คำตอบที่ 1
       ขอให้ไม่เป็นอะไรมากนะ...ตาบัว...

คำตอบที่ 2
      

คำตอบที่ 3
       ........เป็นอะไรมากป่าวตาบัว....

คำตอบที่ 4
       เห็นเมื่อวันนั้นถามอยู่ว่า ไฟที่หน้าปัทม์ รูปกาน้ำมันเครื่องขึ้น เลยให้ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง ก็บอกว่า โอเคนี่นา ไม่รู้อาการเดียวกับคุณ Bluetiger รึปล่าว เจ้าตัวปั๊มน้ำมันเครื่องมันพัง ขอทราบผลด้วยเน้อ

คำตอบที่ 5
      

คำตอบที่ 6
       ฟังดูน่าขนหัวลุก

คำตอบที่ 7
       เมื่อวานยัง...ดีๆอยู่เลย...ลองเช็คปั๊มน้ำมันเครื่อง...ด้วยนะ
ลองเช็คกับ 0 เลย...แล้วเอาออกไปซ่อมข้างนอกนะ....ถูกกว่าอ่ะ
หายป่วยไวๆ....

คำตอบที่ 8
       ขอให้ไม่เป็นหนักเน้อ

คำตอบที่ 9
       ใจเย็นๆ..อาจไม่หนักหนาอะไรก็ได้รับ..ตาบัว..ลองเช็คดู

คำตอบที่ 10
       เห็นมะ เห็นมะ เห็นมะ เห็นมะ เห็นมะ ข้อยสิเว้าแล้ว เจ้าสิบ่เจือข้อย คืนนั้นข้อยบอกให้เจ้าเว้า เจ้าเว้า
เจ้าสิบ่เว้า แล้วมื้อนี้เจ้าสิมาเว้าทำหยัง ปี้อี๊เปิ้นสิให้เจ้าร้องเรียน เจ้าก้อบ่เจื๊ยยย เอ่า...ปี้อี๊คร๊าบบ ได้ยินแล้วก้อ เอารายการทุกข์ชาวบ้าน มาให้ชายบัวเว้าหน่อยเด้อ ม่างจะร้องเรียนแย้วว เอิ๊ก เอิ๊ก ( เป็นห่วงเสี่ยวเด้อ ..... แล้วตกลง คิงไหมคร๊าบบบบบบบบบบบ 55555 )

