คำตอบที่ 30
คำนิยามของพื้นฐานรถ มือ 2 อ่านตรงนี้จบมันอาจจะเปลี่ยนแปลงวงการรถมือ 2 ไปเลย ไม่มากก็น้อย จะได้ให้คนขายเลิกเล่นมุขซักทีในขณะที่คนซื้อ จะได้เปลี่ยนมุมมองอะไรใหม่ ๆ บ้าง ที่จริงว่าจะเขียนนานแล้วไม่ไม่ได้เขียนซักที
หลายคนเวลาไปซื้อมือ 2 มักมองคำว่ารถใช้น้อย
แล้วรถใช้น้อยดีจริงหรือ คนจึงมองแต่รถใช้น้อย คำตอบคือ.......ไม่ดีจริง
ทำไมรถใช้น้อยจึงไม่ดี หลายคนหรือคนส่วนมากคิดไปเองว่ารถใช้มามาก การทรุดโทรมจะมาก กลัวต้องซ่อมเยอะ ถ้ารถใช้น้อยจะสภาพดีไม่ต้องซ่อม เพราะผ่านการใช้งานมาน้อย
ความจริงรถยนต์คือเครื่องจักรชนิดนึง ถ้าเครื่องจักรหยุดใช้งานนาน ๆ ไม่ดีแน่นอน หรือไม่ค่อยได้ใช้เวลานำกลับมาใช้งานจะมีปัญหาเรื่องการ Run งาน หรือโปรแกรม error รถยนต์ก็ไม่ได้ต่างอะไรกัน รถยนต์ถ้าถูกผลิตออกมาแล้วมีการเสื่อมโทรมของชิ้นส่วน ถึงแม้มันจะเป็นรถใหม่แต่ถ้าผลิตแล้วมาจอดแช่มันก็เสื่อมโทรมเช่นกัน รถยนต์มีชิ้นส่วนนับเป็นหมื่นชิ้น การสึกหรอการเสื่อมมีแน่นอน เพราะมันคือเครื่องจักรชนิดนึง กลไกแบบนึงเท่านั้นเอง ตัวอย่างรถยนต์ที่ใช้น้อย จริง ๆ มีน่ะครับไม่ใช่ไม่มี แต่ว่ารถใช้น้อยความทรุดโทรมจะมีมากกและน่ากลัวมากกว่ารถใช้งานเยอะ อย่างเช่นรถปีนึงถูกกำหนดให้วิ่งประมาณ 25,000-50,000 กิโลเมตร นี่คือระยะทางปกติของมัน แต่ถ้ารถยนต์คันไหนถูกผลิตออกมาแล้ววิ่งปีนึงไม่ถึง 10,000กิโลเมตรพวกนี้จัดว่าเป็นรถใช้น้อยทั้งนั้น บางคนวิ่งเพียงปีล่ะ 5,000 กิโลเมตร ส่วนใหญ่จอดไว้เฉย ๆ รถจอดไว้เฉย ๆ ปีนึงวิ่งน้อยมากกว่าที่ควรจะเป็น เวลาผู้ซื้อมือ 2 ต่อจากคนแรก มักต้องเจอเรื่องการซ่อมรถที่ทรุดโทรมมากกว่าปกติ เช่นเจ้าของเดิมใช้งานน้อยไม่มีอะไรต้องซ่อม แต่เจ้าของใหม่เอามาใช้งานตามปกติเหมือนปุถุชนคนทั่วไป ถ้าเจอรถใช้น้อยมาก่อนแบบนี้ ซ่อมบานแน่ ไม่ว่าจะเป็นช่วงล่าง ที่บุชจะสึกเพราะมันไม่เคลื่อนตัว บุชยางลูกหมาก ยางกันโคลงถ้าไม่ได้ใช้นาน ๆ หรือใช้น้อยมาก มักแข็งตัวใช้งานไม่ได้ สายพานมีเสียงดัง เปื่อยแตกลายงา กรอบ ถ้ารถอายุเยอะ ๆ แล้วใช้งานน้อยเวลาเอามาใช้ตามปกติ ปัญหาคือน้ำมันเครื่องจะรั่วซึมตามจุดรอยต่อเครื่องทั้งหมด เพราะรถมันถูกจอดไม่ได้รับความร้อนเท่าที่ควรพอเจอความร้อนจัด ๆ กาวปะเก็นเครื่องมันเสื่อมแข็งตัว ไปแล้วเพราะแทบไม่ถูกความร้อนเลย จะทำให้น้ำมันเครื่องซึม น้ำมันเกียร์ซึม อีกกรณีนึงที่เจอคือ ระบบเบรค มักมีปัญหา ลูกสูบคาลิเปอร์ เป็นรอยหมด เบรคจับไม่เท่ากัน ระบบแอร์หรือ ECU หรือระบบไฟฟ้าพวกนี้มักเสื่อมพังเร็วกว่ารถใช้งานทุกวัน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รถเป็นเครื่องจักรเราต้องนิยามเรื่องนี้ให้ออกก่อน ระยะทางโดยเฉลี่ยที่รถต้องวิ่งคือวันล่ะประมาณ 50 กิโลเมตร หรือปีล่ะ 25000-30000 กิโลเมตร คือระยะทางทั่วไปสำหรับรถยนต์ ผมเคยเจอสมาชิกเราคนนึงคือ rap -bank บ้านเขาซื้อ Hilux 2.7 MT เบนซิน ตอนเดียวมาวิ่งบรรทุกยาง รถ 3 ปี วิ่งไป 300,000 กิโลเมตร วิ่งเยอะมากปีนึง 1 แสนกิโลเมตร รถใช้งานเยอะมากขนาดนี้ แทบไม่ต้องซ่อมอะไรเลย ระบบแก๊สหม้อต้ม หัวฉีดไม่มีปัญหาวาล์วน้ำ ปั๊มน้ำ ไม่ต้องเปลี่ยนทั้งสิ้นคือยังไม่พัง ทุกระบบไม่มีพัง มีซ่อมอย่างเดียวคือเปลี่ยนคลัทซ์ เขาก็โทรมาถามว่าอย่างอื่นควรเปลี่ยนหรือยังไม่เปลี่ยนดี ......ผมก็ตอบลำบากเหมือนกัน
แต่รถที่เขาใช้อยู่อีกคันนึงคือ Hilux 2.7 4wd AT เป็นรถส่วนตัววิ่งน้อยมาก อะไหล่ต้องเปลี่ยนหมดทุกรายการ คือถึงอายุเสื่อมเร็วกว่ารถที่วิ่งเยอะ ปัญหาแบบนี้จะเจอกับรถทุกคันที่วิ่งน้อยคือซ่อมเยอะ ค่าเสื่อมจะเยอะมาก
ผมยกตัวอย่างรถแฟนผมเอง Vios รถวิ่งน้อยมากปีนึงไม่ถึง 10,000 กิโลเมตร ไมล์แท้ยังวิ่งไม่เกิน 1 แสนโล ซ่อมศูนย์ โตโยต้า TBS ตลอด
แต่.............หยุดความเสื่อมไม่ได้ ซ่อมแล้วเกือบทุกอย่าง เบรคพังหมดเพราะใช้น้อย มาก ผ้าเบรคไม่สึกเลย แต่ไม่เคลื่อนตัวทำให้เบรคสึกไม่เท่ากันช่างศูนย์ให้เปลี่ยน โช๊คพังเพราะใช้น้อย คือโช๊คตายนั่นแหละ เพราะมันไม่ค่อยเด้ง ไม่เคลื่อนตัว ยางใช้มา 2 หมื่นโลเสื่อมจนต้องรีบเปลี่ยนทั้ง 4 เส้น เนื่องจากใช้น้อยเกินเหตุ แตกลายงาช้าง ฝืนเอาไปวิ่งต่อไม่ไหว สายพานเปลี่ยนแล้ว 1 ปีก็เป็นอีก เสียงดังแตกลายงา เพราะรถไม่ค่อยได้วิ่ง ยางเพลาขับขาดแล้วเพราะรถไม่ค่อยได้วิ่งเปื่อยจนขาด ถ้าเทียบกัน รถเพื่อนของเขาที่ซื้อมาปีเดียวกันวิ่งไปเกือบ 2 แสนโลแล้วแทบไม่ต้องซ่อมอะไรเลย
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ฟังแบบนี้แล้วจะได้เลิกกลัวรถใช้มากเลขกิโลเยอะ จนเป็นที่มาของการโดนแหกตากลับเลขไมล์
แต่ที่ต้องหนีคือรถใช้น้อยเพราะค่าเสื่อมค่าซ่อมมันจะมาก กว่ารถปกติ รถภายใน 3-4 ปีแรกไม่เป็นอะไรหรอกแม้จะใช้น้อยแต่หลังจากนั้นส่วนใหญ่ออกอาการ ถ้าเอามาวิ่งเยอะ จะยิ่งเห็นอาการที่ต้องซ่อมเยอะ บางคนเอาไปวิ่งขึ้นเขาก็ไม่ไหวแล้ว ถ้าไม่ค่อยได้เคยใช้ เพราะเครื่องวิ่งไม่ออก แถมแรงดันหม้อน้ำ น้ำมันเครื่องซึมออกมาหมด พังหมด ไม่คุ้ม ต่างจากรถที่วิ่งใช้งานประจำ