จาก ตัวเล็ก 2.7VVTI IP:119.42.119.39
พฤหัสบดีที่ , 7/11/2556
เวลา : 20:00
อ่านแล้ว = ครั้ง
เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
|
เรื่องขำๆ อ่านเพลินครับ (ที่มา www.vigothailand.com )
ตอนหนึ่ง
ราว สี่ทุ่มเศษเธอยังคงรีดผ้าให้สามีอยู่ พรุ่งนี้แล้วซินะสามีเธอจะไปออกทริฟกับกลุ่มออฟโร้ด เธอก็ไม่รู้หรอกไอ้ออฟร้งออฟโร้ดนี่มันเป็นอย่างไร เมื่อก่อนสามีเธอเป็นนักตกปลาชั้นแนวหน้า ทุกวันหยุดจะหายศรีษะไปตั้งแต่เช้าแล้วกลับมาถึงบ้านดึกดื่น ปลาก็ไม่ได้สักตัวแถมยังเมาแพร่ดมาอีก กลิ่นเหล้ากลิ่นหัวเชื้อกลิ่นขนมปังกลิ่นรำ และ อีกสารพัดกลิ่นเหม็นคลุ้งรอบตัวไปหมด แต่เธอก็เชื่อว่าไปตกปลามาแน่ๆ เพราะกลิ่นอย่างนี้หากไปแวะเที่ยวที่ไหน คงโดนเทศบาลเก็บไปกองไว้กับกองขยะ เป็นแน่แท้
หลังจากหันหลังให้วงการตกปลาอันทรงเกียรติ สามีเธอก็บ่ายหน้าเข้าวงการออฟโร้ด สามีเธอบอกว่าเพื่อค้นหาตัวตนของตัวเองที่หายไปตอนไว้รุ่น และเป็นการอัฟเกรดตัวเอง
เกือบห้าทุ่มแล้วเธอยังรีดกางเกงให้สามี ได้แค่ไม่กี่ตัว เธอนึกในใจพลางปาดเหงื่อ แล้วพลางคิดว่ากางเกงอะไรของมันวะ กระเป๋าเยอะแยะไปหมด กระเป๋าหน้า กระเป๋าหลัง กระเป๋าข้าง กระเป๋าเล็ก กระเป๋าน้อย กระเป๋าซ้อนกระเป๋า กระดุม ซิบ เชือก ส่วนเสื้อก็พอๆ กันข้างหน้าแปดกระเป๋า ทั้งกระดุมทั้งซิบ แถมมีกระเป๋าที่ไหล่อีก รีดยากจัง
ก่อนที่เธอจะรีดผ้าพวกนี้ เธอต้องเตรียมอุปกรณ์ใส่รถให้สามีหลายอย่าง ตั้งแต่เต้นท์ที่เพิ่งซื้อมาใหม่ ผ้าใบรองเต้นท์ เก้าอีพับ มีดพับ เตาแก๊ส ไฟฉาย มาม่า ปลากระป๋อง เหล้า โซดา กระติกน้ำ จิปาถะ ไหนจะของใช้ส่วนตัวของเธออีก
เที่ยงคืนแล้ว เธอเพิ่งเก็บของชิ้นสุดท้ายขึ้นรถ ทั้งเบาะหน้าเบาะหลัง และหลังคา เต็มไปด้วยสัมภาระ จักรยานเสือภูเขาคันใหม่แขวนไว้กับยางอะไหล่ท้ายรถ อีกทั้งต้องป่ายต้องปีนรถเพื่อวางของและใช้ตาข่ายคลุมสัมภาระให้เรียบร้อยทำ ให้เธอเหนื่อยและเกือบตกรถลงมาหลายครั้ง
เธอปาดเหงื่ออีกครั้งก่อน เปิดฝากระโปรงหน้ารถ เพื่อเช็คน้ำมันเครื่อง น้ำในหม้อน้ำ น้ำกลั่น น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์น้ำมันพาวเวอร์ เพื่อให้พร้อมสำหรับการเดินทางในวันรุ่งขึ้น ตามที่สามีเธอกำชับไว้
ตีหนึ่งกว่าๆ เธออาบน้ำแล้วปิดไฟเข้านอน..........................................
ส่วนสามีเธอหน่ะหรือ เมาหลับไปตั้งแต่สองทุ่มแล้ว
รุ่ง เช้า สามีเธอยังไม่สร่างเมา เมื่อคืนนี้สามีเธอไปเจอเพื่อนร่วมรุ่นที่ไม่ได้เจอกันนานหลายวันจึงดื่ม เหล้ากันเพื่อให้หายคิดถึงตั้งแต่เที่ยง ยันหกโมงเย็น ปกติแล้วสามีเธอจะตื่นประมาณสิบโมงกว่าๆ แต่ด้วยความมั่นคงต่อสถาบันออฟโร้ด วันนี้สามีของเธอตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อให้ไปถึงจุดนัดหมายตามกำหนด และด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมว่าเมาค้างไม่ขับ เธอจึงรับหน้าที่เป็นผู้ขับรถให้สามี โดยสามีนอนที่เบาะด้านหลัง
ถึง จุดนัดหมายของขบวนรถออฟโร้ด สามีเธอบอกให้เธอจอดรถรอจนรถที่นัดหมายไว้มากันครบ เมื่อรถหัวขบวนให้สัญญานแล้วสามีเธอก็บอกให้เธอขับตามรถคันหน้าไป เธอขับรถตามขบวนรถออฟโรดซึ่งมีลักษณะเดียวกันเป็นแถวยาว บางคันก็มีไฟเต็มไปหมด บางคันเต็มไปด้วยสัมภาระเหมือนรถขายของ บางคันแขวนอุปกรณ์ที่เธอไม่รู้จัก บางคันมีเสาอากาศพะรุงพะรัง บางคันก็มีเรือพ่วงท้าย บางคันแขวนจักรยานสี่ห้าคัน
เวลาเร่งแซงก็ แสนจะลำบากไหนจะต้องระวังรถข้างหน้า ไหนจะต้องระวังรถด้านหลัง ขับไปได้สักพักก็เลี้ยวออกจากถนนลาดยางเข้าสู่ถนนลูกรัง และทางก็เริ่มเป็นหลุมเป็นบ่อมากขึ้น สามีเธอบอกให้เธอจับพวงมาลัยให้แน่นๆ แล้วให้ใส่เกียร์ช่วยซึ่งเป็นเกียร์เล็กๆ แล้วค่อยๆ ขับตามรถคันหน้าไป แล้วสามีเธอก็นอนต่อ เธอต้องปรับเบาะให้ชันขึ้นเพราะต้องชะเง้อมองทางซึ่งเป็นหลุมเป็นบ่อ บางช่วงเป็นเนินชัน บางช่วงเป็นทางลาด บางช่วงก็มีหินก้อนใหญ่ๆ อยู่บนทาง ซึ่งตอนนี้มันไม่ใช่ถนนแล้ว อ้ออย่างนี้เองถึงเรียกออฟโร้ด เธอเริ่มคิด ถนนมีไม่ขับ มาขับนอกถนน บางช่วงก็เป็นหลุมโคลนลึกท่วมล้อ บางช่วงต้องข้ามลำธารน้ำจนถึงกระโปรงหน้า น้ำและไอน้ำกระจายเหมือนควันอย่างน่ากลัว บางช่วงรถคันหน้าไปไม่ได้เพราะติดหล่มจนเธอต้องจอดรถเพื่อรอกู้รถคันหน้าให้ หลุดออกจากหล่ม หลังจากนั้นเธอถึงขับไปได้ต่อ แต่บางช่วงรถเธอก็ติดหล่มเสียเอง เธอเข้าเกียร์ต่ำแล้วค่อยๆ ถอยรถเพื่อตั้งหลักใหม่แล้วเธอก็ไปต่อ ฝนเริ่มตกปรอยๆ ยิ่งทำให้ทางเละมากขึ้นเธอใส่เสื้อคลุมกันฝนและใส่หมวกของสามีพอกันเปียก บางช่วงรถเธอติดหล่มลึกมากเธอใช้วิธีเดิมไม่ได้ ต้องให้คนขับรถคันข้างหน้าลากสายลวดเหล็กมาคล้องกับกันชนหน้าของรถเธอแล้ว ดึงรถขึ้นจากหล่มครั้งแล้วครั้งเล่า หรือบางครั้งเธอก็ต้องใช้ลวดเหล็กเกี่ยวกับท้ายรถของเธอเพื่อไปลากรถคันข้าง หลังที่ติดหล่ม ตามคำแนะนำของคนขับรถคันอื่นๆ ที่ลงมาช่วยๆ กัน บางช่วงมีต้นไม้ล้มขวางทาง เธอและคนขับคนอื่นๆ ต้องออกจากรถไปตัดต้นไม้ออกนอกทางเป็นอย่างนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าจนถึงจุด หมายที่จะกางเต้นท์นอน หลังจากเธอจอดรถเรียบร้อยแล้ว เธอรื้อสัมภาระลงจากรถ ปูผ้ายาง กางเต้น จัดที่นอน ติดเตาไฟ ทำอาหาร จนจวนค่ำเธอจึงไปปลุกสามีลงจากรถให้มากินอาหารค่ำ สามีของเธอกินได้เล็กน้อยก็ขอตัวไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆที่มาด้วยกันตั้งวงกิน เหล้า โดยเธอเป็นผู้ยกกระติกน้ำแข็งและโซดาพร้อมทั้งกับแกล้มไปส่งให้ถึงวงเหล้า ของสามีและเพื่อนๆ
สองทุ่มกว่าๆ ฝนหยุดตกแล้ว เธอเพิ่งรู้ว่าในป่าอย่างนี้เวลามืดนี่มันมืดจริงๆ เธอเปิดไฟฉายไว้ในรถ ในเต้นท์ และถือในมือไว้หนึ่งกระบอก พลางคิดชมสามีว่า รอบครอบจริงๆ สั่งให้เอาไฟฉายทั้งหมดที่บ้านมาด้วย รวมแล้วสิบกว่ากระบอก แต่ให้แสงได้เพียงสามกระบอก
หลังจากที่เธอจัดการเครื่องดื่มพร้อม อาหารให้สามีและเพื่อนๆ แล้ว เธอก็ร่วมล้อมวงกินข้าวกับคนที่ขับรถคันอื่นๆ อยู่ห่างๆ วงเหล้าของสามี ซึ่งเธอเองก็เพิ่งจะพบเห็นกันเป็นครั้งแรก หลังจากกินข้าวกันไปไม่กี่ช้อน เธอก็เงยหน้าและส่องไฟฉายไปตามใบหน้าของคนที่กำลังล้อมวงกันกินข้าวร่วมกัน เพื่อดูหน้ากันให้ชัดๆ แล้วเธอก็อุทานขึ้นมาว่า............... อ้าวนี่คนขับรถมาเป็นผู้หญิงกันหมดเลยเหรอนี่ แล้วไอ้ผัวเฮงซวยมันมาออฟโร้ดกันทำไมวะ โธ่............ เมียออฟโร้ด
ตอน สอง
เมียออฟโรด ตอนสามียังไม่มีรถออฟโรดชีวิตครอบครัวก็เป็นสุขดี ปกติดี พอวันแรกที่ผัวขับรถเข้าบ้าน พอขับถึงบ้านจอดเรียบร้อยก็แหกปากเรียกเมียเรียกลูกม าช่วยกันดู เป็นไงตรงนี้แจ๋วมั๊ย ตรงนั้นเจ๋งมั๊ย ตรงนี้ดีอย่างนั้น ตรงนั้นดีอย่างนี้ ดูข้างหน้าดูข้างหลัง มุดใต้ท้องอยู่จนดึกจนดื่น แทนที่จะนอนก็เรียกเมียมาปรึกษา วาดแผนการต่างๆ ยางต้องเปลี่ยนให้สูงนะ ต้องใช้ของ BF GOODRICH กันชนเชยไป ต้องใช้ของ ARB มันแข็งแรงอย่างนั้นอย่างนี้ วินช์ก็ต้องติดเอาไว้เผื่อไปติดในป่าดงจะได้ช่วยตัวเ องได้ โช้คอัพ ช่วงล่าง ก็ไม่แข็งแรงพอต้องเปลี่ยนให้ทันเพื่อนทันฝูงที่เป็น รุ่นเก่า รุ่นเก๋า เมียก็ฟังบรรยายจนหลับไป
แต่งรถเสร็จสรรพ เคยขับรถเก๋งไปส่งเมียก็ขับรถออฟโรดไปส่ง ขึ้น-ลงก็ลำบากเพราะรถยกสูง แหนบ-โช้คอัพก็กระเด้งกระดอนหาความสุขไม่ได้ ขึ้นลงแต่ละทีซิปกระโปรงแทบจะฉีก กลับบ้านค่ำมืดดึกก็อ่านแต่หนังสือออฟโรด เรียกเมียมาฟังคำบรรยายต่างๆนานา เช่น เราจะเข้าไปอยู่ชมรมไหนดีนะ 4x4.in.thก็ดีนะกลุ่มใหญ่ดีหรือจะอยู่กลุ่มฟรีสไตส์ กลุ่มต้นน้ำหรือชอบแบบออฟโรดคาเฟ่ก็อยู่กลุ่ม เพื่อนร่วมทางซึ่งชอบพาสมาชิกออกทริปบ่อยๆบางทีเป็นทริปใจบุญสุนทาน ช่วยเด็กๆ พัฒนาการศึกษา บรรยายไปจนเมียหลับผล็อย
เลือกเข้าชมรมได้เป็นที่เรียบร้อยก็หาเวลาว่างไม่ได้ ทุกวันหลังเลิกงานแล้ว ในรถออฟโรดต้องเต็มไปด้วยวัตถุนานาชนิด เมียก็ถามว่าไอ้นี่อะไรกัน ไอ้นั่นอะไรกัน ก็ได้คำตอบว่า เป็นอุปกรณ์เข้าป่าทั้งนั้น หม้อข้าวทรงแปลกๆ ตะเกียงแก๊ส ไฟฟ้าแสงสว่าง ลังใส่ของ โต๊ะเก้าอี้ ผ้าใบทำหลังคา ถุงนอน เต้นท์ เสื่อปูพื้น รองเท้าบู๊ท มีดเดินป่า โซ่ เชือก นับไม่หวาดไม่ไหว
เครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้ไม้สอยก็เพี้ยนผิดปกติไป ธรรมดาถ้าไปทำงานนุ่งกางเกงเสื้อทับในผูกเนคไท พอเป็นชาวออฟโรดเสื้อผ้าจากความสุภาพเข้าหาผู้หลักผู ้ใหญ่ได้ ก็เป็นเสื้อผ้าสำหรับขาลุยทั้งหลายที่นิยมกัน กางเกงไม่เป็นกางเกงยีนส์ก็เป็นกางเกงที่มีหลายกระเป ๋า ซิปหน้า ซิปหลัง ซิปข้าง มากมายหลายซิป เช่นเดียวกับเสื้อก็ต้องเป็นเสื้อหลายกระเป๋า แขนยาว พับแขนมีกระดุมล็อคแขนที่พับ หรือไม่ก็เป็นเสื้อยืดที่มีสติ๊กเกอร์ หรือโลโก้ที่เกี่ยวข้องกับออฟโรด แล้วก็ยังยุแกมข่มขู่ให้เมียแต่งตัวให้คล้ายตัวเองด้ วย อุปกรณ์รอบๆเข็มขัดก็ต้องมีซองใส่ไฟฉาย ซองใส่มีด แขวนให้ระเกะระกะไปหมด เมียก็ได้แต่ถอนหายใจแต่ก็ต้องตามใจ
ว่างเว้นจากการทำงานก็ถึงฤดูเที่ยวป่าไปทริปพักผ่อน สั่งให้เมียลางาน ลูกหยุดโรงเรียน ทริปนี้เมียต้องไปจ่ายกับข้าวกับปลา ของกินของใช้มีให้พร้อม เข้าป่ารถติดหล่มขึ้นไม่ได้ ลูกเมียก็ต้องลงไปช่วย ลากวินช์ ช่วยขุด ช่วยดัน ช่วยขย่มให้รถขึ้นมา ฝนตกก็เปียกเลอะเทอะเปรอะเปื้อน
ถึงจุดหมาย เวลานอน ลูกเมียเคยนอนฟูกนอนห้องแอร์ ต้องมานอนเต้นท์คับๆแคบๆ ร้อนก็ร้อน ที่นอนก็ไม่มีปู ซ้ำหมอนก็เป็นหมอนลมบ้าง หมอนไม่มีบ้าง เจ็บหลังก็เจ็บหลัง แสนจะทรมาณ แต่ความรักความห่วงก็ต้องกัดฟันทน เช้ามาต้องตื่นแต่เช้าชงกาแฟ ทำอาหารให้สามีและเพื่อนกินอีก ทั้งที่ตอนกลางคืนก็นอนไม่หลับเลย
แต่จะว่าหมดความสุขมีแต่ความทรมาณก็ไม่ใช่ สิ่งที่ได้รับ ซึ่งหาจากที่อื่นไม่ได้ ก็มีมากจนสุดที่จะเปรียบกับสิ่งใด สิ่งนั้นก็คืออากาศที่บริสุทธิ์ เสียงนก สรรพสัตว์ที่เราไม่เคยได้ยินในเมืองเลยก็ได้ยิน ได้เห็นความเขียว ความสดชื่น ความบริสุทธิ์ของอากาศที่เราได้สูดได้หายใจเข้า ได้เล่นน้ำในลำธารที่ใสจนเห็นก้อนหิน ปลาทุกตัว ลีลาของสัตว์แต่ละชนิดที่อยู่ในลำธารนั้นๆ แค่นี้ก็คุ้มพอสำหรับการเป็นเมียออฟโรด
เห็นไหมล่ะครับ การเป็นเมียออฟโรดไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ
|