คำตอบที่ 1
เช็คตามระยะกับศูนย์บริการ
ส่วนอื่น ๆ คือ ที่ระยะประมาณ 1 แสนกว่าโล เราต้องเข้าใจก่อนว่าชิ้นส่วน ป๊มน้ำ Pipe 1 assy ฝาหม้อน้ำ พวกนี้คืออะไหล่ที่หมดอายุแล้วทั้งนั้น คือมันพร้อมจะเสียได้ตลอดเวลา ระยะนี้จึงควรเปลี่ยน ส่วนจะเปลี่ยนช้าเปลี่ยนเร็วแล้วแต่ความสะดวก ของแต่ล่ะคน เพราะอะไหล่บางรายการต้องรอ นาน Pipe 1 และวาล์วน้ำ เป็นของนำเข้าจากญี่ปุ่น นอกนั้นผลิตจากไทย
บางคนไม่อยากเปลี่ยน ช่างในศูนย์บางศูนย์ยังไม่อยากเปลี่ยนให้ บอกว่ารอให้เสียก่อนค่อยมาเปลี่ยน พูดน่ะง่ายแต่ของจริง ถ้ารอให้ปั๊มน้ำเสีย หรือท่อ Pipe 1 เสีย งานเข้าขนานใหญ่แน่ หลายคนไม่โชคดี ต้องซ่อมเครื่องหลายหมื่นบาท คุ้มที่ไหนกับการไม่เปลี่ยน
เพราะฉะนั้นระยะนี้ไปจัดการเปลี่ยนอะไหล่เอาความสบายใจเสียก่อน
1. ท่อน้ำ Bypass No.1 Part no. A-16268-75091 ราคา = 825 บาท
2. ฝาหม้อน้ำ Part no. จำไม่ได้ ตอนนั้นฝากคุณ Sembe ซื้อจาก TOYOTA วรจักร ราคา = 240 บาท
3. ท่อยางน้ำบน Part No. A-16571-0C080 ราคา = 145 บาท
4. ท่อยางน้ำล่าง Part No. A-16572-0C070 ราคา = 185 บาท
5. แคลมรัดท่อยางน้ำ Part No. A-90466-T0011 ราคา = 62 บาท ใช้ 4 ตัว
6. ปั๊มน้ำ ซื้อข้างนอกจากคุณ ble ble (นายตัวยุ่ง) หรือร้านศรีสยามถูกกว่าเยอะ
7. น้ำยาหล่อเย็น 2 แกลลอน
8. วาล์วน้ำ เดี๋ยวบอก Part no. ให้ หรือจะซื้อกับ คนที่เขามาขายก็ได้ อยู่กระทู้ไหนไม่ทราบ ที่เขาขายของแท้แต่ว่าองศาจะเปิดเร็วขึ้นกว่าเดิมประมาณ 5 องศา เหมาะกับคนวิ่งงานหนัก จะช่วยลดความร้อนให้ห้องเครื่องลงหลังจากติดแก๊ส oui เคยเอามาลงไว้
Part no. A-90916-03093
อีกเรื่องนึงรถวิ่งมาขนาดนี้แล้ว ถอดฟองน้ำปั๊มอากาศออกหรือยัง ถ้าไม่ถอดก็เสี่ยงพังได้เหมือนกัน รีบไปถอดออกซะ
รายการอื่น ๆ ก็เช็คระยะทั่วไปกับศูนย์
ส่วนพวกระบบแก๊ส ก็ไม่มีไร เปลี่ยนกรองแก๊สตามวาระ ถ้าใช้ไปแล้วพบอาการไม่ดี สตาร์ทติดยาก เครื่องเดินไม่เรียบเหมือนเดิม หรือพบน้ำเริ่มรั่วที่หม้อต้ม ใกล้ 180,000 โล ให้เปลี่ยน หัวฉีดแก๊สกับหม้อต้มไปเลย อย่าพยายามซ่อมหรือยืดระยะการเปลี่ยนอะไหล่ออกไป