คำตอบที่ 7
มันเป็นอะไรที่อยู่นอกทฤษดีการซื้อขายไปแล้วครับ เคยเห็นราคามีตั้งแต่ 310,000 ไปจนถึง 470,000 แบ่งผู้ใช้ 106 เป็นกลุ่มได้ดังนี้ครับ
1. เจ้าของแคมป์ก่อสร้าง ใช้วิ่งไซด์งานขนน้ำมัน หรือคนงาน กลู่มนี้ใช้จนพังก็ยังไม่ขาย เหตุผลคือไม่เดือดร้อนเงิน และขายไปแล้วบางทีมีตังก็ไม่สามารถหาซื้อรถในสภาพดีๆได้
2.กลู่มผู้ใช้งานจริงๆ จังๆ เช่นชาวเขาบนดอย ตามชายแดนเชียงราย สังขละบุรี จะขายก็ต่อเมื่อได้ราคาดี แต๋สภาพรถก็มักจะโทรมมากแล้ว ราคาก็มักจะสูงครับเพราะรู้ว่าคนเมืองชอบกัน และบางส่วนของผู้ใช้ในกลุ่มนี้มีรายได้บางส่วนที่ผิดกฏหมาย จึงซื้อแพง ขายแพง เจ้าของปั๊มน้ำมันที่บ้านผมขายให้ว้าแดงไป 500,000 ครับ กระบะหัวเดียวปี 97
3.กลุ่มผู้ใช้ออฟโรดอย่างพวกเรา น่าจะมีรถที่สบายอยู่แล้ว 106 อาจใช้บ้างเมื่อต้องการเปลี่ยนอารมณ์ในการขับรถ 106 มักไม่ใช่รถคันเดียวของครอบครัว กลู่มนี้ก็มักไม่ขายอีกน่ะแหละครับ หรือขายก็ต่อเมื่อได้ราคาที่ดีจริงๆ พอที่จะสามารถเพิ่มเงินอีกนิดหน่อยก็ได้ suv ระดับหรูๆ เลย
4. คนอย่างผมไงครับที่อยากจะมีออฟโรดบ้างซัก 1 คันที่ราคาไม่น่าเกิน 400,000 ทนทาน ใช้งานได้ไม่จุกจิกแต่เมื่อไรที่เริ่มเบื่อ หรือครอบครัวเริ่มมีสมาชิกเพิ่มมากขึ้นก็จำเป็นต้องปล่อย 106 ออกไป หรือดิ้นรนทำเป็น 4 ประตู
5. คนอย่างผมอีกแหละครับที่อยากลองอยากรู้ว่า 106 มันดีอย่างไร แต่เมื่อได้ใช้จริงๆ ก็พบว่ามันไม่เหมาะที่จะเป็นรถครอบครัว นั่งไม่สบาย และในชีวิตจริงก็ไม่มีโอกาสได้ไป ออฟโรดเลย เป็นกระแสแฟชั่นเท่านั้นเอง ผมก็มักจะมองหา suvมือสอง เป็นคันต่อไปเมื่อได้ suv ที่ถูกใจก็จะปล่อ ย 106 ครับแล้วก็ต้องรีบปล่อยเพื่อรีบไปซื้อเป็นวงจรอยู่อย่างนี้เองครับ สรุปแล้วจะหา 106 ได้จากที่ไหนบ้างครับ คงมีแค่ 3 ที่เองครับคือ รถไม่ดี เจ้าของเบื่อ เจ้าของร้อนเงิน หรือรถประมูลหลวง นอกนั้นก็อยุ่นอกทฤษดีการซื้อขายครับ ที่กล่าวมาบอกตามประสบการณ์นะครับ ไม่ได้จะยกยอว่าไอ้ 106 มันดีเลิศอย่างไร ถ้าข้อความไดพาดพิงไปถึงเพื่อนสมาชิก ต้องขอโทษด้วยครับ ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดในกลุ่มผู้ใช้ 106 แต่ตอนที่ผมหาซื้ออยู่นั้น ซึ้งกับสัจธรรมเลยครับที่ว่า เงินไม่สามารถซื้อทุกสิ่งทุกอย่างได้ ขอบคุณครับ