คำตอบที่ 31
       คันที่ผมขี่อยู่ก็นับว่าเท่ห์มาก ไม่สูงมากเหมือน TDM 900 อันนี้เป็นรถตำรวจ
XJR 1300 อันนี้เป็นทัวริ่งสำหรับคนทั่วไป ราคา 820,000 บาท

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 32
       ไมล์ความเร็วของรถคันนี้ ฃผลจากการรีดแรงม้าที่เร็วกว่าทำให้เหลือบมองความเร็วได้เป็นระยะ
(ตรงนี้เป็นจุดเสีย เดี๋ยวจะบอกทีหลังว่าเพราะอะไร)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 33
       ท้ายรถคันนี้ ทัวริ่งชัด ๆ แต่พลังแรงม้ารีดออกมาเยอะมาก แต่ก็ควบคุมง่ายพอควร

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 34
       ครั้งนี้มีผู้ใช้รถ DUCATI มาอบรมด้วย
บิํกไบค์แบบนี้ DUCATI กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะราคาถูกกว่าคู่แข่งตั้งราคา 4 แสนกว่าบาท ทำให้รถยี่ห้อนี้นิยมมากขึ้นไนไทย
แต่ค่าเซอร์วิสแพงกว่ารถญี่ปุ่นมาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 35
       DUCATI

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 36
       ด้านหน้าของ ดูคาติ ไม่รู้สวยหรือเปล่า แล้วแต่ความชอบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 37
       อันนี้เป็นด้านหน้ารถ XJR 1300 CC ที่ผมขึ้นมาขี่ในวันนี้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 38
       อันนี้เป็นด้านหน้า YAMAHA YZF R6 ราคาคันล่ะประมาณล้านกว่าบาท ควบคุมรถยากที่สุดในบรรดารถทั้งหมด
คันนี้ไม่กล้าขึ้นไปขี่ครับ เพราะทักษะผมยังไม่เพียงพอ ควบคุมรถแบบนี้ยังไม่ได้เลย
อีกอย่างความมั่นใจไม่มีด้วย เนื่องจากราคารถ ล้านกว่าบาท หัวใจเลยไปอยุ่ที่ตาตุ่ม ใจยังไม่ถึงที่จะลองขี่มันครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 39
       ด้านข้าง YAMAHA YZF R6 ราคาตกประมาณ 1 ล้านบาท

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 40
       YAMAHA YZF R1 คันนี้ประมาณ 790,000 บาท ทีผมเอามาลงในข่าวยานยนต์ให้ดู
มีทั้งระบบควบคุมการทรงตัว เบรคและอื่น ๆ อีกมากมายในการควบคุมรถ

อย่างว่าขับรถพวกนี้ไม่มีระบบความปลอดภัยเลย มันก็ยังไง ๆ อยู่
เช่นเดียวกับคนขับวีโก้ 2.7 ตอนเดียว 4 ประตู รถ 160 แรงม้าไม่มีเบรค ABS ไม่มีอะไรให้เลย จะบ้าหรือ ขับเข้าไปได้ยังไง พวกคุณก็ขับกันได้หนอ ลูกทุ่งกันดีแท้ แท้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 41
       ด้านท้าย YZF R6

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 42
       ที่ล้มลงไปนั่น ไม่ใช่ผมน่ะครับเป็น YZF R1 แต่คันที่ผมขี่ได้สูงสุดตอนนี้ XJR 1300 cc เท่านั้น ผมยังขี่รถแบบนี้ไม่ได้ฝีมือยังไม่ถึง
แต่ก็ปลอดภัยเพราะการมาฝึกแบบนี้ปลอดภัยมาก ดีกว่าคุณไปหัดขี่กันเองบนถนน


ผมพูดคำเดิม ไม่มีใครจบปริญญาตรีได้ด้วยการอาศัยตัวเองหรือประสบการณ์ แน่นอน ทำยังไงก็ไม่เก่ง จำแบบผิด ๆ ถูก ๆ ไปใช้งานบนถนน หรือในชีวิตประจำวัน เรายังต้องขี่มอไซด์หรือขับรถยนต์แต่กลับไม่ยอมมาเรียนสิ่งเหล่านี้เลย
ต้องมาเรียนครับ ขับรถทุกชนิดทุกอย่างต้องมาเรียนทั้งนั้นครับ บริษัทรถยนต์ออกแบบรถมาได้สุดยอดทั้งนั้น แต่ลูกค้าผู้ใช้รถไม่เคยพัฒนาทักษะตัวเองตามเทคโนโลยีเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 43
       อาจารย์ คาซูโทชิ อิวาโอะหยุดพักติวเข้มให้เป็นระยะ เพื่อบอกข้อผิดพลาดให้
ท่านกรุณากับลูกศิษย์อย่างผมมาก ( เดี๋ยวจะบอกให้ทีหลัง ว่าเรื่องอะไร )

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 44
       ฟัง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 45
       ผมอยู่เบอร์ 5 เสื้อสีน้ำเงิน ถ่ายรูปร่วมกับผู้อบรม

พี่เบอร์ 2 อายุเกิน 60 ปีเหมือนกันน่ะครับ ขี่ FZ1 สบายมาก จาก : Auto.(Auto.) 27/2/2555 11:39:30 [110.49.249.237] คนที่ใส่เสื้อ สีน้ำเงิน เบอร์ 2 ถ้าจำไม่ผิด น่าจะชื่อ พี่เล็ก โด้ โด้ เคยขี่ รถกลุ่มเดียวกัน จาก : akeram(akeram) 29/2/2555 22:16:04 [124.120.62.49] เมื่อ 10 กว่าปีก่อน สมัย กลุ่ม จิระมอไซค์ คลองตัน จาก : akeram(akeram) 29/2/2555 22:18:54 [124.120.62.49]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 46
       ท่านนี้ที่ผมต้องถ่ายรูปให้ดู
ท่านอายุเกิน 60 ปีแล้วนะครับ แต่ไม่ยอมหมือนคนส่วนมากที่ไม่มีความรู้แล้วไม่ยอมมาเรียน คือท่านมาอบรมการขับขี่รถบิ๊กไบค์ด้วย ไม่ยอมให้ตัวเองขี่รถทั้งที่ไม่มีความรู้

พี่ท่านนี้ (ผมเรียกเขาพี่ ) พี่คนนี้ทำงานบริษัทวิทยุการบินประจำอยู่ที่เชียงใหม่ตอนนี้เกษียนแล้ว ตัดสินใจซื้อ YAMAHA TMAX XP500 สีดำราคา 495,000 บาท ซึ่งเป็นรถที่ทางยุโรปกำลังชื่นชอบไลฟ์สไตล์การขี่มอไซด์ แบบนี้ท่องเที่ยว เพราะรถแบบนี้ขี่สบายมากกว่า กำลังเครื่องยนต์สูงเพียงพอกับการใช้งานในยุโรป



ผมกับพี่เขาทักษะพอกันน่ะครับตอนมา คือไม่ได้มีความรู้ใดใดทั้งสิ้น แต่ไม่ได้ปล่อยให้ความโง่เป็นอุปสรรค คือตัดสินใจมาเรียนเลย
แต่ว่าการฝึกอบรม 2 วันพี่ท่านนี้ทำคะแนนได้ดีกว่าผมมาก เวลาต่อรอบในการเข้าโค้งห่างกันถึง 7 วินาที
พี่คนนี้ทำได้ดีมากทุกคนปรบมือให้ สามารถพัฒนาทักษะการขี่รถได้มากมาย
เห็นไหมครับ อายุไม่ใช่อุปสรรค แต่ความโง่ที่ไม่ยอมมาเรียนนั่นแหละคืออุปสรรคที่จะทำให้เราโง่ต่อไป ผมคิดแบบนั้น
ผมอายุ 35 -36 ปี แพ้ให้กับคนอายุ เกิน 60 ปีท่านนี้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 47
       บทสรุป


1. วันแรกผมสร้างความคุ้นเคยกับรถ แต่ปัญหาคือควบคุมรถใหญ่ไม่ได้ เลยต้องลดขนาดมาเป็นรถเล็กกว่า 400 cc เมื่อคุมรถได้แล้วจึงคิดว่ารถ 400 cc เล็กเกินไปหันมาหารถใหญ่เกิน 900 cc ในวันที่ 2 ผลคือทำได้แล้วครับ

2 . ครูฝึก มร.อิวาโอ๊ะก็กรุณาผมอย่างมากในการสอน ท่านบอกจุดผิดพลาดให้
จุดผิดที่บอกผมเอาไว้
2.1 คือผมใช้สายตาได้ดี แต่สมาธิของผมไม่ดีเลย สายตาหันไปหาจุดสนใจอื่นแทนที่จะเป็นจุดที่เขาบอกให้มอง ตรงนี้ครูฝึก มร.อิวาโอ๊ะบอกว่าถ้าเป็นการแข่งขัน Moto GP คุณล่ะสายตาออกไปแบบนี้ไม่ได้เลย อันตรายมากบนท้องถนนก็เช่นกันจะทำให้ควบคุมรถไม่ได้

2.2 ถึงแม้ตัวผมจะพัฒนาทักษะได้ดีจากวันแรก แต่เป็นคนที่ไม่มีความมั่นใจกับในการขี่รถเลย ซึ่งสำคัญมาก
ตรงนี้ผมอธิบายเหตุผลให้ทุกท่านเข้าใจดังนี้ (แต่ไม่ได้บอกครูฝึกแค่พยักหน้าก้มหน้ารับสภาพ)
- คือผมกลัวจริง ๆ ครับ ความกลัวเกิดขึ้น การควบคุมรถใหญ่แรงม้าสูงด้วยความเร็วขนาดนี้ ในการที่จะเอารถให้อยู่ในมือเราได้ เครียดมาก
- ผมไม่กล้าทิ้งตัวลงไปกับรถขณะเข้าโค้งทางแคบ ๆ ทำอยู่ 3 ครั้ง ก็ทำไม่ได้ซักทีหลุดจากการเลี้ยว รถมันใหญ่ไม่กล้าทิ้งตัวลงไป เจ็บใจมากเอามือทุบถังน้ำมันขณะขี่รถ ครูฝึกและ มร.อิวาโอ๊ะเห็นแบบนั้นท่านกรุณามากคือขี่นำไปก่อนให้ผมเข้าโค้งตาม ในที่สุดก็ทำได้แม้จะยังทิ้งตัวลงไปไม่ได้มากเหมือนครูฝึก
ตอนนี้ผมเสียใจมากเลย ร้องไห้ขณะขี่รถอยู่
แต่ถ้าเรื่องแบบนี้ถ้าคนเป็นเพื่อนกันเป็นคนสอนคงได้ด่ากันไปแล้ว เพราะทิ้งตัวลงไปจนพักเท้าครูดกับพื้นถนน กลัวรถล้มทับขาหัก แต่มันก็ทำได้จริงแบบไม่น่าเชื่อถ้าจะทำ
- ในขณะเข้าโค้งความเร็วสูงความมั่นใจหดหาย ผมไม่กล้าทำเพราะเข่าแทบจะติดพื้น แบบที่เห็นในการแข่งขันระดับโลก รองเท้าแทบครูดไปกับพื้นผมใจไม่ถึงครับ ท่านบอกให้ขี่ตามตอนทิ้งโค้งในความเร็วสูง ผมนึกในใจเขาทิ้งตัวลงไปได้เราก็ต้องทำได้ในขณะขับรถตามไป ในที่สุดก็ทำได้เล็กน้อยครับแต่ก็ไม่ได้ดี เพราะความกลัวมันก็กลับมาอีก

3. อีกเรื่องที่ท่านบอกผมคือ ท่านสอนแล้วขณะขึ้นรถมอไซด์ต้องปรับท่วงท่าก่อนการขับขี่รถคันนั้น ๆ ก่อน เพื่อให้เคยชินในการควบคุมรถ
แต่พอผมขึ้นขี่ได้ก็ เร่งเครื่อง เบิ้ลเครื่อง เราจะทำไปเพื่ออะไร

4 การขับขี่มอไซด์ อย่าง YZF R1 , YZF R6 ผมยังทำไม่ได้ ไม่กล้าขึ้นขี่เพราะต้องใช้ความสามารถมากกว่านี้อีก การฝึกร่างกายเพื่อควบคุมรถผมรู้ตัวเองว่ายังไม่ดีพอเพราะต้องทิ้งตัวลงหนักกว่าเดิมจึงจะเอารถอยู่ ในขณะที่เราไม่กล้าทิ้งตัวรถลงไป อีกอย่างรถมันแพงมากแตะหลักล้านบาท ความมั่นใจเลยยังไม่มั่นใจที่จะขี่มันได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 48
       ต่อไปเป็นภาพฝากให้นะครับ เผื่อใครสนใจรถแบบนี้ ผมเอามาโฆษณาให้เค้าเองตอบแทนในสิ่งที่เขาให้กับเรา
ภาพเอามาจากวารสารของ YAMAHA RIDING CLUB

คันนี้เป็น YAMAHA TMAX

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 49
       spec TMAX

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 50
       FJR 1300 A

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 51
       FZ1

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 52
       YZF R1

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 53
       YZF R6

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 54
       PRICE LIST ในปัจจุบัน ถูกกว่าหน้าเวป
ราคาจะลดหรือเพิ่มลองไปติดต่อดูเอาเองนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 55
       ติดต่อคนนี้ คุณเปียว กิติวัฒน์ 087-507-1331

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 56
       อยากไปอบรมแบบนี้ต้องทำอย่างไรบ้างครับคุณ auto

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 57
       ถ้าเป็นรถ BIG BIKES ของ YAMAHA
1. ต้องเป็นลูกค้ารถ BIG BIKES ของบริษัท และจะได้เข้าเป็นสมาชิก Riders'club
2. เป็นสมาชิก Riders club เขาจะมีการเอารถไปขี่ออกทริป มีฝ่ายกิจกรรมการตลาดดูแล ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการขี่ลงสนามเช่นไทยแลนด์เซอร์กิต สนามพีระ หรือสนามเซปังประเทศมาเลเซียเวลามีงานแข่ง MOTO GP เวียนมาในเอเชีย ถ้ามีการอบรมเขาจะแจ้งผ่านสมาชิก
3.บุคคลทั่วไป จองครับจองกันยาวเหยียดต้องพยายามถามไถ่กันเรื่อย ๆ เพื่อลงชื่อจองเอาไว้ เพราะคิวอบรมเต็มตลอดปีและมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าสำหรับบุคคลทั่วไป แต่ก็คุ้มสำหรับเงินที่เราจ่ายลงไปเพราะตรงนี้ทุกบริษัทรถไม่ใช่การแสวงหากำไร แต่คนที่มาฝึกอบรมควรผ่านหลักสูตรพื้นฐานของ YAMAHA RIDING ACADEMY ก่อนครับ เนื่องจากมันก็เหมือนหลักสูตร Advance ขึ้นมาแล้ว เพราะยังมีคนอีกจำนวนมากขี่รถมอไซด์ไม่เป็นนะครับ สักแต่ว่าขี่รถได้ เหมือนคนขับรถยนต์อีกจำนวนมากนั่นแหละ สักแต่ว่าขี่รถได้ จำเป็นต้องไปเรียนรู้กันใหม่อีกเยอะครับเพื่อปรับพื้นฐานก่อน แต่ไม่น่ากลัวถ้าเปิดใจพร้อมจะเรียนมันก็เรียนได้ทุกคนนั่นแหละ ขอเพียงลืมสิ่งผิด ๆ ที่เคยขับรถกันมาทิ้งไปเลย





ส่วนใครจะไปฝึกอบรมการขับขี่รถยนต์ของ TOYOTA ก็ต้องดาวน์โหลดใบสมัครจากเวปและก็จองเหมือนกัน คิวเยอะเหมือนกันนะครับ
แต่ไม่ได้จองยาวเหยียดกันจนเกินไป พอจะรอกันได้
ทาง TOYOTA บังคับเรียนหลักสูตรพื้นฐานก่อน หลังจากนั้นจึงผ่านไปเรียนหลักสูตร Advance แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับการขับขี่รถที่จะทำให้เราขับรถได้อย่างถูกต้องมั่นใจและมีความปลอดภัยสูง
ปล. คนส่วนมากก็ขับรถไม่เป็นเหมือนกันนะครับ สักแต่ว่าขับรถได้ ทาง TOYOTA จึงต้องบังคับเรียนหลักสูตรพื้นฐานให้ก่อน เพื่อให้ขับรถให้ถูกต้องควบคุมรถให้ได้จึงค่อยปรับไปหาการควบคุมรถที่ยากขึ้น

แสดงความคิดเห็นย่อย