คำตอบที่ 1
       ข้อ 1 ดีเซลเมื่อ 10 ปีที่แล้ว(ก่อนเริ่มควบคุมด้วยไฟฟ้า) ทนจริงๆต้องยอมรับ แต่เมื่อเป็นคอมม่อนเรียวแล้วไม่ทนเท่าที่ควร คือไม่ต่างจากเบนซิน
ข้อ 2 ผมไม่เคยใช้ นมค ดีๆสักครั้ง ถ่ายทุก 5,000 กม
ข้อ 3 แล้วแต่เจ้าของรถจ้า
ข้อ 4 หากเทียบกันที่ประสิทธิภาพทางความร้อน ดีเซลกินขาดแน่นอน ย่อมประหยัดกว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ว่าใช้ LPG หรือ CNG ไม่ได้
ข้อ 5 สำหรับ 1.5 ตันแล้ว 160 HP เกินการใช้งานแล้ว สมัยก่อนแค่ 80 HP เอง
ตอบให้ได้เท่านี้ครับผม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       เข้ามาฮา

มันคงเป็นเรื่องของความเชื่อเดิมๆ กับค่านิยมมั๊ง
เกทับกันไปมา

ต่างกรรม ต่างวาระครับ
ลองน้ำมันลิตรละ 10 บาทซิ ผมอาจจะไม่สน 2.7 ก็ได้
แต่พอได้ใช้แล้ว ทำให้รู้ว่า มันมีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะ

แต่ก็อย่างว่า อะไรก็ไม่แน่ไม่นอน
มีให้เลือก ก็ดีแล้วครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ไม่ว่า จะเป็น เชื้อเพลิง ชนิดไหน เบนซิน หรือ ดีเซล LPG, CNG มันก็มีข้อดี ข้อเสีย ข้อเด่น ข้อด้อย ของตัวมัน
One size does not fit all !

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ก็เค้าว่าประหยัดน้ำมันกว่าในแง่การใช้น้ำมัน(ไม่รวมแก้สนะครับ)
แรงบิดดีกว่าอันนี้คนที่ได้ใช้เค้าก็ว่าดีนะครับตามท้องสวนไร่นาอาจได้เห็นความสำคัญยิ่งต้องบรรทุกหนักแล้วด้วย
อันนี้สนับสนุน

ผมเลือกใช้เบนซินก็คงเป็นเพราะมันเหมาะกับการใช้งานของเรามากกว่าบางสิ่งที่ดีกว่าแต่เราไม่ได้ใช้ส่วนนั้นมันก็ไม่
เกิดประโยชน์กับเราแต่กับคนที่เค้าต้องการใช้เช่นแรงบิด ระบบเกียร์ มันก็จะเกิดประโยชน์กับเค้าครับ

คุยกับพี่ชายที่ต้องอยู่ในไร่อ้อยต้องบรรทุกของหนักเป็นประจำ ถนนที่ใช้ก็ต้องเป็นลูกรังเค้าก็บอกว่าเค้าจำเป็นต้องใช้
แต่กับผมซึ่งมีอาชีพค้าขายไม่จำเป็นต้องใช้ในส่วนนั้น
ที่มีในเครื่องเบนซินให้มาก็พอใช้แล้วครับ

เลือกให้เหมาะกับการใช้งานดีที่สุดครับไม่ต้องเผื่อเยอะครับไม่ได้ใช้แล้วเสียของครับ

ต่างกรรมต่างวาระ ถูกต้องแล้วครับ

 แก้ไขเมื่อ : 24/5/2553 12:13:16

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       1.ดีเซลสมัยก่อนทนจริงครับ(ส่วนตัวเคยใช้อีซูสุมังกรทอง วิ่งบรรทุก2ตันตลอด8ปี ไมล์400,000โล) แต่สมัยนี้ไม่แน่ใจ เพราะได้ยินข่าวพังกันเยอะ
2.น้ำมันเครื่องเคยใช้ทั้ง5000 และ 10000โล แล้วแต่ลักษณะการใช้งานมากกว่าถ้าใช้งานหนักเปลี่ยนบ่อยๆดีกว่าเพิ่มอายุการใช้งานของเครื่องด้วย
3.จากประสบการณ์การณ์อันน้อยนิดทางด้านออฟโรด ถ้ารถตกหล่มหรือขึ้นเนินชันที่มีแต่โคลนเครื่องยนต์ที่มีแรงบิดและทนอึดอย่างดีเซลจะได้เปรียบกว่า แต่ทุกอย่างอยู่ฝีมือคนขับด้วย และหลังจากการออกทริปต้องมีซ่อมบำรุงซึ่งผมคิดว่าเครื่องเบนซินจะต้องการการดูแลมากกว่า เพิ่มเติม 2.7 ขึ้นเขาค้อชิวๆเลยเพราะไปมาแล้ว
4.ถ้าน้ำมันดีเซลลิตรละไม่เกิน20 บาทผมคงไม่ได้ขาย ไทเกอร์ d4d3000 แล้วมาขับ 2.7 ติดLPG หรอกครับ( ตอนขายรถน้ำมันดีเซลลิตรละ 43 บาท ค่านำมันเดือนละไม่ต่ำกว่า20000 บาท เลยต้องตัดใจขายรถ ) สภาวะแบบนี้ถ้าประหยัดได้ก็ต้องทำ
5.เครื่องเบนซินต้องพิสูจน์การใช้งานหนักอีกมาก เช่นถ้าวิ่งใช้งานหนักนานๆเช่น สองแสนสามแสนโลต้องซ่อมอะไรบ้าง เครื่องจะสึกหลอแค่ไหน เกียร์อัตโนมัติอีกล่ะจะมีผลยังไงเมื่อใช้งานหนักเป็นเวลานาน
แต่ปัจจุบันที่ผมมีความสุขที่สุดคือเงินในกระเป๋าเหลือเยอะขึ้นหลังจากที่เติมแก๊สลิตรละ11 บาท

