คำตอบที่ 1
       เห็นรถพรีเซ็นเตอร์ทั้ง safari และ ของ tjm ต่างหันหน้ากันทั้งนั้น แล้วเวลาฝนตกน้ำไม่เข้าเอาหรือครับผม สงสัย หรือว่ามีอะไรยังไงครับช่วยอธิบายหน่อยสงสัยมาก

คำตอบที่ 2
       แล้วแต่ชอบ........แต่ถ้าหันหน้าเวลาไปเที่ยวแล้วระวังกิ่งไม้เกี่ยวเอานะ..

แนะนำว่าหันหลังดีกว่า

คำตอบที่ 3
       ความคิดเห็นผมนะ....พี่บ่าว

หันหน้า...เวลาวิ่งบนถนนดำ ใช้ความเร็วซักหิด อากาศน่าจะอัดเข้าไปในหม้อกรองได้ดีกว่า แต่...ละอองน้ำ+ฝุ่น มันก็น่าจะตามมาด้วยเช่นกัน..

หันหลัง...หายใจอาจจะไม่ค่อยคล่องเท่าไหร แต่ผมว่าน่าจะชัวร์กว่า.......

เมื่อวาน ขับรถกลับพังงา เห็นใครกะเจ้าแดงตัวเจ็บ กะลังยืนคุยกับช่างที่อู่ หน้าโรงเรียนบ้านทุ่งก็ม่ายรุ?...อิอิ ไปทำไหรเว้ย พี่บ่าว...

กะจิบีบแตรลมทักทายแล้ว แต่....ลมในถังดันรั่วเสียหลาวเด้........เฮ้อ

คำตอบที่ 4
       เขาออกแบบให้ดูดข้างหน้าครับ รับอากาศเข้าเวลารถวิ่ง แต่จะไปหลังก็แล้วแต่ บางยี่ห้อใส่รถอีซูสุ ไปดูดบนหลังคา เห็นพวกออสเตรเลียมีสนอคเกิ้ลทั้งนั้น เขาหันหน้าน่ะเท่าที่เห็น ไว้รับอากาศบริสุทธ์ด้านบน เขาขับรถกันไกลๆเป็นวันๆ ฝุ่นมันคงเยอะ เอาไว้ข้ามแม่นํ้า อะไรพวกเนี๊ยะ แต่บ้านเราเดี๋ยวแดดเดี๋ยวฝน คงจะปรับไปตามสภาวะ

คำตอบที่ 5
       ถึงน้องบ่าวหมีขาว s link พัง ครับ ผมก็คิดเหมือนน้องบ่าวหมีขาวนะ หันหน้าลมเข้าดีกว่า หันหลังน่าจะน้อยกว่า ถ้าเป็นน้ำประปาก็ปิ๊ดเต็มท่อ ถ้าน้อยก็เหมือนฉี่แมว พี่นักวิชาการนักวิเคราะห์ทั้งหลายครับ ช่วยออกความคิดเห็น หรือ ข้อมูลที่แป๊ะๆ หน่อยครับ จะได้หายข้อข้องใจ ( โดยส่วนตัวชอบหันหน้าครับแต่อยากทราบข้อมูล ข้อดี ข้อเสีย เลยหันหลังไปก่อน

คำตอบที่ 6
       เหตุผลลุงแก็สชัดเจนมากเลยครับผม กระบี่บ้านผมฝนก็ตกทั้งปีซะด้วยซิครับลุง ไอ้เราก็ชอบหันหน้าตามแบบฉบับ แต่กลัวน้ำฝนเข้ากรอง เวลาฝนแล้งก็หันหน้า ฝนตกหันหลัง แบบนี้สน๊อคเกิ้ลพังกันพอดี ขันเข้าขันออก หันไป หันมา แบบนี้ก็บ้ากันไปใหญ่ 555555 ของผมตอนนี้หันหลัง เวลากดคันเร่งเสียงดูดอากาศดังมากเลยครับ เหตุผลคงเหมือนลุงแก็สว่า เค้าให้หันหน้ารับลมเต็มๆ หรือว่ายังไงครับ

คำตอบที่ 7
       โดยส่วนตัวผมชอบทั้งสองแบบนะครับ
แต่ผมใช้แบบหัน และก็สน๊อคเกิ้ล เป็นงานแฮนเมก ทำขึ้นเอง
หันไปหลังพาดหลังคาครับ
ง่ายๆเลยคือผมทำไว้ลุย คงไม่สะดวกแน่ถ้าสน๊อคเกิ้ลจะไปเกี่ยวอะไรเข้า
เรื่องของอากาศก็เป็นอีกเรื่องนึงครับ
ตอนที่รถไม่มีสน๊อคเกิ้ล มันดูดอากาศเข้าได้เร็ว เพราะท่อกรองมันสั้น
แต่พอติดสน๊อคเกิ้ลเข้าไป ท่อดูดอากาศมันก็เอา ยังไงก็ดูดอากาศลำบากอยุ่แล้ว
จุดประสงค์หลักๆเราใช้แค่เอาไว้ตอนลุยน้ำแล้วรถมีอากาศหายใจ โดยไม่ต้องปิดกรองลุยน้ำ
ไม่ใช่ดูดอากาศเข้าเครื่องไปทำให้มันแรงนะครับ
จะหันหน้าหรือว่าหลัง ก็ได้ประโชยน์เท่ากันในเรื่องนี้ครับ ส่วนความสวยก็แล้วแต่ชอบครับ
ที่เหลือก็ให้ท่านที่เทพๆตอบกันครับพี่จอมซน

คำตอบที่ 8
       เอาแบบตรงประเด็นเลยแล้วกัน ถ้าฝ่นมันไม่ตก ก็หันหน้า ดีกว่า เรื่องฝุ่นเข้าเยอะ ก็เป่ากรองบ่อยหน่อยแล้วกัน แต่ถ้าฝนตกหนัก ถึงหนักมาก ก็หันหลังซะ ผมเคยลองมาแล้ว ฝนตกหนัก ๆ ผมก็อัดมาประมาณ 100 วิ่งมาได้สัก 50 โล ลองเปิดหม้อกรองดู มีหรือ ที่มันจะไม่เข้า แต่ มันก็เปียกอยู่ด้านล้างของหม้อกรอง ส่วนละออง ก็ไม่น่าจะเข้าเท่าไหร่ เพราะกรองอากาศเป็นกระดาษ มันจะซับน้ำอยู่แล้ว (แต่ตอนเปิดดู มันดันไม่เปียกด้วยซิ) ผมมีประสบกาณ์แค่นี้นะ ที่เหลือ ก็รอ ผู้มีประสบการณ์ท่านต่อไปแล้วกัน ครับ

คำตอบที่ 9
       แต่อย่าได้หลังแล้ว ลืมหน้าแล้วกัน น้อง

คำตอบที่ 10
       โดยปรกติของรถที่ไม่ติดสน็อคเกิ้ล อากาศจะถูกดูดเข้ามาที่ท่อไอดีระยะจะสั้นกว่าและเพียงพอต่อความต้องการของเครื่องยนต์ แต่พอเราติดสน็อคเกิ้ลเข้าไประยะมันยาวขึ้นอากาศที่ถูกดูดเข้าไปก็จะไม่เพียงพอต่อความต้องการหรืออากาศไหลเข้าไปช้ากว่า เขาจึงออกแบบมาให้หันหน้าออกเพื่อรับแรงปะทะของอากาศขณะรถวิ่งให้เข้าไปได้เร็วกว่าแรงดูดของเครื่องยนต์ ส่วนฝุ่นละอองนั้นรถที่ติดสน็อคเกิ้ลจะได้เปรียบกว่าเพราะดูดอากาศจากด้านบนซึ่งโดยปรกติฝุ่นจะน้อยด้านล่างอยู่แล้ว(ของเดิมที่อยู่ใต้ฝากระโปรงก็หันหน้าออกเหมือนกัน) ส่วนน้ำเข้าขณะฝนตกนั้นไม่ต้องกังวนเพราะที่สน็อคเกิ้ลออกแบบมาให้มีรูระบายน้ำออกก่อนเข้าหม้อกรองอยู่แล้วครับ ส่วนจะหันหน้า-หลัง ก็อยู่ที่ชอบกันละครับ

คำตอบที่ 11
       ส่วนตัวไม่ได้ใช้แบบนี้เป็นแบบรถแทร็กเตอร์น่ะ รถจอมซนหันหน้าสวยกว่าแล้วหมั่นถอดกรองเป่าบ่อยๆก็ดีกว่าไหมหันหลังม่สวยน่ะ

คำตอบที่ 12
       โดยการออกแบบของ สนอร์เกิล จะออกแบบให้แยกและรีดน้ำให้จากอากาศ เพื่อไม่ให้เข้าไปในเครื่องยนต์ได้อยู่แล้ว

