คำตอบที่ 25
เพิ่มเติมรายละเอียด
http://www.ecareasy.com/Print_News.php?news_id=2057
สมรรถนะการใช้งานและการขับขี่ทั่วไป
อัตราเร่งดี เซฟน้ำมันกว่ารุ่นเดิมนิดหน่อย
การทดสอบสมรรถนะครั้งนี้ โจทย์ใหญ่ที่เราตั้งไว้คือ อัตราความสิ้นเปลืองการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง เพราะด้วยเหตุผลที่ถูกร่ำลือว่าซดน้ำมัน ทีมข่าวจึงลองวัดประสิทธิภาพด้วยการทดสอบขับในเมืองระยะทาง 150 กิโลเมตร (ใช้มาตรวัดอัตราสิ้นเปลืองซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาจากโรงงานเป็นตัววัด) และเมื่อนำไปเทียบกับรุ่นเดิมที่เป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกัน แต่ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบ 4 ล้อ ปรากฏว่า New Fortuner รุ่นนี้ให้อัตราความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีกว่ารุ่นเดิมนิดหน่อย โดยบริโภคน้ำมันเฉลี่ยที่ 8.2 กิโลเมตร/ลิตร ในสภาพการจราจรที่ติดพอสมควร แต่ที่ค่อนข้างชอบคือ แม้จะเป็นรถใหญ่แต่ให้ความคล่องตัวค่อนข้างดี มุมเลี้ยวแคบ ช่วยให้การถอยจอดหรือเลี้ยวกลับรถเป็นไปอย่างราบรื่น
ขณะที่การขับใช้งานทั่วไปในระดับความเร็ว 100-110 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะทางในการทดสอบ 100 กิโลเมตร ด้วยการเลี้ยงรอบเครื่องยนต์ 2,100-2,500 รอบ/นาที ปรากฏว่ามีอัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ยที่ 10.6 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งในรุ่นก่อนบริโภคเฉลี่ยที่ 8 กิโลเมตรต่อลิตร
หากเป็นการขับทางไกลเส้นทางระหว่างจังหวัด Fortuner รุ่นเดิม ที่มีระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ จะให้อัตราการบริโภคน้ำมันราว 11 กิโลเมตร/ลิตร แต่ในรุ่นใหม่ขับเคลื่อน 2 ล้อ ทำได้เกือบ 12 กิโลเมตรเศษ/ลิตร ในระดับความเร็ว 110-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระยะทางทดสอบ 120 กิโลเมตร
จากสถิติที่ทดสอบสมรรถนะในครั้งนี้ เรียกว่า New Fortuner ให้อัตราสิ้นเปลืองดีกว่ารุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เพียงนิดหน่อย ซึ่งในมุมมองส่วนตัวของผมคิดว่า หากผู้บริโภคอดทนใช้รถไปจนหมดวารันตี 3 ปี หรือ 1 แสนกิโลเมตร แล้วเปลี่ยนมาติดตั้งระบบแก๊สธรรมชาติ ที่อาจจะเป็น LPG หรือ NGV ตามแต่ที่จะมีงบประมาณลงทุน ก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว
ด้านสมรรถนะของขุมพลังเครื่องยนต์จากที่ทดสอบมา นับว่าให้พลังแรงจัดจ้านใช้ได้เลยทีเดียว แม้ในรุ่นเดิมจะมีผู้ขับใช้งานอยู่บ่นว่าแรง ไม่มีวิ่งไม่ออกเมื่อต้องขับขึ้นทางชัน แต่จากที่ทดสอบสมรรถนะอัตราเร่งในช่วงต่าง ๆ บนเส้นทางตรงด้วยการใช้นาฬิกาดิตอล ปรากฏว่าอัตราเร่งจากระยะ 0-60 กม./ชม. ใช้เวลา 5.5 วินาที อัตราเร่งจากระยะ 0-100 กม./ชม ใช้เวลา 11.2 วินาที อัตราเร่งจากระยะ 60-120 กม./ชม. ใช้เวลา 10.4 วินาที และอัตราเร่งจากระยะ 80-140 กม./ชม. ใช้เวลา 15.2 วินาที
ผมมานั่งคิดคำนวณคร่าว ๆ ด้วยการนำไปเทียบกับรถคู่แข่งประเภทเดียวกัน ดูแล้ว Fortuner 2.7 VVT-i รุ่นนี้ทำได้ดีกว่า ทั้ง ๆ ที่น้ำหนักรถก็ใกล้เคียงกัน ยิ่งมาดูสถิติจากตัวเลขของอัตราเร่งในช่วงต่าง ๆ ที่ทดสอบแล้ว ต้องยอมรับว่าเครื่องยนต์เบนซิน 2.7 VVT-i ที่ให้กำลัง 160 แรงม้า ให้การตอบสนองการขับขี่ที่ดี จัดจ้านเร้าใจ ไม่ด้อยกว่ารถคู่แข่งบางยี่ห้อ และดีกว่าในบางรุ่น
สรุป..เรื่องของบอดี้ดูดีพอฟัดพอเหวี่ยงกับรถคู่แข่งที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ส่วนสมรรถนะของรถด้านต่าง ๆ นับว่าพอรับได้ แต่ที่เป็นจุดแข็งของ New Fortuner ที่ดูจะได้เปรียบคู่แข่ง เห็นจะเป็นที่สนนราคาค่าตัว1,096,000 บาท กับความที่เป็นสปอร์ตอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งขนานแท้
ข้อมูลทางเทคนิค
เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว DOCH VVT-i
ปริมาณกระบอกสูบ 2694 ซี.ซี.
กระบอกสูบxช่วงชัก 95.0x95.0 มม.
กำลังสูงสุด 160 แรงม้าที่ 5,200 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 241 นิวตันเมตร ที่ 3,800 รอบ/นาที
ระบบเกียร์ อัตโนมัติ 4 สปีด
ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า
พวงมาลัย แร็คแอนด์พีเนียน พร้อมพาวเวอร์ช่วยไฟฟ้า
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.7 เมตร
ระบบช่วงล่าง หน้า อิสระดับเบิลวิชโบน พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง
หลัง อิสระโฟร์ลิงค์คอยล์สปริง
ระบบเบรก หน้า / หลัง ดิสก์เบรกพร้อมครีบระบายความร้อน/ดรัม
ความจุถังน้ำมัน 65 ลิตร