภาษีตามความจุเครื่องยนต์ นี่เป็นแทคติคใช่ไหม มีประเทศใดทําแบบนี้บ้างอยากรู้..นี่อาจจะเป็นเหตุเป็นผลจากการหลีกเลี่ยงภาษีที่แสนแพงที่ว่าก็ได้โดยการหลีกเลี่ยงไปใช้ป้ายสีฟ้า แต่ถ้ามองจาก"บน"ลงมา "ล่าง"ก็ผิดแน่นอนจากการฝ่าฝืนกฎจาก"บน" ประเทศเราเป็นประเทศที่คนส่วนใหญ่เป็นคนรายได้ไม่สูงนัก คนในประเทศอยากจะมีรถที่ขับบรรทุกคน แล้วบรรทุกสิ่งของไปด้วย ทําไมไม่ส่งเสริม คนส่วนใหญ่ประเทศนี้คือคนต่างจังหวัด ควรให้เก็บภาษีในแบบที่มันเป็น คือมันเป็นรถกระบะ4ประตู ไม่ใช่รถเก๋ง คนในเมืองรถเก๋งหรูๆหลายล้านบาทขับโดยเศรษฐีทําไมเสียภาษีถูกกว่ารถกระบะ 4ประตู คนส่วนน้อยทําไมมีได้ คนส่วนใหญ่ทําไมไม่ได้ หรือมันเอื้อกันแบบไทยๆ ทําไมส่งเสริมรถยนต์คันเล็ก กระตุ้นให้ผู้คนซื้อ แต่รถเพื่อการใช้งานของคนที่รายได้ไม่มากพอที่จะซื้อหลายคัน รถกระบะ 4 ประตู ทําไมไม่ส่งเสริม การรีดภาษีก็คือการสกัดการเติบโตของรถกระบะ 4 ประตูหรือไม่....เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างก็ดี สังคมไทยจะดีขึ้นมาก เลิกออกกฏระเบียบที่มันไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องทั่วโลก "บน" คิดแต่จะตักตวงรีดเอาจาก"ล่าง"อย่างเดียวน่าจะหมดไปได้แล้ว..นี่แหละครับมรดก ตุกติกแบบไทยๆที่รีดเลือดจากคนไทยด้วยกัน....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แว่น ชม. จาก ลุงแก๊ส 171.4.251.21 อาทิตย์, 2/3/2557 เวลา : 13:25  IP : 171.4.251.21   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69560

คำตอบที่ 39
      
- ....นั่นคือภาพแท้ๆของไทยที่เริ่มอ่านออกกันแล้ว ความอดทนของคนไทยวันนี้ จึงไม่ใช่อดทนต่อความลำบาก แต่อดทนต่อ ความรู้สึกไม่ยุติธรรม เพราะเริ่มรู้ข้อเท็จจริงแล้ว ยิ่งรู้ก็ยิ่งขมขื่นครับ....

-เวลาเท่านั้นที่จะคลายตัวเองลง เพราะทั้งหมดที่เอาเปรียบ หรือดึงรั้งจนตึง... กรุณาก็ไม่จับ จับก็ชนะขาด เพราะประชาชนฝ่าฝืน คือเขาเขียนบทให้มีแต่ ผู้ฝ่าฝืน และผู้กรุณา ขยับตัวคือผิด รอดเพราะเขากรุณาหรือมองไม่เห็น เป็นกฎที่ พิจารณาฝ่ายเดียว เหมือนใช้บังคับสัตว์...

-แต่โลกภายนอก เขาไม่ต้องการคบ "พวกทารุณสัตว์" ความหวังที่คนไทยจะได้ สิทธิมนุษยชนมากขึ้น จึงอยู่ที่เวลา รอ และปรับตัวเองให้รอดครับ...

-คนเลี้ยงสัตว์ในสวนสัตว์ ที่เอาเปรียบสัตว์ป่าที่นำมาเลี้ยง ด้วยการโกงค่าอาหาร และเลี้ยงดูอย่างไม่สนใจหรือเหลียวแลใดๆ เหมือนไม่รักงานที่ทำ แต่ไม่ยอมทิ้งงานที่ทำ คือเคราะห์กรรมของสัตว์เหล่านั้น สัตว์ที่จะคงเหลือ ต้องมีความอดทนรอเวลามาถึง เพราะอยู่ในกลไกบังคับที่รอบคอบมีอำนาจ ฝืนหรือแหกกฎคือค้องได้รับเสียหาย เพราะเขากำหนดยุติธรรมคือต้องเดินตามอย่างเดียวครับ...

-อดทนในวันนี้ ไม่ใช่อดมื้อ กินสามมื้อ แต่เป็นอดทนกับเรื่องที่เข้าใจไปตรงกันข้าม มีวิธีที่จะคลายลงได้บ้างคือ "รับให้ได้" ....เพราะเวลาข้างหน้าเท่านั้น ที่จะทำให้ (จอมทารุณสัตว์) ต้องปรับตัวหรือข้อบังคับหมดความหมายไปครับ

-คำตอบอยู่ในกระจกเงา เพราะเขามองเราไม่เหมือนเรามองตนเอง เขาสรุปว่าต้องบังคับจึงรู้หน้าที่ ไม่รีด ปล่อยให้เหลือ ก็ทิ้งเรี่ยราด ซึ่งก็จริงเหมือนกัน ดังนั้น เวลาจะพาข้อตกลงใหม่ๆมาครับ....

-อย่าสร้างความหวังกับใคร ในเวลานี้ เพราะยังไม่ถึงเวลา ไทยที่ผ่านมา ตามความเจริญของโลกภายนอกมา ไม่ใช่เกิดปาฏิหารย์ใดๆ หรือเพราะใคร

-เหมือนต่างจังหวัด ซึ่งตอนนี้ ก็เริ่มมีห้างฯ ไปเปิดให้รู้จักกัน....เวลา...ไม่ใช่เพราะใคร หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เหมือนที่สาดโคลนใส่กันในตอนนี้ ...

-คนไทยในกลุ่มประท้วง ไม่พอใจอเมริกา ที่ให้ความเห็นเรื่องภายในของไทย ...อยากขออกความเห็นว่า เขาไม่เข้าใจว่า โลกภายนอก คือความหวังที่แท้จริงของคนไทย เหมือนคนในท้องถิ่นกันดารของไทย ที่มีความหวังกับ ของบริจาค กฐิน หรือผ้าป่าจากที่อื่น ส่งไปช่วย...ได้เห็นของจากโลกที่เจริญกว่า

-หากหลายๆท่านที่ส่งของกิน,ใช้ ไปช่วยในแดนกันดาร ถ้าเห็นภาพเขาโยนทิ้ง ทั้งของกินหรือของใช้ที่ส่งเข้าไป ความรู้สึกอยากช่วยคงจะหมดไป ดังนั้นผู้ที่ต้องการความยุติธรรม หรือต้องการความเจริญ ควรทำตัวให้เหมาะสมด้วยครับ...

-ผมมองเอง...ที่ความประหยัด ลดความฟุ่มเฟือยลง คือสิ่งที่ควรก่อนครับ...

-คิวบาที่เอ่ยถึงไว้ ถูกโลกภายนอกบังคับ หรือบอยคอต รถยนต์,ตู้เย็น หรือเกือบทุกอย่าง ถูกใช้อย่างซ่อม-ดัดแปลง ครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อยืดอายุ อาจมากถึง 50 ปี กว่าจะซ่อมใช้ไม่ได้ หรือโยนทิ้งจริง ... ไม่มีรสนิยมหลงเหลืออีกแล้ว มีแต่ความจำเป็น เหมือนการชดใช้กรรม เพราะคิวบา ในอดีต มีแต่ความบันเทิง...มองให้รู้ไว้เพื่อสอนใจคนไทย อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลยครับ....



-



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 171.5.149.141 อาทิตย์, 2/3/2557 เวลา : 15:48  IP : 171.5.149.141   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69561

คำตอบที่ 40
       -เรียนรู้มาจากหนังเทศ คือฝรั่งเขาอ้างพระเจ้าตลอดเวลา ไม่ใช่ความเชื่ออย่างเดียว แต่การอ้างพราะเจ้า เพื่อเป็นทางออกเรื่องที่ต้องใช้เหตุผลมากก็ยังสรุปไม่ได้ด้วย... เมื่อผมเข้าใจ อยากลองใช้บ้าง โดยที่ไม่ได้นับถือจริงไปกับเขา เพราะจริงๆนับถือพุทธครับ....

-ในลานจอดรถของแม็คโคร เหลือช่องจอดรถจำกัด ตำแหน่งที่ผมจะนำรถเข้าจอด มีรถที่จอดช่องด้านข้างมาจอดก่อน แต่ล้ำช่องจอดเข้ามาทางช่องที่เหลือ หรือเรียกจอดเกินเลนก็ได้ ผมเข้าจอดโดยเฉลี่ยพื้นที่ซ้าย/ขวา ก็เข้าไปชิดเลนช่องถัดไป...ก็เข้าไปซื้อของ

-พอออกมา ผู้ล้ำเส้นไปแล้ว เหลือผมเป็นผู้ชิดเส้นหรือไปเบียดคันอื่น ในเลนถัดไป ผมพึมพำว่า กลายเป็นเราผิดไป...

-และก็เจอแบบเดิมอีก ครั้งนี้ ผมบ่น(ในใจ)ก่อน ว่าพระเจ้าไม่น่าให้ตังค์คนแบบนี้ไปซื้อรถใช้เลย พอมีรถใช้ ก็สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นได้...ผมจอดรักษาเลน คือเบียดคันที่คร่อมเลน...แล้วเข้าไปซื้อของ...

-ตอนออกมา รถคันที่พระเจ้าให้ตังค์ซื้อไปแล้ว เหลือผม จอดอยู่กลางเลน ผมจึงไม่เป็นผู้ผิด เหมือนคราวก่อน....แต่ปรากฏว่า หน้ากากสปอร์ตไล้ท์ผมหายไป 1 อัน เหลือให้ดูต่างหน้า 1 อัน....หายไปข้างเดียวจึงคิดว่าโดนแกล้งมากกว่าโดนขโมยไปใช้...

-ผมจึงบ่น(ในใจ)อีกครั้งว่า "พระเจ้า ไม่น่าลงโทษผมเลย".........

 แก้ไขเมื่อ : 2/3/2557 19:00:58



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 171.5.149.141 อาทิตย์, 2/3/2557 เวลา : 18:54  IP : 171.5.149.141   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69563

คำตอบที่ 41
       -รูปแนบคต.นี้...บน ..รถผมเองในแต่ก่อนก็ใช้รย.2 ด้านท้ายมีหลังคาไฟเบอร์....

