คำตอบที่ 5
ถ้าไม่ตัดปั๊มติ๊ก ต้องเติมไว้อย่างน้อย 1/ 2 ถังเสมอ เพราะเวลาขับขึ้นเขาลงเขา น้ำมันหายไปจากเข็มวัด จากการกระฉอก ทำให้มีปัญหาปั๊มพังได้
และส่วนใหญ่ที่ไม่ตัดปั๊มติ๊ก หลายคนก็ใช้น้ำมันคาถังไว้นานมาก ทำให้สิ้นเปลือง
บางคันใช้เยอะก็ไม่เป็นไรแต่ก็เปลืองโดยไม่จำเป็นขึ้นมาอีก
ผมเลยไม่เห็นความจำเป็นเลยว่า ถ้าไม่ตัดปั๊มติ๊กแล้วมันดีกว่ากันตรงไหน ข้อดีของมันคือะไร
*************************************************
หมายเหตุ
พอดีกลับจากทินวย ซ่งไท้คราวนี้ มีข้อคิดบางอย่างย้ำเตือนเรื่องนี้ มีเหตุที่เคยย้ำคำพูดผมที่เคยเขียนสมัยเป็นบ้านหลังเก่า
รถเบนซินทุกคันเขาจะมีมุม Learning เวลาเกิดอุบัติเหตุ ปั๊มระบบวงจรน้ำมันต้องหยุดทำงาน
ถ้าเกิดติดแก๊สแล้วไม่ตัดปั๊มติ๊ก อาจจะเจอนรกเห็น ๆ
เพราะฉะนั้น ครั้งนี้หรือต่อไปนี้ผมคงพุดยืนยันแบบ 100% ว่า ถ้าจะติดแก๊สให้ตัดปั๊มติ๊กออก เพื่อป้องกันปัญหาทุกอย่างจะตามมา
ถ้าไม่ตัดปั๊มติ๊กก็อย่าคิดที่จะติดแก๊สกับอู่นั้นดีกว่า
ก็เคยมีเคสนึงโทรมาหาผม เรื่องปั๊มติ๊กนี้แหละ ติดแก๊สมานานพอควร ให้ตัดปั๊มติ๊กก็ไม่ตัด ให้ทำอะไรก็ไม่ทำ แก๊สโซฮอลก็เติม 95 ก็ไม่เคยใช้ คือไม่ได้ทำตามคำแนะนำที่ให้ไว้ในเวปเลย เมื่อเกิดปัญหาปั๊มติ๊กพังซ่อมแล้วก็ไม่กลับมาเหมือนเดิม อาการอื่นก็ตามมาแถมเพิ่มไปอีก เคราะห์กรรมซ้ำ พอถึงเวลานี้หนักเข้าก็อยากหาคนแก้ปัญหา อยากได้คนตัดปั๊มติ๊ก อยากหาคนแก้ไขรถกลับมาสตาร์ทน้ำมันได้ดีเหมือนเดิม
ผมไม่ได้ซ้ำเติมท่านนะครับ แต่ว่า ในเมื่อคุณเชื่ออู่ติดแก๊ส ทำตามคำแนะนำเขามาแต่แรก คุณต้องให้เขาแก้ปัญหาให้ได้ ไม่ใช่ไปโยนภาระให้อู่อื่น หลายสิ่งหลายอย่างทำตามความต้องการของตัวเองทั้งนั้นไมได้เชื่อคำหนะนำให้เวปเลย ถึงเวลานี้ผมแนะนำแล้วจะทำตามอีกหรือเปล่าก้ยังไม่รู้ ผมเลยไม่อยากแนะนำอีก อยากให้กลับไปหาช่างอู่ติดแก๊สที่คุณทำกับเขาให้เขารับผิดชอบการกระทำหรือเวรกรรมที่เขาทำลงไป เจ้าของรถก็ต้องรับผลของการกระทำของตนเอง คือ ในเมื่อเลือกทางนั้น ก็ต้องให้อู่ที่นั้นแก้ให้ได้จนจบ