คำตอบที่ 18
ได้ความรู้มากมายมหาศาลครับ
นี่แหละประธาน 2.7 ตัวจริง
อย่าว่ายกหางกันเองเลยนะครับ
ผมว่ามิตซูคุณหาคนตอบปัญหาไม่ได้แบบนี้หรอกครับ
เปลี่ยนจากยกหางเป็นยกย่องดีกว่ามั๊ย ^_^ปล.ประธาน2.7 สวดยวดที่ซู๊ด!!!จาก : ^Top^(^Top^) 6/4/2554 22:54:12 [223.206.224.58]
แสดงความคิดเห็นย่อย
จาก ~~LookplaKao+
110.169.175.39
พุธ, 6/4/2554 เวลา : 12:00 IP : 110.169.175.39
แก้ไขคำตอบ
ลบคำตอบ
25182
คำตอบที่ 19
สุดยอดจริงๆครับ สำหรับ ข้อมูลและความรู้เพิ่มเติมครับ โตต้านั้นไม่ได้ให้ข้อมูลลูกค้าเรื่อง เกียร์ออโต้ ที่มากับวีโก้ตัวเก่า สิงห์บรรทุกบ้านเราก็คิดว่าเหมือนในรถเก๋งทราบอย่างนี้แล้ว ครา หน้า จะมีวีโก้เกียร์ออโต้ ติด4x4 มาอีกไหมน้อ
ปล. เซล์โตต้านี้ ไม่ค่อยจะง้อลูกค้าเลย ใครมีที่แนะนำบ้างครับ แถว บางเขน หลักสี่ครับ
เซลล์ขายรถขนาดอยู่ศูนย์เดียวกันยังไม่เหมือนกันเลยครับ..ถ้าจะซื้อก็ขยันไปหาข้อมูลหลายๆ ที่ครับจาก : longloi(nhong23) 7/4/2554 16:17:45 [125.24.128.12]
แสดงความคิดเห็นย่อย
จาก Dong Dong
58.8.152.159
พฤหัสบดี, 7/4/2554 เวลา : 15:22 IP : 58.8.152.159
แก้ไขคำตอบ
ลบคำตอบ
25183
คำตอบที่ 20
ครา หน้า จะมีวีโก้เกียร์ออโต้ ติด4x4 มาอีกไหมน้อ
ans ..........เขามีอยู่แล้วครับในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 3.0
โตต้านั้นไม่ได้ให้ข้อมูลลูกค้าเรื่อง เกียร์ออโต้ ที่มากับวีโก้ตัวเก่า
ans............บริษัทรถยนต์ทุกทุก......บริษัทเขาก็ไม่ได้ให้ข้อมูลเทคโนโลยีกับคุณหรือลูกค้าคนอื่น ๆ เช่นกันครับ เขาให้ลูกค้าเป็นผู้ตัดสินใจเลือกเองทั้งหมด เวลาเขาทำการตลาดเขาก็ไม่เคยบอกข้อเสียของผลิตภัณท์ให้ทราบบอกแต่ข้อดีเวลาโฆษณาขายสินค้า เขามีหน้าที่นำเสนอขายสินค้า คือขายรถยนต์.................เขาไม่ได้ขายเทคโนโลยีหรือความรู้ Know How ให้ลูกค้าน่ะครับ จึงต้องมาบอกรายละเอียดให้ลูกค้าทราบหรือมาสอนให้ลุกค้ารู้ หรือมาเปรียบเทียบรถยนต์ให้ลูกค้าทราบ
เขาจะเสนอขาย หลังจากนั้น TOYOTA ก็เอาข้อมูลการตลาดไปดำเนินการต่อว่าลูกค้าเลือกอะไร ชอบอะไร จะออกผลิตภัณท์ประเภทไหนก็จะปรับปรุงผลิตภัณท์เพื่อนำเสนอขายใหม่ ดังจะเห็นว่าตอนแรก TMT ออกเปิดตัวขายรถรุ่น Hilux เบนซิน 2.7 4x4 A/T ออกมาด้วย Hilux 2.7 2wd A/T TOYOTA ไม่เคยบอกนะครับว่าเบนซินดีกว่าดีเซล หรือ แย่กว่าดีเซล เขาแค่มีผลิตภัณท์ออกมาขาย หลังจากนั้นก็สำรวจพฤติกรรมคนซื้อว่าต้องการอะไรก็เอาไปทำแผนการตลาดกันใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า
TOYOTA ไม่เคยเสนอนะครับ ว่าเกียร์ธรรมดาดีกว่าเกียร์ออโต หรือเกียร์ออโตทนทนทานกว่าเกียร์ธรรมดา
หรือไปบอกว่าลูกค้าเฮ้ยใช้งานแบบนี้ต้องเลือกซื้อรถรุ่นนี้น่ะ เหมาะสมที่สุด
ทุกอย่างเป็นไปตามชะตากรรมที่ลูกค้าเลือกทั้งนั้น
หลังจากนั้นก็เป็นอย่างที่เห็น ต่อมาเขายกเลิก Hilux 2.7 4x4 A/T ออกไปก่อน จากนั้นก็มายกเลิก Hilux 2.7 2wd A/T แล้วมาเพิ่มรุ่นการผลิตรุ่น E J เกียร์ธรรมดาแทน เพื่อให้สอดคล้องตามความต้องการของตลาดในขณะนั้น
บริษัทรถยนต์ที่ไหนเขาเป็นเหมือนกันหมดนั่นแหละครับ เพราะเขาขายรถยนต์นะครับไม่ใช่ขายความรู้
เขาไม่ใช่บริษัท Bosch Delphai ที่จะได้เสนอขายเทคโนโลยีให้ลูกค้า
จาก Auto
202.80.239.130
พฤหัสบดี, 7/4/2554 เวลา : 21:53 IP : 202.80.239.130
แก้ไขคำตอบ
ลบคำตอบ
25189
คำตอบที่ 21
เวลาคุณใช้งาน Hilux ไปเรื่อย ๆ คุณจะเห็นข้อดีของมัน และข้อเสียที่คุณจะต้องเจอ ไม่ว่าใครจะใช้รถรุ่นอะไรก็เจอแบบนี้ทั้งนั้น เพราะมันมาควบคุ๋กันเสมอ ระหว่างขาวกับดำ แต่โดยรวมผมกล้าบอกได้เลยว่าไม่ผิดหวัง ถ้าเทียบกับรถปิคอัพดีเซลที่คุณเคยใช้มาก่อน
อดีตคุณจะเคยได้ยินคำพูดในแง่ ลบ ของปิคอัพเบนซินมาก่อน แต่ถ้าคุณเริ่มาลองใช้ปิคอัพเบนซินแล้วเห็นข้อดีของมันคุณก็จะรู้สึกตลก ๆ ในคำพูดที่เขาเคยพูดในแง่ลบกันมา
ในช่วงปี 2007-2008 ลูกค้าต้องง้อเซลซื้อ Hilux 2.7 นะครับ มีเงินแต่ใช่จะซื้อได้เพราะรถไม่มีหายากมาก อยากซื้อคุณต้องจ่ายค่ากินเปล่า 15,000 -25,000 บาท อีกด้วย เซลต้องบอกเปลี่ยนมาเอาดีเซลไหมพยายามยื่นข้อเสนอที่ดีกว่าให้ เพราะเขาขายรถไม่ได้ เนื่องจากไม่มีรถในมือ พอช่วงปี 2009 รถเริ่มสต๊อกเยอะอีก ได้ส่วนลด 1 แสนบาท เพราะลูกค้าเริ่มไม่สนใจซื้อ หลังจากนั้นระบายสต๊อกหมดก็เข้าแผนหยุดผลิต รุ่น G A/T ไปเลย แต่ว่าด้วย Product ที่ดีอยู่แล้วในตัวของมันเองรถมันจึงมีในตลาดมือ 2 น้อยราคาไม่ค่อยตก
จาก Auto
202.80.239.130
พฤหัสบดี, 7/4/2554 เวลา : 22:06 IP : 202.80.239.130
แก้ไขคำตอบ
ลบคำตอบ
25190
คำตอบที่ 22
แง่ลบแง่ร้ายปิคอัพ Hilux เบนซิน ที่คนอื่นพูดกันมาก่อนหน้านี้ เด๊ยวนี้คุณฟังแล้วจะฮา ๆ ขำขำ แต่เมื่อก่อนคนพูดกันอย่างนี้จริง ๆ
1. รถปิคอัพเบนซินแรงน้อย
2. กินน้ำมัน
3.บรรทุกของไม่ไหว
4.เกียร์ออโต พังไว
5.เกียร์ออโตไม่เหมาะสำหรับการบรรทุก
6.ไม่มีใครเขาเล่นกัน ในตลาดเขาซื้อแต่ดีเซล ในยุโรปมีแต่ดีเซล
ลองไล่ไปที่ล่ะข้อ
1. รถปิคอัพเบนซินแรงน้อย
ตอบ .... ทราบได้ยังงัยว่าแรงน้อย เปรียบกับอะไร มีหลักฐานหรือยัง รถมันแรงกว่าดีเซล 2.5 ทั้งหมดในตลาดเวลานั้นตอนนั้น แต่คนไม่รู้ยังพูดกันบอกว่าแรงน้อย
2. กินน้ำมัน ติดแก๊สแล้วเครื่องพัง
ตอบ..... กินน้ำมัน แต่มันไม่ได้มากไปกว่ารถเบนซินที่เครื่องใหญ่โดยทั่วไปเขาเป็นกัน ไม่ได้ซดจนน่าทุเรศจนรับกันไมได้ เพราะในเวลานั้นผมก็ยังเห็นหลายคนทั้ง Hilux Fortuner ventury เขาก็ใช้กันได้ไม่ได้ติดแก๊ส พอคนยอมรับการติดแก๊สมากขึ้นก็เลยหันมาติดแก๊สกันต่างหาก
3.บรรทุกของไม่ไหว
ตอบ...... แล้วที่เห็นผ่านตาผมไปบรรทุกของหนัก 2-3 ตัน มันหมายความว่าอะไร
4.เกียร์ออโต พังไว
ตอบ...... เห็นแต่เกียร์ธรรมดา 1 แสนโล + - มันไปยกคลัตท์กันแล้ว แล้วคนที่ใช้ Hilux 2.7 A/T คนที่เขาบรรทุก 1-2 ตัน วิ่งไปเกือบ 3 แสนโลตอนนั้นเขาบอกยังเฉยๆ ไม่เคยทำอะไรกับเกียร์เลยนอกจากถ่ายน้ำมันเกียร์เท่านั้น
ฝ่าย Service เขาก็บอก ว่าไอ้ที่มาเคลม ๆ กันที่ศูนย์น่ะเกียร์ธรรมดาทั้งนั้น เดี๋ยวไอ่โน่นไอ่นี้ เห็นมีแต่บ่นกันจนไม่อยากฟัง บอกว่าปกติแต่ไม่เชื่อ
5.เกียร์ A/T บรรทุกของไม่ได้
ตอบ.............อ้าวเฮ้ยถ้างั้นในอเมริกา ปิคอัพมันเป็นเกียร์ออโต อย่าง Toyota Tundra ก็ต้องพังฉิบหายแล้วซิว่ะ เพราะรถปิคอัพมันเกียร์ A/T ทั้งนั้นเลย แถมเครื่อง V8 5700 CC 300 กว่าแรงม้ามั้งนั้นน่ะ
6.ปิคอัพเบนซินไม่ค่อยมีใครเขาเล่นกัน
ตอบ ...........แล้วที่ใส่รถเทรลเลอร์ ส่งออกไปแหลมฉบังรอไปลงเรือบรรทุกส่งออกนอก มีแต่ปิคอัพเบนซิน นานนานจะเจอรถดีเซลซักคันส่งออกนอก ทุกท่านก็เห็นด้วยตาตนเองกันแล้วนี่ยังต้องถามอะไรอีก
คนที่ผมเคยช่วยเหลือให้ไปซื้อรถ Hilux 2.7 A/T 4X4 หลายคนคงเคยไปรับรถที่โกดังเก็บรถมาแล้ว มีรถ Hilux เบนซิน 2.7 4x4 จอดเพียบแต่เขาไม่ขายเราน่ะครับ ถูกคนกว้านซื้อส่งออกนอกไปหมดเลย นาน ๆ เซลจะตัดรถขายมาให้เราซักคันนึง ที่เห็นน่ะซื้อไม่ได้เลย
ถึงได้บอกว่าต่อไปคุณจะรู้สึกตลกตลกกับพุดเหล่านี้ของคนที่ผ่านมา บางคนฟังแล้วอาจเฉย ๆ ไร้สาระ หรือบางคนก็คิด ใช้ดีเซลเกียร์ธรรมดาของมันต่อไปเถอะว้า เดี๋ยวมันก็มาบ่นเรื่องค่าน้ำมัน ขึ้นอีกแล้ว
เบนซินแรงน้อย เพราะเอาไปเทียบกับดีเซล 3.0 ซ่ะงั้นจาก : longloi(nhong23) 8/4/2554 11:58:00 [125.24.126.17]
ไม่เอา UZ เทียบ ดีเซล 3.0 มั่ง จะได้คำตอบ..........จาก : longloi(nhong23) 8/4/2554 11:59:30 [125.24.126.17]
แต่ใส่โบว์ให้ 2.7 ก้แรงกว่า D4D เทอร์โบว์อินเตอร์ แล้วคับ 555จาก : rap_bank(rap_bank) 9/4/2554 13:37:36 [183.89.165.153]
ใครว่าล่ะครับ เอา 2.7 ผูกโบ ให้เครื่อง 3.0 1KD-FTV เลยครับ จ้างก็ตาม 2.7 ไม่ทัน หุๆๆๆจาก : fongster(fongster) 9/4/2554 16:19:59 [58.9.95.223]
แสดงความคิดเห็นย่อย
จาก Auto
202.80.239.130
พฤหัสบดี, 7/4/2554 เวลา : 22:25 IP : 202.80.239.130
แก้ไขคำตอบ
ลบคำตอบ
25191
คำตอบที่ 23
คำถามในกระทู้นี้พอดีนึกคำตอบมาได้อีกอย่างนึงคือ
เช่น ตัวอย่าง
1. Hilux มี ABS กับไม่มี ABS ทุกคนรู้ทั้งนั้นแหละว่ามีระบบเบรค ABS ดีกว่าไม่มี ถ้ามีแล้วจะควบคุมรถในระหว่างการเบรคได้ดีกว่า แต่เวลาซื้อลูกค้ากลับไปถามหารถที่ไม่มีเบรค ABS มันเพราะอะไร.........?
