คำตอบที่ 5
ก็พอเข้าใจล่ะ
1. รถคันนี้เป็นรถจดทะเบียนในนามบริษัทมาก่อน ผู้ซื้อควรต้องคิดตรงนี้ด้วยเพราะรถจดทะเบียนในนามบริษัทโดยมากราคาจะถูกกว่าราคารถตลาดในบ้านทั่วไป เพราะหลายสาเหตุ แต่มีอยู่อย่างนึงต้องคิดคือเวลาจดทะเบียนในนามบริษัทเสียภาษีป้ายราคา 1x,xxx กว่าบาทต่อปี ทีนี้คุณซื้อต่อเข้ามาจะเริ่มนับการจดทะเบียนใหม่เพราะโอนเป็นชื่อส่วนตัว ราคาที่เริ่มจะเริ่มใหม่เลยคือ 5750 บาท สำหรับเครื่อง 2.7 พอปีต่อ ๆ มาจึงเริ่มลดลง อย่างผมเสียภาษีฟอร์จูเนอร์คันปัจจุบัน ตอนนี้เสียปีล่ะ 3800 บาทได้มั้งโดยประมาณเพราะรถผมจดทะเบียนเป็นชื่อส่วนตัว อยากทราบแท้จริงเท่าไหร่ ลองเปิดค้นประวัติที่ เวปเราคุณ Aot srt ลงไว้ให้อันนั้นแม่นยำมาก เพราะฉะนั้นผู้ที่ซื้อรถจดทะเบียนในนามบริษัทราคาซื้อควรจะต้องถูกกว่ารถบ้านในทุกกรณี เพราะคุณจะมีต้นทุนที่สูงกว่า และรถบริษัทไม่ใช่รถส่วนบุคคล อย่างในกรณีเค้าคิดค่าเสื่อมราคาที่ ปีที่ 5-7 ปี แล้วขายทิ้งโดยไม่สนราคาขายต่อ ไม่ว่ารถอะไรถ้าเป็นรถบริษัทก็ต้องทิ้งออกมา เพราะหมดค่าเสื่อม
( แต่พอเป็น Fortuner 2.7 Exclusive 4x4 มันหาราคากลางยากเพราะไม่มีตัวเปรียบเทียบ)
2. สภาพภายในถ้าเป็นอย่างที่คุณสันติบอก ค่าเก็บราคาโปรดสอบถามร้านทำภายใน
------ 2.1 พวงมาลัยเก็บให้เหมือนเดิมเสียประมาณ 4500-7500 บาท อย่าคิดเอาไปใส่พวงมาลัยแคมรี่ หรือวีโก้แชมป์ หรือของฟอร์จูเนอร์โฉมปัจจุบันน เพราะเอกลักษณ์ของรถมันจะสูญเสียไปจนหมด สำหรับรถคันนี้
------- 2.2 ภายในจะตัดเย็บเบาะหนังกลับมาเหมือนเดิม จากโรงงาน ( เน้นนะครับว่าเขาทำงานเหมือนเดิม ไม่ใช่งานที่นึกมโนภาพเอาเองเพราะมันจะเสียอัตลักษณ์ไป ) ติดต่อสอบถามร้าน siam speed ถนนร่มเกล้าดูครับ น่าจะอยู่ที่ราคา 3 หมื่นบาท ทำงานให้กลับมาเหมือนเดิมทุกประการ
3. รอยชนจากกันชนหน้าหลัง รถโดยปกติถ้ามีเฉี่ยวชนเป็นเรื่องธรรมชาติ การหารถที่ไม่ชนเลยเป็นเรื่องยาก บางคนได้มาแบบนั้นจริงแต่มาอยู่กับเจ้าของใหม่ ถอยชนเสาที่บ้านเจิมรถไปก่อนอันดับแรก เพราะฉะนั้นอย่าไปซีเรียสเรื่องนี้แต่ให้ดูรอยการชนตามตะเข็บรถมากกว่า ว่ามันชนหนักแบบไม่น่าซื้อหรือไม่
4. รถจมน้ำ ที่จริงมันไม่ควรดูว่ารถจมน้ำสมัยปี 2554 มาอย่างเดียว รถพวกนี้ถ้าไม่ได้ไปวิ่งออฟโรดเลย ต้องดูการลุยน้ำในกรุงเทพ เป็นหลัก
ผมฝากเตือนพวกชอบเจอสรรพคุณคนขายบอกรถไม่จมน้ำ แต่ไม่ได้ดูเลยว่ารถวิ่งลุยน้ำในกรุงเทพมาหรือเปล่า ถ้าเจอรถที่ชอบลุยน้ำในกรุงเทพแบบรถติดยาวเป็นกิโลเมตรรถพวกนี้จะเสียหายมากไม่ว่ารถอะไรก็พังทั้งนั้นแหละ สนิมจะถามหาตามตะเข็บรถใต้พรม อันนั้นน่ะเยอะ ต้องลองรื้อพรมกับก้มลงไปดูช่วงล่าง ถ้าเจอการสะสมของน้ำครำในกรุงเทพ ถ้าเจอการหมักหมมแบบนี้เก็บยาก
5. รถพวกนี้ผมเดา ๆ ล่วงหน้าไว้ก่อน ลองเทสต์ช่วงล่างหรือลองขับดู ลองดูจุดต่อเรื่องลูกหมากช่วงล่าง ผมว่ามันน่าจะหลวมแล้วเพราะวิ่งมา 1 แสนกว่าโล โดยมากถ้าใช้โช๊คเดิมติดรถมา ไม่เคยปรับช่วงล่างเลย และวิ่งในกรุงเทพอย่างเดียว น่าจะถึงอายุซ่อมช่วงล่างบ้าง ลองก้มดูตรงนี้
6. รถคันนี้เป็นรถบริษัทดูแลตามระยะทางเท่านั้น ผู้ซื้อ น่าจะต้องเอามาเก็บเรื่องชุดหล่อเย็นทั้งหมด เพราะคงไมได้ทำตามเวปเราแนะนำ ตรงนี้เตรียมเงินไว้อีก 1 หมื่นบาท เพราะต้องเสียเงินตรงนี้แน่นอน ในการเปลี่ยนชุดหล่อเย็นทั้งหมด
7. รถคันนี้ไม่ได้ติดแก๊สมา เพราะฉะนั้นผุ้ซื้อต้องเตรียมเงินไว้อีก 3 หมื่นบาทโดยประมาณสำหรับค่าติดแก๊ส อย่าบอกว่ารถไม่ติดแก๊สมาแล้วกระดี๊กระด๊าอยากได้ เพราะยังไงผู้ซื้อต้องเตรียมเงินติดแก๊สอีก 3 หมื่นบาท เสียเงินแน่นอนตรงนี้แทนที่จะเอารถติดแก๊สมาเลยแล้วเสียเงินน้อยลง ทฤษฎีเดิม ๆ ความคิดเดิม ๆ มันใช้ไม่ได้ผลกับโลกปัจจุบัน ถ้าไม่รู้จักปรับเปลี่ยนความคิดสิ่งใหม่บ้าง ๆ
8. สีรถผมคงบอกไม่ได้ต้องไปดูเอาเองว่าขัดเคลือบสีหายไหม ถ้าสีโทรมมากเพราะจอดตากแดดแบบทิ้งขว้าง คงยากจะเก็บกลับมา และถ้าเป็นสีขาว เป็นรถบริษัทและไม่มีการดูแลขัดเคลือบสี ป้องกันรอยและแสงแดดไว้ตลอดเวลา งานนี้สีคงบรรลัยเป็นแน่แท้ คงไม่มีทางกู้คืนกลับมาได้อีก เพราะสีขาวต้องดูแลขัดเคลือบสีตลอด ซึ่งการไปเก็บสีทำใหม่ทั้งคันเสียค่าใช้จ่ายเกินจำเป็นและไม่แน่ใจว่างานเก็บทั้งคันจะหาอู่ไหนมีฝีมือทำให้ได้ นอกจากศูนย์บริการ
9. รถคันนี้เป็นของเต๊นท์รถเค้าซื้อมาขายต่อไปแล้ว เพราะการขายของรถบริษัทขายตามปีค่าหมดค่าเสื่อม เต๊นท์ก็คงไวกว่าและมาซื้อไป
บทสรุปรถคันนี้ น่าจะเป็นรถแท้ 2.7 Exclusive อยู่ที่สภาพที่ผู้ซื้อต้องไปประเมินหน้างานเอาเองว่าต้องเก็บมากแค่ไหน เพราะรถมันไม่ได้ใช้แบบถนอมน่าจะมีการใช้กันหลายมือและทิ้งขว้างพอสมควร ลองพิจารณาและประเมินค่าใช้จ่ายดูก่อนการตัดสินใจ