คำตอบที่ 22
จาก forestoffroad
ก็ตามที่ท่านว่า option อื่น ๆ ของ Chevrolet ไม่ได้มีความน่าสนใจเลย ถ้าเอามาเทียบกับฟอร์ด 3.2 4x4 ไวลดแทร๊คเครื่องยนต์ผมจำไม่ได้แล้วว่าทาง นักเลงรถกะบะเขาวิจารณ์ว่าอย่างไรสำหรับเชฟโรเลต 200 แรงม้า ลองไปหาอ่านดูเอาเองครับ
Ford Wildtrack 3.2 4x4 ถ้าไม่แคร์จะซื้อมือ 2 ก็น่าเล่นเพราะป้ายแดง 1.1 ล้านบาท ถ้าไม่ใช่คนที่เงินถึงใจรักชอบความแตกต่างจริงคงตัดใจซื้อยาก ก็เข้าใจอยู่ว่าราคาสูง อย่าเรียกว่าแพงแต่ให้เรียกว่าสูงดีกว่า แต่ถ้าจะซื้อFord ตัวอื่นต้องลองคิดกลับไปตรงที่ราคาฟอร์ดปิคอัพ นี่ราคาแบบตัวขับ 2wd แบบธรรมดาราคานี่ก้เกือบ 9 แสนบาทไปแล้ว option หายไปเพียบ มันเทียบสิ่งที่ได้รับกับ ตัว 3.2 ไม่ได้เลย ที่เพิ่มเงินราว 2 แสน เพราะ Option ตัว 3.2 ที่ให้มานั้นหลัก ๆ เลย
1 Rear Diff lock ไฟฟ้า ถ้าถามเฉพาะราคาอะไหล่ก็ 6 หมื่นบาทแล้ว รายแรกในประเทศไทยที่ติดมาให้
2. ระบบช่วยในการขับลงภูเขาทางลาดชัน
3. ระบบการทรงตัว
4. ม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง (ไม่แน่ใจว่ารายแรกในไทยหรือเปล่าสำหรับรถปิคอัพ)
ทั้งหมดนี่ตีราคาเป็นเงินไม่ได้เลย ยังไงก็เกิน 2 แสน และพวกนี้ติดเพิ่มได้อย่างเดียว คือข้อ 1 ในคลับฟอร์ดมีคนเอา Diff lock มาขาย ราคาอะไหล่ภายนอกไม่ใช่ซื้อศูนย์ อย่างเดียว 5 หมื่นบาทขึ้นไปไม่รวมติดตั้ง นอกนั้นติดเพิ่มทีหลังเองไม่ได้ทั้งนั้น คือ Diff lock ถ้าคนไม่ได้เอาไปลุยออฟโรดหรือไปลากจูงคงไม่ได้ใช้หรอกแต่ระบบอื่นได้ใช้หมด แต่จะรู้ตัวหรือไม่ว่าได้ใช้หรือไม่เท่านั้นเอง
เพื่อนผมที่นั่งทำงานใกล้กันในบริษัทเดียวกันและใช้ Fortuner 2.7 4x4 และเขาซื้อ Ford 2.2 Wildtrack 2wd เกียร์ธรรมดาเข้ามาใช้ ราคาก็ 9xx,xxx กว่าแล้ว ได้แค่นี้ ก่อนซื้อเขาตัดสินใจเลือก รุ่น2wd เพราะครอบครัวเขาซื้อรถ 4wd มาตลอดเลยและไม่เคยไปไหนเลย วิ่งแต่ในเมือง ไม่วิ่งออก ตจว. ไม่ไปออฟโรด จะยกเว้นนาน ๆ ไปบ้านแฟนที่อีสานครั้งนึงก็เลยเลือกรุ่น 2wd เป้นครั้งแรก รถที่ซื้อมาปีที่แล้วเขาเพิ่งวิ่งได้เพียง 7000 โล ยังไม่เคยเข้าศูนย์เลยเพราะไม่ถึงเวลา คงหมดประกันก่อนได้เช็คศุนย์และเขาเองก็ทำใจศูนย์บริการไว้ล่วงหน้าแล้ว บอกว่าเรื่องศูนย์และรถอะไรจะเกิดขึ้นรับได้หมด สมัครใจที่จะซื้อ เอง
รถเขายังไงก็ใช้ไม่คุ้ม เพราะไม่สะดวกเวลาจะวิ่ง เอา Fortuner มาใช้สะดวกกว่า
รถ 2.2 เกียร์ธรรมดา 2wd ประหยัดยังไงก็ 12-14 km/l วิ่งใกล้เคียงกับ 3.2 4x4 เกียร์ออโตยามวิ่งทางไกล
ทั้ง 2 ตัวมี Cruise ถ้าใช้งานจึงประหยัดไม่ค่อยต่างกัน
วิ่งในเมืองก็ไม่ค่อยต่างกันมาก ระหว่าง 3.2 4x4 AT กับ 2.2 แม้จะเป็นเกียร์ธรรมดา 2wd ถ้าวิ่งวันล่ะ 50 กิโลเมตร จะกินน้ำมันต่างกันประมาณ 15 บาท
ถึงแม้จะเป็นตัว Wildtrack เหมือนกันแต่ Option สู้ตัว 3.2 ไม่ได้
อันนี้เห็นได้ชัด เขาซื้อตัว 2.2 เกียร์ธรรมดามา ขับไม่สนุกเลย ที่สำคัญคลัทซ์หนักมากสไตล์รถยุโรป น่าเบื่อถ้าไม่ใช่คนที่ชอบเกียร์ธรรมดาสไตล์รถอเมริกัน ซึ่งเค้าก็ไม่ได้ขับจริง ๆ เพราะเมื่อยมากต้องปรับตัวเข้าหารถให้ได้ แต่เอา Fortuner ไปใช้สะดวกกว่า
ไม่ว่าในเมืองนอกเมือง 2.2 ขับไม่สนุกจริง ๆ สู้ 3.2 ไม่ได้เลย ( ถ้าเอามาเปรียบเทียบกัน )
เทียบกันระหว่าง Ford 2.2 กับ Fortuner 2.7 4x4 ยังไงเขาเลือก fortuner ไปใช้เพราะประหยัดกว่า ขับง่ายสบายกว่า
ford 2.2 เกียร์ธรรมดาข้อดีคือไม่ต้องกลัวเรื่องเกียร์เสีย เหมือนรุ่น 2.2 AT ที่อยู่ดีดีอาจจะเสียวันไหนขึ้นมาก็ได้ และก็ภาษีจะถูกกว่าเยอะ
คือสรุป ซื้อมาก็ไม่ค่อยคุ้มเพราะไม่ได้ใช้ แต่ได้ความเท่ห์ ถ้าจะซื้อก็ซื้อ Ford new ranger ก็ซื้อ 3.2 AT 4x4 Wildtrack ไปเลยดีกว่าเพราะยังไงก็ไม่ค่อยได้ใช้เหมือนกัน ใช้น้อยแบบนี้หารถมันดีไปเลย เพราะรถไม่มีใครเอามาขับไปทำงานในเมืองทุกวัน ๆ คงไม่คุ้มหรอกสำหรับรถแบบนี้ เพราะรถใหญ่เทอะทะ กินน้ำมันพอตัวแม้ว่าคุณจะเลือก 2.2 เกียร์ธรรมดาก็อย่าไปหวังว่าจะประหยัดกว่าตัว 3.2 แถมขับไม่สนุกอีกต่างหาก (โดยส่วนตัว) ถ้าจะเลือกก็เอาในสิ่งที่แตกต่างกว่าปิคอัพรุ่นอื่น ๆ ไปเลยคุ้มค่ากว่า อย่างที่บอกรถแบบนี้ คนทำงานกินเงินเดือน 1-3 หมื่นบาทซื้อมาขับไปทำงานในเมืองทุกวัน ยังไงก็ไม่คุ้ม บางคนก็จอดไม่ค่อยได้ใช้ แต่มันจะคุ้มสำหรับคนซื้อมาเอาไปสร้างงานสร้างอาชีพ ให้ตนเองด้วยผลตอบแทนที่ดีกว่า หรือไม่ก้เอาไปออกทริปไปเลย หรือไม่ก้เอาไว้เที่ยววันหยุด ทำกิจกรรมพิเศษ หรือซื้อความปลอดภัยให้ครอบครัว หรือเพื่อความแตกต่าจากรถปิคอัพรุ่นอื่น ๆ ที่ไม่สามารถมีมาให้ เลือก 3.2 wildtrack จึงคุ้มที่จะเลือกมากกว่า 2.2 ซึ่งไม่ได้น่าสนใจตั้งแต่แรก
เลือก 3.2 ยังไงคนซื้อรถฟอร์ด ไม่ค่อยสนใจที่จะไปเข้าศูนย์หลังหมดประกันก็ตามหาอู่นอกกันเป้นแถว ระบบ 4x4 ไม่มีอะไรต้องซ่อมไม่ได้น่าห่วงอะไร รถพวกนี้ที่ต้องซ่อมก็คือเทอร์โบ ระบบคอมมอนเรล พัดลมไฟฟ้า แต่ไม่จุกจิกเท่ารุ่น 2.2 ที่น่ากลัวกว่า เป็นบทเรียนที่จะเล่น
ซื้อมาก็อย่าไปทำตามคำแนะนำฟอร์ด ที่ให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ออโตที่ 1.2 -1.8 แสนโล ไม่มีใครแนะนำให้ทำแบบนี้ ยังไงก็ไม่สนใจการรับประกันอยุ่แล้ว ซื้อน้ำมันเกียร์ออโตเบอร์ตรงจากศูนย์ฟอร์ดมาเปลี่ยนเองที่อู่นอก ถ้าใช้น้อยก้เปลี่ยนทุก 2 ปี 20,000 โล ถ้าใช้มากก้เปลี่ยน 40,000 โล จะยืดอายุเกียร์ได้นานมาก