คำตอบที่ 61
       ในส่วนของ Landcruiser VX 80 VX 100 VX 200 ซึ่งมีทั้ง Diff lock เพลาหน้าหรือเพลาหลังด้วย ก็ได้หรือไม่มีเลยก็ได้ขึ้นอยู่กับอ๊อพชั่นที่ลูกค้าเลือก Landcruiser Prado ก็เช่นกัน

ทั้งนี้เหตุผลของ Fortuner ในไทยคงไม่ใช่เรื่องการออกแบบอย่างเดียว และไม่ใช่เหตุผลที่ฝ่ายเทคนิคพูดบอกไว้ เพราะรถหรูหราก็มีทั้งนั้นไม่น่าจะเป็นเหตุผลหรือยกมาเป็นข้ออ้าง ในการไม่ใส่ Diff lock เข้ามา
แต่น่าจะเป็นเหตุผล

1 ลดต้นทุนในส่วน Diff lock
2 ความจำเป็นในการใช้ เฟืองท้ายเฟืองหน้า ซึ่งมีน้อยหรือไม่มี
3 ตลาดในประเทศไทย (พระเจ้าจอร์จ) ใครก็เข้าใจยาก



ในส่วนของผมเองถ้าเป็น ปิคอัพ Hilux 2.7 4wd ที่ใช้อยู่ผมชอบฟิลลิ่งแบบนี้ กับเฟืองท้าย Limited ในการจับตัว
ซึ่งถ้าเทียบกับเฟืองท้ายธรรมดา แน่นอนว่าผมไม่ได้มีความรู้สึกว่ามันจะให้อะไรที่ดีกว่าการขับรถแบบทั่วไปเลย รู้ึสึกเฉย ๆ
ผมไม่ได้ใช้รถไปลุยหนักมากบ่อย ๆ แต่ใช้งานทั่วไปและบรรทุกผลไม้ ฟิลลิ่งของ Limited ผมและน้องชายชอบการขับขี่รถ 4wd แบบมี Limited slip ชอบเป็นการส่วนตัว ที่ให้ความรู้สึกหนักแน่นกว่า จึงไม่อยากหันไปขับรถแบบ 2wd ที่เป็นเฟืองท้าย ปกติอีก

สำหรับคุณ TAKA vvti ถ้าให้ผมเดาเริ่มต้น เฟืองท้าย Limited ไม่น่าจะใส่กับ 4x2 ได้ (แต่จะลองถามผู้รู้ดูอีกที ว่าใส่ได้หรือไม่)
อีกอย่างทางคุณต้องการใช้ในทางลุยอยุ่แล้ว ไม่ได้เน้นการขับขี่ วิธีที่ง่ายคือใส่ Auto Diff lock เพราะมันใส่กับ 2wd ได้แน่นอนให้กำลังมากกว่าสำหรับการลุย ทางลื่น ฉุดลาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 62
       ข้อเสีย1. การเข้าโค้งจะยากกว่าและต้องระวังมากกว่า เพราะอาจทำให้รถเกิดการ Understeer ได้ง่าย

อ่านส่วนนี้ เหมือน LSD จะทำงานทุกความเร็วนะครับ ผมนึกว่า LSD จะช่วยให้เข้าโค้งได้ดีจากการถ่ายแรงเสียอีก
เพราะส่วนตัวได้ขับรถบนเขาบ่อยๆ แต่เป็นทางดำ ด้วยความเร็วสูงๆ แถวๆน้ำหนาว เขาค้อ แพร่ ลำปาง เชียงใหม่ ส่วนทางลูกรัง ก็มีบ้าง ทางโคลน นานๆทีเวลาหน้าฝนครับ

สาเหตุที่ยังชั่งใจไม่เลือก Auto diff lock เพราะคิดว่า LSD จะทำงานตลอดเวลาและช่วยให้รถเข้าโค้งได้ดีกว่าเฟืองธรรมดา วิ่งทางขรุขระ(ทางหลวงที่พังเต็มประเทศไปหมด)ได้ดีกว่าเฟืองท้ายธรรมดา
ส่วน Auto diff lock หลังจากเร็วกว่า 30 ก็จะเหมือนเฟืองท้ายธรรมดาๆ
คงต้องศึกษาต่อไป รอผู้รู้มาตอบครับ
ขอบคุณครับ

 แก้ไขเมื่อ : 6/12/2554 23:09:14

ไม่ได้เน้นลุยครับ แต่อยากมีไว้ใช้ในยามที่จำเป็นต้องใช้ จาก : taka_vvti(taka_vvti) 6/12/2554 23:06:38 [124.121.67.30]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 63
       ถ้าความเร็วต่ำกว่า 30 เทใจให้ Auto diff lock
แต่เวลาวิ่งเร็วๆ เต๊ดใน 4x4 ทำงานต่างจาก เฟืองท้ายธรรมดาของพรีรันเนอร์อย่างไร ไอ้เจ้าพรีถึงตกถนนบ่อยนัก
เพราะจริงๆช่วงวิ่งเร็วปกติ 4x4 วิ่ง เกียร 2H ก็จะเหมือนขับพรีรันเนอร์ แต่ต่างที่เฟืองท้าย รอผู้รู้ครับ
ขอบคุณครับ

ถามเยอะไปหน่อย แต่อยากรู้ครับ เพราะเพื่อนๆก็ใช้กันหลายคันทั้ง 4x4 พรีรันเนอร์ 4x2 เอาไปแชร์ต่อ อิอิ จาก : taka_vvti(taka_vvti) 6/12/2554 23:15:04 [124.121.67.30]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 64
       ขออธิบายแบบบ้านๆนะครับ ไม่อิงทฤษฎี

รถที่ขับเคลื่อนล้อหลัง ในกรณีเลี้ยวโค้ง ล้อที่อยู่ในโค้งจะหมุนในจำนวนรอบที่น้อยกว่าล้อที่อยู่นอกโค้ง
อย่างเช่นเวลาเลี้ยวขวา ถ้าจะให้ชัดเจนลองนึกถึงกรณีกลับรถ(ยูเทิร์น)
ล้อที่อยู่ในโค้งในที่นี้คือล้อขวา ล้อที่อยู่นอกโค้งในที่นี้คือล้อซ้าย
ในขณะกลับรถล้อขวาซึ่งเป็นล้อที่อยู่ในโค้งจะหมุนเป็นจำนวนรอบน้อยกว่าล้อซ้ายที่อยู่นอกโค้ง

จะเกิดอะไรขึ้น...หากล้อทั้งสองหมุนพยายามที่จะหมุนไปพร้อมกัน
คำตอบคือ ล้อที่อยู่ในโค้ง(ล้อขวา)ก็จะเกิดการขืนเพื่อที่จะหมุนในจำนวนรอบให้เท่ากับล้อที่อยู่นอกโค้ง(ล้อซ้าย)

ดังนั้นผู้ผลิตรถยนต์จึงได้ติดตั้งกลไกลเฟืองท้าย เพื่อปลดการทำงานของล้อที่อยู่ในโค้งให้เป็นอิสระ
ไม่ให้หมุนตามจำนวนรอบของล้อที่อยู่นอกโค้ง การกลับรถหรือเลี้ยวโค้งก็จะทำได้ง่าย ไม่เกิดการขืนกันระหว่างล้อทั้งสองข้าง

ในข้อดีก็ต้องมีข้อด้อย
เมื่อเกิดกรณีรถติดหล่ม ล้อที่ลอยตัวหรือที่มีแรงเสียดทานน้อย ล้อด้านนั้นๆก็เปรียบเสมือนล้อที่อยู่นอกโค้ง
เวลาเหยียบคันเร่งเพื่อดึงตัวเองขึ้นจากหล่ม กำลังทั้งหมดจึงส่งไปยังล้อที่มีแรงเสียดทานน้อยกว่า ก็คือล้อที่ลอยจากพื้นเยอะกว่านั่นเอง
ส่วนล้อที่ติดหล่มก็เปรียบเสมือนล้อที่อยู่ในโค้งจะไม่มีกำลังขับเคลื่อนใดๆส่งไปจึงไม่เกิดการหมุน ทำให้รถจึงติดหล่มอยู่อย่างนั้น

ดังนั้นจึงมีผู้คิดค้นเฟืองท้ายแบบ Limited-Slip ขึ้นมา ชื่อก็บอกตรงๆ ความหมายโดยคร่าวๆก็คือ Limited=จำกัด , Slip=ลื่น
Limited-Slip ก็หมายถึง เฟืองท้ายที่จำกัดการลื่น
กล่าวคือ ในขณะกลับรถกำลังส่วนใหญ่จะส่งผ่านไปยังล้อที่อยู่นอกโค้ง และกำลังอีกส่วนหนึ่งจะถูกส่งไปยังล้อที่อยู่ในโค้งในสัดส่วนเล็กน้อย
ขึ้นอยู่กับการกำหนดว่าจะให้Limited-Slipจับมากหรือน้อย
ถ้าจับมากการขืนของล้อทั้งสองก็จะมากหรือเป็นอิสระต่อกันน้อยลง
ถ้าจับน้อยล้อทั้งสองก็จะขืนกันน้อยลงหรือเป็นอิสระต่อกันมากขึ้น

แล้วควรจะให้Limited-Slipทำงานมากหรือน้อยดีกว่ากัน ก็ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งาน
หากตั้งค่าให้Limited-Slipทำงานมากเกินไปและนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน
การกลับรถหรือเลี้ยวในที่แคบๆก็จะเกิดการขืนกันของล้อทั้งสองข้างมากจนเกินไป
เมื่อกลับรถหรือเลี้ยวในที่แคบๆมักจะได้ยินเสียงยางบดถนนที่เกิดจากล้อทั้งสองพยายามจะหมุนไปพร้อมๆกัน

Limited-Slipมีความสำคัญอย่างไร
ผมขอยกตัวอย่างของการแข่งขัน รถยนต์ในรูปแบบของแรลลี่หรือครอสคันทรี่
เนื่องจากสามารถมองภาพได้ชัดเจนมากกว่าการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ
ลองดูรถยนต์ในขณะแข่งขันที่กำลังสาดเข้าโค้งอย่างรุนแรงแบบขวางลำมาทั้งคัน
พอถึงทางโค้งนักแข่งกดคันเร่ง รถกลับพุ่งไปข้างหน้าอย่างว่านอนสอนง่าย
ทั้งนี้เป็นผลมาจากชุดเฟืองท้ายLimited-Slipที่มีค่าการจับค่อนข้างมากกว่าLimited-Slipที่มาจากโรงงานอย่างแน่นอน
ลองนึกดูนะว่าถ้ารถแข่งคันนั้นไม่มีเฟืองท้ายLimited-Slipจะเกิดอะไรขึ้นและทำไมถึงเป็นเช่นนั้น...
ในขณะที่กำลังเข้าโค้งและขวางลำมาเช่นนั้น แน่นอนว่าแรงเสียดทานที่ล้อแต่ละข้างไม่เท่ากันแน่ๆ
หากถึงจังหวะที่ต้องกระแทกคันเร่งเพื่อให้รถพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างที่ควรจะเป็นนั้น
แรงขับเคลื่อนทั้งหมดก็จะส่งไปยังล้อที่มีแรงเสียดทานน้อย ซึ่งหมายถึงล้อที่ลอยพ้นจากพื้นถนนมากกว่าล้ออื่นๆ
กดคันเร่งไปเท่าไหร่รถก็จะยังไม่ยอมพุ่งไปข้างหน้าจนกว่าล้อทั้งหมดจะแตะถนนครบทุกล้อ
หากโชคดีที่ล้อแตะถนนทันรถก็พุ่งไปข้างหน้าได้ทัน แต่หากล้อแตะพื้นถนนไม่ทัน รถอาจจะเสียหลักลอยตกถนนไปเลยก็ได้
หรือหากรถไม่ตกถนนในขณะที่ล้อลอยและไม่ได้เคลื่อนที่ไปตามทาง เวลาในรถหว่างรอให้ล้อแตะพื้นถนนของแต่ะโค้งที่ขวางลำเข้ามา
เมื่อรวมๆกันแล้วก็อาจจะเป็นหลายวินาทีเลยก็ได้ ซึ่งในการแข่งขันนั้นทุกเสี้ยววินาทีมีความหมายแทบทั้งสิ้น
เพราะหลายๆครั้งการแพ้ชนะกันก็ใช้เวลาต่างกันเพียงเสี้ยววินาทีจริงๆ
ดังนั้นในการแข่งขันการประหยัดเวลาและใช้เวลาน้อยที่สุดจึงเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
ทีมแข่งขันทั้งหลายจึงประเคนสารพัดเทคโนโลยีติดตั้งเข้าไปกับตัวรถ
เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักแข่งให้สามารถทำเวลาในการแข่งขันได้น้อยที่สุดและเข้าเส้นชัยได้โดยปลอดภัย

มาดูทางฝั่งDiff-Lockกันบ้าง
ทางระบบนี้จะแตกต่างกับLimited-Slipก็คือ ในยามปกติเมื่อไม่มีเหตุจำเป็น ระบบก็จะยังไม่ทำงาน
เมื่อเข้ากลับรถหรือเลี้ยวในที่แคบๆ ล้อด้านซ้ายและด้านขวาหมุนเป็นอิสระต่อกัน
ก็คือ กำลังขับเคลื่อนจะถูกส่งไปยังล้อที่มีแรงเสียดทานน้อยกว่า(ล้อนอกโค้ง)
ส่วนล้อที่มีแรงเสียดทานมาก(ล้อในโค้ง)ก็จะหมุนตามเป็นอิสระตามระยะทางจริง โดยไม่ขึ้นอยู่กับจำนวนรอบการหมุนของล้อที่อยู่นอกโค้ง
แต่เมื่อถึงสถานการณ์ที่ต้องการให้ล้อทั้งสองหมุนพร้อมกัน ตัวDiff-Lockก็จะทำการล็อกให้ล้อด้านซ้ายและด้านขวาหมุนไปพร้อมๆกันได้
ซึ่งDiff-Lockก็มีกลไกในการล็อกล้อทั้งสองข้างที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับผู้ผลิตและคิดค้นแต่ละราย ซึ่งจะไม่ขอกล่าวถึงในรายละเอียด

พอแค่นี้ก่อนละกัน พิมพ์เอง อ่านเอง งงเอง ... แหะๆๆ

เข้าใจง่าย ชัดเจนแจ่มแจ้งครับ จาก : taka_vvti(taka_vvti) 8/12/2554 0:27:30 [124.122.22.239]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 65
       อันนี้ก็เป็น Limited-Slip อีกแบบเรียกว่าแบบตัวหนอน (ตัวที่ใส่ใน vigoเป็นแบบครัช)วันก่อนไปเดินแถวๆปทุมวันเลยได้ติดมือมาฝาก"น้องมะลิ"จนได้


จาก TaKa_vvti
Limited-Slip ใส่ในรถขับหลังได้ครับขอแค่ว่าหาtedที่รูตรงกับเฟืองท้ายเท่านั้น เมื่อต้นปีรุ่นน้องผมเอาinnovaไปใส่มาแถวๆแปดริ้ว(แถวๆปทุมวันก็เยอะครับ) จะมีร้านที่ทำอยู่แนะนำว่าเอารถไปด้วยถ้าตกลงกันได้ทางร้านจะประกอบใส่ให้เลย

กระจ่างแจ้งแล้ว จาก : Auto.(Auto.) 7/12/2554 9:06:33 [202.80.239.130] เต็ดก็ส่วนเต็ด อัตราทดก็ส่วนอัตราทดป่าวครับ คนละส่วนกันป่าว จาก : taka_vvti(taka_vvti) 8/12/2554 0:37:17 [124.122.22.239] ^^ ใช่ครับ จาก : j cha(j cha) 8/12/2554 19:43:07 [171.4.77.168] ถ้าอยากใส่แถวปทุมวัน ไปแล้วจะมีของไหมครับ หรือแล้วแต่จังหวะ จาก : taka_vvti(taka_vvti) 8/12/2554 19:51:21 [124.121.13.95]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 66
       อธิบายยังงี้เพื่อให้เข้าใจง่าย

Hilux 2wd และ Hilux Vigo prerunner ใช้เฟืองท้าย Differential หรือที่ผมเรียกว่าเฟืองท้ายธรรมดานั่นเอง
ผมเคยถามสมาชิกที่ทำงาน TOYOTA MOTOR น้ำมันเฟืองท้ายไม่ได้แบ่งขายเป็นกระป๋อง1 ลิตรเหมือน Limited แต่บรรจุมาเป็น ถัง 200 ลิตรเลยทีเดียวให้ศูนย์บริการจำหน่าย เหตุเพราะว่ารถ Hilux 2wd ทั้งหมดทุกรุ่นใช้เฟืองท้ายธรรมดานั่นเองจึงต้องใช้ในปริมาณมาก ลดภาระกระป๋องเพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมถึง Fortuner ทุกรุ่นด้วย ซึ่งน้ำมันเบอร์ 90 แบบนี้ค่อนข้างแพงราคาลิตรล่ะ 300 กว่าบาท แต่ถ้าเราซื้อน้ำมันเฟืองท้าย TOYOTA LIMITED ข้างนอกราคาลิตรล่ะ 180 บาทเท่านั้นเอง



รถ 2 wd เวลาขับเข้าโค้งหรือถนนราดยางปกติที่มีกรวดเม็ดทรายทำให้ลื่น หรือขณะฝนตกถนนลื่น เฟืองท้ายหลังจะถ่ายทอดกำลังไปด้านนึงที่มีความฝืดน้อยกว่าทำให้ล้อข้างนั้นหมุนเร็วกว่า จึงเป็นที่มาของการลื่นไถลของตัวรถ ทีนี้รถสมัยนี้ต่างจากสมัยก่อนเยอะเพราะสมัยก่อนรถมีแรงบิดน้อยไม่ถึง 180 NM แรงม้าก็ไม่เยอะแค่ 90 แรงม้าก็ขับกันสบายแล้ว แต่ถ้าเทียบกับ Vigo Prerunner ในสมัยนี้แรงบิด 343 NM แรงม้า 163 แรงม้าซึ่งมหาศาลทีเดียวแค่กดเร่งลึกไปหน่อยแรงกระทำก็ถ่ายทอดมาสู่ล้อและมันจะถ่ายกำลังลงล้อที่อิสระมากที่สุดก่อนล้อนั้นก็จะหมุนเร็วกว่าจะเริ่มสไลด์ตัวออก ทีนี้เวลาคุณเข้าโค้งหรือเจอทางลื่นก็จะยิ่งสไลด์ตัวได้ง่ายขึ้นเพราะแรงกระทำมันถ่ายไปล้อใดล้อนึงมากกว่าทำให้ลื่น เหตุเราะเฟืองท้ายธรรมดานี้เอง

ดังจะเห็นว่าตอนฝนตกจะเสี่ยงถนนลื่น เราก็เสี่ยงกับการสไลด์ในทางลื่นไปด้วย ตอนออกตัวที่ไฟแดงถ้ากดคันเร่งลึกมากช่วงถนนลื่น เราจะเห็นว่ารถ Prerunner มันหมุนคว้างกันได้
รถ Fortuner 2wd 2.7 ที่มีผู้หญิงขับขึ้นเขาตอนถนนลื่นก็มีอาการเดียวกันนี้ คือกดคันเร่งลึกมากเพื่อจะแซงขึ้นเขา แต่ว่าด้วยถนนลื่นทำให้ล้อใดล้อนึงฟรีมาก จึงสไลด์รถหมุนคว้างบนเส้นทางขึ้นเขานั่นแหละ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 67
       ถ้าเป็นลิมิเต็ด Limited slip เวลาเข้าโค้งหรือถนนลื่นมันจะจับตัวข้างใดข้างนึงเช่นเดียวกับเฟืองท้ายธรรมดาแต่มันมีผ้าคลัทซ์ที่สามารถถ่ายกำลังไปอีกล้อนึงด้วย ช่วยในการแบ่งกำลังการจับ30-50% ช่วยลดอาการฟรีขณะถนนลื่น หรือตอนเข้าโค้งได้ไม่ให้ล้อข้างนึงฟรีมากไปจนอีกข้างนึงสไลด์ออกจากถนน แต่ทีนี้ลิมิเต็ดที่ว่านี้มันทำงานควบคู่ไปกับระบบขับ 4 ล้อ 4wd น่ะครับ ถึงแม้ในรถกระบะจะเป็นการขับแบบ part time แต่อย่าลืมว่ารถ 4wd นั้นมีชุดทรานเฟอร์หน้าควบคุมเป็นจุดยึด การขับขี่การควบคุมรถยังไงก็เหนือกว่ารถที่เป็น 2wd เพราะฉะนั้นเวลาเลี้ยวโค้งถนนจะควบคุมยากกว่า 2wd แต่มันก็ป้องกันการสไลด์ได้ดีแถมยังสามารถควบคุมรถไม่ให้เสียการทรงตัวดึงรถกลับมาได้ คือรถที่มีระยะความสูงเท่ากันอย่าง Prerunner 4wd แน่นอนว่าการทรงตัวและการควบคุมรถ 4wd ย่อมดีกว่า


ปสก. ตรง ๆ เลยตอนที่ผมซื้อรถมาใหม่ ๆ Fortuner 4x4
1. แอบดูสาวคาราโอเกะข้างทาง ตอนขับรถ รถนั้นพุ่งจะไปชนกับคันนหน้า ผมหักพวงมาลัยหลบกลับไปกลับมา 3 ครั้ง เพื่อหลบรถ ปรากฎว่าคุมรถได้หมด รถไม่คว่ำ ไม่ไสลด์ วิ่งได้นิ่งๆ กับยางเดิมติดรถ แม้มีอาการโคลงบ้างแต่ไม่มีอุบัติเหตุ

2. ขับกลับบ้านถนนราดยางกำลังซ่อมทางที่บางนาตราด ถนนลื่นแบบสุด ๆ ประกอบกับมีฝนตกด้วย ทางผิวต่างระดับกันมาก
รถมาด้วยความเร็วไม่สูงนัก 60-80 แต่ล้อหน้ารถเจอทางต่างระดับรถนั้นแฉลบเสียการทรงตัวไปแล้ว แต่ผมดึงพวงมาลัยรถกลับมาได้เพื่อใม่ให้รถฟาดกับขอบทางปูนบนถนนบางนาตราด ผลคือดึงรถกลับมาได้ รถไม่คว่ำ ไม่เกิดอุบัติเหตุ ใดใด รอดตายแบบฉิวเฉียด

3. มีรถเก๋งแลนเซอร์ ขับขวาต้องการวัดใจกับเราบนถนนบางนาตราด ผมเบนออกข้างซ้ายปาดกลับเข้าขวารถปกติไม่มีอะไร แต่โคลงตามประสาฟอร์จูเนอร์ทีใช้โช๊คเดิมยางเดิม
แต่ Mitsu LANCER ทำมั่ง ผลคือหน้ารถแฉลบด้านขวาฟาดกับขอบทางปูน ผมมองกระจกหลังรถมันจอดนิ่งสนิท
ตั้งแต่นั้นมาผมนึกในใจไม่กล้าขับแข่งกับใครแบบนี้อีก เวรกรรม !!!!!

4. ตอนทดสอบการจูนแก๊สกับช่าง เจ วิ่งบนถนนบางปะอิน เชียงรากน้อย กดคันเร่งความเร็ว 160 km/h รถนิ่งไม่ออกอาการหวิวแบบน่ากลัว
แต่รถ Fortuner 2wd ไม่เป้นแบบนี้ รถเริ่มไม่นิ่ง จริงไหมครับ และสมาชิกทที่ไปติดแก๊สกับช่างเจรถ 2.7 ปิคอัพ 2wd ช่างเจก็ไม่กล้าให้ขับจนหมดคันเร่งเพราะรู้ว่าเจ้าของรถควบคุมรถไม่ได้



เพราะฉะนั้นตอนที่มีคนถามผมว่าซื้อ Fortuner 2wd ดีไหม ผมก็บอกไปตามที่ผมคิดว่าเลือกได้เอา 4wd แต่จะเชื่อหรือไม่ไม่เป็นไร เพราะเงินของท่าน ชีวิตของท่าน ครอบครัวของท่านทั้งนั้น
แต่ถ้าให้ผมซื้อและขับ ผมก็เลือกซื้อแบบนี้แหละ ไม่กล้าขับ 2wd ยกเว้นใช้ในเมือง แต่คำว่าใช้ในเมือง ต้องนิยามก่อนว่าหมายถึงอะไร
ในเมืองหมายถึงใช้ในเมืองใหญ่ ใช้เป็นรถ 7 ที่นั่ง ขับความเร็วไม่สูงนัก ไม่ไปใช้ออกต่างจังหวัด ไม่ท่องเที่ยว นอกเมือง หรือเอาไปขึ้นเขาแม้แต่ทางเรียบก็ตาม แบบนี้ผมจึงเรียกว่าในเมือง ซึ่งคนล่ะความหมายกับคนที่ซื้อรถ ขับ 2wd ยกสูงแล้วบอกใช้ในเมือง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 68
       ส่วน Fortuner 4wd fulltime ที่ต่างกันแม้เป็นเฟืองท้ายธรรมดาคือ

1. มีระบบ 4X4 Fulltime
2.มีเพลาหน้า
3.สปริงต่างกัน ตามระบบรองรับน้ำหนัก
4. มีลิมิเต็ด Limited Torsen ที่เพลากลาง

ถึงแม้เป็นเฟืองท้ายธรรมดาก็จริงสำหรับ Fortuner แต่ยังมี Limited torsen ที่เพลากลางทำหน้าที่ถ่ายทอดระบบกำลังไปทั้ง 4 ล้อ แม้ล้อใดล้อนึงจะฟรีในเวลาเข้าโค้งแต่อย่าลืมอีก 3 ล้อที่เหลือ รวมล้อหน้า ยังสามารถหมุนขับไปได้มีการถ่ายทอดกำลังไปได้ เพื่อช่วยในการควบคุมรถ
ซึ่งจะต่างจาก 2wd แม้เพลาหลังจะพอควบคุมได้ แต่อย่าลืมว่าล้อข้างหน้า 2 ล้อของคุณไม่มีอะไรควบคุมเลยนอกจากระบบบังคับเลี้ยว


ในระบบนี้จะมีการพัฒนาในส่วนของรถเก๋งที่ไม่ได้เน้นลุยออฟโรดอย่าง CRV Captiva ที่มีระบบขับเคลื่อน 4 wd แบบ Real time
คือสามารถถ่ายทอดกำลังไปได้ 4 ล้อจริง แต่เวลาขับขี่ปกติก็ตัดกำลังตรงส่วนไม่จำเป็นออก เพื่อให้ขับ 2 ล้อหน้าเพื่อการประหยัดน้ำมัน
ตอนผมถามพี่ที่ทำงานที่ขับ Crv ว่าระบบ 4wd มันทำงานบ่อยไหม เขาก็บอกว่าเมืองไทยน่าจะบ่อย เพราะถนนมันไม่ดี มีกรวดทราย มีการลื่นตลอด
รถในญี่ปุ่นแบบนี้ก็เป็น 4wd ทั้ง Nissan march ที่ผลิตจากโรงงานในไทย รวมถึง CRV ตัวนอกก็จะเป็น 4WD และก็รถตู้ TOYOTA Grandvia ก็เป็นระบบ 4wd เช่นกันเพื่อป้องกันการลื่นไถล

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 69
       รอเพื่อนเอารูปให้ดูครับ เพื่อนผมแจ้งว่าเทียบเสปกในรูป Ford NEW Ranger 2012 ออสเตรเลียกับ ฟอร์ด 3.2 ที่ขายในบ้านเราแล้ว
ตอนนี้ Ford ที่ขายในบ้านเราตัว TOP ตัดอ๊อพชั่น Diff lock ไฟฟ้าล้อหลังออกไปแล้วนะครับ
ใครจะไปจองรุ่นนี้ไปถามไถ่เซลกันให้ดี ว่าทำไม เพราะอะไรจึงตัดอ๊อพชั่นในไทยออก

spec ไม่เหมือน ออสเตรเลียนะครับ ดูให้ดี

สเปก ford ปัจจุบันมี Diff lock ไฟฟ้าครับ ไม่ได้ตัดออกครับ จาก : mod7723(mod7723) 15/12/2555 2:17:26 [171.100.235.83]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 70
       ข้อมูลชัดเจนดีครับ
ถ้าเราได้เต๊ดที่เฟืองตรงกันกับรถแล้ว อัตราทดเฟืองท้ายก็คนละส่วนใช่ไหมครับ เพราะอยากไปปรับอัตราทดด้วย ใส่ยาง 31 อืดมาก
หลังวันหยุดยาวคงจะไปเปลี่ยน คงต้องได้รบกวนผู้รู้ชี้แนะอีกที
หยุดยาวขอไปลุยเชียงใหม่ก่อน อิอิ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 71
       เพื่อนผมส่งรูปให้ดูแล้วนะครับ ตัว 3.2 ลิตร 4x4 โปรดสังเกตุภาพนี้ จะมีปุ่ม Diff lock ไฟฟ้าเพลาหลังอยู่ด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 72
       ลองสังเกตุภาพนี้อีกครั้ง ตัวที่โชว์ในงาน MOTOR EXPO เวลานี้ ไม่มีปุ่ม Diff lock ไฟฟ้าแล้วนะครับ
คนที่จะไปซื้อก็ตรวจสอบเงื่อนไขตรงนี้ให้ดีก่อน ว่าทำไม FORD จึงตัดอ๊อพชั่นออกไม่เหมือนกับตัวในออสเตรเลีย

คนที่ซื้อฟอร์ดไม่ได้ซื้อเพราะว่ารถราคาถูก แต่เขายอมจ่ายเพื่ออะไร กับฟอร์ด ที่ฉีกหนีคู่แข่งความเป็นรถตลาดออกไป และให้ได้อ๊อพชั่นที่มากกว่าคู่แข่ง ราคาสมเหตุผล
ฟอร์ดจะทำเหมือน TOYOTA FORTUNER หรือเปล่า ที่โดนตัด DIFF LOCK ไฟฟ้าออกไปด้วย มันหาใส่ทีหลังไม่ได้น่ะครับ

ก่อนซื้อก็เช็คเงื่อนไขกันดี ดี ๆ ว่าอ๊อพชั่นเหมือนในออสเตรเลียหรือเปล่า เพราะรถน่ะแพงพอสมควร จะถูกยอมให้เขาตัดอ๊อพชั่นออ น่าเจ็บใจน่ะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 73
       จาก TaKa_vvti
เอาบทความดีๆ จาก www.thailandoffroad.com ของ น้าหมู(บิ๊กฟุ๊ต) มาฝากครับ
http://www.thailandoffroad.com/champ/champboard/question.asp?page=1&id=151

ขอบคุณครับ จาก : taka_vvti(taka_vvti) 9/12/2554 16:25:11 [101.109.36.53]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 74
       วันไหนถ้าจะไปเปลี่ยน
จะรบกวนคุณ j-cha ไปช่วยดู ได้ไหมครับ

ให้โทรหาTOP(อีกแล้ว)เพราะจะลงมาเปลี่ยนที่ กทม.อยู่พอดี จาก : j cha(j cha) 9/12/2554 18:15:39 [171.4.77.168]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 75
       เกือบทุกวันขับรถใช้งาน ใช้เกียร์ LL เกียร์ A/T อยุ่ที่ตำแหน่ง 2 หรือ L เจอปัญหาว่าวิ่งข้ามร่องน้ำแล้วล้อฟรี ส่วนใหญ่จะเจอล้อหน้าเพราะล้อหน้าลงพื้นร่องไปก่อน ล้อหลังจะยกลอยขึ้น 1 ล้อ ส่วนมากเป็นล้อหลังซ้ายครับ ปัญหาที่เจอคือขณะวิ่งข้ามร่องระบายน้ำล้อหน้าขวาหมุนฟรีถ้าเผลอตัวกดคันเร่งแรงเมื่อไหร่ปั่นดินกระจายขึ้นเต็มรถกับซุ้มล้อ ต้องถอยหลังเทสต์ตัวขึ้น 1 -2 ครั้งจึงผ่านอุปสรรคไปได้ แต่ไม่เคยเทสต์ถึงครั้งที่ 3 นะ แค่ไม่เกิน 2 ครั้งก็วิ่งข้ามได้แล้ว
เครื่องมันเงียบเวลารอบเครื่องยนต์ต่ำ ทำให้ช่วงติดหล่มเราไม่รู้ตัวว่าติดหล่มเผลอกดคันเร่งมากเกินไปเป็นประจำเลยซัดดินกระจายออกมา แรงบิดเครื่อง 2.7 ที่ 241 นิวตันเมตร เหลือเฟือสำหรับการใช้งาน แต่ปัญหาที่ล้อติดหมุนฟรีทั้งล้อหน้าขวาและล้อหลังขวาในบางครั้งหรือเกือบทุกวันที่ใช้งานขณะนี้น่าจะเป็นที่ ล้อหลังเราไม่มี Limited หรือ Diff lock ไฟฟ้าช่วยอะไรเลย ( Fortuner เป็นเฟืองท้ายธรรมดา)
ส่วนล้อหน้าก็เช่นกันลงไปทีติดหล่มที ติดทุกครั้งเลย เพราะเฟืองหน้าเป็นเฟืองธรรมดาเช่นกัน ไม่มี Diff lock ไฟฟ้า

แต่ก็อย่างที่บอกคือ ต้องถอยหลังเทสต์ตัวขึ้น 1 -2 ครั้งจึงผ่านอุปสรรคไปได้ แต่ไม่เคยเทสต์ถึงครั้งที่ 3 นะ แค่ไม่เกิน 2 ครั้งก็วิ่งข้ามได้แล้ว ถ้าติดหล่มก็ไปทำงานไม่ทัน แต่ก็ผ่านไปได้ไม่ยากเกินไปนัก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 76
       นี่รูปดินกระจายเต็มล้อหน้าขวา กลับบ้านไปล้างรถทุกวันล้างตรงซุ้มล้อหน้าขวากับหลังขวานี่แหละเพื่อเอาคราบโคลนออก
ทำแบบนี้ตลอด 4wd LL ใช้แทบทุกวันเพราะพาสเข้าที่ทำงาน ไม่งั้นฝ่ารถติดมาก

คนแถวนี้กับคนรถ พ่วง ของกรุงเทพอาหารสัตว์เห็นประจำ Fortuner สีขาวคันนี้ มันขับข้ามมาทุกวัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 77
       เอาความแตกต่างมาดูกันครับ

แต่ว่าต้องตัดในส่วนของเรื่องน้ำมันเฟืองท้ายออกนะครับ เพราะว่าราคาน้ำมันเฟืองท้ายเท่ากันไม่ว่าคุณจะใช้เฟืองท้ายแบบไหน
น้ำมันเฟืองท้ายเบอร์ 90 แบบธรรมดา ราคาลิตรล่ะ 200 มี + - ซื้อข้างนอก ถ้าในศูนย์โตโยต้า 395 มี + -
น้ำมันเฟืองท้าย Limited slip 85w-90 Hipoy ราคาลิตรล่ะ 180-200 บาท ถ้าในศูนย์ลิตรล่ะ 405 บาท
คือพูดง่าย ๆ ว่าใครเปลี่ยนมาใช้ Limited slip ราคาน้ำมันเฟืองท้ายก็ไม่ได้มีความแตกต่างกันเลย คือถูกแพงเหมือนกันทั้งคู่ ไม่ต้องใส่ใจ
ราคาน้ำมันเฟืองท้ายธรรมดาเบอร์ 90 ก็แพงเท่ากัน อย่าไปสนใจมัน


รายละเอียดด้านอื่น ๆ ที่ต้องใส่ใจคือ Limited มันทำให้การวิ่งขณะเลี้ยวโค้งดีขึ้น อย่างที่คุณเอ หรือคนอื่น ๆ ซื้อ Hilux 2.7 G 4x4 4wd ไปใช้กันเอารถวิ่งในเมืองไปขายเสื้อผ้า ถึงแม้จะไม่เคยลุย off road อะไรก็ตามก็บอกว่ารถวิ่งดีประทับใจในฟิลลิ่งของรถ 4wd เป็นอย่างมาก เพราะการเลี้ยวโค้งจะยากกว่าจะจากออก ฟิลลิ่งจะแน่นกว่าเฟืองท้ายของรถ 2wd
แต่ถ้าเป็น Auto diff lock ฟิลลิ่งที่ได้ก็เหมือนรถปกติ 2wd แต่ว่าจะได้เรื่องการฉุดลากกำลังในทางลื่นจะไม่หมุนฟรี

ไม่รู้จะใส่อันไหนดี หรือจะไม่ใส่ดี เลือกเอาตามความเหมาะสม
http://www.weekendhobby.com/thai2market/Question.asp?ID=31854&group=offroad

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 78
       เอาภาพเรื่องการใช้เกียร์ 4WD สำหรับ Fortuner มาฝากกันครับ


แล้วถ้าคุณตอบคำถามตัวเองว่ารถ Fortuner เขาออกแบบมาเพื่อเป็นรถ 4wd หรือ 2wd ถ้าเข้าใจรถก็จะเลือกซื้อได้ประโยชน์สูงสุดถึงแม้จะไม่ขับขี่รถไปในทางออฟโรดก็ตาม แต่ก็จะได้ประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยสูงสุดของการใช้งาน รถแบบนี้




ความหมายของคนถามผมหลายท่าน ทำให้ผมเกิดความเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนกับคนที่เคยถามมาหลายครั้ง คือ ตีความหมายว่าขับในเมืองหมายถึง ขับบนถนนลาดยาง หรือทางลูกรังปกติ
ขับนอกเมืองหมายถึงการขับขี่ออฟโรด ทางวิบาก



แต่ที่จริงแล้วความหมายแท้จริงคือ
การขับขี่ในเมืองคือในเมืองจริง ๆ เมืองใหญ่ใช้ความเร็วไม่สูง รถติด
นอกเมืองหมายถึงทาง Highways ขับขี่ทางลาดยางด้วยความเร็วสูง 120 km/h ขึ้นไป
ทางออฟโรดคือการบุกตะลุยบนหิมะ ทางทราย หรือโคลน การใช้โซ่พันล้อ ซึ่งในคู่มือ Fortuner ได้บอกถึงรายละเอีดยการขับขี่บนเส้นทางหิมะการใช้ยางลุยบนถนนหิมะอยู่แล้ว รวมถึงการขับขี่ทางทุรกันดาร ฝุ่นโคลน ทางวิบากอื่น ๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 79
       ถ้าเป็น H จะใช้ในการขับขี่ปกติ
แต่ถ้าเป็น HL จะใช้สำหรับช่วงฝนตกทางลื่น


ถ้าคุณคิดว่ารถคันนึงคุณซื้อมาไม่ออกไปไหนเลย ในช่วงฝนตกหรือไม่มีโอกาสเจอถนนลื่นเลยในชีวิตของการขับรถยนต์ ระบบ 4wd fulltime ก็ไม่จำเป็นต้องใช้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 80
       ส่วน LL จะใช้สำหรับ การขึ้นเขา ลงเขา ลงเนินชัน ขับขี่ในทางวิบาก การลากจูงรถสำหรับพื้นทราย โคลน การใช้กำลังฉุดลากมากกว่ารถปกติ



เห็นแบบนี้แล้วเข้าใจหรือยังครับว่า ถึงแม้คุณจะซื้อ Fortuner ไม่ได้เอาไปขับขี่ทางออฟโรดหนัก ๆ อะไรที่ไหนก็ควรเลือกเป็นรุ่น 4wd เพราะจะได้ประสิทธิภาพสูงสุดของการใช้งาน ในการขับขี่แต่ล่ะเส้นทาง เพราะคุณต้องใช้รถในการขับขี่เส้นทาง ขึ้นเขาลงเขา ขึ้นลงสะพาน ฝนตก คุณต้องใช้มันทั้งนั้น เพียงแต่ไม่มีคนสอนฝึกการขับรถยนต์ในแต่ละรุ่นให้คุณเท่านั้น คนส่วนใหญ่ก็เลยไม่รู้จักว่าจะใช้งานรถยนต์คันนึงให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยสูงสุดต้องทำอย่างไรบ้าง ( หลายคนมีรถยนต์คิดแต่ว่าขับเป็นอย่างเดียวก็พอ )

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 81
       เมื่อวานไปซื้อน้ำมันเฟืองท้ายมาแล้ว สำหรับคนที่ใช้น้ำมันเฟืองท้ายแบบธรรมดา Differential คือรถ 2wd เฉพาะ Hilux Vigo รุ่นอื่นไม่เกี่ยว
แล้วก็รถ Fortuner ทั้งแบบขับ 4wd 2wd ตามคู่มือระบุ GL-5 ไฮปอยด์ เบอร์ 90
ผมซื้อมาแล้วเป็นของ ปตท. ตรงตามรุ่นและเบอร์ ราคากระป๋อง 1 ลิตร = 100 บาท
ซื้อ 3 กระป๋อง = 300 บาท
ราคา 3 ลิตร 300 บาท ยังถูกกว่าใช้ของศูนย์ที่เกรดเดียวกันเลย เพราะของศูนย์มาจากถัง 200 ลิตร เติมให้เราคิดราคาลิตรล่ะ 395 บาท แน่ะ

ก่อนซื้อต้องเช็คให้ดีนะครับเพราะว่าของมีหลายแบบ น้ำมันเฟืองท้ายแบบธรรมดาใช้ของยี่ห้ออะไรก็ได้ ไม่เหมือนเกียร์ออโต หรือเฟืองท้าย Limited พวกนี้ผมระบุให้ต้องใช้ของ TOYOTA เท่านั้น
ส่วนเฟืองท้ายแบบธรรมดาใช้ต่างยี่ห้อได้ไม่มีผล เพียงแต่ว่า ห้ามใช้ผิดเบอร์ ตามคู่มือระบุ GL-5 ไฮปอยด์ เบอร์ 90 ก็ต้องเป็นเบอร์นี้
ข้างนอกมีหลายเบอร์ คือเป็น 90 ก็จริงแต่เป็น GL-1 แบบนี้ก็ไม่ใช่นะครับ
หรือเป็นแบบ 75w-90 แบบนี้ก็ไม่ใช่น่ะครับ เพราะเป็นแค่น้ำมันเกียร์ธรรมดาอย่างเดียว แต่นำมาใช้กับเฟืองท้าย Diffrential ไม่ได้
ต้องเป็น ตามคู่มือระบุ GL-5 ไฮปอยด์ เบอร์ 90 สำหรับเฟืองท้าย ก็ต้องเป็นเบอร์นี้เท่านั้น ราคาลิตรล่ะ 100 บาท ลองไปหาซื้อกันเองน่ะครับ สำหรับชาว Hilux Vigo 2wd และ Fortuner

รูปเดี๋ยวมีเวลาลงให้ดู

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 82
       รูปด้านหลังระบุชัดเจน GL-5 ไฮปอยด์ เบอร์ 90 ใช้สำหรับเฟืองท้ายที่ต้องรับแรงกดเป็นพิเศษ


เพราะฉะนั้นจะไปเอาน้ำมันเกียร์ธรรมดา 75w-90 มาใช้ไม่ได้
หรือจะไปเอาเบอร์ 90 เฟืองท้ายทั่วไปมาใช้ก็ไม่ได้

รูปด้านหลังกระป๋องเดี๋ยวมีเวลาลงให้ดู

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 83
       ในคู่มือ ระบุแบบนี้ GL-5 ไฮปอยด์ เบอร์ 90
ซึ่งถูกต้องตรงตามเบอร์ที่กำหนดในการใช้งานทุกประการ
ราคาลิตรล่ะ 100 บาท คุ้มค่าคุ้มงานนาน
ผิดกับของศูนย์ราคาลิตรล่ะ 395 บาท แยกจากถัง 200 ลิตร แพงชิป

แก้ไขน่ะครับ ราคาในศูนย์ 298 บาท แต่ว่าต่อ 1 ลิตรหรือ / 3 ลิตรไม่แน่ใจ รบกวนช่วยเช็คกันหน่อย


รูปเดี๋ยวมีเวลาลงให้ดู

 แก้ไขเมื่อ : 23/2/2555 9:38:10

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 84
       ใครก็ได้ตอนเช็คระยะ 40,000 80,000 120,000 สำหรับรถ Vigo 2wd และ Fortuner ทุกรุ่น

ช่วยดูราคาน้ำมันเฟืองท้าย ในศูนย์ให้หน่อยว่าราคาเท่าไหร่
เป็นราคา 298 บาท / 3 ลิตร
หรือว่าเป็นราคา 298 บาท / 1 ลิตร

เพราะถ้าเป็น 298 บาท 3 ลิตร เที่ยวหน้าจะไม่ซื้อของ ปตท. เข้าไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 85
       ขุดกระทู้นี้ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะคนที่ใช้รถ PPV บ้านเราหลายคนเริ่มเห็นปัญหาแล้ว

เนื่องจากทั้ง Fortuner Pajero sport ในรถที่ขายในบ้านเราพบปัญหาเดียวกัน คือเฟืองท้ายเป็นดิฟเฟอรเรนเชี่ยล ไม่มี Limited หรือ Diff lock ไฟฟ้าแบบเดียวกับรถส่งนอกที่เป็นคนล่ะมาตรฐานกัน ทำให้หลายคนเอารถไปใช้งานแล้วพบปัญหาไม่ได้เป็นที่หวังไว้คือการขับขี่ปกติทั่วไปช่วงทางลื่นบางทีล้อจับไม่อยู่ อาการล้อไม่จิกพื้นข้างใดข้างนึง ซึ่งเป็นอาการของเฟืองท้าย Differential ออกตัวแรง ๆในทางลื่นเหมือนข้างนึงจะลอยขึ้นถ้าหักเลี้ยวโค้งรถ ถ้านำไปใช้ในทางออฟโรดหรือทางวิบากแม้จะปรับอัตราทดเกียร์เป็นแบบ 4wd ที่เกียร์ LL รถมีกำลังมากแต่ล้อฟรีทั้งหน้าและหลัง เมื่อวิ่งทางวิบากล้อจะจมลงกับพื้นไม่ส่ายหรือสะบัดเพื่อดิ้นผ่านอุปสรรคแต่กลับฟรีทิ้งอยู่กับที่ทำให้รถไม่ไปไหน


หน้าตาของเฟืองท้ายแบบ Differential ที่ใส่อยู่ในรถ PPV บ้านเรา จะไม่มีอะไรเลยในเฟืองท้าย ว่างไป
เครดิตภาพโดยคุณเล็ก
http://www.weekendhobby.com/offroad/mitsubishi/Question.asp?ID=20298>

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 86
       ใน Pajero sport คันนี้เขาแก้ด้วยการไปใส่ Auto Diff lock เพิ่มเติม เนื่องจากเขาไปเจอปัญหาเวลาวิ่งออฟโรดแล้ว รถมีปัญหาอย่างที่บอก
http://www.weekendhobby.com/offroad/mitsubishi/Question.asp?ID=20272>

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 87
      

http://www.triton4x4club.com/webboard/index.php?topic=7878.0

ผมเพิ่งรู้นะว่า Triton รุ่นส่งนอกใช้เฟืองท้ายแบบ Air locker ไปแล้ว แถมราคาที่ขายกันในเวปไม่แพงด้วย 25,000 บาท คานทั้งเส้น
ของ Vigo Fortuner Diff lock ไฟฟ้าแพงมากและหาของยากมาก ( แถมหาไม่ได้ด้วยในเวป Vigo )

ส่วนของผม Fortuner 2.7 4x4 ผมคิดแล้วคงจะเอา Limited มาใส่ เพื่อแก้ปัญหาอาการของรถที่เฟืองท้ายหลังมันฟรีตัวเกินไปในทางเรียบและทางออฟโรด ล้อมันไม่ค่อยจับในแบบที่ต้องการเอาลิมิเต็ดมาแก้ปัญหานี้ เพราะไม่ต้องดัดแปลงอะไรเอามาใส่ได้เลย
ส่วน Diff lock ไฟฟ้า พอหาของได้แล้วรวมค่าใส่ 30,000 บาท ปัญหาอยู่ที่เงินตัวเดียวครับ สู้ราคาไม่ไหว อย่างอื่นไม่มีอะไร
คาดว่าจะใช้ Limited แก้ปัญหาอาการที่พบได้ น่าจะพอเพียงแค่ตรงนี้ ฟิลลิ่งการขับขี่จะได้ดีขึ้นด้วย


เรื่องพวกนี้อยู่ที่คนใช้รถน่ะครับว่าจะเห็นปัยหาหรือไม่เห็น เพราะขับเองอยู่ทุกวัน
ก็อย่างที่บอกเมืองนอกไปไกลแล้วเฟืองท้ายใช้ Air locker เป็นอุปกรณ์มาตรฐานรถส่งนอก (ผมล่ะงง ชิปหาย ) Diff lock ไฟฟ้าเป็น option รถส่งนอกของ Vigo Fortuner
แต่บ้านเราคนยังเลือก PPV กับปิคอัพยกสูงขับ 2wd ล้อกันอยู่เลย ใครเลือก 4wd ก็ถูกตัด Option ออกไปอีก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 88
       http://www.weekendhobby.com/offroad/mitsubishi/Question.asp?ID=20272

Auto diff lock ถึงแม้จะให้กำลังเยอะแต่มีจุดอ่อนตรงที่ไม่ได้ทำงานทันที แต่ต้องรอให้หมุนต่างกัน 100 rpm ฟรีเสียไป 1 จังหวะก่อนแล้วมีเสียงตึกนิดนึงเพื่อให้รู้ว่า Diff จับเพลาข้างเท่ากันทั้ง 2 ล้อแล้ว เวลาเข้าหรือปลดไม่สามารถสั่งการได้ด้วยมือแบบ switch ไฟฟ้า เป็นข้อเสียเวลาต้องการใช้งานทันท่วงทีหรือตอนที่ต้องการปลดหลังจากผ่านอุปสรรคต้องรอให้รถวิ่งเกิน 30 km/h จึงปลดล็อค
ข้อด้อยตรงนี้ทำให้คนเล่นรถบ้านเราไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่นัก

เครดิตภาพคุณเล็ก pajero sport ที่เปลี่ยนเฟือง differential มาเป็น Auto Diff lock

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 89
       http://www.youtube.com/watch?v=vmqermorvS0>
ผมเอาคลิป YOUTUBE ให้ดูและซึ่งคลิปนี้คนด่า Chev หลายอย่าง เรื่องการทดสอบ Trablazer ไม่ยุติธรรม แต่ถ้าเปิดใจดูก็จะเห็นเลือกเอาเฉพาะส่วนไม่ดีมาปรับปรุงแก้ไข มากกว่าจะด่ากันไปด่ากันมาไม่มีประโยชน์แล้วจะไม่เห็นหรือยอมรับข้อด้อยของตัวเอง
จะพูดในส่วน Fortuner 4wd full time เพราะผมใช้รถคันนี้อยู่ตลอด คำพูดที่เห็นในคลิปจริงแท้แน่นอน.......100% สำหรับ Fortuner ในส่วนของการส่งกำลังช้า การตอบสนองช้าในการขับขี่ทางปกติ และล้อฟรีในหลายจังหวะถ้าเอาไปใช้ออฟโรดเพราะเฟืองท้ายไม่มีการส่งถ่ายกำลังอย่างเหมาะสมในสภาพเส้นทางที่เปลี่ยนไป ส่วนเรื่องไม่จริงก็คือการกินน้ำมันที่ Fortuner 4wd fulltime กินน้ำมันน้อยกว่า Pajero sport part time ผมยืนยันคำเดิมจากคำพูดฝ่ายเทคนิครถยนต์ของโตโยต้าเอง Fortuner ออกแบบมาเป็น 4wd fulltimeในการขับขี่ถนนทั่วไป ส่วนในเมืองไทยโตโยต้าวิจัยออกมาแล้วว่าลูกค้าในไทยไม่ได้เน้นการขับขี่ออฟโรดทางโตโยต้าจึงไม่ใส่ระบบ Diff lock หรือ Limited ที่ช่วยในการขับขี่ทางวิบากมาให้รถมีแรงม้าสูงจริงแต่ก็ฟรีทิ้งไปซะมากกำลังได้ไม่เต็มที่ รถถึงมีแรงม้าสูงแต่แรงม้าที่ลงล้อมันสูญเสียไปกว่าจะส่งลงล้อทั้ง 4 ล้อ ตัวเลขแรงม้าจึงเป็นการโชว์กันทางการตลาดมากกว่า
รถ PPV ที่ออกมารุ่นแรกในบ้านเราทั้งหมดทุกยี่ห้อต่างเจอปัญหาเดียวกันคือเฟืองท้ายเป็น Differential ไม่มีค่ายใดใส่ระบบอื่นมาให้ เป็นข้อด้อยที่หลายคนที่ใช้รถแบบนี้อยู่เอาไปปรับปรุงกัน สิ่งที่เห็นคือ Fortuner แม้แต่ในรุ่น2wd มีคนเอาไปใส่ Limited กันบ้างแล้วนอกเหนือจากการใส่ Auto Diff lock เพราะ Auto Diff lock มีข้อด้อยเป็นปัญหาดังคำตอบก่อนหน้านี้ ส่วน Pajero sport ผมไม่เคยเอาไปขับออฟโรดเลยไม่ทราบว่าเป็นข้อด้อยอย่างที่เค้ากล่าวหากันหรือเปล่า แต่คนใช้ Pajero sport เค้าก็คงเห็นข้อด้อยจึงเอาไปแก้ไขเฟืองท้ายกัน

บางคนบอกว่าถ้ามีรถเป็นล้านไม่เอามาลุยแบบนี้หรอก ไปหากระบะมาดีกว่า ทั้งที่จริงรถ Fortuner Pajero sport หรือ ปิคอัพ 4x4 ในเมืองนอกเค้าต้องซื้อรถแบบนี้ไม่ซื้อขับ 2wd เพราะเขาเอาไว้ใช้งานกันจริง ๆ Fortuner เป็นเพียงรถคันนึงเท่านั้นที่ใช้ในทางทุรกันดาร ไม่ใช่เอาไว้วิ่งในเมืองอย่างเดียว ในต่างประเทศความนิยมรถปิคอัพ 2wd กำลังน้อยลงแต่หันไปเลือก 4wd 4 ประตูกันแทนเพราะเขามองเป็นรถเอนกประสงค์อีกคันที่ใช้งานได้คุ้มค่า ผมได้ฟังเรื่องแบบนี้มาก็มากเพราะผมขับ Fortuner ไปออฟโรดท่องเที่ยว และคงหาคนทำแบบผมน้อยเต็มที เรื่องพวกนี้ผมจึงได้ยินบ่อย ๆ
ความจริง........รถกะบะเดี๋ยวนี้ราคาแตะหลักล้านเกือบทั้งนั้นเพียงแต่เค้ากดราคาเอาไว้ไม่ให้ถึงล้าน ด้วยการลดอ๊อพชั่นลงไปให้น้อยกว่าตัวส่งนอกเพื่อกดราคาเอาไว้ไม่ให้ถึงล้านบาทเท่านั้นเอง กระบะบ้านเราตอนนี้ไม่ใช่ถูก ๆ แพงมากส่วนรถที่เอามาวางคานกันอาวุธครบ ๆ จ่ายมากกว่า 5 แสน บางคนเล่นไป 7 แสน ล้านก็มี มากกว่านี้ก็ยังมี เอารถราคาขนาดนี้ไปลุยควรใช้คำนี้กับเค้าด้วยหรือไม่
อีกทั้งคนจ่ายเงินซื้อ PPV หลักล้านบาทบอกไม่กล้าเอาไปลุย บอกว่าบ้าหรือเปล่าเอารถราคาหลักล้านไปลุย
แต่คนซื้อ PPV หลักล้านบาทเอาไปลุย บอกคนซื้อ PPV 2wd บ้าหรือเปล่า จ่ายเงินไปเป็นล้านบาทได้รถใช้การอะไรไม่ได้เต็มที่ อ๊อพชั่นหายไปหมด ไม่ต่างจากซื้อกะบะเอามาต่อหลังคา
คนเราคิดนั้นต่างกันจริง ๆ ถูกผิดไม่มี แต่ก็ควรเลือกสิ่งที่ดีที่สุด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 90
       พอดีไปเจอมามีคนถามเกี่ยวกับ LSD กับทางโตโยต้าพิธาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตอบไม่ได้เลย เพราะได้รับคำสั่งมาตอบเท่านี้ แถมตอบไปผิดอีก
รายละเอียดอยู่ด้านในเห็นว่ามีประโยชน์ดี ลองอ่านในลิ้งค์แล้วกัน เพราะยาวมาก


คำถาม : .........ขอคำชี้แจงถึงเหตุผลที่ทำไมไม่มี LSD ในเฟืองท้ายหลังของรถ Fortuner (อ่าน 3542 ครั้ง)
สวัสดีครับ คุณaa_yong ... เจ้าหน้าที่พิธานตอบ .................... อย่างที่แจ้งให้ทราบครับ ว่าเป็นเรื่องของการออกแบบส่วนในเรื่องของเหตุผลว่าทำไมใน Vigo 4WD มีแล้วทำไมใน Fortuner ไม่มีทางแผนกได้รับข้อมูลมาเท่านี้จริง ๆ ครับ

คุณ AKE ให้คำตอบและข้อมูลไว้
ตอบแผนกเทคนิค ทำให้ผู้อ่านหลงคิดว่าFortunerถ้ามีเฟืองท้ายหลังlimited slip แล้วจะทำให้ระบบเสียหาย
Prado 4WD fulltime ใช้เฟืองท้ายกลางTorsenแบบเดียวกับFortuner มีเฟืองท้ายหลังlimited slip
เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ดู spec ข้าวล่างตรง Transmission - Diff Type Front - Standard; Centre - Torsen LSD
Land Cruiser 4WD fulltime ก็มีเฟืองท้ายหลังlimited slip เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ผมเชื่อว่าToyotaจะติดเฟืองท้ายหลังlimited slipให้Fortunerในรุ่นถัดไป
ค,แผนกเทคนิค เคยตอบกระทู้ว่าFortunerมีเฟืองท้ายหลังlimited slip ดูกระทู้6,18,27และไม่เคยไปชี้แจงเพิ่มเติมแก้ไขให้เข้าใจถูกต้อง
ควรให้ Toyota ยืนยันเรื่องการติดตั้งเฟืองท้ายหลัง limited slip ตัวเดียวก้บที่ VIGO ใช้เพิ่มให้ชัดเจนครับ

ข้อดีเมื่อเทียบกับเฟืองท้ายแบบธรรมดา 1. ช่วยแก้ ปัญหาเวลารถตกหล่ม ทำให้ล้ออีกด้านไม่หมุนฟรีสามารถใช้กับเส้นทางทุรกัน ดารได้ดีกว่า
2. ช่วยให้การออกตัวดีขึ้น ลดอาการฟรีของล้อ เหมาะสำหรับรถควอเตอร์ไมล์
3. ช่วยในการออกโค้งได้ดีกว่า ลดอาการหมุนกลับ และสามารถใช้เทคนิคจนควบคุมรถได้
4. เพิ่มลูกเล่นและเทคนิคการขับรถได้มากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบฝึกฝนหรือหาเทคนิคใหม่ๆ

ข้อเสีย1. การเข้าโค้งจะยากกว่าและต้องระวังมากกว่า เพราะอาจทำให้รถเกิดการ Understeer ได้ง่าย
2. ยางสึกหรอเร็ว เพราะล้อที่ไม่หมุนฟรีต้องอาศัยการหมุนฟรีของยางที่สัมผัสกับถนนยางจะสึกหรออย่างรวดเร็ว และมีเสียงดัง
3. อายุการใช้งานของเพลาขับและลูกปืนล้อสั้นลงอย่างรวดเร็ว เพราะต้องรับแรงบิดเพิ่มขึ้น เพลาอาจขาดหรือลูกปืนแตกได้ง่าย (อันนี้ใส่เฟืองหลังไม่มีปัญหา)
4. ดูแลรักษายาก ต้องดูแลอยู่เสมอ และมีการสึกหรอค่อนข้างสูง
5. ในรถแบบขับเคลื่อนล้อหน้าจะมีการขัดขืนเวลาเข้าโค้ง อาจเกิดการ over streer ได้ง่าย

http://phithan-toyota.com/forums/index.php?topic=4967.0>

แสดงความคิดเห็นย่อย