คำตอบที่ 11
       ปัญหาเครื่องยนต์เคยน็อคดับ แล้วช่างบอกว่า "ชาฟท์ละลาย" ซึ่งจริงๆแล้วมันก็คือ "แบริ่ง" ที่เรารู้จักกัน แต่ตามความเป็นจริงแล้ว ชาฟท์ ที่ว่าจะเป็นชาฟท์อะไรมันก็ละลายยากส์...จนถึงยากส์ที่สุด นอกจากจะหักหรือคดงอเท่านั้นเอง อันคำว่า "ชาฟท์"(Shaft)แปลว่า "เพลา" และเพลาในเครื่องยนต์นั้นมีอยู่ 2 อย่างคือ เพลาลูกเบี้ยว (Camshaft) ที่มีไว้เพื่อควบคุมจังหวะเปิดปิดลิ้น และเพลาข้อเหวี่ยง(Crankshaft)ที่ทำหน้าที่ในการถ่ายทอดแรง
"แบริ่ง"หรือที่ช่างทั่วไปเรียกว่า "แผ่นชาฟท์"เป็นชิ้นส่วนที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดภาระและหล่อลื่นข้อเหวี่ยงจากการทำงานของเครื่องยนต์เพื่อให้มีความผืดน้อยในทุกๆความเร็วรอบ ทั้งยังต้องสามารถเก็บสิ่งสกปรกต่างๆ ที่มีความแข็งซึ่งปนมาในน้ำมันเครื่องที่เกิดจากความบกพร่องของระบบหล่อลื่นให้สามารถฝังตัวในผิวหน้าของแบริ่ง
ในการทำงานของเครื่องยนต์ที่มีทั้งความร้อนและการเสียดสีของชิ้นส่วนอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเพลาข้อเหวี่ยง (Crank Shaft) ที่นอกจากจะต้องรับภาระทั้งความร้อน การเสียดสี และแรงกระแทกของก้านสูบที่ส่งผ่านแรงจากการลุกไหม้(ระเบิด) เพื่อผลักดันเพลาข้อเหวี่ยงหมุนรอบตัวเอง ก่อนที่จะนำกำลังที่ได้ไปปรับเปลี่ยนอัตราทดเพื่อนำไปใช้งาน ดังนั้นระหว่างเพลาข้อเหวี่ยงและจุดยึดต่างๆที่เกี่ยวข้องจะต้องมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น เพื่อให้สามารถรองรับกับภาระต่างๆได้ดีทั้งยังต้องมีความเรียบลื่น เพื่อให้ข้อเหวี่ยงสามารถหมุนได้คล่อง การยึดเพลาข้อเหวี่ยงเข้ากับห้องข้อเหวี่ยงและก้านสูบโดยตรงนั้นจะทำให้เกิดความฝืดและความร้อนสูงรวมทั้งการออกแบบระบบหล่อลื่นที่ยุ่งยากและเมื่อเกิดปัญหากับระบบหล่อลื่นจะทำให้เครื่องยนต์เสียหายอย่างรุนแรง จึงต้องมีการนำเอา แบริ่งมาช่วยโดยวางคั่นระหว่างเพลาข้อเหวี่ยงกับจุดยึดข้อเหวี่ยงทั้งจุดที่ติดกับห้องข้อเหวี่ยงและก้านสูบเพื่อช่วยลดความเสียหายในกรณีที่เครื่องยนต์ขาดการหล่อลื่นที่เพียงพอ
อาการเครื่องยนต์ดับความร้อนขึ้นสูงนั้นส่วนใหญ่เกิดจากระบบระบายความร้อนในเครื่องยนต์บกพร่องและระบบหล่อลื่นไม่เพียงพอ ซึ่งทั้ง 2 สาเหตุนี้มักจะเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กัน ความร้อนที่เกินความพอดีในเครื่องยนต์นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ต้องการในเชิงกล เพราะจะทำให้ชิ้นส่วนที่เป็นโลหะเกิดการขยายตัวและทำให้ฟิลม์น้ำมันเครื่องไม่สามารถแทรกตัวเข้าไปได้เป็นเหตุให้โลหะเสียดสีกันโดยตรงทำให้เกิดการสึกหรอ การดับของเครื่องยนต์ในขณะความร้อนสูงเกิดจากการเสียดสีระหว่างเพลาข้อเหวี่ยงกับแบริ่งจนแบริ่งละลาย(เรียกกันติดปากว่า "ชาฟท์ละลาย") และหมุนต่อไปไม่ได้อีก แต่ก่อนที่แผ่นแบริ่งจะละลายนั้นชิ้นส่วนเคลื่อนที่ต่างๆมักจะขยายตัวจนระบบหล่อลื่นไม่สามารถแทรกเข้าไปได้และเกิดการสึกหรอแล้ว แต่ที่เครื่องยังติดอยู่เพราะต้นกำลังหลักคือ เพลาข้อเหวี่ยงยังหมุนอยู่
ดังนั้นเมื่อความร้อนในเครื่องยนต์สูงผิดปกติกว่าที่เคยเป็นอยู่ควรจะรีบหาสาเหตุก่อนที่จะเกิดปัญหาหากเกิดปัญหาร้อนจนดับ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วแบริ่งมักจะละลาย และการซ่อมแซมที่ถูกต้องนั้นจะต้องรื้อเครื่องยนต์เพื่อตรวจเช็คชิ้นส่วนที่เสียหายเพื่อเปลี่ยนและซ่อมแซม เสียเวลาและอารมณ์รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่ไม่ค่อยจะเป็นมิตร และถ้าช่างที่ทำการแก้ไขให้ไม่ใส่ใจในรายละเอียด แก้ไขไม่ตรงจุด และไม่ตรวจเช็คในส่วนอื่นๆให้ด้วย ผลที่จะตามมาก็จะมีปัญหาให้ปวดหัวกันอีกนาน

คำตอบที่ 12
       โธ่...ชายบัวเติมแต่100ท่อดันลืมเติมน้ำมันเครื่อง หายไวๆๆนะเอาใจช่วย

คำตอบที่ 13
       เมื่อวานตาบัวแวะมาที่บ้าน เห็นว่าจะไปไหว้หลวงพ่อโสธร คุยกันอยู่พักใหญ่ได้ความว่าสายพานราวลิ้นใช้ได้ไม่นาน สปริงเร่งลูกรอกค้าง ไม่ไปกดสายพาน ทำให้ข้ามร่องไป 2 ร่อง ดังแกร๊กๆ ระหว่างกลับจากเทรนนิ่ง แวะจอดกินข้าวที่พัทยา พอดับเครื่องแล้ว สตาร์ทไม่ติดอีกเลย ต้องให้น้องมาลากเข้าอู่ ไล่ไปไล่มา ใส่สายพานกับลูกรอกใหม่ก็หายเป็นปกติแล้ว เหลืออย่างเดียวมุมไต่ขึ้นกับลงเนิน ไฟเตือนกาน้ำมันเครื่องจะติดค้างอยู่นาน จนกว่ารถ จะกลับมาอยู่ในแนวระนาบกับพื้นถนน กับรอบเครื่องเดินเบาเวลาแอร์ตัด รอบจะอยู่แถวๆ 600-650 รตน. ไม่รู้ว่าปกติหรือเปล่า ผมก็ไม่มี ปสก. ตรงนี้ก็บอกไม่ได้ครับ ดูดูรอบทำไม่ต่ำนัก
ห่วงอย่างนึงเรื่องก้านวาวคงไม่คดนะ หัวลูกสูบอาจมีร่องรอยนิดหน่อยหลังจากทะเลาะกับวาวล์อยู่พักนึง ก็หวังว่าคงไม่เป็นอะไรนะ...บอกให้เพื่อนๆทราบไม่ต้องห่วงครับ