คำตอบที่ 1
      
ประหยัดขึ้นจริงครับ เชื่อถือได้แน่นอน
คนที่จะติดตั้งคือคนไม่มีทางออกจำเป็นต้องใช้รถคันเดิมหาหนทางอื่น ไม่ได้ ซื้อรถดีเซลมาแล้วจำเป็นต้องดัดแปลงแก้ไขเพื่อลดค่าใช้จ่าย

แต่ถ้ายังไม่ซื้อรถแล้วจะซื้อดีเซลมาติดแก๊สแบบนี้ไม่เหมาะเพราะได้ไม่คุ้มเสีย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       จากประสบการณ์ใน Dmax 2.5 DI ก่อน Commonrail เป็น LPG ครับ

ประหยัดขึ้นปรมาณ 20% เท่านั้นครับ ดีที่สุดที่เคยทำได้ประมาณ 30%

แต่โดยรวม ได้รถแรงขึ้นมากกว่าครับ เพราะ LPG+Diesel แรงมากๆๆๆๆ ครับ

สรุปขับไปขับมา เริ่มประหยัดน้อยแต่รถแรงขึ้นครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ออกตัวก่อนนะครับ ว่าไม่ได้ป่วนแต่อยากรู้จริงๆ

เป็นไปได้ไง มีเทคนิคอะไร เคล็ด ยังไง วานบอก

เข้าไปในเว็ป เห็นกระบะ บอกวิ่งไป 250 กม ใช้น้ำมัน 2 ลิตร
เท่ากับว่า ติดเครื่องทิ้งไว้ รอบเครื่องราว 700-800 รอบ แล้วใช้รถคันอื่นลากไป 250 กม

สมมุติว่าเป็นไปได้ว่าใช้น้ำมันเพื่อจุดระเบิดอย่างเดียว โดยกำลังของเครื่องมาจาก NGV ล้วนๆ
การเร่งเครื่องคือการอัด- ฉีด แก๊ส NGV เข้ามากขึ้นแล้ว ฉีดน้ำมันเพื่อจุดระเบิด

ข้อสงสัย
1 การจุดระเบิดของแก๊ส NGV ปรกติน่าจะเร็วกว่า น้ำมันโซล่า ได้มีการปรับ timing ไหม
2 เครื่องดีเซลที่ ดัดแปลงใช้ NGV 100% ยังต้องลดกำลังอัด ให้พอๆกับเครื่องเบนซิล
แล้วเครื่องนี้ทำยังไงถึงอัดเข้าไปได้ตั้งมากมาย
3 จากรูป เห็น รถดีเซล คอมมอนเรล ถามว่า หัวฉีด น้ำมันและ วาวล์ผีเสื้อ คุมด้วย ECU แล้วไปลดการฉีดน้ำมันได้ยังไง

ใครทราบ ตอบด้วย ถือว่าเป็น วิทยาทาน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       "ได้ไม่คุ้มเสีย"

ขอคำอธิบายหน่อยครับคุณ Auto
ได้อะไรบ้าง เสียอะไรบ้าง อยากรู้ครับ
...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       การนำดีเซลมาติดแก๊ส ยังไงก็สู้เครื่องเบนซินไม่ได้ครับ ทุกอย่างด้อยกว่าหมด

เช่นถ้าติดแก๊สด้วยใช้เชื้อเพลิง แก๊สล้วน ๆ
เขาจะทำการโมดิฟายเครื่องยนต์ ให้ด้วยการใส่หัวเทียน ใส่หัวฉีดแก๊สทำทุกอย่างของเครื่องดีเซลให้กลายสภาพเป็นเครื่องเบนซิน ที่สามารถจุดระเบิดด้วยการใช้ก๊าซได้ เพราะก๊าซหรือเบนซินต้องจุดด้วยประกายไฟ ทีนี้ทั้งความทนทานประสิทธิภาพกำลังที่ได้ แรงม้าและแรงบิด ไม่สามารถเหมือนเดิมได้อีกต่อไป
เครื่องดีเซล เครื่องนี้ก็เหลือเพียงวิญญาณที่อดีตบอกว่าคือเครื่องดีเซลมาก่อน แล้วจะใช้ดีเซลไปทำไม
สิ่งที่หายไปแบบนี้สู้หาเครื่องเบนซินแท้ ๆ มาใช้งานมีความสุขกว่า ถ้าติดแก๊สได้ดีประสิทธิภาพใกล้เคียงกันกับน้ำมันและความทนทานไม่ได้หายไปมากนัก


ถ้าใช้เชื้อเพลิงร่วม
จะมีหลายแบบที่ใช้กัน แต่ความประหยัดได้ไม่มากนัก เพราะยังไงต้องจ่าย 2 ทางควบคู่กันไป
ราคาน้ำมันดีเซลก็สูง ประสิทธิภาพที่ประหยัดได้ไม่ถึง 50 % จ่ายแบบนี้ไม่คุ้มเท่าไหร่ ถ้าไม่วิ่งระยะทางต่อวันที่มากเพียงพอ เชฟโรเลตก็ทำรุ่นนี้ออกมาขาย เป็นปิคอัพดีเซล CNG ใช้ได้ 2 ระบบ ปรากฎว่าราคาตัวรถพุ่งทะยานไปอีก 2 แสนบาท เพราะว่าชุดหัวฉีดดีเซลเพื่อใช้แก๊สต้องจ่ายเงินกันเป็นแสน สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาแบบนี้กับระบบแบบนี้ถือว่าดีแต่คำณวนเป็นเงินแล้วอาจจะไม่คุ้มกับที่เสียเพิ่มขึ้นไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       จะทนทานแค่ใหน เวลาคงพิสูจน์คำตอบนี้ได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       เห็นคำถามจากคุณ Fortu+Go เลยอยากให้ความคิดเห็นและความรู้เพื่อเป็นวิทยาทานกับเพื่อนๆ บ้าง
ก่อนอื่นต้องแยกให้ออกก่อนว่า เครื่องดีเซลต่างจากเครื่องเบนซินโดยสิ้นเชิง ทั้งหลักการการจ่ายเชื้อเพลิงและหลักการการจุดระเบิด หลายคนอาจจะคิดว่าการทำงานของเครื่องดีเซลนั้นไม่ต่างจากเครื่องเบนซินมากนัก ผิดครับ
ข้อสงสัยที่ 1 การจุดระเบิดของแก๊ส NGV ปรกติน่าจะเร็วกว่า น้ำมันโซล่า ได้มีการปรับ timing ไหม
คำตอบ การที่น้ำมันจะเกิดการจุดระเบิดได้จะต้องมีปัจจัยที่เป็นองค์ประกอบ อากาศ,เชื้อเพลิง,อุณภูมิที่สามารถติดไฟได้(จุดวาบไฟ), และที่สำคัญต้องมีประกายไฟ ถ้าไม่มีประกายไฟ อุณภูมิที่เชื้อเพลิงจะติดไฟเองได้ต้องสูงมากถึงประมาณ 1000 กว่าองศาขึ้นไป ก๊าซ NGV มีจุดวาบไฟ อยู่ที่ประมาณ 550 องศา(ถ้าจำไม่ผิด) เพราะฉะนั้นโอกาสที่ ก๊าซ NGV จะติดไฟเองได้ค่อนข้างยากมาก ยากกว่าน้ำมันดีเซล จึงต้องอาศัยน้ำมันดีเซลเป็นตัวจุดระเบิดแล้วเกิดการลามไฟไปยังก๊าซ ดังนั้นเครื่องดีเซลจึงไม่มีการปรับ timing advance เหมือนเครื่องเบนซิน
ข้อสงสัยที่2 เครื่องดีเซลที่ ดัดแปลงใช้ NGV 100% ยังต้องลดกำลังอัด ให้พอๆกับเครื่องเบนซิล
แล้วเครื่องนี้ทำยังไงถึงอัดเข้าไปได้ตั้งมากมาย
คำตอบ เนื่องจากเครื่องดีเซลไม่มีหัวเทียนช่วยให้ประกายไฟ ดังนั้นเครื่องดีเซลถึงต้องการกำลังอัดที่สูงกว่าเครื่องเบนซินมาก จึงจะทำให้เกิดอุณภูมิสูงและต้องสูงพอที่น้ำมันดีเซลสามารถติดไฟเองได้ ส่วนกำลังอัดมากมายแค่ไหนไม่มีผลต่อก๊าซ เพราะมีประกายไฟจากน้ำมันมาช่วยจุดก๊าซ และที่เครื่องเบนซินหรือเครื่องดีเซลแปลงใช้ก๊าซ 100% จำเป็นต้องลดกำลังอัด เนื่องจากถ้าให้กำลังอัดกับเครื่องยนต์มากๆ หัวเทียนจะไม่สามารถที่จะจุดระเบิดได้ เพราะกำลังไฟไม่พอ
3 จากรูป เห็น รถดีเซล คอมมอนเรล ถามว่า หัวฉีด น้ำมันและ วาวล์ผีเสื้อ คุมด้วย ECU แล้วไปลดการฉีดน้ำมันได้ยังไง
คำตอบ ง่ายมาก ยิ่งเป็นระบบอิเลคทรอนิคส์เข้ามาควบคุม ยิ่งสามารถเข้าไปแก้ไขการทำงานได้ เพราะฉะนั้นการที่จะไปลดการจ่ายน้ำมันไม่ใช้เรื่องยากสำหรับผู้รู้ (ผู้ไม่รู้ขอเตือนว่าอย่าไปทำเองนะครับ อาจจะทำให้กล่อง ECU รถคุณเสียได้)
ตอบมาซะยืดยาว ไม่ทราบว่าจะเข้าใจกันหรือเปล่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       สำหรับคำตอบของคุณ Auto ที่ว่านำเครื่องดีเซลมาติดก๊าซด้วยกว่าเครื่องเบนซิน
ผมขอบอกว่าไม่แน่เสมอไป ลองคิดกลับไปดูเรื่องเครื่องยนต์ดีเซลก่อนว่ามีข้อดีกว่าเครื่องเบนซินอย่างไร
คือ
1. เครื่องดีเซลให้ประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องเบนซินมาก (ไม่ได้พูดถึงความเร็วนะครับ) พูดถึงปริมาณน้ำมันที่จ่ายให้เครื่องยนต์ 1 หน่วย เครื่องดีเซลสามารถให้แรงได้มากกว่าเวลาบรรทุก และให้ระยะทางที่ไกลกว่า ทางภาคขนส่งทั่วโลกจึงนิยมใช้เครื่องดีเซลในการบรรทุกของ ถ้าใครเรียนวิศวะเครื่องกลจะรู้ดี ส่วนเรื่องความเร็ว รถดีเซล commonrail สมัยนี้ไม่เป็นลองรถเบนซินเลย เพระฉะนั้นประสิทธิภาพที่พูดถึงตอนแรกยิ่งสูงกว่าเดิมอีก
2. เครื่องดีเซลมีความทนทานมากกว่าเครื่องเบนซินมาก เรื่องของการสึกหรอก็ดี เรื่องความร้อนสะสมในเครื่องยนต์ก็ดี เครื่องดีเซลมีการระบายไอเสียได้ดีกว่าเครื่องยนต์เบนซิน จึงทำให้การสะสมความร้อนน้อยกว่าเครื่องยนต์เบนซิน ลองสังเกตุดูได้นะครับ ระหว่างรถดีเซลและรถเบนซินที่ cc เท่ากัน วิ่งคู่กันมาด้วยความเร็วและระยะทางที่เท่ากัน ซัก 100 ก.ม. แล้วมาจอดรถเปิดฝากระโปรงดูครับ จะรู้ได้ทันทีว่าเครื่องเบนซินจะมีไอความร้อนที่สูงกว่าเครื่องดีเซลมาก
ถ้านำรถดีเซลมาติดตั้งก๊าซ NGV ระบบร่วมแล้วสามารถลดน้ำมันได้มากถึง 80% ผมคิดว่าน่าจะคุ้มค่ากว่าเครื่องเบนซินนะครับ แต่ที่สำคัญต้องควบคุมเชื้อเพลิงทั้งสองอย่างให้ลงตัวกัน ถึงจะได้ประสิทธิภาพสูงสุด
บางท่านเคยนำรถดีเซลไปติดตั้งแล้ว ลดน้ำมันได้ไม่มาก แต่กลับได้แรงเพิ่มขึ้น ไอ้ตรงส่วนที่แรงเพิ่มขึ้นนั่นละครับมันไปกินเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น น้ำมันจึงลดได้น้อย ถือว่าผิดหลักการไปหน่อย มันควรจะต้องทำให้ได้แรงเท่าดีเซลเดิม แล้วท่านจะประหยัดได้จริง
ตอนนี้บริษัทผลิตรถยนต์ดีเซล ประเภทรถบรรทุกในประเทศอเมริกาหรือประเทศในยุโรป หลายเจ้าหันมาพัฒนาเครื่องดีเซลใช้ก๊าซ NGV ร่วมที่ให้ประสิทธิภาพสูงและใช้น้ำมันดีเซลแค่ 5% เท่านั้นเอง นั้นหมายความว่า การใช้เชื้อเพลิงโดยรวมของเครื่องยนต์ดีเซลประเภทนี้ ให้ความประหยัดมากกว่าเครื่อง NGV 100% ที่ cc เท่ากันเสียอีก
ดังนั้นคำตอบที่ว่าเครื่องดีเซลติดก๊าซด้อยกว่าเครื่องเบนซินจึงไม่ถูกเสมอไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       คำถามที่โพสท์ในกระทู้ ผมขอเวลาไปศึกษาใน website ของเค้าก่อน แล้วจะเอาข้อมูลมาเล่าให้ฟังทีหลัง
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       ผมขอสนับสนุนความเห็นของคุณ Auto และคุณ Fortu+Go ครับ ้