2. Hilux รุ่น G มีถุงลมนิรภัย แต่ลูกค้าคนไทยไปถามหาอยากได้รถ Hilux เอาแค่รุ่น E J ก็เพียงพอ มันเพราะอะไร.........?
ที่จริงเรื่องถุงลมนิรภัยแปลกอยู่อย่างนึง ถ้าเป็นในซาอุดิอารเบียรถ Hilux ไม่ว่าจะรู่นที่มีราคาถูกแค่ไหนก็ตาม จะต้องมีถุงลมนิรภัยไม่งั้นลูกค้าชาวซาอุไม่ซื้อ Hilux นะครับ ถึงแม้ไม่ได้เป็นกฎหมายแต่ลูกค้าไม่ยอมรับที่จะซื้อถ้ารถคันนั้นไม่มีถุงลมมาให้ด้วย
ในออสเตรเลียก็เหมือนกัน รถกะบะ 4 ประตูต้องเป็นเครื่องเบนซินเกียร์ออโต A/T และต้องมีถุงลมคู่หน้า เป็นดีเซลลูกค้าไม่ซื้อ มีถุงลมข้างเฉพาะคนขับข้างเดียวก็ไม่ได้ลูกค้าไม่นิยม
3. Fortuner คนไทยก็ถาม 4x4 หรือ 4x2 ดีกว่ากัน ในเวป Fortuner เองก็เบื่อจะตอบกันแล้วมั้ง ที่จริงลูกค้ารู้อยู่แล้วอะไรดีไม่ดี รถ 4wd fulltime ฟิลลิ่งการขับขี่ดีกว่าอยู่แล้วแต่คนถามส่วนใหญ่ลังเลที่จะซื้อ 4x2 เลยลังเลหาแนวร่วมมาช่วยสนับสนุนไปงั้นแนะ ที่จริงรู้คำตอบอยู่แล้ว รถ Fortuner 4x4 ดีกว่า 4x2 แต่ลูกค้าก็ยังมีคนซื้อ 4x2 กันเยอะ เขาก็จัดให้ มันเพราะอะไร.........?
4.Hilux Vigo ลูกค้าซื้อ รุ่น Prerunner มากกว่ารุ่น 4wd คำตอบแบบเดียวกับด้านบนของ Fortuner คนซื้อทราบอยู่แล้ว 4wd ดีกว่าแต่เวลาซื้อ เลือก Prerunner มากกว่า มันเพราะอะไร.........?
5. Hilux รุ่นส่งนอกมี Heater มาให้ด้วย แต่ในเมืองไทยไม่มีเลย ถ้ามีลูกค้าก็คงไม่เลือกหรือไปตัดทิ้ง
ลูกค้ารู้เกือบทั้งนั้นมี Heater ดีกว่าไม่มี แต่เวลาซื้อเลือกรุ่นไม่มี Heater ไว้ก่อน มันเพราะอะไร.........?
