คำตอบที่ 1
       มีต่ออีกนิดนึงครับ

A : ช่องว่างในการจูนเพิ่มแรงม้าก็ยิ่งมีน้อยลงแต่คนจิ้มกล่องอ้างว่ารถยนต์
จากโรงงานถูกตอนม้าเพราะห่วงเรื่องมลพิษและการกินน้ำมัน
B : ถูกตอนม้านะใช่ แต่ไม่ได้ตอนด้วย software อย่างเดียวมีอย่างอื่นด้วยเช่น
ตอนโดยไม่ให้เทอร์โบบูสต์เกิน 0.5 บาร์ทั้งที่เครื่องยนต์นั้นสามารถรับได้
1 บาร์โดยไม่พัง หรือตอนโดยตัดรอบไว้ที่ 4200 รอบฯทั้งที่ใส้ในรับได้ถึง
5000 รอบฯ เพราะเขาอยากให้มี factor of safety เยอะๆจะได้รับประกันนานๆ
คนจิ้มกล่องก็ขืนใจเวสต์เกต เพิ่มบูสต์จาก 0.5 เป็น 1 บาร์ เมื่อเพิ่มบูสต์แล้ว
ก็ใช้โปรแกรมเดิมไม่ได้ ถึงได้ก็ไม่เหมะแล้วต้องโปรแกรมใหม่ แต่จะบอกว่า
แรงเพราะกล่องไม่ได้ มันแรงขึ้นเพราะบูสต์ที่เพิ่มขึ้นต่างหากนะนาย !!!
คนจิ้มกล่องมักขี้คุยเสมอโดยเอาแรงม้าที่เพิ่มขึ้นจากการทำอย่างอื่นมารวมด้วย
แล้วบอกว่าแรงเพราะฝีมือจิ้มกล่องของตัวเองล้วนๆ.....
ท่อไอเสียจากโรงงานเส้นผ่านศูนย์กลางแค่2.2 นิ้ว มี catalytic converter
หม้อพักไส้ย้อนเสียงเงียบ เมื่อมาถึงมือคนนอกคอกอย่างเราๆก็เปลี่ยนใหม่
ขยายท่อไอเสียเป็น2.5นิ้ว เปลี่ยนท่อร่วมไอเสียจากเหล็กหล่อเป็น standless
อย่างสวย หม้อพักไส้ตรงอย่างแจ๋ว ไอเสียออกเร็วแถมกวักมือเรียกไอดีเข้า
กระบอกสูบได้อีกด้วย แรงม้าเพิ่มขึ้นแหง๋ เมื่อเปลี่ยน hardwareไปถึงขนาดนี้
โปรแกรมเดิมจากโรงงานมันจะรู้เรื่องได้ไงก็ต้องจูนกล่องใหม่แต่คนจิ้มกล่อง
ทะลึ่งคุยว่าผลงานทั้งหมดเป็นเพราะสมองเขา เห็นความหน้าด้านไม๊ !!!!!



คนจิ้มกล่องอ่านเจออาจไม่ชอบแต่ผมว่ามันก็สร้างมุมมองได้อีกแบบนึงครับ
เพราะตัวผมเองก็มองๆเรื่องนี้อยู่เหมือนกันจนมาเจอบทสัมภาษณ์อันนี้เข้า เลยต้องลองคิดดูนานกว่านี้หน่อย
โดยต้องเริ่มทำที่ hardware ก่อนบ้างแล้ว