ผมว่า ถ้าจะถกกันเรื่อง เบนซิน ดีเซล แก๊ส ตกลงย่างงี้ดีกว่า

เอาเป็นว่า มันมีเครื่องยนต์ 2 แบบ ที่ออกแบบมาสำหรับเชื้อเพลงที่แตกต่างกัน
1. Spark engine ก็เอาไว้ใช้กับ เชื่อเพลิงที่ มันต้องการตัวจุดระเบิดช่วย เพราะมันไม่สามารถ จุดได้ด้วยตัวเองได้
เช่น เบนซิน เอทอนอล แก๊ส LPG CNG
2. Compression Engine ก็เอาไว้ใช้กับ เชื้อเพลิงที่มันจุดระเบิดตัวเองได้โดยใช้แรงอัด ก็จำพวก น้ำมันดีเซลไงครับ

ชนิดเครื่องมันบอกอยู่แล้วว่า LPG CNG มันใช้กับ Spark Engine เครื่องเบนซินที่เราเีรียกกัน มันเป็น Spark Engine ที่ออกแบบเพื่อให้งานกับ เชื้อเพลิง ชนิด Gasoline หรืิอ Petral โดยตรง

แต่คุณสมบัติของ LPG CNG มันใกล้เคียง Gasoline หลักการง่าย ๆ เลยคือ LPG CNG มันก็ต้องเอาไปใช้งานกับ Spark engine อยู่แล้ว เรื่องง่าย ๆ มันจะเอาไปใช้โดยตรงกับ เครื่ง Compression Engine ได้ไง

ซึ่้งจริง ๆ LPG กับ CNG ถ้าจะเอาจริง ต้องออกแบบ เครื่อง Spark Engine ให้มันโดยจำเพราะ

แต่ว่ามันก็สามารถ ออกแบบเครื่อง Gasoline ให้ใช้ CNG LPG ได้โดยไม่ยาก เพราะเชื้อเพลิืงมันคุณสมบัติใกล้เคียงกัน

วิศกรสร้างเครื่องยนต์ เขาไม่ได้มาแยกค่าย ว่าเบนซิน หรือดีเซลนะครับ วิศวกรที่ออกแบบ ดีเซลอาจจะทำเบนซิน ด้วยก็ได้

ข้อแตกต่างของเครื่องยนต์ 2 แบบมาจากเชื่้อเพลิงนะครับ
ผมไม่เถียงว่า ดีเซลให้พลังงานสูงกว่า เบนซิน แต่ว่าเชื้อเพลิืง จำพวก ใจเสาะแบบ Gasoline LPG CNG ที่จุดระเบิดด้วยแรงอัดไม่ได้ พลังงานต่อหน่วยต่ำ มันมีจำนวนมหาศาลบนโลกใบนี้ และสามารถสร้างหา รอวัฎจักรได้ ไม่นาน

ผมองยังคิดว่า วิศวกรสร้างเครื่องอะไรก็ได้ ที่เอาเชื้อเพลิงเบา พวกนี้ไปใช้ได้ ประโยน์ที่สุด ก็ถือว่าสุดยอดที่สุดแล้ว

เอาเครื่้องดีเซล ใช้น้ำมันเบนซิน ได้ไหมครับ ?
ถ้าเครื่องดีเซลใช้น้ำมันเบนซินได้ Output เท่ากับน้ำมันดีเซลไหมครับ?

ถ้าทำได้จริง ยกเลิกเครื่อง Spark Engine แบบที่เราเีรียกว่า้เครื่อง เบนซินไปเลยดีกว่าครับ
ใช้เครื่องดีเซลกับน้ำมันเบนฺซิน แก๊ส LPG CNG เลยดีกว่า

น้ำมันหาง่าย ราคาถูก เราจะไปทนขุด กลั่นน้ำมันดีเซลทำไม หายาก ใช้พลังงานกลั่นเ้ยอะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ดีเซล กับ LPG CNG ส่วนตัวผมก็คิดว่า "ได้ไม่คุ้มเสีย" เหมือนกันนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       ก่อนอื่นต้องขอโทษ หากไม่สมควรอย่างไร โปรดลบออกนะครับ

อ่าน คห 7 8 จริงๆ ก็มีคำถามต่อ แต่เอาละ ไม่เป็นไร สรุป ว่าทำได้

แต่พอ คห 10 11 และคุณ Auto " ได้ไม่คุ้มเสีย "

อยากจะเอาไปต่อยอดครับ

สรุปง่ายให้ได้ความ คือ เอา NGV มาจุดให้ระเบิดด้วยโซล่าแล้วทำให้ได้ความแรงแบบ ดีเซล

ผมอยากเอามาต่อยอดด้วยการถอดปั๊ม คอมมอนเรลขาย แล้วมาพัฒนา ระบบไฟให้ได้ไฟแรงๆกว่าเดิม ให้แทน การจุดด้วยดีเซล จะได้ตัดปัญหา ประหยัดโซล่า 100% ไปเลย
ถอด เทอร์โบขายอีก เพราะ แรงอัด 17 กว่าๆ น่าจะไม่ต้องใช้เทอร์โบช่วยอีก และหากเอาดีเซลสมัยเก่า แรงอัด 21-22
ผมว่าถอดเทอร์โบดีกว่า และ รังผึ้ง อินเตอร์ เอาออก

เผลอๆ ได้ติด NGV ฟรี

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       เรื่องความทนทานและกำลังเครื่องยนต์ที่ได้ ยังไงก็ไม่มีทางเหมือนเดิมแน่นอนสำหรับดีเซล
เป็นเรื่องที่ได้ไม่ค่อยคุ้มเสีย ถ้ามีทางออกใช้ Hilux 2.7 ดีกว่าเยอะ

แต่ถ้าไม่มีทางออกจริง ๆ ยังไงก้ต้องทำสำหรับรถดีเซล
เราจะเห็นว่ารถเมล์ รถบรรทุกหลาย ๆ คันเปลี่ยนมาใช้ NGV หมดแล้ว
ปัญหาเรื่องความทนทานของเครื่องยนต์ การซ่อมเครื่องยนต์มีมากขึ้น
แต่สิ่งที่ได้คือ จากเดิมจ่ายค่าน้ำมันกิโลล่ะ 10 บาท แต่เหลือเพียงกิโล่ะ 2.5-3.0 บาท
รถเมล์ ขสมก. ที่เป็นรถร่วมทุกคันยอมใช้ NGV หมดครับ
เพราะคุ้มค่ามากกับสิ่งที่ไดรับ กำไรเห็น ๆ ช่วงน้ำมันขึ้นราคาก็เอามาต่อรองค่าโดยสารได้อีก
แบบนี้จึงเรียกว่าทำได้ครับสำหรับดีเซล

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       ขอแสดงความเห็นเพิ่มเติม คห. 7-8 หน่อยนะครับ

1. "เครื่องเบนซินหรือเครื่องดีเซลแปลงใช้ก๊าซ 100% จำเป็นต้องลดกำลังอัด เนื่องจากถ้าให้กำลังอัดกับเครื่องยนต์มากๆ หัวเทียนจะไม่สามารถที่จะจุดระเบิดได้ เพราะกำลังไฟไม่พอ"


กำลังอัดของเครื่องเบนซิน มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับ Spark plug หรือหัวเทียนเลยครับ แต่มันเกี่ยวกับคุณสมบัติของเชื้อเพลิงโดยตรงครับ เชื้อเพลิงเบา จำพวก Gasoline LPG CNG มันทนแรงอัดมากไม่ได้ มันจะ "Knocking" หรือชิงจุดระเบิด หรือช่างบ้านเราเรียกว่า เขก ซึ่งการทนกำลังอัดมันจะขึ้นอยู่กับ ค่า อ๊อกเทนที่ใช้ครับ ถ้าค่าอ๊อกเทนสูงมาก จะทนได้ดี แต่ราคาต้นทุนมันจะแพง

มันพิจารณาไม่เหมือนกันครับ spark engine compression engine ถ้าคุณ bigdrum ทำธุระกิจเรื่องพวกนี้ ถ้าจะตอบคำถามลูกค้า ก็น่าจะดูมาให้ดี ๆ ก่อนครับ

2. "เครื่องดีเซลมีความทนทานมากกว่าเครื่องเบนซินมาก"

ตรงนี้ต้องกลับไปดูธรรมชาติของเชื้อเพลิงอีกครับ

เครื่องดีเซลจำต้องทำให้เครื่องแข็งแรง เพื่อรับกำลังอัดได้สูง ๆ เหล็กหนักและหนา กำลังจากการเผาไหม้ที่ได้ รุนเรง
และหนักหน่วง ด้วยคุณสมบัติ ของน้ำมันดีเซล ทำให้ได้รับแรงบิดที่สูงมาก ก็เลยได้พลังงานมาก โดยที่ไม่ต้องทำรอบให้สูง
ลดการเคลื่อนที่เร็ว ๆ ไปได้เยอะ ก็อาจจะทนขึ้นเป็นธรรมดา

เทียบกับ Spark engine ถึงแม้จะทำให้แข็งแรงได้ แต่แรงถีบของการเผาไหม้มันไม่ได้เยอะมาก ผู้ผลิตเลยไม่รู้จะทำ
Over spec ไปเพื่ออะไร เพราะคำสรรเสริญ หรือ เอากำไรเยอะไม่ดีกว่าหรือ เอาเงินต้นทุนไปทำให้รอบจัด ๆ
แรงม้าเยอะ เพื่อไปใช้กับรถนั่งดีกว่า ขายได้เยอะกว่า

แต่ถ้าต้องทำเครื่อง Spark engine เพื่อให้ทนใช้งานบรรทุก ก็ทำได้นี้ครับ เพิ่มความคงทนเข้าไปอีก
แต่มันจะแพงขึ้น และไม่รู้จำทำเพื่ออะไร ซึ่งมันไม่ได้มีกฎข้อไหนบอก ว่าเครื่อง Spark engine
จะทำให้ทนไม่ได้นี่ครับ เครื่องดีเซล จะทนก็กว่าแค่ชิ้นส่วนพวกกำลัง
อัด ระบบไฟฟ้า มันก็คือ ระบบเดียวกับกับ เบนซินใช้นี่ครับ

Airflow
Mapsensor
Throttle sensor
Paddal sensor
Intake airtemp.

Injectors

อื่น ๆ อีกมากมาย มันก็เทคโนโลยีเดียวกัน ไม่ต่างกัน ดังนั้นคามทนทาน ก็เหมือน ๆ กัน
เครื่องดีเซล ที่แปลงใช้ก๊าช 100 % มันก็คือเครื่อง Spark engine ครับ
ไม่ต้องโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น จะต้องลงแรงอัด ผังหัวเทียนระบบจุดระเบิด (ยังต้องมีโปรแกรมที่ฉลาด ๆ ปรับองศาจุดได้อีก)
ลดน้ำหนักตัวลง เพื่อทำรอบให้สูง ๆ ไม่งั้นไม่ได้งาน

ผมอย่างถามว่า

ลดน้ำหนัก เพื่อให้ทำรอบหรือยัง?
เพึ่มความทนทานของชิ้นส่วน ต่อการทำรอบที่ต้องมากขึ้นหรือยัง?
ระบบระบายความร้อน ที่ร่องหัวเทียน ทำหรือยัง?
ระบบเกียร์ทดใหม่หรือยัง เพราะรอบเยอะขึ้น ?

ทั้งหมดเหล่านี้มีอยู่ใน Spark engine ของแท้กับ 2TR-FE อยู่แล้ว
จะไปแปลงดีเซลใช้แก๊ส เพื่ออะไรกันครับ?


เราใช้งานรถกันอย่างไร เชื้อเพลิงที่เรามีเป็นอย่างไร

ใช้งานเครื่อง + เชื้อเพลิงให้เหมาะสมดีกว่าครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       คุณ bigdrum ครับ อยากให้คุณเข้าใจ คุณสมบัติของเชื้อเพลิงแต่ละชนิดให้ดีก่อนครับ
จริง ๆ ทางวิศวกรรมเครื่องยนต์ หรืออะไรก็ตามแต่ที่เกี่ยวกับรถยนต์ มันไม่ได้มีพรมแดน ระหว่างเครื่องเครื่องยนต์
เบนซิน หรือดีเซล เลย มันอยู่ที่ตัวเชื้อเพลิง ที่มนุษย์ ยังสังเคราะห์เองด้วยราคาถูก ๆ ไม่ได้ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       ผมขอสนับสนุน คห ที่ 8 ตรง " 1. เครื่องดีเซลให้ประสิทธิภาพสูงกว่าเครื่องเบนซินมาก " ไม่ไช่เพราะชนิดของเชื้อเพลิงแต่เป็นไปตามกฏของเทอร์โมไดนามิคครับ แถม CO2 น้อยด้วย (ลดโลกร้อน) อิๆ มีหลักฐานครับ อ่านหัวข้อ Advantages and disadvantages versus spark-ignition engines Power and fuel economy ที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Diesel_engine

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       พอดีผ่านมาแวะชมก็เลยเห็นรูปที่ผมเคยลงไว้ที่ web อื่น
ก็ขอบคุณนะครับที่สนใจนำมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
อ่านกระทู้แล้วเห็นหลายท่านน่าจะเป็นนักวิชาการ โต้กันไปโต้กันมา ดีครับ ประชาธิปไตย
ได้ความรู้คนละเล็กคนละน้อย แต่คนไทยต้องสามัคคีกัน เป็นการให้ความคิดเห็นกันดีกว่า
มันต่างจิตต่างใจแล้วแต่คนชอบ บางคนชอบโตโยต้าก็ใช้โตโยต้า บางคนชอบอีซูซุก็ใช้อีซูซุ
บางคนชอบใช้รถเบนซินก็ใช้รถเบนซิน บางคนชอบรถดีเซลก็ใช้รถดีเซล ก็ไม่เห็นแปลก
แต่ถ้าสนใจใช้เชื้อเพลิงทางเลือก ก็ใช้ไป จะเอารถเบนซินไปติด LPG หรือ NGV ก็แล้วแต่ชอบ
ส่วนคนใช้รถดีเซลอยู่แล้ว ก็มีทางเลือกแล้ว สำหรับรถ Commonrail ก็ให้ความประหยัดสูงคุ้มค่าเหมือนกัน
สำหรับคนที่รักอะไรเดิมๆ "ไม่แปลง ไม่เปลี่ยน"

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       ไม่ได้อ่านแป๊บเดียว กระทู้ยาวขึ้นเยอะ

แต่หากที่อ่านสรุปแล้วเข้าทางสุดผมยกให้ คห.14 ของคุณ Tong KKT

เพราะเครื่องยนต์แต่ละเครื่องเค้าออกแบบมาให้รองรับเชื้อเพลิงนั้นๆ หากต้องการปรับเปลี่ยนเชื้อเพลิงมันก็ต้องเปลี่ยน หรือปรับปรุงรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ตามไปด้วยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       ขอบคุณทุกคำตอบ เชิญต่อครับความรู้ดีจังครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       ตอบ คห. 16

ในหัวข้อ Advantages and disadvantages versus spark-ignition engines Power and fuel economy
เราก็พูดเปรียบเทียบเฉพาะ ข้อดีัของ เครื่องดีเซล ที่เหนือกว่าเครื่อง เบนซิน ซึ่งก็บอก ว่ามันเป็นเพราะ คุณสมบัติขอตัวเชื้อเพลิงเอง

ชื่อของเชื้อเพลิงเอง มันระบบ คุณสมบัติมันไว้อยู่แล้วครับ ตามจุดที่ได้จากการกลั่นและค่าทางเคมีต่าง ๆ
น้ำมันเบนซิน กับดีเซลมันก็มาจากน้ำมันดิบเดียวกัน เพียงแต่กลั่นออกมาคนล่ะ จุดกัน

ถ้าจะบอกว่า ข้อดีของเครื่ืองดีเซล อยู่ที่ตัวเครื่องเอง ที่เป็นแบบ Compression engine
ด้วยความเคารพ พูดกันตามหลัก คุณ pickup ลองเอาน้ำมันเบนซินไปใช้กับเครื่องดีเซล ดูหน่อยสิครับ ว่าผลมันจะเป็นยังไง มันยังจะเหลือขอดีของเครื่องบนต์ดีเซลอยู่ไหม?

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       ทุกวันนี้ ทุกค่ายมองข้ามเครื่องยนต์ที่ใช้เชื่อเพลง ฟอสซิลไปแล้วครับ เพราะซักวันหนึ่งจะต้องหมดลง
และ เราก็ยังลดมลพิษมัน และจัดการได้ไม่เต็มที่นัก ถึงดีเซลจะดียังไง มันก็มีการสูญเสียทิ้ง ๆ ไปกับยความร้อนมาก
กว่าที่ตัวเครื่องยนต์มันทำออกมาที่ล้อได้

วิ่ง ๆ ไปก็คายความร้อนออกมาด้วย ก๊าซพิษ ก็ปล่อยออกไปตลอดทาง ทราบไปครับว่า 50 กว่าปีมานี้ที่นรถยนต์วิ่งไปเมืองไทย มันทำลายอากาศของเราไป อย่างมหาศาล แบบที่ยากที่จะกลับมาเหมือนเดิมได้อีก เราจะปล่อยมันไปแบบนี้หรือครับ ?

บอกตามตรงผมเห็น Diesel common rail ทำกล่อง ECU เปลี่ยนเทอร์โบ ไล่กวดกับ รถเก๋งเล็ก เครื่องเบนซิน 1500 CC N/A ควันดำไปตลอดทาง ผมสงสาร ลูกหลานของเราในอนาคต เรากำลังยืมอากาศเขาหายใจอยู่

แน้วโน้มต่อไปของเครื่องยนต์ จะเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าครับ ที่จะเอามาใช้แทนเครื่องยนต์ลูกสูบ
มอร์เตอร์พัฒนาไปไกลแล้ว รอเพียงระบบเก็บไฟฟ้า หรือแบตเตอรรี่ ทำยังไงจะเก็บไฟได้เยอะ
ใช้ได้นาน ชาร์จได้ไว น้ำหนักเบา หรือเราอาจจะพัฒนา กล่องสำหรับจ่ายไฟ โดยใช้สารเคมีน้อยนิด ไม่มีอัตราย และ
มลพิษ ใช้แทนแบตเตอรี่ แต่แหล่งสร้างพลังงาน เพื่อใช้ในระบบนี้ อาจจะเป็นโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ แบบสะอาด

รถไฮบริด ที่ขายอยู่ทุกวันนี้ ก็เป็นวิวัฒนนาการที่กำลังจะเดินไปอยู่ ซึ่ง เครื่องยนต์เบนซิน เท่านั่้นที่ถูกเลือกให้ทำงานกับ มอเตอร์ไฟฟ้าไปพลาง ๆ ก่อน แล้วเขาลืมเครื่องดีเซล เก็บไว้เป็นอดีตไปเรียบร้อยแล้วครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       มีรถบรรทุก HINO ในยุคปัจจุบันโฆษณาออกมาว่า ใช้ NGV
ตัวเครื่องยนต์เป็น NGV แท้ ๆ
ไม่เห็นโฆษณาว่า ดีเซล เชื้อเพลิงร่วม NGV แต่อย่างใด


สมัยนี้ถ้าอยากประหยัดก็ต้องลืมเรื่องดีเซลไป รถเชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่ก็หันหนีออกจากเครื่องดีเซลกันหมดแล้ว มีแต่ปิคอัพในบ้านเราที่ยังนิยมดีเซลกันอยู่เกิน 90%
ประเทศที่นิยมใช้รถดีเซลก็คือในยุโรป ที่นิยมใช้กับเก๋งเล็ก ๆ เครื่องไม่ใหญ่โตนัก
ละแวกบ้าเนราก็เป็นพวกพม่า ลาว กัมพูชา ที่ยังนิยมดีเซล ส่วนเวียดนามกับจีนที่เห็นมาเขาก็นิยมเบนซินมากกว่า
ถ้าในอเมริกาสัดส่วนเครื่องดีเซลก็เพิ่มมากขึ้น แต่อย่าลืมว่าอเมริกาใช้เครื่องยนต์เบนซินที่ใหญ่โตมโหฬารเอาการเมื่อน้ำมันแพงมากในรอบหลายปีมานี้จึงมาเริ่มอยากประหยัด





 แก้ไขเมื่อ : 22/1/2553 11:23:58

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 23
       ขอพาดพิงกลับไปที่ ปตท. และรัฐบาล

สมัยซัก 20 กว่าปีก่อน มีดร.ท่านนึงที่ได้รับทุนและค้นคว้าร่วมกับ ปตท. ในการทำรถเมล์ใช้ แก๊ส LPG ตอนนั้นมีการคิดกันว่าเป็นเชื้อเพลิงที่สะอาดและราคาถูกสามารถลดการนำเข้าเชื้อเพลิงน้ำมันได้ แต่ว่าสุดท้ายก็ไม่ได้ทำโครงการกันต่อเนื่องจากผลประโยชน์คือเรื่องสำคัญอีกอย่างเวลานั้นน้ำมันยังไม่แพงมากไม่มีใครตื่นกลัว
เราจะเห็นว่าการนำเครื่องยนต์มาใช้สำหรับรถบบรทุก รถโดยสารเป็นสิ่งที่มีมานานแล้วและสามารถทำได้ เกาหลีใต้เป็นอีกประเทศนึงที่ทำชุดแก๊สสำหรับเครื่องยนต์ในรถบรรทุกโดยสารเพื่อลดการนำเข้าน้ำมัน
เครื่องยนต์เบนซินหรือเครื่องยนต์สำหรับการใช้ก๊าซซธรรมชาติสำหรับรถบรรทุกก็มีมานานแล้วเช่นกัน ขสมกก็นำรถใช้ก๊าซ NGV มาใช้ตั้ง 10 กว่าปีมาแล้ว
มันอยู่ที่เรายอมรับที่จะละทิ้งเครื่องดีเซลไปหรือไม่ หรือยังฝั่งใจกับดีเซลอยู่ พยายามหาทางที่จะติดแก๊สกับเครื่องดีเซลให้ได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 24
       หายไปหลายวัน กระทู้ตอบกันแยะ

ต้องขอบคุณทุกท่าน



ไม่ทราบว่าจะขอ ออกความเห็นเพิ่มเติม

หากย้อนไป 10 ปีก่อนคงจะไม่มีคำถาม ว่า 2.7 เบนซิล สู้ ดีเซล 5L 3000cc หรือ isizu Dmax 3000cc ตัวแรก ได้ไหม

เรื่องเครื่อง เบนซิน ประสิทธิภาพ หากจะสู้กันน่าจะเอา รุ่นเดียวกันมาเปรียบ
เบนซิน ไม่มีเทอร์โบ ต้องสู้กับ ดีเซลไม่มีเทอร์โบ ด้วยกัน คือเอาธรรมชาติ ของเครื่องยนต์แท้ๆ
เบนซินเทอร์โบ แท้ๆจากโรงงานก็มี แต่เขาทำมาเฉพาะ เท่านั้น พวกรถแข่งต่างๆ

เครื่องยนต์เบนซิน ติดเทอร์โบได้ครับ ทำแบบ แปรผันก็ได้ แบบดีเซล ทางที่ดีกว่าก็คือการเพิ่ม CC ให้เครื่องใหญ่ขึ้น จะได้ ทุกสิ่ง คล้ายเทอร์โบ แต่น้ำหนักเบา จะเห็นว่า บางทีรถเก๋งเล็กๆ วางเบ็นซิน 5-6 พัน ซีซี ก็มี

ต่างกับดีเซล จุดประสงค์ การสร้างคอมมอนเรล เพื่อลดมลภาวะ ดีเซลจริงๆแล้วหากใช้เครื่องที่ใหญ่ขึ้นก็ลดมลภาวะได้เพราะ รอบจะต่ำลง เครื่องเล็กๆต้องลากรอบสูง ควันดำจะเกิดที่รอบสูงๆ ทีนี้ลองคิดดู หากจะวิ่งความเร็ว 100 กม/ชม ที่ความเร็วรอบ 2000 รอบ หากดีเซลเดิมๆจะต้องใช้ เครื่อง 4-5พัน กว่า ซีซี น้ำหนักเครื่องจะขนาดไหน เบรคแรงๆหัวทิ่มกันพอดี

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 25
       เรื่องเบนซิน ร้อนกว่าดีเซล คงเข้าใจคลาด จากความรู้สึก

ก่อนอื่น ให้ไปดู รถฮอนด้า ดรีม ก่อนว่า ขี่กันในกรุงเทพ ตอนเที่ยงๆ ติดไฟแดง เร่งหนี รถ ขสมก บิดจนเกลี้ยง ทำไม ครีบระบายความร้อนจึงไม่ใส่เยอะๆ หรือว่า วิศวะ ลืมไป


เข้าเรื่องดีกว่า ธรรมชาติของเครื่องเบนซินจะร้อนน้อยกว่าดีเซลมาก แต่ ขอย้ำ อีกทีว่า เขาต้องการให้ร้อน เพื่อให้อุณหภูมิน้ำมันสูงเพื่อจะได้ไวไฟที่สุด
หากจะเอาระบบอุ่นน้ำมันในท่อส่งเบนซินก็ไม่ได้เพราะจุดเดือดต่ำกว่าน้ำ คือต่ำกว่า 100 องศา่ จะทำให้เดือดและเป็นฟองอากาศ จึงได้ควบคุมห้องเผาไหม้ให้อุณหภูมิสูงๆเข้าไว้
สมัยก่อนตอนเป็นรถคาร์บู เขาก็จะต้องเอาคาร์บูติดไว้ใกล้เครื่อง หรือ ท่อไอเสีย เพื่ออุ่นน้ำมันให้ร้อน

ยามรถติดไฟแดง รอบ 700รอบ พอไฟเขียว กดพรวด 6000รอบ ก็ยังสบายๆ ใช่ไหม
ทางกลับกัน รถเบนซิน ติดเครื่องปุ๊บ ยังไม่ร้อน กดให้ตายก็ไม่ปู๊ด


ต่างกับดีเซลร้อนจัดต้องรีบเอาออกให้เร็วที่สุด ออกให้มากเท่าไรยิ่งดี เพราะ ลำพังกำลังอัดจากอากาศที่อุณหภูมิปรกติก็พอที่จะจุดระเบิดได้พอ ไม่มีความจำเป็นต้องให้เกิดความร้อนสะสม ซึ่งมีแต่ผลเสีย
คือ ณ อุณหภูมิปรกติ ลูกสูบวิ่งถึงศูนย์ตายบน ก็ร้อนพอที่จะจุดระเบิด น้ำมัน
หากอุณหภูมิสูงขึ้น ลูกสูบวิ่งขึ้นยังไม่ถึงหัวสูบเลย ร้อนจัดเกินไป น้ำมันเลยชิงจุดก่อน เรียกว่าเครื่องน็อค



จะสังเกตุ ดีเซล มักจะบอกว่าร้อนแล้วแรงตก คนขับจะชลอ เป็นการถนอมเครื่อง
แต่เบนซิน ยิ่งร้อนยิ่งวิ่ง บางคน ยิ่งร้อน ยิ่งวิ่งดี เหยียบคันเร่งมากๆ พังๆๆๆๆๆ

สุดท้ายจะบอกว่า เบนซิน ผสมน้ำไม่เป็นไร ดีเซลแค่ละอองนิดเดียว ==> พัง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 26
       ไปธุระซะหลายวันเพิ่งเข้าเน็ต ขอบคุณทุกคำตอบครับ แล้วพวกรถบรรทุกพวกหัวลากต่างหรือเหมือนกับรถกระบะอย่างไร ประหยัดกี่%ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 27
       รถบรรทุกอัตราทดจะมากแรงบิดจะมากในรอบต่ำครับ เพราะต้องเอาไว้ใช้งานบรรทุกหนักเป็นหลัก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 28
       กระทู้นี้ตั้งแต่ปี53 พอดีผ่านมาเลย อยากแนะนำ ผมเคยติดระบบที่คุณติพูดถึงกับรถตู้คันแรกเมื่อกลางปี 52 หลังติดวิ่งไปอีกกว่า 500000 โล และเมื่อ2เดือนที่แล้วคันที่2ครับ ระบบนี้ทำความประหยัดให้ได้ประมาณ ครึ่งหนึ่งของค่าใช้จ่าย เครื่องไม่ร้อนครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 29
       เขียนผิดครับคันแรกคือตู้ปี๊บติดกลางปี 51ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย