คำตอบที่ 2
เรื่องรูปต้องขอโทษด้วยครับพี่ออโต้ ผมพลาดอย่างแรง เนื่องด้วยหยิบกล้องตัวเล็กที่ติดอยู่ในกระเป๋าสะพายเป็นประจำ ออกมาใช้งานในร้าน แล้วลืมใส่คืนในกระเป๋า กว่าจะรู้ก็ถึงที่หมายแล้วก็เลยไม่ได้ถ่ายไว้เลย (ไอโฟน-ไอแพด ก็ไม่มี) พอดีกฎเมอร์ฟี่มันทำงานครับก่อนมางานก็วุ่นมาก เมื่อวานมาเปิดร้านงานก็วุ่นทั้งวัน ขอเล่าเหตุการณ์ที่ได้ไปเทรนนิ่งมาให้ฟังแทนนะครับ
ช่วงแรกเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ การจับพวงมาลัยในการขับออฟโรด มุมประทะ มุมเคลียของรถ ระบบเกียร์ และอื่นๆ อีกมากโดยคุณเกเร ประธาณห้อง TOYOTA เป็นวิทยากรและคอยตอบข้อสงสัยของสมาชิก ก่อนการอบรมได้มีการสอบถามผู้มาร่วมเทรนนิ่งว่าใครเป็นมือใหม่
ให้มานั่งรวมกลุ่มกันที่แถวหน้า เพื่อจะได้ฟังและสอบถามได้อย่างชัดๆ หลังจากนั้นในช่วงบ่ายสามก็จะเป็นการทดสอบภาคสนาม งานนี้ผมได้ความกรุณาจากคุณ R.400 เป็นเทรนนิ่งให้ได้ความรู้จากคุณอามากมายทำให้มั่นใจในการควบคุมรถขึ้นเยอะ คุณอา R.400 เป็นคนใจดีจริงๆ วันรุ่งขึ้นก่อนกลับยังกรุณาให้ดีวีดีปิเตง ที่คุณอาไปลุยมาตั้งเก้าครั้งมาให้ดูอีก เมื่อคืนดูไปหนึ่งแผ่นดูแล้วก็ได้แต่อ้าปากหวออย่างเดียวครับไม่นึกว่าทางอย่างนั้นรถยนต์ออฟโรดจะเข้าไปได้ถึง นับถือคุณอาจริง
มาเล่าถึงความรู้สึกของคนวัยห้าสิบอย่างผมที่เพิ่งจะมาเริ่มหัดขับรถออฟโรดบ้างครับ สนามฝั่งที่ผมไปหัดขับคือฝั่งเบสิค ที่ทางพี่ยุทธ Sr5สบ. จัดเตรียมไว้ให้ อีกฟั่งที่โหดกว่าคือฝั่งแอดวานซ์ฟอร์จูนเนอร์เดิมๆไม่ได้ยกสูงอย่างผมหมดสิทธ์
พอขึ้นนั่งประจำตำแหน่งคนขับคุณอาขึ้นนั่งในด้านซ้ายก็จัดการเก็บกวาดสิ่งของที่วางอยู่บนเบาะหลังและบนหน้าคอนโซนรถที่มีโอกาสล่วงหล่นเป็นอันตรายเวลาขึ้นที่ชันๆ ลงไปวางไว้ที่พักเท้าหลังทั้งหมด คุณอาคอยเตือนให้ทิ้งช่วงระยะห่างจากคันหน้าไว้พอสมควรเพื่อป้องกันอุบัตเหตุ
พอลงเนินต่างระดับแรกก็เริ่มตื่นเต้นเหงื่อออกมือแล้วครับ คุณอาสอนเรื่องการควบคุมพวงมาลัยในการขับรถบนทางลาดเอียง เพื่อไม่ให้รถพลิกคว่ำ ไฮไล์ของสนามเบสิคอยู่ที่การขับขึ้นเนินสูงชัน (กี่องศาผมลืมถาม) ซึ่งเวลาที่ขับขึ้นจะมองเห็นแต่ท้องฟ้ามองไม่เห็นทางข้างหน้าเลย จะต้องประคองพวงมาลัยให้นิ่งอย่างเดียววอกแวกหรือตกใจจะอันตรายมาก เมื่อขับถึงยอดแล้วต้องเบรกเนื่องจากทางลงก็ชันและต้องค่อยๆชะลอลงมาด้วยเอนจิ้นเบรกของเกียร์โฟร์โล แถมยังมีหลุมดักให้รถเอียงให้มือใหม่ตื่นเต้นเล่นอีก ขับขึ้นรอบแรกยอมรับว่าตื่นเต้นมาก พอรอบต่อๆ มาก็เริ่มชินกับสนามและมีความมั่นใจมากขึ้นก็เลยไม่เกร็งเท่าไหร่ อื่นๆ ก็มีขับผ่านท่อนซุง ขับผ่านทางเอียงเพื่อหัดประคองพวงมาลัย
งานนี้ได้มีโอกาสลองดริฟล็อคไฟฟ้าที่เพิ่งติดเสร็จเมื่อวันพุธ เนื่องจากคุณอา R.400 ให้ขับย้อนกลับทางเดิม พอถึงเนินที่ขับลงมาตอนขาไป ขับขึ้นไม่ได้ล้อฟรีถึงสองรอบ เมื่อใช้ดริฟหลังขึ้นได้อย่างนิ่มๆ เลยครับ ประทับใจมาก
หลังจากนั้นพี่แดงวิทยากรอีกท่านหนึ่ง ก็มาสอนเรื่องการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อนำรถยนต์ผ่านอุปสรรค อย่างปลอดภัยกับตัวผู้ใช้อุปกรณ์และผู้ร่วมทริป ตกเย็นก็ฟังผู้อาวุโสทางด้านออฟโรดนั่งคุยกัน มือใหม่อย่างผมได้แต่นั่งฟังอย่างเดียว บางสถานที่ที่ท่านคุยกัน ผมยังนึกไม่ออกเลยว่าอยู่ตรงไหนของประเทศไทย
เพราะตั้งแต่ได้รถมาก็ขับแต่ทางออนโรดอย่างเดียว ยังไม่มีโอกาสไปออฟโรดที่ไหนเลย ได้แต่อ่านบนเว็บอย่างเดียว วันนี้ได้มาขับจริงๆซักที ถึงแม้จะเป็นแค่ในสนามเทรนนิ่ง ที่พี่แดงวิทยากรจากระยองบอกว่ายังไม่ถึง 5 เปอร์เซนของการขับรถออฟโรดจริงๆ ก็ตาม
ประทับใจมากครับ