จาก วิดยา 202.130.155.99
จันทร์ที่ , 30/9/2545
เวลา : 07:40
อ่านแล้ว = 241 ครั้ง
เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
|
ซื้อรถ Toyota ป้ายแดง แต่ได้รถห่วย บริษัท ฯ ไม่ยอมเปลี่ยนให้
ผมชื่อ เรือโท อัศวิน นิ่มมณี เดิมใช้รถยนต์ Honda Accord VTIS
ได้ชมและเห็นโฆษณาจาก
สื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับ การประหยัดเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ D4D ที่ใช้ในรถ
TOYOTA HILUX
ประกอบกับชื่อเสียงของ TOYOTA อันยาวนานในประเทศไทย จึงตัดสินใจนำรถยนต์ Honda
ที่
ใช้อยู่มา Trade in ที่ บริษัท TOYOTA ระยอง (มาบตาพุด) จำกัด
และได้ซื้อรถกระบะ ๔
ประตู TOYOTA รุ่น SPORT CRUISER 2.5 (S) 4WD สีทูโทน เบาะหนัง ในราคา ๗๘๗,๐๐๐
.- บาท โดยมี น.ส.พัชรา สาครเสถียร เป็นพนักงานขาย ได้รับมอบรถ เมื่อ ๑๘ ก.ค.๔๕
หมายเลขตัวถัง MR033JNG505006721 หมายเลขเครื่องยนต์ 2KD-9046842
หลังจากนำรถกลับไปที่บ้านก็พบว่าที่กระจกมองมุมด้านซ้าย มีลักษณะพ่นสีไม่ทั่ว
มีรอยด่าง และล้อ
หน้าข้างขวามีลักษณะเอียง ไม่ได้ศูนย์ จึงได้นำรถกลับไปที่บริษัท ฯ ในวันที่ ๒๔
ก.ค.๔๕ เพื่อ
แจ้งให้ทราบถึงปัญหา ซึ่งพนักงานรับรถบอกว่ารถใหม่ออกจากโรงงาน
ได้มีการตรวจสอบมาตร
ฐานเป็นอย่างดีแล้ว ไม่มีทางที่ล้อจะไม่ได้ศูนย์
ผมได้ชี้แจงว่าปกติรถยนต์ที่ล้อไม่ได้ศูนย์นั้นอาจมอ
งเห็นได้ด้วยตาเปล่าถ้าเป็นการเอียงเพียงเล็กน้อย ต้องใช้เครื่องวัด
แต่ในกรณีของรถคันนี้
สามารถมองเห็นการเอียงได้ด้วยสายตา จึงสรุปได้ว่าล้อนี้เอียงมาก
ทางหัวหน้าช่างจึงได้นำรถ
เข้าเครื่องปรับตั้งศูนย์ล้อเพื่อตรวจสอบมุมล้อตามค่ามาตรฐานของรถรุ่นนี้
ซึ่งผลของการตรวจ
สอบ ปรากฏว่า ล้อเอียงจริง ๆ และเอียงมากด้วย ทางบริษัทฯ
จึงได้ปรับตั้งศูนย์ล้อให้ใหม่ แต่
การนำเครื่องมือวัดเข้าซึ่งแหลมและคมติดตั้งที่ล้อทั้งสี่ด้านเพื่อทำการวัดค่าน
ั้น
ส่งผลให้เกิดรอย
สึกและสีถลอกที่กงล้อ แต่ผมไม่ได้ติดใจกับร่องรอยดังกล่าว
เพียงแต่คิดว่าถ้ารถคันนี้ได้รับการปร
ะกอบมาอย่างดีจากโรงงานคงไม่ต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้
สำหรับกระจกมองมุมที่ด้านซ้าย ทาง
บริษัท ฯ ได้เคลมและเปลี่ยนให้ใหม่
แต่หลังจากนั้นก็นำรถกลับมาใช้งานทั่วไป ได้ตรวจพบรอยพ่นสีที่บริเวณ CHASSIS
ตามจุดต่าง ๆ
ที่เป็นรอยเชื่อมต่อของโลหะ มีลักษณะสีเข้าไปไม่ทั่วถึง
ทำให้เกิดสนิมในบริเวณนั้น และยังพบว่า
เมื่อขับขี่ความเร็ว ๙๐ กม./ชม.ขึ้นไป จะได้ยินเสียงลมภายในห้องโดยสาร
และเสียงยิ่งดังขึ้น
เมื่อความเร็วสูงขึ้น และเมื่อรถวิ่งครบ ๑,๐๐๐ กม
จึงได้นำเข้าตรวจเช็คตามสมุดคู่มือ .(วัน
เสาร์ที่ ๓ ส.ค.๔๕) พร้อมทั้งแจ้งปัญหาดังกล่าวให้ทางศูนย์บริการทราบ
แต่ได้รับคำตอบว่า "
คุณสามารถเอาสีมาพ่นตรงบริเวณจุดนั้นเพื่อกันสนิม
และเสียงลมที่ดังภายในห้องโดยสารเป็นอาก
ารเฉพาะรถรุ่นนี้ ทางช่างได้แจ้งไปทางบริษัท TOYOTA แล้ว แต่ยังไม่มีการแก้ไข"
รถผมจึงไม่
ได้รับการแก้ไข พร้อมกับรับฟังคำตอบที่ชวนให้กังขาเป็นอย่างยิ่ง
และหลังจากตรวจเช็คระยะ ๑
,๐๐๐ กม.เสร็จเรียบร้อย ผมจึงได้เดินทางไกลไปที่จังหวัดสมุทรสงคราม
และเย็นวันนั้นเองใน
ระหว่างทางได้เกิดฝนตกหนัก ขณะนั้นได้มีน้ำฝนไหลลงมาเป็นทางถูกที่เท้า
บริเวณที่เหยียบคัน
เร่งและคลัชต์ และน้ำก็เปียกที่พื้นด้านฝั่งคนขับ
ทำให้ผมตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง
ขับรถอยู่บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ไม่มีแม้ที่จะหลบฝน น้ำไหลลงมาเรื่อย ๆ
จนเปียกพรม และยัง
ไม่รู้ว่าน้ำไหลไปที่ไหนบ้าง ผมเสียความรู้สึกกับรถใหม่คันนี้เป็นอย่างมาก
เช้าวันรุ่งขึ้นจึงได้
ตรวจสอบรถหาที่มาของน้ำจนกระทั่งพบเห็นรูรั่ว ๒ รู ที่บริเวณรางน้ำ
ใต้กระจกด้านหน้า แต่ก็
ยังไม่แน่ใจ จึงได้นำรถเข้ามาตรวจเช็คที่ศูนย์บริการ (มาบตาพุด)
ในเช้าวันจันทร์ที่ ๕ ส.ค.
๔๕ เพื่อตรวจสอบ ปรากฏว่า น้ำรั่วมาจากรูดังกล่าวจริง ๆ
ซึ่งข้อผิดพลาดดังกล่าวไม่น่าจะเกิด
ขึ้นมา เพราะเป็นรถใหม่จากโรงงาน ผ่านการตรวจสอบคุณภาพมาแล้ว หรือว่าบริษัท
TOYOTA
เอาสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพมาหลอกขายให้กับผม และพอผมใช้รถไปแล้วเจอปัญหา
ก็จะมาตามแก้ไข
ให้ภายหลัง ทำให้ผมเสียความรู้สึกมาก อุตส่าห์เสียเงินร่วม ๘ แสน
ซื้อรถคันนี้มา แล้วมาเจอ
รถสภาพแบบนี้ ขับรถไปเครียดไป เสียสุขภาพจิต เสียทั้งเวลา ขับรถเข้า
ออกศูนย์บริการ
เป็นว่าเล่น แล้วที่ทาง TOYOTA คุยนักคุยหนาว่าเครื่องยนต์ D4D
นั้นประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงกว่
าเดิมถึง ๒๑ % เฉลี่ยประมาณ ๒๒.๐๘ กม./ลิตร ที่ความเร็วคงที่ ๖๐ กม./ชม.
ซึ่งเป็นเหตุ
ผลสำคัญที่ทำให้ผมตัดสินใจเลือกซื้อรถรุ่นนี้ แต่เมื่อผมนำรถคันนี้มาใช้งานจริง
ปรากฏว่า อัตรา
สิ้นเปลืองตกอยู่ที่ประมาณ ๙ - ๑๐ กม./ลิตร เท่านั้นเอง ในสภาพการใช้งานทั่วไป
(ความ
เร็วประมาณ ๘๐ - ๑๐๐ กม./ชม.) อย่างนี้เข้าข่ายหลอกลวงประชาชนหรือเปล่า
ผมไม่ได้
หวังว่ารถคันนี้จะต้องประหยัดถึง ๒๒.๐๘ กม./ลิตร อย่างที่คุยไว้หรอก
ได้แค่เพียง ๑๕ กม./
ลิตร ผมก็พอใจแล้ว
ผมร้องเรียนไปทางฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ที่กรุงเทพ ฯ ทางโทรศัพท์
ซึ่งกว่าที่ผมจะได้คุยกับเจ้าหน้าที่
ผมต้องถือสายรอร่วม ๑๐ นาที จึงตัดสินใจวางสาย แล้วหมุนโทรศัพท์ใหม่
เป็นอย่างนี้ ๓ ครั้ง
จนกระทั่งคุณมัณฑนามารับสาย และผมได้แจ้งปัญหาไว้กับคุณมัณฑนา
เพื่อรับเรื่องไปดำเนินการ
ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ฯ ส่งคุณชรัลธร มาเจรจากับผม
โดยนัดให้ผมเข้าไปพบที่ศูนย์บริการ
(มาบตาพุด) ในวันพุธที่ ๗ ส.ค.๔๕ เวลาประมาณ ๑๓๐๐ - ๑๓๓๐ แต่ปรากฏว่า คุณชรัลธร
มาถึงศูนย์บริการ ฯ เกือบสี่โมงเย็น ผมเสียเวลาไปนั่งรอคุณชรัลธร กว่า ๒
ชั่วโมง ผมได้ชี้จุด
บริเวณที่น้ำรั่ว และรอยสนิมที่ CHASSIS ให้คุณชรัลธร ดู และคุณชรัลธร
ได้อธิบายว่า รอยรั่ว
ดังกล่าว เกิดขึ้นจากการอาร์คเหล็ก
พร้อมทั้งขออภัยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับรถของผมทั้งหมด และจะ
นำรถกลับไปซ่อมทำที่กรุงเทพ
และจะถอดรื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบให้ละเอียด พร้อมทั้ง
จะเช่ารถยนต์ให้ผมใช้งานในระหว่างการดำเนินการซ่อมทำ
ผมได้พิจารณาถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว ผมเสียเงินร่วมแปดแสนซื้อรถยนต์ใหม่
เพื่อไม่ต้องการ
ที่จะพบกับปัญหาต่าง ๆ นานา ที่จะเกิดขึ้นกับรถ
มิเช่นนั้นแล้วผมก็ไปซื้อรถยนต์มือสองไม่ดีกว่าหรื
อ ผมซื้อรถใหม่ ผมควรจะได้รถที่ดี มีคุณภาพ ขับแล้วมั่นใจ บริษัท TOYOTA
ปล่อยให้สินค้าที่ไม่
ได้มาตรฐานเช่นนี้มาถึงมือผู้บริโภคแล้ว จะมาบอกว่าขอโทษ
แล้วจะเอารถกลับไปซ่อมให้อย่างนั้
นหรือ ผมไม่อนุญาตให้คุณชรัลธรนำรถกลับไปซ่อม เพราะมันไม่เป็นธรรมเลยสำหรับผม
คุณชรัล
ธรได้เพิ่มข้อเสนอให้ผมขึ้นเรื่อย ๆ
เริ่มตั้งแต่จะออกหนังสือรับประกันการซ่อมทำ จะให้น้ำมัน
เครื่อง ไส้กรอง จนถึงระยะ ๕๐,๐๐๐ กม. แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ
ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น
ในอเมริกา ผมคงรวยไม่รู้เรื่องเลย
ผมคงจะมีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้
แต่ที่นี่คือประเทศไทย ผมต้องมานั่งช้ำใจกับรถยนต์คันนี้
ผมไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายต่าง ๆ ที่
เกิดขึ้น แม้กระทั่งความรู้สึกทางจิตใจที่มันเรียกกลับคืนมาไม่ได้
ผมขอเพียงแค่ให้บริษัท TOYOTA
นำรถคันใหม่ ที่ได้มาตรฐาน มาเปลี่ยนให้กับผม ซึ่งเกินจากอำนาจของคุณชรัลธร
จึงได้ให้คุณ
ชรัลธรกลับไปรายงานให้ผู้บังคัญบัญชาที่มีอำนาจดำเนินการทราบ
วันอังคารที่ ๑๓ ส.ค.๔๕ เวลา ๑๖๐๐ คุณสดใส ซึ่งเป็นหัวหน้าของคุณมัณฑนา
และคุณชรัลธร
ได้ติดต่อกลับมาหาผม แจ้งว่าจะขอมาดูรถอีกครั้ง
และจะมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของโรงงาน และ
สอบถามความสะดวกของผม โดยจะมาหาผมที่ที่ทำงาน
โดยผมไม่ต้องเสียเวลาขับรถไปที่ศูนย์บริ
การ ฯ แล้ว ผมก็บอกว่าผมพร้อมตลอด แต่คุณสดใสก็ยังไม่ได้นัดวันที่จะเดินทางมา
จนกระทั่งวัน
ที่ ๑๙ ส.ค.๔๕ คุณสดใส ถึงได้โทรมานัดว่าจะมาดูรถผมในวันพุธที่ ๒๑ ส.ค.๔๕
บ่ายวันพุธที่ ๒๑ ส.ค.๔๕ คณะของคุณสดใส มาพบผมที่ที่ทำงาน
และได้ถ่ายรูปตามจุดบกพร่อง
ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และได้ถอดตะแกรงรางน้ำออก เพื่อถ่ายรูปรอยรั่วดังกล่าว
หลังจากถ่ายรูป
เรียบร้อย
ผมจึงได้เชิญคณะของคุณสดใสไปที่ห้องประชุมเพื่อพูดคุยถึงเรื่องราวต่าง ๆ
โดยคุณสด
ใสให้เจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องอธิบายถึงที่มาของรูรั่วดังกล่าว
ในกรณีนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ผมเป็นคนแรกที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ พร้อมทั้งขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
และยอมรับผิดทุกอย่าง
แต่ท้ายที่สุดแล้วคุณสดใสก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนรถให้ผมอีกอยู่ดี
โดยอ้างว่าทางบริษัท ฯ สามารถซ่อม
ได้
ผมไม่เข้าใจจริง ๆ ว่ารถคันนี้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบมาตรฐานจากเจ้าหน้าที่ QA
มาได้อย่าง
ไร ผมซื้อรถใหม่ ผมก็ควรจะได้รถใหม่ที่ได้มาตรฐาน ไม่มีการซ่อมทำ
ชิ้นส่วนใดที่บกพร่อง
สามารถถอดเปลี่ยนได้ หรือปรับแต่งได้ อย่างเช่น ล้อ และ กระจก นั้น
ผมพอยอมรับได้ แต่
สำหรับรูรั่วนี้ เป็นเรื่องของตัวถัง (Body) มันไม่ใช่ถอดของเก่าออก
แล้วใส่ของใหม่เข้าไป
แทนได้ บริษัท ฯ จะเอารถกลับไปปะแล้วพ่นสีใหม่เอามาให้ผม
ผมไม่สามารถจะยอมรับได้ และ
โดยเฉพาะ CHASSIS ที่ผ่านกระบวนการชุบด้วยไฟฟ้าอย่างดี
แต่มาถึงมือผมกลับพบว่าสีติดไม่ทั่ว
และเกิดสนิม อย่างนี้จะให้เอาสีมาแต้ม หรือพ่นใหม่อย่างนั้นหรือ