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       ตั้งแต่ข้อ 1-5 ไม่มีขัดข้องแต่ประการใด

มีไม่พอใจข้อ 3 อย่างเดียว เพราะไม่ได้ไปร่วมทริปเกาะสะเดิ่งด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       1.ทั้งเครื่องดีเซล และเครื่องเบนซิน มีจุดด้อย และจุดเด่นแตกต่างกันไป ถามว่าอะไรทนกว่ากัน ตอบยากครับ อย่างในเครื่องเบนซิน ต้องดูแลระบบไฟฟ้า เพิ่มขึ้นมา (ระบบจุดระเบิด) ดีเซลไม่ต้อง แต่เครื่องดีเซล ณ.ปัจจุบัน ปั๊มเชื้อเพลิงแรงดันสูง หัวฉีด และท่อ ซีลๆ ต่างๆ ก็ต้องรับภาระเพิ่มขึ้น แต่เครื่องยนต์เบนซิน ไม่มีปัญหาในเรื่องนี้
สรุป ถึงเวลาซ่อม ก็ต้องซ่อมด้วยกันทั้งคู่ครับ แต่จะเสียกันไป คนละแบบ

2.เรื่องน้ำมันเครื่อง สั้นๆ ได้ใจความ "ของดีราคาถูกไม่มีครับ" มีแต่ ของที่เหมาะสมกับเราที่สุด เช่น (สมมตินะครับ) เรามีงบพอที่จะซื้อ รถยุโรป ซึ่งก็ดีที่สุดสำหรับเราและเราเห็นว่าดี เหมาะ สมควร ก็ซื้อรถยุโรปไปครับ แต่ขณะนี้ ผมเห็นว่า เหมาะสมกับ Vigo 2.7 ผมจึงซื้อรถคันนี้มา ซึ่งคนเรา คำว่าดีที่สุด มันไม่เท่ากันทุกคนครับ เราจึงควรเลือก สิ่งที่เหมาะสมกับเรา และรถเราครับ
สรุป น้ำมันเครื่องดี มันก็ปกป้องดี ถ้าซื้อของที่ด้อยกว่าความปกป้องก็ด้อยลดหลั่นกันไปเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งก็ต้องเลือกให้สอดคล้องกับเงินที่เราจ่ายครับ ว่าเราจ่ายได้ระดับไหน อันไหนเราเห็นว่าดี ก็จ่ายไปครับ

3.เรื่องลุย ออฟโรด ในเมื่อเครื่องยนต์ 2TR-FE ตัวนี้ มีแรงม้า-แรงบิด ที่สูงเพียงพอ ระดับนี้แล้ว ไฉนมันจะเอาไปลุย ออฟโรดไม่ได้
สรุป อยู่ที่คนขับ ว่าจะพามันไปไหนครับ รถมันพาเราไปได้ทุกที่ ที่มีทาง

4.เรื่องดีเซล ประหยัดกว่า เครื่องเบนซิน หากเทียบ ในสภาวะเดียวกัน เช่น CC เท่ากัน มี เทอโบชาร์จ เหมือนกัน จะเห็นชัดเลยครับ ว่า ดีเซล กินน้อยกว่า ซึ่งมันมีสภาวะประกอบหลายอย่างครับ เช่น ในเรื่องการจุดระเบิด และรอบเครื่องยนต์ ซึ่ง ดีเซลเป็นไดเรกอินเจคชั่นแล้ว สภาวะส่วนใหญ่ของเครื่องยนต์ดีเซลจะสั่งจุดระเบิดให้ Lean Burn ได้ แต่ในขณะที่เครื่องยนต์เบนซิน เป็นหัวฉีดแต่ฉีดหลังวาล์ว หรือหากเป็นรุ่นที่ไดเรกอินเจคชั่นแล้ว ก็จะฉีดเชื้อเพลิงในขณะที่ เครื่องยนต์อยู่ในช่วง ดูด ไม่ได้อยู่ในช่วง ระเบิด (Power) ซึ่งสภาวะส่วนใหญ่ในเครื่องยนต์เบนซินจะอยู่ในช่วง Rich Burn จะมีช่วง Eco น้อยมาก ทำให้เครื่องยนต์เบนซิน เสียเปรียบมาก เพราะเครื่องยนต์ดีเซลนั้น ECU จะมีเวลาคำนวณได้จนถึงช่วงระเบิด แล้วจึงฉีดเชื้อเพลิงออกไปให้เหมาะสม และน้อยที่สุดที่จะทำให้เครื่องยนต์จุดระเบิดได้ และรอบเครื่องยนต์ดีเซลก็ต่ำกว่าเครื่องยนต์เบนซิน เช่น Redline เบนซิน 6000 รอบ/นาที แต่ดีเซล 4000รอบ/นาที
สรุป จากเหตผลข้างต้น จึงทำให้เครื่องยนต์ดีเซลกินเชื้อเพลิงน้อยกว่าเครื่องยนต์เบนซินครับ

5.คล้ายๆ กับข้อ 3 ครับ หากเจ้าของไม่เอาไปบรรทุก ก็จะบอกว่าบรรทุกไม่ได้ แต่หากเจ้าของนำไปบรรทุก มันก็สามารถบรรทุกได้ครับ ซึ่งเครื่องยนต์ ตัวนี้ผลิตมาเพื่อกระบะเพื่อการพานิชณ์ และ รถยนต์อเนกประสงค์ SUV อยู่แล้ว แรงบิดจึงเหมาะกับการนำมาบรรทุกครับ แต่หกนำไปเทียบกับดีเซล ก็เสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัดในช่วง "ออกตัว" เท่านั้นครับ
สรุป ใช้บรรทุกได้ครับ ไม่มีปัญหา เพราะยังไงมันก็วิ่งได้ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ทุกท่านที่กล่าวมาผมเห็นด้วยหมดแหละครับ เพราะแต่ละคนมีเหตุผลต่างๆ นาๆ อยู่ที่ความพอใจขอคนใช้ครับ ผมใช้ Vigo 2.7 Vvti Smart Cab มาปีกว่า (ตอนแรกไม่ได้เลือกรุ่นนี้ แต่เมียบังคับ) รู้สึกพอใจมากๆๆๆ และต้องขอบคุณเมียที่บังคับให้เลือกรุ่นนี้ โอกาสไหนที่ใช้รถคันนี้ไปเที่ยวหรือออกงาน มีความรู้สึกว่าเหมือนผมขับ Fortunner แต่ถึงเวลาที่ใช้บรรทุก ผมก็มีรถบรรทุกดีๆ ใช้ 2 In 1 แถมเลือกได้ทั้งน้ำมันและแก็ส แล้วแบบนี้ใครจะว่าไม่ดีครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       จากคำตอบที่8 ผมก็คล้ายๆกันครับ
แต่ต่างตรงที่ผมเลือกเองครับคุณเมียไม่เกี่ยว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       เห็นด้วยกับคุณ fOnGSteR อย่างแร๊งงงง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       คนอื่นตอบไปหมดแล้ว ตอนนี้ 2.7 ตอนเดียวไม่มีรถครับ ไม่รู้เพราะขายดีหรือทำออกมาน้อย ส่วนลดน้อย ของแถมน้อยต่างหาก ผมจองไปได้รถวันที่ 10 เดือนหน้า ก่อนเล่นเบนซินก็ใช้ดีเซลมาตลอด แต่ตอนนี้ระบุเลยต้องเบนซิลเท่านั้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       คุณเอกเลือกใช้ 2.7 อีก ตัดสินใจเอาตัวนี้แล้วหรือครับ
แล้วไม่เลือกไทรทัน 2.4

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       เลือก 2.7 ครับ จองทำสัญญาเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มันมีตัวเลือกอยู่ 2 ตัวในใจ คือไทรตัน 2.4 ราคา 4 แสนถ้วน กับวีโก้ 2.7 ราคา 495000 บาท ทีแรกก็เอนๆไปทางไทรตั้นเหมือนกัน เพราะซื้อให้ลูกน้องขับ กะเอาราคาต่ำกว่าไว้ก่อน แต่จุดพลิกคือ เครื่องยนต์ผมมั่นใจมากกว่ากับ 2.7 vvt-i แถมเซลย์โตโยต้าโทรมาเสนอส่วนลด ของแถม และดอกเบี้ยที่ดีกว่าไทรตั้น สุดท้าย แม้นราคาซื้อต่างกันเป็นแสน แต่ราคาขายต่อที่ลดลงในมูลค่าตัวรถของ 2 ยี่ห้อ ต่างกันมากกว่าแสน คิดสรุปหักผลได้ผลเสีย 2.7 คุ้มกว่าเยอะ ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย