คำตอบที่ 1
       ผมให้เราดูรายละเอียดที่ผ่าน ๆ มาผมเคยอธิบายน้ำมันเครื่องไปหลายครั้ง
หรือแม้แต่ยกเอาคำพูดของคนที่มีชื่อเสียงหลาย ๆ ท่านในวงการรถยนต์ที่เขาตอบปัญหาไว้ในรายการรถยนต์ของเขามาให้ท่านฟัง
แต่ยังมีคนจำนวนมากที่ยังเข้าใจผิดกับเรื่องนี้เยอะ
เรียกว่าตอบกันได้ทุกอาทิตย์เลยทีเดี่ยว


หลายท่านอาจแปลกใจว่าทำไมผมต้องยกเอาการเช็คระยะแต่ละครั้งมาให้พวกเราดู
คือผมอยากให้พวกเราดูว่ารถ Hilux 2.7 vvtiค่าดูแลมันต่ำมากขนาดไหน ตามแบบฉบับที่เขาออกแบบมันมา
โดยที่ท่านไม่ต้องไปดิ้นรนทำอะไรนอกเหนือจากที่เป็น
เราสามารถทำให้ทมัน drop ลงกว่าที่เป็นอยู่ได้
รถคันนึง ๆในสมัยนี้มักจะออกแบบมาให้มีค่าดูแลที่ต่ำมาก ใช้งานตามระยะได้ทนทานยาวนานขึ้น
แต่อุปกรณ์ทุกชิ้นจะออกแบบมาให้มีการเสียตามระยะเวลา

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ในโฆษณาที่เป็นของจริง ที่ชาวบ้านทั่วไปเขาใช้รถ
วิ่งไป 1 ล้านกิโลเมตรในเครื่องดีเซลนั้น
พวกนี้ก็ใช้น้ำมันเครื่องปกตินี่แหละ ไม่ได้ใช้สังเคราะห์แต่อย่างใด
และในคู่มือรถก็ไม่ได้แนะนำว่ารถต้องใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์
แล้วรถคุณจะดีขึ้นหรือทนทานมากกว่าปกติ



หลายคนบอกว่าไม่อยากเข้า 0เพราะแพง
บางคนเห็นค่าแรงเช็คระยะ 920-1200 บอกแพงไม่อยากเข้า
ที่จริงการเข้าสูนย์ไม่จำเป็นมากนักถ้าเราสามารถดูแลได้ตามคู่มือรถเราก็จะสมบูรณือยู่เสมอ
แต่ปัญหามันคือเราไม่สามารถทำได้ตามคู่มือที่เขาแนะนำน่ะสิครับ
ส่วนใหญ่ที่ทำได้คือ ให้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์เท่านั้นเวลาออกนอกศุนย์
อย่างอื่นไม่มีเลย จุดอื่นที่ต้องตรวจสอบในเมื่อเป็นรถที่เก่าแล้ว ท่านไม่ตรวจ
ไม่ว่ารถอะไรก็ตาม



เมื่อวันเสาร์ผมเห็นรถเบนซ์ เอสคลาสคันนึงจอดเสียที่ปั๊มปตท. รถยังไม่เก่ามาก
แต่ดูจากลักษระเสียแล้วเจ้าของไม่ได้ดูแล ชัวร์ครับ
คือรถทุกคันมันเสียได้หมดไม่ว่ายี่ห้ออะไร

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ผมอธิบายเรื่องศูนย์บริการ
ปัจจุบันศูนย์บริการ Toyota มีค่าต้นทุนดำเนินการในการทำต่อศูนย์ประมาณ 70-100 ล้านบาท
ต้นทุนที่สูงขนาดนี้แน่นอนครับ ค่าเซอรวิส มันต้องแพงตามไปด้วย
เพราะมันยังมีค่าน้ำไฟค่าสต๊อก ค่าประกันงาน
พนักงาน และยังมีเรื่องการบริการเรื่องสีที่เกี่ยวข้องเข้ามาด้วย มันเลยแพงขึ้นกว่าแต่ก่อนซึ่งมันก็แพงตามปัจจัยที่ควรจะเป็น


แต่ผมอยากให้เปรียบเทียบบ้างครับ
Toyota เขาจะมีการสำรวจตลาดเรื่องพวกนี้อยู่ตลอดเพื่อไม่ให้อะไหล่เขาสูงกว่าคู่แข่ง
รวมถึงการบริการด้วย เพราะตลาดมันมีคู่แข่งด้วย
0 Toyota สูนย์นึงลงทุนขนาดนี้ ค่าบริการในระดับนี้ถ้าไม่นับอะไหล่ถือว่าถูกมากนะครับ
ถ้าเทียบกับศูนย์ Mitsu Ford Isuzu Mazda Chev
เหตุผล ศูนย์ผมกล่าวมาข้างต้น บางศูนย์ลงทุนด้วยเงิน ไม่ถึง 50 ล้านบาท แต่ค่าบริการแพงกว่าหรือเท่ากัน
เพราะไม่ได้โดนกฎข้อบังคับจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์




คุณลองไปนั่งที่สูนย์บางที่ ที่นั่งรอลูกค้าเอารถเข้าซ่อม
น่าเบื่อมาก มีโซฟาและ นสพ. ไม่กี่ฉบับให้อ่าน
ไปๆ มา ๆ ลูกค้าไม่อยากเข้า ก็พลอยหายหน้ากันไปทั้งรายเก่ารายใหม่

ศูนย์บางที่เช่น Ford Mazda Mitsu เลย 50000 โล แล้ว
จากกันทันทีระหว่างลูกค้าเพราะลูกค้าไม่อยากรับค่าอะไหล่และบริการที่แพง ยี่ห้อเหล่านี้ขึ้นชื่อเรื่องเหล่านี้
แม้จะเป็นรถที่ดี แต่ว่าลูกค้าเก่าหายหน้าลูกค้าใหม่ก็จะน้อยไป ยอดรถใหม่จะไม่วิ่ง






มีฯศุนยืบริการ Honda ตรงสุขุมวิท ที่นึงเปิดบริการได้ 2 ปีแล้ว
ต้นทุนประมาณ 200-300 ล้านบาทสำหรับที่นี้
คิดดูว่าต้องขายรถกี่คันถึงจะคุ้มค่าที่ก่อสร้างไป
ไม่ต้องพูดเรื่องเซอร์วิส ที่ค่าบริการมันใกล้เคียงพอๆ กับศูนย์อื่น ๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       อยากให้เราลองเปรียบเทียบกัน
ระหว่างศูนย์ Toyota Honda ที่นึงลงทุนประมาณ 70-200 ล้านบาท

กับช่างตามร้านมุมตึกทั่วๆ ที่ลงทุนอุปกรณ์ 500,000 บาท ค่าเช่าตึก 5000 บาทขึ้นไป
แต่ว่า 2 ที่นี้ คิดราคาค่าซ่อมออกมาบางแห่งแทบจะใกล้เคียงกัน



คุณคิดว่าเป็นไปได้ไหม ที่ค่า Overt head +profit ของ 2 ที่นี่จะพอ ๆ กัน ทั้งที่ต้นทุนมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ฟลายคนที่โดนอู่นอกทำมา แบบนี้ภาษาชาวบ้านเขาเรียกฟันหัวแบะ



คือการซ่อมรถที่เลยระยะประกันไปแล้วให้พิจาณาดูให้ดี
ไม่จำเป็นต้องเข้าศูนย์
แต่ในขณะเดียวกัน การซ่อมกับร้านข้างนอกต้องพิจาณาความเหมาะสมว่าสมเหตุผลหรือไม่
โดยมากแล้วรถที่เข้าเช็คศูนยืประจำตามระยะราคาขายต่อมือ 2 จะดีกว่ารถทั่วไป เพราะสภาพรถจะดีกว่าและตรวจประวัติได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ในกลุ่มรถยุโรปบางแห่ง มีการคิดค่าแรงเป็นชั่วโมงแรงงานแบบยุโรปหรือที่เรียกบ้านเราว่าโคตรแพงเลยล่ะ
สังเกตุได้ว่ารถยี่ห้อไหน รุ่นไหนที่มีอะไหล่แพง ๆ หรือค่าบริการแพง ๆ
ยี่ห้อนั้นรุ่นนั้น ราคาจะตกมากในตลาดมือ 2



แต่กลับกันในกลุ่มรถตลาดอย่าง Toyota ที่มีราคาซ่อมถูกมาก ๆ ในรุ่นนั้นๆ ราคามือ 2 ก็จะสูงไปด้วย เพราะตลาดนิยมคนซื้อจะหาง่ายเพราะเขาให้ความสำคัญตรงนี้มาก


ถ้าเป็นรถปิคอัพในกลุ่มเดียวกันระหว่าง TOYOTA Isuzu มันก็จะใกล้ๆ กัน
แต่ถ้าเป็น Mitsu Ford Mazda ก็จะเป็นอีกกลุ่มนึงไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       มาดูตรง Hilux 2.7
ผมเปรียบเทียบการเข้าศูนย์แต่ละครั้งไว้แล้ว
ว่าเราเสียเท่าไหร่ เราต้องจ่ายอะไรบ้าง
ตรงงนี้มันค่อนข้างถูก มาก ถ้าเทืยบกับค่าบริการของยี่ห้ออื่นๆ
และถ้าเทียบกับรถกลุ่มยุโรปบางยี่ห้อแล้วถือว่าต่างกันมาก
แต่ทั้งนี้ไม่ใช่ ว่า โตโยต้าจะถูกทุกรุ่น
เพียงแต่เราต้องเจาะกลุ่มในรุ่นนั้นๆ ให้ถูกต้อง
ถ้าเป็น hILUX 2.7 มันจะต่ำในเรื่องค่าใช้จ่าย
ซึ่งตรงนี้มันถูกเราสามารถจ่ายได้ด้วยการเช็คศูนย์ตลอดได้
แต่ต้องเลือกศุนยืที่เราใช้ประจำและเห็นว่าดี
และต้องเลือกรายการที่จะทำ






สมมติ BMW VOLVO ผมเคยดูบิลค่าใช้จ่ายเวลาเขาเอาเข้าศูนย์ 10000 โลครั้งนึง ก็จะตกราว 10000 กว่าบาทขึ้นไปแทบทุกครี้ง
รถพวกนี้ค่าบริการแพง ค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรสูงมากค่าเสือ่มก็สูง
แต่ในขณะเดียวกัน อย่างเรทๆ เข้า 0 โตโยต้ครั้งนึง 10000 โลเสีย 970 บาท คิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร
ถูกกมาก คิดเป็นกิโลล่ะ 10 สตางค์สำหรับค่าบริการ
เมื่อคิดได้แบบนี้แล้วอย่ามัวตั้งแง่กันที่จะซ่อมรถจากศุนย์

แต่ต้องเลือกให้เป็นแล้วเราจะสบายใจเวลาเข้าซ่อมครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       สำหรับพวกเรา คิดเฉพาะ Hilux 2.7 นะครับ
ค่าใช้จ่ายต่ำ
ยี่ห้ออื่นๆ รุ่นอื่น ๆ อีกกรณีนึง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       พี่ AUto ลองอ่านกระทู้นี้ดูครับ ผมเอามาจากเว็ปเพือนบ้าน และไม่ทราบว่าพี่มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ

จากประสบการณ์จริงของเด็กฝึกงานในศูนย์ที่ได้รับฟังมาจึงรู้ไดว่าพนักงานเขาอยู่กันอย่างไร
ช่างใหญ่เงินเดือน 7000 ช่าง 5500 แล้วเขาอยู่กันได้อย่างไร
ก็แค่กินน้ำมันเครื่องรถคันละ 1 ลิตร สมมุติรถเราเติมน้ำมันเครื่อง 4 ลิตร
เขาก็ใส่น้ำมันเก่าไว้ 1 ลิตร อีก 3 ลิตรก็น้ำมันใหม่แล้วที่เหลือล่ะ ก็เก็บไปขาย
ในราคาถูก ที่เห็นเขามีรถกันก็ค่าน้ำมันนี้นี่แหละ แล้วหัวเชื้ออีกครับปกติต้องใส่แต่พี่ท่านไม่เคยใส่ให้เราเลย
อันนี้จริงเท็จก็มาแก้ตัวกันด่วนนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       จาก P

เรื่องพวกนี้จริงครับ มีทุกยี่ห้อครับ
หมายถึงยี่ห้อรถน่ะครับ เบนซ์ Isuzu ก็มี
แต่สิ่งสำคัญคือ เราได้ในสิ่งที่ต้องการหรือไม่
อย่างเช่น น้ำมันเครื่อง Hilux 2.7 vvti ใช้ไป 5.6 ลิตร
ที่เหลือ400 ซีซีผมไม่รุ้จะเอาไปทำอะไร
อย่าบอกว่าเก็บไว้เติม เพราะไม่จำเป็นในเรื่องนี้เลย
ยกเว้นผมรวมกันแล้วมีรถหลายคันที่ต้องใช้ตลอด
เก็บไว้เกิน 6 เดือนผมก็ไม่เอาแล้ว


น้ำมันเกียร์ก็เช่นกัน เหลือเยอะผมถึงให้มีโครงการระหว่าง กลุ่มเราใครเช็ค 4 หมื่นโลมา
ให้เอาน้ำมันเกียร์มาแบ่งกันตามความสมัครใจ ใครจะทำก็ได้
แต่ผมอยากแบ่งออกให้คนอื่น
เพราะจะไม่เก็บไว้เกิน 1ปี เกินจากนี้ให้ทิ้ง และไม่คิดเอาไว้รอเติมยามขาดแคลนแน่นอน




เรื่องช่างเป็นจิตสำนึกของแต่ละคนของคนที่เป็นช่าง
คงไปบอกเขาไม่ได้ครับ
แต่ว่าเราสามารจตรวจดูรถที่เราซ่อมมาได้
และในการซ่อมมันมีการรับประกันงานซ่อมอยู่แล้ว 3 เดือน
ซึ่งเราก็ควรตรวจดูบ้างไม่ว่าจะซ่อมจากที่ไหนก็ตาม
ถ้าถามความเห็นผมโดยรวมผมยังพอใจในงานเข้าศูนย์สำหรับยี่ห้อนี้และรถรุ่นนี้อยู่ครับ
ไม่ถึงกับเลวร้ายเหมือนยี่ห้ออื่นๆ หรือรถรุ่นอื่น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       รถไม่จำเป็นในการเข้าศูนย์ ทุกครั้งเมื่อเลยระยะประกัน
แต่การเข้าศูนย์มันจะเป็นการเช็คตามระยะ
ซึ่งจุดนี้เราได้ตรวจสอบและซ่อมไปตามจุดที่คาดว่าต้องเปลี่ยน หรือเมื่อถึงกำหนดระยะเวลา

ค่าใช้จ่ายดูแล้วจะแพง แต่ถ้าดูแลได้ตามคู่มือไม่ทำนอกเหนือ
โดยรวมแล้วจะถูกกครับ จะมั่นใจได้ส่วนนึงว่ารถเราอยู่ในสภาพดีเสมอ


ถ้าไม่เข้าศูนย์ก็ควรตรวจสอบให้ได้ด้วยตนเองตามคู่มือที่แนะนำมา

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ผมเคยเห็นที่ต่างประเทศหลายที่
ถ้าเทียบกันในประเทศไทยแล้ว
บ้านเรามีศูนย์บริการรถแต่ละยี่ห้อมากกว่า
อุ่นใจได้มากกว่าในเรื่องการบริการ
นอกจากนี้ร้านซ่อมรถที่อยู่ตามถนนทั่วไป ร้านปะยางตามปั๊ม 24 ชั่วโมง
ดูแล้วสบายใจมากกว่า ถ้าเทียบกับต่างประเทศมีอะไรขึ้นมามักต้องโทรตามลากรถอย่างเดียว

ในบ้านเรารถยุโรปที่มีศูนย์บริการน้อยๆ จึงมักครองใจคนไทยไม่ได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       ผมเคยไปใช้บริการคาร์แคร์แห่ง1ตอนไปเที่ยวบ้านเพื่อนต่างจังหวัดล้างอัดฉีดแล้วเจ้าของร้านแนะนําให้ถ่ายนํามันเครื่อง(ครบระยะ)10000โลช่างเลยจัดการให้นํามันจากศูนย์+ใส้กรองแท้+ล้างอัดฉีดราคาถูกนะครับบริการดีแนะนําให้รู้จักวิธีดูแลรักษาเครื่องยนต์ผมใช้อีซูซุคอมมอลเรลครับเครื่อง2500ทั้งหมดแค่1300แต่ติดใจตรงช่างเขาตรวจเช็คให้หมดทุกอย่างรถก้อสะอาดมาก...นํากลั่นก้อเกือบแห้งเจ้าของร้านเติมให้ฟรีๆๆนําปัดนําฝนตรวจเช็คให้ทุกอย่างเยี่ยมมากครับเนี้ยมาอยู่กรุงเทพยังคิดถึงคาร์แคร์ร้านนั้นอยู่เลยมีโอกาศต้องไปใช้บริการสักหน่อยเป็นร้านเล็กๆๆแต่ล้างรถดีมากเลยช่างล่างนี้เกลี้ยงไม่มีคราบสกปรกเลยผิดกะคาร์แคร์ในกรุงเทพล้างแต่สีช่างล่างดูไม่ได้.....ปล.ร้านรู้สึกจะชื่อสุนทรคาร์แคร์ไรนี่แร่ะอยู่อ.เกษตรวิสัยร้อยเอ็ดครับว่างๆๆเพื่อนๆๆผ่านไปลองไปใช้บริการดูรับรองแจ่มครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       ขอบคุณข้อมูลดีๆครับ
ส่วนใหญ่ผมจะไปที่ศูนย์ procheck ปตท.อ่ะ ให้ช่างเค้าดูแลให้เลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       อันนี้ประสบการณ์ นะครับ โดเรม่อน ประกอบนอก GTi ผมเข้า ที่ พหลโยธิน _ Motor เอารถเช็ค สิ่งที่แจ้งทำให้ครบทุกอย่างเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ ตามระยะ ให้ช่วยดูเบรคให้ด้วย ผ้าเบรคผมเหลือ เกิน ครึ่งพี่ท่าน เล่นเปลี่ยนของใหม่ให้ทันที ราคา ไม่มีลด บอกว่าถ้าบอกว่าเช็คให้ ก็คือเป็นดุลพินิจที่เปลี่ยนให้ ไม่มีถามก่อน เที่ยบกับซื้อเองแล้วแพงมาก และอีกหลายอย่างทำให้การเข้า เช็คที่ ศูนย์ของผมไม่เคยได้รับความประทับใจเลย ความรู้สึกผม ราคาก็แพง บริการก็ไม่ดี ช่างไม่เก่ง ดูรถตอนซ่อมก็ไม่ได้ อะไหล่เปลี่ยนจริง ช่างไว้ใจได้ไหม
คันที่สอง ยี่ห้อที่ เขา ไม่ให้รถเก๋งทำ Taxi เครื่อง 2.2 ไฟสองก้อน เข้าศูนย์ที่นนท์ สั่งเปลี่ยนสานพานราวลิ้น ปั๊มน้ำ ผ่านไป สามเดือนปั๊มน้ำรั่ว แม่จ้าว ช่างถามผมว่าทำไมปั๊มเก่ามาก น่าจะเปลี่ยนได้แล้ว อันนี้ลัก ไก่ ไม่เปลี่ยนเอาอะไหล่ ผมไปไหน ดีที่รถไม่พัง ผมพอรู้เรื่องถ้าเป็นผู้หญิงญาติเรา รถเสีย ไม่รู้เรื่องรถ กลางค่ำกลางคืน รถพัง แล้ว ยังอันตราย เรื่องนี้ ผมโกรธ มากแต่ ถือว่าทำ บุญ เพราะรถเสีย ตจว ซ่อมรถที่ ตจว ขอจบไม่งั้นต้องถือปั๊มน้ำไปเควี่ยงหน้าศูนย์ ถือว่าฟาดเคราะห์ไป นี้แหละ ความไม่ประทับใจ O ระยำ ที่ผมเจอ ขอระบายไว้ ณ ที่นี้ครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       เขา 0 ทีไรต้องมีความรู้ติดตัวไปด้วย ว่าจะต้องเปลี่ยนอะไรบ้าง ต้องบอกเกือบทุกรายการ บางรายการบอกไปแล้วก็ไม่เปลี่ยนให้ แต่เบิกอะไหล่ไปเปลียน แต่ราคาไม่กี่บาทผมเลยไม่ว่าอะไร ส่วนที่ไม่อยากได้ ส่วนที่ไม่จำเป็นก็ชอบให้เปลี่ยน น้ำมันทำความสะอาดเครื่อง นำยาทำความสะอาดแอร์ ถ้าถามพนักงว่าจำเป็น 100% พนักงานตอบว่าจำเป็น ไม่มีคนไหนบอกหรอกว่าเปลี่ยนข้างนอกก้ได้ครับ วันก็เอาซ่อมประเก็นน้ำมันรอบสอง ยังไม่หายซึม ผมว่า 0 ดีก็มีแต่ผมยังหาไม่เจอ คนอื่นอาจจะเจอ

แสดงความคิดเห็นย่อย