คำตอบที่ 271
       New Hilux [ New Model ] จะเปิดตัวที่ประเทศไทยราวปี 2014 ช่วงเวลาไหนไม่ทราบ ถึงตอนนั้นคงมีภาพหลุดกันออกมาบ้างแล้ว
แต่ขึ้นไลน์ผลิตจริงเป็นคันแรก.ในโลกที่ประเทศไทย ตามแผนงานประมาณ ต้นปี 2015 คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน Motor Show เดือนมีนาคม ปี 2015 และทยอยรับรถกันในครานั้นเลย
สเปกออกไปทางกะบะมิดไซท์เหมือนทางปิคอัพ ของอเมริกาเหนือ ความใหญ่โตของเรือนร่างอออกไปทาง Ford ถ้าใครนึกภาพไม่ออกก็ดูภาพ Ford ว่าใหญ่ประมาณนั้น (หน้าตาไม่มีใครทราบเพราะฉะนั้นไม่ต้องถาม) แน่นอนว่าความสะดวกสบายอ๊อพชั่น น่าจะน้องน้อง Ford New RANGER ใหม่นี้ อ็อพชั่นคงไม่ด้อยกว่ากันเท่าไหร่ แต่ผมเดาล่วงหน้าว่าอ็อพชั่นในประเทศไทยจะถูกตัดออกไปหลายรายการ เพราะคนไทยไม่ชอบซื้อรถอ๊อพชั่นยุโรป คือมีอ๊อพชั่นมากก็ไม่เอา

เป็นที่แน่นอนว่าราคา New Hilux นี้จะเกินหลัก 1 ล้านบาทค่อนข้างจะแน่นอนแล้ว สำหรับตัว TOP 4doors 4wd AT หลังจาก Ford เป็นเจ้าแรกที่กล้าจะปลดปล่อยเพดานราคาปิคอัพให้เกิน 1 ล้านบาท เจ้าอื่น ๆ ก็น่าจะตามมาบ้าง และไม่มีการใช้ชื่อ Vigo เอามาต่อท้ายตามธรรมเนียมของการเปลี่ยน Model ปิคอัพ Hilux

เครื่องยนต์มีอะไรบ้างไม่ต้องถามเพราะทราบมาแค่นี้


อีกเรื่อง เผื่อได้ข้อคิดกัน เอาเรื่องของผม
ผมเองตัดสินใจไม่ได้ขายรถ Fortuner 2.7 Exclusive 4x4 คันนี้ตั้งใจจะเก็บไว้ใช้ยาว ๆ เลย เนื่องจากตอนนี้รถใหม่ TOYOTA Fortuner ตัว TOP 4X4 ราคา 1.5 ล้านบาทเข้าไปแล้วนะครับ รถ PPV SUV ประกอบในประเทศอย่าง TOYOTA 4x4 ราคาไปไกลแล้ว การที่จะซื้อ 4x4 สเปกอย่างนี้ในอีก 3 ปีข้างหน้าก็ต้องจ่ายราคาประมาณ 1.5 ล้านนี้เหมือนกัน (อย่าเอาไปเทียบกับรุ่นล่าง ๆ ) พูดตามตรงครับไม่อยากทำงานส่งไฟแนนซ์หาเรื่องเป็นหนี้เปล่า ๆ รถก็ดีดูแลแค่ตามระยะเท่านั้น ในอนาคตถ้าต้องหาเรื่องมาจ่ายอีก 1.5 ล้านเพื่อได้สเปกประมาณเดิมหรือดีกว่าเดิมนิดหน่อยผมไม่เอาแล้ว คิดว่าพอแล้วกับตรงนี้ครับ ใครมีรถ 2.7 4x4 รุ่นใดก็เก็บไว้ใช้งานให้คุ้มค่าดีกว่าอย่าเพิ่งเห็นว่าได้ราคามือ 2 ดีแล้วปล่อยด้วยความอยากเพราะการที่จะต้องไปออกรถใหม่ในสเปกที่ดีกว่าเดิมแต่เป็นรุ่นใหม่ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่มมากอยู่เหมือนกัน ถ้ามีความอยากก็ไม่เป็นไรถ้ามีกำลังทรัพย์จ่ายกันได้ก็ตามสบายเลย เวลานั้นจะจ่ายเงินซื้อรถใหม่ 4x4 ไหวหรือเปล่า น่าคิด.....

ราคารถมือ 2 รถ 2.7 4x4 ถึงแม้จะดี ............ แต่อย่าลืมว่ารถป้ายแดงสเปกเดียวกันนี้ ราคาก็ไปไกลมากเหมือนกัน

 แก้ไขเมื่อ : 9/6/2555 9:19:46

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 272
       สำหรับคนที่จะซื้อปิคอัพ Hilux Vigo CNG จากโรงงาน
คำณวนส่วนต่างให้ดี ตอนเดียวจ่าย 6 แสนบาท รุ่น Cab จ่ายราคา 7 แสนบาท
ถ้าเป็น 4 ประตู 2.7 ไม่ได้ติดแก๊สจากโรงงานแต่เอามาติด CNG ข้างนอกจ่ายประมาณ 8 แสนกว่าบาท รถบ้าอะไรราคา 8 แสนกว่า ไม่มีอ๊อพชั่นอะไรเลยได้แค่เกียร์ธรรมดา กระบะตัวเตี้ย 2wd ตอนนี้ถือว่าจ่ายกันหนักทั้งนั้นสำหรับคนจะซื้อ 2.7 ถือเป็นบทเรียนสำคัญ ที่ตอนนั้นคนไม่ซื้อรถ Hilux 2.7 รุ่นเดิมที่เป็นเกียร์ออโต 4wd แต่อยากได้รุ่นใหม่ที่อ๊อพชั่นน้อยกว่า แค่เกียร์ธรรมดา ขับ 2wd ผมอาจจะพูดแทงใจดำไปซักหน่อย
แต่ TOYOTA ก็ทำรถออกมาจริง ด้วยราคาขายที่แพงกว่ารุ่นเดิม ทั้งนั้นเลยสำหรับ 2.7
มันเหมือนคนทำแม่พิมพ์ คุณฉีดงานออกมาเป็น Mass Production ยิ่งทำออกมามากราคาต่อหน่วยจะยิ่งถูกลง กำไรมากขึ้น ถ้าเปิดแม่พิมพ์ใหม่ราคาก็แพงขึ้นมามาก
เหมือนกับตอนลูกค้าไปเรียกร้องเอารุ่นอื่นรหัสตัวถังอื่นเข้ามา ราคานอกจากจะแพงขึ้นแล้วอ๊อพชั่นน้อยลง และต้องพยายามขายต่อหน่วยให้คุ้มทุนที่ผลิตออกมา
ถ้าลูกค้ายังซื้อ Vigo รุ่นเดิม รถจะขึ้นราคาประมาณปีล่ะ ไม่เกิน 3% โดยเฉลี่ย ซึ่งไม่แน่ว่าตอนนั้นคุณอาจได้ใช้ Hilux Vigo 2.7 4 doors 4x4 ในราคา850,000 บาท อ๊อพชั่นเพิ่มมากขึ้นนิดหน่อย จ่ายแพงขึ้นทุกปี แต่ก็น่าจะคุ้มกว่าตอนนี้ครับ ที่จ่าย 8 แสนกว่า ได้แค่ Hilux 2.7 E 2wd M/T ดูแล้วโหดและทำร้ายจิตใจกันพอสมควร

Vigo CNG ราคาค่าเซอร์วิสแพงตามแบบของรถ OEM PART ติดแก๊สจากโรงงาน ถ้าคนที่จะซื้อเอามาใช้ เป็นคนที่เอารถเข้าศูนย์บริการทุกระยะ และสู้ราคาอะไหล่ของ TOYOTA ได้ก็น่าซื้อครับยกตัวอย่างเช่น
1. กรองแก๊สราคา 1,800 บาท
2.หม้อต้ม 1x,xxx กว่าบาท
3.หัวฉีดราคา 2x,xxx กว่าบาท
4.ถังแก๊ส CNG 2x,xxx กว่าบาท
5.อื่น ๆ
แต่ถ้าคุณเป็นคนไม่นำรถเข้าศูนย์หลังจากหมดประกัน 100,000 กิโลเมตร ผมก็ว่าป่วยการที่คุณจะซื้อรถติดแก๊ส CNG จากโรงงานครับ
รถ Altis CNG ของผมเข้าศูนย์ทุกระยะเหมือนกับ Fortuner แม่ผมเองก็ไม่ชอบนำรถไปดัดแปลงหรือซ่อมภายนอกศูนย์ ถึงแม้รถจะใช้ไปนาน ๆ แล้วก็เอาเข้าซ่อมในศูนย์อยู่ดี แบบนี้น่าใช้ครับ รถยนต์ในพระราชสำนัก (รยล) ทุกคันถ้าเป็น TOYOTA หรือ Lexus ก็เอาเข้าซ่อมในศูนย์บริการ TOYOTA TBS แม้ว่าจะเก่าแค่ไหนก็ตาม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 273
       ปัจจุบันราคา Fortuner 2.7 4wd ราคาอยู่ที่ 8.0 -8.7 แสนบาทเท่านั้น
มีบางคนไปซื้อ Fortuner 2.7 2wd ปี 08 รุ่นแพนเค้กมาราคา 840,000 บาท ( ส่ายหน้า ผิดหวัง ) อย่าถามเลยว่ารุ่นนี้ราคาเท่าไหร่ ของจริงเขาไม่ซื้อกัน รุ่นนี้มือ 2 หาคนเล่นไม่ได้อยู่แล้ว จะไปถามราคาซื้อขายได้ยังไง Fortuner /2wd ถ้าซื้อต้องกดราคาไปถูกมาก ๆ ๆ ๆ แต่จริง ๆ ผมก็แนะนำไปแล้วว่าอย่าซื้อดีที่สุด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 274
       Vigo CNG ตัวใหม่ที่ติดแก๊สมาจากโรงงานนี้ ย้ำอีกทีติดแก๊สมาจากโรงงาน (ไม่ใช่ให้ศูนย์เอาไปติดแล้วบอกรับประกัน)
ทาง TOYOTA ใช้อุปกรณ์ ชุดคิทอะไหล่เป็นของ Made in Japan นะครับ ยกเว้นถังแก๊สไม่ทราบเป็นของอะไร

หลังจากพบปัญหากับ Altis CNG ตั้งแต่รุ่นแรกที่ใช้ชุดคิทของ อิตาลี ถึงการใช้งานที่ลูกค้าซื้อไป พบปัญหามากมายและที่สำคัญกับ Maker จากอิตาลีรายนี้ผมเคยคุยกับโป้งว่าสร้างปัญหามากพอสมควร กับ QC Toyota ที่ดูแลงานอยู่ สำหรับพวก ฝรั่งจากแดนมะกะโรนี
นี่ขนาดชุดแก๊สอิตาลีที่ TOYOTA เลือกมาดีทีสุดแล้วนะ สุดท้ายพอเป็น OEM PART เอามาขึ้นไลน์ประกอบจริง Main line assy และต้อง waranty โดยบริษัท TOYOTA แต่เพียงผู้เดียว ทำให้ TOYOTA ปวดหัวกับ maker รายนี้อย่างมากรวมถึงคุณภาพสินค้า ที่ไม่สามารถเอามารับประกันได้ตามคุณภาพการผลิตรถยนต์ ที่ผ่านมาทาง TOYOTA เองก็เสียเงินเดือนนึงมากกว่าหลักล้านบาท รับผิดชอบงาน cliam ให้ลูกค้าชาวไทยไปโดยที่ maker จากอิตาลีไม่สามารถรับประกันให้ได้ดีพอรวมถึงขั้นตอนที่ช้าแบบโคตร ๆ

มาครั้งนี้ TOYOTA เปลี่ยนใหม่ ใช้ชุดแก๊สจาก Made in Japan โดยให้ Maker ที่คุ้นเคยกันดีอย่าง Aisin เป็นผู้ผลิตชุดแก๊สออกมาให้
ซึ่งรับรองเลยว่าคุณภาพและความทนทาน ดีกว่าอิตาลีมากมาย ............เพราะแดนอิตาลี โปแลนด์ ตุรกี บางบริษัทหัวฉีดแก๊สเป็นแค่บริษัทเล็ก ๆ เท่านั้น พนักงานมีไม่กี่คน ความรู้ในเรื่องแก๊สสู้ญี่ปุ่นไม่ได้ เพราะขาดการวิจัยศึกษาที่เอามาค้นคว้าทดลองกับการใช้งานจริง การผลิตจริงควบคู่ไปกับการสร้างรถยนต์ ญี่ปุ่น ที่จบการศึกษาด้านแก๊สไปนานแล้ว............... จนญี่ปุ่นเลิกทำชุดแก๊สแล้วหันมาไฮบริดแทน
แต่ครั้งนี้ TOYOTA ว่าจ้างให้ผลิตชุด OEM PART ใหม่อีกครั้ง
Aisin ผลิตชิ้นส่วนหลายอย่างให้กับ TOYOTA ความทนทานประสิทธิภาพนักเลงรถรู้จักกันดี เช่น
1. Aisin ผลิต Winch ให้โตโยต้า ที่วางลงใน Landcruiser VX80 นักเลงรถถวิลหาวินซ์มือ 2 ตัวนี้ ราคาก็แพงแบบสุดสุดเหมือนกัน ขายกันหลายหมื่นบาทขนาดเป็นมือ 2 น่ะ มือ 1 จับกันไม่ลงทีเดียว
2. Aisin ผลิตเกียร์ออโต 2.7 4wd ให้กับ TOYOTA 2.7 4wd คุณลองก้มลงไปดู ใครใช้ 2.7 4wd ลองไปนอนใต้รถดูชุดเกียร์ 2.7 4wd ตีตรา Aisin ไว้อย่างชัดเจน รับรองได้ถึงประสิทธิภาพและความทนทาน ที่เหนือกว่าเกียร์ธรรมดา 2wd มาก ............
ความทนทานหายห่วงเลยครับ ใช้กันยันรถพัง ยี่ห้อนี้การันตีได้ถ้าตีตรา Aisin อยู่ที่เกียร์จะเหนือกว่าที่ผลิตชิ้นส่วนส่งให้ค่ายรถยนต์รายอื่น ๆ

แต่รุ่นที่เป็น 2.7 2wd AT ผมไม่ทราบนะว่าเขาใช้เกียร์ Aisin หรือเปล่า ผมใช้แต่ 2.7 4wd เลยไม่ทราบไม่เคยก้มดูของรุ่นขับ 2wd เลย


เพราะฉะนั้นใครใช้ Vigo CNG แท้จากโรงงานต้องเป็นอย่างที่ผมบอกคือเอารถเข้าศูนย์ทุกระยะ ไม่ไปดัดแปลงหรือไปทำอะไร หรือลากรถข้าไปซ่อมนอกศุนย์ หรือไปให้อู่ข้างทางดัดแปลงชิ้นส่วนของ Aisin ออกมาเพราะเสียดายแย่กับของดีดี ประสิทธิภาพน่าจะดีกว่าชุดแก๊สอิตาลี ตุรกี โปแลนด์ ที่เอามาโฆษณาบอกคนไทยว่าดีอย่างโน้นอย่างนี้ แต่จริงแล้ว.......?
แต่ต้องทำใจด้วยน่ะว่าทนมากจริง ประสิทธิภาพดีจริง แต่อะไหล่ในศูนย์ต้องแพงมาก

วีโก้ใช้เกียร์Aisinทุกตัว... จาก : keroro(keroro) 13/6/2555 8:05:55 [124.121.136.89] ไม่ใช่ซิ...ต้องบอกว่าtoyotaใช้บริการAisinมานานมากๆแล้ว จาก : keroro(keroro) 13/6/2555 8:07:15 [124.121.136.89]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 275
       Aisin เป็นอีก Maker นึงที่อดีตเคยผลิตหม้อต้มแก๊สอันโด่งดัง คุณภาพความทนทาน

หม้อต้มแก๊ส Aisin ที่คนในวงการแก๊สรุ่นเก่ารู้ดีว่ายอดเยี่ยมขนาดไหน สมัยก่อนใครติดแก๊ส Fimix ต้องใช้หม้อต้มของ Aisin Nikki เพียง 2 ยี่ห้อนี้เท่านั้น ส่วนหม้อต้มอิตาลี เกาหลี ตุรกี มาทีหลังคุณภาพสู้หม้อต้มของญี่ปุ่นไม่ได้เลย ภายหลังรัฐบาลห้ามนำเข้าอุปกรณ์อะไหล่แก๊สเก่าเข้ามาทำให้หม้อต้มของญี่ปุ่น Aisin หายไปจากตลาด
เหตุเพราะว่าราคาหม้อต้มจากญี่ปุ่นของ Aisin ราคามือ 1 เบิกญี่ปุ่น 20,000 กว่าบาท
เทียบกับราคาหม้อต้มของอิตาลี เกาหลี ตุรกี ราคาแพงสุดแค่ไม่เกิน 2000-3000 บาท [ ไม่เกี่ยวกับโดนร้านฟัน ]
ทำให้คนใช้แก๊สสู้ไม่ไหว ต้องหันไปหาหม้อต้มอื่น ๆ แบรนด์อื่นที่คุณภาพด้อยกว่า เรื่องคุณภาพแน่นอนว่า หม้อต้มญี่ปุ่น 20,000 กว่าบาท แพงกว่าหม้อต้มอิตาลี 2000 กว่าบาทแพงกว่ากันนับ 10 เท่าตัว ในโลกนี้ไม่มีของถูกที่ไหนคุณภาพดีกว่าของแพงไปได้ คุณภาพย่อมต่างกันตามราคา อิตาลียังไงก็สู้ญี่ปุ่นไม่ได้เพียงแต่วันนี้ญี่ปุ่นไปไกลเกินกว่าจะมาสนใจเรื่องรถติดแก๊สแล้ว พวกเขามุ่งไปทางรถไฮบริดและรถไฟฟ้ามากกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 276
       http://www.weekendhobby.com/offroad/toyota2700club/Question.asp?ID=2705

พอดีเห็นกระทู้ของคุณ TaKa_vvti นึกขึ้นได้
รถ 2.7 4x4 มีประสิทธิภาพเหนือกว่าในรุ่น 2wd อยู่แล้วแม้จะขับขี่ทางเรียบก็ตาม ช่วงนี้ฝนตกหนักมากในขณะฝนตกหรือขับขึ้นเขาถนนลื่นแบบนี้ให้เปิดใช้ 4wd ไปเลย การขับขี่จะนิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัดถ้าเป็น Vigo ใช้เกียร์ 4H ถ้าเป็น Fortuner 2.7 4x4 ให้ใช้ 4L
ถ้าคนไม่เคยใช้ ให้ลองด้วยความเร็วไม่สูงนักก่อนไม่ต้องหยุดรถให้เข้าเกียร์ได้เลย โดยที่เกียร์ออโตอยู่ตำแหน่ง D ก็ใช้ 4wd ได้
แต่ระวังรัศมีวงเลี้ยวจะกว้างขึ้น อย่ากวัดแกว่งพวงมาลัย ให้ถือพวงมาลัยให้มั่นคง ถ้าจะเลี้ยวในที่แคบหรือกลับรถให้ลดความเร็วลงและปลดเกียร์ 4wd ออกก่อนโดยไม่ต้องหยุดรถ แล้วค่อยเลี้ยวในวงแคบ ถ้าถนนไม่เปียกแล้วหรือถนนเริ่มแห้งให้ปลดเกียร์ 4wd มาตำแหน่งปกติห้ามลืมเด็ดขาด ไม่งั้นวิ่งจนร้อนจัดแรงเสียดทานจะมาก


ตอนนี้ผมเอารถ Altis CNG ของแม่มาใช้ Fortuner เข้าไปเคลมสีที่ศูนย์ TBS กว่าจะได้รถก็อาทิตยหน้า แต่ผมจะไปรับรถได้ก็เสาร์หน้าโน่นเลย เพราะไม่อยากลางานไปอีก ต้องรอวันเสาร์ ยิ่งฝนตกหนักแบบนี้ผมยิ่งคิดถึง Fortuner 2.7 Exclusive ของผมมาก เพราะตอนเปิดใช้ 4wd ขับแล้วมั่นใจกว่ากันมาก รถวิ่งเหินน้ำที่ขังอยู่บนถนนไม่เสียการทรงตัว ตอนเช้าจากที่เคยวิ่งข้ามคลองระบายน้ำปีนข้ามมาเข้าบริษัทตรงข้าม Nissan Motor assembly ทุกวันแต่ตอนนี้ใช้รถเก๋งคนล่ะอารมณ์เลย ทำให้ยิ่งคิดถึง fortuner 2.7 4x4 มากขึ้นไปอีก

http://www.thaitritonclub.com/forum/archive/index.php/t-1655.html
เผื่อใครตามไปดูเรื่องเกียร์ 4x4 ส่วนใหญ่หันมาเลือก 4wd กันหมด
อีกอย่างไม่ต้องกลัวพังถ้าไม่ได้ใช้ เพราะเพื่อนของแฟนผม เป็นผู้หญิงครับเปิดร้านขายยา ตอนนี้ไม่มีเวลาเที่ยวไหนแล้ว แต่ยังใช้ Sport Rider 4x4 เกียร์ 4wd แทบไม่เคยใช้ ยืนยันว่าไม่พังขับดีกว่าเก๋งเล็กๆ มากมายเพราะต้องใช้ไป ตจว. ลุย ๆ ไม่ต้องกลัวพัง ( แต่เค้าไม่ถึงขนาดไปออฟโรดอย่างผม) ตอนฝนตกกับขึ้นเขาต่างกันเยอะ

เผื่อใครจำวิธีใช้ไม่ได้ สำหรับ Hilux 2.7 4x4

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 277
       เมื่อเช้านี้ 13 มิย. 55 คุยกับคนที่ทำงาน ที่เขามี Mitsu Triton 2.4 CNG ใช้งานมา 1 ปี
บัดนี้รถเขาวิ่งเป็นระยะทาง 44,000 กิโลเมตรแล้วนะครับ ถือว่าวิ่งเยอะจริง ๆ ขับรถมาทำงานไปกลับวันล่ะ 60 กิโลเมตร เท่านั้นเองคิดเป็นเดือนนึงไม่น่าเกิน 1800 กิโลเมตร แต่พี่คนนี้หลังจากได้รถคันนี้มาวิ่งเที่ยวหนักมาก หยุดเสาร์อาทิตย์เทศกาล ไปเที่ยวเหนือใต้ออกปาดังเบซาร์ ชีพจรลงล้อจริง ๆ เคยคุยกันล่าสุดแกไปชิมผลไม้ที่ระยอง จันทบุรี ถ้าเป็นผมผมซื้อกินเอาแถวบ้านก็ได้ ขี้เกียจขับรถ แต่พี่คนนี้ขับไปกินเองที่สวนครับ ค่าแก๊สไปกลับระยองหมดไป 200 กว่าบาท คนนี้เมื่อก่อนเขาขับรถ Isuzu D-Max นั่นแหละครับคนเดียวกัน
เทียบกับตอนขับอีผุผุ คนล่ะเรื่องกันเลย คันดีเซลอีผุผุใช้งานมา 4 ปี วิ่งไม่เกิน 1 แสนโล ขี้เกียจวิ่ง เปลืองน้ำมัน รถอืดและเป็นรถขับไม่สนุกด้วย ไม่อยากไปไหน
ขายรถไปเลย ทั้งที่สภาพดีมาก ขายก็ได้ราคาแต่ไม่เอาแล้ว พอเปลี่ยนมาใช้ Mitsu Triton Plus 2.4 CNG 4 doors ยกสูง ใช้งานคนล่ะเรื่องเลยแกมีความสุขมากที่เอารถออกมาใช้งานวิ่งท่องเที่ยวแบบนี้


หลังจากใช้งานรถเยอะมากแบบนี้ แกขึ้นขับรถเป็นประจำแทบไม่ได้หยุด จุดด้อยของรถเป็นอย่างที่ผมบอกจริง ๆ
แกเริ่มคิดแล้ว เพราะใช้งานรถเยอะมาก ขับหนักมาก
- คิดแล้ว อันดับ 1 ตัวเลือกคือต้องเป็นเกียร์ออโต การใช้งานรถมันต้องเป็นแบบนี้ แต่ Mitsu รุ่นนี้เป็นแค่เกียร์ธรรมดา ทำให้แกไม่มีตัวเลือกอื่น
นี่คืออันดับ 1 จริงๆ ในการที่คุณจะเลือกปิคอัพมาใช้งาน เกียร์ธรรมดามันหมดความนิยมไปตามยุคสมัย แม้แต่ในปิคอัพที่รุ่นใหม่ ๆ ออกมา เรือนร่างล้วนใหญ่โตเป็นกระบะ มิดไซท์ตันครึ่งกันทั้งนั้น พี่แกมีความสุขเวลาใช้งานรถแต่การใช้รถแกเห็นแล้วว่ารถปิคอัพมันต้องเลือกเกียร์ออโต ไม่ใช่เกียร์ธรรมดา มันไม่เหมาะกับยุคปัจจุบันอีกแล้ว แกใช้งานรถเยอะมากเริ่มเห็นอะไรแล้ว ทุกอย่างมันมีข้อแตกต่างทั้งนั้น เมื่อก่อนแกขับอีผุผุแกไม่อยากวิ่งไปไหนอยู่แล้ว เวลาใช้คันอีซูซุก็เป็นเกียร์ธรรมดา เลยไม่ค่อยสนใจ แต่ยิ่งใช้เยอะเริ่มเห็นว่าเกียร์ธรรมดาสำหรับปิคอัพไม่น่าเลือกอีกต่อไป

- แกวิ่งเยอะมากอย่างที่บอก หาแต่โปรแกรมใช้รถ มีวันหยุดเมื่อไหร่ พาครอบครัวและตัวเองไปไหนต่อไหน ใช้แก๊สบ้างน้ำมันบ้างแก้ก็บอกยังคุ้มมาก ไม่เดือดร้อน เพราะรถอัตราเร่งดีกว่าดีเซล 2.5 อีซูซุคันเก่ามาก ที่ขับไม่สนุกเลย และเครื่องเบนซินเงียบกว่าดูดีกว่า
แกบอกเสียดายแล้วครับ ที่ไม่เป็น ขับ 4wd 4x4
เห็นไหม ขับเยอะชักเริ่มเห็น ........... รถยุคปัจจุบันยิ่งมีความใหญ่โตทางเรือนร่างของขนาดรถ และการใช้งานที่แกไปไหนต่อไหนเยอะ ๆ แกเริ่มเห็นแล้วว่าต้องเลือกเป็น 4wd ด้วย จึงจะมั่นใจกว่า

- แกเช็คระยะ 40,000 กิโลเมตร ไปที่สุธรมอเตอร์ บางบ่อ เสียค่าบริการไป 5,900 บาท พี่เค้ามองว่าสูงไป แต่เค้าก็บอกว่ามันเปลี่ยนเยอะเหมือนกัน ของเหลวทั้งหมดและกรองอากาศ กรองแก๊ส
ผมบอกว่าของผม Fortuner 2.7 4x4 เสียค่าเช็คระยะตอน 40,000 โลที่ TOYOTA TBS ไป 4,850 บาท ตอนนั้นยังไม่เคยหิ้วน้ำมันเข้าไป ซื้อจากศูนย์ TOYOTA TBS ทุกรายการแต่ไม่รวมค่ากรองแก๊ส มาเปลี่ยนเองข้างนอก รถ TOYOTA 2.7 4x4 เช็คระยะถูกกว่า Mitsu เกียร์ธรรมดา ขับ 2 wd แสดงว่า Mitsu เองก็ยังแพงกว่า TOYOTA เล็กน้อย อีกทั้ง 4x4 ก็ไม่ได้แพงกว่า 4x2 แกก็ชักเสียดายอย่างที่เห็น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 278
       การดูแลรถ

ตอนผมเข้าไปทุ่งใหญ่ครั้งนี้ ติดสติกเกอร์ป้องกันโคลนและรอยไว้ด้วย เพื่อให้ตอนกลับมาทำความสะอาดง่ายและไม่ต้องห่วงเรื่องริ้วรอยของรถ
ดูตอนลอกออกก็แล้วกัน ลอกไม่ยากเพราะติดแค่ 3- 4 วัน ก็ลอกออกแล้ว ไม่ต้องกลัวเรื่องกาวมาติดรถ
ล้างฉีดน้ำพอประมาณ หลังจากนั้นก็ลอกออก สภาพรถเทียบกันแล้วสดใสใหม่ปิ๊ง จากนั้นทำการขัดเคลือบสีรถใหม่อีกครั้ง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 279
       การดูแลรถก่อนเข้าป่า

ติดสติกเกอร์ทั้งคันนะครับ ไม่เว้นแม้กระทั่งกระจกมองข้าง
สาเหตุเพราะกระจกมองข้างซื้อมาแพงครับ .................ก็เลยปกป้องไว้ก่อนเวลาเข้าป่าก็พับกระจกไว้ กระจกมองข้างผมซื้อมาติดเพิ่ม เป็นอ๊อพชั่นของ Hilux Vigo ตัวส่งนอก ที่ส่งไปยุโรป สหราชอาณาจักร แถบ UK อังกฤษ จะมีตัวละลายฟ้าความร้อนที่กระจกด้วย ใช้งานได้จริง มีไม่กี่คันในเมืองไทย

ก่อนติดและหลังติด ริ้วรอยไม่มีเลยปกป้องได้ดีเยี่ยม

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 280
       การดูแลรถหลังออกมาจากป่า


มาที่ร้านที่ทำเรื่องออฟโรด ให้จัดการล้างเบรคเช็คช่วงล่าง
เบรคต้องล้างใหม่หมด ไม่งั้นเบรคพัง ต้องล้างโคลนปรับตั้งเบรคใหม่ ออกมาใสปิ๊งอีกเช่นกัน พอดีผ้าเบรคหมดด้วยทั้ง 4 ล้อจัดการเปลี่ยนของแท้ที่ซื้อเตรียมไว้นานแล้วใส่เข้าไป ได้ทุกอย่างเหมือนของใหม่
เปลี่ยนน้ำมันเฟืองท้าย เฟืองหน้า ผมซื้อเอามาเผื่อน้ำเข้า เฟืองท้ายแต่ไม่เข้าครับ เพราะรถผมเอาไปลุยน้ำ ไม่ได้เอาไปวิ่งแช่น้ำ
ส่วนช่วงล่างเช็คดูแล้วไม่มีปัญหา กลับไปให้ศูนย์ TOYOTA เช็คอีกรอบก็บอกปกติ


รถอยู่ที่เจ้าของครับว่าจะดีไม่ดี ไม่ได้เกี่ยวกับการใช้งาน มันขึ้นกับเจ้าของเป็นหลักว่าดูแลรถยังไงมากกว่า
ในคลับที่ผมเห็นอยู่ 2 รายที่ดูแลรถได้มากกว่าผม คือ J_cha และ Pop up 2 ท่านนี้ที่ดูแลรถได้ยอดเยี่ยมมาก ไม่แพ้รถใหม่เลย ช่วงล่างและสีรถสะอาดหมดจด ไม่มีริ้วรอย รถพร้อมใช้งานเสมอซ่อมถึงทุกจุด
ผมเห็นมาหลายคนบอกไม่กล้าเอารถไปลุยออฟโรด บอกว่ากลัวช่วงล่างพัง กลัวรถพัง แต่ของจริงที่ผมเห็นรถสภาพ..........? ขาดการดูแลทั้งสีรถ ช่วงล่างแม้จะขับในเมืองอย่างเดียวไม่ค่อยออก ตจว. ช่วงล่างก็พัง สีรถก็ดูไม่ได้เลย สีเดิมก็จริงแต่พังไปแล้วจะมีความหมายอะไร
เพราะฉะนั้นสภาพรถยนต์จะดีมันขึ้นกับเจ้าของรถ.....................ผมจึงมองว่าไม่เกี่ยวกับอย่างอื่น ดูสภาพการดูแลรถผมแล้วลองพิจารณากันเอง ว่าจะดูแลรถให้มันดีหรือไม่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 281
       น้องชายผมบวช เลยไปเอารถน้องชายมาขับแล้วครับ เอา Hilux 2.7 4wd มาใช้ก่อนตอนนี้ไม่มีคนใช้รถเราเลยจัดการ เอามาใช้เลย
คืน Altis CNG ให้แม่ไปแล้ว สุดท้ายสัญชาตญาณหรือนิสัยเดิมคนเรา ก็ต้องกลับไปขับรถฟิลลิ่งเดิม ๆ อีก ให้ไปขับ Altis ปรับตัวยากพอกลับมาขับบ Hilux 2.7 4wd อารมณมันกลับมาเลย แต่จะแข็งหน่อยตามสไตล์ปิคอัพ แคป แลกกลับอารมณ์เดิมที่คุ้นเคย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 282
       ความรู้จากคุณกัน เรื่องข้อบกพร่องของหม้อต้ม Magi III ที่ยังพบอยู่

http://www.weekendhobby.com/offroad/toyota2700club/question.asp?id=2723&page=1

ปัยหาหม้อต้ม Magic III รุ่นนี้ยังพบเจออาการรั่วอยู่ ตามที่นายกันได้แจ้งไว้ ระยะทาง 80,000 โล
ต่อไปอาจไม่ให้ใครไปเปลี่ยนรุ่นนี้แล้วมั้ง อาจให้เป็นหม้อต้มของ Tomasetto แบบเดิมกันดีกว่า

ส่วนระยะใช้งานไม่ว่าแบบใดก็ตาม ให้เปลี่ยนหม้อต้มและหัวฉีดแก๊สแบบทั่วไป (ยกเว้น Kehin) ที่ระยะ 1 แสนกว่าโล ปลอดภัยกว่าอย่าฝืนใช้ชุดแก๊สต่อแม้ร้านจะบอกว่าใช้ได้ ก็ตาม ผมว่ามันเสี่ยงเหมือนกัน ถ้าไม่เปลี่ยน

เท่าที่ผมใช้มา เปลี่ยนหม้อต้ม ทุกๆ 80,000-120,000 กม. ถ้าผ้าไม่รั่ว ท่อน้ำก็รั่ว ไม่ก็ประเก็นรั่ว จาก : Oui(apilucky) 18/6/2555 11:05:05 [183.88.26.36] ใช้รุ่นนี้อยู่ วิ่งแสนโลแล้วด้วย ต้องเช็คแล้ว จาก : taka_vvti(taka_vvti) 18/6/2555 23:16:06 [124.121.160.133]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 283
      
ความต่างของรถ 2.7 (เกียร์ AT ทุกคัน )

1. เปรียบเทียบรถ 2.7 Cab 4WD VS CAB 2WD เกียร์ AT ทุกคัน เหมือนกับที่คุณ Taka_vvti บอกไว้คือรถ Cab 2wd เอามาใส่ยาง BF 31 AT ยกสูง 4 นิ้ว เวลาวิ่งจะเห็นชัดเจนว่าหลังจากเค้นกำลังมาหนัก ๆ แล้วมันสู้รุ่น 4wd ไม่ได้ที่ความสูงเท่ากัน ยาง BF AT เหมือนกัน กำลังในการใช้งานรุ่น 4wd ดีกว่ากินเชื้อเพลิงเท่ากัน

2. รถ Fortuner 2.7 4wd VS 2WD ถ้าปลดล็อคกล่อง ECU ได้ให้ความเร็วปลายเท่ากัน รุ่น 4wd ให้อะไรที่มากกว่า กำลังต่างกันช่วงใช้งานหนักเหมือนกัน ไวริ่งสายไฟต่างกัน

3. Fortuner 2.7 VS New Prado 2.7 กำลังต่างกันแบกน้ำหนักมากกว่ากันแต่ New prado วิ่งดีกว่า ช่วงแซงขึ้นเขามันวิ่งดีกว่าชัดเจน กินน้ำมันเท่ากัน