คำตอบที่ 2
       ผมตัดบางตอนมาให้อ่านนะครับ จากบทสัมภาษณ์ในหนังสือฉบับหนึ่ง อ่านแล้วรู้สึกมัน..ดี
A : อธิบายเรื่องการย้ายแรงม้า-แรงบิดของเครื่องยนต์ที่ อ.บอกว่าหนักมาทางฮาร์ดแวร์
B : เพราะ software หรือกล่อง ECU ไม่ใช่ปัจจัยการผลิตแรงม้า !!!
โปรแกรมที่สามารถแก้ไขได้นั้น(Reprogrammable)เป็นเพียงให้ความสะดวก
สำหรับคนที่อยากลองจูนด้วยตัวเองแต่อย่าหวังว่าจะทำได้ดีกว่าเดิมทั้งจากผู้ผลิตรายแรก
หรือสำนักโมดิฟายถ้าจูนเองแล้วได้แรงม้ามากขึ้นแสดงว่าโรงงานโง่กว่าคุณ
ก็บอกกับตัวเองว่าไม่น่าไปเผลอซื้อมาเลย ต่อไปจะไม่ซื้อรถยี่ห้อนั้นอีก
A : ผู้ผลิตหรือสำนักโมดิฟายบางแห่งมีไดโนเทสต์ใช้ แต่คนที่มาจูนเองส่วนใหญ่
ก็จูนแล้วทดลองขับบนถนน
B : ใช่ ในโรงงานหรือบริษัทรถยนต์มีไดโนฯหลายตัวและมีเซียนหลายคน
แรงม้าแรงบิดจะมีแค่ไหนหน้าตาอย่างไรถูกกำหนดไว้แต่แรกด้วย Hardware
จากนั้นจูน software เพื่อให้ตรงกับ hardware ที่มีอยู่ไม่มีอะไรมากกว่านั้นไง
แต่การจูนจากโรงงานอาจมีข้อจำกัดมากกว่าคนที่มาจูนทีหลังเพราะต้อง
ส่งรถยนต์ไปจำหน่ายในประเทศต่างๆต้องมีข้อมูลของน้ำมันที่ใช้ อากาศยังไง
ร้อนแค่ไหน ออกซิเจนแน่นหรือเปล่า เพื่อให้ขายได้ทั่วโลกโดยไม่โดนด่า
ก็ต้องจูนไว้แบบกลางๆ แต่ก็มีบางยี่ห้อที่เขามีโปรแกรมแยกไว้ให้เหมาะกับ
แต่ละประเทศ คนที่ซื้อมาแล้วจูนเองก็บอกไม่เป็นไรถ้าจะเสียสิทธิรับประกันก็ช่างมัน
มีปัญญาซื้อน้ำมันเบนซินดีกว่าที่คู่มือกำหนดให้ใช้ ยิ่งถ้าอากาศเย็น ออกซิเจนแน่น
ก็เล่นอะไรได้มากขึ้นแต่ถ้าบ้านอยู่โคโรลาโด(อเมริกา)เหนือระดับน้ำทะเล
1.5 กิโลเมตรหรือ ธิเบต อากาศบางจ๋อย โปรแกรมที่จูนมาจากต่างที่กันก็ใช้ไม่ได้
ต้องจูนใหม่ช่องว่างที่จะจูนเพิ่มได้ก็มีเท่านี้
A : คนจิ้มกล่องบอกว่าสามารถจูนเพิ่มได้ 50 แรงม้าจากช่องว่างนั้น
B : ถ้าเครื่องยนต์มี 600 แรงม้าจากโรงงานการจูนกล่องให้เจอช่องว่างนั้น
ก็อาจเพิ่มได้ 50 แรงม้าถ้าโรงงานนั้นจ้างแต่ idiot มาทำงาน !!! แต่ถ้าเดิม
มี 100 แรงม้าแล้วจูนกล่องอย่างเดียวให้เป็น 150 แรงม้ามันก็เป็นไปไม่ได้
ถ้าจะคุยเรื่องนี้ ขอให้พูดเป็นเปอร์เซ็นต์
A : เปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มก็เป็นเลขตัวเดียว
B : ถ้า hardware เดิมทุกอย่าง ทั้งชาตินี้และชาติหน้าอย่าหวังว่า
เปอร์เซ็นต์แรงม้าที่เพิ่มขึ้นจะเป็นเลขสองตัว (10% ขึ้นไป ) ใครบอกว่าทำได้
ต้องโกหกหรือไม่ก็ทำhardwareแถมด้วยแล้วถือโอกาสคุยว่าจิ้มกล่องอย่างเดียว
ผมเคยเห็นสูงสุดแค่ 5.5% จากคนแก่อายุ 70 กว่าขวบที่ต้องผมต้องคาราวะ
แกเป็นคนรัฐมิชิแกนถ้านักแข่งคนไหนไม่รู้จะหันหน้าไปหาใครแล้ว
ก็ต้องคลานมาหาผู้เฒ่าคนนี้ เพราะฉะนั้นสำหรับคนจิ้มกล่องพื้นๆพูดกันแถวๆ
2-3% พอฟังได้ ...ไม่อ้วก คนจิ้มกล่องบางคนเอาตัวเลขเฉพาะจุดมาโฆษณา
เช่นเครื่องยนต์เดิมมี 210 แรงม้าที่ 6500 รอบฯ พอจิ้มกล่องใหม่แล้วได้เพิ่ม
เป็น 230 แรงม้าที่รอบเดิมหรือสูงขึ้น ก็เอาตัวเลขนั้นจุดเดียวมาคุย
จะให้เห็นภาพว่าเสียเงินแล้วได้คุ้มหรือไม่ ต้องเอาตัวเลขแรงม้าของ
กราฟทั้งเส้นมาเทียบกัน สมมุติตั้งแต่ 1000-7000 รอบฯ แล้ว
นำไปเปรียบเทียบกับแรงม้าเดิมจะพบว่าบางจุดได้แรงม้าเพิ่มขึ้น
แต่บางจุดลดลง ถ้าจิ้มเก่งหน่อยอาจเพิ่มได้ทุกจุด แต่เฉลี่ยแล้ว
แรงม้าที่เพิ่มอาจไม่มากพอจะสร้างความประทับใจให้ผู้ซื้อ
เวลาใช้งานจริงรอบเครื่องยนต์ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอไม่ได้ขับ
อยู่ในรอบที่มีแรงม้าเพิ่มขึ้นมากที่สุดเพียงจุดเดียว ก่อนจ่ายเงิน
ต้องถามตัวเองว่ารอบเครื่องยนต์ที่ใช้บ่อยๆ นั้นอยู่ตรงไหน
เมื่อจิ้มกล่องใหม่แล้วได้แรงม้าเพิ่มขึ้นเท่าไหร่แถวๆรอบที่ใช้
ส่วนรอบที่ไม่ได้ใช้ แรงม้าจะเพิ่มขึ้นมากแค่ไหนไม่ต้องสนใจ
บางครั้งโฆษณาว่าได้แรงม้าเพิ่มขึ้น 7% ที่ 4500 รอบฯ
แต่รอบฯที่ใช้งานประจำอยู่ที่ 1500-3000 รอบฯ เกินจากนั้นแล้ว
ได้เพิ่มอีก 50 แรงม้าก็ไม่สนใจ ผมจะดูว่าระหว่าง 1500-3000
มีม้าเพิ่มกี่ตัวเพราะผมต้องการตรงนี้ ถ้าพบว่าเพิ่มได้ 1.5%
จะซื้อไม๊ ? บางครั้งอาจพบว่าลดลงด้วยซ้ำเหลือ 99% แต่ไปได้
เพิ่มที่ 5000 รอบฯ มีไม่บ่อยแน่ที่จะขึ้นมาถึงรอบฯเท่านี้
แค่ลากมา 4500 รอบฯ เมียก็ตบกะโหลกแล้ว !!!!