-ล่าง....คันสีขาวคือในต่อมา แจ้งเปลี่ยนเป็น รย.1.....คันสีแดงเป็นของเพื่อนก็เช่นกัน จดประกอบเป็นรย.2 ใช้แบบมีเงื่อนไข คือรอความกรุณาไปวันๆ นานๆเข้าก็เบื่อไม่อยากให้ใครมากรุณา หรือไม่อยากหลบด่านตาเหยี่ยว หรือแก้ตัว หลังคาก็ทำไว้ เพราะเคยโดนจับ พอถอด/ใส่หลายครั้งก็เบื่อ และไม่อยากเปลี่ยนรถ...

-หมายถึงสุดท้าย 2 คันในรูป ก็ยอมจนมุม คือเปลี่ยนจากรย.2 เป็นรย.1 เสียภาษีแพง ตามซี.ซี. ในข้อบังคับ รย.1 แลกกับเลิกกังวลไปตลอดกาล...

-ผมไม่ทราบเพื่อนคิดอย่างไรในต่อมา แต่สำหรับผม ก็ไม่ได้เต็มใจ เพียงทำใจ หรือรับให้ได้เท่านั้นครับ...

-ในปี 1986 ผมได้ใช้รถอีซุซุ 2 ตอน ต่อบอดี้จากบริษัท(KMT) หรือซื้อจากห้างสภาพ 2 ตอน หลังคาไม่มีรอยต่อ ภาษีก็เท่ารถกระบะทั่วไป(แต่จำไม่ได้แล้ว) ใช้ต่อมาอีกเป็นปี กฎหมายใหม่จึงออกมาคือให้ไปเสียค่าโภคภัณฑ์เพิ่ม หลังจากนั้นก็ลืมหมดแล้ว คือเขาให้ทำอะไร ก็ทำตามไป เพราะไม่อยากโดนตรวจจับรายทางครับ...

- จนถึงปี 1995 จึงเริ่มรู้ตัวว่ามาตราฐานสินค้าเพื่อให้คนไทยใช้ ต่ำกว่ามาตราฐานโลก หมายถึงเริ่มรู้ตัวว่าโดนมองเป็นตัวอะไร

-จนถึงปีนี้ ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม เพียงแต่ ผมรู้ตัวมานานแล้ว และพยายามบอกท่านอื่นๆให้รู้ตัวบ้าง เพราะเวลาที่ผ่านมา มีความหมายว่า " ช้าเกินไปแล้ว "...ครับ

------------------------------------

-ขอแจ้งเพิ่มว่า ด้วยประสบการณ์การ รย.2 ข้างบน และเคยผ่านการปั้นรถรย.3 เป็นคานแข็งแล้วไปแจ้งลงเล่มเอง ผ่านเส้นทางโดยไม่ใช้วิธีวิ่งเต้น ตรงไปตรงมาจึงเจอปัญหาบ้าง ซึ่งก็ทำให้รู้แวดล้อมเป็นของแถมด้วย ...

-รถแลนด์ครุยเซอร์ หรือรถวางคานเองแบบสปริง ที่ผมเคยพิมพ์ถึงไว้ให้อ่าน ต้องขอบอกว่า เรื่องที่ไม่ใช่ของผมเอง และreport ที่กำกับมา ก็อาจไม่ตรงกับความจริงบ้าง เป็นปกติของนิสัยคนไทย เวลาผมนำมาเล่าต่อจะลดหรือข้ามเนื้อหาที่อ่านออกว่ามีผลอย่างอื่นแนบมาด้วย มีสิทธิ์แค่นั้นครับ ...

-สิ่งที่กล่าวนี้ หมายถึงผมมองว่าส่วนหนึ่ง ที่ภาครัฐมองเราเป็นลิง เพราะเราก็เอานิสัยสิงมาใช้บ่อยเหมือนกันครับ



 แก้ไขเมื่อ : 3/3/2557 8:50:45





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik จันทร์, 3/3/2557 เวลา : 05:57  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69566

คำตอบที่ 42
       -หลายปีก่อน ได้เห็นข่าวเรื่องอเมริกา จะงดหรือแบนกุ้งไทย เข้าอเมริกา เขาทำเพื่อสร้างเงื่อนไข หนึ่งในเงื่อนไขที่ไทยต้องรับมาแก้ไข เพื่อให้กุ้งไทยมีตลาดที่นั่นต่อคือ ไทยต้องดูแลเต่าตนุ ให้ดีกว่าเดิม เพราะกำลังเข้าใกล้การสูญพันธ์ ...เกี่ยวกับค้ากุ้งไหมครับ...

-ใครก็เรียกอเมริกาว่าเป็นตำรวจโลก ความเจริญล้ำหน้ากว่าไทยเราเท่าไร อย่าวัดจากการนับว่าหนังเทศ หรือรถยนต์ ซึ่งอาจฉายพร้อม หรือเปิดตัวที่ไทยเป็นที่แรกของโลก..

-คศ.2014 หมายถึง...เรือไททานิค เรือโดยสารที่ใหญ่(ที่สุด)ในโลกในปี คศ.1912 จมลงสู่กันมหาสมุทร หรือจมเมื่อ102ปีมาแล้ว อาจใช้เวาลาสร้างก่อนจมอีก10ปี หรือราวๆ 112ปีมาแล้ว ที่ฝรั่งสร้างเรือขนาดยาวกว่า 150เมตร ได้ ลองเทียบกับการปั้นสร้างวางคานเองรถกระบะในบ้านเราขณะนี้ ที่แก้แล้วแก้อีก หรือยังเป็นความเสี่ยงอยู่(บ้าง)ว่าห่างไกลกันแค่ไหนครับ....

-เพลงในละครไทยเรื่อง(เมือง)ดาหลา ..มีเนื้อร้องว่า "หนึ่งนั้นคือผู้สร้าง...หนึ่งนั้นผู้ทำลาย" ถ้าคิดตามก็อาจเริ่มได้ภาพลางๆ ว่าการขายกุ้ง โดยต้องดูแลเต่าตนุด้วย เกี่ยวกันได้อย่างไรครับ...

-การอ้างพระเจ้าตามหลักของฝรั่งในคต.ที่40 ทำให้ผมเลิกโทษคนไทยด้วยกัน อารมณ์ดีขึ้น การนับถือพระเจ้าของฝรั่งมาร่วมช่วยในส่วนนี้ โดยยังนับถือพุทธอยู่ เป็นการผสมข้ามพันธ์หรือไม่ ผมไม่รู้ เพราะตอนนี้ผีไทยก็เริ่มมีเขี้ยว และใส่เสื้อคลุมแบบแวมไพร์ ฃุดผ้าก็อตหรือผ้าตราสังช์ ผีไทยเลิกใส่นานแล้ว ผสมข้ามพันธ์ด้วยหรือไม่ ตอบแล้วยุ่งเกินไปครับ....

-อยากให้ไทยด้วยกันรู้ตัว ว่าจำเป็นต้องวิ่งตามโลกเพื่อยกระดับสิทธิมนุษยชนของคนไทยเอง โดยต้องลดความเชื่อมั่นในสิทธิส่วนตัวให้น้อยลงบ้าง เพื่อตัวเบาขึ้น วิ่งตามได้เร็วกว่าที่ผ่านมา ไกลกว่า 112 ปีที่เป็นความห่างกันครับ.....

-ชยายความหมายให้ชัดขึ้นคือ เขาบังคับไทยเรา ให้รู้จัก"รักษา" ด้วย เพราะสอนไม่จำหรือสอนไม่เข้าใจ ไม่รู้เหมือนกัน เป็นความจริงที่ขัดแย้งกับรสนิยมของไทย ที่เคียงบ่าเคียงไหล่ กับทั่วโลกตลอดมา...ครับ

 แก้ไขเมื่อ : 3/3/2557 22:48:32



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 171.5.149.141 จันทร์, 3/3/2557 เวลา : 22:35  IP : 171.5.149.141   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69578

คำตอบที่ 43
      
-ผมรู้จักชายไทย 2 คน เขามีรายได้ระดับช่างทั่วไป ไม่สูงมาก .. รายได้ปานกลางเลี้ยงตัวเองได้...

-คนแรกใส่กางยีนส์ WRANGLER ผูกขาดตลอดชีวิต ไม่ซื้อของปลอม ใส่ทุกวัน กางเกงทำงาน ก็คือยีนส์ แรงเล่อร์ที่สภาพขาดมีรอยปะแล้ว กางเกงใส่เล่น ก็ยีนส์ที่ตัดขาทิ้งแล้ว ...กางเกงตัวปกติ ที่ใส่ไปที่อื่นๆได้ สภาพดี สีซีด เสมอกันทั้งตัว ปลายขาตรงส้นเท้าไม่ขาด ก็คงปกติทั่วไป แตกางเกงยีนส์ที่เขาใส่จนถึงสภาพที่บอก คือมีอายุใช้งานมาแล้ว 5 ปีขึ้น ที่สภาพขาดปะใช้ใส่ทำงาน เกิน 10 ปีขึ้น ที่ตัดขาสั้น คงมากกว่านั้นครับ...สรุปว่าซื้อของระดับดี แต่ไม่ใช่ดีที่สุด และรักษา คาดว่าแต่ละตัวใช้งานนานถึง 15 ปี สภาพดีตลอดเวลา ตามแวดล้อมใช้ กางเกงซื้อตั้งแต่เป็นสีดิบ ซักด้วยตัวเอง ไม่ได้เร่งหรือกัดให้ซีดๆเอง ตามกาลเวลายาวนาน และสีซีดเสมอกันทั้งตัว จากการซัก/ขัดอย่างระวัง ขอบเอวเปื่อยขาดก่อนปลายขาตรงส้นเท้า ...

-อีกคนระดับรายได้ก็ไม่หนีกันมาก เขาบอกผมว่า "LEVI'S เท่านั้น" ...หรือไม่เคยใส่ยี่ห้ออื่น ...ปลายขาตรงส้นเท้า ขาดเกือบทุกตัว คาดเดาว่าใช้งานได้ไม่เกิน 5 ปีต่อตัว.....

-ทั้งสองคนอยู่คนละจังหวัด ไม่เจอกัน ....แต่ผมเจอเขาทั้งสองคน.....

-เรื่องนี้ ไม่ขอสรุป เพียงอยากแจ้งว่า ใช้รักษาก็มีอยู่จริงในไทย แต่น้อย พบไม่มาก ผมก็ทำไม่ได้ ก็ละอายใจบ้างและยอมรับ... ดังนั้นทางออกสำหรับผม เมื่อไม่สามารถรักษาได้เท่าภาพที่เห็น ผมจึงเลือกใช้ของธรรมดา เพื่อไม่ให้รสนิยมชองผม กลายเป็นเรื่องน่าสมเพชครับ....






