WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


การใช้งานรถ TOYOTA 2.7 vvti อย่างปลอดภัย กระทู้นี้ว่าด้วยเรื่องของความปลอดภัยที่อาจมองข้าม
Auto.
จาก Auto
IP:202.80.239.130

พุธที่ , 3/8/2554
เวลา : 21:21

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       เรื่องโช๊คค้ำฝากระโปรงหน้าและฝากระโปรงหลัง


พอดีผม PM คุยกับท่านนึงที่ได้ซื้อโช๊คค้ำฝากระโปรงหลัง ของรุ่นฟอร์จูเนอร์มาเปลี่ยนแทนของเดิม ที่หมดอายุเปิดไม่ขึ้น โดยเขาได้ซื้อของเทียมจากภายนอกในบรรดาหน้าเวปซื้อขายของ หลังจากซื้อมาได้ไม่นานเขาเปิดฝากระโปรงหลังเพื่อยกของ โดยมีลูกชายอายุ 7 ขวบ อยู่หลังรถเพื่อช่วยยกของด้วย ปรากฎว่าโช๊คฝากระโปรงหลังหักลงมาฟาดลูกชายได้รับบาดเจ็บต้องนอน รพ.เลยทีเดียว โชคดีที่อาการปลอดภัยแล้ว
ตัวโช๊คนั้นเคลมไม่ได้ทางผู้ขายไม่ได้รับเคลมด้วยการให้เหตุผลว่า ลูกชายเขาอาจไปโหนฝากระโปรงทำให้โช๊คหักลงมา แต่ท่านเจ้าของรถให้เหตุผลว่าลูกชายเขาตัวยังไม่สูงพอที่จะไปโหนฝากระโปรงด้วยซ้ำ
จริง ๆ แล้ว มาตรฐานการออกแบบโช๊คของบริษัทผู้ผลิต ให้เราสังเกตุอย่างนึงเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัย ตัวโช๊คถ้าเป็นของมาตรฐานสำหรับ OEM PART เรื่องหักแทบจะไม่ทางเกิดขึ้นเลยค่าแทบเป็น 0 % แต่เรื่องรั่วเกิดขึ้นได้หรือหมดสภาพเกิดขึ้นได้ แต่จะไม่หักหรือร่วงหล่นลงมาเด็ดขาด อาการคือจะเปิดไม่ขึ้น หมดแรงแล้วค่อยค่อย ๆ ยุบตัวลงมา เพราะฉะนั้นเรื่องหักหรือดีดตัวหรือตีวูบลงมานั้นเป็นเพราะโช๊คนั้นไม่ได้มาตรฐานตามค่าโรงงานกำหนด (ตามสเปกโรงงานจะไม่เกิดเอฟเฟกต์แบบนี้)

ใครที่มักไปซื้อโช๊คจากร้านภายนอกเอาของเทียมมามาใช้ก็จงระมัดระวังความปลอดภัยกันไว้บ้างเดี๋ยวได้ไม่คุ้มเสีย หรือคนที่ชอบติดโช๊คค้ำฝากระโปรงหน้าเอาไว้เท่ห์ ๆ เหมือนรถยุโรปก็ระวังให้จงหนักเดี๋ยวเกิดมันหักร่วงลงมาฟาดเอาคอหักตายไม่รู้ด้วยนะ ของพวกนี้ติดน่ะติดได้มันเป็นโช๊คไฮดรอลิคแต่ว่าควรเลือกซื้อของแท้โรงงานหรือเทียบโรงงานที่มีมาตรฐานสูงมากเข้ามาใช้อย่าเห็นแก่ของถูกหรือเป็นของแต่งภายนอกตามเวป ควรพิจารณาให้ดี เพราะของแท้จะมีคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้น คือมีการซึมหรือทำให้ชีลค่อยค่อยหมดแรงแต่จะไม่มีการดีดตัวหรือปล่อยให้ให้ร่วงลงมาฟาดแบบทันทันใด
โช๊คค้ำฝากระโปรงหลังฟอร์จูเนอร์ที่ผมคุยกับท่านนี้ได้เปลี่ยนไปซื้อเอาของเทียบโรงงานไปซื้อที่ วรจักร ยี่ห้อเดียวกับ TOYOTA ที่ใช้เป็นอะไหล่ ราคา 2660 บาท เท่านั้น ถูกกว่าซื้อของแท้ห้างคู่ล่ะ 6500 บาท และยังซื้อได้ถูกกว่าไปซื้อของเทียบภายนอกที่ขายกันตามเวปอีก มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงกว่าด้วยเพราะเป็นของแท้หรือเทียบห้าง








 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 2 จาก >>> 1  2  

คำตอบที่ 31
       เจ้านี่ก็ต้องถูกบังคับให้นั่งตั้งแต่ยังเล็กๆ เมื่อวิ่งทางไกลก็จะต้องแวะปั๊มน้ำมันบ่อยๆให้ลงจากรถมายืดเส้นยืดสาย





 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

supat19 จาก supat19 อังคาร, 15/4/2557 เวลา : 20:12  IP :   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 37683

คำตอบที่ 32
       เตือนภัย! จอดรถเปิดแอร์นอน-ปิดกระจกถึงตาย


สพฉ. เตือนภัยเงียบเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ จอดพักรถนอนเปิดแอร์และปิดกระจก ถึงตายได้เพราะสูดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แนะก่อนเดินทางควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และตรวจเช็กสภาพรถให้พร้อม หากต้องจอดพักเลือกสถานที่ที่ปลอดภัย

นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงของการเดินทางกลับบ้านของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ นอกจากอุบัติเหตุบนท้องถนนแล้ว ยังมีภัยเงียบที่น่าเป็นห่วงอีกเรื่องคือการจอดพักรถริมข้างทางแล้วเปิดแอร์เพื่อนอนหลับพักผ่อน ซึ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้ได้มีผู้ขับขี่รถต้องเสียชีวิตจากการเปิดแอร์นอนในรถแล้วหลายราย อันตรายจากการสตาร์ทรถแล้วเปิดแอร์นอนไปด้วยนั้นถือเป็นภัยใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม เพราะการเปิดแอร์พร้อมสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้และปิดกระจกรถมิดชิดทั้ง 4 ด้านนั้น จะทำให้ระบบแอร์ของรถยนต์ซึ่งจะต้องดูดอากาศจากภายนอกเข้ามาหมุนเวียนภายในรถ จะดูดเอาควันจากท่อไอเสียรถยนต์เข้ามา ซึ่งในไอเสียรถยนต์มีทั้งก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ข้อมูลของศูนย์ข้อมูลวัตถุอันตรายและเคมีภัณฑ์ ระบุว่าการสูดดมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง ปวดศีรษะ เซื่องซึม เคลิบเคลิ้ม สั่นกระตุก หายใจติดขัด หมดสติไม่รู้สึกตัว หัวใจเต้นปิดปกติ เนื่องจากมีฮีโมโกลบินน้อยกว่าปกติ และมีผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลางจนอาจถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งเมื่อระบบแอร์ของรถยนต์ดูดก๊าซเหล่านี้เข้ามาเมื่อเรานอนหลับอยู่เราก็จะสูดดมก๊าซเหล่านี้เข้าไปด้วย และจะส่งผลต่อร่างกายของเราโดยทำให้เราค่อยๆ หมดสติจนอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตไปในที่สุด

นพ.อนุชา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สำหรับคนที่ต้องเดินทางไกลควรจะวางแผนการเดินทางให้ดี โดยต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ควรศึกษาเส้นทางการเดินทางให้ละเอียดเพื่อย่นระยะเวลาของการเดินทางให้ไวขึ้น และเลือกใช้เส้นทางการเดินทางที่ปลอดภัย และควรตรวจเช็กสภาพของรถให้พร้อมทั้งระบบเบรก สภาพเครื่องยนต์ใบปัดน้ำฝน หรือสัญญาณไฟต่างๆ ของรถ และเมื่อรู้สึกง่วงก็ควรที่จะจอดรถนอนหลับพักผ่อนประมาณ 30-40 นาทีในที่ที่เหมาะสม อาทิ ป้อมตำรวจ ปั๊มน้ำมันที่มีไฟส่องสว่าง เมื่อจอดรถยนต์แล้วก็ควรดับเครื่องยนต์รถ และแง้มกระจกลงเล็กน้อยเพื่อทำให้เกิดการระบายอากาศภายในรถ และควรปรับเบาะรถให้พอดีกับการนอน และอย่าลืมหากบาดเจ็บ หรือป่วยฉุกเฉินให้โทรหาสายด่วน 1669 ซึ่งเราพร้อมในการดูแลประชาชนทุกคนในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9570000042052>



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 124.122.112.41 พุธ, 16/4/2557 เวลา : 02:32  IP : 124.122.112.41   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 37686

คำตอบที่ 33
       วันที่ 12 เม.ย. 57 เดินทางจากจังหวัดระยอง กลับนครสวรรค์ ถึงอุทัยธานีปรากฏว่าแอร์ไม่ทำงาน ออกแต่ลม ไม่มีความเย็น แวะร้านซ่อมข้างทางบอกว่าคอมพ์แอร์เสีย ไม่มีอะไหล่ ทนขับแบบร้อน ๆ ถึงนครสวรรค์ประมาณ บ่ายสองโมง แวะเข้าศูนย์โคโยต้าที่นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่น้ำใจดีตรวจเช็คเบื้องต้นให้ ทั้งที่ศูนย์บริการฯ กำลังจะปิด พบว่าคลัชของคอมพ์แอร์เสีย และแนะนำให้ไปที่ร้านซ่อมแอร์ใน จ.นครสวรรค์ ร้านซ่อมก็บริการดี น่าประทับใจ เนื่องจากกำลังจะปิดอู่เหมือนกัน ค่าซ่อม ค่าอะไหล่ สี่พันบาท (เฉพาะคลัช 2,600 บาท) ก่อนที่จะเปลี่ยนได้โทรสอบถามอาการและแนวทางแก้ไขจากคุณ Auto ก็ได้รับคำแนะนำเป็นอย่างดี ขอขอบคุณคุณ Auto / ศูนย์บริการโคโยต้านครสวรรค์ และร้าน มาสเตอร์ แอร์ จ.นครสวรรค์ ครับ



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

pramochtma จาก น้าหน่อง 182.52.39.126 พฤหัสบดี, 17/4/2557 เวลา : 08:47  IP : 182.52.39.126   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 37688

คำตอบที่ 34
       ราคาค่าซ่อมเปลี่ยนคลัทซ์คอมแอร์แพงมากจริง ๆ ช่างฟันหัวแบะเลยครับ 4 พัน แต่ไม่มีทางเลือกเท่าไหร่ เพราะคงไม่อยากวิ่งร้อน ๆ กลับมา
งานแบบนี้ ยังไงเข้าศูนย์ทำดีกว่ากว่าร้านแอร์ข้างนอกอยู่ดี



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 จันทร์, 21/4/2557 เวลา : 08:42  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 37696

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 2 จาก >>> 1  2  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพุธ,25 ธันวาคม 2567 (Online 2661 คน)