คำตอบที่ 1
       โช๊คไม่แน่ใจว่าต่างกันหรือไม่ แต่สปริงสั้นกว่า มีผลทำให้ตัวรถเตี้ยกว่ารุ่นปกติ 3 cm
TRD ทำออกมาตอบสนองรถ Fortuner 4wd ที่นิยมการขับขี่ในเมืองความเร็วสูง แบบสปอร์ตไม่เน้นใช้งานออฟโรด จะแข็งกว่ารุ่นปกตินิดนึงเพราะเข้าเน้นงานออกแนวสปอร์ต แต่ก็ยังแฝงการลุยได้ในระดับนึง
ถ้าเป็น Fortuner 4wd รุ่นปกติจะเน้นในการขับขี่แบบออฟโรดและถนนทั่วไป ประสิทธิภาพในเมืองไม่เท่าไหร่แต่นิ่มนวลแบบรถยนต์นั่งแฝงด้วยความแข็งแบบกระบะ วิ่งนอกเมืองจะโคลงนิดหน่อย แต่ถ้าเอาไปใช้งานออฟโรดจะดีมาก ค่าซ่อมแซมก็จะถูกด้วยสำหรับรถออฟโรดแบบนี้ เพราะโช๊คกับสปริงราคาอะไหล่ในศูนย์ไม่ค่อยแพง ถ้าซื้อข้างนอกยิ่งถูกมาก ต่างจากตัว TRD ที่แพงกว่ากันค่อนข้างเยอะเวลาเป็น OEM Part

ต้องบอกก่อนนะครับว่าสปริงรุ่นนี้เอามาใช้กับ 2.7 ไม่ได้ถึงแม้จะเป็นรุ่น 4wd เหมือนกันก็ตามเพราะเซทออกมาไม่ใช่กับ 2.7 แต่ในบ้านเราเขาเอาไว้สำหรับรุ่น 3.0 เท่านั้น อีกอย่างถ้าคิดจะซื้อมาใช้ด้วยราคาที่แพงแม้จะเป็นมือ 2 TRD ก็ตาม ให้ซื้อโช๊คและสปริงมีชื่อเสียงจากร้านข้างนอกะดีกว่า จะคุ้มค่ากว่าได้อะไรมากกว่า

ยอดครับ จาก : ranger140(ranger140) 13/5/2555 13:32:22 [110.77.228.106]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       กระจ่างเลย ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ราคาโช๊คหน้า Fortuner ของศูนย์ราคา 2170 บาท / ข้าง ถ้าซื้อข้างนอก เหลือ 1xxx ต้น ๆ
ราคาสปริงหน้าตัวปกติ 900 กว่าบาท / ข้าง ถูกกว่าของเทพหรือของ TRD ค่อนข้างเยอะมาก

ราคาโช๊คหลัง Fortuner 830 บาท / ข้าง
ราคาสปริงหลังของ Fortuner 920 บาท / ข้าง ถูกกว่า TRD เยอะ


เนื่องจากราคาอะไหล่ที่ถูกมาก มันเหมาะกับสภาพการใช้งานของประเภทรถอยู่แล้ว คือตัว 2.7 4wd มันทำเพื่อให้ใช้งานถนนเรียบและทางขรุขระ สมบุกสมบันกับการนำรถไปใช้ถูกประเภท ถ้าเอาไปวิ่งแบบสปอร์ตมันคงไม่เหมาะกับรถแบบรุ่นนี้
แต่ว่าราคาที่มันถูก คุณภาพและความคงทนมันก็ด้อยลงไปตามราคาด้วย
โช๊คข้างล่ะ 1xxx บาท จะให้คุณภาพยังกะโช๊คเทพราคา 3x,xxx กว่าบาท เป็นไปไม่ได้ คุณภาพมันก็แปรผันตามราคา
โช๊คเดิมติดรถอายุจะอยู่ประมาณ 70,000 -80,000 กิโลเมตร อาการดีดดิ้นจะยิ่งมาก ไม่สามารถจับความหนืดได้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นควรรีบเปลี่ยนไม่อย่างนั้นช่วงล่างอื่น ๆ จะพังตามมา อีกประการนึงช่วงล่างของรถสแตนดาร์ดมันไม่สามารถรูดได้บินได้เหมือนของตู่ ออโตเซอร์วิส ที่คุณจะไปขับรถเหินหาวขึ้นกระโดดคอสะพานแล้วบินลงมา เพราะช่วงล่างจะพังได้ แต่ถ้าเซทโช๊คช่วงล่างมาดีแล้วจึงทำได้



ส่วนโช๊ค สปริง TRD ไม่เหมาะจะซื้อเอามาใช้ เพราะคนใช้ TRD ก็ถอดขายกันเยอะ ราคาก็แพงเกินตัวด้วย
ไปเล่นของนอกแบรนด์ดังคุ้มกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       ขอบคุณอีกครั้งสำหรับข้อมูลครับ คือผมก็ถามไปตามความสงสัยที่มีอยู่ในหัวอ่ะครับว่ามันต่างกันตรงไหน แต่ถ้าจะให้ไปเปลี่ยนช่วงล่างเป็นTRD ก็คงยังครับ เพราะทุกวันนี้ก็โอเคพอใจกับสภาพเดิมๆของรถแล้ว อีกอย่างหนึ่งรถผมใช้งานลักษณะครอบครัวมีพ่อแม่ลูกปู่ย่านั่งเป็นประจำขืนไปทำอะไรกะช่วงล่างรับรองโดนบ่นอุบอิบแน่ๆ /ขอบคุณอีกครั้งครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       คุณ auto และพี่ๆเพื่อนๆครับ ผมมีเรื่องรบกวนจะถามต่อ


ตอนนี้ผมใช้ยาง 265-65-17 HT ยางไซรืนี้ถ้าเทียบกับยาง mt ขอบ15หรือ16 จะได้ยางไซร์ไหนครับ เอาแบบใส่แล้วไม่ติดไม่ต้องยกเพิ่ม ฝขอบคุณครับ

อันนี้รอ TOP and V27 หรือท่านอื่นมาตอบดีกว่าครับ จาก : Auto.(Auto.) 12/6/2555 7:16:27 [202.80.239.130]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       จาก เอก(พ่อน้องแคนนู)

สเปคยาง MT ที่ใกล้เคียงจะมีประมาณนี้ครับ(ตามตาราง) โดยเฉพาะยางขอบ16ขึ้นไป จะมีเฉพาะยางที่ซีรี่สูงกว่ายางติดรถ1เบอร์ เช่น ติดรถ70/MT75 , ติดรถ65/MT70 เป็นต้น

ถ้าไม่ยกเลย
ขอบ15 - 31x10.50R15 : ไม่รู้ว่าเป็นจานเบรครุ่นไหน ลองดูจานเบรคด้วยนะครับ ถ้าเป็นจาน320mm. ใส่ล้อขอบ15ไม่ได้ จะติดคาลิบเปอร์เบรค ยางไซร์นี้จะได้หน้ายางกว้างใกล้เคียงยางเดิมติดรถ

ขอบ16 - 245/75R16 : ยางไซร์นี้เส้นรอบวงเท่า แต่หน้าแคบกว่า ใส่แล้ววิ่งดีขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อยเพราะพื้นผิวที่สัมผัสถนนน้อยลง แต่เมื่อมองจากหน้ารถตรงๆ จะคล้ายๆกับคนขาลีบ

ขอบ16 - 265/75R16 : ยางไซร์นี้จะสูงกว่ายางติดรถนิดหน่อย ใส่แล้วจะติดมุมกันชนหน้าด้านในนิดๆถ้าทนได้ก็ไม่ต้องปาด แต่ถ้ารำคาญก็ปาดออกนิดเดียว แต่ยางไซร์นี้ถ้าใส่แล้วไม่ยก จะดูยางมันแน่นเต็มซุ้มไปหน่อย ถ้ายกแล้วดูสมส่วนดี ยก2นิ้วกำลังดี งบไม่บานปลาย ส่วนมุมกันชนด้านในถึงยกแล้วก็ยังติดอยู่นิดๆแบบเฉี่ยวๆน้อยลงกว่าไม่ยก ... ถ้าแนะนำ อยากจะแนะนำให้ใส่ยางไซร์นี้ ยก2นิ้วกำลังสวย งบประมาณไม่สูงมาก ด้านหน้าเปลี่ยนโช้คยก2" ด้านหลังรองก้อน+เปลี่ยนโช้ค ผมใช้สเต็ปนี้อยู่ ก็ขับดีไม่มีปัญหาอะไร คุณภาพช่วงล่างขึ้นอยู่กับงบประมาณ จ่ายมากดีมาก จ่ายน้อยดีน้อย อยากได้แค่ไหน ถามความพอใจของตัวเองครับ บางคนเปลี่ยนโช้ค4ต้น7พันจบ บางคน5หมื่นยังไม่จบก็มี

ขอบคุณครับน้าtop จาก : canoe(canoe) 12/6/2555 13:26:50 [110.77.168.79]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ไปเทียบมาสดๆครับเมื่อเที่ยง 265-70-16 deestone mt 4พันปลายๆ ดูแล้วคงยกอีกเยอะ

น่าจะเป็นเบอร์265/75R16นะครับ ซีรี่ย์70ไม่มี ยก2นิ้วพ้นครับ ใช้อยู่ในฟอร์จูนเนอร์ จาก : ^Top^(^Top^) 12/6/2555 17:23:05 [49.0.84.207] อ่อๆ..เคยเห็นฟอร์จูนเนอร์ใส่ BF All 265/75R16 แบบไม่ยก ใส่ได้ เลี้ยวติดนิดหน่อย แต่ยางแน่นซุ้มเลย จาก : ^Top^(^Top^) 12/6/2555 17:23:57 [49.0.84.207] ทำไมยาง Mud terrain ทุกยี่ห้อ มันไม่ทำ 265/70 R16 มาบ้างนะ จาก : Auto.(Auto.) 23/6/2555 13:54:57 [27.55.4.29]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       deestone MT มันใช้ Size 265/75 R16 ไม่มี 265/70 R16
ยาง Mud ที่ผมดูมาทุกยี่ห้อ 265/75 ทั้งนั้นเลย ไม่มีใครทำขนาด 265/70 ออกมาสักรายเดียว ใส่แล้วติดแน่นอนครับยก 2 นิ้วกลัวจะไม่พ้นเอาด้วย

อีกอย่างระวังเรื่องขนาด 265/75 ให้ดีนะ ใส่แล้วรถอืดขึ้นชัดเจน เดี๋ยวจะต้องลงเทอร์โบแบบ Oui หรอก 555555

ลงเฟืองหน้าหลัง เดิม9:41 เปลี่ยนเป็น8:39 พอช่วยได้บ้าง งบรวมเทิร์นประมาณหมื่นกลางๆ จาก : ^Top^(^Top^) 12/6/2555 17:25:41 [49.0.84.207] 5555 จำผิดครับคุณauto จริงๆคือ 265-70-16 อย่างคุณ autoว่าแหละครับ จาก : canoe(canoe) 12/6/2555 21:10:16 [182.52.146.148] 265-75-16 พิมพ์ผิดเรื่อยเลยผม จาก : canoe(canoe) 12/6/2555 22:38:14 [182.52.146.148]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       ขอถามต่อครับ อันนี้เพื่อนฝากถามมาครับ

เพื่อนผมเพิ่งออก vigo champ 2.7 smartcab มาครับ จะเอามาติดLPGใส่คลังคาไฟเบอร์ไว้บรรทุกสินค้าพวกเสื้อผ้า กิ๊ฟชอป ซื้อของครั้งนึงก้คิดว่าจะบรรทุกให้เต็มคันละครับไม่เสียเที่ยว เลยอยากถามว่าแบบนี้ช่วงล่างเดิมๆไวไหมครับต้องเสริมเติมแต่งอะไรตรงไหนหรือป่าวขอคำแนะนำด้วยครับ

ลืมบอกครับ มีการใช้งานในเส้นทางที่เป็นลักษณะขึ้น-ลงเขายาวๆ มีหักศอกเป็นบางช่วงด้วยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       รถ Vigo champ 2.7 ช่วงล่าง มันก็จะเหมือนกับ Vigo 2.5 รุ่นดีเซลนั่นแหละครับ คือมันออกแบบมาเพื่อบรรทุกเหมือนกันใช้งานเหมือนกัน ไม่มีอะไรแตกต่างกัน ถ้าจะแตกต่างกันก็เพียงเครื่องยนต์ ที่ใช้กันคนละชนิดแบ่งตามประเทศที่ส่งไปขายประเทศไทยดีเซลจะมาก ประเทศอื่นจะเป็นเบนซิน การใช้ไม่มีอะไรน่าห่วง ถ้าบรรทุกหนักมากก็อาจต้องทำเหมือนกันกับรถปิคอัพทั่วไป คือเสริมแหนบให้แข็งขึ้น สูงขึ้น ถ้าท้ายมันห้อยมากก็ต้องทำ ยางอาจต้องใช้ใหญ่ขึ้นบ้าง เช่นของเดิม 205 215 อาจขยายเป็นยาง AT 225 หน้ากว้างขึ้นจะช่วยในการทรงตัวขึ้นมาบ้างไม่ใหญ่ไป ถ้าเอา 235 จะใหญ่กว้างแบบออฟโรด เห็นหลายท่านว่าแม๊กเดิมมันแคบไปหน่อยทำให้หน้ายางมันเบ่งตัว จึงคิดว่าขยายมาเป็น AT 225 ก็น่าจะเพียงพอ
โช๊คอาจปรับเปลี่ยนมาเป็น หลัง Rancho จะได้ดีที่ทนทาน หรือเอาโช๊คราคาถูกประเภท Kayaba red ก็ได้โช๊คหน้าไม่ทราบว่าเอาอะไรลงจึงจะดี แต่โช๊คควรรอให้ของเดิมพังเสียก่อน คือใช้ไปซัก 70,000 -80,000 โลก็ค่อยทิ้งโช๊คตามวาระ

แต่ว่าก่อนจะทำให้ใช้งานแบบเดิม ๆ ไปก่อนครับ เพื่อดูว่ามันต้องปรับหรือเสริมตรงไหนหรือเปล่า แล้วค่อย ๆ ทำทีล่ะอย่าง จะได้ไม่ต้องเสียเงินแพงเกินจำเป็น บางทีเดิม ๆ ก็อาจเหลือเพียงพอแล้ว เพราะรถปิคอัพ พื้นฐานบรรทุก 1 ตันสบาย ๆ อยู่แล้วล่ะ

ขอคุณครับ ถ้ามีอะไรสงสัยจะมาถามใหม่ครับผม จาก : canoe(canoe) 26/6/2555 9:20:34 [110.77.161.32]   แสดงความคิดเห็นย่อย