 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 171.5.149.141 อังคาร, 4/3/2557 เวลา : 05:26  IP : 171.5.149.141   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69579

คำตอบที่ 44
       -ขอวางความเห็นไว้อีก เกี่ยวข้องกับรถบ้าง ...อาจให้ข้อคิดได้บ้างครับ....

-นานแล้ว...ผมเดินทางกับช่างคนหนึ่ง หลายๆครั้ง คือผมไปรับจ้างทำงานต่างสถานที่ และก็ชวนช่างอื่นๆไปทำงานคนละส่วนกัน ... เขาไม่มีรถส่วนตัว ผมใช้รถกระบะ เวลาไปทำงานตจว. ก็นัดหมาย เพื่ออาศัยผมไปด้วย ประหยัดค่ารถ ระหว่างเดินทาง ผมเคยแวะซื้อน้ำดื่ม และซื้อเผื่อเขาด้วย เป็นประเภทดื่มไม่เกินวันละ 2 ชวด...

- ตอนนั้นมีตราหนึ่งโฆษณาเปิดฝาเจอโตโยต้ากระบะ.... เขาบอกผมว่า ถ้าเปิดได้กระบะมาใช้จริง จะกินตราที่แจกนั่น...ไปตลอดชีวิต..ผ่อนใช้คืน ยอมเป็นสาวกด้วยกระบะโตโยต้า(ฟรี) ทำนองนั้นครับ...

-คนเดียวกัน...ผมถามเขาว่าทำไมไม่เห็นกระเป๋าใส่เสื้อผ้า เวลาไปทำงานตจว. เขาบอกว่ามาสั่งงานและเติมค่ากับข้าวให้ลูกน้อง ไม่กี่วันก็กลับ... ใส่ซ้ำ "เกรงใจคนซักผ้า เขาขายข้าวแกงด้วย" ...

-ไม่รู้รวยยัง หรือเป็น(เด็กเสิร์ฟ)ข้าวแกง(ในที่สุด)...ผมชอบปรัชญาชีวิตของเขาครับ...

----------------------------------

-เพิ่มข้อความว่า เรื่องตอนต้น แสดงถึงแต่ก่อน เงินหายาก เรื่องรถส่วนตัวไม่เหมือนตอนนี้ครับ...

-เป็นหัวหน้างานมีลูกน้อง ยังขึ้นรถเมล์ รถพ่วง(ผม) สร้างความหวังกับเรื่องฟลุ๊คๆ ประหยัด และรู้คุณค่าชีวิตคู่ ....ยังจนเลยครับ

-ใครจ่ายเขาๆทำงานให้ ใครแจกรถเขาๆจะยอมเป็นสาวก ใส่เสื้อผ้าระวังไม่ให้เปื้อน และไม่ให้เก่าเร็ว ก็ไม่เหม็น ไม่มอมแมม....เพราะเขาอยู่ในลักษณะระวัง หรือ "รู้ตัว"......ครับ

 แก้ไขเมื่อ : 5/3/2557 5:55:37

 แก้ไขเมื่อ : 5/3/2557 5:59:47



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 171.5.149.141 อังคาร, 4/3/2557 เวลา : 22:22  IP : 171.5.149.141   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69598

คำตอบที่ 45
       -นานแล้วครับ...มีช่วงเวลาหนึ่งที่น้ำมันดีเซลขาดแคลน ต้องเข้าคิวซื้อ รถบรรทุกที่ใช้งานในธุะรกิจต่างๆ ได้รับความเดือดร้อน คือนอกจากจะติดเวลา หรือวิ่งเวลาจำกัดในกรุงเทพฯแล้ว ยังต้องเสียเวลาไปคอยคิวเติมน้ำมันอีก เป็นความเดือดร้อนครับ....

-คนที่เกี่ยวข้องกับรถบรรทุกในตอนนั้นรายหนึ่งบอกผมว่า"เกลียด" ผู้นำประเทศในตอนนั้นเป็นที่สุด...ผมรับฟังในตอนนั้น แต่ยังไม่เข้าใจเรื่องความรับผิดชอบ โดยนึกว่าเป็น โอเปค เป็นต้นเหตุ ก็เก็บเรื่องไว้ในใจ ไม่มีความเห็น ตอนนั้นผู้นำเป็นทหาร ที่ชอบแกง(..)ใส่บรั่นดี โชว์ความสุขให้สื่อไปเผยแพร่...

-เมื่อไม่นานมากที่ผ่านมา ตอนน้ำมันดีเซลลิตรละ45 บาท เป็นช่วงความทุกข์เหมือนตอนน้ำท่วมปี54 คือไม่รู้จักกันก็ถามทุกข์สุขกัน....เป็นครั้งแรกที่ผมเดินไปถามคนขับรถสิบล้อ ซึ่งเข้าไปจอดเติมน้ำมัน ในปั๊มเดียวกัน ผมถามว่า เต็มถังจ่ายมากไหม เขายกมือที่กำเงินไว้รอจ่าย จำไม่ชัดแล้วแต่เกิน 5 พันบาท และเขาก็บอกว่า ส่วนที่จะเหลือเลี้ยงตัว เกือบไม่มีแล้ว "เกลียด"...เหมือนเคยได้ยินมา จึงเริ่มนึกได้ครับ...

-แต่ในช่วงที่น้ำมันดีเซลแพง ผมได้น้ำมันดีเซลฟรีมา 20 ลิตรX 2 ครั้ง จากเพื่อนที่เป็นทหาร เขาได้โควต้าน้ำมันใช้ฟรี แต่เขาตอนนั้นไม่มีรถดีเซล ..จริงๆอาจได้มากกว่า 2 ครั้ง แต่ไกลกันมากจึงไม่สะดวก เล่าเพราะเหมือนภาพคนละเวลา หรือคนละซีกโลกคือ,,,ต้องทนใช้ซื้อ 45 บาท / ไม่ได้ใช้ให้ฟรี...

-ต่อมาน้ำมันถูกลง แต่ไม่ได้น้ำมันจากเพื่อนอีก เพราะเขามีรถคันที่ 2แล้ว.... เวลาไม่นานเอง เปลี่ยนอะไรไปมาก...แบบอย่างความทุกข์ก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ....

-ไม่อยากให้คิดเป็นเรื่องการเมือง แต่เพียงอยากบอกลางๆว่า ไทยเรามีเรื่องบิดเบี้ยวมากมาย ที่เป็นภาระต้องปรับแก้ ไม่เช่นนั้น ภาพเดิมๆของคนไทย มีแต่คนระแวง/ระวัง จนถึงรังเกียจอีกต่างหาก และจะมากขึ้นเรื่อยๆสวนทางกับความเจริญ นับreport จากที่คนไทยที่ไปต่างประเทศนะครับ

-ผู้หญิงไทยที่เดินทางออกนอกประเทศ ไปท่องเที่ยว ถ้าไม่มีหนังสือรับรองเป็นผู้มีอาชีพ จะถูกตั้งข้อสงสัย(เกี่ยวกับการเข้าไปขายบริการ) จนอาจโดนกักไว้สอบสวนได้ แม้ว่าหญิงไทยที่โดนสงสัยจะมีอายุเกิน 40 ปีแล้วก็ตาม ...

-เวลารับฟังเรื่องแบบนี้ รู้สึกหดหู่ใจ และรู้สึกผิดที่มีลูกหลาน เพราะเขาจะถูกมองต่ำ(look down) ถูกตั้งข้อรังเกียจตั้งแต่เกิดมาเลย เหมือนเครดิตดั้งเดิมเป็นลบ

- ทั้งที่เรามีรสนิยมเดียวกับเขาทุกอย่าง...

-คิดถึงคำกล่าวของนางงามจักรวาลของไทยคนที่2 ...บางอย่างเหมือนกำลังจะดีขึ้น และบางอย่างก็สูญเสียเพิ่ม แต่เมื่อนับความตั้งใจพูดของนส.ภรณ์ทิพย์ เธอกล่าวถึง วัฒนธรรมสวยงามก่อน,ความยากจน .....ไทยในปีปัจจุบัน กำลังเสียสิ่งแรกที่เธอพูด และความยากจนเบาบางลงบ้าง ไม่อยากลืมว่าเป็นคำสำคัญ ที่เธอพูดแล้วชนะใจกรรมการ และคนดูในขณะนั้นด้วย หมายถึง พูดให้ความหมายได้ตรงความจริงและกินใจคือความเข้าใจดีมาก..

-ที่ต้องกล่าวเรื่องผู้นำบ้าง ก็เพื่อรู้ว่าก่อนว่า"โชคดี หรือโชคร้าย" เพื่อ เดินในเส้นทางแก้ไขต่อไปครับ

-ข้อความคต.นี้ ยังอยู่ในเจตนา ต้องการแก้ไขตนเองของคนไทย ไม่มีเจตนาเรื่องการเมือง เพราะไม่มีความเห็นเรื่องอนาคต การเล่าถึงเป็นผลจริงในอดีตที่ไม่ใช่ความลับ เพียงนำมาเป็นความสำคัญในการชี้นำให้รู้ตัวเท่านั้น....แต่อย่างไรหากไม่เหมาะสม จะลบ หรือแจ้งให้ลบได้ จะเข้ามาจัดการให้ครับ.....

 แก้ไขเมื่อ : 7/3/2557 16:30:50



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.204.154.11 ศุกร์, 7/3/2557 เวลา : 09:47  IP : 223.204.154.11   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69656

คำตอบที่ 46
       -ตอนน้ำมันดีเซลราคาลดลงแล้ว ผมขับรถ106 แวะสถานีเชื้อเพลิง(ปั๊ม) มีคนเดินเข้ามาชวนคุยด้วย ตอนแรกก็บอกชอบรถคานแข็งแบบ106 ....แล้วเขาก็เริ่มบอกว่าที่บ้านเขามีไทเกอร์เครื่อง D4D ....ตอนดีเซลแพง มีแต่คนพูดว่าจะขึ้นไม่มีลง จึงตัดสินใจเปลี่ยนเป็น J และติดระบบแก๊ส บอกว่าใช้แล้วไม่ประทับใจ ชอบเครื่องเดิมมากกว่า เขาบอกว่าขายเครื่องเก่าไป (25000) บาท ....ก่อนที่เขาจะเดินกลับไปที่รถ เขาย้ำอีกประโยคว่า ราคาขายนั้น ต้องขอร้องให้คนมาช่วยซื้ออีกต่างหาก แต่ตอน(นี้) ห้าหมื่นก็หาเครื่องไม่ได้....แล้วเขาก็จากไป.....

