คำตอบที่ 5
ผม ก็เคยรับติดตั้ง สวิตซ์ ลับ กันขโมย อยู่พักหนึ่ง
และรถตัวเอง ก็ติดตั้ง สวิตซ์ แบบนี้ไว้เหมือนกัน
แต่ ตอนนี้ ผมมองว่า สวิตซ์ลับแบบนี้ ให้ความ ไว้วางใจ ได้ไม่มากครับ เพราะ ตำแหน่ง สวิตซ์ ติดตั้งไว้ ภายในห้องโดยสาร โอกาส ที่ หัวขโมย จะหา เจอ เป็นไปได้ มากเหมือนกัน
ตอนนี้ ผมคิดแบบใหม่ ได้ ติดตั้ง ชุด รีโมทกันขโมยเพิ่มอีกชุด ติดตั้งไว้ใน ห้องเครื่อง อย่างเดียว ไม่เดิน สายไฟ อะไร เข้ามาในห้องโดยสารเลย ทุกอย่างอยู่ในห้องเครื่องทั้งหมด
ตัดสัญญาณ ไฟ เส้นสำคัญ ที่เมื่อไร สัญญาณ เส้นนี้ ไม่มีไฟเลี้ยง สตาร์ทไม่ติดแน่นอน (ไม่ใช่ สัญญาณ สตาร์ท ) ตัวมอเตอร์สตาร์ท หัวขโมยนอนต่อ ตรงจากใต้ท้อง รถ ก็ทำงานได้แล้ว
จาก นั้น ล๊อคการเปิด ฝากระโปรงหน้า ด้วย กุญแจ ห่วงคล้องทั่วๆไป ยี้ห้อ ดัง ๆ ราคาแพง ทำจาก สเตนเลส ไม่เป็นสนิม กับขายึด พิเศษ ที่ทำขึ้นมา เพื่อ ยึด กับ ห่วงล๊อค ฝากระโปรงที่มีมาแล้ว
เวลาจะล๊อค ฝากระโปรง จะต้อง นอนใต้ท้องรถ แล้ว สอดมือ ขึ้นไปล๊อค
เวลาจะปลด ก็ต้อง นอน ใต้ท้องรถ แล้ว สอดมือ ขึ้นไปปลด อีกเหมือนกัน
หัวขโมย ถ้าจะ ปลด หรือ ทำลาย กุญแจ นี้ ก็ต้อง นอนใต้ท้องรถ แล้ว สอดมือ พร้อม เครื่อง มือ ทำลาย สอดขึ้นไป ด้วยเหมือนกัน
สรุป ยุ่งยาก และ ลำบาก ด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่ หัวขโมย จะยุ่งยากกว่า เพราะต้อง สอดเครื่องมือ ทำลาย ขึ้นไปในช่องแคบๆ บริเวณ ตะแกรงหน้ารถ ด้วย ซึ่ง ทำได้ยากมาก
ปกติ ฝากระโปรง หน้า ถ้ารถไม่ได้เข้าศูนย์ รถก็ไม่จำเป็นต้องเปิดฝากระโปรงหน้าอยู่แล้ว วันไหน จะเอารถเข้าศูนย์ เราก็ค่อยไปปลดล๊อค ฝากระโปรง ที่เราได้ติดตั้งเอาไว้
เวลา ลงจาก รถ ก็กด รีโมท สองตัว ตัวหนึ่งของรถ เอง
อีกตัว ของชุด ตัดสัญญาณ ที่เราได้ติดตั้งเพิ่มเข้าไป
หัวขโมย ไม่สามารถที่ปลด สัญญาณ นี้ ได้ ถ้าไม่เปิดฝากระโปรงหน้ารถ เพื่อ ต่อตรง
แนวทางนี้ ผมก็กำลัง ทำกับรถตัวเอง อยู่ครับ แต่ยังไม่สำเร็จ ติดปัญหา ชุดรีโมท ที่ซื้อมา เป็นแบบ ออโต้ล๊อค หรือ ปลด สัญญาณล๊อค สตาร์ทเครื่อง ทำงานได้แป๊บ เดียว มันก็ตัดอีกแล้ว ยังแก้ไข โปรแกรมมันไม่ได้
จะเอา แบบ ปลดล๊อค กับ ล๊อค อย่างเดียว เท่านั้น
นำเอา มา เสนอ เป็นแนวทางกันครับผม
มีอะไร ชี้แนะ เพื่อเป็นแนวทาง ในการพัฒนาครับผม