จาก Auto IP:61.90.149.126
ศุกร์ที่ , 8/8/2551
เวลา : 20:53
อ่านแล้ว = ครั้ง
เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
|
ปั๊มน้ำมันขอนแก่นสายป่านขาด รายเล็กปิดแล้วกว่า 300 แห่ง
ปั๊มน้ำมันขอนแก่นสายป่านขาดทยอยปิดกิจการแล้ว เกือบ 300 แห่ง หลังราคาน้ำมันพุ่งแต่ค่าการตลาดเท่าเดิม จนหลายรายไม่มีเงินหมุนเวียนมาซื้อน้ำมันขาย แม้แต่รายใหญ่ในเมือง ยังต้องใช้มาตรการประหยัด ปรับลดค่าน้ำค่าไฟและคนงาน เผยยอดขายน้ำมันลดลง 20 % เพราะคนเริ่มประหยัดใช้น้ำมันและหันไปใช้ก๊าซบางส่วน
นายสมชาย เจียรนัยพาณิชย์ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยขณะนี้ มีสถานีบริการน้ำมันในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ต้องปิดกิจการลงไปแล้วเกือบ 30% ขณะที่สถานีบริการน้ำมันที่เหลืออยู่ก็ต้องใช้มาตรการประหยัดแทบทุกด้าน แม้กระทั่งการลดคนงาน หรือไม่รับคนทำงานเพิ่ม รวมแม้แต่การลดค่าน้ำ ค่าไฟ และบางแห่งต้องปิดให้บริการในช่วงกลางคืน
ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ทั้ง 26 อำเภอ มีสถานีบริการน้ำมันทั้งรายเล็กและรายใหญ่รวมประมาณกว่า 1,000 แห่ง โดยรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา มีสถานีบริการน้ำมันที่ปิดกิจการลงเกือบ 30% หรือประมาณเกือบ 300 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กที่อยู่ตามอำเภอรอบนอก ซึ่งแทบไม่มีเงินหมุนเวียนหรือมีสายป่านไม่ยาวพอ ส่วนในเขตอำเภอเมืองขอนแก่น จะมีสถานีบริการน้ำมันรวมประมาณ 40 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ มีประสบการณ์มานาน จึงยังไม่มีการปิดกิจการ นอกจากใช้มาตรการประหยัดให้มากขึ้น
"เหตุผลที่ปั๊มหลายแห่งต้องปิดกิจการ เพราะเราต้องซื้อน้ำมันในราคาที่สูงขึ้น ซึ่งต้องดูกันทุกวันว่า จะมีการปรับราคาแต่ละวันอยู่ที่เท่าไหร่ แต่เมื่อซื้อมาแล้ว ที่สถานีบริการน้ำมันแต่ละแห่ง จะมีกำไรลิตรละ 40 สตางค์ ซึ่งกำไรตรงนี้ ไม่มีการเพิ่มหรือลดตามราคาน้ำมัน เพราะถูกกำหนดมาตายตัว อย่างเมื่อก่อน รถบรรทุกน้ำมัน 1 คัน จะมีน้ำมันจำนวน 15,000 ลิตร คิดเป็นราคา 2 - 3 แสนบาท แต่ทุกวันนี้ ในจำนวนน้ำมันเท่ากัน เราซื้อในราคากว่า 7 แสนบาทขึ้นไป แล้วนำมาขายตามราคาที่ถูกกำหนดจากส่วนกลางแต่ละวัน แต่ไม่ว่าจะขายได้มากหรือน้อยแค่ไหน เราก็ยังได้กำไรที่ลิตรละ 40 สตางค์ เช่นเดิม ตรงนี้เป็นเหตุผลหลักที่สถานีบริการน้ำมันหลายแห่งต้องปิดกิจการ เพราะไม่มีเงินหมุนเวียน "
นายสมชาย กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของยอดขายก็ลดลงจากเดิมประมาณ 20% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการประหยัดของประชาชน เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นต่อเนื่อง และบางส่วนหันไปใช้ก๊าซ LPG และ NGV โดยเฉพาะที่สถานีบริการน้ำมันของตน ซึ่งอยู่เขตชุมชนในตัวเมือง เป็นทำเลที่เหมาะสม และประชาชนสะดวกในการเข้ามาใช้บริการ ก็ยังได้รับผลกระทบไม่น้อย โดยมียอดขายลดลงประมาณ 20% คือ จากเดิมที่เคยมียอดขายวันละประมาณ 15,000 ลิตร หรือเท่ากับจำนวนรถบรรทุกน้ำมัน 1 คัน แต่ปัจจุบันลดเหลือวันละไม่เกิน 12,000 ลิตร
จะสังเกตเห็นชัดเจน คือ ในช่วงวันเสาร์ และวันอาทิตย์ ซึ่งที่ผ่านมาจะมีประชาชนจำนวนมาก นำรถมาเติมน้ำมัน และเดินทางไปพักผ่อนในช่วงวันหยุด นับเป็นวันที่มีผู้เข้ามาใช้บริการสูงกว่าวันปกติ แต่ในระยะ 4 - 5 เดือนที่ผ่านมานี้ ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ กลับซบเซาเงียบเหงา แทบไม่มีผู้เข้ามาใช้บริการเติมน้ำมัน ซึ่งคาดว่า นอกจากการประหยัดน้ำมันแล้ว ในช่วงวันหยุดเสาร์ -อาทิตย์ ประชาชนยังประหยัด โดยเลือกที่จะอยู่ในบ้าน มากกว่าที่จะออกมาเที่ยวหรือจับจ่ายใช้สอยใดๆ ยอดขายของเราก็ตกไปด้วย ซึ่งการที่จะอยู่ได้ก็เลือกที่จะต้องประหยัดและลดค่าใช้จ่าย เช่น ไม่รับคนทำงานเพิ่ม หรือถ้าคนเก่าลาออกไปก็ไม่รับเพิ่มหรือไม่รับกลับมาอีก อาจปิดให้บริการเร็วขึ้น รวมทั้งการประหยัดค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่จำเป็น ซึ่งเราคาดว่า ในช่วงปลายปีนี้ ราคาน้ำมันน่าจะลดลงบ้าง และคงจะปรับตัวกันได้ดีขึ้น
จากฐาน
|