คำตอบที่ 3
       แรงมากๆ ระวังเอียงแยะกว่าเดิมอีกนะครับเพ่

คำตอบที่ 4
       ติดมาแล้ว และถอดออกแล้วครับ ( ใส่กับ Sport Rider เครื่อง KZ) ก่อนติดเจ้าของร้านบอกว่า รถสามารถวิ่งได้170-180 Km/H ถ้าไม่จริงตามนั้นทางร้านจะคืนเงินให้
แต่พอเอาจริง ช่างที่ติดเจ้า Peak Power กับไม่ใช่ช่างในร้านนั้น แต่เป็นช่างจากศูนย์ Peak Power ซึ่งเค้าบอกว่า
เป็นไปไม่ได้หลอกที่จะวิ่งได้ขนาดนั้น เนื่องจากว่าเครื่อง
KZ จะมีกำลังรอบอยู่ที่ประมาณ 3,500 รอบ แต่ถ้าลอง
ติดก็ได้ ผมก็ให้ช่างเค้าทดลองติดดู เพราะถ้าความเร็ว
ไม่ได้ตามนั้น เราก็ไม่จ่ายตังค์อยู่แล้ว
แต่พอติดแล้วซิครับ ควันดำปี้เลย ดำตั้งแต่เกียร์ 1 ยัน 5
เลย ช่างเค้าก็ปรับกล่อง ไปเรื่อย ปรับตั้งหลายรอบ ยังไง
ควันก็ไม่หายดำ คุณจะเอาควันดำปี้ หรือจะเอาความเร็วล่ะครับ ผมก็เลยบอกช่างว่า เอาล่ะใหนๆ ควันมันก็ดำ แก้อย่างไงก็ไม่หาย ให้ช่างปรับให้มันวิ่งให้ได้ 170-180
ทีซิ อยากรู้ว่าถ้าควันดำมากๆ แล้วรถจะวิ่งได้เร็วขึ้นหรือเปล่า ช่างก็ปรับให้ครับ แต่พอขับเข้าจริง ปรากฏว่า วิ่งได้
แค่ 160-165 เกือบๆ 170 แต่ที่ตกใจก็คือความร้อนขึ้นครับ ผมก็เลยผ่อนคันเร่ง ความร้อนก็เลยลดลง
สรุปว่าบอกช่าง บอกร้านว่าขอให้ถอดเจ้ากล่องนี้ออกเถอะครับ ควันดำแถมยังเครื่องร้อนอีก แย่จริงๆ
อยากให้เหล่าลูกค้าทั้งหลาย ที่ได้ยินการโฆษณา ทั้งหลาย ว่าอย่าไปเชื่ออะไรมาก หาเงินทั้งนั้นครับ

คำตอบที่ 5
       พี่กลัวเอียงขวา...ลองติดต่อท่านเจ้าของร้าน Offroad แถวๆศรีนครินทร์ ดูครับ...เห็นคุยว่ามีกล่องที่ทำให้เจ้า KZ แรงกว่าเดิม...ข้อควรระวัง..เวลาเอียงแล้วจะเอาไม่อยู่..เอียงแล้วเอียงเลย....