-น่าเห็นใจครับ.... ณ วันนี้ไทเกอร์ D4D มีคนเรียกหามากกว่าเครื่องบล็อคอื่น ยิ่งจะหาเครื่องยากกว่าเดิมขึ้นไปอีก แต่ก็นานเป็นปีแล้ว อาจเปลี่ยนรถไปแล้วก็เป็นได้ครับ



 แก้ไขเมื่อ : 7/3/2557 15:38:54



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 27.55.15.67 ศุกร์, 7/3/2557 เวลา : 15:36  IP : 27.55.15.67   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69658

คำตอบที่ 47
       -รถLN106 ในปัจจุบัน มีราคาขายต่อแบบรถมือสอง สภาพสแตนดาร์ด ราวๆ 2.8-5.0 แสนบาท มีอายุการใช้งานมาราวๆ 20ปี ราคาออกจากโชว์รูมเมื่อเป็นรถใหม่ ราวๆ 4.6 แสน ปัจจุบันมีคนสนใจอยากมีไว้ใช้สูงกว่าจำนวนรถที่มีอยู่ ชะลอด้วยราคาที่สูงมากตามแจ้ง หมายถึงลังเลกันที่สภาพและราคา ไม่เกี่ยงเรื่องความล้าสมัยของรถครับ

-หากเมื่อ 20 ปี ที่แล้วมา นักเลงรถในสายเลือด(ไทย) อ่านอนาคตออก คาดว่า วันนี้รถ106 คงมีเป็นหมื่นคันในไทย ขอให้รู้เท่านั้น ว่าราคาจะไม่ตก เช่นราคาในวันนี้...

-หมายถึง ไม่มีใครรู้อนาคตจริง ที่มีครอบครอง หรือซื้อในช่วงเวลาในอดีต ก็ล้วนซื้อด้วยความจำเป็น หรือจ่ายแพงกว่าเพราะต้องใช้งานแบบนั้นครับ

-เวลาได้พิสูจน์แล้วว่า การคิดต่อรถแบบนั้น เป็นถูกต้อง คนที่เข้ามาเฮชูความนิยม / หรือยกระดับราคาในปัจจุบัน ไม่ใช่ผู้เริ่มต้น และอาจเป็นผู้พาสวนทางย้อนศร หรือทำให้ช้า ตัวจริง/เสียงจริงด้วย... ตามหลักการเล่นรถของไทย ที่ผ่านมาครับ.....

-ซึ่งคือจุดที่ไทยเราควรแก้ไข เพราะเป็นผลให้ส่วนรวม...ช้าเหลือเกินครับ

-ดังนั้น คนไทยที่ต้องการเดินหน้าตามโลกภายนอกให้ทัน...เพื่อให้ปลอดภัย ไม่ถูกทิ้งในภาวะคับขัน ควรมองตนเองอย่างเข้าใจก่อน ว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะสนใจหรือถือรสนิยมไว้เป็นหลักแบบตอนนี้ เพราะที่ผ่านมา เรื่องนี้ทำให้ไทยออกนอกเส้นทาง ยึดติดหรือหยุด ซึ่งหมายถึงขวางทางได้ จึงยังไม่สมควรใช้เป็นกฎเกณฑ์ ด้วยผลไม่มีใครยอมรับภาพรวม ...ใช้เหตุผลตัวใครตัวมันตามสิทธิ์ที่เอื้อมถึงไม่ได้ เพราะเป็นภาพรวมคือ "คนไทย"....หรือเดินเป็นกลุ่ม/ฝูงครับ

-หากวันหน้า โลกเกิดการคัดเลือกเผ่าพันธ์อีกครั้ง เช่นสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนนั้นใครเป็นยิว,พิการหรือเป็นภาระ หรือพวกเอาตัวรอด/เอาเปรียบในสังคม...จะจากโลกนี้ไป Heaven ด้วยการถูกฆ่าทารุณ.... เป็นเส้นทางจริงที่เคยเกิดขึ้นแล้วครับ....

-รสนิยมที่มอมแมม หรือเลือกใช้ของดีแต่รักษาไม่เป็น กับใช้ตามความจำเป็นแบบประณีต คือความจริงที่ควรทบทวนการเลือก ลองคิดถึงรถ106 ที่มีไม่พอ กับความต้องการ ในปีปัจจุบันเป็นความหมาย และสิ่งที่ต้องการคือเดิมๆสภาพดี หรือหมายถึงใช้งานมาอย่างรักษาเป็นผลประณีตจริง ...เป็นข้อทบทวนบทบาทที่ผ่านมาครับ.....

-ดังนั้น ท่านใดที่เคยคุยโม้เกี่ยวกับการออกนอกเส้นทาง โดยการแต่งรถเกินความจำเป็นและชี้เป็นรสนิยมเหนือชั้นเพื่อให้เป็นภาพที่สูงกว่า ...หรืออวดจุดเด่นที่ยังไม่ทราบผลระยะยาว ....เป็นเสรีภาพที่ทำได้ แต่ควรเงียบ(บ้าง)ครับ


 แก้ไขเมื่อ : 8/3/2557 8:26:41

 แก้ไขเมื่อ : 8/3/2557 9:11:08





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 27.55.5.164 เสาร์, 8/3/2557 เวลา : 08:11  IP : 27.55.5.164   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69670

คำตอบที่ 48
      
-ผมเคยสะสมนาฬิกาเก่าอยู่ระยะหนึ่ง ก็ค้นคว้าและเสาะแสวงหากันพอสมควร เพราะนำตนเองเข้าสู่เส้นทางนั้นครับ...

-ในที่สุดก็เลิกติดตาม เมื่อหยุดหา และมองแวดล้อมของเส้นทางนั้น ดูเหมือนภาพที่เคยผ่านตามา และทิ้งไปแล้ว คือเส้นทางของรถแบบRacing และเมื่อมองกลุ่มสะสมกล้อง และกลุ่มนักวิทยุสื่อสาร พอนำมาเทียบ เป็นรูปแบบการเดินแบบเดียวกันหมดครับ...

-ผมจึงพิมพ์ว่าคนไทยต้องแก้ไขวิธีทำงานแบบที่ยึดไว้ดั่งเดิมบ้าง เพราะถ้ามองแบบวิเคราะห์ คือไม่สามารถจะก้าวหน้าได้ถ้าเดินแบบนั้น แต่เป็นเมนหรือหลักของไทย ไม่อยากคิดแบบค้นคว้าว่าปมด้อยนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร คิดว่าไว้สบายหรือตามทันโลกแล้ว จึงมาวิเคราะห์ประวัติศาสตร์ ไว้สอนใจคนรุ่นใหม่ในตอนนั้นจะเหมาะกว่า ...

-ตอนนี้ทำอย่างไร จึงจะยอมแก้ไขทิศทางการมองมุมเอียง ต่อทุกสิ่งที่เข้ามาในระบบ"สนใจ" ผลที่ช้ากว่ามาก แม้จะเป็นเพียงก้าวตาม ก็ยังตามไม่ทัน โดยไม่ไม่ได้คิดค้นคว้า ถ้าให้คิดเอง อาจหมายถึงมากกว่า 112ปี ที่ยกตัวอย่างไว้ครับ

-ความช้าหรือล้าหลังนั้น ไม่ใช่ข้อรังเกียจจากโลกภายนอก เขาได้ประโยชน์ คือไทยเราซื้อทุกอย่างที่เป็นของเขามาใช้ ไม่มีพ่อค้าที่รังเกียจลูกค้าที่ไม่ฉลาด ดังนั้น ความล้าหลัง ไม่ใช่จุดหรือแนวทางวิบัติ....หมายถึงความโง่ ไม่ทำให้เกิดความรังเกียจครับ

-สิ่งที่ไทยเราปฏิบัติตน เมื่อได้ของหรือเทคนิคจากต่างประเทศมาประดับตัวต่างหากที่ทำผลน่ารังเกียจขึ้น การสร้างเหลี่ยมตุกติกและการวางตัวสูง นำเงื่อนไขจากโลกภายนอกเข้ามาเป็นอำนาจต่อรอง เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การปรับตัวตามอำนาจกดดัน โดยไม่ยอมเสียเหลี่ยม เป็นผลให้ วัฒนธรรมที่สะสมมาเริ่มเสียหรือหายไปครับ...

-ลองนึกถึงดาราตัวประกอบระดับละครของไทย ที่เคยเห็นหน้าบ้างนิดหน่อยในฉากหนังไทยที่ฉายได้ครั้งเดียวทิ้ง หรือยังไม่มาตราฐาน เป็นความบันเทิงชั่วขณะ...

-แต่หากมองว่าตัวประกอบหนังระดับล่างนั้น วางตัวด้วยรสนิยม ระดับเดียวกับ ซุบเปอร์สตาร์ ถ้าท่านใดเห็นหรือรู้ความสำคัญ ทั้งในและนอกจอ ก็คงไม่อยากคบด้วย ด้วยไม่ไว้ใจคนแบบนั้น....และนั่นคือไทยวันนี้ ในสายตาของคนต่างประเทศครับ...

-ข้อความ ไม่ได้มาประนามใคร ผมเพียงต้องการให้รู้ตัว(จริง) ว่าไทยเราถูกมองอย่างไร โดยเชื่อว่าการรู้ตัว คือการเริ่มมองภาพในมุมตรง ได้เห็นภาพจริง วิธีแก้ไขจะเกิดขึ้นเอง...

-แต่ทำอย่างไรที่จะทำให้เข้าใจสถานะนั้นก่อน ....ขอร้องตัวนำ(หลง)ทาง หรือภาวนา....ลองทั้งสองอย่างอยู่ครับ.....



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 27.55.44.153 อาทิตย์, 9/3/2557 เวลา : 08:01  IP : 27.55.44.153   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69698

คำตอบที่ 49
       -ในสารคดีชีวิตสัตว์ในแอฟริกา ....ชีวิตของนักล่า และผู้ถูกล่า เป็นสมดุลย์ของธรรมชาติ ถ้าเทียบกับมนุษย์ที่ขุดดิน ได้ค่าแรง นำไปซื้อของที่ตลาด มาปรุงเป็นอาหาร.... การล่า/ฆ่าสัตว์อื่นมาเป็นอาหาร ก็คือป่าเถื่อน เกิดความรู้สึกได้หลายอย่างที่เห็นภาพแบบนั้นครับ

-แต่....ไม่มีอะไรที่สูญเปล่าในป่า คือนิยาม ชีวิตหนึ่งจบลง คือทางรอดต่อไปของอีกหลายชีวิต เพราะจะมีระบบเก็บซากจนเกลี้ยง ไม่มีเหลือทิ้งครับ

--------------------------------------------------------

-นานแล้วครับ...ผมทำอ่างปูนปั้นไว้เพื่อเลี้ยงปลาระดับเสมอพื้นดิน จัดหินก้อนใหญ๋ และต้นไม้ไว้รอบๆอ่าง ในอ่างก็วางหินหรือรูปปั้นบ้าง แล้วนำปลาทอง พันธ์เกล็ดแก้วมาปล่อยมากกว่า 10 ตัว ดูแล้วสบายใจดี... เป็นงานส่วนตัวครับ

-ต่อมาพบปลาตาย ในอ่างท้องปลาขาดเหมือนถูกกัด หาสาเหตุไม่พบ และก็มีตายเพิ่มเรื่อยๆ จนเหลือครึ่งเดียวจึงพบต้นเหตุ คือพบปูนาโตเต็มวัย กำลังกัดกินปลาตัวหนึ่ง มีซากปลาอีกตัวอยู่ที่ก้นอ่างใกล้ๆกัน เนื้อส่วนท้องหายไป ลำตัวอยู่ครบ ปูมีตัวเดียว...

-ความหมายคือฆ่าแล้วเลือกกินๆไม่หมด ฆ่าตัวใหม่เพื่อเลือกกินส่วนท้องปลา.....เดาออกไหมครับว่าผมรู้สึกต่อปูตัวนี้อย่างไร....และทำอะไร...

-ผมเชื่อว่า เกือบทุกท่านต้องเดาถูกว่าผมจะทำอะไรกับปูนักฆ่าตัวนั้น....เป็นคำตัดสินจากการเห็น

-ผมไม่เล่าต่อ เพราะเป็นเนื้อเรื่องเดาได้ง่าย เหมือนเดาเนื้อเรื่องละครไทย(น้ำเน่า)....ที่ยอมเสียเวลาดูกันซ้ำแล้วซ้ำเล่าครับ

-คำถามคือ....."สถานการณ์นั้น....เป็นความผิดของปูนา ,เป็นเพราะผม หรือเป็นกรรมของปลา"....ครับ

........---------------------------------------------

...ณ โอ่งใบหนึ่ง.....
ข้าพเจ้าเห็นปลาช่อน กินกันเอง....
ตัวที่ใหญ่กว่า....กินตัวที่เล็กกว่าทั้งตัว
เป็นภาพที่น่าหดหู่มาก......
มองดูผู้ชนะอยู่นาน....ปลาช่อนตัวนั้น
ไม่มีอาการใดๆ ที่จับเป็นความรู้สึกได้ ทุกอย่างปกติ
ข้าพเจ้าแหงนขึ้นมองท้องฟ้า....แล้วก้มหน้าลงพูดกับปลา....."เป็นเพราะฉัน...ใช่ไหม"

-อยากให้ลองคิดตามเท่านั้นครับ.......








 แก้ไขเมื่อ : 9/3/2557 10:01:06

 แก้ไขเมื่อ : 9/3/2557 20:36:06



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 27.55.44.153 อาทิตย์, 9/3/2557 เวลา : 09:57  IP : 27.55.44.153   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69700

คำตอบที่ 50
       -หากว่าท่านใดได้เริ่มเรียนรู้ทฤษฎีรสนิยม ก็คงสนใจเริ่มก้าวตาม สมมุติเช่น ลองซื้อเก้าอี้ของนอกสวยจริงราคาแพง มา 1 ตัว เมื่อมองแล้วก็ภูมิใจว่าสวยงามประณีตกว่าของชาวบ้านคนอื่น จึงอยากอวดให้คนอื่นให้รู้ด้วย แต่ใครขอลองนั่ง ก็ระแวงว่าเก้าอี้จะเสียหาย พอแน่ใจว่าเก้าอี้นั้นสวยกว่า ก็เริ่มมีความเห็นให้ผู้อื่นในลักษณะผู้รู้ ต่อมาเมื่อพินิจแล้วพบว่าเก้าอี้มีตาไม้ หรือมีตำหนินิดหน่อย ยกตนเองเป็นน้าเนียนไปแล้วจึงอยากได้เนียนจริงกว่านั้น จึงบอกขายเก้าอี้ตัวเก่าในราคาแพง เพื่อให้มองดูพิเศษกว่า ปูทางไว้ให้ชิ้นต่อไป ใช้เหตุผล "แบ่งๆกันไปใช้"....

-รูปแบบข้างบนเป็นสิ่งที่พบเห็นได้มาก เกลื่อนไปหมดในขณะนี้..รถยนต์,เรือ,กล้อง,นาฬิกา,อาวุธมีด/ปืน,วิทยุสื่อสาร ฯลฯ....อ่านแล้วคิดตามดูได้ครับ

-ผลในวงกว้าง ...จะไม่เรียกรสนิยมอีกต่อไปครับ.....

-สังคมที่เปลี่ยนไปในทางลบ จากผลทฤษฎีรสนิยม ....ถือว่า..."เรียนรู้มาผิด"....ครับ....

-คนไทยที่พยายามก้าวหน้า โดยใช้เรื่องแนวนี้ อาจลืมไปว่า เจ้าของทฤษฎี เขาก็มองเห็นเรา ไม่ใช่ไทยเรามองเห็นกันเองแค่นั้นครับ...

------------------------------------

-ขอฝากไว้...ไม่มีความหมายใดๆครับ (เรื่องยาก..ที่คาดเดาผลก่อนไม่ได้)

http://www.youtube.com/watch?v=GCoXOZjAxN0

-----------------------------------------------

http://www.youtube.com/watch?v=lsRqWFMGpKE







 แก้ไขเมื่อ : 10/3/2557 20:53:28

 แก้ไขเมื่อ : 11/3/2557 20:29:57



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.217.167 จันทร์, 10/3/2557 เวลา : 07:52  IP : 49.48.217.167   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69722

คำตอบที่ 51
      
" ....ด้วยว่า วันที่โอกาสจะมาถึง
ข้าพเจ้าอาจสิ้นกำลังเสียแล้ว
ที่จะพาภาระร่างกายนี้ ไปสู่ท่าน...

(ภูผา)เอย....
เป็นเพราะท่าน เย้ายวน
ฤาเพราะข้าพเจ้า อยาก
หรือเพราะเวลา ผ่านเร็วไป..."

-แทนค่าในวงเล็บ ด้วยวัตถุที่หลงไหล เช่น"แลนด์ครุยเซอร์" ก็อาจได้ผลคิดที่ต่างกันครับ.....

----------------------------------------------------------

-"ความรัก ซึ่งกันและกัน" ไม่ใช่หน้าที่ มีค่ายิ่ง จึงต้องพยายามสร้างขึ้น ไม่ใช่เรียกร้องให้เป็นอย่างนั้น...

-"ความรัก ต่อส่วนรวม" เป็นหน้าที่ ถ้ารักไม่เป็น ก็ต้องพยายามบอกกัน ให้รู้จัก...

-คำว่า "ฉันไม่ดีตรงไหน"...อยู่ในเพลงไทย เป็นคำที่ฟังได้ไม่ขัดหู แต่ห้ามจำเอาไปใช้ เพราะไม่ใช่วิถีของ"ซึ่งกันและกัน"...

-คำว่า "ใครๆก็ทำ" เป็นคำที่รับฟังได้ แต่ห้ามจำเอาไปใช้ เพราะหมายถึงไม่รู้หน้าที่ ขัดแย้งกับวิถีของ "ส่วนรวม" ....

-เป็นการชวนให้คิด ไม่ใช่คำสอน เพราะการให้ความร่วมมือ หมายถึง "เดินหน้าเอง" การเข็น หรือบังคับ คือภาวะวิกฤต ตัวอย่างคือป.คิวบา ..."ไทย"..ตอนนี้ยังครับ

 แก้ไขเมื่อ : 11/3/2557 5:34:26



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.217.167 อังคาร, 11/3/2557 เวลา : 05:23  IP : 49.48.217.167   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69755

คำตอบที่ 52
       " ท่ามกลางงานปั้น/แต่ง อย่างยุ่งยาก พบว่าหาความสุขไม่เจอ

ปัญหาอยู่ใกล้กาย.... ความกังวลอยู่ในใจ

ให้วนเวียนอยู่กับการ....ปรับ,แก้

เบื่อสิ่งที่เกิดขึ้น.. ลึกๆ ..ในลับหลัง

แล้วสาปแช่ง ให้เป็นนิยาม ...สละสลวย"

-------------------------------------------------------------

-ปีที่แล้ว BENZ C180 โฉมปัจจุบัน ใช้งาน 6 เดือน หมื่นกว่ากม. บอกขาย 2.0 ล้าน ซื้อใหม่ราคา 2.8 ล้าน เวลา 6 เดือน หายไป 8 แสนบาท

-ผมทราบเรื่องนี้เพราะเป็นรถของเพื่อน ตอนซื้อคือเขาได้เงินรางวัลมาก้อนใหญ่ จึงอยากได้สิ่งดีๆต่อตนเองบ้าง ..เดิมใช้รถโตโยต้า ซื้อป้ายแดง ราวๆ 6.5แสน ใช้หลายปี ขายเป็นมือสองได้ ราวๆ4.0แสน ก็ว่าได้ราคาดีแล้วครับ

-ได้เงินรางวัลก็ใช้ทันที ต่อมาอีก 5 เดือน เขาต้องเปลี่ยนงานๆนั้นไม่เหมาะกับการใช้รถหรูหรืออย่างดี จึงอยากขาย โดยชั้นต้นตั้งราคา 2.5 ล้าน (ใช้มา 5 เดือน) ยอมขาดทุน 3 แสน ผมบอกว่าจะไม่เป็นตามที่คิด แต่ไม่ได้พูดอะไร.....

-พอผ่านไปอีกเดือน ยังขายไม่ได้ ที่สุดเขากำลังจะยอมขายราคาสุดท้ายที่มีคนเสนอให้คือ 2.0 ล้าน เขาถามผมอีกครั้ง หรืออยากให้ราคานี้ต่อเพื่อน ผมก็อยากได้ แต่เกินกำลัง รับไม่ไหว...เขาจึงปล่อยรถไป....

-ผมไม่รู้เรื่องราคาตลาดอะไร เพียงแต่มีลางสังหรณ์ จากการอยู่กับรถมาตลอดชีวิต อะไรที่เป็นรสนิยม จะมีนักล่าเกาะหลังคารถมาด้วยเสมอ

-ผมบอกว่า ราคาจริงที่สมควรของ C180 คงไม่ใช่ 2.8 ล้าน เมื่อเทียบคุณสมบัติกับรถอื่นๆ เป็นราคาที่โรยแป้ง แล้วคอยเป่าให้ฟุ้ง อบอวลตลอด จึงดูเป็นไปได้ .....

-เขาใช้รถโตโยต้า 3-4 ปี ขาดทุนไป 2.5 แสน ใช้เบนซ์ 6 เดือน ขาดทุน 8 แสนบาท ผมบอกเพื่อนอีกคนว่า เหมือนซื้อรถเก๋งป้ายแดงใช้ 6 เดือน แล้วหายไป หรือเป็นเรื่องน่าเสียใจ แต่ควรรู้ว่าต้องเสียใจเพราะอะไรครับ

- คำตอบคือ เพราะที่นี่คือ ป.ไทยครับ

-การแก้ไข อยู่ในอนาคตครับ....

----------------------------------------------

-เพิ่มข้อความเพื่อเป็นตัวอย่างคิดเรื่อง C180 ครับ.....

-รูปแนบคต.นี้ รถผมเองทั้ง 2 คัน เครื่องยนต์ 1600 ซีซี เท่ากันปี 1998 เหมือนกัน ก่อนหน้านี้แจ้งขายราคาเท่ากัน...

-ผมเป็นเจ้าของยังตัดสินใจเลือกขายเองลำบากใจ เพราะรถ 2 ป. เป็นรถใช้งานกึ่งสะสม วัดกันความสวยก็พอกัน มีข้อดีด้อยอื่นๆ ก็ต่างหัวข้อ ผลรวมพอๆกัน ตั้งราคาขายเป็นรถมือสองเท่ากันครับ

-แต่ในปั 1998 ทั้งสองคันขายในโชว์รูมรถใหม่ ราคาไม่เท่ากันครับ จำไม่ได้แล้ว แต่คิดว่า BMW แพงกว่าเป็นแสน โดยออฟชั่นน้อยกว่าด้วย เป็นกำลังภายในของค่ายยนต(กละ)....

-Compact ถ้าขับล้อหน้าเหมือน CIVIC เหมือนออดี้ A3 คิดว่าคงหล่นไปจากบรรทัดราคาเดียวกันไปแล้วครับ

-ในแนวทางรถใช้งานกึ่งสะสม ก็คงถือว่าพอๆกัน..... ในความเห็นส่วนของผม Civic ใช้เครื่องแบบมีสายพานไทมิ่ง และขับหน้า เป็นข้อที่ด้อยกว่า BMW นอกนั้น ดีกว่าหลายรายการครับ....

-เป็นประเพณี เขกกบาล มาตั้งแต่ขายปีละไม่กี่คัน จนขายเป็นเทน้ำ ก็ยังอ้างต้นทุนสูง ตัด/ลดประสิทธิภาพให้ต่ำ(สำหรับไทย) ....

-ยกมาเพื่อเตือนคนที่ยังต้องเดินทางต่อไป ควรระวังโดนคนผูกเน็คไท ล้วงกระเป๋าด้วยครับ......

-----------------------------------------------

-ไม่อยากดันกระทู้ แต่อยากขอแจ้งความเห็นว่า มีนาคม ปีนี้ ส้มเขียวหวานของไทยกำลังออกสู่ตลาด ท่านใดชอบส้มเขียวหวานไทย หรือที่มักเรียกเหมารวมว่าส้มบางมด ก็ตอนนี้ครับ...

-ราคาปีนี้แพง ก็อย่าไปคิดมาก หรืออดทน... ลดรายจ่ายเรื่องรถ แล้วปันไปซื้อส้มเขียวหวานไทยมากินดีกว่า คั้นน้ำกินก็ดีกว่าส้มใดๆ ...

-ส้มเขียวหวานไทย อาจเข้าสู่ภาวะเสี่ยงสูญพันธ์เหมือนเต่าตนุได้ เพราะคนปลูกท้อที่ไม่ได้เงินเป็นกอบเป็นกำกับเขาบ้าง ....มีหลายๆที่ เปลี่ยนไปปลูกอย่างอื่นแทน เพื่อเงินที่ดีกว่า ....ถ้าคิดเหมือนกันหมด ส้มเขียวหวานก็จะหายไปได้ครับ...

----------------------------------------

-มาเพิ่มรูปส้มเขียวหวานไทย ให้ดูว่าเปลือกนอกเขียว แต่ข้างในสีส้มจัด หวานไม่มากแต่ไม่เปรี้ยว ทำน้ำส้มคั้นดีเยี่ยม ถ้าเป็นบางมดแท้ ก็จะรสเข้มขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งครับ

-ผมไม่ชอบส้มสายพันธ์อื่น พอถึงช่วงเวลาที่หาซื้อได้ ก็ถูกใจ(มาก) บอกใครๆเสมอให้กินเท่าที่มีโอกาส วันหน้า อาจไม่มีอีก ลางสังหรณ์จากส้มเขียวหวานดีๆ หาเจอยากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้หายไปไหนหมดครับ

-----------------------------------------

-ส้มเขียวหวานขนาดราวๆ 6-7 ผล/กก. เมื่อสัปดาห์ก่อนเจอที่แม่กลอง ราคา กก. ละ 130 บาท หรือผลละประมาณ 20 บาท ไม่ให้เลือกด้วย เป็นลางบอกว่าของมีน้อย ถ้าเป็นตลาดดีๆในกรุงเทพฯ ราคาคงกว่านั้นครับ ...

-ขนาด 10-15 ผล /กก. ราคาก็ 40 บาทขึ้นไป นำมาคั้นน้ำ 1 กก.ได้ 2 แก้ว หรือราวๆแก้วละ 20-25 บาท แลกกับความอร่อย(มาก)ยังพอรับไหวครับ...

-น้ำส้มคั้นจากส้มเขียวหวาน เหมาะกับการคั้นแล้วแช่เย็นแล้วดื่ม ภายในวันเดียว ข้ามวันรสจะเปลี่ยน ดังนั้น ที่บรรจุกล่อง จึงไม่อร่อย หรือหมายถึงเหมาะกับการคั้นเองครับ....

-ส้มเขียวหวาน เพื่อคนไทยโดยเฉพาะ เพราะไม่ใช่ผลไม้ส่งออก บริโภคภายในประเทศ เหตุผลเพราะคุณภาพไม่คงที่ เหมือนเห็ดโคนที่อร่อยและแพงมาก ก็เพื่อคนไทยแบบเดียวกันครับ

-ดังนั้น ...ควรช่วยกันส่งเสริมให้ดี ให้คนเมืองนอกต้องบินมากิน โดยให้คนพื้นเมืองที่เลือกเป็นซื้อให้......

--------------------------------------------

-ไม่มีความหมายใดๆเหมือนเดิม แต่ก็น่าสนใจครับ...

http://www.youtube.com/watch?v=GeyDf4ooPdo



 แก้ไขเมื่อ : 15/3/2557 14:41:37

 แก้ไขเมื่อ : 17/3/2557 21:15:54

 แก้ไขเมื่อ : 17/3/2557 21:19:24

 แก้ไขเมื่อ : 19/3/2557 20:51:50

 แก้ไขเมื่อ : 22/3/2557 15:19:09

 แก้ไขเมื่อ : 23/3/2557 13:04:43





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.211.90 พุธ, 12/3/2557 เวลา : 07:53  IP : 49.48.211.90   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 69771

คำตอบที่ 53
       -ขอวางอีกหนึ่งเรื่องพ่วง กับเรื่องด้านบนที่ได้พาดพิงไปแล้วบ้าง เพียงอยากให้อยู่ในกลุ่มเดียวกัน มองเห็นปัญหาหาที่เกิดไปในหลายๆกลุ่ม ..รู(ป)แบบคิดเดียวกัน...

-นานแล้ว ...ราวๆ 35 ปีที่แล้ว ผมเคยใช้ล้อแมกซ์ กับรถแต่งแบบ Racing / Rally คือล้อกว้างกว่าสแตนดาร์ด แต่ดอกยางคล้ายยาง AT ในปัจจุบันใช้งานบนทางดำ และปั่นถนนลูกรังได้ระดับหนึ่งครับ...

-ล้อแมกซ์ขอบเพียง 13นิ้ว ลาย(เหมือน)แมกซ์กล้วยของญี่ปุ่นในปัจจุบัน เป็นของอังกฤษ ในสมัยนั้นก็เทียบงานลายก้านกล้วยกับของญี่ปุ่นแล้ว ว่าดูดีกว่าเล็กน้อย แมกซ์ที่กล่าวถึงมีคุณภาพเหมาะกับรถแรลลี่ เคยมีอุบัติเหตุรถเสียหลัก ฟาดข้างรถเข้าเสาไฟฟ้าข้างทาง กระแทกขอบล้อฉีกขาด แต่ล้อไม่คดไม่ดุ้ง และได้เห็นเนื้อ(แมกซ์) เป็นอลูมิเนียมผสมไม่ใช่เนื้ออลูมิเนียมล้วนแบบสเปเซอร์หรือแมกซ์บางรุ่น และนี่คือเหตุผลที่ฉีกขาดแต่ไม่ดุ้งครับ

-ดีไซน์ ได้แจ้งแล้วว่าดีด้วยเมื่อเทียบ.... ราคาขอบ 13 ก็วงละ 4500 บาท เมื่อ 35 ปีที่แล้ว ถ้าเทียบกับเวลานี้ ไม่แน่ใจว่าราวๆแบรดเล่ย์ได้เปล่าครับ

-สิ่งที่ต้องการให้รับรู้คือ ล้อที่ดีทั้งคุณภาพและดีไซน์นี้ ไม่ได้ดังตลอดกาล คาดว่าคงล่วงไปแล้ว เมื่อดูราคามือสองที่ยังเห็นบ้างในปัจจุบันครับ

-ให้ความเห็นในฐานะผู้เคยใช้ก่อนว่า การหาซื้อล้อวงละ 4500 บาท เมื่อ 35 ปีที่แล้ว เป็นความทรงจำที่เคยคุยอยู่หลายปี แต่ปัจจุบัน กลายเป็นตรงกันข้าม และรู้สึกว่าอายที่ใช้เงินแบบนั้น ในตอนนั้นครับ

-มีเหตุผลทั้งความเป็นคนไทย และสภาพของแมกซ์อังกฤษ แบนด์นี้ ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีอยู่ แต่ราคา ไม่ได้อิงเมฆ แบบกาลเวลาเก่าอีกแล้ว ความหมายคือจ่ายแบบนั้น คือไม่ฉลาดเลย และอายมากที่เคยวางตัวไปกับแมกซ์แพงในตอนที่ใช้รถอยู่ด้วย...เป็นความผิดของคน ไม่ใช่ของแมกซ์ ผมวิเคราะห์ผลนี้ภายหลังครับ...

-รูปแนบคต.นี้ เป็นแมกซ์ดังในปัจจุบันของญี่ปุ่น เรียกชื่อว่าล้อกล้วย ก็สวยดี ลายคล้ายล้อที่เล่าตอนต้นเมื่อ 35 ปีที่แล้ว ซึ่งผมสารภาพแล้วว่าไม่คุ้มที่จะจ่าย และไม่ควรที่จะยึดถือว่าเหนือชั้น....

-กรอบสีแดงชี้รูน็อตที่ไม่เป็นระเบียบ บางรูกินเนื้อก้านเข้าไป ....สำหรับผม เป็นงานออกแบบที่ไม่ลงตัว เดาว่าความนิยมแรก ไม่ได้มาจากวงล้อ 6 รูน็อต โดยจำนวนก้านเป็นดีไซน์ทีเลือกเป็นแบบแล้ว ...

-ความหมายคืออยากชวนให้คิดเรื่องการเลือกสินค้าระดับรสนิยมสูงเช่นล้อแมกซ์ตามในภาพ ...โดยผมคิดว่า..."ควรไตร่ตรอง"..การเดินตามกันแบบหูเบา...ครับ

-ผมไม่เคยคิดซื้อ หรือจะไม่ยอมจ่ายแพงกับล้อคุณภาพดี แต่ดีไซน์ไม่ลงตัวแบบนี้ เพราะทางเลือกอื่นมีมากมาย..หากสิ่งที่ยกมาชี้นี้พอมีเหตุผล คำถามคือผู้ที่ชี้เอาๆ จนกลายเป็นชมรมคนรักล้อ(กล้วย) ไม่ห่วงหรือกลัวว่า อนาคตเรื่องจะสงบ เหมือนแมกซ์อังกฤษ ที่มีลักษณะดีกว่านี้ด้วย(ซ้ำ) ...ครับ

-การตีตั๋วแพง เพื่อเดินผิดทาง และโวยวายให้ดูเอิกเกริก ผมเคยผ่านมาแล้ว ก็ยังอายอยู่เลย... ที่เคยเป็นคนแบบนั้นครับ

-------------------------------------

-ขอฝากไว้กันหาไม่เจอ...ไม่มีความหมายใดๆครับ

http://www.youtube.com/watch?v=O3YLneFhr60

 แก้ไขเมื่อ : 28/3/2557 6:25:33

 แก้ไขเมื่อ : 29/3/2557 17:43:55

 แก้ไขเมื่อ : 30/3/2557 8:29:48





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik ศุกร์, 28/3/2557 เวลา : 06:17  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 70146

คำตอบที่ 54
       -ในปี 1990 รถ BMW 318I E30 รุ่น2ป. เครื่องM40 ออกจากโชว์รูมพร้อมของแต่งบอดี้ของโรงงาน ในราคา 1,070,000 บาท จำได้ยาวนาน เพราะมีจอดอยู่ในบ้านด้วย ก่อนหน้านั้นก็ใช้ 316I 4ป. เครื่อง M10 ก่อนหน้านั้นก็มีอีกหลายรุ่น เป็นแฟนคลับก็อาจเรียกได้ครับ

-คันสุดท้ายที่ซื้อป้ายแดง ขึ้นหลักล้านเมื่อ 24 ปีมาแล้ว แอร์ในห้องโดยสาร ใช้ตู้เป่าลมแบบแขวน ตู้แบ่งลมแอร์ไม่มี ทิศทางเดียว ดิสเบรคหน้า ดรัมเบรคหลัง เครื่องยนต์ 4สูบ/8V และไม่มีออฟชั่นอะไรอีก....ขายคันเป็นล้าน...เป็นวาสนาของคนขาย และเป็นกรรมของคนซื้อ ในเวลาเดียวกันครับ...

-ในปีดังกล่าว ในวงการรถเกิดเรื่อง(นิวแซน) คือนิสสัน เปิดตัว เซฟิโร่ รถที่มีออฟชั่นไฟฟ้ามากกว่ารถที่เคยขายๆ กันในไทยขณะนั้น สื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ เป็นคำชมนิสสัน หมายถึงเป็นผู้เริ่มต้นนำรถออฟชั่นมาตราฐาน มาเปิดหูเปิดตาคนไทย...ในเวลานั้น...

-ราคาเซฟิโร่เปิดตัว ใกล้ล้าน หรือถูกกว่า BMW E30 เครื่อง M40 .....

-ปัจจุบันเซฟิโร่รุ่นแรก อยู่ในทำเนียบนักเล่นรถ(แรง) มีราคาขายแบบมือสอง ดีกว่ารถหลายยี่ห้อ รวมถึงดีกว่า BMW E30 ด้วย ข้อหนึ่งเป็นเพราะเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง แต่รวมถึงออฟชั่นมาตราฐานแบบสากล ซึ่งเทอราโน่วัน,เซิร์ฟ130 ก็เป็นแบบนั้นครับ....

-เวลาได้สอนให้คนไทยรู้จักว่า คนที่ซื้อรถจากค่ายยนต(กละ) มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ หมาบถึงต้องหัวสูง/มีเงิน/และต้องไม่ฉลาดด้วย....

-ปัจจุบันในส่วนตัวผม คิดว่าที่ผ่านมา ไปให้ความร่วมมือกับเขาเอง ไม่ได้ถูกจี้หรือโดนบังคับ เพราะตอนนั้นไม่รู้ตัว ...ตอนนี้ "รู้ตัว"แล้ว สิ่งแรกคือ "หลีกเลี่ยง" สินค้าจากค่ายนี้ ทั้งระบบ ไม่ว่าจะขายอะไร ก็ไม่ต้องซื้อ เดี๋ยวต้องมาเจ็บใจอีก....

-เล่าเรื่องนี้ เพราะมองตนเองในปี 1990 แล้วคิดว่า...ทำไมจึงเป็นคนอย่างนั้น...และทำไมปี(ปัจจุบัน)นี้ จึงยังมีคนแบบ(นั้น)อยู่อีก...จำไม่ได้ว่าสอนใคร หรือถ่ายน้ำลายใส่ปากใครไปบ้าง(แบบปอบผีฟ้า)....คงเคยแบบไม่รู้ตัวเหมือนกัน...แต่ตอนนี้รู้ตัวแล้วครับ

 แก้ไขเมื่อ : 28/3/2557 13:25:56

 แก้ไขเมื่อ : 29/3/2557 18:02:02



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 49.48.212.153 ศุกร์, 28/3/2557 เวลา : 13:19  IP : 49.48.212.153   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 70154

คำตอบที่ 55
      
-ล้อกล้วย ..ไม่สมราคาแน่นอน / ล้อแบรดเล่ย์ ..ไม่จำเป็นต้องสู้ราคา...

-รูปแนบคต.นี้ .....ตู้เย็นระบบ no frost ..ควรสู้ราคา ...เลือกดีเท่าที่จ่ายไหว...แบบหลายประตู / ทำน้ำแข็งอัตโนมัติเอง / มีเสียงเตือนประตูปิดไม่สนิท....ดีและคุ้มแน่นอน...





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik เสาร์, 29/3/2557 เวลา : 13:24  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 70186

คำตอบที่ 56
      
-ขอเล่าเรื่องยางรถยนต์ สินค้ามาตราฐานโลก...กับเงินในฝันของคนไทย....

-ผมมีรถเก๋งจอดในบ้าน 3 คัน..... 2 ใน 3 ใช้ยางทดสอบ หรือใช้ยางฟรี โดยมีเงื่อนไขปฏิบัติหลายข้อครับ..

-ใช้มา 3 รุ่นแล้ว ในรุ่นท้ายสุดนี้ เป็นยางที่ผลิตในไทย แล้วส่งไปเคลือบหน้ายางด้านใน ที่ฝรั่งเศส นั่งเรือและรถหลายต่อ จึงกลับมาใส่ในรถผม...

-วัสดุเคลือบด้านในมีสีน้ำตาลอมส้ม เหมือนสียางในจักรยานสมัยก่อน วัสดุเคลือบนี้ จะช่วยป้องกันการรั่วซึมเมื่อยางโดนตะปูหนือหนาม ระดับไม่รุนแรง และเฉพาะบริเวณหน้ายาง แก้มไม่ได้เคลือบ ผลเสียที่ฟังจากเจ้าหน้าที่บ.ยาง คือน้ำหนักยางจะมากขึ้น หรือทำให้เปลืองน้ำมันมากกว่ายางที่ไม่ได้เคลือบครับ...

-ผมกำลังชี้ค่าใช้จ่าย การเดินทางทั้งวงจรหรือทั้งไปและกลับ และเครื่องมือระดับสูงที่ฝรั่งเศสครับ....

-ความหมายคือค่าขนส่ง และเครื่องมือของโรงงานในไทย ยังไม่ครบหรือไม่เทียบเท่าโรงงานในฝรั่งเศส ในแบนด์เดียวกัน...

- ผมอยู่ในช่วงหายางให้รถวางคานหน้า คันสุดท้าย เป้าหมายนอกจากราคาจะแพงมาก ยังไม่มีตัวให้เลือก และไม่มีของให้ซื้ออีกต่างหากด้วยครับ....

-ลากมาชี้จุดอันตรายของนักบริโภคอย่างเดียวเช่นไทย ให้เริ่มเห็นภาพ ทั้งภาระ และศัก หรือความเลื่อมล้ำที่ต่างกันมากครับ

-ผมมีเพื่อนท่านหนึ่ง เขาเป็นผู้ค้าเครื่องปรับอากาศบ้าน และเป็นรายที่อยู่ในระดับที่ได้โบนัสจากผู้ผลิต ได้ไปเที่ยวเมืองนอกทุกปี เขา"บอก/สอน"ผมว่า ใดๆที่เป็นค่าใช้จ่าย คือต้นทุน จะไปเก็บหรือบวกราคา ให้ผู้ซื้อหรือผู้บริโภคๆเป็นผู้จ่ายทั้งสิ้น...

-กลับมาคิดเทียบกับเรื่องอื่นๆ เช่นราคาขายรถที่แพงมาก ยิ่งยอดจองมาก แทนที่จะถูกเพราะขายได้มาก กลับขึ้นราคาเรื่อยๆ

-และถ้าเป็นสินค้าอื่นๆที่ไม่มีต้นทุนค่าค้นคว้ามารวมด้วย เช่นขายอะไหล่แต่งมือสองจากญี่ปุ่น ก็แพงมากเหมือนกัน ถ้าถามเหตุผล คำตอบอาจเกี่ยวกับ การช้อบปิ้งที่ฮ่องกง หรือเหล้าลิตรละ 1000 ขึ้น ซึ่งในครอบครัวผู้ค้าต้องกินเที่ยวอย่างนั้นเรื่อยๆ...ก็เป็นความรับผิดชอบของผู้อยากซื้อเหมือนกันนั่นเองครับ.....