ผมขอ Copy รูปถ่ายจากคุณสดใส แต่ถูกปฏิเสธ ดังนั้น หลังจากคุณสดใสกลับไป
ผมจึงได้นำ
กล้องมาถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน
และพบว่าลูกน้องของคุณสดใสแอบนำซิลิโคนมาปิดที่รอยรั่วดังกล่า
ว โดยไม่แจ้งผมก่อน หรือขออนุญาตดำเนินการก่อน ผมไม่เข้าใจเจตนาของเขาจริง ๆ
หรือว่า
ต้องการจะทำลายหลักฐานกันแน่
จากวันที่ ๓ ส.ค.๔๕ ซึ่งเป็นวันที่ผมพบน้ำรั่วเป็นต้นมา
ผมต้องโดนฝนอีกหลายต่อหลายครั้งในกร
ณีที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ เวลาจะไปไหนทีก็ไม่กล้า กลัวฝนจะตกกลางทาง
เวลานอนก็นอนไม่หลับ
คิดแต่เรื่องรถ เสียสุขภาพจิตมาก
ผมไม่ได้เล่นแง่หาเรื่องเปลี่ยนรถใหม่กับทางบริษัท TOYOTA
หรือจงใจจะทำให้ชื่อเสียงของบริษัท ฯ เสียหาย
ผมมั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับรถคันนี้นั้น ผม
สมควรจะได้รับการเปลี่ยนรถใหม่จากบริษัท TOYOTA
ถ้าบริษัท TOYOTA รีบเปลี่ยนรถให้ผมตั้งแต่แรก
ไม่เตะถ่วงความเดือดร้อนของผมอย่างที่เป็นอยู่
ผมคงจะมีความรู้สึกที่ดี และมั่นใจในบริษัท TOYOTA เป็นอย่างยิ่ง
แต่จนถึงวันนี้แล้ว ทัศนะคติ
ของผมที่มีต่อบริษัท TOYOTA ได้เปลี่ยนไปแล้ว
ถามว่าถ้าสมมติว่ามีคนมาถามผมว่ารถ TOYOTA
ที่ผมใช้อยู่เป็นอย่างไร คุณคงสามารถเดาคำตอบของผมได้ว่าจะเป็นอย่างไร
สมมติว่าญาติ พี่
น้อง เพื่อนฝูง หรือใครก็ตามที่ผมรู้จัก เขาจะซื้อรถใหม่ ผมคงไม่กล้าแนะนำ
TOYOTA หรือว่า
ในอนาคตผมจะเปลี่ยนรถคันใหม่ รถคันนั้นคงไม่ใช่ TOYOTA แน่นอน
ถ้าคุณเป็นผมในตอนนี้ คุณจะรู้สึกอย่างไร แต่สำหรับผมตอนนี้
รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็น
ลูกค้าของ TOYOTA ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตผมด้วย เสียใจจริง ๆ
ใครสามารถที่จะให้ความเป็น
ธรรมกับผมได้บ้างครับ
จนถึงบัดนี้ บริษัท Toyota ยังนิ่งเงียบ ไม่ยอมเปลี่ยนรถให้ผม
เพียงแต่บอกว่าจะเอารถกลับไป
ทำให้ใหม่ ผมอยากถามประชาชนทั่วไปว่า
ผมสมควรที่จะได้รับการเปลี่ยนรถใหม่หรือไม่ หรือว่า
ควรเอารถให้บริษัท ฯ กลับไปปะรูพ่นสีใหม่มาให้ผมครับ
ถ้าผมจะฟ้องร้องจะต้องทำอย่างไรบ้าง
ครับ
เพื่อให้เป็นคดีตัวอย่างสำหรับผู้บริโภคชาวไทยทุกคนจะได้ไม่ตกเป็นเบี้ยล่างกับพ
วกนายทุนอี
กต่อไป
เรือโท อัศวิน นิ่มมณี
****************************************************************************
******
_________________________________________________________________
Send and receive Hotmail on your mobile device: http://mobile.msn.com
|