คำตอบที่ 1
       อีกประมาณ 3 ปีข้างหน้า New model Hilux อาจจะมี Hilux 2.7 AT 4 speed รุ่น 2wd กลับมาขายใหม่ครับ
Hilux 2.7 AT 2wd หยุดการผลิตไปตั้งแต่ปี 2010 ก็เท่ากับว่ารถรุ่นนี้จะหยุดการผลิตไปทั้งหมด 5 ปี ครับ จึงจะม๊โอกาสกลับมาผลิตใหม่ ปัจจุบันรถ 2.7 ที่ยังมีเป็นเกียร์ออโตเหลือเพียงรุ่นเดียวเท่านั้นคือ Fortuner 2.7 2wd


ก่อนมาเปิดเวป 2.7 ใครต่อใครก็ยังพากันจะเลือกรถ Hilux 2.7 MT เกียร์ธรรมดา เนื่องจากไม่มีความรู้หรือความเข้าใจในเรื่องรถยนต์
จนกระทั่งแม้เดี๋ยวนี้ลูกค้าจะให้การยอมรับเกียร์ออโตมากขึ้น แต่จำนวนและความนิยมในตลาดปิคอัพส่วนใหญ่ยังน้อยอยู่มาก
เพราะคนส่วนใหญ่ยังยึดติดกับภาพลักษณ์เดิม ๆ นึกคิดไปว่าปิคอัพต้องเป็นแค่เกียร์ธรรมดา
แต่จากสภาพปัจจุบัน ตัวโครงสร้างรถยนต์ปิคอัพและเครื่องยนต์ได้เปลี่ยนไปมาก การใช้ปิคอัพเกียร์ออโตมีความเหมาะสมมากกว่า ปิคอัพเกียร์ธรรมดา

เห็นด้วยที่ในรถกระบะน่ามีเกียร์ออโต้ให้เลือกครับ จาก : เส้นขอบฟ้า(เส้นขอบฟ้า) 21/7/2555 8:56:35 [125.26.70.37]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       อีกประการนึง ด้วยสภาพรถที่ใหญ่ขึ้นล้อใหญ่ขึ้น เครื่องยนต์มีแรงบิดและแรงม้ามากขึ้นกว่ารถยนต์สมัยอดีต ในการเลือกซื้อ รถปิคอัพทุกคันจำเป็นต้องมีระบบเบรค ABS เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพราะเบรค ABS จะทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อมีระบบเกียร์ AT ที่ทันสมัยควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ด้วย ECU ทำงานควบคู่กันระหว่างเกียร์ AT และระบบเบรค ABS จะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

ระบบเกียร์ธรรมดาทำงานไม่สัมพันธ์กันอันเนื่องมาจากข้อจำกัดในการเปลี่ยนเกียร์และนิสัยของคนขับที่แตกต่างกันออกไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       จากพี่ Auto
"อาจจะมี Hilux 2.7 AT 4 speed รุ่น 2wd กลับมาขายใหม่ครับ" อยากจะให้มี Hilux 2.7 AT 4 speed รุ่น 4WD มากกว่าครับ
แล้ว 5 speed กับ 2.7 vvti คงต้องรออีกนานจนกว่าจะเพิ่มแรงม้าแรงบิดเท่ากับ prado แน่ๆเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       AT 5 speed สำหรับ 2.7 ยังเป็นเรื่องไกลเกินตัว เพราะในตลาดโลกรุ่นนี้ยังไม่มีโครงการทำออกมาในรถ Hilux เลยครับ
แต่ในรุ่นดีเซล 3.0กำลังจะออกจากสายพานการผลิตแล้ว สำหรับอานิสงค์นี้ เกียร์ AT 5 speed


ส่วนการขาย Hilux 2.7 4wd อย่างที่เคยบอกไว้ TOYOTA THAILAND ไม่น่าจะทำออกมาขายอีกในประเทศ
ไม่งั้นปิคอัพดีเซล Vigo prerunner หรือ ดีเซล 3.0 4x4 จะมีปัญหาขายไม่ออกแน่นอน


อีกอย่างราคาถ้าออกมาขายจริงมีเกิน 9 แสนบาทแน่นอนครับ ผมก็ไม่มั่นใจว่าคนที่บอกอยากได้ Hilux 2.7 AT 4wd จะยอมเสียเงินซื้อหรือไม่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       อยากให้มี4ประตูCNGด้วย ประหยัดเงินในกระเป๋าได้เยอะเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       โธ่ มารุ่นใหม่ทำไมไม่ทำ AT 5 speed เหมือนชาวบ้านเขานะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ไปที่โตโยต้าสำนักงานใหญ่เลย แล้วถามว่าทำไมไม่ผลิตวีโก้แชมป์ 2.7 Cng Auto
ไปที่ประชาสัมพันธ์แล้ว สองครั้ง อิอิ.

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ผมเห็น 2.7 4wd วิ่งจากสำโรงไปลงเรือที่ระยอง ทำไมเกิดเป็นคนไทยมีโรงงานในประเทศแท้ๆกลับไม่มีโอกาสได้ใช้ เพราะว่าคนส่วนใหญ่โดนปิดหูปิดตากับการโฆษณาสโลแกน จิ๊บๆๆในเครื่องดีเซล วัยรุ่นเซ็งเกิดเป็นคนไทยโดนปิดหูปิดตา ฟังความข้างเดียวโดยไม่รู้จักการวิเคราะห์จากหลายๆด้าน คล้ายๆการเมืองบ้านเราเหมือนกันน่ะเนี่ยะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       เซ็งเหมือนกัน....ขับ auto ตลอด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       ก็มันเป็นรถเชิงพาณิชย์ ส่วนมากให้ลูกน้องขับกันทั้งนั้น เน้นประหยัดมาที่ 1 (กิโลละไม่ถึงบาท คุ้มจริง) ลองหัดขับเกียร์ธรรมดาก็มันไปอีกแบบนะ
ส่วนความสบายต้องรอไปก่อน อ่ะ อิอิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ถ้าจะให้ประหยัดจริง ๆ ต้องเป็นเกียร์ออโตครับ การซื้อรถให้ลูกน้องขับเป็นรถการพาณิชย์แบบนี้ ใช้เกียร์ออโตจะประหยัดไปได้เยอะครับ
ในออสเตรเลียขนาดกะบะตอนเดียวเพื่อการบรรทุกหนักก็ใช้เป็นเกียร์ออโต รถ Mitsu Triton สำหรับงานหนักโดยเฉพาะหัวเดี่ยว ตอนที่มีการทำออกมาเฉพาะจำนวนจำกัดในเมืองไทย ก็ยังออกมาเป็นรถ 4wd AT เกียร์ออโตเลยครับ เหตุผลเพื่อใช้แชสซีย์ที่ใหญ่และโครงสร้างของรถ 4wd เพื่อรองรับงานหนัก และเอาเกียร์ออโตมาใช้เพื่อรองรับงานหนักเป็นพิเศษ
แต่น่าเสียดายตรงที่ คนไทยไม่เข้าใจ คิดไปเองว่ารถปิคอัพเกียร์ธรรมดาจะทนทานกว่าเกียร์ออโต คือไปยึดติดภาพลักษณ์เก่า ๆ ความรู้เก่า ๆ ว่ารถปิคอัพต้องเป็นเกียร์ธรรมดา ................ แต่ลืมไปว่ารถปิคอัพที่เคยขับมาก่อน 90 แรงม้า แแต่ปิคอัพปัจจุบันแรงบิดเกินกว่า 300 nm และแรงม้าเกิน 140 แรงม้า อีกหลายคนก็ยังไม่ยอมปรับตัวเข้ากับสิ่งใหม่ ๆ ซักที ยังยึดกับค่านิยมเดิม ๆ อันโบราณครำครึ

การมีเบรค ABS เข้าไปด้วย น่าจะประหยัดต้นทุนไปได้อีกส่วนนึง จากอุบัตติเหตุเพราะการถ่ายแรงม้าลงสู่ล้อ ไม่เหมือนปิคอัพในอดีตที่มีแค่ 90 แรงม้า ระบบเบรคเดิมๆ ของรถปิคอัพปัจจุบันถ้าไม่มี ABS ไม่สามารถหยุดรถที่มีแรงม้า 160 แรงม้าได้อย่างมั่นใจ


เคยมีคนเมล์มาถามผม เรื่อซ่อมเกียร์ออโต รถปิคอัพ ISUZU เนื่องจากของเขาเป็นรถบริษัทใช้งานภายในบริษัท รถคันนี้วิ่งไป 480,000 กิโลเมตร ปรากฎว่าเกียร์พัง มันน่าเสียดายตรงที่ว่ารถคันนี้ไม่เคยมีการดูแลเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ตามระยะที่ถูกต้องเพราะเจ้าของบริษัทเอง ไม่รุ้และไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ ทำให้รถเกียร์พัง แต่ระยะการพังก็ถือว่าทนมากคือพังที่ระยะประมาณ 13 ปี ใช้งานไปแล้ว 480,000 กิโลเมตร
เขาก็เลยตัดสินใจไม่ซ่อม เพราะกลัวเสียเงินซ่อมอีก 25,000-30,000 บาท เนื่องจากรถอายุมากใช้งานมายาวนานจนเกิน ค่าเสื่อมของบริษัทแล้วเขาก็เลยขายออกไปไม่ซ่อม

คิดดูกว่าถ้าเป็นเกียร์ธรรมดา ต้องซ่อมประมาณ 5,000 -12,000 บาทต่อครั้ง ใช้งานไป 5 แสนกิโลเมตร ต้องซ่อมประมาณ 3-4 ครั้ง เป็นเงิน มากพอกันหรือมากกว่าเกียร์ออโต ถ้าเป็นเกียร์ออโตอาจไม่ต้องเปิดเกียร์ออกมาซ่อมเลยถ้าดูแลถึง
การใช้งานรถปิคอัพ เกียร์ออโตจึงเหมาะสมในเชิงพาณิชย์มากกว่าเกียร์ธรรมดาแน่นอน
แต่ปัญหาก็เป็นดังข้างต้น คือคนซื้อรถเหล่านี้ ซื้อไปให้ลูกน้องใช้และยังมีความคิดติดกับภาพลักษณ์เก่า ๆ ว่ารถมันต้องเป็นเกียร์ธรรมดา
แต่ที่จริงแล้วรถโดยเฉพาะ 2.7 การใช้งานหนักในการเหยียบคลัทจะยิ่งสึกหรอมากกว่าปกติ เพราะรอบ 2.7 สูงกว่าดีเซล

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       ไม่มีใครมาตอบเลยอ่ะะะะะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       คำตอบที่ 6 เห็นทางโต้บอกมาจะ เปลี่ยนเป็นห้า speed แล้วนิ ทั้งหมดทุกรุ่น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ ยังไงก็คงแห้วกับเค้าเกียร์auto

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       คำตอบที่ 11 ข้อมูลแน่นจริงครับ ผมก็เคยอ่านๆมานะครับ ว่า Auto ประหยัดมากกว่าแล้วทนทานกว่าด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
      
เกียร์ AT สำหรับ 2.7 ได้ทำออกมาแล้วสำหรับรถปิคอัพรุ่นแรก
เพียงแต่ว่าคนไทยเองตอนนั้นยังตามเทคโนโลยีใหม่ ๆ ไม่ทันเลย บางคนยังไม่รู้เลยว่าในโลกนี้เขามีปิคอัพ 2.7 ขายอยู่ด้วย
บางคนยังไม่ทราบว่าปิคอัพ Hiluxที่เขาส่งขายต่างประเทศจะเป็นเครื่องเบนซิน 2.7 และ V6 4.0
ส่วนในประเทศจะเป็นดีเซลขายในรุ่น 2.5 กับ 3.0

พอรถ Hilux 2.7 vvti ออกมาขายในประเทศไทยเพราะได้อานิสงค์โครงการ IMV จึงสามารถขายในประเทสไทยได้ด้วย
ทาง TOYOTA ก็เลยเอาออกมาขายแล้วใส่อ๊อพชั่นเกียร์ออโต ให้เป็นรุ่น G ทั้งหมด
แต่ว่าปัญหาคือคนไทยส่วนใหญ่ ๆ ไม่มีความรู้เรื่องปิคอัพเบนซินและเห็นว่ายังเป็นเรื่องใหม่มาก กับการที่ปิคอัพ เป็นเบนซิน เป็นเกียร์ออโต เป็นรุ่น 4wd ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ถูกสังคมให้บริโภคเครื่องดีเซลมากว่า 20 ปี จึงไม่กล้ายอมรับการใช้เกียร์ออโตเพราะคุ้นเคยกับการใช้ปิคอัพเกียร์ธรรมดามาทั้งชีวิต และเห็นว่ารถไม่จำเป็นต้องมีเบรค ABS รถไม่ต้องมีถุงลม แอร์ไม่ต้องมี heater ทำการปรับอุณหภูมิในรถ เอาแค่ปิคอัพธรรมดาก็เพียงพอ แค่มีกระจกไฟฟ้า พวงมาลัยเพาเวอร์ เครื่องเสียงดีหน่อย รถหน้าตาสวยก็เพียงพอแล้ว
เพราะว่าบริษัทรถยนต์ทุกบริษัทเขาไม่มีนโยบายหรือโครงการเอาปิคอัพเบนซินมาขายในประเทศไทย ทำให้คนไทยคุ้นเคยแต่คำว่าปิคอัพดีเซล
แต่เนื่องจาก TOYOTA มีอานิสงค์ IMV จึงต้องขายรุ่นเบนซินไปด้วย



มันก็เลยส่งผลให้รุ่น 2.7 Hilux เกียร์ออโตรุ่นแรกขายไม่ค่อยออก เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับกลัวเกียร์ออโตพัง กลัวบรรทุกไม่ได้
แล้วก็ยังมีรถ Hilux 2.7 4wd อีกที่คนส่วนใหญ่ในประเทศไทยไม่ยอมรับ เพราะไปติดยึดกับภาพลักษณ์ว่าพวกขับออฟโรดเป็นพวกชอบทำลายป่า หรือเป็นพวกเท้าโหด ๆ ต้องเข้าไปลุยจนรถพังกันไปข้างนึง และก็คิดว่ารถพวกนี้ควรเป็นดีเซลมากกว่าเบนซิน
บ้านเราจึงคิดว่า ซื้อรถยกสูงก็เพียงพอแล้วไม่กล้าไปลุยอะไรที่ไหนกลัวรถพัง จึงเป็นที่มาของการซื้อ Hilux Vigo prerunner กันถล่มทลาย ตกข้างทางเบรคไปชนท้ายชาวบ้าน รถกะเทยที่ไม่มีที่ไหนในโลก Prerunner ทำให้ TOYOTA ได้โอกาสยกเลิกการผลิตรุ่น Hilux 2.7 4wd ไปอีกรุ่นนึง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       การใช้ปิคอัพ เกียร์ออโต เหมาะสมทั้งเป็นรถเชิงพาณิชย์และเป็นรถส่วนบุคคล เพราะตัวเกียร์มันมีความทนทานสูงมากและประหยัดน้ำมันมากขึ้น ทันสมัยมากกว่าเกียร์ธรรมดาที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

แต่ปัญหาก็คือ TOYOTA ได้เปลี่ยนแผนการผลิตไปแล้ว ซึ่งต้องใช้เวลาในการขายเกียร์ธรรมดาให้ได้ปริมาณที่กำหนดก่อน
จึงอาจจะกลับมาผลิตเกียร์ออโตอีก
แต่เมื่อนั้นคนไทยส่วนใหญ่ ๆจะยอมรับการใช้ปิคอัพเกียร์ออโต หรือเปล่า เพราะที่เห็น ๆ กันคือยึดติดกับภาพลักษณณ์ปิคอัพเกียร์ธรรมดา ที่ไม่มีอ๊อพชั่นกันอยู่เลย




นอกจากผมพูดให้ซื้อปิคอัพเกียร์ออโต ABS ถุงลม แล้ว คุณเคยเห็นเวปไหนที่เขาพูดให้ซื้อปิคอัพตอนเดียวมาบรรทุกของเป็นเกียร์ออโตอีกหรือไม่
ผมบอกเลยว่าไม่มี เพราะสังคมบางทีมันไม่ได้ให้ความรู้กันเท่าที่ควร

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       ผมว่าในการใช้รถส่งของที่เจ้าของไม่ได้ขับเอง เกียร์ธรรมดายังเหมาะสมมากกว่านะครับ

ง่ายๆ แค่เปลี่ยนจากเกียร์ R ไป D ถ้าไม่ใช่เจ้าของรถขับเอง ผมว่าคนขับรถส่งของเกินครึ่งจะไม่เบรกให้รถหยุดสนิทก่อนเปลี่ยนเกียร์
หรือพอรถใกล้หยุดบางคนก็เข้าNปล่อยไหลโดยไม่รู้ว่าเกียร์มันจะพังเร็ว
ที่ฝรั่งเขาใช้กันไม่มีปัญหา ส่วนหนึ่งผมว่าเพราะเจ้าของรถขับเอง รถพวกนี้น่าจะเป้นเจ้าของไร่หรือฟาร์มใช้
ถ้าบรรทุกจริงจังเขาคงใช้รถใหญ่ ไม่ใช่แบบบ้านเราที่เสริมกันให้รับได้3ตัน

เพราะฉะนั้น บ้านเรารถส่งของที่เจ้าของไม่ได้ขับเอง เกียร์ธรรมดาดูจะเป็นทางที่เหมาะสมกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       ส่วนรถที่เจ้าของขับเอง ส่วนใหญ่อยากได้เกียร์ออโต้กันแน่นอน
และคิดว่าโอกาสเสียหายจากการใช้งานไม่ถูกวิธีหรือดูแลไม่ดีก็คงมีแต่น้อย
นี่ผมก็1.9แสนกม.แล้ว เตรียมเข้าศูนย์เช็คซักที ห่างศูนย์ไปหลายระยะแล้ว รถชักอาการแปลกๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       ในต่างประเทศที่ไม่มีโรงงานผลิตรถเอง การเพิ่มเกียร์ออโตเมติกสำหรับรถปิคอัพ ต้องจ่ายที่ราคามากกว่า 1 แสนบาทไทยต่อรถ 1 คัน จัดว่าเป็นราคาที่โหดร้ายพอควรสำหรับการเลือกเกียร์ออโตมาใช้งาน สำหรับรถ คันนึงที่มีราคาประมาณนี้
ทำให้ต่างประเทศบางพื้นที่จึงซื้อแค่รถเกียร์ธรรมดา เพราะพวกเขาจ่ายไม่ไหว

แต่พอเป็นรถมือ 2 ที่เต๊นท์รถบ้านเรานำออกไปขายต่างประเทศ เขารับซื้อรถที่เป็นรุ่นเกียร์ออโต 4wd มากเป็นพิเศษ และไม่เห็นใครกลัวเกียร์ออโตพัง ทั้งที่ในประเทศโลกที่ 3 การซ่อมเกียร์ออโต น่าจะยากลำบากกว่าบ้านเรามาก


แต่บ้านเราสะดวกสบายทุกอย่างการซื้อรถจากเกียร์ธรรมดาเป็นเกียร์ออโต ในรถรุ่นเดียวกันจะจ่ายเพิ่มแค่ 30,000-40,000 บาท

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       Vigo4x4. 2.7 autoผมซื้อมือสองจากเต้นท์มาได้จะเกือบปีแล้ว เอาเข้าศูนย์เปลี่ยนของเหลวทุกอย่าง เจ้าของเดิมออกรถวันที่30/06/2005 ไมล์นะปัจจุบัน(5/08/2555)ตอนนี้ 350,782 กม. ผมใช้มาเกียร์ออโตยังไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย และก็จะเปลี่ยนของเหลวตามระยะต่อไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       รุ่นพี่อย่าง Lexus RX270 ยังมี 6 speed ต้องรอมรดกตกทอด ทั้งเครื่อง 1AR-FE L4 DOHC 16-Valve Dual VVT-i ทั้งเกียร์
แต่ 2.7 Auto จะมานู้น 2015

แสดงความคิดเห็นย่อย