คำตอบที่ 1
       วันเสาร์ไปงานไทยเที่ยวไทยแต่คิดว่าหาที่จอดรถยากก็เลยเอารถเก๋งคันเล็กไป
ผลคือแอร์ไม่ค่อยเย็น


ก็เลยเลี้ยวรถไปที่ร้านขายอะไหล่แอร์
ขอซื้อน้ำยาล้างคอนเดนเซอร์อาปาเช่ 2 ขวดราคา ขวดล่ะ 40 บาทเป็นขนาด 1200 ซีซี
ที่จริงใช้ขวดเดียวก็พอว่าจะเอามาล้างฟอร์จูเนอร์ด้วย
ปรากฎว่าล้างแล้วก็ยังไม่หาย
ก้เลยขับรถไปที่ร้านแอร์ที่เคยซ่อมกันมา
เขาจัดการเอาน้ำยาเดิมออกทั้งหมดแล้วแว็คคั่มใหม่
จากนั้นเติมน้ำมันคอมและเติมน้ำยาใหม่.
ผลคือเย็นดีกว่าเดิมมากพอควร แต่ไม่ดีที่สุดเขาบอกว่าต้องเปลี่ยนคอมเพรสเซอร์แล้วเพราะมีปัญหาเรื่องแรงดูด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ค่าทำตอนนี้ 850 บาท
เรื่องคอมคงยังไม่เปลี่ยน ใช้ไปก่อนแค่วันนี้

พอวันอาทิตย์ก็ไปหาช่างลูกน้องพี่ทรัพย์ แต่ที่บ้านช่างแอร์ตัวจริงที่เสียชีวิตไปแล้ว
ตอนนี้ที่บ้านเขารื้อไปแล้วนะครับ ไปถามร้านข้าวที่เคยนั่งกินก็บอกว่าลูกน้องย้ายมาทำที่ฝั่งตรงข้าม
ก็เลยจัดการวัดอุณหภูมิตอนบ่าย 2 โมงกับภายในรถช่องแอร์วัดได้ 20 องศา นี่ขนาดทำจากเมื่อวานนี้แล้วนะ



ผมคุยรายละเอียดทันที
แจ้งว่าล้างแอร์มาเรียบร้อย
เคยมาทำกับพี่ทรัพยืแล้วแต่ตอนนี้เจอปัญหาอีก
เพราะว่านำรถไปเติมน้ำยาแอรืมา 2 ครั้ง เติมน้ำยาผิดเบอร์มา
และครั้งที่ 2 น้ำยาน่าจะไม่ได้ขนาดและแว๊คคั่มไม่พอ
เขาก็เลยจัดการไล่แว๊คให้อุณหภูมิลดลงจาก 20 ลงไปเหลือต่ำสุด 9 องศา เติมน้ำยาใหม่อีกแต่ต้องไล่น้ำยาของเดิมออกก่อน
ดีขึ้นกว่าเดิมครับแต่ไม่มาก

ช่างคิดค่าทำไป 500 บาทครับและแจ้งอาการเหมือนกันคือคอมเพรสเซอร์มีปัญหาแล้ว คราวหน้าต้องเปลี่ยน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ผมหาของไม่ได้ในวันนั้น
ไม่งั้นก็จะเปลี่ยนเลยเพราะแบบนี้น่าจะแน่ใจได้ว่าคอมเพรสเซอร์มีแรงดูดน้อยไป
อาการคือขับรถเร็ว ๆ แอร์เย็นมากแต่รถติดแอร์ไม่เย็นช่วงแดดร้อนมีปัญหากับเรื่องการทำความเย็นต้องเร่งเครื่องจึงจะเย็น


อุณหภูมิสำหรับรถทั่ว ๆ ไป ถ้าจะให้เย็นตอนรถติดจะต้องมี Temp ประมาณ 3-4 องศาครับ หรือต้องต่ำกว่านี้อีกเหลือ 0-1 องศาจึงจะเย็นจัด
มากกว่านี้แอร์ไม่เย็นสู้แดดเวลารถติดแน่นอนครับ ของผมได้ 9 ยังไงก็ไม่เย็นเพียงพอแต่ต้องใช้ไปก่อน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       จะเล่าเรื่องทั่ว ๆ ไป ให้ฟังก็แล้วกันนะครับ

เดี๋ยวนี้ลูกน้องพี่ทรัพย์ทำงานเองต่อแล้วจากพี่ทรัพย์เรื่องงานก็โอเคในการแก้ปัญหาเบื้องต้นราคาไม่แพง
ก็เป็นธุรกิจของเขาน่ะครับ ราคาค่าทำก็คือล้างแอร์ แวคเติมน้ำยาและน้ำมันคอมก็ราว 750 บาท ถูกกว่าร้านทั่วไปที่จะคิดประมาณ 850 บาท
ประสิทธิภาพจะดีกว่าร้านทั่ว ๆ ไปนิดหน่อยตรงที่ยังใช้เครื่องมือดิจิตอล จับอุณหภูมิเหมือนเดิม สามารถไล่อุณห๓มิลงมาจนเหลือเลขตัวเดียวได้ ในขณะที่ร้านอื่นๆ ใช้ความรู้สึกบอกว่ามันเย็นเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วมันเย็นไม่ค่อยพอเพราะบางคนใช้งานแบบวิ่งทั่ว ๆ ไป แต่ของผมมันวิ่งรถติดประจำยังไงก้ไม่ไหว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
      
แต่อะไหล่ที่จะซัพพอร์ตนั้นน้อย เรื่องการทำงานตรงนี้คงทำใจนหน่อยเพราะไม่ได้เป็นร้านแอร์ใหญ่ ๆ ที่มีลุกน้องหรือเครื่องไม้เครื่องมือและอะไหล่ไว้คอยบริการให้มากนัก
ใครที่จะซ่อมแอร์ถ้าอยู่ใกล้ๆ นี้ก็มาหาเขาได้ราคาไม่แพง ถ้าเทียบกับสิ่งที่ได้รับครับ
ก่อนจะเสียเงินครั้งใหญ่ถ้ามาทำตรงนี้ก่อนจะลดการสูญเสียไปได้มาก

เรื่องการล้างคอยล์ร้อนที่ช่างแอร์ตัวจริงเคยถ่ายทอดเอาไว้ให้ พวกเราสามารถนำมาใช้กันได้ครับ ตอนนี้ผมก็ล้างไปทั้ง 2 คันเลย น้ำยาก็ยังเหลืออยู่
ราคาน้ำยาไม่แพงครับเป็นกรดอ่อนราคาขวดล่ะ 40 บาท แพงหน่อยบางร้านก็ขายที่ 50 บาท มากว่านี้ไม่ต้องซื้อเพราะฟันโหดมาก


บางคนที่ผมคุยด้วยเมื่อวานไปซื้อมาทำเองที่ร้านแอร์แถวอุดมสุขโดนไปขวดล่ะ 200 บาท ยังอุตส่าห์ซื้อมาได้
คุยกันพักนึงครับแล้วก็จากกัน




อ้อราคา คอนเดนเซอร์แอร์ด้านหน้าคองวีโก้ทุกรุ่นอยู่ที่ 2500 บาท น่ะครับ ก่อนซ่อมแอร์คิดถึงตรงนี้ด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       เกร็ดเล็กน้อย ๆ

1.เวลาแอร์ไม่เย็นอย่าเข้าร้านแล้วให้เด็กในร้านเติมน้ำยาให้นะครับ
เพราะมันจะเย็นไปแค่ ไม่เกิน 3 วันหลังจากนั้นไม่เย็นอีก
การแก้ปัญหาแบบนี้มักไม่จบและซ้ำซ้อนเรื่องเงิน

2.การเติมน้ำยาแต่ละครั้งถ้าไม่แวคเอาของเก่าออกแล้วเติมใหม่มักมีปัญหาแอร์เย็นไม่จัดเพียงพอ
และทีสำคัญถ้าเติมน้ำยาโดยที่ไม่เติมน้ำมันคอมเพรสเซอร์ คอมมักมีอายุสั้นในภายหลัง


3.ถ้าไม่เปลี่ยนดรายเออร์มักไม่สมบูรณ์ครับ ราคาไม่เกิน 120 บาท แต่ร้านทั่วไปมักฟันหัวแบะที่ราคาเกิน 200 บาท

4.ร้านทั่ว ๆ ไปไม่ได้จับอุณหภูมิ มันทำให้วัดกันได้ยากว่าเท่าไหร่เย็นและไม่เย็น
รถญี่ปุ่นใหม่ ๆ ความเย็นจะอยู่ที่ระดับ 1-2 องศาไม่เกินนี้
ถ้ารถเก่าอยู่ที่ 4-6 องศา ถ้าอุณหภูมิมากกว่านี้ตอนรถติดไม่เย็นหรอกครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
      
ขอนิดเถอะครับถูกผิดช่วยพิจารณาด้วย..

จากคำตอบที่ 6
เรื่องแอร์เป็นเรื่องจริงที่เจ้าของรถมักไม่รู้และประการสำคัญอู่ที่ไร้จรรยาบรรณชอบมากไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของตัวช่างเองที่จะต้องมีความรู้ น้ำยาแอร์ที่มีคุณภาพ(เดี๋ยวนี้มีหลายเกรด) นำมันคอม(แนะให้ใช้ของdensoแท้เท่านั้น) หรืออะไหล่ ร้ายที่สุดคือการหลอกกันซึ่งๆหน้า(เช่นการถอดสายคอมก็เคยเจอมาแล้ว)

ทางที่ดีควรให้ร้านที่ใว้ใจได้ช่วยหาที่ต้นเหตุและแก้ให้ตรงประเด็นน่าจะดีที่สุด

ปล.อย่ามาหาผมนะผมไม่ใช่ช่างแอร์เพียงแต่เคยโดนหลอกมา พอท่านประธานเอามาลงเลยคันตะหงิดๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
      
เรื่องน้ำมันคอมเพรสเซอร์ ก็เป็นอีกเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหมือนกันครับ

หากคอมแอร์เริ่มมีเสียงดังทุกครั้งที่คอมทำงานให้เตรียมใจได้ครับว่าคอมของท่านเริ่มมีปัญหาซะแล้ว อธิบายแบบง่ายๆคือวัตถุต่างๆเมื่อมีการเสียดสีก็ต้องมีการสึกหรอ จะลดการสึกหรอก็ต้องมีอะไรมาหล่อลื่น แต่ไอ้ที่หล่อลื่นอยู่เมื่อใช้ไปนานๆดันหมดไปก็ต้องเติมเพิ่ม

กรณีคอมแอร์ที่เพิ่งจะเริ่มดังก็เหมือนเตือนให้รีบไปเติมน้ำมันคอมเพรสเซอร์ซะโดยไวเพื่อยืดอายุไปได้อีกหน่อยถ้าโชคดีรู้จักสังเกตุได้ยินเสียงแต่เนิ่นๆก็ต่ออายุไปได้อีกนาน

การเติมน้ำมันคอมควรเติมโดยช่างที่ชำนาญเนื่องจากเติมน้อยเกินไปก็มิได้ช่วยอะไรให้ดีขึ้นมาแต่หากเติมมากเกินไปก็เกิดผลเสียเหมือนกันซึ่งจะทำให้แอร์ไม่เย็นหรือเย็นไม่ฉ่ำอย่างที่ควรจะเป็น

เท่าที่ทราบควรเติมน้ำมันคอมโดยประมาณทุกๆ80,000กม.(ส่วนปริมาณไม่ทราบจริงๆ)และควรใช้น้ำมันที่มีคุณภาพสูง(ราคาอาจแพงหน่อยแต่ผมว่าคุ้มครับ)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       หลาย ๆ อู่ ที่ผมเจอมานะครับไม่ได้หลอกลูกค้าครับ
แต่ว่าหลาย ๆ คนมีปสก. การทำไม่นานก็ออกมาเปิดร้านทำแอร์กัน เพราะว่ามันลงทุนน้อยไม่ต้องซื้อเครื่องมือราคาแพงมากนัก ต้นทุนสต๊อกอะไหล่ไม่สูง
เมื่อออกมาทำร้านเองมักแก้ปัญหาจากลูกค้าได้ไม่จบจริง ๆ
ถ้าเป็นระบบแอร์ของรถเบนซ์มันจะไปยุ่งกับกล่อง ECU ด้วยเวลาช่างตามอู่ทั่วไปซ่อมมักจะทำการดัดแปลง
พอดัดแปลงไปแล้วระบบไม่มีทางสมบูรณ์อีกแล้ว พาลจะรวนจุดอื่นๆ


เจ้าของร้านซ่อมแอร์บางร้านที่เก่งพอตัว มีปสก. มานาน มักจะเลือกเปลี่ยนอะไหล่ทุกอย่างที่เป็นของแท้เข้าไปให้หมด เพราะรู้ว่าซ่อมมักไม่จบแบบนี้ราคาแพงแต่สบายใจและเบากระเป๋า

ถ้าอู่ทั่ว ๆ ไป ก็เลือกแว๊คน้ำยา เติมน้ำยาแค่นั้นครับ แต่ไม่เย็นเกิน 1 เดือนหรอกอาการต้องกลับมาเป็นอีก เสียเงินซ้ำซ้อน อาการนี้ไม่หายหรอกครับ

หรือบางที่ดีหน่อยก็รื้อตู้มาล้างหาความสกปรกเพื่อช่วยในการทำความเย็น แบบนี้มักเจออาการตู้รั่วตามมาครับ อาการอื่นๆ ก็จะพลอยถามหาหรือปรากฎให้เห็นอีก แบบนี้เรียกว่าบานปลาย


ตอนนี้กำลังดูเรื่องที่ซ่อมว่าจะเอาไงเพราะว่าต้องให้ร้าน [ บางร้านประเมินการซ่อมกับราคา] ดูแล้วมีหลายอย่างต้องซ่อมสำหรับแอร์ตัวนี้ คาดว่าจ่ายหนักพอควรต้องประเมินความคุ้มค่าหลายอย่างเพราะราคารถมีไม่มากซ่อมหนักจะไม่คุ้ม




ถ้าเป็นรถใหม่ไม่เกิน 4 -5 ปี สบายมาก
การซ่อมแต่ละครั้งตัดสินใจไม่ยากเลยว่าจะทำอะไรดี
แต่รถเก่ามากแบบนี้คิดหนักชะมัด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       เรื่องโดนช่างแอร์ฟันราคาโหดก็มีนะ
อย่างเช่นราคาคอนเดนเซอร์ด้านหน้า ราคารวมเปลี่ยนแล้ว 2700 บาท
แต่ของไม่ใช่อลูมิเนียม ตอนนั้นไม่รู้ตัดสินใจทำไปได้ยังไง ร้านนี้ไม่เคยไปใช้บริการอีกนับจากวันนั้น


หรือแม้กระทั่งตอนได้รถคันนี้มา เก๋งStarlet ไปซ่อมกับร้านชื่อดัง
เขาซ่อมคอมให้ 800 บาท
เปลี่ยนสายแอร์ 120 บาท
เปลี่ยนตู้แอร์ 4400 บาท ของแท้เดนโซ่
เติมน้ำยา 340 บาท
เติมน้ำมันคอม
อื่นๆ รวมแล้ว 7000 บาท


เย็นครับ หนาวหัวใจจ่ายไปขนาดนั้น
แต่ไม่จบตรงคอมนั่นแหละ เพราะซ่อมแล้วไม่ได้ผล
ถ้าจะดีต้องเปลี่ยนใหม่หรือมือ 2
แต่เปลี่ยนใหม่แล้ว ถ้าไปเจออู่ที่คอยเติมน้ำยาแอร์อย่างเดียว อีกไม่นานคอมก็พัง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ระบบแอร์เวลาออกจากโรงงานเขามีเครื่องมือเทคโนโลยีระดับสูงในการเทสต์การรั่วของอุปกรณ์ก่อนจะมาถึงโรงงาน
จากนั้นเมื่อประกอบก็มีการตรวจทั้งระบบด้วยเครื่องมือเช็ค leak
การมาทำใหม่ภายนอกด้วยการรื้อโอกาสที่ไม่จบมีสูงครับ
โดยเฉพาะการซ่อมคอมแอร์รีบิ้วท์มักไม่จบ
ที่จะจบได้อู่ต้องมีเครื่องมือเพียงพอที่จะทำตรงนี้ไม่งั้นซ้ำซ้อน แต่ราคาค่าซ่อมกับซื้อใหม่ ๆ จากศูนย์ของแท้ เลือกซื้อใหม่ดีกว่ายกเว้นคอมแอร์บางรุ่นเช่นคัมรี่ วิช ที่คอมลูกละ 30000 บาท อย่างนี้คุ้มที่จะซ่อม
แต่รถทั่วไป ราคา 9500 -12000 บาท ซื้อใหม่ดีกว่าซ่อม

แต่ก็มีทางเลือกที่เซียงกงมือ 2 ราคาไม่เกิน 2500 บาท

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       การซ่อมต้องงถอดคอมแอร์ออกมาซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ค่าใช้จ่าย........................?
เมื่อถอดแล้วต้องแว๊คและเติมน้ำยาแอร์ใหม่ ค่าใช้จ่ายประมาณ 800-850 บาท
ทำครั้งเดียวก็ต้องต่อด้วยล้างตู้แอร์ถอดโบล์เออร์ก็ 400 บาท ไม่งั้นไม่คุ้ม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       เรื่องล้างแผงคอนเดนเซอร์ด้านหน้ารถ พวกเราจะทำเองก็ได้นะครับ
ให้เราดูจากแผงด้านหน้าว่าสกปรกหรือไม่ ถ้าสกปรกมาก ๆ ก็ให้ซื้อน้ำยาล้างแอร์ยี่ห้ออาปาเช่
จากร้านขายส่งอุปกรณ์เครื่องปรับอากาศหรือรถยนต์ ราคาขวดล่ะ 40 บาท ส่วนใหญ่ 40 บาทเท่านั้นแหละแพงมากสุดไม่เกิน 50 บาท
ซื้อขวดเดียวพอ ขนาดขวดเท่าขวดน้ำกลั่นแบตเตอรี่ เอามาล้างตามคำแนะนำข้างขวด
จะทำให้แอร์เย็นเร็วขึ้น ระบายความร้อนดีขึ้นและไม่เปลืองน้ำมัน

เรื่องล้างคอยล์เย็นด้านใน รถ Hilux 2.7 ตั้งแต่ปี 2006 มาไม่ต้องถอดตู้มาล้างนะครับ ไม่จำเป็นต้องทำ
เพราะมีกรองแอร์อยู่แล้ว ให้ใช้กรองแอร์ของแท้จากศูนย์และเปลี่ยนตามระยะก็ประหยัดที่สุดครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       เรื่องแอร์ เกร็ดสำหรับ Hilux 2.7 vvti

1. การบำรุงรักษา
1.1ใน HILUX ไม่มีปุ่ม A/C มาด้วย เวลาก่อนถึงบ้านสัก 5 นาที ให้ปิด Temp ทำความเย็นเสียก่อนแล้วให้เปิดพัดลมอย่างน้อย เบอร์ 3 เพื่อไลความชื้นออกให้หมด วิธีนี้จะทำให้แอร์ไม่สกปรกตันเร็วและกลิ่นอับชื้นน้อยลง

2.2 ไม่ควรกินอาหารในรถหรือทิ้งอาหารภายในรถนาน ๆ หรือประจำ ถ้าสมัครใจทำเรื่องดังกล่าว ต้องยอมรับผลที่ตามมา
กลิ่นจะต้องอยู่ในรถ เศษสิ่งสกปรกยังไงก็วนเวียนภายในคอนโซลและตามซอกหลืบ พาหะเชื้อโรคก็เข้ามา
และตัวการอีกตัวคือพวกหนู จะพยายามเข้ามาตามช่องแอร์ของรถ

2.ถ้ารถ Hilux 2.7 ปี 2006 ช่วงกลางปีเป็นต้นมาจะมีกรองแอร์ออยู่แล้ว ให้ลองเปิดลิ้นชักดู กรารดูแลทำเพียงแค่เปลี่ยนกรองแอร์ตามเวลา เท่านั้นไม่มต้องล้างแอร์แต่อย่างใด

2.1 ถ้ามีกลิ่นอับชื้นจากการใช้น้ำหอม พรมเบาะ หรือการกินอาหารภายในรถ กลิ่นจะอยู่ต้องใช้การอบโอโซนล้างแอร์ด้วยวิธีนี้ ราคา 1700 บาท ในศูนย์ ถ้าเป็ฯมาก ๆ จึงต้องถอดระบบมาล้าง

2.2 ถ้ารถไม่มีกรองแอร์ การล้างแอร์จำเป็นเหมือนกัน แต่ดูความจำเป็นให้มากเพราะต้องถอดมาล้างทั้งระบบ


3.การล้างคอนเดนเซอร์ด้านหน้ารถ ให้สังเกตุว่าสกปรกหรือเปล่า ถ้ามีสิ่งสกปรกมาก ๆ ก็ควรซื้อน้ำยาล้างแอร์บ้านยี่หออาปาเช่มาล้างเองตามคู่มือจะทำให้แอร์เย็นเร็ว คอมแอร์ทำงานไม่หนัก


4.คอมเพรสเซอร์ แอร์
ถ้าพบปัญหาแอร์ไม่เย็น อย่าเข้าร้านทั่ว ๆ ไป แล้วเติมน้ำยาแอร์ เพราะมันจะเย็นแค่ชั่วคราวจากนั้นมันจะไม่เย็น คอมแอร์จะอายุสั้นลงแบบค่อยเป็นค่อยไป ทั้งที่จริงไม่น่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้

4.1 ถ้าพบปัญหาแอร์ไม่เย็น ต้องหาช่างที่เก่ง ๆ ประเมินสาเหตุให้ถูกจุดก่อน อย่าซ่อมแบบเฉพาะหน้าเพราะงบมันบานปลาย ภายหลัง


4.2 น้ำยาแอร์ไม่รั่วง่าย ๆ ถ้าน้ำยาแอร์หมด ให้ประเมินสาเหตุก่อนจะเปลี่ยนตู้แอร์ ไม่งั้นเปลี่ยนแล้วไม่ได้ผลคืนมา 100%

4.3 ถ้าต้องถอดตู้แอร์ ต้องหาร้านเชี่ยวชาญในการถอดคอนโซล เรื่องพวกนี้ต้องทำครั้งเดียวจบไม่ซ้ำซ้อนค่าใช้จ่ายจะต่ำ ถ้าแก้ตรงจุด
การถอดคอนโซลมาจะต้องเปลี่ยนฟองน้ำไปด้วยเลย
ถ้าไม่เปลี่ยนจะพบปัญหาเสียงดังและการรั่วของลม

4.3.1 ฟองน้ำต้องใช้ของแท้ศูนย์เดนโซ่ไม่ใช่ฟองน้ำล้างจานที่ร้านแอร์ทั่วไปนิยมใช้
4.3.2 ถ้าไม่ทำทั้งระบบจะมีปัญหาเรื่องเสียงดังและลมรั่ว

5. คอมแอร์รุ่นนี้ต่างจากเครื่องดีเซล อย่าเลือกของผิด..........

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       ถอดคอนโซลมาล้างแอร์ ราคาค่าทำประมาณ 2200 บาท ราคาอาจเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยหรือถูกกว่านี้

รวมทุกอย่างแล้ว + น้ำยาอย่างดี + น้ำมันคอมอย่างดี + แว๊ก + เปลี่ยน ฟองน้ำทั้งหมด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 16
      
ทำความสะอาดกรองแอร์เป็นเรื่องง่ายๆที่ทุกท่านก็สามารถทำได้ครับ (มือผมมันคันครับพอมีเวลาก็หาเรื่องทำมันไปเรื่อยเปื่อย)

ขั้นแรกเปิดเก๊ะสัมภาระออกมา ออกแรงยกขึ้นขยับซ้ายขวาเล็กน้อยเก๊ะสัมภาระก็จะหลุดออกจากล๊อค แล้วยกเก๊ะลงก็จะเจอกล่องเก็บกรองอากาศแอร์ดังภาพ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 17
      
ตรงด้านซายของตัวกล่องที่มีอักษรRจะมีคลิปเล็กๆเป็นตัวล๊อคฝากล่องให้ดันไปทางขวา ฝากล่องก็จะถูกปลดออกมาอย่างง่ายดาย...

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 18
      
และแล้วก็ได้กรองแอร์ออกมาเป่าลมไล่เอาฝุ่นออกให้สะอาดได้สมใจ..

หลังจากเป่าไส้กรองจนสะอาดหนำใจแล้วก็นำมันกลับคืนสู่ทื่เดิม ด้านข้างกรองอากาศจะมีอักษรพร้อมกับลูกศรเขียนบอกให้ใส่ให้ถูกต้องอย่าใส่กลับทาง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 19
       gogmagog
บุคคลทั่วไป
COROLLA ( 3 ห่วง ) 95 1.3 XLi แอร์ไม่เย็น
« เมื่อ: 07 เมษายน 2009, 19:36:04 PM »

--------------------------------------------------------------------------------
รถมือสอง

เคยเปลี่ยนคอมแอร์มาแล้ว ( พ่อไปเปลี่ยนมา 7-8 พัน )

แอรเย็นประมาณ 3-4 เดือน หมดประกัน ไม่เย็นทันที ก็ทนใช้เรื่อยมา จน เอารถมาใช้ที่ ม. วันนั้นรถเสีย ช่าง เอารถเข้า ถามผมว่าแอร์ไม่เย็นนานแล้วใช่มั้ย ผมก็ตอบ อืมๆ ซักพักช่างเช็คเครื่อง พร้อมทั้งเช็คแอร์ให้ ช่างบอก ท่อรั่ว แอร์เสื่อม ( หลวม แถมช่างบอกว่า ช่างที่เปลี่ยนให้ ไม่ล้างระบบให้ )

เปลี่ยนใหม่ คอมบิ้วก็ 6500 พร้อมล้างระบบ หรือไม่ก็ เด๋วบิ้วตัวนี้ให้ก่อน หมดค่าบิ้ว + น้ำยาแอร์ ไป 1500 เย็นอยู่ สามเดือนเศษ


อยากทราบ ร้านที่รับทำแอร์ดีๆ แถว ชลบุรี ศรีราชาครับ

และราคาที่ช่าง คนนี้บอก OK มั้ย ?
ผมเห็นในเวป เค้าขายคอมแอร์ตัวไม่กี่พัน เลยสงสัย


แจ้งลบกระทู้นี้หรือติดต่อผู้ดูแล บันทึกการเข้า



staff1
พนักงานพิธานฯ
Hero Member

กระทู้: 2936





Re: COROLLA ( 3 ห่วง ) 95 1.3 XLi แอร์ไม่เย็น
« ตอบ #1 เมื่อ: 08 เมษายน 2009, 10:59:31 AM »

--------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีครับคุณ gogmagog..
..ถ้าเป็นอู่ภายนอกต้องขออภัยด้วยครับ เนื่องจากทางศูนย์บริการจะไม่มีข้อมูลอยู่ โดยตามราคาที่แจ้งมาก็น่าจะพอรับได้ เพราะค่าคอมฯมือสองหรือคอมฯบิ้วราคาก็น่าจะอยู่ประมาณ 2,500-3,500 บาท รวมกับค่าน้ำยาแอร์,ค่าน้ำมันคอมฯ,ค่าล้างระบบและค่าแรงแล้ว ก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 6,500-7,500 บาท แล้วหากมีท่อแอร์รั่วหรือระบบมีการรั่ว ราคาก็อาจจะเพิ่มขึ้นไปอีกตามราคาของอุปกรณ์ที่จะต้องทำการเปลี่ยน ซึ่งตามราคาที่แจ้งมานั้นพอที่จะรับได้ครับ..
..ขอบคุณครับ..
แผนกบริการสาขารามอินทรา







อยากให้เราดูเป็นประสบการณ์นะครับเวลามีปัญหาแล้วไปซ่อมแอร์กันกับร้านทั่ว ๆ ไป มักมีปัญหาไม่จบตามมาแค่ใช้จ่ายบานปลายเกินความจำเป็น
แอร์ถ้าจะให้ดีต้องซ่อมให้ขาดและซ่อมจบในครั้งเดียวถึงแพงแต่ไม่บาน และไม่หงุดหงิด
การซ่อมแอร์ไม่จำเป้นต้องทำกับศูนย์บริการเพราะศูนย์บริการไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องแอร์ กรณีซ่อมแอร์คงต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านกับร้านที่มีความชำนาญสูง ๆ

ถามว่าเข้าร้านทั่ว ๆ ไปได้ไหม
Ans ได้ แต่ผลมันจะไม่ได้ดีอย่างที่คิด
ร้านที่เราเห็นที่ข้างบนไปซ่อมมา ฟันกำไรบานเบอะชนิดฟันหัวแบะแถมซ่อมไม่จบอีกต่างหาก
การซ่อมให้ประเมินว่ารถเราใช้นานแค่ไหน ถ้าใช้อีกนาน 4-5 ปีขึ้นไป หาร้านซ่อมใหม่ที่ดีกว่าศูนย์และไม่ใช่ร้านทั่ว ๆ ไป ที่นิยมเปิดร้านแอร์กันมามากมายในเวลานี้ประเภทมีความรู้ไม่มากก็มาเปิดร้านแอร์กันแล้วปัญหาคือซ่อมไม่จบไม่ขาด
เสียน้อยเสียยากกันภายหลัง ต้องมาทนกับปัญหาเดิม ๆกันตลอด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 20
       ร้านแอร์ที่เปิดกันหลาย ๆ ร้านตามคูหาถนน หรือเช่าหน้าร้านกันก็เยอะแยะ แต่ปัญหาในช่วงชีวิตที่ผมใช้รถมาและซ่อมแอร์กับร้านเหล่านี้
ส่วนใหญ่ไม่น่าประทับใจเลยซักร้านกับการซ่อม
ร้านที่โคตรสะนากันเยอะ ๆ พยายามอย่าไปเชื่อกันมากนัก
และร้านที่ทั่ว ไป นั้นซ่อมอาจราคาถูกจริงแต่อีก 6- 7 เดือนมีปัยหาแบบนี้บาน ด้วยงบประมาณทำไปทำมาจะแพงกว่าซ่อมใหญ่ซะอีก
หน้าร้อนขอให้ระวังกันไว้ด้วยเรื่องแอร์

ผมไม่ได้มาแนะนำร้านซ่อมให้พวกเรานะครับ
เพราะผมเองก็มีปัญหากับการหาร้านซ่อมแอร์เหมือนกัน





ตอนนี้เจ้าจูนที่ใช้อยู่มีปัญหาเรื่องพัดลมแอร์ทำงานด้วยรอบที่ช้าเกินไป ทำให้ไม่เย็นและมีเสียงดัง
ผมจะเข้าไปเคลมกับทาง TBS ศูนย์บริการในหลังสงกรานต์นี้

แสดงความคิดเห็นย่อย