จาก ตากอล์ฟ TOC-067 203.144.251.253
พุธที่ , 15/10/2546
เวลา : 18:20
อ่านแล้ว = 443 ครั้ง
เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
|
"START IN GEAR" นับเป็นปฏิบัติการอย่างหนึ่งระหว่างขับรถ โดยจะกระทำในกรณีมีเหตุฉุกเฉินเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะเดินทางในป่าหรือพื้นที่เขาสูงชัน เช่น ขณะที่ขับรถขึ้นเนินชันรถเกิดดับคาเนินกะทันหัน หรือรถไม่มีกำลังที่จะผ่านเนินชันไปได้ กรณีเช่นนี้อาจจะเลือกปฏิบัติได้เป็น 2 แนวทางด้วยกัน คือ
ถอยรถลงมาเพื่อที่จะเร่งเครื่องขึ้นไปใหม่
ในกรณีที่ขับรถขึ้นเนินชันไม่พ้น จำเป็นต้องถอยรถลงมาเพื่อที่จะทำการเร่งเครื่องขึ้นไปใหม่ จะต้องถอยหลังโดยใช้เกียร์ถอยเท่านั้น พร้อมกับพิจารณาลักษณะภูมิประเทศให้ดีด้วยว่ามีความปลอดภัยต่อการถอยหลัง มากน้อยเพียงใด เช่น ในกรณีที่มีเหวอยู่ใกล้เส้นทางมากเกินไป หรือกรณีที่รถมีการคร่อมร่องล้อ ซึ่งหากนำรถถอยหลังลงมาอาจทำให้รถขวางลำและพลิกคว่ำลงเนิน ทำให้เกิดอันตรายได้
START IN GEAR
หากสำรวจภูมิประเทศดูแล้วน่าจะเกิดอันตราย ไม่สามารถที่จะถอยลงมาเพื่อตั้งหลักใหม่ได้ ให้ใช้เทคนิค "START IN GEAR" โดยเฉพาะกรณีที่เครื่องยนต์ดับคาเนิน (โดยที่ยังอยู่ในตำแหน่งเกียร์ 4L) ให้ปฏิบัติโดยใส่เกียร์ 1 ไว้พร้อมกับบิดกุญแจสตาร์ทรถ ไม่ต้องเหยียบคลัตช์ และเพื่อความเหมาะสมคล่องตัวให้ใช้เท้าขวากดคันเร่งไว้ ส่วนเท้าซ้ายวางอยู่ในตำแหน่งแป้นเหยียบเบรก เพื่อเป็นการป้องกันรถไหลถอยหลังลงเนิน โดยเฉพาะพื้นผิวเส้นทางที่มีลักษณะเปียกแฉะและลื่นมาก ๆ
ทันทีที่สตาร์ทเครื่องรถจะขยับไปข้างหน้า ทั้งนี้เพราะแรงบิดของเกียร์ 1 (4L) นั้นมีมากพอที่จะดึงรถให้ขึ้นเนินในลักษณะขยับทีละนิด หากเครื่องยนต์เกิดดับอีกให้ทำการสตาร์ทซ้ำพร้อมกับกดคันเร่ง เมื่อสตาร์ทรถติดแล้วให้เร่งรอบเครื่องช่วย รถก็จะเคลื่อนตัวต่อไปได้
***** วิธีนี้สิ่งที่ห้ามเด็ดขาดก็คือ การเหยียบคลัตช์ เพราะจะทำให้รถไหลถอยหลัง
เทคนิค START IN GEAR ยังสามารถใช้ได้กับรถทั่วไป เช่น เมื่อเราขับรถลุยน้ำมาไม่ว่าจะเป็นน้ำในป่าหรือในเมือง โดยเฉพาะน้ำที่มีระดับสูงมากถึงตำแหน่งเกียร์และแช่อยู่เป็นเวลานาน ๆ น้ำอาจจะเข้าไปในห้องเกียร์ และผลที่ตามมาก็คือแผ่นคลัตช์จะอมน้ำจนทำให้เกิดการบวมและเกิดสนิม เนื่องจากในผ้าคลัตช์จะมีส่วนผสมของโลหะอยู่ จึงทำให้คลัตช์ไม่จากออกจากจานฟลายวีลที่จะเกิดสนิมเช่นกัน ซึ่งจะส่งผลให้ไม่สามารถเข้าเกียร์ได้ (ส่วนมากจะเป็นการลุยน้ำแล้วจอดรถทันที เพราะเพียงแค่คืนเดียวก็เกิดอาการดังกล่าวได้)
วิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก็เพียงดับเครื่องยนต์แล้วเลือกใช้เกียร์ 1 หรือเกียร์ถอยหลังแล้วแต่ความเหมาะสมพร้อมกับสตาร์ทเครื่องยนต์ รถจะออกตัวในลักษณะกระตุกโดยรอบเครื่อง และเกียร์ก็จะกระชากแผ่นคลัตช์ให้ออกจากฟลายวีล เมื่อสนิมหลุดรถก็จะสามารถเข้าเกียร์ได้เป็นปกติ
ในกรณีของการลุยน้ำมาแล้วจอดรถทันที สิ่งที่ห้ามปฏิบัติอีกข้อหนึ่งก็คือ การดึงเบรกมือ เพราะเพียงชั่วข้ามคืนผ้าเบรกก็จะบวมและจับกับจานเบรกจนทำให้รถไม่สามารถเคลื่อนตัวได้ในวันรุ่งขึ้น เนื่องจากเบรกตายนั่นเอง ซึ่งการ START IN GEAR ในกรณีนี้ก็จะไม่เกิดผล ซึ่งรถก็จะไม่สามารถเคลื่อนตัวได้อยู่ดี
ดังนั้นเมื่อขับรถลุยน้ำมาแล้วควรขับรถต่อไปสักระยะหนึ่ง พร้อมกับการแตะเบรกเบาๆ เพื่อเป็นการไล่น้ำให้ระเหยออกจากผ้าเบรกก่อนจอดรถ ซึ่งยังจะเป็นการป้องกันแผ่นคลัตช์และจานฟลายวีลเป็นสนิมอีกด้วย
แค่นี้คนก็ไม่ต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าซ่อมรถ หรือต้องมานั่งเสียเวลารอช่างเพื่อลากรถไปอู่โดยที่ไม่สามารถขับรถไปเข้าอู่เองได้
|