-ผมเพียงอยากให้รู้ตัว ว่าโดนเอาเปรียบ เหมือนเพลงของคาราบาวที่ร้องว่า ยิ่งจนก็ยิ่งเจ็บ....แต่ผมเชื่อว่า ปัญหาใดๆในโลกนี้ จะมีทางออก หรือทางแก้ไขเสมอ เพียงแต่วิธี จะเกิดขึ้นได้ ต่อเมื่อไทยเรารู้ตัวว่าโดนเอาเปรียบ หรืออยู่ในภาวะเสี่ยงระดับหนึ่งก่อนครับ





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.207.16.205 อาทิตย์, 30/3/2557 เวลา : 23:10  IP : 223.207.16.205   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 70227

คำตอบที่ 57
       -ในปี คศ.1912 เรือ"ไททานิค" เดินทางจากอังกฤษไปอเมริกา ผู้โดยสารถูกแบ่งเป็น 3 เกรด แยกส่วนจากกัน เพื่อป้องกันการรบกวนของคนต่างวรรณะ...

-เกรดล่างสุด หรือโลว์คลาส คือคนในระดับแรงงาน....

-กรรมกรหรือผู้มีฐานะยากจนของฝรั่ง ในปี คศ.1912 มีเสื้อผ้าใส่เกินกว่า 1 ชั้น หมายถึงผู้ชายมีเสื้อแจ็คเก็ตใส่ทับ ผู้หญิงก็ใส่ชุดชั้นใน...

-คศ.1920 บาหลี/อินโดนีเซีย หญิงพื้นเมือง นุ่งหรือใส่ผ้าปิดร่างกายท่อนล่าง บนเปลือยอก โดยทั่วไป....(หาดูได้ใน youtube)

-ป.ไทยในเวลาดังกล่าว คงดีกว่าเล็กน้อย คือในกรุงเทพฯ คงเกือบไม่มีเปลือยอกในที่สาธารณะ แต่ต่างจังหวัด ก็คล้ายบาหลีครับ ...(หาดูภาพได้จากหนังสือของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จเยี่ยมราษฎร)

- เล่าเรื่อง(จริง)ในอดีต เพื่อนำเข้าสู่คำว่า..."เผ่าพันธ์ทาส ..ให้กำเนิดแต่ลิงโง่ๆ" ....เป็นคำที่ถูกใช้เป็นเหตุผลในการฆ่าคนทิ้ง ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 ครับ...

-คนไทยในเวลาที่ ไม่ใส่เสื้อ กันเกือบทั่วประเทศ...ยาวนานมาจนถึงเวลานี้ ....แม้แต่ทฤษฎีผ้าเช็ดรถ หรือศัพธ์อาการป่วย "กรดไหลย้อน" ก็คือสิ่งที่ก้าวตามโลกภายนอกมาครับ

-หมายถึง...."ช้ามาก".....ฝรั่งเขาตั้งกฏบ้านเรื่อง วันทิ้งของประจำปี เป็นวิธีเพื่อเร่งการก้าวหน้าต่อไปอย่างหนึ่ง....แม้ว่า เขาจะเป็นผู้นำอยู่แล้วก็ตาม..

-สำหรับไทย ที่เกาะติดตามและเก็บทุกอย่างไม่ยอมทิ้ง....มองด้วยเหตุผล ก็ต้องถอนหายใจ และภาวนาขอให้พระเจ้ามีจริง...เพื่อเป็นทางรอดครับ



 แก้ไขเมื่อ : 4/4/2557 18:38:08





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik 223.207.16.205 จันทร์, 31/3/2557 เวลา : 13:08  IP : 223.207.16.205   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 70257

คำตอบที่ 58
      



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

kc52 จาก ผอ. 118.173.89.71 จันทร์, 31/3/2557 เวลา : 20:29  IP : 118.173.89.71   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 70267

คำตอบที่ 59
       ผมซื้อไม้อัดหนา 10 มม. มาใช้ ก็นำมาเลื่อยเพื่อให้ได้ขนาดตามต้องการ พบเห็นเรื่องหนึ่ง คล้อยตามชื่อกระทู้นี้ จึงขออนุญาตวางไว้ให้เป็นข้อคิดด้วยครับ

-รูปแนบคต.นี้...

-บน...รูปด้านข้างไม้อัดหนา 10 มม L/R เนื้อไม้เต็มไม่บกพร่องตลอดความยาว 2.4ม.

-กลาง...รูปด้านหัว หรือด้านที่กว้าง 1.2ม. เนื้อไม้เต็มตลอดความยาวที้งด้านหัวและท้าย...

-ล่าง...รูปด้านที่ถูกตัด หรือตรงกลาง เป็นตามที่เห็น ....

-ผมเรียกสมาชิกในบ้านมาดู และบอกเขาว่า นี่เป็นงานเจตนา ไม้อัดเต็มแผ่นรอบทั้ง 4 ด้าน เนื้อไม้เต็ม แต่ตรงกลาง(เรียกไม่เป็น) แสดงถึงเจตนา ให้เป็นแบบนี้...นี่คืองานของคนไทย.. ดูเพื่อจำ...ว่าควรรังเกียจงานแบบนี้ และบอกแบบขีดเส้นกันเอาไว้ว่า ห้ามทำแบบนี้ ทั้งมีและไม่มีโอกาส...ก็ตาม...โดยทั้งสิ้น

-ถ้าผมรู้ว่าไส้ในเป็นแบบนี้ ก็จะไม่ซื้อ การซื้อโดยที่เข้าใจว่าดี/มาตราฐาน คือข้อตกลงพื้นฐาน การบิดเบือน อำพราง เป็นการรู้ฝ่ายเดียว ไม่ใช่ความพอใจทั้งสองฝ่าย จึงหมายถึง..."ตุกติก/โกง"..แต่... "ใครๆก็ทำ".......

-สินค้าตามคต.นี้ ใช้เครื่องมือระดับอุตสาหกรรม ลงทุนมากครับ

-การมีเจตนาแบบนั้นในสินค้าระดับโรงงาน หมายถึงภาพสังคมรวมที่ต่ำ(มาก)มีแต่การเอาตัวรอดและเอาเปรียบ.... จนเป็นลางสังหรณ์ได้

-หวังว่าคงเกิดความรู้สึกในเชิงตัดสินบ้าง.. ออกเสียงในใจนะครับ...

------------------------------------------------

-ทุกข้อความที่พิมพ์ไว้ เป็นผลจากประสพการณ์ของผมเอง และผลความคิดเห็นแบบนี้ หากมีส่วนถูกอยู่บ้าง หรือพอเป็นประโยชน์มากกว่าเดิม ที่ไม่ไม่ได้คิดแบบเปรียบเทียบ ...เกิดจากความห่วงใยในครอบครัวส่วนตัว ซึ่งรวมอยู่ในสังคมไทยด้วยครับ ...

-การยอมรับสิ่งที่แล้วมา เป็นความผิดพลาด ซึ่งผมไม่สามารถแก้ไขอดีตตนเองได้อีกแล้ว จึงขอฝากไว้เพื่อเตือน เป็นข้อคิดเพื่อระวังเวลาในอนาคตของท่านอื่นในต่อไปได้บ้าง...เท่านั้นเองครับ....

-------------------------------------------------

-ผมมีจักรยานเก่าญี่ปุ่น ซื้อต่อคนไทยที่ใช้มาก่อน ตัวถังแบบผู้หญิงมีเกียร์และขนาดล้อเหมือนรถเสือหมอบบ้านเรา

-ไม่มีความรู้เรื่องจักรยาน แต่อยาก DIY เล็งข้อเสียไว้นานแล้วครับ..

-วันก่อนผมถอดล้อหลัง นำแกนล้อไปเทียบขอซื้อจากร้านจักรยานในเมือง ผมบอกว่าแกนคงคด เพราะล้อแกว่งนิดหน่อย เจ้าของร้านดูตัวอย่างและบอกว่า ไม่คด ที่แกว่งอาจเป็นที่วงล้อ...ผมจึงบอกว่างั้นผมขอนำมาให้ดูทั้งคัน...

-วันวาน ..นำรถไปแบบเป็นชิ้นๆ+กาละมังใส่น็อตและชิ้นส่วนเล็กๆ..บอกขอโทษที่ไม่ประกอบมาให้..ผมบอกรถขับหนักถ้าต้องทดจานถีบใหม่ ก็ทำได้เลย และยางล้อแตกลายงา ผมบอกเปลี่ยนด้วยก็ได้ เพราะถอดยาก...

-วันนี้ไปเอารถกลับบ้าน เจ้าของร้านซึ่งซ่อมรถด้วยตนเอง บอกผมว่า น็อตไม่ครบ เขาเติมให้ใหม่ , ยางยังไม่บวม ยังใช้ได้ไม่ต้องเปลี่ยน,แกนล้อและล้อปกติไม่เป็นอะไร อาการแกว่งน้อยลง เขาบอกยังใช้ได้ไม่เป็นไร ประกอบใส่จารบีให้เรียบร้อย...

-ค่าประกอบ+น็อต... 20 บาท

-ผมงง...และรู้สึกปลอดภัย เป็นน้อยครั้งในชีวิตที่คิดแบบนั้น

-คนซ่อมรถจักรยานฐานะดี มีร้านริมถนนหลายห้อง ไม่ฟุ่มเฟือย ทำงานด้วยตัวเองสมาชิกของครอบครัวไม่มีการจ้าง ไม่เกี่ยงงานยาก ชำนาญและจริงใจ ไม่ฉวยโอกาส หายากมาก...แต่ก็มีอยู่จริง...

-ตอนจ่ายเงินก็งงๆ ว่าเขาคิดผิดเปล่า แต่พอถึงบ้าน ที่จักรยานมีเศษกระดาษแข็งเขียนค่าซ่อม เหน็บไว้กับล้อ.."ค่าประกอบ+น็อต 20 บาท"

-ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เมื่อ 35 ปี ผมจะไม่ซื้อล้อแมกซ์วงละ 4500 บาท

-เวลาผ่านมา 35 ปี ..เงิน 20 บาท ยังเป็นค่าซ่อมจักรยานได้ ละอายใจมาก....ที่เคยใช้เงินแบบนั้นอีกครั้งครับ....

 แก้ไขเมื่อ : 1/4/2557 12:40:33

 แก้ไขเมื่อ : 6/4/2557 8:13:44

 แก้ไขเมื่อ : 13/4/2557 18:12:28





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

chotikan14 จาก Tik อังคาร, 1/4/2557 เวลา : 09:19  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 70281

คำตอบที่ 60
       ขอบคุณครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Marvin จาก มาวิน 223.207.251.182 พุธ, 16/4/2557 เวลา : 11:09  IP : 223.207.251.182   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 70603

      

ยังมีคำตอบมากกว่านี้นะครับ คลิ๊กเพื่อดูหน้าถัดไป


คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 2 จาก >>> 1  2  3  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันศุกร์,22 พฤศจิกายน 2567 (Online 1938 คน)