คำตอบที่ 6
       ผมว่าถ้าอยากได้ความเร็ว 170-180 ไปขับรถเก๋งดีกว่ามั้ยครับ การทรงตัวดีกว่าเยอะ ไม่ก็ยกเครื่องเบนซินใส่เลย ได้แน่ ดีไม่ดีเกิน 200 ด้วยซ้ำ

คำตอบที่ 7
       ขออณุญาติข้ามห้องครับ

พอดีผมสนใจจะติด peak power ให้กับ D-Max 3.0
เลยได้เข้าไปคุยกับ ตัวแทนจำหน่ายครับ
เป็นเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นคนติดตั้งและจูนเองด้วย

พอดีได้คุยกันถึง KZ ด้วยครับ (มีเพื่อนใช้อยู่ Sport Rider)
ซึ่งก็ได้รับทราบปัญหา เหมือนกับคุณไพฑูรย์ (ความคิดเห็นที่2)ครับ
แต่แกบอกว่า สามารถแก้ปัญหาของ KZ ได้ทั้งหมด

แต่ที่ผมสนใจที่สุดคือ แกได้แนะนำ กล่องอีกรุ่นหนึ่งครับ
มีความแตกต่างตรงที่ กล่องจะรู้จัก Boost และปรับได้ละเอียดกว่า ซึ่งผมกำลังหาเวลาไปทดลองติดอยู่ครับ
ราคาประมาณ 20.5K

ถ้าสนใจลองติดต่อดูครับ 01-8434161 คุณต่อ บอกว่าทราบเบอร์มาจากวัชรินทร์ ก็ได้ครับ

ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ผมได้รับฟังมานะครับ
ไม่ได้รู้จักร้านนี้เป็นการส่วนตัว
จุดประสงค์แค่ต้องการนำเสนอ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครับ

ถ้าผมไปทดลองมาแล้ว จะไปลงผลการทดสอบที่ห้อง ISUZU ครับ

คำตอบที่ 8
       ถูกต้องนะคร้าบ

กล่องแบบหลอกสัญญาณกล่องเดิมก็เป็นอย่างนี้แหละครับ หาแบบที่เปลี่ยนสมองกล่องเดิมออกไปเลยดีกว่า แรงแน่ครับ แต่ต้องสั่งจากต่างประเทศ ใครที่มีเพื่อนไปต่างประเทศเช่น เมกา ญี่ปุ่น หรือ ออสเตรเลีย บ่อยๆ ให้จด Part number ของกล่องรถคันที่จะเปลี่ยนไป แล้วไปบอกร้านที่จำหน่ายว่า รถของเรากล่อง Part No. นี้ แล้วเค้าก็จะจัดแบบที่ตรงรุ่นมาให้ครับ เพราะกล่อง KZ มีหลายแบบ หลายรุ่นมากเลย จำนวน Pin ไม่เท่ากันเลยครับ
หรือ ซื้อทาง Online แล้วให้ส่งมาทาง DHL หรือ Fedex ก็ได้ แต่ค่อนข้างปวดกบาลเรื่องเคลียร์ภาษีนำเข้าครับผม

คำตอบที่ 9
       ขอบคุณทุกความเห็นครับ ใจจริงตั้งใจที่จะใส่เพราะเขาบอกว่าสามารถเลือกmodeเพิ่มแรงบิดได้ ส่วนตีนปลายที่มีอยู่ พอแล้วครับ เพราะไม่เคยขับเกิน 120 เนื่องจากกลัวเอาไม่อยู่ ไอ้ที่ 170-180 ขนาดรถเก๋งยังน่ากลัวเลย เอาเป็นว่าระหว่าง 2 ยี่ห้อที่ว่านี้ ใครสามารถให้แรงบิดได้ดีกว่ากัน เฟืองทดเปลี่ยนแล้วครับ

คำตอบที่ 10
       ดูจากสำนวนแล้ว ต้องเป็น อ.ศิริบูรณ์ แน่นอน... นับว่าเป็นผู้ที่มีความรู้ในวงการมอเตอร์สปอร์ตอย่างแท้จริง

คำตอบที่ 11
       ตกลงสรุปว่า ไม่น่าทำใช่ไหมครับ เท่าที่อ่านดูจะไม่คุ้มกับการลงทุนเลย สงสัยเก็บเงินไว้ซื้อยาง Silverstone สำหรับฝนหน้าดีกว่า

คำตอบที่ 12
       ฮ่าๆ นึกแล้วว่าป๋าต้องรู้แน่เลย