คำตอบที่ 1
       จะปรับเพิ่มภาษีป้ายทะเบียนรถยนต์ ที่ใช้แอลพีจี เป็นเชื้อเพลิง
รู้งี้ไม่แจ้งใช้แก๊สตอนจดทะเบียนดีกว่า

ต่อไปติดแก๊สก็ติดแบบซ่อนอุปกรณ์ไปเลย จะได้ไม่ต้องแจ้งใช้แก๊สและโดนเพิ่มภาษี

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       รัฐบาลควรหามาตรการอื่นในการทำครับไม่ใช่ทำแบบนี้


NGV ให้ลดราคาภาษีป้าย ส่งเสริมการใช้แบบผิดผิด
LPG เพิ่มราคาภาษีป้ายเพื่อควคุมการใช้

รถน้ำมันเสียภาษีอัตราปกติ

ดูแล้วไม่ยุติธรรมทั้ง 3 แบบ




ถ้าจะให้ยุติธรรมรัฐบาลต้องส่งเสริม LPG อนุญาตให้บริษํทรถยนต์ติด LPG มาจากโรงงานเลย แล้วเก็บภาษีตั้งแต่ป้ายแดง
ส่วน NGV ก็ต้องอุดหนุนต่อไป ด้วยการลดภาษี
ลอยตัวราคาดีเซล เต็มหน่วยแบบขั้นบันได สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ย้ำให้ชัดชัดว่าราคาดีเซลต้องแพงกว่าเบนซิน ตามหลักสากลของโลก

ลดราคาเบนซินที่เอาไปอุดหนุนภาระต่าง ๆ กองทุนต่าง ๆ กองทุนชดเชย สรรพสามิต รัฐบาลกล้าที่จะทำได้เปล่า
ราคาเบนซินหน้าโรงกลั่น 21-25 บาท รัฐบาลกล้าขายเบนซิน ราคานี้ได้หรือไม่
ยกเลิกแก๊สโซฮอล ทั้งหมดด้วย .เพราะไม่ควรเอา ราคาพืชพลการเกษตรมาอ้างอีก

ผมว่ารัฐบาลไม่กล้าลอยตัวดีเซลแน่ๆ......ประเทศไทยใครใช้เบนซินเป็นคนที่ทำบุญเยอะครับ.^_^ จาก : longloi(nhong23) 28/4/2554 15:44:19 [125.24.123.15]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       อ้าว แบบนี้แจ้งยกเลิกใช้แก๊สทีหลังได้ปะเนี่ย ไรว้า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ใช่รู้งี้ไม่ทำตามกติกาดีกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       จริงๆ ผมว่าอย่าอิจฉากันไป-มา แบบนี้เลยครับ เพราะก่อนหน้านี้ คนใช้เบนซินก็อิฉาคนใช้ดีเซล คนใช้ NGV ก็อิจฉาคนใช้ LPG...... อิจฉากันแล้วได้อะไรครับ ในเมื่ออันไหนขึ้น พวกที่ใช้ประเภทนั้นก็ซวย แล้วคนที่ซวยก็คนไทยด้วยกันทั้งนั้น......

จริงๆ แล้วผมไม่คิดเลยว่า รัฐบาลที่กล้าพูดว่าจะนำ ปตท. กลับมาเป็นของรัฐของชาติ จะกลับมาเล่นราคาเชื้อเพลิงเองแบบนี้มากกว่า จนอ่านข่าวเสร็จวันก่อน ผมยังไม่อยากเชื่อว่ารัฐบาลนี้จะกล้า......

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       ผมว่ารัฐบาลมัดปม นโยบาย ตัวเองไปเรื่อยๆ เหมือน ดินพอกหางหมูเลย สุดท้ายก็แล้วแต่จะคิดครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ผมมีความเห็น เช่นเดียวกันกับคุณ fOnGSteR นำ ปตท. กลับมาเป็นของรัฐเหมือนเดิม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       เมื่อเช้าฟังข่าวมา กรมขนส่งทางบกที่มีหน้าที่เก็บภาษีให้กลับไปทบทวนค่าภาษีของรถใช้แก๊ส LPG ใหม่หลังจากจะมีการเรียกเก็บปีล่ะ 37,000 บาท แต่กรมขนส่งเห็นว่าไม่เหมาะสมเป็นราคาที่สูงเกินไป ให้กลับไปทบทวนกันใหม่


ดูจากนโยบายแล้วคงจะไม่อยากให้ขึ้น LPG แต่ให้ชดเชยราคาแก๊สด้วย ภาษีป้ายจากผู้ใช้ LPG แทน
โดยราคาที่คิดมา 37,000 บาท / คัน ต่อปี นั้นคงเป็นราคาเหมารวม เอาไว้

ปั๊มแก๊สหนาวหนาวร้อน ๆ เตรียมตัวเจ๊ง ตามปั๊มน้ำมันได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       รัฐบาลเฮงซวย แม่งเอ๋ย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       ผมว่าเพื่อความยุติธรรมของทุกฝ่ายก็ปล่อยลอยตัวเป็นไปตามราคาตลาดโลกทุกอย่างเลยดีไหมครับ จะได้ยุติธรรมทุกภาคส่วน ทั้งภาคครัวเรือน ทั้งภาคอุตสาหกรรม ทั้งภาคขนส่ง จะได้ยุตติธรรมกันทุกภาคฝ่าย งานนี้ผมว่าคงได้เห็นหันไปใช้เตาฟืนกันมากขึ้น ข้าวจานละ 25/30 ก็คงไม่มีให้กิน พวกเราก็จะได้ไม่ต้องมาทนนั้งดมกลิ่นแก๊สกัน ผมว่าก็คงจะดีไม่น้อย

หากมีการลอยตัวน้ำมันดีเซล ก็จะทำให้ขึ้นราคาค่าขนส่ง เมื่อค่าขนส่งเพิ่มขึ้นราคาสินค้าก็จะขึ้นตามไปด้วย ที่เห็นเจ้เกียวออกทีวีบ่อยๆก็เพราะเขาอ้างอิงค่าขนส่งด้วยน้ำมันดีเซล แต่น้ำมันเบนซิล ไม่ได้มีการอ้างอิงใดๆ แล้วพี่เคยเห็นไหม เวลาสินค้ามันขึ้นไปแล้ว แล้วมันจะลงมาเวลาน้ำมัน มันลด เขาก็เลยตรึงเอาไว้ รอจนสถานะการณ์ ในริเบียมันสงบ เมื่อน้ำมันมันลด ก็จะปกติเอง

 แก้ไขเมื่อ : 30/4/2554 1:50:07

 แก้ไขเมื่อ : 30/4/2554 1:54:03

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       น่าจะมีรถที่ใช้ได้ทั้งดีเซลและเบนซินนะคับ คงจะไม่ต้องคอยมาปวดหัวกับรัฐบาล ถ้ามีผมจะติดทั้งLPG NGV เลย 555

เมื่อไหร่จะมีรถที่เดิมน้ำหรือชาร์ตไฟฟ้า ใช้ซะทีเนอะ งานนี้ถ้าจะเก็บภาษีน้ำประปาเยอะ คงยาก 555

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       - ผมมีข้อมูลว่า ปตท.ส่ง LPG ขายให้ต่างประเทศ ซึ่งได้ราคาแพงกว่าขายในประเทศ เพราะราคาในประเทศถูกรัฐบาลควบคุมราคาไว้ ปีหนึ่งได้กำไรมากมาย ดังนั้นจึงพยายามจะบีบให้มีปริมาณผู้ใข้ LPG ในประเทศน้อยลง เพื่อนำแก็สที่เหลือไปขายต่างประเทศ และอีกประเด็นหนึ่ง ปตท.ซื้อแก็สจากพม่ามาแยกเอง ขายเอง ซึ่งมีการผูกขาดแค่รายเดียว ดังนั้นถ้ามีการใช้ NGV มากขึ้น ปตท.ก็ได้ประโยชน์เพียงรายเดียว ผู้ใช้ก็จะเปรียบลูกไก่ในกำมือ จะทำอะไรก็ได้ง่ายๆ ปัญหาของ LPG จึงมีต้นเหตุมาจาก ปตท. (ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่มีอิทธิพล จนผู้บริหารต้องทำตาม)
- ไม่ทราบว่าที่ผมได้ยินมานี่ ถูกหรือผิด วอนผู้รู้ช่วยบอกทีครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       ปตท ไม่ได้ผูกขาด NGV เพียงรายเดียว แต่ว่าที่ผ่านมาแม้จะเปิดให้คนอื่นร่วมลงทุนแต่ปรากฎว่าไม่มีเอกชนรายใด สนใจจะเจ๊งร่วมกับ ปตท. แม้แต่รายเดียว


