คำตอบที่ 1
       ชอบความสดใหม่ก็Fordเลยครับ แต่ถ้าชอบความทนทานที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วรวมถึงศูนย์บริการที่มีอย่างทั่วทุกมุมเมืองก็เลือกToyota
คู่นี้กินกันไม่ลงครับ มีดีมีด้อยต่างกัน เหมือนกับที่คุณพอจะทราบอยู่แล้วหละ
ข้อดีไม่ต้องพูดถึง มาดูข้อด้อยของแต่ละยี่ห้อดีกว่า ว่าคุณยอมรับข้อด้อยของยี่ห้อไหนได้มากกว่ากันก็เลือกยี่ห้อนั้นแหละ

จากประสบการณ์ของผมในส่วนของรถกระบะ4WDตอนนี้มี Vigo , Dmax , Ranger อายุไล่เลี่ยกัน
ในช่วงแรกๆที่รถยังใหม่ๆซิงๆ แต่ละยี่ห้อเหมือนกันหมด แค่เข้าเช็คตามระยะที่ศูนย์ก็ไม่มีอะไรแตกต่างนอกจากความใกล้-ไกลของแต่ละศูนย์
เรื่องราคาค่าอะไหล่สิ้นเปลืองและค่าบริการที่ต้องจ่ายตามระยะทางก็ใกล้เคียงกัน
ถ้าไม่เผลอหลงคารมณ์พนักงานรับรถที่ชอบยัดเยียดให้ทำนู่นนี่นั่นนอกเหนือจากที่คู่มือระบุแทบไม่มีอะไรแตกต่างจนรู้สึกได้ชัดเจน

จะมาพบความแตกต่างก็ต่อเมื่อใช้งานไปนานๆ อะไหล่บางตัวเริ่มชำรุด
อย่างเช่นรถFordหัวเพลาหน้าหลวม ต้องเปลี่ยนทั้งเส้น เบิกห้างฯราคาหมื่นกว่าบาท
แต่วีโก้มีอะไหล่แยกชิ้น ของแท้-เที่ยม มีให้เลือกอย่างจุใจราคาเริ่มตั้งแต่หลักร้อย
เรื่องคลัทช์รถฟอร์ดออกแบบมาทันสมัยจัด หวีคลัทช์2ชั้น เอาเข้าศูนย์ให้เปลี่ยนพร้อมกัน ราคาเฉียด2หมื่น
เอามาทำข้างนอกเปลี่ยนเฉพาะผ้าคลัทช์ หวีใช้อันเดิม ก็พอใช้ได้ไปอีกพักนึง หวีล้าต้องหามือสองมาเปลี่ยน เพราะสู้ราคามือหนึ่งไม่ไหว
ส่วนวีโก้กับดีแมคไม่ต้องพูดถึง อะไหล่มีเป็นเข่ง แท้ เทียม ใหม่ เก่า มีให้เลือกจุใจ

เรื่องFordตัวใหม่เป็นผมก็อยากลองครับ แต่ถ้าจะให้ซื้อมาใช้ระยะยาว คงต้องคิดนานหน่อย ไม่แปลกว่าทำไมทุกวันนี้โตโยต้าถึงครองเมือง
ผมไม่ได้หมายถึงว่ารถโตโยต้าดีที่สุดนะครับ แต่สำหรับเมืองไทย "รถที่ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องขายได้มากที่สุด"

ว่ากันด้วยราคามือสอง วีโก้ออกปีเดียวกันเป็น4WDตัวท็อปเกียร์ธรรมดาเหมือนกัน ราคาตอนป้ายแดงพอๆกัน
รถ6ปี วีโก้ขายได้5แสนกลางๆสบายๆ ส่วนฟอร์ดใครมาซื้อผมเกิน4.5แสน แทบจะถวายใส่พานให้เลย

แต่ข้อดีของฟอร์ดก็ใช่ว่าจะไม่ดีนะ แรงบิดรอบต้นมหาศาล ถ้ารอบถึงมาแรงกว่าวีโก้ แต่วีโก้ดีกว่าตรงแรงบิดต่อเนื่องดีกว่า
ช่วงล่างถ้าเดิมๆ ฟอร์ดหนึบหนับตามโฆษณาจริงๆ เรื่องประสิทธิภาพเครื่องยนต์กับช่วงล่างยกให้ฟอร์ด
ส่วนเรื่องความทนไม่รู้อะไรทนกว่ากัน เพราะผ่านการใช้งานมาแล้วป้วนเปี้ยนที่2แสนโล ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร

ส่วนดีแมคที่ไม่ได้พูดถึง เพราะรุ่นนี้มันดีกลางๆระหว่างวีโก้กับฟอร์ด ไม่เลวร้าย แต่ไม่พบปมเด่น มีดีตรงศูนย์บริการไม่ค่อยมั่ว
ซ่อมได้ก็หายขาด ซ่อมไม่ได้ก็ยกธงยอมแพ้กันไปเลย
เจออยู่เคสเดียว ไฟเอนจิ้นโชว์เร่งไม่ขึ้น ต้องดับเครื่องแล้วสตาร์ทใหม่ วิ่งไปได้สักพักก็เป็นอีก
เข้าๆออกๆศูนย์อยู่หลายเที่ยว จนหัวหน้าช่างศูนย์เอ่ยปากว่าจนปัญญาจริงๆ ก็เลยลองเอาไปเช็คปั้มหัวฉีดที่ร้านข้างนอก
ปรากฎว่าหัวฉีดเสียไป1หัว ซ่อมใช้งานได้จนถึงทุกวันนี้ นอกนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร
ก็แปลกใจว่าคอมฯไม่ได้ช่วยอะไรเลยเหรอ เพราะตอนไฟเอ็นจิ้นโชว์ ช่างบอกว่าแรงดันในรางคอมมอลเรลไม่พอ แต่ไหงมาเป็นที่หัวฉีด

สุดท้ายก็นานาจิตตังค์ครับ แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อมีดีมีด้อยแตกต่างกัน ถ้าเป็นผมระหว่าง2ตัวเลือกนี้ก็ลังเลเหมือนกัน
ลังเลระหว่างเด็กมหา(ประ)ลัย กับ คนใกล้ชิดที่คิดเกินกว่าเพื่อน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       2.7 vvt-i ครับ แรงม้าแรงบิดดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
ผมใช้กระบะ 4x4 ยาง 33 ยังขับมันได้เลยครับ ทั้งทางเรียบ ทางลุย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       Ford 2500 cc เบนซิน ถ้าต้องเดาแบบคาดคะเนกันเครื่องตัวนี้ผมน่าจะผ่านมาแล้ว ถ้าไม่ใช่ก็ใกล้เคียง
เล่าความเดิม เพราะว่าผม นั้นเคยลองขับเทสต์รถคู่แฝด Mazda มาแล้ว ทั้ง 2 ตัวนี้ใช้เครื่องยนต์เบนซินตัวเดียวกันฟิลลิ่งทุกอย่างใกล้เคียงกัน ส่งนอกเหมือนกัน ทั้งฟอร์ดและมาสด้า เครื่องยนต์ที่เคยเทสต์นั้นคือรุ่นเบนซิน 2600 cc ตามปกติแล้วเครื่องเบนซินมักจะไม่ได้ปรับปรุงอะไรมากกว่าเดิมเท่าไหร่นัก ถึงแม้เครื่องยนต์เบนซินตัวนี้ 2500 อาจไม่ใช่ตัวเดียวกันกับของเดิมที่มีซีซี 2600 แต่น่าจะพอเป็น บรรทัดฐานให้ตัดสินใจได้บ้าง
เท่าที่ลองขับ ของรุ่น Mazda รุ่นที่ลองขับนั้นเป็น 4 ประตู เกียร์ A/T สเปกส่งขายออสเตรเลีย ฟิลลิ่งการขับนั้นตามสไตล์รถของ Mazda คือการควบคุม รถ Handling นั้นดีกว่า Vigo 4 ประตูแน่นอน
อัตราเร่งช่วงต้น Vigo เบนซิน 2.7 ดีกว่า หมายถึงช่วง 0-60 และถ้าช่วงเลย 120 ไปแล้วช่วงนี้2.7 จะอืด
แต่ถ้าเป็นช่วงเลยจากนี้ หมายถึงพวกชอบใช้ความเร็วสูงประจำ Mazda 2600 เบนซินมีอัตราเร่งที่ดีกว่า

การกินน้ำมันเนื่องจากตอนได้รถมาเทสต์ทดสอบนั้น เบิกน้ำมันฟรีทุกอย่างจ่ายเป็นลิตรเลยไม่มีใครได้สนใจอัตราสิ้นเปลือง ขับขี่เน้นความสนุกสนานอย่างเดียวเลยไม่ทราบว่ารถคันนี้กินน้ำมันเท่าไหร่



ข้อสรุป เรื่องอัตราเร่ง
ถ้าคุณเป็นคนชอบอัตราเร่งและใช้ความเร็วเกิน 120 km/h ขึ้นไป Ford ตัวนี้น่าจะดีกว่าในเรื่องของอัตราเร่งในด้านแรงม้าที่เพิ่มขึ้น 166 แรงม้า น่าจะตอบโจทย์ตรงนี้ของคุณได้ดีขึ้น
แต่ถ้ากลับมาใช้งานแบบบ้านบ้านทั่วไป Hilux 2.7 น่าจะดีกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       เรื่องของศูนย์บริการ
Ford มีศูนย์บริการมากขึ้น แต่จะตอบว่าดีแย่กว่ากันนักตอบไม่ได้เต็มปากเต็มคำนักเพราะบางศูนย์ฟอร์ดก็ดีมาก บางศูนย์ฟอร์ดก็แย่มาก มันคละเคล้ากันไปเหมือนศูนย์ TOYOTA ที่บางทีศูนย์นี้ดี ศูนย์นั้นไม่ดีแต่ทางเลือกในการเลือกนั้นศูนย์ TOYOTA ได้เปรียบมากกว่าศูนย์ฟอร์ด เพราะจำนวนศูนย์มีมากกว่า TOYOTA มีศูนย์ทั่วประเทศมากกว่า 120 แห่ง กรุงเทพที่เดียวมีศูนย์ 30-40 แห่ง ในขณะที่ศูนย์ฟอร์ดเปรียบเหมือนมวยคนล่ะชั้นในจุดนี้ เพราะจำนวนยังไม่มาก ทางเลือกน้อยกว่า

การจัดระเบียบในศูนย์บริการจุดนี้เองก็ยังเป็นข้อด้อยของฟอร์ดและเป็นจุดเด่นของ TOYOTA เพราะว่าศูนย์ฟอร์ดเวลาเข้าไปใช้บริการในศูนย์ เหมือนเราเข้าไปในอู่ชั้นดีแห่งนึงเท่านั้น การจัดระเบียบในศูนย์ห้องรับรองลูกค้า แบบบ้านบ้านเท่านั้น ไม่ว่าคุณจะขับรถ Ranger Focus Escape ภายในศูนย์รองรับลูกค้าแบบทั่วไปจริง ๆ ไม่มีอะไรพิเศษให้เห็น ความโอ่อ่า พนักงานต้อนรับ ภาพโดยรวมคือทั่วไปเท่านั้นทำให้ลูกค้าฟอร์ดหรือเชฟโรเลต ไม่ได้มีความประทับใจศูนย์บริการหรือการบริการในศูนย์ว่าตนเองมีความพิเศษหรือสำคัญแต่อย่างใด ในการซื้อรถยี่ห้อนี้
แต่ถ้ามองกลับไปเทียบ TOYOTA HONDA จุดนี้กินกันขาดกว่ากัน TOYOTA ที่ผมใช้บริการอยู่ กาแฟ โอวัลติน น้ำชา น้ำขิง น้ำอัดลมทุกยี่ห้อ น้ำร้อน น้ำเย็น มีหมด บางแห่งให้น้ำพั๊นซ์ น้ำส้มคั้นอีกต่างหาก ถัดมาเรื่องอาหาร ศูนย์ TOYOTA ที่ผมใช้บริการ มีขนมปังกรอบ ขนมห่อให้ทานรองท้องตอนเช้า โจ๊ก ถ้วย มาม่าถ้วย กินฟรีไม่มีหมด มีอินเตอร์เนตบริการฟรี 3 เครื่อง มี UBC ให้ดู มีที่นอนให้นอนรอ มีหนังสือให้อ่านเพียบแบบไม่เก่าเกินไป มีเครื่องเล่นสำหรับเด็กเอาไว้ให้เด็กเล่นเป็นมุมเด็ก มีทีวีวงจรปิดให้ดูการทำงานของช่างพร้อมบอกสถานะรถ ซ่อมรถเสร็จก็มีบริการล้างรถดูดฝุ่นฟรี จะล้างหรือไม่ล้างก็ได้สามารถแจ้งความประสงค์ก่อนซ่อมได้ถ้าไม่อยากล้างรถ
ถ้าเป็น Honda สิ่งเหล่านี้มี และเน้นไปที่สุภาพสตรีเป็นหลักพร้อมกับห้องรับรองอยู่ภายใน showroom มีเอกสารโปร โมชั่นเมื่อลูกค้ามาซ่อมรถตามระยะวันนึงก็ต้องเอารถกลับมาและซื้อรถคันใหม่ที่เป็นยี่ห้อ Honda กลับไป การลงทุนในศุนย์บริการของ TOYOTA HONDA เหนือกว่าฟอร์ดค่อนข้างมาก


การซ่อมแซมการเคลม จุดนี้คงไม่ต่างกันเท่าไหร่ เพราะช่างทั่วไปได้รับการฝึกอบรมอยู่แล้ว
การซัพพอร์ตอะไหล่ ภาพโดยรวม TOYOTA ได้เปรียบกว่าเพราะ TOYOTA ใช้อะไหล่ common กันเยอะ ถ้าอะไหล่เกิน 10 ปี ในศุนย์บริการไม่ว่ารถรุ่นอะไรในเมืองไทยหายากทั้งนั้น แต่ TOYOTA ยังได้เปรียบอยู่นิดนิดเพราะสต๊อกอะไหล่เยอะกว่า แต่ถ้าอะไหล่ไม่เกิน 5-7 ปีในศูนย์บริการ ทั้ง 2 ยี่ห้อไม่มีอะไรต่างกัน อะไหล่ไม่ได้แพง ไม่น่ากังวล การส่งอะไหล่ไม่เกิน 24 ชั่วโมงแต่ว่าไม่ได้ครอบคลุมทุกรายการ
ถ้าเป็นจากการซื้อจากร้านค้าภายนอกหรืออู่หรือเซียงกง แน่นอน TOYOTA จะได้เปรียบกว่าเยอะในเรื่องนี้
ราคาอะไหล่ถ้านับเฉพาะของแท้สูนย์ไม่ใช่ร้านค้า ของแท้ศูนย์ราคาพอกันเกือบทุกรายการถ้าเป็นอะไหล่ใหม่ในรถไม่เกิน 5-7 ปี ไม่มีอะไรต่างกันยกเว้นบางรายการฟอร์ดอาจจะแพงกว่ากันเล็กน้อย

ศูนย์ใหนครับ จะได้ไปใช้บริการด้วย, จาก : D-ZAD.(D-ZAD.) 11/5/2554 21:16:21 [125.24.34.181]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       สรุป

Ford เป็นรถดี ทุกคนยอมรับบเรื่อง Product แต่ไม่ยอมรับเรื่องการบริการหลังการขาย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       สรุป ภาพโดยรวมคนทั่วไปยอมรับ Product ของ Ford ว่าเป็นรถที่แข็งแกร่งบึกบึน มีความปลอดภัยสูง แต่ไม่ยอมรับเรื่องการบริการหลังการขาย ที่ยังเป็นรองรถยี่ห้อตลาดของญี่ปุ่น จุดนี้เองทำให้ไม่สามารถซื้อใจคนใช้รถได้ รวมถึงคนที่ซื้อฟอร์ดไปแล้วก็ไม่ได้ซื้อฟอร์ดอีกเป็นคันที่ 2 - 3 ตามมา ซึ่งจะต่างจากกคนใช้รถญี่ปุ่นที่ครอบครัวใหญ่ ๆ ครอบครัวนึงมีรถ 3- 4 คัน บรรดาญาติก็จะซื้อรถยี่ห้อเดียวกันทั้งหมด ตรงนี้ฟอร์ดและเชฟโรเลตทำไม่ได้เลย ส่งผลใหรถยนต์ราคาตกมากกว่าคู่แข่งชัดเจน

คนที่เขาซื้อฟอร์ด มักเป็นคนที่ชื่นชอบ Product ที่ต้องการคุณภาพและความแตกต่าง ไม่คำนึงถึงเรื่องราคาขายต่อมือ 2 ไม่ชอบรถตลาดและคนเป็นลูกค้าฟอร์ดจะเป็นพวกที่ไม่ชอบพึ่งพาศูนย์ ไม่ง้อศูนย์ หรือเป็นคนไม่ชอบไปเดินหาอะไหล่เอง ตามวรจักรหรือเซียงกง แต่จะเป็นคนที่มีอู่ประจำไว้คอยบริการ ซัพพอร์ตเรื่องอะไหล่ ของแท้ห้างราคาไม่แพง หรือพึ่งพิงยามต้องการซ่อมรถ ก็สามารถทำได้มีฝีมือไม่แพ้ในศูนย์บริการ หรือมีความรู้พื้นฐานในการซ่อมรถเองอยู่บ้าง มีคุณสมบัติดังกล่าว การเลือกซื้อรถยนต์ฟอร์ดเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า

ผู้บริหารของฟอร์ดภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก หรือ FORD ฟิลลิปปินส์ Ford Motor thailand จะเป็นใครลูกค้าฟอร์ดไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไหร่ เป็นใครมาจากไหน มีนโยบายอย่างไร หรือว่าเขาจะขึ้นสวรรค์ วิมานที่ไหน
เพราะลูกค้าฟอร์ดส่วนใหญ่เขาสาปกันลงนรกอย่างเดียว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ขอบคุณมากคับคุณautoได้ข้อมูลเพิ่มเติมมากเลยทีเดียว
ตอนนี้สิ่งที่ห่วงที่สุดก็น่าจะ after service
ถ้าในเมื่อสมรรถนะนั้นใกล้เคียงกันจากที่อ่านมันไม่ได้กินกันขาด
โดยส่วนตัวไม่ได้เป็นคนขับรถเร็วและชอบแซงใครเขาแต่ถ้าถึงจังหวะ
ที่ต้องเร่งแซงโดยมากจะเป็นช่วงออกตัวก็เลยอยากได้เครื่องที่มีพละกำลัง
ได้ดังที่ต้องการหน่อยเพราะเคยขับตัว D-max 2.5 4door ตัวยังไม่เป็นคอมมอนเรล
อะโหสมรรถนะจัดจิงๆ(จัดว่าอืด)แค่นั่งกันเต็มก็วิ่งไม่ออกและลุ้นกันเหนื่อยเลย

ด้านศูนย์นั้นสะดวกทั้ง2ค่ายเลยคับจากบ้านขับไปไม่เกิน3Km
ก็ถึงถ้าเป็นtoyotaก็เป็นศูนย์นนทบุรีตรงรัตนาธิเบศน์
ถ้าเป็นfordก็เป็น ford&mazda ตรงรัตนาธิเบศน์เหมือนกัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ถ้าเคยใช้ อีผุผุ 2.5L ยังไม่คอมมอนเรล อย่าเอามาเทียบกับ Vigo 2.7 เลยครับ ความแรงมันคนละคลาส.......

ให้เอา อีผุผุ 3.0 คอมมอนเรล 146 แรงม้า ตัวไม่ใช่ VGS Turbo มาวัดยังแค่เกือบ สูสีเองครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       เพิ่มเติมให้ในส่วนของค่าบริการในศูนย์บริการ


Ford เช็คระยะ 2000 บาท + - หลังจากนั้นหมดเรื่องฟรีค่าแรง 30,000 โลแล้วจะเสียประมาณ 4000 + -

Mitsu 2.4 เบนซิน ค่าเช็คระยะ 1000 โล เปลี่ยนน้ำมันเครื่องโดนไป 700-900 บาท หลังจากนั้นทุกระยะจะอยู่ราว 1000 กว่านิดหน่อย ครบระยะ 40000-50000 โลหลังจากนั้นก็จะเสียค่าแรง ซึ่งระยะหลังจากนี้จะอยู่ที่ 1500 + - นิดหน่อยไม่รวมน้ำมันเครื่อง

Toyota 2.7 เบนซิน ค่าเช็คระยะ 1000 + - แล้วแต่นมค. ที่ใช้หรือเอาไปเอง
แต่ฟรีค่าแรงจนถึง 50,000 โล หลังจาก นั้นจะเสียประมาณ 1200-1300 บาท ไม่รวมน้ำมันเครื่อง



รถใช้ระยะยาวเกิน 10 ปี ช่างที่ไหนก็บรรจงแนะนำ TOYOTA ทั้งนั้นครับ จุดนี้คือข้อได้เปรียบว่ากัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       เข้ามายืนยันอยู่อย่างนึง ถึงความ ต้องการของรถ TOYOTA 2.7 vvti A/T 4WD
ถ้าไปเทียบกับรถรุ่นอื่น ยี่ห้ออื่น ๆ หรือแม้แต่เอามาเทียบกับยี่ห้อเดียวกันแต่เป็นรุ่นVigo ดีเซล ยังไม่ได้เลย


รถคันนี้ลงขายใน ตลาดรถ 7 ชม. ตอนนี้ถูกขายไปแล้ว
ไม่ได้มาปั่นสร้าง กระแสอะไรทั้งนั้น เพราะว่าที่สมาชิกใหม่ ได้ตัดสินใจซื้อรถคันนี้แล้วและมัดจำการซื้อขายแล้วครับ
เจ้าของรถเองก็รับสายคนซื้อแทบไม่ทัน แต่ว่าที่สมาชิกของเราเร็วกว่ารีบไปซื้อก่อนใครเพื่อน
http://www.taladrod.com/w20/Search/CarDet3.aspx?cib=604692







ถ้าคิดจะซื้อรถ TOYOTA Hilux 2.7 ในวันนี้ คุณจขกท. ก็ลองทบทวนดูก็แล้วกันครับ

กำมาไม่ทัน แถวบ้านผมเลยนะเนี่ย เซงเลย จาก : inditing(inditing) 14/5/2554 1:45:30 [223.206.119.178] ตอนนี้ผมเซ็งมากกว่าคุณอีกครับ จาก : sembe71(sembe71) 17/5/2554 23:32:28 [58.8.169.71]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       รูป MAZDA BRAVO เบนซิน 2600 cc ในออสเตรเลีย กระบะตอนเดียวไว้บรรทุกของจริง ๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       เกียร์ A/T น่ะครับบสำหรับเอามาลุยงานหนักบรรทุกของแบบนี้
รถตอนเดียว ไม่มีอ๊อพชั่นอะไรเลย แต่เป็นเกียร์ A/T

บ้านเราไม่มีใครกล้าทำ และลูกค้าคนไทยไม่มีความเข้าใจที่จะซื้อ ไม่กล้าซื้อแน่ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       รายละเอียดตัว เบนซิน 2600 ซีซี ตัวเดิม

TECHNICAL
Dimension (LxWxH) 5170 x 1804 x 1758 mm
Engine Type 2.6 L4 Cylinder, Petrol
Power & Torque 21.8 kg-m / 3500rpm
Fuel Tank capacity 70 Ltrs
Transmission 5-Speed M/T
Suspension Front - lnd. Wishbone Rear Leaf Spring
Tire 235 / 70R 15
Wheel Base 3000 mm
Brakes Front - Rear: Disc/Drum
Steering: Power & Tilt
Kerb Weight (kgs): 1722
Payload (kgs): 1087
Gross Venicle Weight (kgs): 2809

ภายในมี Heater ด้วย
INTERIOR
Air conditioning - Manual A/C
Heater front - (Heat Core)
Power windows and Door Locks
AM / FM CD / MP3
Seat material - Fabric
Antigiare Rear View Mirror

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       สิ่งที่ฟอร์ดกำลังทำออกมาคือเครื่องเบนซิน 2500 cc เกียร์ M/T ในปลายปีนี้
ซึ่งฟอร์ดเองก็คงปรับตัวไม่ทันในเรื่องนี้ที่จะออกรถปิคอัพเบนซิน หลังจากการวิจัยตลาดคราวก่อน แต่ว่าดันไปแข่งกับ TOYOTA โดยตรง คือทำกระบะราคาถูกเพื่อการพาณิชย์ ในเครื่องเบนซิน ชูพลังจัดประหยัดเป็นยอด และเป็นรถทางเลือกใหม่


แต่สำหรับโดยส่วนตัวผม Ford น่าจะทำรถออกมาด้วยการฉีกตลาดออกไป เติมเต็มตลาดที่ขาดหายไปของกระบะปิคอัพเบนซิน ที่ลูกค้าต้องการ

1. รุ่น 4 ประตู เกียร์ A/T ขับ 2wd
2. รุ่น 4 ประตู เกียร์ A/T ขับ 4wd
3.รุ่น 4 ประตู เกียร์ M/T ขับ 4wd
4.รุ่น แคป เกียร์ M/T ขับ 2 wd
5.รุ่น มาตรฐานกระบะตอนเดียว 2wd

oน่าจะเติมช่องว่างของตลาดมากกว่าจะไปแข่งกับเจ้าตลาดอย่าง TOYOTA ที่วันนี้จองรถ Hilux 2.7 เบนซิน รอ 6 เดือน
ตอนนี้จะให้ไปแข่งกับ TOYOTA คงไม่มีใครสู้ได้ เพราะ TOYOTA เปิดตัว Hilux 2.7 เบนซิน ตั้งแต่ปี 2005 ลูกค้าจากที่ไม่มีความรู้อะไรเลยจนวันนี้ยอมรับปิคอัพเบนซิน ฐานลูกค้าเก่าใหม่ของ TOYOTA เยอะมาก การที่ค่ายอื่นจะมาแข่งด้วยปิคอัพเบนซิน ยังถือว่าห่างชั้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       Ford กับ TOYOTA รวมถึง Mitsu ลืมอะไรไปอย่างนึงว่า
ที่ TOYOTA 2.7 ทุกรุ่นมีชื่อเสียงได้เพราะอะไร ทำไมราคามือ 2 สูงจ จนรถอื่นก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น เต๊นท์รถทุกเต๊นท์กว้านซื้อมาขายทำกำไรทั้งนั้น แม้แต่ TOYOTA Sure ก็ซื้อรถรุ่นนี้มาขายทำกำไรแพงแพง

TOYOTA ลืมไปแล้วหรือว่าที่ผ่านมาทำปิคอัพเบนซิน ในรุ่น G ทำเฉพาะเกียร์ A/T และเน้นไปที่รถขับ 4wd เป็นหลัก อ๊อพชั่นมากมาย เพราะลูกค้าที่ใช้ปิคอัพเบนซินเป็นอีกกลุ่มลูกค้านึงที่มีเกรดสูงกว่าทั่วไป ต้องการทางเลือกใหม่ที่ไม่ใช่ปิคอัพดีเซล เกียร์ธรรมดา
แต่มาวันนี้หลายค่ายกำลังเอายอดรถฉาบฉวย ทำเฉพาะปิคอัพเพื่อการพาณิชย์ราคาประหยัดออกมา
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ลูกค้ากระบะเบนซินไม่ค่อยต้องการเท่าไหร่นัก เพราะลูกค้าที่เล่นปิคอัพระดับล่าง จะเป็นแค่ลูกค้าฉาบฉวย เปลี่ยนรถเร็ว และเปลี่ยนไปตามตลาดเท่านั้น ไม่ใช่ลูกค้าหลักของกลุ่มปิคอัพเบนซิน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       ง่ะข้อความไม่ขึ้นพิมใหม่เหอๆๆๆ

คืองี้คับช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาส
ได้ใช้บริการรถตู้อยู่หลายครั้งเลยเกิดข้อสงสัยคับ
ที่คุณautoเคยบอกไว้ตัว2.7M/Tนั้น คลัชมีเสียงดัง
มันดังยังไงคับเป็นเหมือนเสียงเหล็กเสียดสีกันหรือป่าว
หรือแบบไหน และเป็นกับทุกคันหรือป่าวคับ
เพราะรถตู้ที่ผมใช้บริการมันก็commutor 2.7
ผมนั่งข้างคนขับเกือบจะทุกครั้งนะคับ
แต่ผมก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยอ่ะคับ
หรือตัวกระบะกับรถตู้มันมีอะไรที่แตกต่างกันป่าวคับผม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       รถมันไม่ได้เป็นทุกคันก็ได้ครับ
ให้ลองสังเกตุเสียงตอนเดินเบา จอดอยุ่กับที่ตอนเป็นเกียร์ว่างสำหรับเกียร์ธรรมดา
พอเหยียบคลัทว์แล้วเสียงเครื่องหรือเสียงอื่น ๆ เงียบลงหรือเปลี่ยนไปบ้างหรือเปล่า


รถตู้ Commuter สิ่งที่ต่างกันคือด้านของอ่างน้ำมันเครื่อง
และกำลังเครื่องยนต์เสปกจะต่างกัน เพราะมีแรงม้าน้อยกว่าที่ 157 แรงม้า
ถ้าเป็น New Prado 2010 สเปกเครื่องยนต์ต่างกันทั้งแรงบิดและแรงม้า ที่ 245 nm 163 แรงม้า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
      
TOYOTA เดินหน้ามาไกลกับการบุกเบิกตลาดรถปิคอัพเบนซิน Hilux 2.7 ในบ้านเราเป็นเจ้าแรกตั้งแต่ปี 2005 ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย ตั้งแต่รถขายไม่ได้เลย รถ Hilux Vigo 2.7 เบนซิน ไม่มีคนรู้จักว่ามีทำขายออกมาด้วยหรือ จนกระทั่งถึงช่วงเวลาที่ขายดีที่สุด ลูกค้าต้องจ่ายเงินเพิ่ม 15,000 -40,000 บาท จึงมีสิทธิ์หารถให้ได้ จนถึงช่วงที่รถจองแล้วรอ 6 เดือน ผ่านเปลี่ยนรุ่น 2.7 มาหลายรุ่น ลองผิดลองถูก จนกระทั่งนำไปค้นคว้าเองกับการติดแก๊สในบ้านเรา ถ้าจะให้บอกก็คือ TOYOTA นับเลข มาแล้ว 6 7 8 9

ในขณะที่ยี่ห้ออื่น ๆ แม้แต่ Mitsu fORD ก็ตามถึงแม้ไม่ได้นับ จาก 0 เป็นตัวเริ่ม แต่การนับ 2 - 3 - 4 ผมว่ายังช้ากว่า TOYOTA หลายขุมเพราะ TOYOTA ไปไกลกว่า มีรุ่นรถออกสู่ตลาดมากกว่า มีอ๊อพชั่นให้เลือกมากกว่า
ในขณะที่คู่แข่งมีแค่เกียร์ธรรมดา M/T ไม่มีรุ่น 4wd มาให้ ไม่มีอะไรโดดเด่นกว่ากัน เครื่องยนต์กำลังน้อยกว่า TOYOTA 2.7
ความหลากหลายของเครื่องยนต์ในการไปวางในรถรุ่นต่าง ๆ สู้ TOYOTA ยังไม่ได้
ยังไงก็เป็นรอง TOYOTA หลายขุม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       ตอนนี้ใจก็ยังอยุ่กับ2.7เกิน80%นะคับ
แต่ก็น่าน้อยใจที่ชองด้านความปลอดภัย
toyota มีมาแค่ safty belt ของอื่นๆ เช่น ABS AIRBAG ยึดคืนหมด
ไม่ว่าจะเป็นตัว cab D-cab เหมือนกันหมด
อาศัยชั่วโมงบินล้วนๆ และแบบนี้เราพอจะทำอะไรเสริมได้ไหมคับ
เช่น ช่วงล่างปรับปรุงให้มั่นใจได้มากขึ้นอะไรแบบนี้อ่ะคับ
แต่ก็นะtoyotaน่าจะติดABS มาซะนิดก็ยังดี
เรามันลูกเมียน้อยมัง

ได้แค่ปรับเบรค และเพิ่มเติมโช๊คให้หนึบขึ้น จาก : Auto.(Auto.) 14/5/2554 14:28:30 [202.80.239.130]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       ตอนนี้โดนตัดออกหมดเลย อย่างที่คุณแก่นเซี้ยว ว่านั่นแหละครับ เพราะผลจากการสุ่มวิจัยตลาดคราวก่อนลูกค้าเรียกร้องอยากได้ปิคอัพเบนซินรุ่นธรรมดา โดยแต่ละคนไปมองว่าเกียร์ A/T ถุงลมนิรภัย ABS ระบบขับบเคลื่อน 4wd immo เป็นสิ่งที่เกินความจำเป็น
อยากได้ปิคอัพ แค่เกียร์ธรรมดา กระจกไฟฟ้า เซ้นทรัลล๊อคเพียงพอแล้ว

ผลงานครั้งนี้ของ TOYOTA ที่ทำรถออกมาตอบโจทย์ลูกค้าได้ไม่ตรงจริงจังเท่าไหร่นัก ยอดขายดี ในรุ่นประหยัดเพื่อการพาณิชย์มากว่า
อาจจะเป็นช่วงเปลี่ยนรถพอดีด้วยมั้ง ของบรรดาเถ้าแก่ บริษัทห้างร้านต่างทยอย ขายทิ้งโล๊ะปิคอัพดีเซลรุ่นเดิมไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       จริง ๆ แล้วเหมือนที่ผมพุดกับ rapbank ก่อนหน้านี้ว่า
รถจะดีจะแย่ยังไง บริษัทรถทำตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก เพราะบริษัทรถเขาทำรถมาขายเป็นหลัก ไม่ได้ขายเทคโนโลยีให้ลูกค้า
เพราะฉะนั้นรุ่นไหนขายดีทำรุ่นนั้นแหละ

ABS ถุงลม คนทั่วไปยอมรับว่าดีหมดนั่นแหละ แต่เวลาซื้อกลับซื้อรถรุ่นประหยัด ที่ไม่มี ABS
4wd คนทั่วไปยอมรับว่าดี แต่เวลาซื้อดันไปเลือกซื้อ Vigo Prerunner ตอนที่ 2.7 ทำ 4wd ออกมาดันไปเรียกร้องอยากได้ Prerunner

เกียร์ A/T ในรถบรรทุกแบบนี้ เกียร์ Hilux ทนทานกว่า แต่เวลาคนซื้อรถมือ 2 เมื่อเร็วๆ นี้ที่ TOYOTA SURE ยังไปถามหาเกียร์ ธรรมดา ขนาดเป็นเซลผู้หญิงยังรู้เรื่องเกี่ยวกับรถรุ่นนี้เลย ยังหัวเราะเลยว่าทำไมลูกค้ามาถามเอาเกียร์ธรรมดาไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       คราวก่อนนที่ TOYOTA ทำรถ 2.7 ออกมา

Fortuner 2.7 4x4 fulltime A/T รุ่น V

Hilux 2.7 4 doors 4wd A/Tรุ่นG

Hilux 2.7 cab 4wd A/T รุ่นG

Hilux 2.7 cab 2wd A/T รุ่นG


โดยลูกค้ามองว่าตอนนั้นรถอ๊อพชั่นมากเกินไป เกินความต้องการ
Fortuner 2.7 4x4 คนถามหารุ่น 2wd เป็นทางเลือกเพราะคิดว่า..........คิดว่ารถ 4x4 ต้องเป็นดีเซล และบางคนอยากใช้แค่ขับ 2wd
พอรุ่น 2wd ออกมาคนจึงทราบว่าฟิลลิ่งรถมันไม่ดีอย่างที่คิด การกินน้ำมันก็ไม่ต่างกัน กลับไปเลือกรุ่น 4wd คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้หลากหลายกว่า


Hilux 2.7 4 doors 4wd A/T รุ่น G
ตอนนั้นคนส่วนใหญ่ต้องการเป็นแค่รถครอบครัว ไม่ต้องการ 4wd มากนัก เช่นเดียวกับข้างต้นคือคิดว่ารถ 4wd มันต้องเป็นเครื่องดีเซล
แต่ความจริงรถรุ่นนี้มีคนตัดรถที่ขายในประเทศไทยเอาไปขาย ต่างประเทศด้วย รวมถึงเอามาทำเป็นรถเช่าให้ สตชและกทม. ใช้
ตอนนั้นคนมองว่าเกียร์ A/T กับ 4wd อ๊อพชั่นอื่นไม่จำเป็น TOYOTA ก็พอรู้เพราะว่ายอดขายรถมันหายไปจากในประเทศ
พอทำ รุ่น2wd ออกมาคิดว่าจะขายดีเอาไปเป็นรถเช่าอีก ปรากฎว่ากาลกลับไม่เป็นดังนั้น เพราะลูกค้าส่วนบุคคลก็ไม่ซื้อ บริษัทรถก็ไม่เอา
เพราะรถเวลาเอาไปให้คนอื่นใช้เช่าช่วงมันต้องเป็นเกียร์ A/T ลูกค้าที่ไหนนิยมเช่ารถเกียร์ธรรมดามาขับ คุณเคยเห็นหรือเปล่า
ลูกค้าส่วนบุคลก็ต้องการรถที่หรูหรากว่าในเมื่อเขาเลือกเครื่องเบนซินแล้ว รถจะต้องหรูหรากว่าปิคอัพดีเซลทั่วไปในตลาด ต้องการอ๊อพชั่นอื่นด้วย
ส่วนฐานลูกค้าเดิมที่ใช้ 4wd ก้อยากซื้ออีกเพราะจัดเป็นรถที่ใช้งานได้ดี แต่รถก็ไม่มีผลิตอีก

Hilux 2.7 cab 4wd
ตัวนี้ยอดขายน้อยมาก ทำออกมาเพื่อกิจกรรมนันทนากรโดยเฉพาะ เอาไว้ลูกค้าที่มีฐานะอยากได้ปิคอัพไว้ใช้ในบ้าน เขาจะเลือกไปใช้ปิคอัพเบนซินเกียร์ A/T 4wd เอาไว้ลากเรือ เล่นพารามอเตอร์ เน้นลูกค้าระดับหรูที่มีเงินมีฐานะแต่อยากมีปิคอัพเอาไว้ที่บ้านด้วย ลูกค้ากลุ่มนี้มีรถเก๋งอยู่แล้วและไม่ชอบปิคอัพดีเซลพวกเขาต้องการรถที่เกรดสูงกว่าดีเซล
ผลตอบรับไม่ดีนัก รถกลุ่มนี้ขายน้อยที่สุด


Hilux 2.7 cab 2wd
คนใช้งานทั่วไป มีหลากหลายจริงๆ ความต้องการเลยหลากหลายตามได้วย กลุ่มนี้มองว่าเอาแค่เกียร์ธรรมดาก็พอ ซื้อมาติดแก๊สยุคน้ำมันแพงแค่นั้น หรือไม่ก็อยากได้ปิคอัพเกียร์ออโต เลยซื้อ
ลูกค้ากลุ่มนี้เยอะที่สุด

แสดงความคิดเห็นย่อย