คำตอบที่ 1
       265/75 R16 มันเต็มซุ้มเกินไปสำหรับ Fortuner ใส่แล้วล้อซ้ายมักจะเลี้ยวติดบังโคลนนิดหน่อยบางคันปาดบังโคลนออกเยอะ บางคันปาดออกน้อย แม้จะยก 2 นิ้วแล้วก็ตาม แต่บางคันเขาตั้งศูนย์ยังไงไม่ทราบหลบออกได้ไม่ติด ถ้าไม่มีธุระอะไรก็เล่นแค่ 265/70 R16 ขนาดเดิมติดรถเป็นยาง BF AT ก็เหลือ ๆ ครับ เพราะขนาดนี้ลุยได้ประมาณ ภาพด้านบนของเวปที่ผมไปลุยมาแล้ว
แต่ถ้าจะใส่ยาง Mud ก็อีกเรื่องนึง

ยาง 285/75 R16 ถ้าจะใส่ต้องยกประมาณ 4 นิ้ว ใช้ชุดยกแน่นอน คุณต้องทำเหล็กกันเซด้านหลังใหม่ ราคาไม่แพงลองติดต่อพี่ในกลุ่ม Fortuner ลายไผ่ดูหรือถามป้าต้อมก็ได้เขาพากันไปทำมาแล้ว
แต่ปัญหาคือรถเบนซินน่ะครับ คุณต้องไปทดเฟืองใหม่หน้าหลังให้เป็น 8:39 ไม่งั้นวิ่งไม่ไหว อันนี้ติดต่อเจ้าสำนักเต่าบินดู หรือติดต่อช่างยุทธบายพาสก็ได้ กลุ่มลายไผ่เขาไปทำที่นั่นกัน ถ้าจะใส่แบบนี้อย่าลืม Fortuner ต้องใส่ Limited slip ของ Prado เข้าไปด้วย เพราะรถ Fortuner ทุกคันที่ขายในไทยไม่มี Limited slip ที่เฟืองท้าย ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่น 4x4 ก็ตาม พี่ในกลุ่มลายไผ่ต้องหามาใส่ทุกคัน ไม่เกี่ยวกับการลุยออฟโรดน่ะครับ แต่ใส่ Limited slip แล้วรถจะวิ่งดีขึ้นโดยเฉพาตอนเลี้ยวโค้งกับการใส่ยางใหญ่แบบนี้ห็นชัดเจน ลองไปขับรถของ Fortuner ลายไผ่ก็ได้เขาหามาใส่กันเกือบทุกคันแล้วมั้ง เพราะตอนนั้นผมเคยถามพี่นิพนธ์เขาหากันมาได้ถูกมากให้ช่างยุทธใส่ให้เลย แต่ตอนนี้ Limited น่าจะแพงขึ้นเยอะ
ถ้าข้ามไป 285/75 งบประมาณสูงขึ้นเห็นได้ชัด

คุณอยุ่ทางภาคอีสานอยู่แล้วนี่ครับผมจำไม่ได้จังหวัดอะไร ลองคิดก่อนทำ เสียดายเงินเปล่า ๆ
ถ้าไม่ได้เน้นใช้ลุยอะไรวิ่งอย่างเดียว ก็เปลืองแก๊สโดยไม่จำเป็นอีก ไม่ทราบว่าไปติดแก๊สกับเจ้าสำนักสาย 5 มาหรือยัง ถ้าติดแล้วเสตปนี้จะสิ้นเปลืองโลล่ะ 2.5 เลยน่ะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ตอนนี้คุณน่าจะเปลี่ยนโช๊คทำช่วงล่างมาแล้ว จะใส่ยาง Mud ขนาด 265/75 R16 ก็ได้ครับ ไม่น่าจะติดแล้วเสตปนี้ลงทุนน้อยสุด และน่าจะจบได้ง่ายและเร็ว ถ้ามีโอกาสขึ้นมาชลบุรีสั่งช่างยุทธหา Limited slip ของ Prado แล้วเอามาเปลี่ยนก็ได้จะเห็นผลขึ้นเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       สวัสดีครับK.Auto ผมคนหนึ่งครับที่ต้องการใส่ชุดยก 4 นิ้วของSun หรือถ้าทำใด้ก็ต้องการแค่สองนิ้วก็พอครับ และต้องการเปลี่ยนยาง MudหรือAT 265-75-16 สิ่งที่ต้องการรู้อยากครับ จำเป็นต้องทดเฟือง 8:39ทั้งหน้าและหลังไหมและต้องทำอย่างอื่นเพิ่มอีกไหมครับ กลัวว่าไม่จบ เพราะตอนนี้ผมก็ออกทริปกับกลุ่มลายใผ่ครับ ในกลุ่มมีแต่รถสูงๆทั้งนั้น อยากโตบ้างครับไม่ทราบว่าเครื่อง 2.7ของเราจะไหวไหม หลายคนในกลุ่มก็เชียร์ไห้ยก ในกลุ่มมีแต่เครื่อง 3.0 ทั้งนั้นแถมมีกล่องพ่วงกันอีก ผมกลัวว่าเครื่อง 2.7 จะลากไม่ไหวอยากก็อยากกลัวก็กลัว กลัวไม่จบและอีกอย่างที่สำคัญกลัวงบบานปลายแบบว่ามีตังค์ไม่ค่อยเยอะครับ(มนุษย์เงินเดือนน้อย)อิอิอิแต่มีความอยากความต้องการ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       อย่าเพิ่งคิดว่าไหวหรือไม่ไหว มันอยู่ที่ไประดับไหนมากกว่าครับ

เพียงแต่ว่าตอนนี้ถ้าไปเทียบกับ Fortuner ลายไผ่ออฟโรดยังไงก็ไม่ไหวแน่นอนครับ
1.พี่นิพนธ์ซื้อรถเจ้าสำนัก off road แห่งนึง ไปเล่น เป็น sport cruiser วางคาน ยาง 37 นิ้ว winch 3 ตัว Diff lock ไฟฟ้าทั้งหน้าและหลัง
2.น้าหยี Fortuner วางคาน VX80 ยาง 37 นิ้ว ไม่แน่ใจว่าคานมี Diff lock ติดมาด้วยหรือเปล่า
3. น้าโต Fortuner วางคาน VX 80 ยาง 37 นิ้ว
4. คันน้าเจษก็ชุดยก BTV ยก 6 นิ้ว ยางเท่าไหร่ไม่ทราบ จำไม่ได้แล้ว
5. รถ Fortuner พี่อ้วน เอาชุดยก Sun จากน้าหยีไป แล้วก็ยก 4 นิ้ว ยาง Mud 35
คันอื่น ๆ ที่ผมจำชื่อไม่ได้ก็ใช่ย่อยซะที่ไหน พวกพี่ที่อยู่การบินไทยและรัฐวิสาหกิจ น่ะ แล้วก็ท่านอื่น ๆ ที่จำชื่อไม่ได้อีก ถึงแม้บางคันเขาแต่งรถไปเยอะก็จริงและเขาไม่ได้ขับออฟโรดแค่ไปพอประมาณก็ตาม แต่เสตปที่จะไปถึงเขาลงทุนไม่น้อยเลยนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ทางที่ดีประมาณตนไว้ก่อนดีกว่า เพราะการจะไต่ไปถึงระดับนั้น ลงทุนบาน ขอให้คิดว่ารถเราไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่ในป่าเพียงอย่างเดียว
ลองไล่เสตปผมก่อนดีไหมครับแล้ว ค่อยลองดูค่าใช้จ่ายว่าจะลงทุนหรือไม่ แต่ทำไปแล้วรถยังใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันไม่เปลี่ยนเกินไปรถไม่ได้แปลงมากนัก ใช้ได้ทั้งบนถนนปกติและออฟโรด
แต่ถ้าแต่งลงไปเยอะหรือยกสูงมากกว่านี้มันใช้งานในชีวิตประจำวันไม่ค่อยสะดวกนัก เพราะรถเราไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่ในป่า แต่รถเรามันเป็นรถที่ใช้งานในเมืองนอกเมืองและสามารถใช้ออฟโรดได้ในระดับนึง คือระดับอนุบาลยันประถม ใช้ชีวิตปกติในเมือง ทำกิจกรรมวันหยุด ท่องเที่ยวทั่วไป พอยามว่างก้ออกทริปลุยป่าลุยออฟโรดบ้าง มันเป็นคุณลักษณะของ Fortuner อยุ่แล้ว

เสตปแรก 2 นิ้ว ยาง Mud 265/75 R16 ไปแบบนี้ถือว่าสบายแล้ว

1. ยก 2 นิ้วพอแล้วไม่เดือดร้อนมากโช็ค สปริงหน้าหลังจบ ครับ
2. ใช้ยาง Mud เลยครับถ้าจะเน้นเที่ยว ไม่ต้องเอา BF Mud นะครับเพราะเราต้องใช้ถนนดำปกติในชีวิตประจำวัน เอายี่ห้ออื่นก็ได้ ถ้าเป็น BF Mud ราคาแพงควรเอาไว้เป็นรถโชว์หรือออกทริปอย่างเดียวดีกว่าเพราะดอกหมดเร็วมาก
3. ใส่กันชนเหล็ก ไซด์เรียวย้ำนะครับต้องมีทั้งคู่
เนื่องจากรถผมไม่มีเวลาออกทริปต้องระวังมากเรื่องสีรถ หรือการกระแทกจากทางด้านหน้าและด้านข้าง ตอนผมไปทีไลป้ารถผมไม่มีกันชนเหล็กขึ้นเนินชันเกือบ 90 องศาไม่ได้ ไม่งั้นรถพังเพราะรถเรายังเดิม ๆ ทั้งคันและใช้กันชนพลาสติกเดิมติดรถ ต้องขอจอดไว้ที่เนินนี้ครับ ............... แต่รถที่มีกันชนเหล็กไซด์เรียวช่วยได้เยอะมาก และจะยกรถข้ามไปได้โดยการใช้ winch และป้องกันการกระแทกด้านหน้า ถ้าคิดจะไปออกทริปกับลายไผ่ตลอดแบบนี้ใส่ไปเลยครับ
4. Winch หน้ารถ อันนี้บอกไว้ก่อนน่ะครับว่าต้องมี มันช่วยได้เยอะแบบคาดไม่ถึง ถ้าไปไม่ได้ก็ winch เอาคือส่วนใหญ่จบที่ winch ทั้งนั้นครับ อาวุธส่วนใหญ่ที่ดีที่สุดในป่าเมืองไทยคือ winch พระเอกเลยถ้ามีต้นไม้ให้วิ้นซ์ ยี่ห้อที่ใช้ไม่ต้องเลือกมากครับ จบที่ Warn นี่แหละที่เห็นมาส่วนรุ่นอยู่ที่เราเลือกครับว่าอยากได้แบบเทพ ๆ เลยหรือเปล่า ถ้าอยากได้ผมว่าเอาแค่กลาง ๆ ก็ 9500 lb เพียงพอจำราคาไม่ได้ ประมาณ 3x,xxx มั้ง ถ้าเอาแบบย่อมเยาว์ก็ warn m8000 ราคา 26000 บาท แบบเทพ warn 8274 มันสำหรับขาลุยโดยเฉพาะคงต้องยกให้เขาไปแบบเราไม่ต้องขนาดนั้นเพราะราคาดุเดือดมาก 60,000 แน่ะ

5. กันชนหลังของเชิดชัยหรือของ piak ระยอง

6. อันนี้ถ้าตังค์เหลือนะครับ อย่างที่ผมแจ้งไปรถ Fortuner 4x4 ที่ขายในไทยเอาไว้แค่ใช้งานทั่วไปบนนถนนไฮเวย์และลุยออฟโรดได้นิดหน่อยเท่านั้น option หลักสำหรับ 4x4 ถูกตัดออกไป คือ Diff lock ไฟฟ้าที่เพลาหน้าและหลังไม่มี มาให้ ผมเคยหาจากหน้าซื้อขายแล้วสั่งไม่ได้ตัวนี้ลองปรึกษาเจ้าสำนักเต่าบินดูครับว่าทำให้ Fortuner หรือเปล่า เพราะเขาทำให้รุ่นอื่นมาหลายคันแล้ว
รถเทพที่ลุยป่าหลายคันผมเจอสูตรนี้ทั้งนั้นครับ ทีมงานช่างยุทธบายพาสที่กลุ่มลายไผ่ไปซ่อมรถกันก็ใช้สูตรนี้ มันช่วยได้เยอะเวลาวิ่งติดหล่มโคลนปีนเขาปีนหินร่องลึกต้องการกำลังมากก็เปิดใช้งานเลย ราคาประมาณ 30,000 บาท รถ Fortuner ตัวส่งนอกก็ใช้ระบบนี้ รถ Prado ก็ใช้ระบบนี้เหมือนกัน ยามปกติวิ่ง 4wd full time ในเมืองนอกเมือง พอเวลาลุยออฟโรดหนัก ๆ ก็เปิด Diff lock ใช้งาน
แต่ต้องเข้าใจว่ามันคนล่ะตัวกับ Auto diff lock นะครับ อันนั้นราคา 19,000 บาท ใช้งานได้ยังไม่ตรงจุดประสงค์
ส่วน Limited กำลังไม่พอสำหรับลุยแบบนี้ครับ เหมาะกับรถเดิม ๆ 4wd ออกจากโรงงานมากกว่า เป็นของราคาประหยัดต้นทุนสำหรับโรงงานบริษัทรถยนต์ในไทยมักจะใช้สูตร Limited slip กับรถโฟร์วีล 4wd ที่ขายในไทย
ส่วน Air locker ราคาแพงจัดจ้านเหมาะกับรถเทพ ๆ ตัวจริง สเตปนี้เราไม่เกี่ยวข้ามไปเลย

ทำแค่นี้ประหยัดงบแต่ใช้งานได้จริง แทบไม่เป็นรองใครแล้วครับ เอาไว้เที่ยวได้สบาย แต่ต้องเข้าใจว่าเอาไว้เที่ยวนะครับ ไปได้เยอะมากไม่อายใครแล้ว กับเสตปนี้ ที่สำคัญก็ฝึกทักษะจากกูรูและประสบการณ์เยอะ ๆ จะช่วยเราได้มากมาย ว่าขับแบบไหนไลน์....ไหนรถเราจะไม่เสียหาย ถ้าแต่งแบบนี้เป็นการเสริมความแข็งแรงในการออกทริปท่องเที่ยว รถยังใช้งานได้แบบเดิมตามปกติ ไม่เสียรถเป็นการแต่งพองาม


ถ้าจะเอาไว้เล่น .... แบบที่เค้าเล่นกันแล้วล่ะก็ไม่ได้นะครับ แล้วจะกระโจนลงไปโครม ๆ ลงบ่อโคลนแบบที่เค้าเล่นกันใน weekend ก็ยังไม่ได้ เสตปนั้นต้องอีกแบบนึงไล่ไปจนถึงวางคาน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       ถ้าจะไต่ไประดับยาง 285/75 R16 ค่อยมาต่อวันหลัง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ผมต่อเรื่องด้านบนนิดนึง เสตปยก 2 นิ้ว ด้านบนผมแก้ไขในข้อ 6

ข้อ 6. ข้อนี้ควรไปทำอย่าคิดว่าตังค์เหลือแล้วทำ แต่ควรไปทำเลยล่ะ
หลายคนยกสูงไปก่อนที่จะใช้Diff lock ด้วยซ้ำ เหตุเพราะว่าค่า Diff lock แพง ครับ ราคา 30,000 + - นี่เป็นราคาเฉพาะล้อหลังอย่างเดียวนะครับ ให้ใส่ล้อหลังก่อน แต่ล้อหลังจำเป็นมากในการใช้กำลังให้ใส่หลังก่อน หลังจากนั้นตังค์เหลือก็ค่อยใส่ Diff lock ล้อหน้า ใส่ Diff lock เข้าไปนี่กำลังเหลือเฟือหายห่วงเลยครับ รถ Sport cruiser Tiger Vigo ถ้าทำจุดนี้ได้ผ่านอุปสรรคสบายมาก ไม่ต้องไปยกให้สูงจนวุ่นวาย แต่ Fortuner ผมยังไม่เคยเห็นใครทำถึงให้ลองติดต่อเจ้าสำนักที่เขาทำสูตรแบบนี้กันว่า Fortuner ใส่ได้หรือเปล่า


ข้อควรระวังสำหรับ Diff lock มีเพียงเรื่องเดียวคือ . .... ......ตามหนังสือคู่มือ manual สำหรับ Fortuner ที่ส่งขายในต่างประเทศ ผมวานให้สมาชิกที่เขาทำงานโตโยต้าช่วยแปลมาให้จากคู่มือ คือให้ใช้กำลังของรถตัวเองก่อนถ้าแน่ใจว่าไม่สามารถผ่านอุปสรรคนี้ไปได้ ให้รถจอดให้นิ่งสนิทแล้วจึงเปิดใช้งาน Diff lock อย่าพยายามออกคันเร่งมากนัก หรือปั่นมากนักค่อย ๆ ออกตัวไป เพราะว่าถ้าเราเปิดใช้ Diff lock แล้วกำลังที่ส่งไปที่เฟืองท้ายมหาศาลมาก กำลังเหลือเฟือเลยล่ะครับ กำลังฉุดลากที่สูงขนาดนี้ถ้าเราปั่นฟรีมากเกินไป ปัญหาที่เคยเจอกันก็คือ เฟืองในกระโหลกเพลานะแตกเลยนะครับ เนื่องจากแรงบิดที่ส่งไปยังล้อหลังแบ่งกำลัง 50:50 กำลังของรถมันจะสูงกว่ารถทั่ว ๆ ไป อุปสรรคยาก ๆ จึงผ่านได้ง่าย ถ้าเป็นรถแบบ 2wd หรือ 4wd ที่ไม่มีระบบนี้ล้อหลังปั่นฟรีทิ้งหมดกำลังของรถหายไปหมด รถไม่มีกำลังขึ้นหรือฉุดลาก เวลาเปิดใช้ Diff lock ก็อย่าสนุกจนเกินขอบเขตเอาแค่พยายามพ้นอุปสรรคก็เพียงพอ

ถ้าเขาบอกว่าทำไม่ได้ก็ให้ใช้สูตรของกลุ่มลายไผ่เลยครับที่ทุกคันจะใส่ Limited slip ของ Prado รถจะวิ่งดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแล้วยังช่วยผ่านอุปสรรคได้มากกว่ารถที่ไม่มี ทำกับช่างยุทธบายพาสได้เลยในกลุ่มลายไผ่เขาใส่กันที่นั่นทั้งหมดตอนนั้นเขาหาของได้ถูก เปรียบเทียบนะครับผมมีรถ 2.7 4x4 2 คัน Fortuner 4wd vs Hilux Vigo 4wd ในเส้นเดียวกันทุกเช้าผมต้องใช้งานออฟโรดเพื่อข้ามร่องระบายน้ำเกาะกลางถนน เพื่อมาทำงาน
- ...........Fortuner ต้องใช้ HL จึงข้ามร่องได้ไม่งั้นล้อฟรีทั้งหล้อหน้าและล้อหลังข้ามไม่ได้เลย แต่การวิ่งเนียนนุ่มกว่าแต่ล้อต้องปั่นฟรีทิ้งออกไปมากกว่าโคลนกระจายขึ้นขอบประตูหน้าจนถึงประตูหลัง ต้องล้างรถล้างช่วงล่างทุกวัน
-........... Hilux 2.7 4wd ใช้แค่ 2H ก็ข้ามร่องน้ำได้ แต่ต้องปั่นฟรีที่ล้อหลังเยอะหน่อย ถ้าจะให้ข้ามง่ายก็เลือกมาที่ 4H ไม่จำเป็นต้องจอดรถเข้า 4L เอาแค่ 4H ก็ยังเหลือเฟือ แต่ล้อหลังยกขาลอยขึ้นมากกว่า Fortuner Limited slip จับการทำงานให้อารมณ์หนักแน่นกว่า แต่ไม่ต้องปั่นฟรีทิ้งเหมือนฟอร์จูเนอร์โคลนไม่เลอะเท่ากับฟอร์จูเนอร์ คือไม่ต้องออกแรงมากเท่ากับฟอร์จูเนอร์
เพราะฉะนั้นถ้าใส่ Diff lock ไม่ได้ให้หันมาใส่ Limited slip ล้อหลังแทนครับ


ก่อนจะยกมากว่า 2 นิ้วให้จบเสตปนี้ก่อนครับแล้วจะรู้ว่ารถเรายังต้องการมากกว่านี้อีกหรือไม่

ผมแก้ไขเพิ่มเติมความหมายให้เดี๋ยวจะเข้าใจผิด ในการแปล
คำว่า Diff lock หน้าหลังที่ให้ไปใส่นั้น ความหมายคือการใส่ Diff lock ไฟฟ้า หรือ Air locker กำลังจึงจะเพียงพอกับการใช้งานออฟโรดแบบหนักปานกลางถึงหนักมาก
อย่าไปเข้าใจผิดว่าให้รถ 4wd ใส่ Auto Diff lock เพราะมันยังใช้งานได้ไม่ตรงจุดประสงค์ การใส่ Auto diff lock ที่ผมแนะนำในกระทู้ด้านล่าง คำตอบ 25 จึงจะเหมาะสม

 แก้ไขเมื่อ : 27/9/2555 8:37:03

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ต่อมาคืออีกเสตปนึง
คือใช้ชุดยก SUN เพื่อใส่ยาง 285/75 R16
เสตปนี้บอกเลยว่าจาการที่เห็นรถของ Fortuner พี่นิพนธ์กับคนอื่น ยกขนาดนิ้วการวิ่งลุยออฟโรดยังไม่ต่างจากยก 2 นิ้วมากนักครับ แต่การใช้งานในเมืองทางไฮเวยต่างกันแน่นอน เพราะรถอืดขึ้นชัดเจน
เพราะฉะนั้นถ้าจบเสตปแรกซึ่งผมถือว่าเหลือ ๆ แล้วนะครับกับการใช้งานแล้วรถไม่เสียหายด้วย แต่ต้องจบด้วยการใส่ Diff lock หน้าหลังก่อนแล้วมั่นใจว่าตัวเองอยากได้มากกว่านี้ เพราะถ้ารถทั่วไปตอนผมเห็นยก 4-5 นิ้วเพื่อใส่ยาง 285 การลุยไม่ต่างกันเท่าไหร่ เจอโหล่มโคลนยทางยาวต้อง Winch กันทุกคัน ตอนไปทีไลป้าคือตัวอย่างที่ดี ไม่มีความแตกต่างให้เห็นเท่าไหร่เลยครับ เพราะรถ Fortuner พี่นิพนธ์ น้าหยี พี่อ้วน รถทุกคันไม่มี Diff lock เลยซักคัน เลยวิ่งข้ามบ่อโคลนไม่ได้ รถผมเดิม ๆ วิ่งไม่ได้ของเขาก็วิ่งไม่ได้เช่นกัน พอผมนำหน้าผ่านโคลนไปได้รถคันหลังใช้ยางตะขาบตามมาปั่นดินเละเทะ รถ Fortuner ก็ผ่านมาไม่ได้อีก รถปิคอัพยกสูงขนาดเดียวกันก็มักเจอปัญหาแบบนี้คือไม่มี Diff lock ทำให้ผ่านไม่ได้ต้องวินซ์กันอยู่ดี เพราะฉะนั้นจบที่มีวินซ์ และมี Diff lock หน้าหลังได้ เหลือ ๆ ครับ
ทีมงานช่างยุทธเขาใช้ Diff lock หน้าหลังทุกคัน รถเขาผ่านได้เกือบหมด มีบางช่วงที่ยากจริง ๆ ผ่านไม่ได้จึงใช้ Winch เอา

ถ้าทำใส่ยาง 285 ยกสูงก็ต้องใช้ชุดยก เปลี่ยนเหล็กกันเซหลังใหม่ (ถามที่ทำจากพี่นิพนธ์ ) โช๊คสปริง หน้าหลัง ยาง Mud
ทดเฟืองเป็น 8:39 ไม่งั้นวิ่งไม่ออกอืดครับ ลองถามจากเจ้าสำนักที่ทดเฟืองดูครับว่าราคาเท่าไหร่ น่าจะมีประมาณหมื่นนึงหรือมากกว่า แต่เฟืองเดิมต้องเก็บเอาไว้นะครับอย่าขายออกไป เพราะถ้าเรากลับมาล้อขนาดเดิมต้องใช้เฟืองเดิม ไม่งั้นรถวิ่งไม่ออก
Gas ต้องไปเปลี่ยนหม้อต้มใหม่จูนใหม่ครับ หม้อต้ม ใช้ KME Gold

พี่auto ขอข้อมูลทดเฟืองด้วยคร้าบ พอจะมีเบอร์ติดต่อไหมคร้าบ จาก : uefa(uefa) 19/9/2555 19:14:39 [125.25.175.82] 0819235942 เต่าบิน จาก : Auto.(Auto.) 19/9/2555 20:15:55 [27.55.10.5]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       อีกเสตปนึง คือถ้าจะใส่มากกว่ายาง 285 แล้วล่ะก็
ผมแนะนำว่าปีกนกไม่เหมาะแล้วครับ ถ้าจะยกมากกว่านี้ใส่ยางมากกว่านี้ ต้องไปจบที่คานดีกว่ามั้งแล้วข้ามไปใส่ยาง 36 37 โน่นเลย
แบบนี้รถต้องเอาไว้ออกทริปอย่างเดียวแล้วครับ ไม่เหมาะใช้งานจริง




ส่วนอีกแบบที่เห็นมีคนแนะนำกันก็คือ หาซื้อรถมาวางคาน
แบบนี้ต้องคิดดี ๆ และคิดหนัก ๆ หน่อยก่อนจะทำตามแบบเค้า .......เพราะว่าเสตปนี้เท่ากับว่าคุณต้องมีเงินมาลงเยอะ
พี่นิพนธ์ใช้ Fortuner ชุดยก Sun ยางตะขาบ เวลาออกทริป เวลาปกติยาง BF AT สุดท้ายก็อยากได้สูงกว่านี้ไปมากกว่านี้เขาก็ซื้อรถวางคานแล้วมาเล่นเลย
เพราะฉะนั้นผมถึงบอกไงว่า Fortuner เสตปแรก 2 นิ้ว อาวุธครบเหลือแล้วแน่นอนครับ มากกว่านั้นก็ต้องคิดหนัก ๆ หน่อยว่าเราจะไปต่อมากกว่านี้หรือไม่ แล้วจะจบลงที่ตรงไหน
การที่จะซื้อรถมาวางคานหรือซื้อรถวางคานมาแล้ว ก็ตาม งบประมาณที่ผมเห็นแต่ไม่เคยเห็นใครต่ำกว่า 5 แสนบาทซักรายเดียว
แบบนี้ต้องเงินเหลือจริงนะครับจึงทำได้ หลายคันผมเห็นลงไปมากกว่านั้น รถ Sport cruiser ที่พี่นิพนธ์ซื้อมา อาวุธครบถ้าเราซื้อรถไปทำเองจ่ายมากกว่า 7 แสนบาทแน่นอน แต่เขาซื้อมาได้ราคาต่ำกว่า แต่ก็นั่นแหละราคา ต้องมีเกิน 5 แสนทุกคัน
แม้ว่าจะซื้อรถอื่นมาทำ ราคาจบได้ยังไงก็เกิน 4 แสนขึ้นไปทั้งนั้น อย่างต่ำ ๆ ไม่ว่าคุณจะซื้อรถอะไรก็ตาม แล้วซื้อมารถแบบนี้คือใช้ออกทริปอย่างเดียวมากกว่าที่จะใช้ในชีวิตประจำวัน เวลาปกติจอดซ่อมพอซ่อมเสร็จออกทริป กลับมาก็เข้าอู่ซ่อม
รถที่ผมขับตามพี่คนนึงตอนไปดอยตั๋วเพ่ง เป็นรถ Starda วางคาน ยาง 315/75 r16 คันนั้นกว่าจะแต่งจบเท่ากับราคารถ Vigo 4wd ป้ายแดงนะครับ
พี่ท่านนั้นเวลาปกติ ใช้รถเบนซ์ตากลมขับไปทำงาน วันหยุดขับ Mazda MX5 เปิดประทุนท้าสายลมแสงแดด รถคานใช้เวลาออกทริปออฟโรด เรียกว่าเงินเขาเหลือ มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเหลือพอด้วยสำหรับการซื้อรถมาเล่นและวางคาน
ผมขับตามรถเค้าฝนตกตลอดเส้นทาง รถเขาวางคานก็จริงแต่ขับได้นิ่งมากปีกนกยังอาย ฝนตกตลอดแต่ใช้ความเร็วสูงได้วิ่งตามกับ Fortuner 4wd fulltime นิ่งครับ ความนุ่มนวลปีกนกอายเช่นกัน เบรคหนึบ เครื่องแรงเกียร์ดี แต่กว่าจะจบแบบบนี้เงินหมดเยอะครับ

หลายคนที่บอกมาว่าหาซื้อรถซักคันมาเล่นหรือว่างคานนั้นลองพิจารณาเงินในประเป๋าเราให้ดี มีเล่นอย่างเค้าหรือไม่ หรือจะทำรถเสตปแรกอย่างที่ผมบอกลุยได้เหลือพอแล้ว มากกว่านี้เราคิดดีหรือไม่ว่าจะไปต่อ

เพราะฉะนั้นสเตปนี้ไม่ห้ามแต่ว่าเงินต้องเหลือ และไตร่ตรองดูทุกสเตปก่อนครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       อีกอย่าง ลืมไปได้เลยครับคำว่าเบนซินหรือดีเซล
เพราะเวลาไปลุยออฟโรดไม่ต่างกันหรอกครับ ผมก็ไปออกทริปกับ Fortuner ลายไผ่มาหลายครั้ง รถ Fortuner กำลังเหลือพอ ไม่มีอะไรแตกต่าง ดีเซลจะซ่อมมากกว่าด้วย เพราะ ดีเซลเทอร์โบส่วนใหญ่พังแล้วทั้งนั้น หัวฉีดก็ต้องทำแล้วทั้งนั้น คอมมอนเรลจุกจิกกว่า
เพียงแต่เราต้องเสริมอาวุธบ้างถ้าจะไปออกทริปในป่าบ่อยครั้งหรือลุยหนักขึ้น คำว่าเบนซินหรือดีเซลไม่ได้เกี่ยวข้องแต่อย่างใดกับการใช้งานแบบนี้ถ้าเราตบแต่งให้ถูกต้องก็ไม่หลงทาง

ปัญหาของดีเซลหรือเบนซินไม่ได้น่าเอามาคิด
แต่ให้คิดไปว่าเราจะจบที่ตรงไหนหรือเราจะเพียงพอแค่ตรงไหนนั่นแหละ มันเป็นข้อพิจารณาสำคัญ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ขอบคุณคุณ Auto มากๆครับ ละเอียดยิบเลย ได้ความรู้มากๆครับ

ตัดสินใจแล้วครับว่าจะค่อยๆทำไปก่อน เด๊ะจะไปใส่กันชนหน้า+ไซด์เรียว แล้วก็คบหากับยาง 265/75R16 ก่อนครับ

ตอนนี้ติดแก๊สที่จ้าวสำนักสาย1แล้วครับ +กับกันชนหลังของเชิดชัยครับ

ขอบคุณมากครับ



ตอบ....... ไม่ทราบว่าจะใช้รถไปออกทริปลุยป่ากับเค้าด้วยหรือเปล่าครับ ถ้าใส่แค่วิ่งทั่วไปเฉย ๆ จบลงตรงนี้ได้เลย แต่ถ้าจะไปออกทริปให้ลง Winch ยี่ห้อ warn ซักตัว เพราะเราใส่กันชนเหล็กเพื่อรับวินซ์มาแล้ว จะได้ครบมีวินซ์เที่ยวคนเดียวยังอุ่นใจเลย
แล้วหลังจากนั้นค่อยหาทางลง Diff lock ไฟฟ้าของ Prado ที่ล้อหลัง เงินเหลือก็ลง Diff lock ไปที่ล้อหน้า แบบฉบับนี้ขั้นเทพแล้วนะครับ รถ Fortuner ที่ลุยไม่ได้เหมือนรถเทพ เทพ เพราะเราไม่มีอาวุธเหมือนเค้า กำลังที่ลงล้อมันปั่นฟรีทิ้งหมด ถ้าใส่ไปแล้ว......... จะพบความแตกต่างว่ารถออฟโรดลุยจริง ๆ เป็นยังไง กับ Fortuner วิ่งในเมืองเป็นยังไง
by Auto

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       อ๋อลืมตอบอีกอย่างครับ ผมทำงานอยู่ที่จังหวัดอำนาจเจริญครับ แต่บ้านก็อยู่บางกอกน้อยเนี่ยแหละครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       ขอบคุณมากครับ K Auto สำหรับผมออกทริปกับลายใผ่ก็ตามโปรแกนมก็สามเดือนครั้ง แต่ละทริปก็ไม่ได้โหดมากมายแต่เวลาไปกันของผมเหมือนเด็กน้อยและก็มีเวลาไปเองกับกลุ่มของผมที่ทำงานครับ ก็ไปอย่างที่คนอื่นเขาไม่ไปครับขึ้นเขาลงห้วยก็บ่อยครั้งบางที่บางจุดก็ไปไม่ได้ นั่งมองเค้าอย่างเดียว สำหรับตอนนี้ก็คงอย่างที่ K Auto แนะนำแหละครับคงเอาสเต็ปแรก ยกสองนิ้วเปลี่ยนโช๊คเปลี่ยนสปริง ยาง 265-75-16 Mudสักชุด กันชนเหล็กหน้าหลัง วินซ์หน้าอีกซักตัวเอาไวักันเหนียวเอาแบบทีี่ K Auto แนะนำก่อนจะได้ไม่บานปลายมาก ผมตั้งงบไว้ 10-15 หมื่นครับทุ่มหมดหน้าตักกะว่าทีเดียวจบครับไม่รู้ว่าพอหรือป่าว..สำหรับข้อแนะแนวและแนะนำที่ชี้ความสว่างไห้ผมขอขอบคุณ K Auto มากครับและคงจะขอรบกวนและขอความรู้อีกในคราวต่อไป...ขอบคุณครับ.....


ตอบ.........กันชนเหล็กไซด์เรียวราคาไม่แรงก็ของ PSK บ้านโป่งราชบุรี กันชนเหล็ก 13,000 บาท บันไดข้างพร้อมไซด์เรียวไม่ทราบราคา น่าจะไม่เกิน 10,000 บาท
Winch warn M 8000 ราคา 26,000 บาท ยาง Mud ยกเว้น BF กับ Maxxis เอาของ Mud star rodian หรือไม่ก็ยี่ห้อจากเกาหลีเส้นนึงไม่เกิน 5,000 บาทรวม 20,000 บาท แม๊กใช้ของเดิมได้เลย ลูกหมากปรับองศาน่าจะประมาณ 3500 บาทมั้งไม่แน่ใจอันนี้
แล้วก็ลืมไม่ได้ Diff lock ไฟฟ้าของ Prado เอาเฉพาะล้อหลังก่อน 30,000 บาท รถจำเป็นต้องมีอาวุธครับถ้าไม่มีลุยลำบากรู้สึกอึดอัดล้อฟรี ของทั้งหมดอยู่ในงบประมาณแน่นอนครับไม่บานปลายออกมากกว่านี้ โช๊คหน้าหลังขอแก้ไขคงต้องเปลี่ยนคู่หน้าพร้อมสปริงเพราะใส่กันชนเหล็กน้ำหนักเพิ่มเยอะ โช๊คหลังอาจใช้แค่รองก้อนไปก่อนก็ได้เพราะเรายกแค่ 2 นิ้ว ไม่เดือดร้อนอะไรมากกับช่วงล่างและเงินในกระเป๋า
by Auto

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       ถ้าติด Winch แล้วมีเรื่องนึงที่ไม่ควรลืมต้องเสียตังค์เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ถ้าจะไปลุยโดยใช้ winch ให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ขนาดสูงสุดไปเลย ขนาด 100-120 A หรือมากกว่าที่ลงได้ในฐานแบตเตอรี่ เพราะวินซ์ไฟฟ้าใช้ไฟแบตมากขณะใช้งาน แบตเตอรี่ของเดิมติดรถ 60 A ไม่เพียงพอกับการใช้งานครับ ราคาแบตประมาณ 3000 บาท เลือกร้านที่ถูกที่สุด

ต่างจากรถ 2.7 เดิม ๆ นะครับ ที่ใช้ กระแส แบตเตอรี่ 60A เป็นค่ามาตรฐานโรงงานหลายคนไปใช้แบตเตอรี่ลูกใหญ่ขึ้น 75 -100 A มันจะแพงโดยไม่จำเป็นซึ่งมันไม่มีประโยชน์อะไรเลยซักนิดเนื่องจากรถเราเป็นเบนซิน ถ้าเข้าใจสมการของเครื่องเบนซิน คุณใช้ขนาดเดิมติดรถก็ยังได้
แต่ถ้าใส่ Winch ต้องเปลี่ยนแบตลูกใหญ่แบบนี้โดยไม่มีข้อแม้

ตอนใช้ Winch และเดินรอบต่ำขณะลุยป่า ไม่ควรเปิดแอร์หรือดับเครื่องเนื่องจากกินไฟแบตเตอรี่มาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       คุยกับ สมาชิกท่านนึง

ใส่กันชนเหล็กแล้วใช้ล้อเดิมยางเพิ่มขนาดเป็น Mud 265/75 R16 ซุ้มล้อหน้าจะเห็นว่ายางเล็กไปหน่อยนึง ถ้าใส่กันชนเดิมเต็มซุ้มแต่ใส่กันชนเหล็กข้างหน้าเลยดูว่ามันโล่ง ใส่ยาง Mud จึงไม่ติดเลย
เพราะงั้นเลือกเอาครับ เอาแค่พอประมาณ Mud 265/75 R16 ดูเล็กไปนิดนึง แต่ประหยัดไม่บานปลาย

เอาให้สวยเต็มซุ้มเขาจึงมักขยายขนาดยางเป็น 285/75 R16 ตามด้วยชุดยก Sun เพื่อยก 4 นิ้ว ให้มันดูสวยจะได้เต็มซุ้มมากขึ้น แต่ก็จ่ายเพิ่มขึ้นมาเยอะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
       ขอบคุณครับสำหรับทุกอย่างที่แนะนำ โช๊คกับสปริงผมเปลี่ยนมาแล้วตอนที่ได้รถมาหลังเป็น Rancho Rs9000Xl สปริง KING ค่า K แข็งมากเพราะเปลี่ยนเพื่อรองรับถังโดนัท 71 ลิตร และบานสวิงยางอะใหล่ แต่ตอนนี้บานสวิงยางอะใหล่ยกเลิกไปแล้วครับ ส่วนหน้า Bilstein สปริง King รองสปริงหน้าหลังหนึ่งนิ้วตอนนี้ผมใช้ยาง AT 265-65-17 ของจีนยี่ห้อ Sonny อยู่ครั[ ความสูงของหน้ายางบนกับขอบชายบังโคลนด้านหน้า 16ซม. ด้านหลัง 19ซม. ถามว่าถ้าจะใช้ของที่มีอยู่แล้วใชัยกแบบสองนื้วและเปลี่ยนยางเป็น Mud 265-75-16 หรือ 285-75-16 ยังใช้ได้ป่าวครับ รถผมถอดเบาะแถวสามออกด้วยครับ ข้างหลังมีแต่อุปกรแคมปิ้งและจักรยานครับขอบคุณอีกครั้งครับสำหรับคำตอบ.....

ข้างหน้า Bilstein เหลืองครับ จาก : tar3425(tar3425) 20/9/2555 23:42:16 [203.155.220.236]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
       จริงแล้วถ้าเป็นปิคอัพเขามักยกสูง 2 นิ้วให้ดูสวยขึ้นเพื่อรับการยาง mud 265/75 เท่านั้นเอง มันจะติดซุ้มล้อหน้าซ้ายอยู่หน่อยนึงเห็น Top บอกว่าติดทุกคันแม้จะยกหรือไม่ยกก็ตาม ฟอร์จูเนอร์ก็มักทำเหมือนกัน แต่ถ้าเราใส่กันชนเหล็กพอนึกออกไหมว่าด้านหน้าเราจะเปิดกว้างใส่ยาง Mud 265/75 ก็ไม่ติดอยู่ดีแม้ว่าจะยกหรือไม่ยกก็ตาม เพราะส่วนที่ติดมันหายไปแล้ว

ส่วน 285/75 r 16 ต้องยก 4 นิ้วด้วยชุดยกครับจึงจะเหมาะที่สุด แต่ก็ตามมาด้วยบานออกไปอีก

ถูกต้องครับ จาก : canoe(canoe) 25/9/2555 15:48:00 [110.77.161.36]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
       ขอบคุณครับ.....

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       ถ้าไม่เปลี่ยนกันชนหน้าและแม็ก ติดแน่นอนครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       31x10.5 r15 + ช่วงล่างเดิมไม่ยก ปาดมุมกันชนขวานิดนึงครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 21
       ผมก็เคยมีความคิดเหมือนกันนะ ถอดแม๊กเดิมขอบ 16 ออก เพราะขอบ 16 ยาง Mud มีแต่ขนาด 265/75 R16 ขึ้นไป ไม่มีขนาด 265/70 เลย

แล้วเปลี่ยนใส่แม๊กขอบ 15 จากนั้นใส่ยาง Mud 31 x 10.5 R15 หลายยี่ห้อในตลาดที่ราคาไม่แรง เพราะขนาดของยางจะเทียบเท่ากับ 265/70 R16
ไม่ทราบว่า Fortuner ฟิลลิ่งหลังจากใส่ขอบ 15 แล้วเปลี่ยนไปหรือเปล่าครับ

พี่auto ถึงขนาดไปเล่น mud แล้วหรือคร้าบ all เอาไม่อยู่แล้วหรอคร้าบ จาก : uefa(uefa) 27/9/2555 15:04:57 [101.108.46.239]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 22
       "ผมก็เคยมีความคิดเหมือนกันนะ ถอดแม๊กเดิมขอบ 16 ออก เพราะขอบ 16 ยาง Mud มีแต่ขนาด 265/75 R16 ขึ้นไป ไม่มีขนาด 265/70 เลย "
แล้วเปลี่ยนใส่แม๊กขอบ 15 จากนั้นใส่ยาง Mud 31 x 10.5 R15 หลายยี่ห้อในตลาดที่ราคาไม่แรง เพราะขนาดของยางจะเทียบเท่ากับ 265/70 R16"

อันนี้ผมเห็นด้วยครับ ส่วนล้อ16เดิม นอนกองอยู๋บ้านครับ


"ไม่ทราบว่า Fortuner ฟิลลิ่งหลังจากใส่ขอบ 15 แล้วเปลี่ยนไปหรือเปล่าครับ"

อันนี้ขอตอบตามความรู้สึกนะครับไม่มีการคำนวณอะไรจริงๆจังๆมาอ้างอิงนะครับ
-ใส่ขอบ 15 MT รู้สึกว่าเตี้ยลง1/2 - 1นิ้ว ก่อนใส่ไม่ได้วัดความสูงไว้แต่สังเกตุจากการขึ้นรถของตนเองว่าจากเดิมเคยกระโดดขึ้นเป็นตอนนี้เขย่งขึ้น

- อัตราเร่งแทบจะเท่าเดิม ถ้าลดลงก็ไม่มากเนื่องจากเปลี่ยนจากดอกHT มาเป็นMT ความเสียดทานต่างกัน MTใช้แรงเร่งมากกว่านิดหน่อย แต่เส้นรอบวงใกล้เคียงของเดิมขอบ16 ทำให้ทำใจพอได้ เพราะได้สิ่งที่ต้องการคือดอกMT

-เสียงดังจากยางMaxxis MT ใครไม่เคยใช้หรือใจไม่รัก อาจจะทำใจรับไม่ได้ เสียงเริ่มครางเบาๆมาตอนความเร็ว40 เริ่มกระเส่าๆตอน80 หอนชัดเจนตอน100 วิ่งเข้าซอยเขารู้กันทุกบ้านว่ามันมาแล้ว พอดีผมค่อนข้างจะคุ้นเคยกับยางพวกนี้เลยเฉยๆครับมันเป็นเสียงธรรมชาติของยางดอกMT/ดอกตะขาบ

-ใส่ล้อ15 สังเกตฝักเบรกค่อนข้างจะชิดกับก้านล้อมากแต่ก็ไม่ติด เพราะรถเพื่อนวีโก้ 3.0 4x4 gปี2005 ก็ใช้ล้อขนาดนี้เลยคิดว่าน่าจะเหมือนกันครับ (ผิดถูกยังงัยช่วยแก้ให้ด้วยนะครับ)

-อัตราการสิ้นเปลือง วัดจากอัตราการกินแก้สโดยเฉลี่ยๆไม่จริงๆจังๆ
ล้อเดิม 265-70-16 HT กิโลเมตรละ 1.6-1.7 บาท
ล้อก่อนหน้านี้ 265-65-17 HT กิโลเมตรละ 1.7-1.9 บาท
ล้อปัจจุบัน 31x10.5 r15 MT กิโลเมตรละ 1.8-2.0 บาท ขึ้นอยู่กับว่ารีบไปทำงานขนาดไหน 555

ข้อมุลเท่าที่รูกสึกได้มีเท่านี้แหละครับ นึกอะไรเพิ่มเติมจะมาบอกครับ



 แก้ไขเมื่อ : 26/9/2555 0:15:16

 แก้ไขเมื่อ : 26/9/2555 0:16:25

ไอ่ย่ะ กดไอค่อนผิดอันดันไปตบตัวเองซะนี่ 555 จาก : canoe(canoe) 26/9/2555 0:14:42 [182.52.184.98]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 23
       คุณ Auto ครับ รถขับสองสามารถใส่ Diff lock ได้มั้ยครับ จะช่วยให้สามารถผ่านอุปสรรคได้ง่านขึ้นมั้ย หรือว่าไม่มีประโยชน์

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 24
       ตอบ........... ต้องถามคุณก่อนจะไปใส่เพื่ออะไร
ก็ตามที่คุณเห็นในกระทู้ .........ทริปดอยตั๋วเพ่ง เพชรบูรณ์นั่นแหละครับ ตั้งแต่คำตอบที่ 100-116 http://www.weekendhobby.com/offroad/toyota2700club/question.asp?page=4&ID=2821
รถถ้าเป็น 2wd มันเสียเปรียบเวลาขับขี่อยู่แล้ว รถไม่มีทรานเฟอร์สหน้าแรงขับจากเพลาหน้าไม่มี ผ่านขึ้นเนินยังไม่ได้เลย ของที่เค้าเอาไว้ในโฆษณากับชีวิตจริงมันแตกต่างกันอยู่บ้าง
ทีนี้รถเป็นขับ 2wd ใส่แล้วผ่านอุปสรรคง่ายขึ้นไหม .................ก็ต้องตอบว่าง่ายขึ้นครับ
แต่ว่ารถคุณจะเอาไปผ่านอุปสรรคอะไร . เพราะผมไม่เคยเห็นรถ 2wd ที่ไหน กล้าวิ่งเข้าป่าไปพร้อมกับ พรรคพวก 4wd เลย
ไม่ต้องพูดเรื่องเข้าป่าหรือลุยออฟโรดหรอก เค้าเอาไว้ใช้แค่ลุยทางเรียบ ๆ ไม่ใช่ขึ้นบนเนินสูงชัน ทางเรียบอาจมีดินโคลนเละ...อยู่บ้าง รถ 2wd ที่เฟืองท้ายหลังจะเป็นเฟืองแบบธรรมดา ดีฟเฟอร์เรนเชียล มันจะหมุนฟรีเมื่อล้อข้างใดข้างนึงอิสระมากกว่ากำลังก็จะถ่ายไปที่ล้อนั้น ทำให้มีแต่สูญกับเสียแค่ 2 อย่างนี้ พอเร่งเครื่องก็จะติดหล่มหรือไม่ก็ลื่นไถลตามมา กำลังมันจึงหายไปหมด
การใส่ Auto diff lock ในรถขับ 2wd จึงช่วยแก้ปัญหานี้สำหรับรถลุยทางโคลนเละ ๆ ไม่มากนัก เช่นเข้าสวนของตัวเอง ทางอาจเป็นดินเละนิดหน่อย กำลังของเครื่องยนต์จะถ่ายไปที่เฟืองท้าย ทั้ง 2 ข้าง ๆ ละเท่ากัน เพื่อแก้ปัญหาเฟืองท้ายเดิม ๆ ที่กำลังจะส่งไปข้างใดข้างนึงที่อิสระ สาเหตุที่เขาเลือก Auto Diff lock เพราะว่าราคามันถูก สำหรับคนที่เขาไม่ต้องการรถ 4wd เนื่องจากต้องจ่ายราคาแพงกว่า อาจแพงกว่าประมาณ 7 -8 หมื่นบาท แต่เลือก Auto Diff lock จ่ายเพิ่มแค่ 19,000 บาท ซึ่งยังไงก็สู้รถ 4wd แท้แท้ไม่ได้ ประสิทธิภาพได้ตามราคาของระบบที่ใช้
แต่การเลือก Auto Diif lock ต้องเข้าใจว่าพื้นฐานรถเราเป็นแค่ 2wd เวลาปกติไม่ได้แสดงประสิทธิภาพอะไรออกมาเลย คุณขับขึ้นเขา ลงเขา ทางเรียบ ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรว่ามันแตกต่าง เพราะระบบมันไม่ทำงาน ฟิลลิ่งคุณก็ได้เหมือนรถ 2wd ปกติ การทำงานของมันก็ต่อเมื่อล้อมันหมุนต่างกัน 100 rpm คืออาการล้อฟรีเริ่มเกิดขึ้นมันก็จะ Auto lock ให้



ระบบล็อคเฟืองท้าย ที่เห็นมี 4 แบบ

1. เฟืองท้ายธรรมดาในรถ 2wd เป็นดีฟเฟอร์เรนเชียล จะส่งกำลังไปล้อที่อิสระมากกว่า แต่ก็เลี้ยวโค้งแคบได้ดีขึ้น แต่กำลังสูญเสียมากกว่าทำให้รถมีอาการลื่นไถลได้ง่ายขึ้น เหมาะกับรถกะบะขับ 2wd ตัวเตี้ยทั่ว ๆ ไป รถใช้งานทั่วไปนี่แหละ

2. เฟืองท้ายแบบ Limited slip เป็นเฟืองท้ายที่พัฒนาขึ้นเอามาใช้สำหรับรถรุ่นพิเศษ ทั้งขับ 2wd และ 4wd โดยจะแก้ปัญหาการหมุนฟรีของล้อหลังที่ทำให้รถทรงตัวไม่ดี การทำงานคล้ายกับผ้าคลัทซ์โดยการแบ่งกำลังไปด้านล้อที่อิสระ 75% และด้านที่ไม่อิสระ 25% หรือมากกว่า ความสามารถที่แบ่งกำลังได้นี่เองจึงเอามาใช้กับรถ 4wd เพื่อใช้ในการผ่านอุปสรรคเพื่อป้องกันปัญหาล้อหลังหมุนฟรีขณะติดหล่ม แต่กำลังของ Limited slip ก็ยังไม่เพียงพอในการผ่านอุปสรรคใหญ่ ๆ เนื่องจากมันไม่ได้ส่งกำลังผ่านล้อที่ติดหล่มเต็มที่ ยังสูยเสียเพื่อแบ่งไปฟรีล้อที่ไม่ติดหล่มมากกว่า
กับอีกแบบนึงคือใช้ในรถรุ่นพิเศษ เช่นรถ Mazda MX5 NC1 เปิดประทุน รุ่นลิมิเต็ด Edition (ในประเทศไทยมีเพียง 5 คัน ) เป็นรถ สปอร์ตขับ 2wd ล้อหลัง แต่เขาใช้เฟืองท้ายพิเศษแบบนี้เพื่อเอามาช่วยในการขับขี่ให้สนุกมากขึ้น กำลังของรถไม่สูญเสียไป กำลังส่งไปล้อทั้ง 2 ข้างแม้จะจับเพลาไม่เท่ากันแต่ก็จับพร้อมกันดีกว่าเดิมที่จับแค่ด้านใดด้านนึงเท่านั้น
อีกแบบนึงใช้กับรถ2wd ในบ้านเราคือ Ford Newranger 2wd ยกสูง กับ Mazda BT 50 Pro รุ่นพิเศษ 2wd ยกสูง เนื่องจากกระบะยกสูง 2wd ท้ายเบามากเวลาขับก็อย่างที่ทราบกันอยู่ ว่า Vigo prerunner ชอบลงข้างทาง ฝนตกถนนลื่นล้อด้านใดด้านนึงที่ฟรีก็จะพารถลื่นไถลแฉลบตกข้างทางไปด้วย 2 ค่ายนี้เขามีชื่อเสียงด้านการเกาะถนนของรถอยู่แล้วถึงแม้ว่าจะทำรถปิคอัพยกสูงออกมาเอาใจตลาดคนไทยที่ต้องการแค่ 2wd ยกสูงก็ตาม........แต่ว่าก็ไม่ลืมความปลอดภัย......เขาแก้ปัญหานี้ด้วยการเซทช่วงล่างใหม่แล้วใส่ Limited ไปที่เฟืองท้ายด้วยให้ล้อทั้ง 2 ข้างจับพร้อมกัน เพื่อป้องกันการลื่นไถล
ส่วนรถ 4wd รุ่นอื่น ๆ ในบ้านเราจะมี Limited slip อยู่แล้ว เฟืองท้ายแบบนี้ต้องใช้น้ำมัน ไฮปอยด์แบบลิมิเต็ดด้วย และไม่ชอบให้น้ำเข้าเฟืองท้าย

3. เฟืองท้ายแบบ Auto Diff lock ตามที่อธิบาย Auto Diff lock เมื่อทำงานจะจับเพลา % เท่ากัน (จากที่ผู้ผลิตแจ้งไว้. รอบล้อหมุนในจำนวนที่เท่ากันตลอด) ทำงาน และหยุดการทำงาน โดยการใช้รอบล้อที่ต่างกัน ใช้น้ำมันเฟืองท้ายปกติ อาการของรถ ขณะทำงานจะมีเสียงดังตึกให้ได้รู้สึกว่าจับเพลาหรือไม่ แต่ไม่สะดวกสำหรับรถ 4wd จริง ๆ เพราะการนำไปใช้สำหรับรถที่ใช้งานออฟโรด ไม่ควรใช้ระบบแบบนี้ เนื่องจากผู้ขับขี่ต้องเป็นผู้ควบคุมระบบทั้งหมดตามสภาพถนนและสถานการณ์ต่างกัน

4. Diff lock ไฟฟ้า แบบนี้ใช้ในรถยนต์ 4wd รุ่นใหม่ ๆ รวมถึงรถหรู...... ข้อดีคือใช้สั่งการด้วยมือผ่านปุ่มหรือสวิทซ์ควบคุมต่าง ๆ ตามสถานการณ์และสภาพเส้นทางว่าเราจำเป็นต้องใช้เมื่อใด ตามการสั่งงานของผู้ขับขี่ กำลังที่จับเพลาแบ่งเต็มที่เช่นกัน ทำให้ผ่านอุปสรรคยาก ๆ ได้ง่าย สามารถปลดได้ทันทีที่ผ่านอุปสรรค ถ้าผู้ขับขี่ศึกษาวิธีใช้จะมีประโยชน์มาก แต่มีข้อเสียคือราคาแพง ค่าตัวมือ 2 Diff lock ไฟฟ้าของ Prado อยู่ที่ 24,000 -30,000 บาท ราคาของใหม่ไม่กล้าถาม เหมาะกับรถ 4wd ที่ต้องการใช้งานแบบออฟโรด

5. Air locker กำลังจะจับที่เพลาเต็มที่เช่นกันให้กำลังมหาศาลมากที่สุดแต่ราคาก็แรงมากที่สุดด้วย 3 หมื่น up ระบบอาจจะไม่ทำงานได้ถ้าเกิด ปั๊มลมมีปัญหา หรือ รั่ว (Air Lock) อาจต้องมีการเจาะหน้าแปลนเฟืองท้าย ต้องมีปั๊มลมด้วย เหมาะมากกับรถออฟโรดที่ตบแต่งเป็นกรณีพิเศษเพื่อใช้งานในทางออฟโรดโดยเฉพาะ ล้อใหญ่ ๆ โต ๆ เอาไว้ออกทริปอย่างเดียว เหมาะมากที่จะหามาใส่เพราะให้กำลังสูงสุด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 25
       สรุปให้ง่าย ๆ คือ
1.Auto diff lock ใส่ในรถ 2wd ตัวเตี้ยได้ถ้าคุณเอาไว้ใช้แค่ผ่านทางเข้าบ้านหรือสวนที่เป็นดินเละซักหน่อย เผื่อติดหล่ม ๆ ก็เบิ้ล ๆ เครื่องอาจจะผ่านได้แล้ว ไม่ใช่อุปสรรคยากอะไร
กับอีกแบบนึงเอาไว้ให้ใส่กับรถ 4wd เช่นคุณ นมระห่ำ เขาเอารถไว้ลากเรือลงทะเลที่แหลมหรืออ่าว ลงพื้นหาดทรายเป็นประจำ เขาใช้เฟืองท้ายเดิมไม่มีกำลังเพียงพอจะขึ้นจากหล่มทราย ต้องใช้ Auto Diff lock เพื่อฉุดล้อที่ติดหล่มขึ้นมา
แต่เราจะเอา Auto Diff lock มาใช้แทนรถ 4wd ไม่ได้เพราะฟิลลิ่งต่างกันยังไม่ตรงจุดประสงค์

2. Limited slip ใช้สำหรับรถ 4wd ใช้งานออฟโรดตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงปานกลาง หรือใช้สำหรับรถวิ่งทั่วไปที่ต้องการฟิลลิ่งดีกว่ารถ 2wd

3.Diff lock ไฟฟ้า เอาไว้ใส่กับรถที่เป็นรุ่น 4wd สำหรับเพื่อใช้งานออฟโรดทั่วไปที่ใช้งานหนักปานกลางถึงหนักมาก ปัจจุบันสเปก Nissan Navara ที่ส่งอเมริกาก็ใช้ Diff lock ไฟฟ้า Hilux Vigo Fortuner ที่ส่งตะวันออกกลางและทวีปออสเตรเลีย ก็จะเป็น Diff lock ไฟฟ้า

4. Air locker ให้กำลังสูงสุด เหมาะกับรถเทพเทพ ที่ตบแต่งแล้วล้อใหญ่ ๆ เพื่อไว้การลุยโดยเฉพาะ

 แก้ไขเมื่อ : 26/9/2555 22:24:01

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 26
       กะว่าจะเอาไว้ใช้เวลาเข้าสวน ติดหล่มแล้วล้อฟรีอะครับ แต่คงไม่ได้เอาไปลุยแบบ 4x4 แน่นอน

ถ้าแบบนั้นล่ะก็ได้....แน่นอนครับ จาก : Auto.(Auto.) 27/9/2555 17:10:40 [202.80.239.130]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 27
       รถขับ 2 ยาง H/T เดิมๆนี่ แค่ถอยขึ้นเนินหญ้าหน้าบ้านที่แฉะๆหน่อย แค่นี้ก็ล้อฟรีไปไม่เป็นแล้วอะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 28
       ขอถามต่อครับ

ผมกำลังจะใส่วิ้นช์หน้า แบบฝังกันชนเดิม น้ำหนักรวมวิ้นช์+ถาด 50 กิโลกรัม ผมต้องยกไหม หน้าจะทิ่มไหม แล้วสปริงเดิมโช้คเดิมเอาอยู่ไหม /ขอบคุณครับ


ตอบ......... โช๊คเดิมสปริงเดิมไม่ไหวครับ มันย้วยเกินไป ลองดูรถ Vigo Fortuner ก็ได้ ถ้าเป็นดีเซลใช้สปริงเบอร์แข็ง แต่ถ้าเป็นเบนซินจะให้เบอร์อ่อน เพราะน้ำหนักเครื่องดีเซลกดลงด้านหน้ามากกว่ากันถึง 80 kg. เราจะเอาสปริงหน้ามาใช้แทนกันไม่ได้เลย
ตัวนี้ถ้าเราใส่ winch คงต้องเปลี่ยนสปริงใหม่ให้แข็งขึ้นกว่าเดิม โช๊คก็ต้องเปลี่ยนใหม่ให้รับกับสปริงที่แข็งขึ้นด้วยครับ ไม่งั้นจับการดีดของสปริงไม่อยู่ แต่เรื่องยกก็ไม่จำเป็นครับ รถตา TOP ณเชียงใหม่ทุกคันที่เขาใส่ winch หน้าก็ไม่เคยยกสูง วิ่งขึ้นดอยทางออฟโรดทั่วเชียงใหม่ จะมียกก็แค่ 2 นิ้วเพื่อให้ดูสวยตามสมัย Vigo นิยมแค่นั้น ไม่เกี่ยวกับวาง winch
by Auto

ขอบคุณครับ จาก : canoe(canoe) 1/10/2555 8:44:34 [110.77.162.129]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 29
       เรื่องแต่งรถสเตปที่ผมบอกนั้นแค่เที่ยวทั่วไป ในสถานที่ที่เหมาะสม สำหรับออฟโรดทั่วไป เที่ยวได้ไม่เจ็บตัวเรื่องซ่อมรถหรือตบแต่งรถ


แต่การจะไปเที่ยวเล่น ที่คลิตี้ ลำคลองงู โป่งกระดังงา ลิ่นถิ่น โป่งดินดำ อะไรทำนองนั้น รถยังไงก็ต้องเป็นอีกแนวนึง คือเราไม่ต้องไปคิดเรื่องแต่ง Fortuner หรือ Hilux 2.7 แล้วล่ะ เลิกคิดเรื่องการแต่งไปเลย แนวนั้นโหดประมาณนั้น ต้องหารถมาวางคานดีกว่าจึงจะเหมาะสม ยางทีใช้ขั้นต่ำ ต้องมี 36 นิ้วขึ้นไปจึงจะเอาอยู่ ถ้าคิดจะไปสถานที่แบบนี้ต้องเป็นรถแนวนี้ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย