คำตอบที่ 1
       ลากได้ แต่ไม่เร็วมาก ไม่เกิน 30 กม./ชม.

ลองดูนี่ครับ
รายการ รู้ทันยานยนต์ ออกอากาศ วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม 2552 ตอน วิธีการลากรถเกียร์ออโต้และธรรมดา
http://youtu.be/Mh2NOM1JYgg

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ถ้ารถเสียลากได้ครับ แต่ตามนั้นคือใช้ความเร็วต่ำและลากในระยะทางที่ไม่มากเกินไป คือไม่ควรมากกว่า 60 กิโลเมตร ไม่งั้นชุดเกียร์ไม่มีน้ำมันเข้าไปหล่อลื่นจะพังได้ ควรลากในระยะทางสั้น ๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       แล้วเวลาขับเร็วๆ อยากจะปล่อยให้รถไหลเองโดยไม่ดับเครื่องยนต์ โดยดึงมาที่ N จะมีผลเสียอะไรไหมครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       สามารถทำได้ครับ แต่ว่าตอนปล่อยลงมาแล้วเกียร์เราโยกจาก N ไป D ในขณะรอบสูงทำให้หน้าคลัทซ์และลูกปืนภายในเกียร์สึกหรอมาก
เหมือนกับเกียร์ธรรมดาที่เราเหยียบคลัทต์ 20-30 ครั้งต่อการใช้งานรถ 1 ครั้ง ซึ่งสูงมากและก็ทำให้คลัทซ์ในเกียร์สึกหรอมาก ตัวเลขนี้คนใช้เกียร์ธรรมดาชาชินมากเพราะไม่เคยนับต่างหาก กรณีใช้เกียร์ออโตเขาจึงไม่นิยม Shift เกียร์เล่นเหมือนกับการเปลี่ยนเกียร์ธรรมดา เพราะการสึกหรอนั่นเอง แต่ที่จริงเกียร์ออโตเราเปลี่ยนเกียร์ได้เหมือนเกียร์ธรรมดาและเปลี่ยนได้เร็วกว่าเกียร์ธรรมดาถึง 8 วินาที สำหรับพวกเกียร์เพาเวอร์ชิฟทั้งหลาย

ขอบคุณครับ จาก : taka_vvti(taka_vvti) 20/4/2555 10:18:41 [124.121.163.132]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
      
เอาภาพมาฝาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       ปี 47 ไปงานผ้าป่าที่ประเทศลาว แล้วรถที่ไปเสีย เลยต้องลากขึ้นมาจากแพข้ามโขงขึ้นมาบนฝั่ง ไปตามช่างมาซ่อม

ลากได้...แต่ต้องระยะไม่ไกล

 แก้ไขเมื่อ : 23/4/2555 22:54:34

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ผมเสริมให้ทุกท่านทราบดังนี้ รถคุณ R400 เป็นเกียร์ออโต 4wd นะครับ
ใช้วิ่งลุย off road มาเยอะมากและก็วิ่ง...งานหนักด้วย ออฟโรดที่ไปนั้นเส้นทางระดับโหดเลยล่ะ ระดับพวกวางคานกันเลยทีเดียว
ยืนยันความทรหดของเกียร์ออโตและรถคุณ R400 ที่ใช้อยู่
นอกจากนี้ กลุ่มออฟโรดรุ่นใหญ่ ที่ผมรู้จัก ระดับเทพ ทั้งวางคาน AIR Locker Winch warn หน้าหลังทุกคัน อาวุธเพียบ จำนวนนี้มากกว่า 70% พวกเขาหันมาใช้เกียร์ออโต กันหมดแล้วนะครับ รวมถึง Vigo ที่พวกเขาซื้อมาเล่นกันก็ใช้เกียร์ออโตกันหมดแล้ว


เพราะฉะนั้นผมจึงติดเบรคหลาย ๆ ท่านที่จะซื้อ 2.7 เกียร์ธรรมดามาใช้ รวมถึงคนที่หันไปซื้อ 2.5 prerunner เกียร์ธรรมดามาใช้
รวมถึง Ford New Ranger รุ่นปัจจุบัน เลือกปิคอัพเลือกเกียร์ออโตดีกว่า โลกมันเปลี่ยนตามยุคสมัย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
      
ปัจจุบัน รถแข่งกราตูน์ หลายคัน เป็นเกียร์ออโต้ครับ จำไม่ได้ปีไหน รถเฮียสือ เจ้าของชุดยกซัน ได้เป็นรองแชมป์หรือแชมป์อะไรนี่แหละ

คลิป ปิเตง มาฝาก ปี 2009

http://www.youtube.com/watch?v=QENKAYor_M0&feature=related

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       คือผม เข้าใจเป็น 2 ประเด็น สำหรับ คำถาม ในกระทู้นี้นะครับ
1.คือ นำรถ เกียร์ออโต ไปลากรถที่เสีย ?
2.คือ รถเกียร์ ออโต เสีย วิ่งไม่ได้ เลยต้องให้ รถมาช่วยลากรถที่เป็นเกียรออโต ?

รบกวน ท่านๆ สมาชิก ด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       ในกระทู้นี้มี 2 ประเด็นจริง
1. ที่ จขกท. ถามว่ารถเสียสามารถลากได้ไหม
ตอบ ลากได้ ใช้ความเร็วต่ำไม่เกิน 30 km/h และลากในระยะทางที่ไม่มากเกินไป คือไม่ควรมากกว่า 60 กิโลเมตร

2. เกียร์ออโตสามารถลากรถคันอื่นได้หรือไม่

ตอบ........ได้ครับ แต่ไม่ควรให้รถกระตุกโดยเด็ดขาดไม่งั้นชุดเกียร์เสียหาย ควรลากแบบนิ่ม ๆ ค่อยเป็นค่อยไป จะไปกระชากแบบเกียร์ MT ไม่ได้
แล้วก็ ถ้าเป็นรถ 4wd จะเหนือชั้นกว่ารถ 2wd ในการลากจูงหนัก คือให้ใช้เกียร์ 4wd 4L หรือ LL เกียร์สุดท้าย ปรับอัตราทดให้สูงขึ้นในการลากจูง กำลังของรถจะเพิ่มมหาศาล ลดการสึกหรอของรถลงไปได้ แต่ได้เฉพาะความเร็วต่ำต้องการกำลังฉุดมาก ถ้าลากด้วยความเร็วไม่หนักอะไรก็ใช้เกียร์ D หรือเร้วไม่มากใช้ D3 ในการลากจูง

อื่น ๆ รอชาวเรือมาตอบ ในนี้มีสมาชิกหลายคน ใช้ รถ 2.7 vvti 4x4 และเป็นคนเล่นเรือกันหลายคน มักจะลากเทรลเลอร์บรรทุกเรือไปลงน้ำกันบ่อย ๆ

ขอบคุณครับ ชัดเจนดี จาก : aod_ae(aod_ae) 27/6/2555 10:17:45 [58.8.72.113]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
      
2.คือ รถเกียร์ ออโต เสีย วิ่งไม่ได้

ถ้ารถมี 2เพลาก็ถอดออกหมด เพื่อไม่ให้ชุดเกียร์เสียหาย (ไม่ให้เกียร์หมุน )

จากนั้น จะลากแบบไหนก็ได้

ภาพมาฝาก พสาติกสีเหลือง เอาไว้ดูว่า น็อตล้อคลายตัวหรือยัง สะดวกดี ไม่ต้องไล่ขันน็อตล้อบ่อยๆๆๆ

ล้ออะไรหรอครับ ทำไม รู มันเยอะจัง ^^" จาก : aod_ae(aod_ae) 27/6/2555 10:20:02 [58.8.72.113]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
      
ล้ออะไรหรอครับ ทำไม รู มันเยอะจัง ^^"
จาก : aod_ae(aod_ae) 27/6/2555 10:20:02 [58.8.72.113]

เป็นรถเมล์ที่ ดอนลอน ครับ พสาติกสีเขียวอ่อน เอาไว้ดูว่า น็อตล้อคายตัวหรือไม่

ไม่ต้องมาคอยขันน็อตใหม่ แบบนี้มองแว๊บเดียวก็รู้ว่าคายตัวหรือไม่

สะดวดดี ประหยัดแรงงาน

มีภาพมาฝาก

คันนี้ มีทะเบียนรถด้วย คนขับต้องใส่หมวกกันน็อคด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
      
ภาพมุมกว้าง ย่านคนมีตังค์

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
      
น่าห่วง การใช้งานเกียร์ออโต ขอเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่อีกที

การใช้งานเกียร์ออโตของ 2.7

1. ห้ามเข้าเกียร์ P ขณะรถจอดติดไฟแดง
2. ขณะติดไฟแดงให้เหยียบเบรคเกียร์คาไว้ที่ตำแหน่ง D อย่าโยกเกียร์มาที่ N
3. ถ้าคิดว่าจะติดไฟแดงนานมากเกินกว่า 3 นาที ให้เปลี่ยนมาที่ N แล้วดึงเบรคมือขึ้นให้สุด ( รถเกียร์ออโตต้องตั้งเบรคมือให้ตึงอยู่เสมอ )
4. ขณะเข้าเกียร์ N ห้ามคนขับรถลงมาจากรถโดยเด็ดขาดไม่ว่ากรณีใดใด ทั้งสิ้นแม้ว่าจะดึงเบรคมือขึ้นสุดแล้วก็ตาม เพราะว่ารถจะไหลเคลื่อนตัวได้หรือสามารถดีดกลับเข้ามาตำแหน่ง R ได้โดยไม่คาดคิด เบรคมือก็ไม่สามารถจับ ต้านทาน กำลังเครื่องไว้ได้

5. ขณะขับรถถ้าจะเร่งแซงให้คิกดาวน์รถ หรือโยกจาก D ไปหา 3 แต่วิธีการคิกดาวน์โดยกดคันเร่งให้ลึกแบบรวดเร็วจะสึกหรอน้อยสุด
6. การใช้งานขณะขับลงเขา ให้ใช้เกียร์ช่วยเบรคตำแหน่ง 2 - L ถ้าเป็นรถ 4wd ให้ใช้ HL LL ช่วยในการขับลงเขาเพื่อความปลอดภัยและรักษา Engine brake ให้มากขึ้น
7. ขณะจอดรถต้องเข้าเกียร์ P ทุกครั้งจึงลงจากรถได้ แม้รถจะไม่ติดเครื่องยนต์อยู่ก็ตาม
8.ไม่ควรโยกเกียร์เล่นขณะขับรถทางเรียบปกติ ไม่ว่าตำแหน่งใดก็ตาม ยกเว้นใช้ Engine brake 2- L ขณะขับลงเขาเท่านั้น
การโยกได้อนุญาตเฉพาะสับ Kick down ตำแหน่ง D- 3 เท่านั้น เพราะห้องเกียร์ จะถูกแยกกันระหว่าง D 2 L เอามาใช้ด้วยกันไม่ได้ในภาวะปกติ
9. การขึ้นเขา ต้องใช้เกียร์ 3 เพื่อสร้างกำลังในการไต่เขาสลับ ห้ามใช้เฉพาะเกียร์ D ในการขึ้นเขาสลับเพราะเกียร์ทำงานหนักสึกหรอมาก
10. ถ้าภูเขาชันมาก ให้ สลับ 3 - 2

11 ข้อนี้ก็สำคัญ และห้ามมองข้าม เกียร์ออโตทำงานสัมพันธ์กับระบบเบรค ABS การใช้เกียร์ออโตรถก็ควรต้องมี ABS เป็นอุปกรร์มาตรฐาน ถ้า ABS พังเกียร์ของรถมักโยกเข้าตำแหน่ง D ไม่ได้ เพราะบริษัทรถยนต์อย่าง TOYOTA BMW ล้วนออกแบบมาเหมือนกันแบบนี้ทั้งสิ้น คือห้ามใช้รถที่ไม่มี ABS หรือจะขับรถต่อไปโดยที่ไม่มี ABS ไม่ได้

12. เกียร์ CVT จะมีการขับที่แตกต่างกันออกไป

13. ข้อนี้สำคัญสุด ................ ไปเรียนการขับรถจาก TOYOTA TRAINING เถอะ ............ พูดมาจะหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ยอมไปเรียนกัน

ขนาดบริษัทอย่างคาวาลิโนมอเตอร์ที่เขาขาย เฟอรรารี่ในไทย ยังต้องอบรมการขับรถให้ลูกค้าเลยครับ

ขอบคุณมากๆเลยครับ/ถ้ามีเปิดเรียนแจ้งpmให้ทราบด้วยนะ ขอบคุณมากๆ จาก : aod_ae(aod_ae) 14/7/2555 19:57:54 [110.49.235.82] โหลดใบสมัครเองเลยที่ TOYOTA TRAINING ครับมีอบรมตลอด จาก : Auto.(Auto.) 20/7/2555 13:31:16 [202.80.239.130] ถ้าอยากเก่งขึ้นอีกก้เรียนหลักสูตรต่อไปถ้าผ่านขั้นแรกไปแล้ว จาก : Auto.(Auto.) 20/7/2555 13:31:55 [202.80.239.130]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       เขียนเป็นความรู้

1. คนหลายต่อหลายคน จะมากกว่า 90% เข้าใจผิดเวลาให้ไปฝึกขับรถ มักจะให้ไปฝึกเกียร์ธรรมดาก่อน แล้วค่อยไปหัดขับรถเกียร์ออโต ด้วยความเข้าใจคิดว่าเมื่อขับเกียร์ธรรมดาแล้วการฝึกขับเกียร์ออโตจะเป็นง่าย

2. หรือคนอีกจำพวกนึงก็จะไปหัดขับเกียร์ออโตเลยเพราะไม่คิดว่า ชีวิตนี้ตนเองจะซื้อเกียร์ธรรมดามาขับเลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องไปหัดขับรถเกียร์ธรรมดาแต่อย่างใด



ความจริง

1. การฝึกหัดขับรถที่ถูกต้อง จะต้องเริ่มจากเกียร์ออโตก่อนจากนั้นฝึกฝนการใช้เกียร์ออโตให้เป็น การใช้สายตาให้เป็น อ่านจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ของเกียร์ออโต ให้เป็นเสียก่อน จากนั้นจึงจะไปหัดขับเกียร์ธรรมดาต่อไป ซึ่งจะเป็นสเตปที่สูงขึ้น เมื่อเราอ่านจังหวะของเกียร์ออโตได้ถูกต้องแล้ว การขับเกียร์ธรรมดาจะง่ายขึ้นและปลอดภัยกว่าเพราะเราจะทราบว่าเวลาไหนจะต้องเปลี่ยนเกียร์เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและสัมพันธ์กับความเร็วของรถ
เรื่องการสอนแบบนี้ไม่มีโรงเรียนสอนขับรถที่ไหนเขาสอน หรือ บรรดาคนทั้งหลายก็เอาเทคนิคผิดผิด ไปสอนถ่ายทอดให้ความรู้กับคนในครอบครัวให้เขาจำในสิ่งผิด ๆ เพราะว่าไม่เคยสอนการใช้เกียร์ สำหรับรถเกียร์ออโตในแต่ละแบบซึ่งจะต่างกัน การใช้สายตาในการมอง ซึ่งสำคัญที่สุด รวมถึงการอ่านจังหวะ เพราะคอมพิวเตอร์มันอ่านไปแล้วแต่คนขับรถยังจับจังหวะไม่ได้เลย


2. การขับเกียร์ออโตอย่างเดียว แน่นอนไม่ผิดอะไร สำหรับคนที่ต้องการมีรถแค่เกียร์ออโตเพียงอย่างเดียวในชีวิตนี้
แต่การฝึกฝนในระดับที่สูงขึ้นเป็นการเพิ่มพูนความรู้ทักษะให้มากขึ้นไปอีก ประเภทรู้ไว้ใช่ว่า ในการฝึกขับรถสำหรับ TOYOTA TRAINING หรือโรงเรียนฝึกขับรถยนต์ Singha school นั้นเขาจะให้ทุกคนผ่านหลักสูตรพื้นฐานก่อน หลังจากนั้นในระดับที่สูงขึ้นของโรงเรียน Toyota training และ Singha คือหลักสูตรสำหรับ Advance ผู้ขับขี่ต้องฝึกทักษะการใช้เกียร์ธรรมดา สำหรับทักษะที่สูงขึ้น หรือแม้แต่หลักสูตรของการเป็นนักแข่งรถก็ต้องมาฝึกฝนการใช้เกียร์ธรรมดาให้มีประสิทธิภาพ เช่นเคยในสิ่งเหล่านี้มันไม่มีโรงเรียนสอนขับรถที่ไหนเขาสอน นอกจากโรงเรียนจากบริษัทรถยนต์โดยตรง ใครหลายคนมักไปสอนกันเองด้วยการถ่ายทอดความรู้กันผิด ๆ กันมาแล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       ความรู้ในการขับรถ คุณลักษณะของเกียร์ AT MT