ผมก็บอกรายละเอียดไม่ได้ทั้งหมดว่ามันเพราะอะไร เรื่องแบบนี้ลึกซึ้งเกินตัว แต่รู้ว่ามันวิ่งดีกว่า เครื่องยนต์เหมือนกันแต่ทุกอย่างในโลกนี้ล้วนมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 284
       -Hilux Cab 2wd VS 4wd โครงสร้างแชสซีย์ต่างกัน ความแข็งแรงต่างกัน ไวริ่งสายต่างกัน ชุดเกียร์ต่างกัน
-Hilux cab VS Double cab แชสซีย์สั้นยาวไม่เท่ากัน ประตูรถยาวไม่เท่ากัน แหนบเซทออกมาต่างกัน นุ่มกว่ากัน
- Hilux ติดแก๊ส CNG จากโรงงาน กับ Hilux 2.7 cng จากข้างนอก แชสซีย์ต่างกันที่จุดรองรับ กล่อง ECU ต่างกันในการสั่งงาน ชุดแก๊ส Aisin คุณภาพดีกว่าของ อิตาลี
-Foruner 2WD VS 4WD แชสซีย์จุดรองรับต่างกัน รุ่น 4wd แข็งแรงทนทาน ปลอดภัยต่อช่วงล่างมากกว่าในระบบรองรับ ไวริ่งสายไฟต่างกัน -กล่อง ECU สั่งการทำงานต่างกันระหว่าง 2wd VS 4wd fulltime
- Fortuner 2.7 4wd VS New Prado 2.7 กล่อง ECU สั่งต่างกัน ลิ้นปีกผีเสื้อต่างกัน ไวริ่งต่างกัน กล่องเก็บดักอากาศต่างกัน แรงบิดและแรงม้าต่างกัน Prado กำลังมากกว่า แต่กินน้ำมันเท่ากัน

-Hilux 2.7 4wd VS Fortuner 2.7 4wd ไวริ่งสายไฟต่างกัน กล่อง ECU ต่างกัน มูลเล่ย์หน้าเครื่องขับเพลาข้อเหวี่ยงต่างกัน เฟืองท้ายต่างกันลิมิเต็ดสลิป ใน Hilux กับ Limited torsen ที่เพลากลาง Fortuner 4wd



เรื่องนี้ผมเคยเจอปัญหาด้วยตัวเองตอนเอารถ Hilux 2.7 cab 4wd ไปติดแก๊สและวางถังแก๊สที่ระยอง ร้านติดแก๊สร้านนั้นทักษะในการจูนแก๊สไม่มีเอาเลย หรืออาจเป็นเพราะว่าเขาเคยทำแบบนี้กับรถคัน Hilux 2.7 2wd หรือ Fortuner 2wd คันอื่น ๆ ได้ ไม่มีปัญหา แต่เขาจะมาทำรุ่น 4wd บ้างทำไม่ได้เพราะประสบการณ์ไม่มีเอาเลย ร้านติดแก๊สหลัง ๆ ก็จะเจอแต่ Hilux 2.7 2wd เพราะรุ่น 4wd ไม่มีทำออกมาแล้ว ทำให้ทักษะช่างจูนมันน้อย กล่อง ECU ต่างกันใช้งานต่างกัน เวลาจูนเขาทำได้เพียงแค่หลอกให้จูนหนา ๆ แต่ที่จริงมันเอามา วิ่งไม่ได้ สำหรับการใช้งานหนัก เพราะกินแก๊สอย่างเดียว ผมไปแก้งานจูนใหม่กับอาจารย์รุ่ง ที่บางคล้าจึงหาย
มูลเล่ย์หน้าเครื่องคุณ ble ble ก็เคยเจอมาแล้วกับ Hilux ว่ามันไม่เหมือนกับ Fortuner
ไวริ่งสายไฟชุดแก๊สในการดึงสัญญาณออกมา ช่างติดแก๊สบอกผมเองว่าระหว่าง 2wd 4wd มันไม่เหมือนกันจริง ๆ ส่งผลถึงสัญญาณต่าง ๆ เอาตัวนี้ไปใช้กับวิธีของอิกรุ่นไม่ได้ทั้งหมด


ถ้าให้ผมซื้อปิคอัพเพิ่มในเวลานี้อีกเพื่อใช้งาน ตัวเลือกแรกผมก็จะซื้อ Hilux 2.7 cab 4wd เกียร์ AT อีก
เพราะรถวิ่งใช้งานดีกว่ากัน กำลังได้ smooth กว่าในการใช้งานที่หนักขึ้นหรือเพื่อบรรทุกของ แม้เราจะวิ่งแค่ทางเรียบก็ตาม แต่ยามบรรทุกของวิ่งขึ้นเขา จะต่างกันเห็นได้ชัดระหว่างตัว 2wd 4wd

เห็นด้วย แต่ 2wd มันก็ไม่ได้เลวร้ายเหมือนฟ้ากับเหว เพียงแต่ว่ามันมีที่ดีกว่า จาก : Aod SRT(Aod SRT) 19/6/2555 15:11:11 [202.12.73.205] ใช่แล้วครับ จาก : Auto.(Auto.) 19/6/2555 19:33:23 [202.80.239.130]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 285
       เป็น ดีเซลคอมมอนเรล
Nissan Navara Callibre ยกสูงเหมือนกัน ยาง 245/70 R16 จะประมาณ 140 กว่าแรงม้า
Nissan Navara 4x4 ยกสูงเหมือนกันยางเท่ากัน แต่ 171 แรงม้า 4x4 กำลังเหลือ และวิ่งดีกว่า อัตราเร่งดีกว่า กินน้ำมันมากกว่ากันเพียงเล็กน้อย

กล่อง ECU เขียนโปรแกรมมาต่างกัน สั่งงานต่างกัน เทอรโบบูสต์ต่างกัน แต่ผมว่ารายละเอียดปลีกย่อยน่าจะมีต่างกันไปด้วยไม่งั้นไม่ต่างกันแบบนี้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 286
       เรียนถามคุณAuto Fortunerดีเซล3.0 4*4Full time ถ้าไม่นับเรื่องความแตกต่างของเครื่องยนต์ระหว่างเบ็นซิลกับดีเซลแล้วส่วนรวมอย่างอื่นๆ
ของตัวดีเซลมันมีประสิทธภาพพอกับตัว2.7vvtiหรือเปล่าครับ เพราะตอนนี้รถใหม่มันไม่มีตัว2.7vvti 4*4Full time ขายแล้ว ส่วนตัวดีเซล4*4Full time ยังมีรถใหม่ให้เลือกซื้อได้


ตอบ................ ประสิทธิภาพดีเซลในรุ่นดีกว่าครับ ถ้าไม่นับเครื่องยนต์ จะดีกว่าทั้งเรื่องเบรคเป็นรุ่น 320 mm. มีระบบ VSC TRC มาให้ และมีรุ่น TRD มาให้คนนิยมสูง เพราะสวย
หรือต่อให้นับเรื่องเครื่องยนต์ก็แรงกว่า ประหยัดน้ำมันมากกว่า พวกนี้นับเฉพาะข้อดีนะครับ
By Auto
แต่หลายคนก็ยอมจะซื้อรุ่นต่ำกว่า เช่น Pajero sport 2.4 2wd fORTUNER 2.7 2wd เพราะเหตุผลเอามาติดแก๊สเหลือโลล่ะ 1 บาทกว่า ประหยัดกว่าใช้งานได้เยอะกว่า
ถ้าจะซื้อก็ลองชั่งใจหลาย ๆ ด้าน กับรถไม่ว่ารุ่นไหนก็ตาม จะทำให้เราใช้งานได้คุ้มค่าเกิดประโยชน์สูงสุด และปลอดภัยที่สุด
ถ้าประหยัดแล้วไม่ปลอดภัย ก็ไม่ควรเพราะจะเสียน้อยเสียยาก บางเรื่องเงินซื้อไม่ได้ แต่ถ้าสิ้นเปลืองเกินไปก็อาจไม่ได้ใช้รถ กลายเป็นว่าซื้อมาแล้วไม่มีความสุข

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 287
       vigo cng จากโรงงาน toyota เป็นของ japan หรือ italy กันแน่ครับ

ผมไปดูที่ศูนย์ วาล์วลดแรงดัน พิมพ์ว่า made in italy ครับ vigo cng จากโรงงาน

ชุดสายไฟแก๊ส รวมเข้ากับชุดสายไฟหลักเลยครับ

ตอบ................ ลองสังเกตุตรงหัวฉีดกับหม้อต้มดูอีกทีซิครับ ว่าเป็นอะไร ตรงนี้คนทำงานส่วน Market claim โตต้าสำนักงานใหญ่แจ้งมา ส่วนวาล์ว กันกลับ กับถังแก๊ส ชิ้นส่วนย่อยอื่น ๆ ญี่ปุ่นอาจไม่ได้ผลิต
By Auto

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 288
       จาก Trex และท่านอื่น ๆ ถ้าคิดซื้อ Fortuner


มีเวลาอยากให้ทำตามที่ผมเคยบอกไว้ อยากให้ไปทดลองขับรถแต่ละรุ่นดู
Fortuner 2.7 2wd
Fortuner 2.7 4wd
Fortuner 3.0 4wd
ไปที่ภาคเหนือเชียงใหม่นั่นแหละ ติดต่อเจ้าของกิจการรถเช่า สมาชิกของเราที่มีรถทุกแบบ TOP 081-8816199 ขอเช่ารถขับเปรียบเทียบกัน ให้เวลาดูใจกันและกันของรถแต่ละรุ่นเพื่อพิจารณาอย่างละเอียด ไม่ต้องเชื่อคำพูดผมทั้งหมดเพราะถึงแม้ผมจะบรรยายยังไง มันไม่เท่าสัมผัสขับของจริง ลองดูว่ารุ่นไหนเหมาะกับเรา ขอให้เราใช้เวลาอยู่กับรถมันให้เพียงพอ การที่เราจะซื้อรถซักคันนึงเงินมันก็มาก ตั้งแต่ 8 แสน - 1.5 ล้านบาท แต่เราไม่ได้ให้เวลากับมันเลยเอาแต่เวลาไปขบคิดเพียงอย่างเดียวมันเสียโอกาสไป ควรไปสัมผัสของจริงให้มากให้คุ้มค่า เราจะพบคำตอบแท้จริงได้ รถคันนึงมีราคามากต้องอยู่กับเรานาน ควรสัมผัสของจริงให้นานที่สุดด้วยดูใจกันและกันก่อนแต่งงานให้ดี


1. คุณเลือก Fortuner 2.7 2wd อาจคิดว่าได้ตัวเลือกแบบนี้เหมาะสมแล้ว ตัวเราคิดว่ารถระดับนี้เพียงพอกับการใช้งาน จำเป็นต้องเลือกรถใหม่ป้ายแดง ก็ไม่เป็นไร เลือกได้เลย
แต่ถ้าเห็นว่ารถระดับราคา 1.2 ล้านบาท จ่ายเงินไปได้เหมือนขับกะบะ ไม่มีลูกเล่นอะไรให้เลย ฝนตกแดดออก ขับขึ้นเขา ลงเขา ก็ขับได้แบบเดียว ปุ่มกดควบคุมช่วงล่างไม่มีเลย ไม่เคยมีอะไรให้เล่นเลย คิดว่าจ่ายเงินไปไม่สมราคาที่จะซื้อ ก็ตัดใจไปอย่าไปเล่นเลยดีกว่า

2. Fortuner 2.7 4wd ก็มีลูกเล่นขึ้นมามากกว่า ได้ฟิลลิ่งที่ดีขึ้น ขับสนุกขึ้น ขับขึ้นเขาลงเขาดีกว่ากันยังไง ลองออฟโรดแบบเล็ก ๆ สนุกไหม ติดแก๊สได้ ความประหยัดเท่ากับ Fortuner 2wd ติดแก๊ส คือ กิโลเมตรล่ะ 1.8-1.9 บาท เท่ากัน แต่ว่ารถใหม่ไม่มีขายอยากได้ต้องมือ 2 เพียงอย่างเดียว

3. Fortuner 4wd ลูกเล่นก็จะมากขึ้น มีปุ่มกด VSC TRC ให้ลองเล่นเพื่อควบคุมช่วงล่าง อยากมันส์เมื่อไหร่ก็กดเล่นได้ ได้จานเบรคใหญ่ขึ้น มีกล่องแต่งเยอะ แต่ต้องแลกกับค่าน้ำมันโลล่ะ 3 บาท กินน้ำมัน 11-12 กิโลเมตร / ลิตร

ซื้อรถก็ลองชั่งใจดูให้ดีครับ ให้เวลาศึกษากันและกันให้มาก ด้วยการลองขับนาน ๆ ไปเช่ารถขับกันเป็นวันวัน เพื่อพิจารณาข้อสรุป รถคันนึงเป็น ล้านบาท ควรศึกษานิสัยใจคอกันให้ละเอียด

ขอคุณครับ คุณAutoที่ให้ความกระจ่างครับ ถ้าค่าน้ำมันไม่ใช่ปัญหาก็จัดตัวดีเซล4*4fulltimeก็น่าจะOK จาก : tr_8523(tr_8523) 20/6/2555 21:01:15 [58.9.139.168]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 289
       รถขับ 4wd ระบบ 4x4 ขับแล้วปลอดภัยกว่าระบบ 4x2 จริงไหม
ตอบ .... ไม่จริงเสมอไป ไม่อย่างนั้นรถทุกคันต้องเป็น 4wd กันหมดแล้วซิ แต่ต้องเทียบในรถรุ่นเดียวกันเซกเม้นเดียวกัน
เครดิตบทความของ อ. Von แห่ง Pajero
ในระบบ 4x4 แบบ part time แรงกระทำทั้ง 4ล้อจะเท่ากัน แต่แรงยึดเกาะของหน้ายางจะไม่เท่ากัน ใช่ครับผมพิมพ์ไม่ผิดหรอก แรงกระทำเท่ากันแต่การยึดเกาะไม่เท่ากัน เพราะน้ำหนักกดหน้ายางมันเท่ากันที่ไหน ล้อซ้ายกับขวาถ้ามันไปปีนกรวดขอบทางก็ยึดเกาะไม่เท่ากันแล้ว ดังนั้นมันจะพยายามปั่นฟรีทิ้งออกไป แต่เพลาขับมันดิ้นไม่ออกจาก windup effect ของเพลากลางที่แบ่งแรง 50-50 มันเลยไปตะกุยที่อีกสามล้อแทนทำให้รถเซบ้างแต่ก็ยังวิ่งต่อไปได้
แต่ full time 4x4 แรงกระทำทั้งสี่ล้อจะไม่เท่ากันถ้าเกิดกรณีดังกล่าวเพราะ center differential มันจะฟรีตัวเพลาขับข้างที่ลื่นไปส่งให้ข้างที่ฝืดแทน ทำให้การเซน้อยลง คุมได้ง่ายขึ้น บ้างครั้งฟรีตัวหน้าหลังได้ถึง 20-80 ก็ยังได้
รถสปอร์ทแรงๆก็เป็นระบบ 4x4ทั้งนั้นเพื่อลดขนาดของยางให้ใช้หน้าที่เล็กลงได้ และการเอาม้าลงถนนเป็นร้อยตัวถ้าหารม้าเป็นสี่ขาแทนที่เป็นสองขา ยางก็ยังรับมือไหวไม่ควันโขมงฟรีล้อดังไปทั้งถนน รถ full time 4x4 ไม่จำเป็นต้องเป็น off road เสมอไปครับ Evoในตัวlancerd ก็เป็น 4x4 กาแลนซ์ VR4 ก็เป็น 4x4 Porche ก็มีรุ่น 4x4 ฯลฯ แท็กซี่ Limo อาจจะเป็นสักวันถ้ามีใครบ้าไปเอาช่วงล่างของ Cilica มาใส่







เพราะงั้นถ้ารักอยากซื้อรถประเภทนี้ หมายถึง SUV รถเอนกประสงค์ ก็ควรจะซื้อเป็น 4wd หรือพวกปิคอัพยกสูงก็ควรเป็น 4wd เพราะนั่นหมายถึงการควบคุมรถที่ง่ายขึ้น กระชับขึ้น ในรถที่มีความสูงระดับเดียวกัน ชนิดเดียวกัน จะลดอาการปัดลงไปได้ แต่ต้องเข้าใจว่าถ้าใช้ 4wd ที่ส่งกำลังไป 50:50 วงเลี้ยวจะกว้างขึ้น ถ้าเป็น fulltime ก็ใช้งานปกติไม่ได้น่ากลัวแต่อย่างใด
วิธีการใช้งานให้เกิดประโยชน์และปลอดภัยควรฝึกฝนอย่างถูกต้องจากโรงเรียนสอนขับรถที่จัดขึ้นโดยบริษัทรถยนต์เช่น Toyota ร่วมมือกับนิตยสารออฟโรด จัด Training เรื่องเหล่านี้ทุกปี เดี๋ยวจะหาว่ามีแล้วไม่ควรใช้ตอนฝนตกจะเกิดอันตราย เหมือนที่ FW กันตามเวปต่าง ๆ อุปกรณ์มีเยอะขึ้น ก็ต้องฝึการใช้ให้มันมากขึ้นเพิ่มพูนความรู้ความชำนาญทั้งนั้น เด๊ยวนี้รถมันออกแบบให้ใช้งานง่าย ซ่อมบำรุงง่าย ทนทานขึ้น ตัดการซ่อมโดยอู่นอกออกไป ให้มากที่สุด ความรู้ในอดีตบางเรื่องก็เป็นเรื่องที่เก่าไปมาก ไม่สอดคล้องกับการใช้งานปัจจุบันที่เทคโนโนโลยีไปไกลกว่าเดิม
ส่วนใหญ่คนไม่ซื้อรถ 4x4 แต่ซื้อกะบะยกสูงแทน หรือซื้อ Fortuner 2wd แทน ด้วยความเชื่อที่ว่า ค่าซ่อมบำรุงแพง มีแล้วไม่ได้ใช้ ทั้งที่บริษัทรถยนต์ทุกบริษัทพยายามลดจุดอ่อนเรื่องนี้ให้มีค่าบำรุงรักษาต่างกันเล็กน้อยมาก การใช้งานให้สะดวกกับชีวิตประจำวันได้มากขึ้นเพราะทุกบริษัทเขาก้รู้ว่าคนเราไม่ได้ไปขี่ออฟโรดกันทุกวี่ทุกวันใช้ชีวิตในป่าทางทุรกันดารเหมือนในอดีตที่ต้องสร้างรถคานแข็ง Hilux LN 106 กลับมาอีก จึงต้องทำรถปีกนกที่มีความทนทานกว่าเดิม ช่วงล่างเกาะถนนขึ้น ฐานล้อใหญ่กว้างขึ้นเพื่อรองรับกับชีวิตยุคปัจจุบันให้ลงตัว ทั้งการใช้งานในเมืองนอกเมือง และใช้ในกิจจกรรมวันหยุด ไม่งั้นเค้าจะเรียกว่ารถเอนกประสงค์เพื่ออะไร
เรื่องกินน้ำมันอีก 1 ความเชื่อที่ FW บอกต่อกันมาผิด ๆ ว่ารถจะกินน้ำมันมากขึ้น ให้เลือกรถ 2wd ดีกว่า คำตอบถูก....ต้องแต่ไม่ทั้งหมดคือพูดไม่หมด ถ้าจะเปรียบด้วยเงื่อนไขจะต้องเป็นรถแบบเดียวกัน สูงเท่ากัน ยางใหญ่เท่ากัน ของจริง Hilux 3.0 AT กินน้ำมัน 12 km/l เทียบ Hilux Prerunner 3.0 กินน้ำมัน 12-13 km/l ค่าน้ำมันดีเซลลิตรล่ะ 30 บาท ประหยัดไม่ถึง 20 สตางค์ต่อกิโลเมตร วิ่ง 1 แสนกิโลเมตร ยังประหยัดได้ไม่ถึง 20,000 บาท ด้วยและเมื่อไหร่จะวิ่งถึง 1 แสนกิโลเมตร ต้องใช้เวลาอีกกี่ปี ถ้าเป็นรุ่นตัวเตี้ย 2wd 2.5 ไม่มี VG Turbo เอาประหยัด 14-16 km/l นั่นน่าจะต่างกันจริงค่อยน่าเอามาคิดหน่อย เพราะฉะนั้นการเลือกรถไม่ควรเอาเรื่องดังกล่าวมาเกี่ยวข้อง มากเกินไปนัก
คนที่ไม่ต้องการ 4wd เช่นกลุ่มคนเล่น Innova ต้องการรถ 7 ที่นั่งในครอบครัว ขึ้นได้ทุกดอยที่เป็นทางเรียบ รถเบนซิน 2000 ซ๊ซี กินน้ำมันใกล้เคียงกับ Fortuner เบนซิน 2700 cc ติดแก๊สแล้ว Innova กิน 7.7 km/l Fortuner กิน 7.0 km/l ค่าแก๊ส 12.80 สิ้นเปลืองต่างกันตรงไหน ค่าใช้จ่ายแทบจะเท่ากัน ไม่อยากคิดว่าต่างด้วยซ้ำแต่สมการของคนเลือก Innova ดูการใช้งานในครอบครัวเป็นหลัก 7 ที่นั่ง รู้ทั้งรู้ว่ารถกินเชื้อเพลิงแทบจะเท่ากัน แต่เขาก็ไม่เลือก Fortuner เพราะพวกเขาไม่ต้องการรถ 4wd และคิดว่าไม่ใช้มันแน่นอน จะเลือกรถสูงใหญ่ไปทำไม เพราะเขาใช้วิ่งรับส่งลูกไป รร. กับเที่ยวในครอบครัวตามโอกาส
แต่กลับกันคนเลือก Fortuner กับปิคอัพยกสูง มาพิจารณารถ 2wd มันใช่สมการความประหยัดที่แท้จริงหรือไม่
ลูกน้องผมที่ทำงานและคนใกล้ชิดซื้อรถ Prerunner Hilander 4 ปีวิ่งยังไม่มีใครเกิน 40,000 โล บางคนซื้อรถมา 3 ปี วิ่งไป 18,000 โล แล้วความประหยัดมันอยู่ตรงไหน พยายามจะซื้อรถเพื่อประหยัดน้ำมัน เอาเข้าจริงแทบไม่กล้าใช้ แต่คิดไปตอนแรกแล้วอยากประหยัดด้วยการซื้อ 2wd แต่กลับไปซื้อรถยกสูง จากนั้นก็ไม่ค่อยได้ไปไหน รถก็บ่นกินน้ำมัน ทั้งที่เชื่อคนอื่นเอา 2wd จะได้ประหยัดค่าน้ำมัน อืม น่าคิดไหมบางคนอ่าน FW mail กันไม่เข้าใจคิดไปเลยว่า ปิคอัพ Part time ขับ 4H จะอันตราย บริษัทรถยนต์เขาก็รู้จึงทำการเปลี่ยนอัตราทดกันใหม่ใช้งานง่ายขึ้นให้เหมาะกับปี 2000 ไม่ใช่ 4wd แบบรุ่นเก่า ๆ ที่เน้นใช้งานเฉพาะทางทุรกันดารเพียงอย่างเดียว แต่ให้วิ่งในเมืองได้ด้วย ข้างประตูรถ Mitsu Triton 4x4 ก็บอกวิธีใช้งานตอนถนนลื่นไว้ชัดเจนยังไม่เชื่อบริษัทรถยนต์แต่ไปเชื่อ FW mail

ราชันแบบ Land Cuiser มันเกิดมาเป็น 4wd Full time ไม่เคยลดตัวลงไปต่ำกว่านี้โดยยอมวิ่ง 2H เสียด้วยซิครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 290
       ในบรรดารถปิคอัพ ถ้าจะให้ประหยัดน้ำมัน ต้องเลือกซื้อรุ่น 2.5 ดีเซลคอมมอนเรล ไม่มีเทอร์โบแปรผัน ตัวธรรมดา ล้อ 15 ยางเล็กหน้าแคบ ตัวเตี้ย ๆ ถ้าแบบนี้จะได้ความประหยัด 14-16 km/l รถอย่าง Isuzu Toyota ทำได้ทั้งนั้น น้ำมันลิตรล่ะ 30 บาท ค่าใช้จ่ายอยู่ประมาณ 2 บาท ต้น ๆ ต่อกิโลเมตร กับการใช้งานจริง ในชีวิตประจำวัน
แต่ถ้าไปเลือกรถปิคอัพยกสูง ล้อ 16 17 ไม่ว่าเครื่อง 2.2 2.5 หรือ 3.0 จะให้ประหยัดเหมือนรุ่น 2wd ตัวเตี้ย ล้อ 15 คงไม่มีทางเป็นไปได้สำหรับการใช้งานจริง จะได้อยุ่ราว 10.5-13 km/l การกินน้ำมันจะต่างกันเล็กน้อย จะไปเลือกซื้อเอาปิคอัพรุ่นยกสูงรุ่น แต่เอาแค่ขับ 2wd ก็ไม่ได้ช่วยความประหยัดซักเท่าไหร่เพื่อให้เห็นผลต่างกัน ดังที่คำณวนไว้ด้านต้น หรือขับ Fortuner แต่เลือกรุ่น 2wd ความประหยัดก็แทบไม่เห็นผลต่างเลย รถคันใหญ่คันเบ้อเริ่มเทิ่ม เครื่องใหญ่ก็ประมาณนั้น ลำพังตัดแค่ระบบ 4wd มองไม่เห็นความประหยัดอะไรหรอกกับการใช้งานจริง เลือกไปก็ไม่คุ้ม ถ้าอยากประหยัดก็ต้องหาขนาดรถที่เล็กกว่า เครื่องเล็กกว่า เป็นรถอีกแบบนึงไปเลย ขนาดรถ Innova เครื่องเบนซิน 2.0 ยังกินน้ำมันใกล้เคียงกับ Foruner 2.7 ถ้าไม่ลดขนาดของรถกับเครื่องยนต์ลงไปไม่มีทางได้ความประหยัดขึ้นมาจากการพิจารณาตัวเลือกแบบนี้แน่นอน ไม่งั้นผมจะบอกได้หรือว่า รถ 2.7 กินเชื้อเพลิงแทบจะใกล้เคียงกันหมดทุกรุ่น มองไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง เหมือนที่ใครหลายคนพยายามจะเลือกปิคอัพ 2.7 เกียร์ธรรมดาขับ 2wd เพื่ออยากประหยัด แต่กลายเป็นว่ารถกินเชื้อเพลิงเท่าเกียร์ออโต 4wd ในขณะขับด้วยแก๊สลิตรล่ะ 12.80 ถ้าเข้าใจธรรมชาติของเครื่องเบนซินและดีเซล ไปถามใครตอบปัญหาด้านยานยนต์รถดีเซลคอมมอนเรลทุกสำนักเปรียบเทียบกันในรถรุ่นเดียวกัน เซกเม้นเดียวกันไม่มีใครยกให้ใครกินขาดหรอก ส่วนใหญ่ก็บอกใกล้เคียงกันทั้งนั้น เพราะการคำณวนด้านต้น มันไม่เห้นความแตกต่างจนต้องเอามาขบคิดให้ปวดหัวเปล่า ๆ วิ่งไปที่ 100,000 กิโลเมตรในเวลา 5 ปี ประหยัดเงินยังไม่ถึง 20,000 ด้วยซ้ำ เฉลี่ยปีล่ะแค่ 4-5 พันบาท

Vigo D4D อายุ3ปีวิ่งต่างจังหวัด 2.5 J เดิมๆ รถใช้งานจริงๆใช้เกือบทุกวัน 12 +- 1ครับหรือ 2.5:1 บาท จาก : nikorn1212(nikorn1212) 26/6/2555 1:14:28 [101.108.44.156] รถไม่ทุกหนักบรรทุกคน 2-3คนกับกระเป๋าเครื่องมือไม่เกิน 200 โล จาก : nikorn1212(nikorn1212) 26/6/2555 1:17:02 [101.108.44.156] ลองถาม 4 คัน เหมือนๆกัน จาก : nikorn1212(nikorn1212) 26/6/2555 1:18:35 [101.108.44.156] การบำรุงรักษารถ เข้าศูนย์ตลอดเพราะรถบริษัท จาก : nikorn1212(nikorn1212) 26/6/2555 1:20:45 [101.108.44.156] คนใช้หลายมือไม่ถนอมแต่ไม่ขับเพื่อพังรถ จาก : nikorn1212(nikorn1212) 26/6/2555 1:21:44 [101.108.44.156] ชัดเจนครับผม จาก : tulakan(tulakan) 2/7/2555 23:21:36 [58.11.179.201]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 291
       วันนี้เจอพี่คนนึงทำงานอยู่บริษัทการบินไทย นำรถ Fortuner 2.7 4x4 มาซ่อมปัญหาอาการแก๊สที่อู่อาจารย์รุ่ง ที่บางคล้า เราได้คุยกันนานเพราะอยู่ด้วยกันหลายชั่วโมง
แต่สุดท้ายรถยังแก้ปัญหาไม่ได้ทั้งหมด สันนิษฐานว่ามาจากการเจาะหัวฉีดเพราะอาการอื่นก็ดูหมดแล้ว ผมก็ไม่เคยเห็นการเจาะหัวฉีดแบบนี้มาพี่เขาจะมาใหม่ก็วันจันทร์เพื่อเปลี่ยนทางหัวฉีดแก๊สมใหม่



วันนี้ผมไปย้ายถังแก๊สที่อู่อาจารย์รุ่ง เสร็จแล้วก็ไปเดินท่อทางแก๊สใหม่ให้กลับเข้าสู่สภาพเดิม ใส่แคทกลับไปอย่างเดิม 2 ตัว ย้ายหม้อพักไอเสียเข้าตำแหน่งเดิม ระหว่างนั้นก็เวลาเย็นเลิกงานกันหมดแล้วก็มานั่งคุย หลังจากนั้นคุยกับอาจารย์รุ่งแลกเปลี่ยนความรู้กัน

1. อาจารย์ถามผมว่ารถเกียร์ออโตของ 2.7 มีใครมีปัญหาอะไรหรือไม่ อาจารย์รุ่งพุดต่อว่าคงไม่น่าจะมีมั้ง ผมก็บอกไม่มี หลายคนที่ใช้งานบรรทุกหนักมาเกิน 3 แสนกิโลเมตรเกียร์ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ตรงกันข้ามกับเกียร์ธรรมดา ที่หลายคนเจอปัญหาต้องเริ่มซ่อมบ้างแล้วตามอายุของเกียร์ธรรมดาซึ่งเป็นปกติของเกียร์


2 . อาจารย์คุยต่อว่าสมัยที่รถปิคอัพ 2.7 ออกมาแรก ๆ นั้นมีแต่เกียร์ออโต เครื่องเบนซิน 2.7 ลูกค้าที่เป็นคนไทยไม่ตอบรับกับรถแบบนี้แน่นอน ผมบอกต่อว่าเนื่องจากลูกค้าคนไทยยังไม่มีความรู้เรื่องนี้กันเอาเลย เวลาจะซื้อปิคอัพ คิดแต่จะเลือกเกียร์ธรรมดา แต่ปัจจุบันคนจะซื้อรถต้องเป็น 2.7 ต้องเป็นเกียร์ออโต ต้องเป็น 4wd 4x4

3. ต่อมาอาจารย์รุ่งคุยถึงเรื่องปิคอัพ Hilux 2.7 4x2 4x4 ว่าวิ่งต่างกันไหม ผมบอกว่าต่างกันรถปิคอัพ 2.7 4x4 จะวิ่งดีกว่าปิคอัพ 2.7 2wd และยิ่งบรรทุกหนักจะเห็นผลวิ่งต่างกัน วิ่งขึ้นเขาลงเขาจะต่างกัน 4wd วิ่งดีกว่าและทุกคันกินเชื้อเพลิงเท่ากันหมด อาจารย์รุ่งบอกว่ากล่องมันน่าจะต่างกัน ก็ตามที่ผมคิดไว้เหมือนกัน คือคิดตรงกัน


4. ต่อมาอาจารย์รุ่งคุยถึงเรื่องรายละเอียดของเวป 2.7 เพราะตั้งแต่อาจารย์รุ่งทำรถ 2.7 มาไม่เคยเข้ามาดูในเวปเลย อาจารย์รุ่งเองก็มีผลงานกับรถดัง ๆ มากมายแต่ไม่เคยโชว์ลงเวปหรือไม่ได้เล่นเนต ผมเลยถืออโอกาสเปิดดูรูปเวปเราที่พวกเราคุยกันในเวปให้อาจารย์รุ่งดู อาจารย์รุ่งสนใจเรื่องการลงเทอรโบในรถ 2.7 มากและบอกรายละเอียดได้ถูกต้อง หลายคนที่ติดเทอร์โบให้กับรถ 2.7 มาแล้ว ต้องการมาเซทรถระบบแก๊สและน้ำมันใหม่ให้มาหาอาจารย์รุ่งได้เลย อาจารย์รุ่งพอรู้วิธีกำราบเทอร์โบแล้ว เกี่ยวกับการเซทหัวฉีดแก๊ส


5. ผมเปิดเวปให้อาจารย์ดูรูปที่ผมไปเที่ยวออฟโรดมาให้อาจารย์รุ่งดู อาจารย์ถามผมเหมือนที่คนอื่น ๆ ต้องการจะถาม ไม่เสียดายรถบ้างหรือ ไปลุยออฟโรดแบบนี้ ผมก็ชี้ให้อาจารย์ดูว่าอาจารย์ก็เห็นรถผมแล้วไม่ใช่หรือ นั่นแหละคือคำตอบ รถมันไม่พัง ผมยืนยันอีกครั้งว่าไม่พัง ผมไปท่องเที่ยวมาหลายแห่งที่เราพอจะไปได้ รถ Fortuner 2.7 4wd มันไปได้ในหลายเส้นทางกับจังหวะของรถและการออกแบบมันลงตัว ผ่านอุปสรรคไปได้โดยที่รถมันไม่พัง รถไม่ได้มีอะไรเสียหาย



6. อาจารย์รุ่งคุยให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้เคยคิดจะซื้อ Ford Escape แต่ว่ารถมันใช้ไปสักพักนึงจะเริ่มจุกจิกและซ่อมแพง ส่วน Honda CRV บอบบางเกินไปไม่เหมาะกับการใช้งาน แต่อาจารย์บอกว่าถ้าเป็น 2.7 4x4 ปัญหามันน้อยมากจริง ๆ และไม่มีปัญหาจุกจิกเลย อาจารย์รุ่งมีความประทับใจ Fortuner 2.7 4x4 เป็นอย่างมากและอยากจะได้รถมือ 2 Fortuner 2.7 4x4 เพียงแต่ว่าอาจารย์เปรียบเทียบกับ Prado Jeep Grand Cherokee ความนิ่มนวลช่วงล่าง Fortuner ด้อยกว่ามาก มีทางไหนจะเซทให้มันดีขึ้นกว่านี้ ผมบอกว่าไม่มีทางแล้วนอกจากถุงลม


7. อาจารย์ถามถึงเรื่องรถใหม่ Fortuner 2.7 ว่าทำไมจึงไม่ทำรุ่น 4wd fulltime กลับมาอีก ผมบอกว่าไม่ทราบจริง ๆ ว่าทำไม TOYOTA จึง ไม่ทำออกมาอีก แต่ว่า Fortuner 2.7 4x4 ยังมีการส่งออกต่างประเทศตามปกติ ผมบอกอาจารย์ว่ารถใหม่ Fortuner 2.7 มันไม่คุ้มเพราะไม่มีอะไรให้เลย และมีคนที่ใช้ Fortuner 2.7 2wd ขับขึ้นเขาตอนฝนตกใหม่ ๆ เหยียบคันเร่งลึกตอนแซงขึ้นเขา รถมันหมุนและเกิดอุบัติเหตุทันทีแต่ถ้าเป็น Fortuner 4x4 อาการหมุนสไลด์ของรถแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น อาจารย์พยักหน้ารับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 292
       ผมถามอาจารย์รุ่งวันนี้เกี่ยวกับการทำรถ ราชันย์ออฟโรด 2 รุ่น ว่าอาจารย์ได้ทำหรือยัง

1. Landcruiser LC120 สีเทาดำน่าจะเป็นของคนบางคล้าเพราะคันนี้เคยเห็นวิ่งที่นี่บ่อย
2.Landcruiser LC 150 สีดำของใครไม่ทราบ

คำตอบทั้ง 2 รุ่นได้ทำมาแล้ว คันล่าสุดเป็น 2.Landcruiser LC 150 NEW PRADO 2010 สีดำมีคนมาติดแก๊สที่นี่แล้ว วางถังเพื่อไม่ให้เห็นถังจึงใช้ โดนัท 52 ลิตรไป อาจารย์รุ่งบอกว่า Landcruiser นั่งสบายกว่า Fortuner ผมบอกแน่ล่ะ รถ 3 ล้านกว่ายังไงก็ดีกว่ารถราคา 1 ล้านกว่า อาจารย์บอกว่าประทับใจช่วงล่าง Landcruiser LC120 แต่ว่าเครื่องยนต์อาจารย์ให้น้ำหนักไปที่Landcruiser LC150 เพราะ 2.7 แน่นอนกว่า ประทับใจมากกว่า ลงใน Prado ใหม่น่าสนใจกว่า
อาจารย์รุ่งจึงมีความสนใจที่จะเล่นรถ Fortuner 2.7 4wd

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 293
      

รายละเอียดความรู้จากอาจารย์รุ่งอีกเล็กน้อยนะครับ

8. มีการถามถึงน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ ทั้งในรถดีเซลและเบนซิน อาจารย์รุ่งฝากมาบอกนะครับว่าเมื่อกอ่นนี้ในปิคอัพดีเซลจะเจอปัญหาเยอะ เรื่องน้ำมันไบโอดีเซลทำให้ SCV Valve พัง รถเป็นปัญหาทุกรุ่น TOYOTA ก็เยอะ ทุกคันซ่อม SCV Valve หายแต่ถ้าเป็น Nissan มักพังถึงปั๊มเชื้อเพลิงและซ่อมไม่ได้คราวนั้นเปลี่ยนไปหลายหมื่นบาท จึงไม่ควรใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นพวกไบโอเพราะถึงแม้ว่าหลัง ๆ มานี่ไม่ค่อยมีปัญหาแต่ไม่มีใครรับรองได้ตลอด
ส่วนน้ำมันแก๊สโซฮอล จารย์รุ่งฝากบอกมาว่าให้เลิกใช้ได้เลย อู่อาจารย์รุ่งไม่ใช่เพียงแค่อู่ติดแก๊ส แต่ว่าซ่อมรถด้วยไม่เหมือนหลายอู่ที่ติดแก๊สอย่างเดียวไม่ได้ซ่อมรถ อาจารย์รุ่งซ่อมรถอยู่ด้วยนั้นเห็นปัญหารถที่ใช้แก๊สโซฮอลมามากหลายคันถ้ารถที่ไม่ได้ใช้นาน ๆ น้ำมันแก๊สโซฮอลจะบูดส่งกลิ่นมากและมักพาให้ระบบอื่นๆ ใช้การไม่ได้ด้วย อีกทั้งรถที่มาซ่อมเรื่องปั๊มติ๊กหลายคันเจอปัญหาแก๊สโซฮอลกัดยางปั๊มเชื้อเพลิงพังหมด

9. อาจารย์รุ่งรับซ่อมเปลี่ยนปั๊มติ๊กอยู่ด้วยนะครับ เจอปัญหากับแก๊สโซฮอล อาจารย์บอกว่าที่โฆษณากันว่ารถตั้งแต่ปี 2000 ที่บอกว่าใช้ได้เอาเข้าจริงแล้วไม่ควรใช้อยู่ดีถ้ารื้อมาดูชิ้นส่วนในปั๊มเชื้อเพลิงพบว่ามันมีความเสียหายอยู่บ้างและใครที่ใช้ถังน้ำมันเป็นเหล็กจะพบสนิมในถังจำนวนมาก

10. ใครที่จะมาติดแก๊สอู่อาจารย์รุ่ง อาจารย์เขาพยายามจะตัดปั๊มติ๊กทุกคัน อาจารย์เขาเจอปัญหากับรถ Vigo โดยเฉพาะรถบริษัทที่มาซ่อมปํ๊มติ๊กแล้วหลายคัน อู่อาจารย์เขารับซ่อมรถยนต์อยู่ด้วยนะครับใช้ปั๊มของแท้ TOYOTA ราคา 3000 กว่าบาท ถ้าเปลี่ยนในศูนย์ราคา 8xxx กว่าบาท อาจารย์จึงตัดสินใจว่าต้องตัดแน่นอน และจะพยายามตัดให้ทุกคัน

ปัญหาที่เจออีกอย่างนึงคือ ถ้ารถ Vigo คันไหนใช้แต่น้ำมัน 91 95 เวลาปั๊มติ๊กมีปัญหาสามารถเปลี่ยนชุดซ่อมได้เป็นตัวปั๊มอย่างเดียวราคา 3000 กว่าบาท แต่รถคันใดที่ใช้แก๊สโซฮอลมาก่อน ให้เตรียมเงินเพิ่มไว้อีก 2000 กว่าบาท เพราะโดยมากฐานยึดปั๊มจะพังเสียหายไปด้วย สรุปต้องเสียเงินถึง 5000 กว่าบาท ถึงแม้จะถูกกว่าศูนย์บริการแต่ก็พังและเสียเงินโดยไม่จำเป็น
รถผมก็ใช้แก๊สโซฮอลมา 1 ปีกว่าๆ แล้ว ถ้าปั๊มพังก็ต้องเสียแบบนี้เหมือนกัน แต่ตอนนี้เลิกใช้แล้วหันมาเติม 91

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 294
       พอดีไปเจอกระทู้มาเกี่ยวกับปัญหาของเกียร์ธรรมดา

http://www.fortuner-club.com/index.php?topic=48338.msg1100337;topicseen#new3.0G ปี 2005 ครัชมีปัญหาคือ ออกตัวสั่น วิ่งประมาณ 140 มีเสียงดังอู้ๆ วิ่งอืดๆ ก่อนหน้าประมาณ 2 ปีที่แล้วเข้าศูนย์เปลี่ยนยกชุด(อาการครัชแข็ง ออกตัวสั่น มีเสียงดัง เวลาเหยียบครัชแล้วหายดัง)เดือนที่แล้วไปเที่ยวเกาะช้างมาผู้โดยสารเต็มพิกัด ระหว่างขาขึ้นพอดีรถคันหน้าถอยเราต้องหยุด และระหว่างขึ้นอีกทีกระแทกมากไปหน่อยอาจจะเลียครัชนิดๆ กลิ่นเหม็นไหม้คลุ้งเลยครับ 5555 พังอีกแล้ว เปราะจัง ทีนี้ตั้งใจจะไม่เข้าศูนย์แล้ว(เดี๋ยวพังอีก)

ถ้าจะซ่อมเปลี่ยนคลัทซ์ จะมีค่าใช้จ่าย 12,000 บาท ในศูนย์
หวีครัช ของแท้ราคารวม VAT แล้วอันละ 3,030 บาท
จานครัช ของแท้ราคารวม VAT แล้วอันละ 2,890 บาท
ลูกปืนครัช ของแท้ราคารวม VAT แล้วอันละ 1,370 บาท
ลูกปืนปลายเกียร์ ของแท้ราคารวม VAT แล้วอันละ 50บาท

รถถ้าเป็นเกียร์ออโตจะเหมาะกว่า สำหรับปิคอัพในยุคปัจจุบัน กำลังพัฒนาไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ไตรมาสหน้าก็จะขยับเกียร์ ออโตเป็น 5 speed แล้ว ซึ่งจะทันสมัยกว่าเกียร์ธรรมดาที่กำลังกลายเป็นอดีตของรถปิคอัพไปมาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 295
       เมื่อเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาไปวางถังแก๊สใหม่ที่อู่อาจารยรุ่ง รุ่งวัฒนายนต์ที่บางคล้า มีความรู้มาฝากดังนี้

เรื่องแรก
1.ผมเจอพี่คนนึงเคยเรียนด้วยกันที่ โรงเรียนดาราจรัสบางคล้า สมัยประถม เข้ามาทีอู่ ผมถามพี่เขาว่าตอนนี้ทำงานที่ไหน เขาบอกว่าเป็นเซลขายของอยู่แถวนี่แหละ คือขายสารเคมีวิ่งงานอยู่ที่ฉะเชิงเทราเป็นหลัก ออกรถ Hilux 2.7 เกียร์ธรรมดา รุ่น E มาติดแก๊ส NGV ที่อู่อาจารย์รุ่ง มาวางถัง CNG แบบใต้ท้อง 2 ใบ ขนาด 70 กับ 60 ลิตรไป ราคาค่าติดตั้ง 5x,xxx กว่าบาทเท่านั้น เขาบอกว่าประหยัดมากใช้งานตกกิโลเมตรล่ะ 1 บาท สำหรับ NGV ออกรถมา 6 เดือน ใช้งานไปแล้ว 56,000 กิโลเมตร เท่ากับวิ่งตกเดือนล่ะ 10,000 กิโลเมตร เชียวนะครับ คุ้มค่าเกินบรรยาย


เรื่องที่ 2 วิธีคิดแบบเถ้าแก่เจ้าของโรงงาน
2. ผมนั่งอยู่ที่อู่เกือบทั้งวันเพราะต้องแก้ถังใหม่ด้วย ผมถามจารย์รุ่งเรื่อง TATA ซีนอน เพราะเห็นมีรถที่มาซ่อมที่อู่อยู่ด้วยเป็นของโรงงานแห่งนึง อาจารย์บอกว่า รถจะมีราคาอะไหล่แพงกว่ารถญี่ปุ่นนิดหน่อย พอดีเจ้าของโรงงานแห่งนี้............. ซื้อมาวิ่งแทนปิคอัพดีเซล ทั้ง Vigo Dmax Navara ต่างโล๊ะทิ้งหมด เอา TATA ซีนอน CNG 100% มาวิ่งแทน จากเดิมใช้น้ำมันเดือนล่ะ 2 แสนบาท เหลือค่าใช้จ่ายเป็นค่าแก๊ส เดือนล่ะ 40,000 บาท เท่านั้นเอง ควบคุมค่าใช้จ่ายง่ายมาก รถแก๊สหมดลากอย่างเดียว รถไม่สามารถเปิดเครื่องติดแอร์วิ่งออกนอกเส้นทางได้ เงินที่ประหยัดไป 160,000 บาท ต่อ เดือน เขาเหลือเป็นค่าซ่อมได้สบายและมีกำไรมาก ถึงแม้เขาต้องจ่ายค่าซ่อมที่แพงกว่ารถญี่ปุ่น เขาก็พอใจตรงนี้ คือรับได้ ส่วนปิคอัพดีเซลโล๊ะทิ้ง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 296
       ต่อมาดูเรื่องซ่อมและปัญหาที่เกิดขึ้นกันบ้าง

รถ TATA ซีนอนเป็นรถที่กระบะใหญ่และเป็นกระบะลอย มีพื้นที่ในการบรรทุกของมากตามที่โฆษณาไว้ แต่มันไม่เป็นไปตามที่คิดกันคือรถ TATA ที่เอาไปบรรทุกกันน ถ้าเอาไปบรรทุก ไม่เกิน 1 ตันกว่า ๆ เหมือนปิคอัพญี่ปุ่นทั่วไปไม่มีปัญหาแน่นอน แต่ว่าถ้าเอาไปบรรทุก 3 ตัน คือใส่ของกันเต็มพิกัดยัดสินค้าเข้าไปเต็มที่ ผลที่ตามมาคือ รถเอาเข้ามาซ่อมที่อู่อาจารย์รุ่ง บอกว่าเยอะมาก ปัจจุบันอู่อาจารย์รุ่งบอกว่ามีงานซ่อม TATA เข้ามาทุกเดือน เบิกอะไหล่กันจนชำนาญ อะไหล่ที่เสียหายบ่อย ๆ สำหรับรถที่ไปบรรทุก 3 ตันก็คือ ลูกปืนล้อหลังแตก เฟืองท้ายแตก ปีกนกฉีกขาด เพลาคด ลูกปืนเพลากลางแตก อาจารย์รุ่งบอกว่า เฟืองท้ายที่เห็นกอง ๆ อยู่ที่อู่คือเฟืองท้าย TATA ซีนอนทั้งนั้น

ส่วน Hilux Vigo ก็เหมือนกัน รถมันทำมาสำหรับ 1 ตัน ถ้าจะเอาไปบรรทุก 2- 3 ตัน ต้องไปตบแต่งช่วงล่างกันเพิ่มเติม ที่นิยมกันก็คือใส่เพลาลอย เพื่อรับงานหนัก ไม่งั้นพังหมด แต่อาจารย์บอกว่าเพลาลอยที่ไปใส่กันมาขับยากเหมือนกันคนไม่เคยขับออกอาการเลื้อยน่าดู ถ้าบรรทุกหนักแบบนี้ NiSSAN Navara จะทนหน่อยแต่ก็ต้องทำช่วงล่างเหมือนกัน

สรุปทั้ง 2 คันเครื่องยนต์รับไหว แต่ช่วงล่างพังหมดถ้าจะบรรทุกเกินพิกัดมาตรฐานของรถ Hilux 2.7 ถ้าจะเอาไปบรรทุกแบบนี้ก็ต้องไปตบแต่งเสริมช่วงล่าง ทำเหมือนกับปิคอัพดีเซลนั่นแหละครับ ปิคอัพดีเซลทำยังไงปิคอัพเบนซินก็ทำแบบนั้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 297
      
ตอนนี้ดีเซล Hilux Vigo 2.5 กินน้ำมันตกโลล่ะ 2.50 บาท / กิโลเมตร วิ่งตัวเปล่า ถ้าบรรทุกตก 2.8-3.0 บาท / กิโลเมตร เฉลี่ยกินน้ำมันประมาณ 12 KM/L
ถ้าเป็นปิคอัพ Hilux 3.0 ดีเซล เกียร์ธรรมดา ขับ 4wd โฟร์วีล วิ่งตัวเปล่า กินน้ำมัน 11-12 km/l ใกล้เคียงรุ่น 2wd ตัวเตี้ย อาจจะมีเปลืองกว่ากันเล็กน้อย ไม่ถึง 20 สตางค์ / กิโลเมตร
ถ้าเป็น Hilux 3.0 AT 4wd 2wd กินน้ำมันเท่ากัน 10-12 km/l อาจจะสิ้นเปลืองกว่ารถเกียร์ธรรมดา 2.5 ขึ้นมาบ้างอีกเล็กน้อย แต่ถ้าได้เกียร์ออโต 5 speed อาจจะประหยัดเท่ากับการขับ Hilux 2.5 ดีเซลเกียร์ธรรมดาก็อาจเป็นได้

ISUZU DMAX 2.5 เกียร์ธรรมดาตัวเตี้ย จะประหยัดกว่า Hilux Vigo 2.5 ดีเซลเล็กน้อย ถ้าเป็น Hilander จะกินน้ำมันเท่ากันกับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ โฟร์วีล ไม่ได้ประหยัดต่างกัน โดยมากถ้าเป็น ISUZU ยกสูงไม่ว่ารุ่นใดจะ 2wd หรือ 4wd จะกินน้ำมันตก 8 - 11 โล/ ลิตร ถือว่าเปลืองมากพอสมควร ถ้าเทียบกับยี่ห้อรุ่นอื่น อัตราการกินจะเท่ากับ Ford New Ranger เครื่องดีเซล 2.2 และ 3.2 ในบรรดารถยกสูง ISUZU ไม่ได้หนีจากคู่แข่งคือสิ้นเปลืองเท่ากัน ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหนก็กินมากพอกัน ISUZU ถ้าจะประหยัดก็ต้องเป็นรถตัวเตี้ย ยางหน้าแคบ 2wd ไม่ยกสูงจึงประหยัด

ถ้าเป็น Ford รุ่นยกสูงทุกรุ่น ไม่ว่าจะขับ 2wd 4wd จะเป็นเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์ออโต 6 speed กินน้ำมันเท่ากันหมดทุกรุ่นคืออยู่ระหว่าง 10-11.5 km/l ถ้าเลี้ยงคันเร่งได้จะอยุ่ที่ 13-14 km/l ในรุ่นยกสูง

ถ้าเป็น Nissan Navara เกียร์ธรรมดาจะกินน้ำมันกว่า Hilux Vigo 2.5 ดีเซลเกียร์ธรรมดาอยู่เล็กน้อย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 298
       ข้อเตือนใจอย่างนึง พอดีผมเห็นมากลัวจะลืมกันเลยเอามาลงที่นี่เพราะคนจะอ่านกระทู้นี้เยอะ

รถ 2.7 ไม่ว่ารุ่นใด อายุการใช้งานของโช๊คหน้าหลังอยู่ที่ 60,000 - 70,000 กิโลเมตร สำหรับโ Shock standard ที่ติดมากับรถอย่าฝืนใช้ต่อเพราะช่วงล่างจะพังตามมา คือผมแปลกใจตั้งแต่บางคนช่วงล่างมีอาการพังซึ่งมันไม่น่าจะพังเร็วขนาดนั้น คือประมาณ 1 แสนกว่าโล บางคนซ่อม แต่หลายคนก็ไม่ได้ซ่อม คนที่ต้องซ่อมช่วงล่างกันมักจะปล่อยให้โช๊คเลยอายุของที่กำหนดไว้ แต่คนที่เปลี่ยนโช๊คมามักไม่ได้ซ่อม
โช๊คเดิมติดรถมาจากโรงงาน TOYOTA ใช้ยี่ห้อ Tokico มันไม่หนืดเท่าที่ควร อายุก็ไม่ทน ดีที่ราคาถูกเท่านั้น ถ้าไม่เปลี่ยนจะทำให้ช่วงล่างพวกลูกหมากทำงานหนักและเสียเร็ว ยิ่งใครจ้ำคอสะพานกันแรง ๆ บรรทุกหนัก ช่วงล่างพังไว
ถ้าใช้โช๊คเดิม โช๊คควรเปลี่ยนให้เร็วแม้จะยังไม่พังก็ตาม แต่ถ้าเปลี่ยนโช๊คนอกราคาแพง อายุจะใช้ได้นานกว่าแต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่แพงกว่า
ถ้าใช้โช๊คหน้าควรหาที่หนึบกว่าเดิม จะทำให้ช่วงล่างไม่ทำงานหนักเกินไปนัก ยี่ห้อตามความเหมาะสมของรถและตามกำลังเงินของแต่ละท่าน
โช๊คหลังไม่เท่าไหร่ เลือกง่ายกว่าหน้าเยอะ


อีกเรื่องนึงเรื่องหม้อต้มแก๊สเมื่อวานคุณ sembe เล่าให้ฟังว่าของเค้า Magic 3 มีปัญหารั่วซะแล้ว น้ำหล่อเย็นไหลออกมาเลย
ผมคิดว่าลองเปลี่ยนเป็นยี่ห้ออื่นดีกว่า กลัวรั่วเหมือนกัน

อ้าว ผมกำลังจะแสนโลแล้ว งั้นต้องรีบหาเปลี่ยนโช๊คหน้าซะแล้วแบบนี้ จาก : Teelaban(Teelaban) 24/7/2555 11:02:19 [27.55.3.249]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 299
       สเปกรถดังกล่าว เอามาให้ดูเป็นความรู้ TOYOTA Vangard 4 สูบ ทวินแคม 16 วาล์ว 2,400 ซีซีรหัส 2AZ-FE มีกำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 22.8 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบต่อนาที รุ่น 4 สูบ ขับเคลื่อน 4 ล้อจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ มีอัตราความสิ้นเปลืองน้ำมัน 13.2 กิโลเมตร/ลิตร



เป็นเครื่องยนต์เดียวกับที่ใช้ในรถ Camry 2.4 โฉมปี 2007-2011 บ้านเรานั่นเอง
แต่ว่ารถรุ่นนี้ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สิ่งที่ต่างกันคือ รถกินน้ำมันน้อยกว่ารถ 2wd อย่างคัมรี่ แถมอัตราเร่งดี กว่ารถเก๋งคัมรี่
โหมดเกียร์มีให้เลือกทั้งโหมด สปอร์ตและโหมด Economy รอบเครื่องยนต์ขึ้นเร็วมากแต่ตกลงเร็วมากเช่นกันถ้าเลือกโหมดการขับ sport
ที่บรรยายมาทั้งหมดเพราะว่าบังเอิญไปอ่านเจออู่แห่งนึงเขาติดแก๊สรุ่นนี้ แต่เอาอยู่ เพราะจูนไม่ดีเกียร์พัง เพราะโหมดเกียร์อ่านค่าไม่ได้จากการใช้แก๊ส เนื่องจากมีการลดรอบเครื่องยนต์เร็วมากเนื่องจากความประหยัด ของรถ ต้องจูนแบบละเอียดทุกรอบ

สิ่งสำคัญที่เห็นต่างก็คือแม้เป็นเครื่องรุ่นเดียวกันกับ Camry แต่รถวิ่งดีกวา ประหยัดน้ำมันกว่า ทั้งที่รถหนักกว่า ตัวรถก็เป็น SUV แถมเป็น 4wd อีกต่างหาก สิ่งที่ต่างกันน่าจะเป็น ECU และโหมดของเกียร์


รถ 2.7 ทุกรุ่นก็เป็นอย่างนี้เหมือนกัน คือถ้าเป็นรถ 4wd เกียร์ AT จะวิ่งดีกว่า แต่กินเชื้อเพลิงเท่ากัน กับ 2.7 รุ่นอื่น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 300
      
วันอาทิตย์ที่ 29 JUL,12 ผมเข้าไปที่อู่อาจารย์รุ่ง ที่บางคล้ามา เจอรถ Triton 2.4 Plus รุ่นแคปสีน้ำตาล มาติดแก๊สที่อู่ ถือเป็น Triton Plus รุ่นแคปคันแรกเลยนะ แล้วก็มี Fortuner BMC สีดำมาติดแก๊ส 1 คัน วางถังแก๊สบแบบผมเลย คือ 36x2 ใต้ท้องแทนยางอะไหล่ ตอนนี้ผมก็ย้ายมาแบบนี้แหละ

Mitsu เอาใจลูกค้าสุด ๆ เลยในการออกรถ Triton Plus 2.4 Cab ออกมา ตอนนี้เสริม Product ของตัวเองทุกเซกเม้นท์
แถวบ้านผมตอนนี้อินเทรนด์กันมาก ใครจะซื้อรถเวลานี้ซื้อกันแต่ Hilux Vigo 2.7 และก็มี Mitsu Triton 2.4 แต่ไม่มีทะเลาะหรือว่าเกทับกันแต่อย่างใด เพราะว่าอยู่ที่ใครหาซื้อรถยี่ห้อไหนได้ มากกว่า บางคนไม่อยากรอนานมากก็ซื้อ Triton 2.4 แต่จองและรอกันหลายเดือนนะครับ ส่วน Hilux Vigo 2.7 เซลบางที่ไม่รับจอง ตอนนี้ถ้าเป็นดีเซลทั้ง Mitsu Toyota ได้รถกันเร็วแต่ถ้าเป็น เบนซินรอกันนานมาก

ตอนนี้แถวที่บ้านผมพากันขายรถปิคอัพดีเซลออกไปแล้วนะครับ ขายทั้งที่ยังราคาดีเซลยังดีอยู่ บางคนใช้งานมา 2 ปีลงเครื่องเสียงก็ปล่อยรถออกกันหมด เอาไปเทริ์นซื้อปิคอัพเบนซิน ตอนนี้ใครต่อใครพากันออกรถปิคอัพเบนซินกันทั้งนั้นเลย ไม่มีใครซื้อปิคอัพดีเซลป้ายแดงเลย


ในขณะที่เวปเราหลายคนกังวลเรื่องราคาแก๊สจะลอยตัว พยายามจะขาย Fortuner 2.7 และ Hilux 2.7 กันออกไปในขณะที่ได้ราคาดี
น่าจะลองมองเพื่อนบ้านของผมกันบ้างนะครับ เขาก็ทำตรงกันข้ามกับเราคือปล่อยดีเซลออกไปแล้วมาหาซื้อปิคอัพเบนซิน
เพราะฉะนั้นจะขายรถ 2.7 คิดถึงเรื่องนี้ให้ดี สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร อย่าไปตกใจมากนัก

แสดงความคิดเห็นย่อย