จึงไม่มีความจำเป็นต้องหันปากรับลม ไปทางด้านหลัง

แต่ป่าทางบ้านเรา จะมีกิ่งไม้และเถาวัลย์ เลื้อยเข้ามาในเส้นทาง

ปากสนอร์เกิลชอบไปเกี่ยวเอา จึงต้องหันปากรับลมไปไว้ด้านหลังแทน เพื่อป้องกันหัวสนอร์เกิลเสียหายหรือหาย

คำตอบที่ 13
       เอ้า แอบอ่านมาก็หลายเพลาแล้ว .....

Snockle หันหน้า รึ หันหลังดีกว่ากัน !!

ตามปรกติ การออกแบบ Snockle ออกแบบมาให้หันหน้าครับ เพื่อประโยชน์ในการรับลม ทั้งจอด ทั้งวิ่ง หรือวิ่งด้วยความเร็วอืดๆ ก็ตามแต่ ...แล้วหันหลังมันรับผมได้น้อยกว่าหรือ ...หากจอดเฉยๆ เท่ากันทั้งหน้าทั้งหลังครับ หากรถเริ่มเคลื่อนที่ อันนี้จะเห็นผลมากครับ เห็นผลเพราะอะไร

หากจอดนิ้งๆ หันหน้า Snckle ไปทางไหนก็ส่งผลเท่าๆ กัน เพราะใช้แรงดูดจากเครื่อง ...แต่หากรถวิ่ง หรือเคลื่อนที่อยู่ หันหน้า หันหลังจะเกิดประเด็นแล้วครับ

หันหน้าผมยังไม่พูดถึง เอาหันหลังก่อน ....

คือ จริงๆ ผลมันมาจากกระแสลมที่ วิ่งผ่านตัวมันเอง และตัวรถครับ พออากาศวิ่งผ่านทั้งคู่ จะเกิดการไหลปั่นป่วน (Terbulance flow) บริเวณปากของ Snockle ซึ่งก่อให้เกิดมวลอากาศบาง หรือ Vacumm ได้ เหมือนๆ เราเอาปากดูดหลอดดูด ครับ คราวนี้ มองว่า อากาศที่ไหลปั่นป่วน ที่เกิดจากรถ และ ตัวมันเอง ก็จะดูดอากาศออกจากท่อ Snocle ได้เหมือนกัน ซึ่งหากเป็นเครื่อง Turbo ตรงนี้จะส่งผลน้อยมาก หรือแทบไม่ส่งผลเลย เพราะการดูดอากาศเข้าเครื่อง กระทำโดยไอเสียที่ไหลออก 100% เต็มๆ ..แต่หากเป็นเครื่อง NA หากวิ่งกันจัดๆ จะเจออาการ น้ำมันหนาได้ เพราะ มัน Vacuum ที่ปากท่อ ทำให้เครื่องดูดอากาศได้น้อยลง หากเป็นเครื่อง เบนซิน NA จะเจออาการ "วูบ" ในบางช่วงที่กดคันเร่งเลยที่เดียว

ดังนั้น แม้ว่า เครื่อง Turbo Diesel ก็ส่งผล แต่ส่งผลน้อยกว่า เพราะดูดอากาศเข้าเครื่องด้วย Turbo อย่างที่ว่ามาแล้ว ...แต่หากหันหน้า Snockle เรื่องอากาศปั่นป่วน ที่เกิดขึ้นจากตัวรถ และตัวมันเอง ก็จะไม่มี ...ดังนั้น หันหน้าดีกว่าตามหลักการออกแบบครับ หากเน้นที่ สมรรถณะ

แต่หากเข้าป่า แล้วกลัว กิ่งไม้ กะเถาวัลย์ เอา Snockle ไปกิน ก็จับมันหันหลังซะครับ

..... ส่วนเรื่องน้ำ หรือฝนเข้า เลิกคิดไปเลยครับ เพราะ
1. ตัวมันเองรีดน้ำอกจากคอ ก่อนลงท่อได้อยู่แล้ว และ
2. ต่อให้ลงไปได้บางส่วนก็จริง ...มันก็ลงไปค้าง และไหลออก ทางช่องน้ำทิ้งเล็กๆ ที่หม้อกรองอากาศ ...ส่วนอากาศดี มันไหลผ่านกรอง วิ่งย้อนขึ้น คอท่ออากาศ ที่ต่อยู่ด้านบน (เค้าถึงออกแบบให้อากาศเข้าด้านล่างกรอง และออกบนฝากรอง ด้วยความต้องการนี้ ดักฝุ่นได้ด้วยแรงโน้มถ่วงบางส่วน) ดังนั้น ต่อให้เครื่องมันดูด ยังไง น้ำก็ไม่มีวิ่งลอยขึ้นด้านบนผ่านเข้าท่อดูดไปได้ ...หากผ่านได้ก็เป็นแค่ ละออง (Mist) แล้ว ซึ่งไม่ส่งผลอะไรเลยกะเครื่องยนต์สักนิด

เรื่องละอองน้ำเข้าเครื่องนี่ เคยมีใครที่เล่นรถเก่าๆ บ้างไหมคัรบ เครื่องTurbo บางทีอัดกันหนักๆ ..และในยุคยังที่ไม่ใช้ NOZ ....เค้าใช้หัวฉีดละอองน้ำ (แบบที่ใช้ในพัดลม พ่นละอองน้ำ) นี่แหล่ะครับ เจาะฝังเข้าท่อดูดอากาศ และพ่นน้ำเข้าผสมกับน้ำมันนั่นแหล่ะครับ จุดประสงค์ เพื่อลดความร้อนไอดี (เพราะไม่มีทั้ง Noz และเครื่อง Turbo ต้องการกำลังหนักๆ จะไม่ใช้ Inter Cooler ..เพื่อป้องกัน Turbo Lag)

...หากถามว่าไม่เป็นไรเหรอ?? ละอองอย่างนั้น พอมันดูดความร้อนออกจากอากาศเสร็จ ตัวมันเองก็ระเหยจนไม่เหลืออะไรแล้วครับ แต่ได้อากาศเย็นมาแทน ..ใครเคยโดนพัดลมไอน้ำ ของ Master Coo_ เราจะเห็นว่า เราเห็นละอองจริง โนจริง แต่ที่ผิวหนังของเราก็ไม่ได้ชื้น หรือเปียก เพระละอองน้ำเลย เพราะละอองเล็กมากๆ อย่างนั้น โดนความร้อนนิดเดียว ก็ระเหยหายไปหมดแล้วครับ ...แต่ลมมันจะเย็นกว่า พัดลมอย่างเดียวจริงไหมครับ



 แก้ไขเมื่อ : 11/10/2553 17:48:29

 แก้ไขเมื่อ : 11/10/2553 17:51:20

 แก้ไขเมื่อ : 11/10/2553 19:40:19

คำตอบที่ 14
       ชัดเจนมากเลยครับพี่ขอบคุณมากเลยครับผม วันนี้ผมลองของมาแล้วครับ ระยะทาง 20 กิโล ฝนตกหนาเลย อัดมา 120 กลับถึงบ้านเปิดกรองดูมีน้ำอยู่ใต้กรองนิดนึงตรงรูระบายครับ กรองเปียกที่ก้นนิดนึง ผมเป่าออกเป็นไอน้ำหน่อยนึง สรุปว่า ... อธิบายต่อเลยครับพี่ KZ Wanzer ฮิฮิฮิ รออ่านต่อครับ

คำตอบที่ 15
      
สรุปว่า มันก็เป็นแค่นั้นแหล่ะครับ ....

เรื่องกรองเปียกน้ำก็เป็นเรื่องธรรมดาๆ ....เพราะกรองกระดาษแท้โรงงาน ตอนทำความสะอาดที่ 3000 โล เค้าให้ใช้ "น้ำ" ล้างทำความสะอาด (ครับ อ่านถูกแล้วครับ "น้ำ" เปล่าๆ นี่แหล่ะครับ) แล้วเอาไปผึ่งลมในที่ร่ม ดังนั้น มันเปียกได้โดยไม่เป็นไรครับ

แต่หากติด Snockle แล้ว เป็นเรื่องธรรมดาอีกเช่นกัน ที่ต้องตรวจสอบกรองเพิ่มขึ้น เพราะมันดักทั้งน้ำ ทั้งฝุ่นเข้าหากรองเต็มๆ ....เอ้าอยากให้มุดน้ำได้ลึกขึ้น เรื่องแค่นี้ธรรมดาๆ ....

คำตอบที่ 16
       เคยสงสัยเหมือนกัน ตอนนี้เข้าใจล่ะ