เพราะว่า ปตท . มีธุรกิจมากมาย สามารถแบ่งกำไรจากกระเป๋าซ้ายถ่ายเทสู่ขวามือได้ แต่ถ้าเอกชนไม่มีทุนหนาขนาดนี้และถูกกลไกรัฐคุมราคา NGV เอาไว้อีก ยังไงก็ไม่อาจรวมหัวจมท้ายไปกับ ปตท ได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       ตัวเลขกลมกลม ที่น่าสนใจและต้องนำมาคิด


เดือนที่แล้วคือ มีนาคม 2554 ปรากฎว่ามีรถไปจดทะเบียนใช้แก๊ส LPG ประมาณ 10,000 กว่าคัน
ถ้าปล่อยเป็นแบบนี้กลไกพลังงานทั้งระบบ ล้มแน่นอน ยังไงมันก็ถึงเวลาที่ต้องผ่าทางตันกันออกมาแล้ว จะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้

เบนซิน ดีเซล ราคาทุกวันนี้ไปไกลมากกว่าคววามเป็นจริง เบนซิน 95 ลิตรล่ะ 50 บาท ที่หน้าปั๊ม คนรวยคนจนเขาต้องการความสเมอภาคเท่ากันหมด
แต่ทว่า สิ่งที่ต้องนำมาคิดคือราคาน้ำมันที่แท้จริงเป็นเท่าไหร่
ราคาหน้าโรงกลั่นออกมา 21-25 บาท แต่ถูก + ภาษี + กำไรเข้ากองทุนไปโอบอุ้มทุกอย่าง ทุกหน่วยงานขอแบ่งผลประโยชน์
เป็นไปได้ไหมจะกลับมาคุยกันใหม่ในเรื่องนี้ ยกเลิก กองทุนทั้งหมดที่จะเอาส่วนแบ่งกำไรจากการขายน้ำมัน ภาษีซ้ำซ้อน 2 ครั้ง ราคาหน้าโรงกลั่นเป็นเท่าไหร่ + กำไรที่จะขายหน้าปั๊มเท่าไหร่ = ราคาที่จะขายหน้าปั๊ม
แล้วให้ประชาชนตัดสินใจเองว่าจะเอาอย่างไร

ราคาน้ำมันที่แท้จริง ดีเซลต้องแพงกว่าเบนซินลิตรล่ะ 2- 3 บาท
เบนซินราคาแท้จริงในวันนี้น่าจะวิ่งอยู่ที่ 30 บาท + - นิดหน่อย
ราคาแก๊สแอลพีจีอาจอยู่ที่ 15-16 บาท
ทุกคนจะตัดสินอนาคตตัวเองได้หมดกับทิศทางพลังงาน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       ผมยังรอดูอีกอย่างว่าพอราคาแก๊สขึ้นราคาเมื่อไหร่ Taxi ก็จะมาเรียกร้องขอขึ้นค่าโดยสาร ถึงจะบอกว่ารัฐจะบอกว่ารถ Taxi เกิดใหม่ให้เป็น NGV ทั้งหมดก็เถอะ แต่ยังไง รถ taxi LPG มันก็มีอยู่ไม่น้อย คราวนี้ล่ะครับ สนุกแน่นอน......

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       รถเจ๊เกียวแห่งโคราชก็เป็น NGV ไปหมดแล้ว แต่ยังเรีกยร้องทุกครั้ง
ทั้งที่รถของแกไม่มีใครอยากขึ้นนอกจากช่วงเทศกาล

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       คำตอบที่ 16
รถเจ๊เกียวแห่งโคราชก็เป็น NGV ไปหมดแล้ว แต่ยังเรีกยร้องทุกครั้ง
ทั้งที่รถของแกไม่มีใครอยากขึ้นนอกจากช่วงเทศกาล


ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเจ๊เกียวแห่งโคราช แต่ผมไปหมอชิดส่งของขึ้นรถทัวร์
เกือบทุกวันก็ยังเห็นใช้ดีเซลเกือบจะทั้งลานจอดครับ แตถ้าเป็นบริษัทอื่นที่เป็นรถรุ่น
ใหม่ๆส่วนมากจะเป็นNGVครับ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมครับ จาก : Auto.(Auto.) 30/4/2554 16:49:53 [202.80.239.130]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       'กรณ์'โยนคมนาคมขึ้นภาษีรถ'แอลพีจี'ขนส่งไม่เอา3.7หมื่น
Friday, 29 April 2011 05:48
'ขนส่งทางบก'อ้างผลศึกษากระทรวงอุตฯ เสนอขึ้นภาษีทะเบียนรถยนต์ใช้แอลพีจี 3.7 หมื่น/ปี
ความคืบหน้ากรณีที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่27 เมษายน มีมติให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลัง เร่งพิจารณาการปรับเพิ่มภาษีป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ใช้ก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี)เป็นเชื้อเพลิง เพื่อลดภาระการชดเชยแอลพีจีของรัฐบาล
เมื่อวันที่ 28 เมษายน นายกรณ์ จาติกวณิชรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่ารัฐบาลมีนโยบายชัดเจนต้องการลดการชดเชยก๊าซแอลพีจีลง โดยในส่วนรถยนต์ที่ปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์มาใช้ก๊าซแอลพีจีก็มีแนวทางจะขึ้นภาษีป้ายทะเบียนรถยนต์ ซึ่งเป็นอำนาจของกระทรวงคมนาคมจะพิจารณาและตัดสินใจส่วนกระทรวงการคลังพร้อมจะเสนอสูตรที่เหมาะสมให้
นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หลังจากได้รับหนังสือมอบหมายอย่างเป็นทางการจาก กพช.แล้ว จะมีการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กรมการขนส่งทางบกมาหารือร่วมกันเพื่อพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมต่อไป เนื่องจากกระทรวงคมนาคมยังไม่มีผลการศึกษาหรือแนวทางดำเนินการเรื่องดังกล่าว
นายเทียนโชติ จงพีร์เพียร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวยอมรับเช่นกันว่า กรมยังไม่เคยมีการศึกษาเรื่องนี้ แต่ทราบว่ากระทรวงอุตสาหกรรมเคยมีการศึกษาการปรับขึ้นภาษีป้ายทะเบียนสำหรับรถยนต์ที่เปลี่ยนไปใช้แอลพีจีไว้ เฉลี่ยคันละ 37,000 บาทต่อปี จากปัจจุบันที่จัดเก็บประมาณ 3,000-4,000 บาทต่อปีสำหรับรถยนต์ใหม่ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวถือว่าสูงเกินไปและยังไม่มีการชี้แจงที่มาที่ไปของตัวเลขดังกล่าวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ จึงยังไม่มีการพิจารณาเพิ่มเติม แต่ในรับทราบ จึงยังไม่มีการพิจารณาเพิ่มเติม แต่ในเมื่อ กพช.มีมติให้ศึกษาเรื่องดังกล่าว คงต้องหารือร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาตัวเลขที่เหมาะสมอีกครั้ง
"ตอนนี้รถที่ใช้แอลพีจีมีอยู่หลายประเภทเช่น รถยนต์ส่วนบุคคล รถบรรทุก และรถแท็กซี่เป็นต้น ซึ่งแต่ละประเภทจะเก็บภาษีแตกต่างกันโดยเฉลี่ยสูงสุดอยู่ไม่เกิน 4,000-5,000 บาทต่อปีหากมีการปรับขึ้นภาษี ต้องมาพิจารณารถยนต์ในแต่ละประเภทด้วยว่าจะต้องปรับเพิ่มขึ้นอีกเท่าไหร่" นายเทียนโชติกล่าว
นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ในเดือนมกราคมกุมภาพันธ์ 2554 มียอดรถยนต์ที่จดทะเบียนใช้แอลพีจี 17,035 คัน ใช้ก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี)1,078 คัน รวมรถยนต์ที่จดทะเบียนใช้แอลพีจีและเอ็นจีวี เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว7,932 คัน ปัจจุบันรถยนต์ที่ใช้แอลพีจีทั่วประเทศมีประมาณ 6.76 แสนคัน ใช้เอ็นจีวีประมาณ1.89 แสนคัน
นายศิริศักดิ์ วิทยอุดม รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า แนวทางการปรับขึ้นภาษีป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ใช้ก๊าซแอลพีจีจะช่วยลดการใช้ก๊าซแอลพีจีในภาคขนส่งได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันไทยมีการนำเข้าก๊าซแอลจีพีประมาณ 1.1 แสนตันต่อเดือน โดยคาดว่าภายใน 5 ปี จะมีอัตราการเติบโตสูงขึ้น โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมและปิโตรเคมี
นายศิริศักดิ์กล่าวอีกว่า การขยายเวลาการตรึงราคาก๊าซ ทำให้ก๊าซเอ็นจีวีไม่เพียงพอต่อความต้อง การใช้ที่สูงขึ้น โดยกรมได้ส่งเจ้าหน้าที่สำรวจสถานีบริการทุกแห่งทั่วประเทศ เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงการให้บริการต่อไป
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า กรมยังไม่มีแผนเก็บภาษีสรรพสามิตก๊าซแอลพีจี แม้ว่าจะมีเพดานให้เก็บได้ 9 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ซึ่งการปรับภาษีน้ำมันและก๊าซจะหารือกับกระทรวงพลังงานอย่างใกล้ชิดเพราะที่ผ่านมามีการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลไป 5.30 บาทต่อลิตร โดยคาดว่าจะไม่มีการปรับขึ้นภาษีพลังงานในช่วงนี้ จนกว่าการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลจะสิ้นสุดลงในเดือนกันยายนปีนี้
นายเจน นำชัยศิริ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่าได้หารือร่วมกับกลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิค และอุตสาหกรรมแก้วและกระจก กรณี กพช.มีมติ
ลอยตัวก๊าซหุ้งต้ม (แอลพีจี) ในภาคอุตสาหกรรมโดยจะเริ่มทยอยปรับราคาในเดือนกรกฎาคมนี้
อาจจะส่งผลกระทบร้ายแรงถึงขั้นปิดกิจการของอุตสาหกรรมแก้วและกระจก อุตสาหกรรม
เซรามิค เพราะไม่สามารถปรับตัวได้ทันตามเวลาอุตสาหกรรมแก้วและกระจก อุตสาหกรรม
เซรามิค เพราะไม่สามารถปรับตัวได้ทันตามเวลาที่รัฐบาลกำหนดแน่นอน
ทั้งนี้ มติ กพช.เมื่อวันที่ 27 เมษายน รัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนเรื่องมาตรการช่วยเหลือดังนั้น ส.อ.ท.จะเร่งทำหนังสือไปยังสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) และ กพช.ภายใน 1-2 วันนี้ เพื่อสอบถามมาตรการช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม
นายอำนาจ ยะโสธร เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมเซรามิค ส.อ.ท.กล่าวว่า สำหรับแนวทางที่กระทรวงพลังงานจะให้สินเชื่อผู้ประกอบการย้ายโรงงานไปอยู่ตามแนวท่อก๊าซธรรมชาตินั้น สามารถทำได้แต่เชื่อว่าจะเกิดปัญหาตามมาแน่นอน โดยเฉพาะปัญหาแรงงานเลิกจ้าง และการหาแรงงานใหม่ที่ต้องฝึกทักษะกันใหม่ นอกจากนี้อุตสาหกรรมเซรามิคของลำปางคงเป็นไปได้ยาก เพราะเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดไปแล้ว
นายสมชัย โอวุฒิธรรม ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมแก้วและกระจกกล่าวว่า ผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมแก้วกระจก มีจำนวน10 บริษัท มีแรงงานมากถึง 15,000 คน ซึ่งมาตรการลอยตัวก๊าซแอลพีจีของรัฐจะทำให้ผู้ประกอบการทั้งหมดต้องขาดทุนกระทั่งปิดกิจการแน่นอน จึงอยากให้รัฐจัดหาพลังงานทดแทนให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือสนับสนุนการย้ายโรงงานไปตามแนวท่อก๊าซธรรมชาติด้วย
--จบ--

--มติชน ฉบับวันที่ 30 เม.ย. 2554 (กรอบบ่าย)--



http://its.in.th/index.php/component/content/article/1-latest-news/6989-37

ถ้าจะเก็บจริง ผมตั้งไว้ที่หนึ่งพัน ถ้าเกินผมแจ้งยกเลิกแน่ๆ....อิๆ จาก : longloi(nhong23) 1/5/2554 21:06:22 [110.169.184.44]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       ครม.เห็นชอบปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์
ชัยวุฒิเผยครม.เห็นชอบหลักการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ พร้อมสั่ง 3 กระทรวง ทำรายละเอียดรถยนต์ใช้เอ็นจีวี เอทานอลเพิ่ม เสนอกลับ ครม.ภายใน 90 วัน ไม่ห่วงเสร็จไม่ทันรัฐบาลชุดนี้

นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 3 พ.ค.2554 เห็นชอบในหลักการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ โดยยึดหลักการกำหนดภาษีจากประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การลดมลพิษ และมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งที่ประชุมเห็นด้วยกับข้อเสนอเรื่องการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และมาตรฐานความปลอดภัย แต่ยังมีความเห็นแย้งในเรื่องพลังงานทดแทนจึงมอบหมายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพลังงานพิจารณารายละเอียดร่วมกันในประเด็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานทดแทน 2 ชนิด คือ เอทานอล และก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี)

“ในที่ประชุมครม. กระทรวงพลังงานมีความเห็นแย้งในบางประเด็น โดยกระทรวงพลังงานได้สอบถามว่ารายละเอียดภาษีที่เสนอมาจะครอบคลุมรถยนต์ที่ใช้พลังงานทดแทนระดับใดบ้างและครอบคลุมรถยนต์ทุกประเภทหรือไม่อย่างไร ซึ่งวาระนี้พิจารณาในช่วงเที่ยงคืนที่ผู้ร่วมประชุมเริ่มล้าและที่ประชุมเห็นว่ายังมีเวลา 2 ปี เศษ กว่าจะมีผลบังคับใช้จึงมอบหมายให้ทั้ง 3 กระทรวงกลับไปพิจารณามาเสนอ ครม.ภายใน 90 วัน” นายชัยวุฒิ กล่าว

ทั้งนี้ การเห็นชอบในหลักการเท่ากับรัฐบาลชุดนี้มีนโยบายปรับแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ออกมาแล้ว ซึ่งไม่น่ามีปัญหาเมื่อต้องพิจารณารายละเอียด ในช่วงที่เป็นรัฐบาลรักษาการ และกว่าที่จะมี ครม.ชุดใหม่มาทำงานต่อจาก ครม.ชุดนี้คาดว่าใช้เวลาอีก 4 เดือน แต่ถ้าไม่ทันรัฐบาลชุดนี้ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลชุดต่อไปจะมาพิจารณาต่อ โดยรัฐบาลชุดนี้ไม่กังวลว่าการประกาศรายละเอียดภาษีรถยนต์ใหม่จะต้องมาจากรัฐบาลปัจจุบัน แต่ถ้าการพิจารณาไม่ทันรัฐบาลชุดนี้และรัฐบาลชุดใหม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะไม่เห็นด้วยก็เป็นสิทธิของรัฐบาลชุดใหม่

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ที่ผ่านมาภาครัฐได้สอบถามความเห็นของบริษัทรถยนต์ไปหลายรอบแล้ว แต่ถ้าภาคเอกชนจะเสนอความเห็นเพิ่มเติมอีกก็ได้ในช่วงที่ทั้ง 3 กระทรวง ทำรายละเอียดภาษีของรถยนต์พลังงานทดแทนเพิ่มเติม นอกจากนี้ ครม.กำหนดให้พิจารณาการเก็บภาษีป้ายของรถยนต์ที่ใช้แอลพีจีรวมเข้ามาด้วย ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งล่าสุดกระทรวงอุตสาหกรรมได้เสนอให้เก็บปีละ 3.7 หมื่นบาท โดยพิจารณาจากส่วนต่างของราคาพลังงานระหว่างการใช้น้ำมันกับแอลพีจี

สำหรับเป้าหมายการการผลิตยานยนต์ในปี 2554 ยังมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดได้ 1.8 ล้านคัน ส่วนจะผลิตถึง 2 ล้านคันตามเป้าหมายของกระทรวงอุตสาหกรรมวางไว้หรือไม่คงจะต้องติดตามสถานการณ์การผลิตชิ้นส่วนยานยนต์บางชนิดที่ต้องนำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งขณะนี้อาจจะมีผลกระทบบ้างสำหรับรถยนต์ที่ต้องใช้ชิ้นส่วนจากญี่ปุ่นทำให้บริษัทรถยนต์ต้องลดกำลังการผลิต.



Post Today
http://money.impaqmsn.com/content.aspx?id=25991&ch=227

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       เหตุผลที่ต้องการเก็บปีล่ะ 37,000 บาท เพราะคงเห็นว่าไม่สามารถขึ้นราคา LPG ได้มากนัก จึงเก็บภาษีรถยนต์ LPG แทนโดยชดเชยเป็นราคาส่วนต่างของการใช้น้ำมันเบนซิน แล้วมาคิดเฉลียต่อคัน ซึ่งนั่นทำให้เห็นว่า รถยนต์ 1 คันถ้าคิดจะติด LPG ต้องมีปริมาณการใช้ค่อนข้างมากและต้องเป็นรถยนต์ที่ทนทานมาก ๆ และค่าซ่อมถูกมากด้วย ไม่งั้นจะไม่คุ้มค่าถ้าจะติด LPG



แต่ปัญหามันอยู่ที่รัฐบาลจะไปเก็บภาษีผู้ใช้ LPG ได้ยังไงในเมื่อก่อนหน้านี้และเดี๋ยวนี้ไม่เคยสนับสนุนการใช้ LPG ในรถยนต์ รวมถึงงไปให้ข้อมูลกันผิด ๆ แต่อยู่ดีดีจะขอเก็บภาษี ซึ่งมันขัดกันเกือบทุกอย่าง ถ้ารัฐบาลจะเก็บภาษีจริงต้องสนับสนุนรถ LPG รวมถึงสนับสนุนรถที่ผลิตจากโรงงงานด้วย
ไม่ใช่เกลียดเค้าแต่ขอเก็บภาษีจากเขาแพง ๆ เข้าทำนองเกลียดตัวกินไข่เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง

แล้วที่ชดเชยราคาNGV เอาส่วนที่ชดเชยไปเก็บภาษีรถNGVด้วยล่ะ ตัวหารน้อยกว่า อาจจะอ่วมกว่าLPGก็ได้ ^_^" จาก : ^Top^(^Top^) 8/5/2554 2:09:57 [223.207.118.204]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       แล้วปัญหามันก็มีอยู่อีกว่ารถส่วนใหญ่ในแถบเอเชียไม่ใช่รถที่ออกแบบมาติดแก๊ส บ่าวาล์วที่ผู้ผลิตส่งให้โรงงานเป็นไปตามสเปกในเอเชียทั้งหมด
ไม่ใช่ทำตามเสปกในยุโรปมี่เคลือบสารป้องกันการสึกหรอเอาไว้
การนำมาติดแก๊สแล้วเจอปัญหาค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่แพงขึ้นมากแล้วยังมาเสียภาษีตรงนี้อีก รถ LPG คงแทบจะสูญพันธ์จากตลาด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       ผมคิดว่าเป็นการเขียนเสือให้วัวกลัวของภาครัฐ

ก่อนหน้าพยายามสร้างภาพว่าอันตรายไม่ปลอดภัย แต่คนสมัยนี้ไม่กลัวแล้ว
เรื่มไม่ได้ผลรถดมแก๊สมากขึ้น

หาวิธีใหม่ ออกข่าวว่าจะเก็บปีละ 37000 คนจะติดแก๊สจะได้ชลอการใช้แก๊สบ้าง
หากไม่ได้ผล ก็จะต้องหาวิธีใหม่อีก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 23
       ถ้าเก็บ 37,000 ต่อคันต่อปีจริงๆอะนะ
ผมจะถอดอุปกรณ์ออก แล้วไปแจ้งยกเลิกใช้ LPG
แล้วค่อยมาใส่อุปกรณ์กลับ แล้วก็ขับแบบไม่ถูกกฎหมายซะเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 24
       ใช่ครับ เสียค่าปรับดีกว่า ยังไงก็ถูกกว่า ผมค่าน้ำมันเบิกไม่ได้ซะด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 25
       NGV ปัญหาปัจจุบันคือ ปตท. ไม่ยอมขยายปั๊มหรือลงทุนเพิ่มเพื่อสร้างปั๊มใหม่เนื่องจากต้องการรอให้ขึ้นราคา 12 -15 บาทเสียก่อน เนื่องจากต้นทุนค่าขนส่งในการขายที่ศึกษามาต้องเป็น 15 บาท
แต่ว่านโยบายบ้านเราให้การใช้ NGV มันผิดเพราะว่าเราใช้รถขนส่ง NGV แต่ต่างประเทศการใช้ก๊าซคือการขนส่งไปตามท่อเพื่อลดต้นทุนค่าขนส่งให้ต่ำสุด เพราะก๊าซเป็นพลังงานที่มีต้นทุนต่ำ จะทำให้ราคาแพงไม่ได้ ไม่งั้นไม่มีแรงจูงใจให้เกิดการใช้งาน
อีกทั้งขึ้นราคา 15 บาทจริงคือปัญหา เพราะว่ารถยนต์บ้านเราไมได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้ก๊าซ ซึ่งจะมีผลกับอายุของเครื่องยนต์และการซ่อมแซมรถยนต์ที่มากขึ้น จนไม่สู่จุดคุ้มทุนในการใช้งาน คนที่หันมาติดก๊าซเพราะว่าสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ 70% แต่ว่าคนที่ติดก็ยังลังเลกับทางเลือกนี้ เพราะเหตุดังกล่าว ถ้าเลือกได้ก็คงไม่มีใครอยากแบกถังก๊าซไว้กับรถเพราะเป็นการดัดแปลง
ถ้าก๊าซขึ้นราคา 15 บาท เป็น 50% ของราคาน้ำมันดีเซล จะไม่เกิดแรงจูงใจให้ประชาชนกันมาใช้ก๊าซอีกต่อไป



LPG ปัญหาใหญ่คือราคาน้ำมันเบนซินของบ้านเราที่พุ่งทะยานขึ้นไปมาก ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล 91 มี 35 บาท ทั้งที่ได้รับการอุดหนุนภาษีแล้ว ซึ่งแพงกว่าน้ำมันเบนซินธรรมดาที่ขายกันที่ลาว กัมพูชา เวียดนามซะอีก ตรงนี้แหละที่เป็นปัญหาทำให้คนส่วนใหญ่หันมาติดก๊าซ
และจะกลายเป็นปัญหาสำคัญในอนาคตเพราะไม่ว่าใครก็ยังไม่สามารถหยุดการเกิดขึ้นของรถก๊าซ LPG ได้
ซึ่งกำลังทำให้เกิดการบิดเบือนพลังงานอย่างที่ไม่ควรจะเป็น
ซึ่งตั้งแต่ไหนแต่ไร ราคาน้ำมันเบนซินยังไม่สูงมากขนาดนี้คนส่วนใหญ่ไม่มีใครอยากแบกภาระความเสี่ยงในการติดก๊าซเพราะไม่คุ้มถ้าส่วนต่างในการใช้งาน ไม่เกิน 50% ของค่าใช้จ่าย เพราะการติดก๊าซต้องเสี่ยงกับการดัดแปลงหมดการรับประกัน อายุเครื่องยนต์สั้นลง
แต่ด้วยปัจจัยราคาน้ำมันเบนซินบ้านเราถูกบิดเบือนไปมาก ราคาเบนซิน 91 มีราคาแพงมากกว่าประเทศในแถบนี้ทั้งหมด น้ำมันเบนซิน 97-98 ถูกคุมกำเนิดไม่ให้ใช้หรือผลิตออกมา แล้วให้หันมาใช้แก๊สโซฮอล แทนแต่ตั้งราคาไว้แพงกว่าเบนซิน 91 ของประเทศเพื่อนบ้าน


ปัญหาสำคัญเหล่านี้หลายฝ่ายพยายามแก้ด้วยการจะขึ้นราคา LPG ให้มาใกล้เคียงกับเบนซิน
นั่นเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่รับไม่ได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 26
       ดังที่ สนพ. เป็นห่วง
บ้านเราใช้พลังงานจากโรงไฟฟ้า ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นหลัก ตรงนี้ที่มีปัญหา ราคาค่าไฟฟ้าก็จะยิ่งแพง ราคาก๊าซก็จะแพง
เพราะคือความเสี่ยงที่สูงมาก แต่ว่าประชาชนไม่มีใครยอมรับทางเลือกใหม่


โรงไฟฟ้าไปสร้างที่ไหนก็มีแต่ประชาชนขับไล่ แต่ชาวบ้านกลับไม่ให้ทางเลือกรัฐบาล ว่าแล้วจะให้สร้างที่ไหน
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไม่ให้สร้าง ทั้งที่ศึกษากันจนไม่รู้จะศึกษาอะไรกันนอีกแล้ว แต่ชาวบ้านก็ไม่ยอมให้คำตอบรัฐบาลซักทีว่าไม่ให้สร้างแล้วจะให้ทำไง บ้านเราต้องการโรงไฟฟ้า แต่ไม่ยอมให้สร้างประท้วงทุกที

ราคาขายน้ำมันในปั๊มที่ประเทศมาเลเซีย เบนซิน95 ลิตรละ20 บาท เบนซิน97ราคา22บาท ทำไมเขาทำได้ งงครับ จาก : mit27(mit27) 15/6/2554 21:42:03 [113.53.9.229]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 27
       ทุกอย่างที่กล่าวมา ล้วนมี เหตุและผล ประโยด ทั้งสิ้น อนิจัง.....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 28
       พลังงาน กับการเมือง...และกรรมของประชาชน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 29
       ลองคิดดูสมองของคนบริหารประเทศ ยังคิดได้เท่านี้ ยังจะเลือกพวกนี้เข้ามาอีก เฮ้อ......

แสดงความคิดเห็นย่อย