ในแบบของเกียร์ AT พัฒนาขึ้นมาจากอดีตเพื่อให้ควบคุมรถได้ง่ายและปลอดภัย โดยได้นำเอา ECU สมองกลคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อประมวลผลการขับขี่และเพื่อให้การเปลี่ยนเกียร์สัมพันธ์กับเครื่องยนต์ของรถรุ่นใหม่ ๆ ที่พัฒนามาทั้งแรงบิดและแรงม้า จึงจำเป็นต้องใช้เกียร์ออโตควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยเพื่อให้การขับขี่ง่ายขึ้น ผู้ขับขี่สามารถดึงประสิทธิภาพของรถออกมาใช้ได้เต็มที่ในชีวิตประจำวัน ไม่ต่างจากเกียร์ธรรมดา โดยที่ผู้ขับรถไม่ต้องมีทักษะระดับสูงมากนัก เป็นการใช้งานเพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้าในยุคปัจจุบัน
1.เกียร์ออโตถูกแบ่งได้หลายแบบ
1.1. CVT ถูกนำมาใช้กับรถขนาดเล็กเป็นหลัก เนื่องจากต้นทุนมีราคาถูกมากโดยราคาอาจจะถูกกว่าเกียร์ธรรมดาด้วยซ้ำ และมีราคาเพียง ครึ่งนึงของเกียร์ออโตแบบอื่น ๆ มี น้ำหนักเบา ชิ้นส่วนน้อย ไม่เสียพื้นที่ การตัดต่อกำลังราบเรียบมากไม่มีสดุด แต่ก็มีข้อเสียคือซ่อมบำรุงแพง อายุการใช้งานไม่ทนทาน แรงบิดน้อยจึงไม่เหมาะกับรถที่ต้องการใช้กำลังมากนัก การขับขึ้นเขาลงเขาผู้ขับขี่ต้องใช้ทักษะสูงกว่าปกติจึงจะปลอดภัย แต่เรียนรู้ง่ายใช้งานง่ายกว่าแบบอื่น ๆ

1.2. เกียร์ออโตแบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ แบบนี้เป็นเกียร์รุ่นเก่าที่สุดแต่ก็มีความทนทานที่สุดเหมือนกัน ข้อเสียในอดีตคือเกียร์แบบนี้สูญเสียกำลังเครื่องยนต์มากเปลี่ยนเกียร์ช้ามาก ปัจจุบันก็มีการแก้ไขจุดด้อยดังกล่าวด้วยการใช้คอมพิวเตอร์เข้ามาควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แทนทำให้เกียร์ตัดต่อเร็วมาก ไม่สูญเสียกำลังเหมือนในอดีต จึงให้อัตราเร่งที่ดีกว่าการใช้รถเกียร์ธรรมดา ประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิม


1.3.เกียร์ออโตแบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์ แต่เพิ่ม Pedal shift เข้าไป เป็นการผสมผสานกันระหว่างเกียร์ออโตแบบทอร์คคอนเวอร์เตอร์และเกียร์ CVT คือเอาจุดเด่นและจุดด้อยมารวมกัน เนื่องจากเกียร์ CVT สามารถเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยได้ แต่ข้อเสียไม่ทนทาน แต่เกียร์แบบทอร์คเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยไม่ได้แต่ทนทานกว่ามาก ผลจากการผสมผสานกันจึงได้เกียร์แบบนี้ออกมา แบบที่วางใน Pajero sport 2.5 GT ดีเซลในรุ่นปัจจุบัน โดยคนขับสามารถเลือกขับรถได้ทั้งแบบเกียร์ออโต หรือจะเลือกขับรถแบบเกียร์ธรรมดาก็สามารถทำได้เช่นกัน ทั้งนี้เนื่องจากสภาพปัจจุบันในการใช้งานจริงนั้นรถยนต์ถูกออกแบบมาให้ใช้เป็นเกียร์ออโตมากกว่าจะเป็นเกียร์ธรรมดา แต่เมื่อใดที่ผู้ขับขี่อยากสนุกเร้าใจมากขึ้นก็สามารถเลือกการปรับเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยได้เอง หลังจากนั้นการใช้งานในชีวิตประจำวันผู้ขับขี่ก็จะกลับมาใช้งานแบบเกียร์ออโตเหมือนเดิมโดยที่ผู้ขับสามารถเลือกได้ เพราะการใช้งานแบบเกียร์ธรรมดาไม่สอดคล้องกับปัจจุบันผู้ขับจึงมักใช้การเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยเป็นครั้งคราว เหมือนเป็นลูกเล่นมากกว่า


1.4.เกียร์ออโตแบบเพาเวอร์ชีฟ แบบนี้มักมีในรถหรูหราราคาแพงเป็นหลักอย่างเช่นรถ BMW รุ่นใหม่ ๆ หรือปอร์เช่ แต่ถูกนำมาบรรจุไว้กับ Ford Focus เพราะราคาเกียร์ออโตแบบนี้มีราคาเกินลูกล่ะ 230,000 บาท ขึ้นไป ข้อดีของเกียร์แบบนี้คือการพัฒนามาจากเกียร ทอร์คคอนเวอร์เตอร์แบบแรกแต่ผสมผสานกลไกการทำงานเกียร์ธรรมดาเข้าไปด้วย เกียร์แบบนี้จะมีชุดคลัทซ์เหมือนกับเกียร์ธรรมดาแต่มีชุดคลัทซ์ถึง 2 ชุดด้วยกัน ข้อดีหลัก ๆ คือเกียร์ทนทานมากตลอดอายุการใช้งานของรถยนต์คันนั้นแทบไม่มีการปลดมาซ่อมเลย การเปลี่ยนเกียร์รวดเร็วแม่นยำมาก โดยสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เร็วกว่าเกียร์ธรรมดาถึง 8 วินาที อันเป็นข้อจำกัดที่เกียร์ออโตแบบอื่น ๆ ยังไม่สามารถทำได้ และเกียร์เพาเวอร์ชีฟแบบนี้สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เร็วกว่านักแข่งในสนามแข่งแรลลี่อาร์ตทั่วโลก หลังจากนั้นทีมแข่งแรลลีโลกจึงมีการพัฒนาเกียร์ธรรมดาให้ใกล้เคียงเกียร์ออโตแบบเพาเวอร์ชีฟ ให้นักแข่งแรลลี่โลกสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เร็วกว่าเดิม โดยเอาคอมพิวเตอร์มาช่วยในการสั่งงานนักแข่ง



2.เกียร์ธรรมดา ใช้งานกันมาแพร่หลายนานแล้วเพราะในอดีตมีข้อจำกัดทางด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ที่จะพัฒนาเข้ามาแทนสมองของคนเราในการเปลี่ยนเกียร์ แต่ปัจจุบันการพัฒนาทางด้านคอมพิวเตอร์จะทดแทนการใช้งานเกียร์ธรรมดาให้มีจำนวนน้อยลงไปในอนาคต เพราะเกียร์ธรรมดาที่มีข้อจำกัดในการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน แต่ในสนามแข่งเกียร์ธรรมดายังเป็นที่นิยมใช้กันอยู่อันเนื่องมาจากคุณลักษณะบางประการ

ผมยกตัวอย่างให้เป็นความรู้ ในรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์แต่ละยี่ห้อล้วนมีลักษณะบุคลิกเฉพาะตัวของรถยี่ห้อนั้น ๆ ถึงแม้จะเป็นรถเหมือนกัน ลักษณะใกล้เคียงกัน แต่เวลาที่พิสูจน์กันในสนามแข่งระดับโลกจะมีคุณลักษณะพิเศษในความแตกต่างที่มีการออกแบบกันมาตั้งแต่แรกเริ่มปรากฎชัดออกมา โดยนักแข่งจะเป็นคนเค้นประสิทธิภาพนั้นออกมาให้มากที่สุด

2.1 การใช้เกียร์ขณะเข้าโค้ง ในรถบางยี่ห้อในโลกนี้นักแข่งรถแรลลี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ลดเกียร์ขณะเข้าโค้งได้ อันเป็นคุณลักษณะพิเศษของรถยี่ห้อนั้นที่ออกแบบมา โดยที่นักแข่งที่ใช้รถแบบนี้รถของตัวเองอาจจะมีอัตราเร่งน้อยกว่าผู้อื่น แต่ว่านักแข่งจะใช้การลดเกียร์เปลี่ยนเกียร์ในขณะที่อยู๋ในทางโค้งแบบทางเรียบ เพื่อไม่ให้เสียเปรียบคู่แข่งขันรายอื่น ปัจจุบันเทคนิคนี้มีการนำมาใช้กับเกียร์ออโต
การเปลี่ยนเกียร์แบบนี้ไม่สามารถนำมาใช้กับชีวิตประจำวันได้เพราะสมองคนเราไม่สามารถประมวลผลการเปลี่ยนเกียร์ที่แม่นยำขณะเข้าโค้ง รวมถึงความสามารถอันจำกัดของแต่ละบุคคลที่ไม่เท่ากันจึงอาจเกิดอุบัติเหตุได้แทนที่จะปลอดภัย จึงเป็นที่มาของรถที่ใช้เกียร์ออโตบางยี่ห้อเอาจุดด้อยมาพัฒนาใส่กับเกียร์ออโตของตนเองให้เกียร์ออโตเป็นคนเปลี่ยนเกียร์ให้แทนขณะเข้าหรือผ่านโค้งในช่วงเวลานั้น แทนการใช้เกียร์ธรรมดาที่ด้อยกว่า (ปัจจุบันมีรถปิคอัพในเมืองไทย 1 รุ่นที่ใช้เกียร์ออโตเมติกแบบนี้ เปลี่ยนลดเกียร์ขณะเข้าโค้ง เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นหลัก)

2.2 การกระแทกคันเร่งขณะเข้าโค้ง รถบางยี่ห้อใช้เทคนิคแบบนี้ในการแข่งขัน ส่วนใหญ่จะเป็นรถที่ช่วงล่างดีฐานล้อกว้างกว่าคู่แข่ง แต่จะไม่สามารถเข้าโค้งแคบแคบได้เหมือนรถคันอื่น จึงต้องใช้เทคนิคพิเศษที่รถรุ่นนั้นทำได้ด้วยการให้ท้ายสไลด์ เพื่อใช้ความเร็วสูงในการเข้าโค้งแต่เข้าโค้งที่วงนอกและให้รถนั้นสไลด์ออก อาจเป็นการกระแทกคันเร่งลงไปหรือเปลี่ยนเกียร์เพื่อให้รถนั้นสไลด์ 1 จังหวะก่อน การเปลี่ยนเกียรืจะทำเสร็จสิ้นก่อนถึงทางโค้ง แต่รถแบบนี้ช่วงล่างต้องดีมาก โช๊คของรถจะยุบตัวเพียง 1 มิลลิเมตร
วิธีแบบนี้อาจจะพบได้ในชีวิตประจำวันสำหรับคนที่ขับรถเกียร์ธรรมดาและช่วงล่างไม่ดี คือรถท้ายปัดขณะก่อนเข้าโค้งและควบคุมไม่ได้อีกจนเป็นการเกิดอุบัติเหตุ เพราะรถยนต์ไม่ได้ทำสำหรับการแข่งขัน การเพิ่มหรือลดเกียร์สำหรับรถแบบนี้จะถูกกระทำให้เสร็จสิ้นก่อนจะเข้าโค้ง นักแข่งจะประมวลผลเองว่าขณะผ่านโค้งนี้ไปเกียร์ของรถจะอยู่ตำแหน่งอะไร

2.3 การสไลด์รถขณะออกจากโค้ง หรือเปิดคันเร่งขณะรถกำลังออกจากโค้ง แบบนี้รถเกียร์ธรรมดาที่มีช่วงล่างดีและเครื่องยนต์มีกำลังสูงที่รอบสูงจะทำ มักเป็นเทคนิคระดับสูงที่มักทำให้ชนะผู้แข่งขันรายอื่นได้ ขณะเลี้ยวโค้งด้วยความเร็วเท่ากัน แต่รถแบบนี้นักแข่งจะสไลด์รถด้านท้ายให้ดิ้นออกด้วยการกดคันเร่งให้รถพุ่งไปข้างหน้าขณะที่รถกำลังจะผ่านโค้ง จะชิงจังหวะได้เร็วกว่านักแข่งรายอื่น รถอาจจะสไลด์นิดนึงหรือไม่เกิดการท้ายปัดเลยก็ได้ แต่รถจะหลุดจากโค้งได้เร็วกว่า รถแบบนี้เกียร์ธรรมดาจะทำได้แต่นักขับต้องฝึกฝนทักษะเชิงสูงเป็นพิเศษและเกียร์ของรถต้องปรับอัตราทดในระยะประชิดมากกว่าปกติ รถบางยี่ห้อที่มีโครงสร้างตัวถังที่กว้างจึงทำได้ เพราะรถหลายรุ่นเปิดคันเร่งขณะขับออกจากโค้งไม่ได้
แต่วิธีแบบนี้ถ้านำมาใช้กับรถธรรมดากับคนปกติลองคิดดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น รถจะทะลุราวเหล็กกั้นขอบถนนพุ่งตกลงข้างทาง โดยที่คุมรถไม่ได้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดเพราะช่วงล่างเราไม่ได้ทำมาสำหรับรถแข่งและความสามารถของเราก็ไม่ได้เป็นนักแข่งแรลลี่




จากข้อสรุปที่ทำให้เราเห็นภาพดังกล่าวของรถ เราจะเห็นได้ว่าถ้าเป็นการขับรถในสภาวะปกติในชีวิตประจำวันทั่วไป เกียร์ออโตจะเหนือกว่าเกียร์ธรรมดาค่อนข้างเยอะ ในด้านประสิทธิภาพการใช้งาน
แต่ถ้าเป็นในการแข่งขันที่รถได้ถูกเซทออกมาสำหรับการแข่งขัน นักแข่งระดับโลกจะดึงเอาความสามารถของเกียร์ธรรมดามาใช้ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงบุคคลิกของรถแต่ล่ะยี่ห้อจะปรากฎออกมาในสนามแข่งขัน แต่ด้วยข้อจำกัดของเกียร์ธรรมดาแบบนี้ที่นำเอาคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ด้วย และระบบทำให้เกียร์มีราคาแพงกว่าเกียร์ออโตปกติหลายเท่า จึงมักจะอยู่ในรถแข่งแรลลี่โลกหรือรถสปอร์ตราคาแพงหลายล้านบาทกับการขับด้วยเกียร์ธรรมดาเพราะต้องมีช่วงล่างที่ดีในการรองรับเกียร์แบบนี้ตามไปด้วย
ถ้าเป็นเกียร์ธรรมดาปกติ กลไกที่ใช้กันอยู่ในรถทั่วไปหรือรถตลาด การขับขี่จึงมีข้อด้อยกว่าเกียร์ออโตยุคใหม่ ๆ ทั้งเรื่องความปลอดภัยในการใช้ งาน การเปลี่ยนเกียร์ที่ช้ากว่ามาก รวมถึงความทนทานที่สู้เกียร์ออโตรุ่นใหม่ ๆ ไม่ได้แล้ว เพราะกำลังเครื่องยนต์ที่มากขึ้นตามลำดับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       ตอนนี้ลูกค้าที่สั่งจอง Fortuner 3.0 กำลังใจจดจ่อกับเกียร์ ออโต้ 5 Speed ที่กำลังจะมาถึง
แต่ในขณะที่ Hilux 2.7 ยังต้องกลับมาสู่จุดเดิมด้วยการใช้เกียร์ธรรมดา 5 speed เหมือนปิคอัพทั่วไป
เห็นแบบนี้เศร้าใจหนักหนา

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       หลายคนที่จองรถ 2.5 ดีเซลเกียร์ธรรมดา ไว้เปลี่ยนมาเป็น 2.5 AT เกียร์ออโตกันเยอะเลย ตลาดช่วงนี้ของดีเซลคึกคักมากเป็นพิเศษ แต่ราคา 2.5 AT ก็แพงขึ้นมาเยอะใกล้เคียงกับตัว 3.0 คนยอมรับในการใช้ปิคอัพเกียร์ออโตกันมากขึ้น แต่รถมือ 2 เกียร์ธรรมดาจะมีราคาถูกลง อนาคตที่มีการพยากรณ์กันไว้เกียร์ออโตจะเข้ามาแทนที่เกียร์ธรรมดา มากขึ้น

ปวดใจและเศร้าใจกับ Hilux 2.7 ตอนนี้จริง ๆ รถใหม่เหลือแต่รถเกียร์ธรรมดาให้ เลยไม่คึกคักเท่าเวปคนอื่นเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       2. ขณะติดไฟแดงให้เหยียบเบรคเกียร์คาไว้ที่ตำแหน่ง D อย่าโยกเกียร์มาที่ N

ขณะรถหยุดชั่วขณะมีผลอย่างไรครับ เพราะติดไฟแดง 30วิ ผมก็เอามาที่ N แล้ว เหยียบเบรคค้างแล้วเมื่อย กลัวเผลอปล่อยเบรคอีกต่างหาก
เพราะ 30วิ บางทีก็เปิดเกะหานั่นนี่ หยิบโทรศัพท์มาเปิดดูนั่นนี่ได้น่ะครับ


ตอบ................ คุณ Taka_vvti ทำถูกแล้วที่เวลาเอื้อมหยิบของแล้วปลดมาที่ N แล้วดึงเบรคมือ ผมเองก็ยังเคยเผลอเรอเรื่องนี้เหมือนกัน อันตรายเพราะรถจะไหลไปชนกับคันหน้า

ทีนี้มาดูวิธีการปฏิบัติถึงในการเข้าเกียร์
1. การจอดรถเพียงสักครู่นึง เหตุที่ต้องเหยียบเบรคค้างเอาไว้ก็เพราะว่า เกียร์ออโตมันก็มีลูกปืนราวเกียร์และมีแผ่นคลัทซ์เช่นเดียวกับเกียร์ธรรมดา ไม่ต่างกันหรอกครับ ขณะเราจอดเพียงสักครู่เราโยกเกียร์มาที่ N ในขณะที่รีบรีบ ออกตัวช่วงเป็นไฟเขียวให้ลองสังเกตุจังหวะการโยกเกียร์จาก N ไป D ช่วงนี้มันจะ Slip หรือฟรีไปกับคลัทซ์นิดนึงพร้อม ๆ กับลูกปืน ช่วงนี้เป็นจังหวะที่แผ่นคลัทซ์จะสึกหรอมากขึ้น ทำให้อายุเกียร์สั้นลง เพราะจังหวะที่เราเปลี่ยนหรือโยกแบบนี้มันจะไม่ต่างอะไรกับเกียร์ธรรมดา เพราะเกียร์ธรรมดาเราต้องเหยียบคลัทซ์ไปเพื่อให้คลัทซ์จากออกตัดกำลังในขณะเปลี่ยนเกียร์ หลังจากเข้าเกียร์แล้วปล่อคลัทซ์แผ่นคลัทซ์จะกลับมาสัมผัสกับพวกหวีคลัทซ์อีกครั้งมันจะฟรีหรือสึกหรอสูง ใครเลี้ยง ๆ คลัทซืก็จะเจอปัยหามากขึ้นคือแผ่นคลัทซ์หมดเร็วหรือจานไหม้
ในเกียร์ออโตกระบวนการไม่ต่างกัน ถ้ามีการโยกเปลี่ยนเกียร์บ่อย อายุเกียร์จะสั้นลงเหมือนเกียร์ธรรมดาที่ไม่ค่อยทน เพราะเกียร์ธรรมดาวันนึงเราต้องเหยียบคลั๊ทซ์ประมาณ 10-20 ครั้ง / การใช้งาน 1 ครั้ง การสึกหรอของเกียร์จะสูงกว่า
แต่ถ้าเกียร์ออโตไปเปลี่ยนแบบนั้นการสึกหรอก็ไม่แพ้กัน พวกเกียร์ออโตแบบ CVT ที่มีการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ Joy stick ไปเปลี่ยนแบบนั้นก็มักจะพังเร็วเช่นกัน

ต่อมาการขณะติดไฟแดง เราควรเหยียบเบรคและไม่ควรเปลี่ยนเกียร์เร็วเกินไป ควรใช้การเหยียบเบรคคาไว้แบบนั้นและควรดึงเบรคมือช่วยไม่ควรปล่อยให้รถไหล ๆ หยุด ๆ แบบนี้ก็สึกหรอกับแผ่นคลัทซ์มากผิดปกติเหมือนกันเพราะเหมือนเป็นการเลียคลัทซ์ คือจะจอดก็จอดให้รถนิ่งสนิทไปเลยอย่าไปปล่อยไหลแบบกระย้อกกระแย้ก ๆ ไม่กล้าตัดสินใจ by Auto

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       ต่อมาขณะจอดรถเป็นเวลานานหรือติดไฟแดงเป็นเวลานาน แบบนี้ควรโยกเข้าเกียร์มาที่ตำแหน่ง N แล้วดึงเบรคมือขึ้นให้สุด เพระว่า
เราจะไปเหยียบเบรคให้ตัวเองเมื่อยทำไมล่ะครับ ขณะรถจอดติดแบบนี้
อีกอย่างนึง รถขณะจอด เราเหยียบเบรคแล้วคาเกียร์ตำแหน่ง D ไว้ถ้านานเกินไปมันก็สึกหรอสูงเหมือนกัน เพราะทั้งน้ำมันเกียร์ และความร้อนสะสมเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมียางแท่นเกียร์ ยางแท่นเครื่องที่จะสึกหรอมากขึ้นจากจังหวะตัดต่อของเกียร์กับแอร์ Idler speed อีก


ขอให้จำสูตรว่าถ้ารถไม่ติดนานเกิน 3 นาที ให้เหยียบเบรคคาไว้ ดึงเบรคมือขึ้นให้สุด แล้วไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์
แต่ถ้ารถติดนานให้เปลี่ยนมาที่ N ดึงเบรคมือขึ้นให้สุดเหมือนกัน เวลาไฟเขียวให้โยกเกียร์มาที่ D แล้วค่อย ๆ เหยียบคันเร่ง ตำแหน่งจาก N ไป D ห้ามเหยียบกระโชกหรือคิกดาวน์ในตอนนี้เพราะคลัทซ์จะสึกหรอเร็วมาก

ถ้าจะเหยียบคันเร่งให้เร็ว เกียร์ต้องอยู่ตำแหน่ง D แล้วและรถมีการเคลื่อนตัวไปในตำแหน่งหยุดหรือไม่หยุดก็ได้จึงสามารถเหยียบคันเร่งลึกและเร็วได้ จังหวะการเปลี่ยนเกียร์รอบจะสัมพันธ์กันไม่ทำให้เกียร์สึกหรอ


รถจอดติดไฟแดงห้ามเข้าเกียร์ P เพราะว่าถ้ามีรถหลังมาชนเกียร์จะพังเนื่องจาก Axle Main ตัดต่อกำลังจะหัก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       กลไกหรือสาเหตุที่ทำให้เกียร์ออโตพังง่าย

1. ในรถเกียร์ออโตจะว่าไปแล้วใช้งานง่าย แต่การขับให้ถูกวิธี หรือทำให้ถูกต้องจริงๆ มันก็ยากเหมือนกัน เพราะหลายต่อหลายคนได้แค่ขับได้แต่ขับคนจำนวนมากขับเกียร์ออโตไม่เป็น จากที่ผมสัมภาษณ์มาในสมาชิก 2.7 จำนวนมากไม่เข้าใจวิธีการขับรถเกียร์ออโต รวมถึงไม่เคยเรียนรู้การใช้เกียร์ออโตซึ่งมันมีหลายแบบ แต่ล่ะแบบมันก็จะต่างกัน
ในเกียร์ CVT ของ Mitsu Lancer cedia เป็นเกียร์ Invec III มีสมองกลควบคุมการทำงานตอบสนองเกียร์เร็ว แต่เราจะเห็นว่าเกียร์ของ Mitsu ที่ลูกค้าได้ใช้ไปนั้น มีบางคน 2 แสนกว่าโลก็พังแล้ว แต่บางคนวิ่งไป 3 แสนกว่าโลแล้วยังไม่พังก็มี จนเป็นที่มาพูดกันหนาหูว่าเกียร์ออโต Mitsu นั้นเปราะพังง่ายไม่ทนจริงหรือ
ที่จริงแล้วถ้าใช้ถูกวิธีไม่พัง อายุยาวแน่นอน รถเกียร์ออโตไม่นิยมการกระตุกเพราะถ้ากระตุกกระชากมักจะพังไว เกียร์ CVT ผันแปรอัตราทดเร็วแต่ไม่ควรเปลี่ยนเกียร์ขึ้นลงเร็วเพราะมันพังเร็ว โดยเฉพาะไอ้ joy stick ที่พวงมาลัยเป็นกลไกให้เกียร์มันพังเร็ว ถ้าเราไปเล่นมันมาก แต่เกียร์แบบนี้ถึงแม้จะพังไวแต่ก็ทนทานกว่าการใช้เกียร์ธรรมดา

2. เวลาขับขึ้นเขาต้องใช้เกียร์ตามที่แนะนำไว้คือ เขาสลับสั้น ๆ ไม่ยาวนัก ให้ดึงลงมาที่เกียร์ 3 ไม่ควรใช้ D ขึ้นเขาตลอด เพราะเกียร์ต้องใช้ Over drive ในการขับขี่เรียกกำลังออกมา

3. ถ้าขึ้นเขาชันมากให้ดึงเกียร์ลงมาที่ 2 ช่วยในการฉุดลาก แต่หลังจากนั้นบางคนชอบลืมเล่นให้ 2 ขึ้นเขายาวเลย แบบนี้เกียร์พังแน่นอนโดยเฉพาะเกียร์ที่เก่า ๆ ส่วนใหญ่แรงดันน้ำมันในเกียร์เสียหายหมด จำไว้ว่าห้ามแช่ยาว ขึ้นได้ให้สลับมาที่ 3

4. L ให้ใช้เฉพาะเวลาลงเขา E/G Brake สั้น ๆ ห้ามเล่นยาวเหมือนกัน

5. การสลับจาก D N หรือ N D ใน 2 ตำแหน่งนี้ถ้าเล่นกันบ่อยย้ำคันเร่งกันเร็ว ก็พังเร็วเหมือนกัน

6. น้ำมันเกียร์ร้อน ตัวการทำให้เกียร์เสื่อมสภาพ จุดนี้เป็นปัญหาที่คนส่วนใหญ่นึกไม่ถึง รถโดยเฉพาะขึ้นเขาลงเขาคนที่เล่นเกียร์ไม่เป็นหลายคนเจอปัญหาน้ำมันเกียร์ร้อนมาก จนขึ้นไฟเตือน AT Temp ถ้าขึ้นไฟแบบนี้ต้องรีบจอดรถพักโดยไม่ต้องดับเครื่องรอจนกว่าไฟเกียร์จะดับให้อุณหภูมิน้ำมันลดลง กลับมาต้องถ่ายน้ำมันเกียร์ทิ้งไปเพราะน้ำมันจะเสื่อมคุณสมบัติเนื่องจากความร้อน
พวกรถที่เจอปัญหาเครื่อง Heat ก็เช่นกัน น้ำมันเกียร์ออโตเสื่อมแน่นอนต้องถ่ายทิ้งให้หมด แล้วก็รถที่ใช้ในเมืองจราจรติดขัดบ่อยน้ำมันเกียร์จะร้อนมากควรเปลี่ยนถ่ายให้เร็วขึ้นกว่าปกติอาจเป็นแค่ 20,000 โลก็ควรเปลี่ยนทิ้งได้แล้ว

7 การขับรถโดยการเล่นเกียร์มาก ๆ ถ้าออโตไปขับเหมือนธรรมดาเกียร์มันก็พังเร็ว เหมือนที่เกียร์ธรรมดาพังที่อายุ 1 แสนกว่าโล แต่เกียร์ออโตมักจะพังที่ 2 แสนโล

8. อายุน้ำมันเกียร์ถ้ารถใช้น้อยมาก วิ่ง 1 ปีไม่เกิน 5,000 โล ให้เปลี่ยนที่ระยะเวลา 2 ปี เปลี่ยน 1 ครั้ง

9. ข้อนี้ที่มักเจอเสมอจนเป็นปัญหาเกียร์พัง คือใช้น้ำมันเกียร์ผิด รถแต่ละรุ่นมีคู่มือบอกการใช้น้ำมันเกียร์ออโตเอาไว้ ส่วนใหญ่ที่เป็นปัญหากันก็คือการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ผิดเบอร์ พวกที่ชอบเข้าอู่ บีควิก หรือ ปั๊มน้ำมัน หรืออู่ซ่อมรถทั่วไป เปลี่ยนเอาน้ำมันเกียร์ผิดเบอร์ผิดยี่ห้อมาใส่ ปัญหาหนักทั้งนั้น เพราะเกียร์หอนแล้วจะตามมาด้วยความเสียหาย รถรุ่นเดียวกันแต่เกียร์ออโตใช้ไม่เหมือนกันก็เคยเจอมาแล้ว อย่างเช่นโคโรล่ารุ่นปัจจุบัน ช่างแค่อาศัยความจำรถเราจะเสียหายแน่นอน ต้องดูคู่มืออย่างละเอียดว่าน้ำมันเกียร์เบอร์อะไร เพราะน้ำมันเกียรืไม่สามารถใช้แทนกันได้

10. น้ำเข้าเกียร์ข้อนี้สมาชิกเราเจอมาแล้วตอนน้ำท่วมใหญ่ รถวิ่งลุยน้ำที่สูงจนถึงเบาะน้ำเข้าไปในเกียร์แล้วไม่ทราบปล่อยไว้นานเกียร์ก็เสียหายไป เสียค่าซ่อมไป 25,000 บาท

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       อายุของเกียร์ธรรมดาการยกเอามาซ่อมเปลี่ยนคลัทซ์จะอยู่ที่ระยะทางประมาณ 1 แสนกว่าโล เกียร์ธรรมดานั้นถูกใช้งานหนักพอพอกับขาหรือข้อเข่าที่เราย้ำลงไป 20-30 ครั้งต่อการใช้งานรถ 1 ครั้ง เป็นจุดอ่อนที่เกียร์ธรรมดามักไม่ทนต่อการใช้งานและมีภาระค่าใช้จ่ายสูง เพียงแต่ว่าคนปกติซ่อมรถเกียร์ธรรมดาด้วยค่าใช้จ่ายประมาณ 4xxx- 7xxx กว่าบาทเป็นเรื่องชาชินกันเลยคิดว่าเกียร์ธรรมดาซ่อมถูกกว่า ทนทานกว่า เห็นเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าซ่อมศูนย์เปลี่ยนหมดทุกอย่างเสียประมาณ 12,000 บาท ถ้าอู่นอกเปลี่ยนไม่ครบทุกรายการ
ความทนทานหรือไม่ทนมันขึ้นกับโครงสร้างเกียร์ ในเกียร์ธรรมดาเรามีการย้ำคลัทซ์เพื่อให้จากออกจากกันเพื่อเปลี่ยนเกียร์แล้วมีการปล่อยคลัทซ์เพื่อให้ตัดต่อกำลังกลับมา จังหวะการเปลี่ยนหรือตัดต่อนี้เองเป็นจุดอ่อนของเกียร์ธรรมดาที่ต้องมีระยะการฟรีกับแผ่นคลัทซ์ทำให้เกิดการสึกหรอของเกียร์ธรรมดา ท่จะมากกว่าเกียร์ออโต เพราะที่เราเทียบคือจำนวนครั้งต่อการเหยียบคลัทซ์เกียร์ธรรมดาเหยียบมากกว่า ตัดต่อกำลังมากกว่า 20-30 ครั้งต่อการใช้งานรถ 1 ครั้ง มันไม่อาจหลีกเลี่ยงการสึกหรอไปได้

ถ้าเป็นเกียร์ออโตการตัดต่อกำลังแบบนี้เราเลื่อนจาก N D บางคนอาจใช้เพียงครั้งเดียวต่อการขับรถ 1 ครั้ง การสึกหรอของเกียร์ออโตต่ำกว่าเกียร์ธรรมดาแน่นอนในแง่ของโครงสร้าง เกียร์ออโตสำหรับรถเก๋งญี่ปุ่นทั่วไปมักมีอายุที่ 5 แสนกิโลเมตรไปจึงจะต้องยกลงมาซ่อม แต่ถ้าเป็นกียร์ออโตรถเก๋งญี่ปุ่นทั่วไปแบบ CVT อายุจะอยู่ราว 3 - 4 แสนกิโลเมตร ถ้าเป็นเกียร์ออโตรถเก๋งของรถยุโรปอายุมักจะไม่ทนทานจะอยู่ที่ 1- 3 แสนกิโลเมตรมักจะต้องยกลงมาซ่อม เกียร์จะเปราะกว่าเนื่องจากอากาสร้อนบ้านเรารวมถึง Lift time ในการใช้งานของรถยุโรปจะสั้น ถ้าเป็นเกียร์ออโตรถปิคอัพ รถบรรทุกอายุการใช้งานของเกียร์จะอยู่ที่ 2 ล้านกิโลเมตร
ในคลับเราคนที่ใช้งานเเกียร์ออโตได้ยาว ๆ มี 2 ท่าน คือ คุณ นมระห่ำ ใช้ Hilux 2.7 4wd 4DOORS รถวิ่งไปแล้ว 350,000 กิโลเมตร ยังไม่เคยเปิดเกียร์ลงมาซ่อม อีกท่านนึงใช้รถ Hilux 2.7 2wd ใช้งานบรรทุกหนักวิ่งส่งอาหารทะเล วิ่งไปแล้ว 400,000 กิโลเมตร ยังไม่เคยยกเกียร์ลงมาซ่อมแต่อย่างใด

มีคุณ uefa Hilux 2.7 4wd AT 4 doors ก็ 270,000 กิโลเมตร
มีคุณ oui Hilux 2.7 4wd AT 4 doors ก็ 300,000 กิโลเมตร
ส่วนคนอื่น ๆ ที่ใช้ Hilux 2.7 เกียร์ออโต ก็วิ่งตาม ๆ กันไป ยังไม่ถึง 2 ท่านนี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 1-2 แสนกว่าโล ตามกันมาห่าง ๆ ทั้งนั้น เรื่องซ่อมเกียร์ออโต Hilux 2.7 จึงสบายใจได้ว่าถ้าใช้ถูกวิธี เกียร์ไม่พังแน่นอน ใช้กันยันรถพังเกียร์ก็ไม่ต้องยกลงมาซ่อม ทนทานกว่าเกียร์ธรรมดาเยอะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 23
       เกียร์ออโต 3 speed

แบบนี้จะมีใช้ในรถรุ่นเก่า มีตำแหน่งแค่ P R N D 2 L ช่วงรอยต่อการเปลี่ยนเกียร์ค่อนข้างห่างมากข้อเสียของเกียร์แบบนี้ มักไม่ราบเรียบในการเปลี่ยนเกียร์ อัตราเร่งหรือ speed ไม่ค่อยทันใจถึงแม้ว่าจะอยู่ในรถที่มีกำลังมากอย่าง Jeep cherokee Toyota Landcruiser แต่อัตราเร่งกลับไม่สนุกมากนักเพราะรอยต่อระหว่างเกียร์ห่างมาก อยุ่ในรถที่มีแรงบิดมากดังกล่าวอายุเกียร์จะไม่ทนมากนักอยู่ที่ 2-3 แสนกิโลเมตรมักต้องยกลงมาซ่อมแล้ว เพราะแรงบิดที่มากก็ slip ฟรีไปกับคลัทซ์ที่กว่าจะปล่อยออก เกียรืแบบนี้เองก็มักวางในรถเก๋งรุ่นเก่า ๆ ทั้งหมดด้วยปัญหาที่เจอเป็นแบบเดียวกับที่วางในรถ SUV รุ่นใหญ่ คือการสึกหรอของเกียร์สูงกินน้ำมันมากกว่าเกียร์ธรรมดาชัดเจน ไม่ราบเรียบเท่าใดนัก ในการเปลี่ยนเกียร์จังหวะการเปลี่ยนเกียร์ห่าง อัตราเร่งของรถไม่ทันใจ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 24
       เกียร์ออโตแบบ 4 speed

เป็นแบบที่นิยมมากที่สุดในรุ่นปัจจุบัน มีตำแหน่งคือ P R N D 3 2 L
จังหวะเกียร์เหมาะสมลงตัวกว่าแบบเดิม 3 speed ค่อนข้างมากการได้คอมพิวเตอร์มาช่วยยิ่งทำให้การเปลี่ยนเกียร์เร็วราบเรียบตอบสนองได้ดี ลดการสึกหรอของเกียร์ลงไปได้เยอะ การกินน้ำมันน้อยลงมาก ที่สำคัญขับสนุกขึ้นเยอะสามารถทดแทนเกียร์ธรรมดา 5 -6 speed อย่างได้ผล รถยนต์ที่มีกำลังมากใช้เกียร์ออโตแบบนี้ลงตัว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 25
       เกียร์แบบ 5 speed


เป็นแบบที่ใช้ในรถที่มีแรงม้าและแรงบิดสูง ๆ มีตำแหน่งคือ P R N D 4 3 2 L
ในรถทีซีซีมาก ๆ มีแรงม้าสูง ๆ มากว่า 250 แรงม้า ในปัจจุบันมักนิยมอามาวางใส่เกียร์ออโตแแบบ 5 speed นัยว่าแรงบิดมันเยอะแรงม้าก็เยอะจึงต้องมีการลดทอนระยะห่างของการเปลี่ยนเกียร์ให้ถีขึ้นลดการสึกหรอลงไปให้มากที่สุดด้วยการเพิ่มเกียร์ ในรถ TOYOTA ที่มีการนำมาวางเกียร์ออโตแบบ 5 speed ก็จะเป็น TOYOTA Hilux รุ่น V6 และ Fortuner รุ่น V6 และ TOYOTA TUNDRA รวมถึง Landcruiser VX200 เครื่อง V8 รุ่นปัจจุบัน เพราะรถเหล่านี้พละกำลังมหาศาลจำเป็นต้องใช้เกียร์ที่มีอัตราทดใหม่ที่ชิดกันกว่าเดิมเข้ามา ส่วนการตัดสินใจนำมาวางกับ Hilux Fortuner 3.0 เป็นการนำมาวางหลังจากที่ TOYOTA วางขายในยุโรปและรัสเซียมาก่อนหน้านี้แล้วหลังจากพวกเขาเจอปัญหาว่าในรถดีเซลแรงม้าสูงขึ้นอัตราเร่งไม่ราบเรียบเท่าใดนักในรุ่นปัจจุบันนั้นน่าจะดีขึ้นในแง่ของอัตราเร่งที่เรียบขึ้นและความประหยัดน้ำมันมีมากขึ้น ตัวอย่างเหมือน Ford Mazda Nissan ใช้เกียร์ออโตแบบ 6 และ 5 speed ทำให้รถนั้นลงตัวมากกว่าการใช้เกียร์ธรรมดาและประหยัดน้ำมันมากกว่าใช้เกียร์ธรรมดา


ส่วนบ้านเราถ้าใครยังเพลิดเพลินกับการใช้เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะก็คงไม่ได้อานิสงค์จาการเปลี่ยนแปลงในตลาดครั้งนี้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 26
       http://www.toyotaracingschool.com/
เบอร์ 02-736-9633


โรงเรียนสอนฝึกขับรถยนต์ TOYOTA ถ่ายทอดความรู้จากนักแข่งอาชีพของ TOYOTA และครูฝึกจาก TOYOTA โดยตรง
เหมาะสำหรับคนที่ขับรถเป็นแล้ว และยังขับรถไม่เป็น รวมถึงคนที่จะพัฒนาการขับบรถทักษะรถให้สูงขึ้น
1. หลักสูตรพื้นฐาน
2. หลักสูตรของการเริ่มเป็นนักแข่งรถ (ซึ่งต้องผ่านหลักสตูรพื้นฐานก่อน และต้องขับรถเกียร์ธรรมดาได้ )

ผู้หญิงก็ไปฝึกเรียนกันเยอะ อย่าไปยอมแพ้ผู้ชายอกสามศอก ถ้าผ่านหลักสูตรเหล่านี้ไปจะขับรถเก่งกว่าคนทั่ว ๆ ไปบนท้องถนนครับ และใช้งานรถได้ถูกวิธีไม่อายใคร ขนาดคนแก่แล้วยังต้องไปนั่งฝึกเรียนกันใหม่ เพราะขับรถไม่ถูกต้อง แต่ไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่อย่างใด
เพราะคนจำนวนมากไม่รู้ว่าตัวเองขับรถไม่เป็น และไม่ยอมไปเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อันนั้นน่าอายกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 27
       วานซืนมีคนโทรมาหาผมคนนึงเกี๋ยวกับเรื่องเกียร์นี้แหละ ที่มีปัญหา
ปัญหามันเริ่มจากเจ้าขของรถไม่ได้เริ่มจากใครเลย ผมฟังก็เลยว่าไปแรง ๆ ผมถามย้ำแล้วย้ำอีกว่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์เบอร์อะไร เขาก็บอกเปลี่ยนเบอร์ถูกแล้ว ผมก็ถามอีกว่าถูกยังไง แล้วที่เปลี่ยนน่ะเบอร์อะไร เจ้าของย้ำอยุ่เช่นเดิมว่าเปลี่ยนถูกแล้ว
พอไล่ถามไปมาก ๆ เข้าก็ตอบไม่ได้อยู่ดีว่าไอ้ที่เปลี่ยนเข้าไปนั่นเบอร์อะไร

เจ้าของตอบว่าก็ไม่รู้ครับ ให้ช่างข้างนอกเปลี่ยนให้ตลอด ก็ใช้เบอร์นี้มาตลอด ซึ่งมันเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ผิดเบอร์จึงมีปัญหา
แล้วยังมาเถียงผมอีกว่าเบอร์ถูกแล้ว
ผมอยากให้ทุกคนได้รถมาแล้วอ่านทำความเข้าใจ กับคู่มือให้มาก ๆ ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็ขอให้ถาม
โดยเฉพาะพวกไม่ชอบนิยมเข้าศูนย์ ทั้งหลาย เจอช่างเองก็มั่วกันทั้งเจ้าของทั้งช่าง พากันลงทะเลหมด
ถึงแม้คนเข้าศูนย์ก็ตามแต่ควรรู้เอาไว้บ้างว่ารถเราต้องใช้น้ำมันของเหลว TOYOTA เบอร์ อะไร บ้าง บางอย่างไม่สามารถใช้เทียบได้
จะได้รู้ว่าที่เปลี่ยนเข้าไปถูกหรือมันผิดกันแน่


เกียร์ที่มันพังผมยืนยันอีกครั้งว่าปัญหามันเกิดจากการมั่วของเจ้าของรถเองทั้งนั้นที่ไม่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ และใช้น้ำมันเกียร์ผิดเบอร์กันมา จึงสร้างปัญหา ส่วนใหญ่หนีไม่พ้น เรื่องนี้ ซึ่งเจ้าของรถไม่ทำความเข้าใจให้ดี โดยเฉพาะคู่มือที่มีแล้วไม่ค่อยอ่านให้เข้าใจ
รถโคโรล่าขนาดปีต่างกัน แต่น้ำมันเกียร์ใช้ต่างกันคนละเบอร์ เพราะเกียร์คนล่ะชนิดก็มีมาแล้ว ถ้าอาศัยแค่ความจำอย่างเดียว ยังไงก็ผิด ต้องอาศัยคู่มือให้มาก ๆ เพราะมันคือ manual ของรถรุ่นนั้น

ในระยะทุก 40,000 โลแบบนี้ต้องทำรายการใหญ่สำหรับรถอยู่แล้ว อยากให้เข้าศูนย์ TOYOTA ทำให้ดีกว่า ตัดปัยหาเจอเจ้าของรถมั่วไปกับช่างประจำที่ผมเห็นมาหลายเคส อีกอย่างจะได้ เปลี่ยนแหวนรองน้ำมันครั้งใหญ่ไปทีเดียวซัก 1 ครั้งด้วย รถห่างศูนย์นาน ๆ มักจะไม่ดี อย่างน้อยจะได้ให้เค้าตรวจระบบอื่น ๆ ไปด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 28
       ขอเข้ามาเสริมเรื่องเกียร์ออโตใช้ลากได้หรือไม่ ของผมเจ้าโก้ 4x4 4D 2005 ออโต้ LPG ปัจจุบันวิ่งทำงานปทุม-สระบุรี ไปกลับวันละประมาณ120กว่าโลทุกวัน เสาร์อาทิตย์ ผมจะใช้เจ้าโก้ 4x4 ตัวนี้ลากเรือ25ฟุตขนาด2ตันกว่าที่อยู่บนเทลเลอร์ จากสัตหีบ-พัทยา มาลงน้ำทะเลที่แลมป์แหลมบาลีฮายพัทยา ระยะทางประมาณ30กว่าโล ไปกลับก็60กว่าโลทุกอาทิตย์ ที่ความเร็วประมาณ70-80กม/ชม. หรือบางอาทิตย์ก็ลากเรือ17ฟุตจากปทุม-กาญฯ ขึ้นไปเที่ยวนาสวนหลังเขื่อนศรีนครินทร์ ระยะทางก็ไกลอยู่ ความเร็วก็80-100กม/ชม. ตอนนี้เกียร์ออโตก็ยังปกติดีอยู่ (ไมล์เกิน350000ไปแล้ว) .น้ำมันเกียร์ออโตก็เข้าเปลี่ยนตามระยะทางที่กำหนดมาเปลี่ยนพร้อมของเหลวอื่นๆเลยทีเดียวจบครับ.

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 29
       เรื่องซ้ำเดิม ๆ กับปัญหาเกียร์ กับความทุเรศของเจ้าของรถยนต์


วันนี้พี่สาวผมเล่าให้ฟังรถเพื่อนของเขา MAZDA 3 รุ่น 2.0 ลิตร ผู้หญิงคนนี้ไปเข้าอู่นอกเนื่องจากไม่อยากเข้าศูนย์เพราะเลยประกัน 50,000 โล ไปถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ คือหวังว่าจะให้อู่นอกเช็คระยะแทนศูนย์บริการ ซึ่งเป็นความคาดหวังที่เลิศเลอ มากกว่าความเป็นจริง ปรากฎว่าเกียร์มีปัญหาหลังจากออกจากอู่เครื่องกระตุกตลอด สั่นกระพือบางครั้ง หลังจากนั้นเอารถลากเข้าศูนย์ MAZDA ศรีนครินทร์ โชคดีที่แก้ปัญหากันได้ทันท่วงที ศูนย์เปลียนน้ำมันเกียร์ออกจนหมดแล้วใส่ของใหม่เข้าไป รถยังใช้งานไม่นานเกียร์ยังไม่พัง ลากเข้าศูนย์มาสด้าแก้ปัญหาได้ทัน
ทีนี้เพื่อนเขาเอาน้ำมันเกียร์ที่เหลือยกให้พี่สาวผมเอามาใช้ เป็นน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ DEXRON II ผมเอามาดูเลยด่าไปยกใหญ่ของดีจริงเขาไม่ยกให้แกหรอก เป็นเพื่อนกันแท้ ๆ ยังเอาของเลวเลวแบบนี้มาให้ คนแบบนี้ไม่น่าคบเลย ขนาดเขาใช้ไปแล้วยังมีปัญหา ยังจะไปรับของเขามาอีก น้ำมันเกียร์ออโตรถ Mazda 3 รุ่นนี้ต้องใช้สเปก Mecron V เท่านั้น ไม่มีขายตามท้องตลาดนอกจากศูนย์ Mazda ไม่สามารถใช้เทียบเคียงเบอร์อื่นได้ แต่น้ำมันเกียร์ที่เอามาใส่นั้นช่างอู่นอกเอาน้ำมันเกียร์ออโตยี่ห้อ trane Dexron II มาใส่ แบบนี้มีแต่พังกับพังอย่างที่เห็น เจ้าของรถก็เหลือเกินมีเงินอย่างเดียวไม่พอจริง ๆ ต้องมีความโง่แถมมาอีกด้วยถึงจะทำอย่างนี้ได้ อย่าอ้างเลยว่าไม่รู้เพราะคู่มือมีทำไมไม่อ่านถ้าอ้่านไม่เข้าใจก็ไม่ควรเข้าอู่นอกให้ทำแบบนี้ เสียกับเสียจริง ๆ และเสียหายมากด้วย


ช่างก็เหลือเกิน มักง่ายสุด ๆ นิสัยแบบนี้เปิดอู่ได้ในเมืองไทย เพราะไปทำแบบนี้ในอเมริกาคงได้โดนฟ้องร้องชดใช้กันตายห่า เอาน้ำมันอะไรก็ไม่รู้ไปเติมลงในน้ำมันเกียร์ พังกับพังเท่านั้น ช่างเดี๋ยวนี้มักง่ายเห็นว่าเป็นน้ำมันเกียร์อัตโนมัติ ดูแค่ข้างกระป๋องก็เอามาเติมใส่กันมั่วไปหมด ทั้งที่เทคโนโลยีของรถมันไปไกลมากแล้ว ช่างไม่มีความรู้ความเข้าใจ คิดว่าใส่แทนกันได้
น้ำมันเกียร์อัตโนมัติเบอร์เดียวกันแค่ต่างยี่ห้อเขายังไม่นิยมใส่แทนกันเลยเพราะคุณสมบัติทางเคมีไม่เหมือนกัน ความละเอียดอ่อนสูงมาก ปกติแล้วเกียร์ออโตจะทนทานมาก การดูแลแค่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ให้ถูกต้องตามเวลาที่กำหนดเท่านั้น
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


แต่อย่างไรก็ดีเกียร์ออโตจะมีจุดอ่อนที่สำคัญและยังเป็นปัญหาทุกวันนี้คือ เจ้าของรถไม่ยอมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ กับไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ผิดเบอร์ ไปใช้น้ำมันเกียร์ต่างยี่ห้อ ไปเปลี่ยนด้วยการใช้วิธี Flashing ปล่อยให้แผ่นคลัทซ์ไหม้เนื่องจากใช้งานผิดวิธี มีน้ำเข้าไปผสมในน้ำมันเกียร์ สาเหตุหลักเหล่านี้คือปัญหาที่เกียร์พังทั้งนั้นที่เป็นต้นเหตุให้รถเกียร์ออโตต้องไปซ่อมเกียร์ตามอู่

_____________________________________________________________________________________________________


หมายเหตุการซ่อมรถอู่นอกควรเลือกทำเฉพาะบางรายการ อย่าคาดหวังกับการนำรถเข้าไปเช็คระยะกับ บีควิก แอ๊ก คอกพิท ศุนย์บริการฉับไวที่เปิดกันเกร่อทุกวันนี้ หรืออู่ซ่อมรถตามร้านทั่วไปที่เปิดกัน เพราะไม่สามารถเช็คระยะแทนศูนย์ได้ งานยังไงก็ไม่เหมือนกันการจะประหยัดเงินไม่เข้าศูนย์ตามระยะผมได้ชี้แจงให้ในหัวข้อก่อน ๆ ในกระทู้อื่นบ้างแล้วว่าควรทำยังไง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 30
       เกียร์ออโตเมติกที่ใช้กับรถ 2.7 ถ้าท่านดูแลเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามปกติ (ใช้น้ำมัน T-IV แท้โตโยต้า ) อายุการใช้งานผมตอบไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ จึงจะได้ยกลงมาซ่อม ตอบไม่ได้จริง ๆ เพราะยังไม่มีรายงานการใช้เข้ามาเลย ว่าใครใช้จนคลัทซ์หมดแล้วต้องยกลงมาซ่อม
แต่อายุต้องได้มากกว่า 500,000 กิโลเมตร ในการยกเกียร์ลงมาซ่อม คือใช้ไปจนกว่าจะเห็นอาการคลัทซ์เริ่มหมดจึงค่อยยกลงมาเปลี่ยนชุดคลัทซ์ แต่คงนานมากกว่าจะเห็นตอนนั้น เพราะเกียร์มันทำไว้สำหรับใช้งานหนักพิเศษ ในแบบเกียร์ออโตสำหรับรถบรรทุก อายุการใช้งานจึงยาวนานมาก
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ทั้งนี้ห้ามเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ผิดเบอร์ ผิดเสปกลงไปเด็ดขาด อย่าผสมน้ำมันเกียร์ข้ามยี่ห้อ อย่าทำอะไรในสิ่งที่ไม่ควรทำนอกเหนือจากคำแนะนำ ที่ลงรายละเอียดไว้ แล้วท่านจะใช้งานรถได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องยกเกียร์ลงมาซ่อมเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย