คำตอบที่ 3
1.ผมบอกเลยว่าเสียงไม่ดังถ้าเป็นยางใหม่ เสียงดังก็ต่อเมื่อวิ่งผ่าน 70,000 กิโลเมตรไปแล้วเสียงจึงจะเริ่มดัง ตอนแรกผมก็เคยกลัวยาง AT เสียงจะดังแต่ปรากฏว่าไม่ดัง เพียงแต่โครงสร้างยางของ BF AT จะแข็งกว่า HT เรารู้สึกตรงนี้ได้เลย แต่ก็แลกมาด้วยความทนทานมาก
โอกาสยางจะแตกแบบระเบิดแทบไม่มี คนเลยยอมรับ
2. วิ่งเร็วไม่เหินน้ำครับ เกาะถนนกว่า HT เดิม ๆที่คุณใช้เสียอีก สามารถรีดน้ำได้ดีทีเดียว ได้อารมณ์สะใจเวลาลุยแอ่งน้ำครับ
ผมใช้ยาง ติดรถ Hilux 2.7 cab 4wd ยี่ห้อบิดกระโจน ขับไปนิดเดียวต้องรีบถอดยาง HT ตัวนี้ออกเลย ไปหายางเก่า BF AT มาใส่ ฟิลลิ่งเกาะถนนดีกว่ากันบานเบอะ
3. ราคาตอนปีที่แล้ว 2011 ราคายาง 31 เส้นล่ะ 6600 บาท ถ้าเป็นขนาด 30 เส้นล่ะ 6000 บาท
ราคาปัจจุบัน ต้องเป็นยางปี 2012 นะครับ ถ้าเป็นขนาด 31 เส้นล่ะ 7700 บาท ถ้าเป็น 30 เส้นล่ะ 7000-7200 บาท ลองหาร้านขายส่งดูครับ
ยาง BF AT ยี่ห้อนี้มีข้อดีมากครับ เรียกว่า AT ยกให้ BF Good rich ยี่ห้อเดียวเลยล่ะ
แต่ข้อเสียที่มีก็คือ
- ราคายางบ้านเราแพงมากครับ ยาง BF AT ราคาแพงมากแบบโหดร้าย
แต่ถ้า BF เป็นยาง HT MT ไม่ค่อยมีใครสนใจเพราะคุณภาพก็งั้นๆ ราคาแพง คนไม่นิยม
ต่างจาก AT BF คนนิยมมากกว่า
- เป็นยางนำเข้าจากอเมริกา คนนำเข้ามีหลายเจ้า หลายสำนักเปิดตู้กันเอง กว่าจะได้ยางปีใหม่ ๆ 2012 ต้องรอกัน จนถึงเดือน กค. เป็นอย่างต่ำ
- หลายคนเบื่อ เพราะยางดอกแบบนี้ไม่พัฒนาเลยกว่า 20 ปีแล้ว บางคนไม่ชอบ