คำตอบที่ 27
ถามว่าทนทานขนาดไหน คงต้องบอกว่าในอดีตเครื่องเบนซินรุ่นเก่าไม่ทนทานเท่าเครื่องดีเซล
ถ้าเปรียบกันในเครื่อง 2200 -2400 ซ๊ซี ในเครื่องเบนซิน กับเครื่องดีเซลไดเรคอินเจคชั่น 2500 ซีซี
ตัวเครื่องดีเซลจะทนทานกว่าชัดเจน จุดซ่อมน้อยกว่าอายุการใช้งานยาวนานมาก คือวิ่งตั้งแต่ 5 แสน - 1 ล้านกิโลเมตร
แต่เครื่องเบนซินอายุการใช้งานจะน้อยกว่า คืออยู่ราว ๆ 2 แสนกว่า - 3 แสนกว่ากิโลเมตรต้องซ่อมโอเวอร์ฮอลเครื่องกันใหม่
สิ่งที่ต่างกันหรือมาชดเชยกันคือ เครื่องเบนซินแบบนี้ค่าซ่อมเครื่อง [ไม่ใช่เปลี่ยน] จะอยู่ราว 1x,xxxx กว่าบาทแบบหมื่นต้น ๆ ซ่อมทุกชิ้น
ส่วนดีเซลจะอยู่ราว ๆ 3x,xxx - 4x,xxx กว่าบาท นับว่าราคาซ่อมดีเซลแพงกว่ามากหลายเท่าตัว บางคนไม่ยอมซ่อมเปลี่ยนเลยก็มี
ถ้าเปรียบงานซ่อมศูนย์บริการเครื่องเบนซินจะซ่อมราว 1-2 หมื่นกว่าบาท ในขณะที่ดีเซลซ่อมราว 7 หมื่นกว่าบาท
เบนซินซ่อมออกมาสภาพเครื่องเอามาใช้งานได้อีกเป็น แสน ๆ กิโลเมตร แต่ดีเซลซ่อมแล้วโอกาสไม่จบมีมากถ้าช่างมือไม่ถึงกับเจ้าของซ่อมไม่ถึง
อายุการใช้งานไม่ทนเหมือนเก่าถ้าไม่เปลี่ยนเกือบหมด สิ่งนี้เป็นเหตุให้รถเก่าที่เป็นดีเซลจึงไม่สามารถได้อยู่ในระยะยาว ๆ ได้เหมือนเบนซินเพราะฟื้นชีวิตกลับมาลำบากและค่าใช้จ่ายแพง
ความจุกจิก ในเรื่องการซ่อมเครื่องเบนซินจะจุกจิกมากว่าดีเซลสำหรับเครื่องรุ่นเก่าทั้งหมดถ้าเปรียบกัน
ภาระที่ต้องเปลี่ยนมีมากขึ้นเช่นหัวเทียน คอยล์ หน้าทองขาว หรือชุดจุดระเบิด แต่ราคาชุดเหล่านี้ไม่แพงหาไม่ยากเพราะเป็นของสิ้นเปลือง
ดีเซลไม่ต้องดูอะไรเลย แต่เวลาจะซ่อมทีก็ซ่อมหนัก ๆ ทั้งนั้นค่าใช้จ่ายสูง
พอมาถึงยุคเฟื่อง เบนซินพัฒนามาเป็นอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น เครื่องยนต์ประกอบด้วยชุด ไฟฟ้าเยอะแยะไปหมด
ถ้าเป็นระบบไฟฟ้าโอกาสเสียมีมากเพราะจุกจิกบางครั้งพังเร็วไม่ทราบสาเหตุ เบนซินแบบนี้จึงจุกจิกมากว่าดีเซล
ช่างต้องมีเครื่องมือมากขึ้นในการวิเคราะห์สาเหตุ ค่าใช้จ่ายแพงขึ้น เครื่องมีโอกาสรวนมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ลูกค้าส่วนใหญ่มักไม่นิยม
เพราะเบื่อกับความจุกจิกของเบนซินเมื่อเก่าจะต้องซ่อมและค่าใช้จ่ายแพงกว่าใช้ดีเซล
หลังจากนั้นมาถึงยุคของดีเซลคอมมอนเรลเป็นยุคเฟื่องฟูไม่ว่ากฎหมายหรือเรื่องน้ำมันที่มีราคาแพงในตลาดโลกเป็นปัจจัย คนทั่วไปจึงนิยมดีเซลมากขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ดีเซลคอมมอนเรลกลับมีข้อสียมากมายซ่อนไว้ ต่างจากดีเซลยุคเดิม ๆ ไปหมดสิ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ระบบคอมมอนเรลที่ต้องใช้แรงดันสูง
ชิ้นส่วนกลไกมีความละเอียดมากขึ้น เทคโนโลยีก้าวไปไกลมาก จุดนี้เองทำให้ค่าซ่อมบำรุงดีเซลคอมมอนเรลมีราคาแพงกว่าและจุกจิกมากกว่าเบนซินในยุคเก่า ๆ ที่ทนทานกว่า
เปรียบเทียบ
เบนซิน
1. กล่อง ECU 28,000 บาท
2.ระบบจุดระเบิด 12,000 บาท
3.หัวเทียน 240 บาท
4.หัวฉีดไฟฟ้า 36,000 บาท
5.กรองน้ำมันเบนซิน 1,000 กว่าบาท
6.ปั๊มน้ำมันไฟฟ้า 9,000 บาท
ค่าโอเวอร์ฮอล [ห้ามเปลี่ยน ] เครื่อง 10,000- 30,000 บาท
อายุการใช้งานราว 300,000 - 750,000 กิโลเมตร แล้วแต่การใช้งาน
ดีเซล
1. กล่อง ECU 28,000 บาท
2. ---------
3. -----------
4. หัวฉีดคอมมอนเรล 60,000 บาท [ มีอายุในการซ่อม ]
5.กรองน้ำมันดีเซล 500 บาท แต่เปลี่ยนทุก 1 หมื่นกิโลเมตร
6.ปั๊มแรงดันสูง 65,000 -120,000 บาท [ มีอายุในการซ่อม]
7. เพิ่มระบบเทอร์โบ 150,000 บาท
8. เพิ่มระบบ Intercooler 30,000 บาท
9. เพิ่ม EGR
10.เพิ่มระบบ สายพาน Timing balance 6,500 บาท
ค่าโอเวอร์ฮอล [ห้ามเปลี่ยน ] เครื่อง 45,000- 120,000 บาท
อายุการใช้งานราว 100,000 - 1,000,000 กิโลเมตร แล้วแต่การใช้งาน