ฮาดีไหมเล่า
ทุกอย่างน่าจะเป็นไปตามกลไกทางการตลาด ซึ่งบริษัทรถยนต์ก็ทำมาตามความต้องการของตลาด เขาไม่ได้ชี้นำชี้วัด ว่าลูกค้าต้องไปเลือกอย่างนั้นอย่างนี้หรือให้ลูกค้าเลือกในสิ่งที่ดีที่สุดมีคุณภาพที่สุด เขาแค่เสนอสินค้าออกมาลูกค้าก็เลือกเอาตามใจและชะตากรรมตัวเองไม่มีใครมาบังคับ หัวหน้างานผมเคยบอกว่าบริษัททำรถไปขายนะไม่ได้ทำรถไปทิ้ง ทุกอย่างเขาจะชี้วัดจากลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งลูกค้าก็ตัดสินใจเลือกเองทั้งนั้น ต่อให้เขาทำรถห่วยกว่านี้ออกมา หรืออ๊อพชั่นน้อยกว่านี้ออกมา ถ้ามันขายดีบริษัททุกบริษัทเขาทำหมดครับ ถ้าเป็นบริษัทที่ผลิต Mass product
เหตุผลสั้นสั้น เพราะลูกค้าตัดสินใจซื้อไงครับ
ผมว่าดูแค่ ฟอร์ด หรือมาสด้า ช่วงล่างดีกว่าเยอะคนยังไม่ซื้อเลย เพราะการตลาดและยี่ห้อแท้ๆจาก : rap_bank(rap_bank) 9/4/2554 13:36:49 [183.89.165.153]
แสดงความคิดเห็นย่อย
จาก Auto
202.80.239.130
ศุกร์, 8/4/2554 เวลา : 07:53 IP : 202.80.239.130
แก้ไขคำตอบ
ลบคำตอบ
25193
คำตอบที่ 24
ประธานเว็บนี่สุดยอดจริงๆคับ ความรู้เยอะมากมาก
ปล. ไม่กลัวคนอื่นที่เค้าไม่ได้ใช้วีโก้เบนซิน เค้าจะหมั่นไส้ แอบอิจฉา หาว่าเรายกหางตัวเองหรอคับ หิๆ
จาก rap_bank
183.89.165.153
เสาร์, 9/4/2554 เวลา : 13:41 IP : 183.89.165.153
แก้ไขคำตอบ
ลบคำตอบ
25204
คำตอบที่ 25
ของเค้าดีจริง ไม่ต้องโฆษณามากหรอกครับ ว่าแล้วก็อยากได้ 2.7 ตอนเดียว CNG มาใช้แทน อีผุผุ DI ที่บ้านซักคัน แต่ติดที่คุณพ่อท่านอยากได้ Tata CNG รึ Triton CNG อีกละ หุๆๆๆ
ถามพ่อเค้าว่าทำไมเค้าบอก Triton กับ Tata เครื่องเล็ก แต่ Vigo เครื่องมันใหญ่ตั้ง 2700 CC กลัวกินเชื้อเพลิง.......ผมฟังแล้วเซ็ง เพราะเคยไปคุยกับ Triton คันข้างๆ เวลาเติมแก๊สด้วยกัน ก็กินพอๆ กันกับ Vigoเกียร์ ออโต้ นั่นล่ะ ทั้งๆ ที่ Triton เกียร์ธรรมดา เครื่อง 2400 CC แรงม้า แรงบิดน้อยกว่า แต่กินเชื้อเพลิงใกล้เคียงกัน เป็นคุณ คุณจะเลือกอะไรครับ
เรานำมาบรรทุกนะครับ เราก็ควรจะเลือกเครื่องให้แรงเข้าไว้ครับ ไม่งั้นจะเอาแรงที่ไหนมาใช้ครับ
แต่ถ้าให้ผมเลือกผมเล็งไปที่ Vigo แน่นอน
จาก fOnGSteR
58.9.95.223
เสาร์, 9/4/2554 เวลา : 16:33 IP : 58.9.95.223
แก้ไขคำตอบ
ลบคำตอบ
25205
คำตอบที่ 26
ผมเชียร์วีโก้อีกคนคับ รถผมต่อหลังคาสูง2.9m จากพื้น หม้อต้มเมจิกที พึ่งเปลี่ยนมาใหม่ วันก่อนลองเหยียบดูรถป่าวไม่ได้บรรทุก ได้140กว่าเกือบ เลยคับ จี๊ดๆๆ
จาก rap_bank
183.89.165.153
อาทิตย์, 10/4/2554 เวลา : 09:55 IP : 183.89.165.153
แก้ไขคำตอบ
ลบคำตอบ
25213
คำตอบที่ 27
เมื่อวานนี้ไปงานเลี้ยง บ้านจารย์เทพ เขาก็ถามอีกในเรื่อง Mitsubishi Triton 2.4 เบนซินอยากจะให้พูดแบบขาดขาดกว่านี้หน่อยเรื่อง การใช้งานว่าจริงแล้วสามารถเล่นได้ไหมเพราะแกจะซื้อมาให้ลูกน้องวิ่งบรรทุกของ แกขอแบบพูดไม่ให้เข้าข้าง 2.7 เลยนะเอาให้เปรียบเทียบกันไปเลย
ผมพูดดังนี้ครับ
Triton 2.4 เบนซิน
มันถูกวางเอาไว้เป็นรถประหยัด ไม่ใช่ประหยัดน้ำมันนะอย่าเข้าใจผิด เพราะกินน้ำมันพอพอกับ 2.7 นั่นแหละบรรทุกแล้วยิ่งไม่ต่างกัน ที่ว่าประหยัดนี้หมายถึงมันถูกวางไว้ในคาแรกเตอร์ของรถที่ทำออกมาเพื่อเน้นบรรทุกเป็นปิคอัพจริง ๆ เครื่องยนต์มีกำลังแค่เพียงพอกับการใช้งาน ไม่ได้ให้ความรุนแรงอะไรมากมาย แต่ผมขอใช้คำว่าเพียงพอก็แล้วกัน ตัวเครื่องยนต์มันคือรหัสตระกูล 4G64 พัฒนามาจากตัวนี้ ซึ่งหมายความกันตรงตรงคือมันขุดเอาเครื่องยนต์เบนซินยุคเก่ามาใช้โดยเพิ่มเติมระบบหัวฉีด ECI Mutipoint ของมิตซูบิชิเข้าไป แล้วก็เพิ่ม ไดเร็คคอยล์เข้าไปตามแบบของเครื่องยนต์เบนซินสมัยใหม่ที่ไม่ต้องการจานจ่ายหรือคอยล์จุดระเบิดในจานจ่ายอีกต่อไป รวมถึงพัฒนาวาล์วให้มีความคงทนต่อการใช้งานมากขึ้น คือโดยสรุปข้อดีเด่น ๆ เลยของ Mitsu Triton 2.4 เบนซิน gasoline ตัวนี้เลยก็คือ
มันเป็นรถที่มีเอาไว้เติมน้ำมันวิ่งอย่างเดียว โดยไม่ต้องการการดูแลรักษาอะไรเลย นอกจากตรวจดูน้ำมันเครื่อง กับน้ำหม้อน้ำเฉย ๆ เท่านั้น มันเป็นรถที่ทำออกมาในคาแรกเตอร์นี้โดยเฉพาะ คือเอามาใช้งานทิ้งทิ้งขว้าง ๆ กันสบาย ตรวจดูแค่ น้ำ 2 อย่างนี้เพียงพอเหลือรับประทานแล้ว แบตเตอรี่ยังไม่ต้องตรวจด้วยซ้ำเพราะรถมันออกแบบมาให้เข็นก็ติดกันง่าย ๆ คือเอาไปใช้ทิ้งใช้ขว้างใช้กันลืม ๆ แบบไม่ต้องคิดถึงเรื่องการบำรุงรักษา Mitsu ผลิตเครื่องตัวนี้มายาวนานมากกว่า 20 ปีแล้วเอาเครื่องตัวนี้มาใช้ใหม่ จัดเป็นรถกระบะที่ไม่จุกจิกในเรื่องการซ่อม ถึงคราวซ่อมก็ซ่อมง่าย ช่างพื้นบ้านทั่วไปก็ซ่อมได้ ในทะเลทรายตะวันออกกลางก็ใช้รุ่น 2.4 เบนซินของ Mitsu Triton คือพวกเขาเติมน้ำมันวิ่งกันอย่างเดียว ใช้กันจนรถผุพังแล้วค่อยทิ้ง ไม่มีอะไรต้องดูแลเป็นพิเศษ
จาก Auto
202.80.239.130
จันทร์, 9/5/2554 เวลา : 08:44 IP : 202.80.239.130
แก้ไขคำตอบ
ลบคำตอบ
25522
คำตอบที่ 28
เปรียบเทียบกับรถ 3 อย่างด้วยกัน
Mitsubishi Triton 2.4 / * TOYOTA Hilux 2.7 / กระบะทั่วไปเครื่อง 2.5 ดีเซลคอมมอนเรล ไม่ใช่รุ่น VG เทอร์โบ หรือมีอินเตอร์
เปรียบเทียบในเรื่องความจุกจิกในการใช้งาน
เรียงลำดับจากดีที่สุดไปหาน้อยที่สุด
1. Mitsubishi Triton 2.4 จุกจิกน้อยที่สุดเนื่องจากรถเป็นโครงสร้างของเครื่องยนต์เบนซินยุคเก่าที่เพิ่มเติมระบบหัวฉีด ECI Mutipoint อันเลื่องชื่อของ Mitsu เท่านั้น ไม่ได้เพิ่มเติมเซนเซอร์หรือเทคโนโลยีการแปรผันวาล์วหรือใส่ระบบอะไรที่วิเศษกว่าชาวบ้านเขาไปเลย เพราะนั้นเครื่องยนต์ไม่ต้องการดูแลรักษาอะไรเพียงแค่ตรวจดูน้ำหม้อน้ำ น้ำมันเครื่อง เปลี่ยนหัวเทียนตามสเปกของศูนย์บริการ ไม่ต้องไปสรรหาอะไรอย่างอื่น นั่นคือจบ เป็นรถที่ไม่จุกจิกเลยจริง ๆ แบตเตอรี่ยังไม่ต้องดูด้วยซ้ำ เพราะมันเข็นก็ติดง่าย ๆ คาแรกเตอร์รถมันเป็นอย่างนั้น รถที่ Mitsu ส่งขายในตะวันออกกลางก็มีลักษณะอย่างที่กล่าวมานี้ ถูกวางไว้ในรถปิคอัพตอนดียว 2wd กับ 4ประตู 2 wd ทั้งหมดเป็นเกียร์ธรรมดาเท่านั้น ทำออกมาให้ชาวบ้านใช้เป็นรถราคาไม่แพง ใช้กันทนไม่ต้องการดูแลรักษามากนักเพียงแค่เติมน้ำมันวิ่งอย่างเดียว
2. TOYOTA Hilux 2.7 จุกจิกเป็นรองลงมาจากรุ่น Triton 2.4 เบนซิน เหตุเพราะเครื่องยนต์แม้จะขุดเอาเครื่องเบนซินยุคเก่ามาใช้เหมือนกันแต่ว่าด้วยระบบที่ใส่เข้าไปทันสมัยกว่า รองรับแรงบิดแรงม้าได้มากกว่าถึงแม้ต้องการการดูแลรักษาที่ใกล้เคียงกันแต่ด้วยเซนเซอร์ที่มากกว่า ไวมากกว่าของมิตซูบิชิเพราะความทันสมัยกว่า อาจพบจุดเสียหรือจุดซ่อมได้มากกว่า สำหรับ 2.7
3. กระบะทั่วไปเครื่อง 2.5 ดีเซลคอมมอนเรล ไม่ใช่รุ่น VG เทอร์โบ หรือมีอินเตอร์
ความจุกจิกหรือจุดเสียมีให้ซ่อมมากว่า ต้องการการ Maintenance มากกว่าตามแบบฉบับคอมมอนเรลสไตล์นี้ จะทำแบบ Triton 2.4 เบนซินเติมน้ำมันเบนซินอะไรก็ได้วิ่งอย่างเดียวใช้ทิ้งทิ้งขว้าง ๆ รอเปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับหัวเทียนอย่างเดียวคงไม่ได้ ภาระ Maintanance ต่างกันอยู่บ้าง
จาก Auto
202.80.239.130
จันทร์, 9/5/2554 เวลา : 09:00 IP : 202.80.239.130
แก้ไขคำตอบ
ลบคำตอบ
25523
คำตอบที่ 29
เปรียบเทียบในแง่ของพละกำลังในการใช้งาน
เรียงลำดับจากน้อยไปหามาก
1. TOYOTA 2.7 vvti ให้กำลังเครื่องยนต์มากที่สุดในกลุ่ม ในแง่ของการใช้งานทั้งหมดจากที่เคยลองใช้งานจริงกันมาบนท้องถนนไม่ใช่แข่งควอดเตอร์ไมล์ ถ้าไม่นับรวมเครื่องคอมมอนเรล VG เทอร์โบ ในสภาพการขับที่ใกล้เคียงกัน ดีเซลคอมมอนเรลจะได้เปรียบนิดนิดตอนออกตัวแต่หลังจากนั้นสภาพตกเป็นรองเพราะว่าแรงบิด 325 NM ของดีเซลจะหายไปหลังจากออกตัวแล้วเพราะแรงบิดของดีเซลคอมมอนเรลจะมาที่รอบต่ำมากแต่ก็หายไปรวดเร็วเช่นกันในรอบสูงทั้งนี้เพื่อความประหยัดน้ำมัน จึงทำให้ตกเป็นรอง 2.7 เบนซินชัดเจนและเมื่อเปรียบเทียบกับเกียร์ A/T ออโตเมติก 2.7 กับเกียร์ธรรมดาของคอมมอนเรลด้วยแล้วคนขับด้วยกันจะเกียร์ธรรมดาจะเปลี่ยนเกียร์ช้ากว่าเกียร์ A/T ประมาณ 4-5 วินาที ทำให้ดีเซลเสียเปรียบ 2.7 ในจุดนี้ เพราะคงไม่มีชาวบ้านคนไหนเปลี่ยนเกียร์รถได้เร็ว จนทำเวลาให้ช้ากว่าเกียร์ A/T แบบ ECU ควบคุมได้ 1-3 วินาที เพราะเราเป็นแค่คนขับทั่วไปไม่ใช่นักแข่ง แรลลี่อาร์ต ยิมคานา จะเปลี่ยนเกียร์จนเวลาใกล้เคียงกับเกียร์ออโตทำไม่ได้
2. ดีเซลคอมมอนเรล 2.5 ที่ไม่ใช่ VG เทอร์โบแปรผัน กำลังจะดีกว่าเป็นรองลงมาเพราะรถให้กำลังที่ดีขึ้นกว่าดีเซลในยุคก่อน ๆ
3. กลุ่มนี้ Mitsu Trinton 2.4 เบนซินให้พละกำลังด้อยที่สุดในกลุ่ม เนื่องด้วยคาแรกเตอร์ของรถถูกวางไว้เป็นรถรุ่นประหยัดเอาไว้ให้ชาวบ้านใช้ทั่วไป ไม่ให้เกิดเรื่องจุกจิกหรือการบำรุงรักษา จึงไม่มีเทคโนโลยีอะไรซับซ้อนเป็นพิเศษเพื่อทำออกมาหวังรีดแรงม้าแรงบิดออกมาเยอะ ๆ กำลังเครื่องยนต์จึงทำออกมาให้เพียงพอกับการใช้งานเท่านั้น เรื่องพละกำลังจึงเป็นรองที่สุดในกลุ่ม
จาก Auto
202.80.239.130
จันทร์, 9/5/2554 เวลา : 09:55 IP : 202.80.239.130
แก้ไขคำตอบ
ลบคำตอบ
25526
คำตอบที่ 30
เปรียบเทียบในเรื่องของความคงทนในการใช้งาน
1. จุดนี้ TOYOTA Hilux 2.7 ได้เปรียบเพราะว่าตัวเครื่องยนต์ถูกเคลมการใช้งานไว้ที่ระยะ 1 ล้านกิโลเมตร สามารถวิ่งได้แบบเฉย ๆ โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าเปรียบด้วยการใช้น้ำมันด้วยกัน ยกเว้นของเราใช้แก๊สอาจต้องมีภาระในการซ่อมฝาสูบบ้าง 1- 2 ครั้ง / การใช้งาน 1 ล้านกิโลเมตร เครื่องยนต์เบนซิน 2TR-FE เป็นเครื่องขนาดใหญ่กว่าด้วยซีซีปริมาตรความจุ 2700 ซีซี การใช้งานด้วยรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำมาก ในขณะที่เราวิ่งประมาณ 100 km/h รอบเครื่องยนต์ขึ้นเพียง 2300 rpm เท่านั้น จุดนี้เองช่างติดแก๊สเข้าใจผิดกันมาเยอะแล้วถึงแม้จะติดแก๊สได้แต่ไม่เข้าใจคุณลักษณะของตัวเครื่องยนต์ ความทนทานในการใช้งานเปรียบเทียบกับภาระเครื่องยนต์ที่ได้รับแล้วข้อนี้ TOYOTA 2.7 ได้เปรียบกว่า
2. ข้อนี้กินกันไม่ลงจริง ๆ ว่าจะให้ใครเป็นที่ 2 แต่ข้อนี้ผมยกให้ Mitsu Triton 2.4 เบนซินแบบลำเอียงนิดนิด
เหตุผลด้วยคุณลักษณะของรถ Triton 2.4 เบนซิน กำลังเครื่องด้อยกว่าในกลุ่มแต่ ต้องทดเกียร์เฟืองท้ายให้ได้ Torque แรงบิดสูงสูง เพื่อเอามาใช้งานบรรทุกการใช้งานด้วยกันความทนทานยังไงก็ด้อยกว่าเพราะรอบเครื่องยนต์สูงกว่าทำงานหนักกว่า แต่ที่เด่นกว่าคือเรื่องการไม่จุกจิกไม่ต้อง Maintenance อะไรเลย นอกจากเปลี่ยนหัวเทียนของศูนย์ เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามกำหนดกับดูน้ำหม้อน้ำแค่นั้น การใช้งานของ Mitsu 2.4 เบนซินจึงอยู่ราว ๆ แค่ 500,000 กิโลเมตร แบบ มี + มากกว่านี้ครับคือไม่ต่ำกว่านี้แน่นอน ซึ่งแต่ไหนแต่ไรเครื่อง Mitsu ก็เป็นเช่นนี้มาโดยตลอด ส่วนฝาสูบก็ตามปกติแบบฉบับเดียวกับ 2.7 ในเรื่องการซ่อม
เพิ่มเติมอัตราทดเฟืองท้าย Mitsu รุ่นปกติ 4: 636 รุ่น Plus ทดไว้ถึง 4. 875
3. ดีเซลจริงๆ แล้วถ้าให้ใครมาตอบก็ตอบดีเซลอยู่อันดับ 2 แต่ที่ผมให้อยู่อันดับ 3 ในกลุ่มนี้เพราะว่าการใช้งานในบ้านเราคนที่จะใช้ดีเซล คอมมอนเรล 2.5 VS Triton 2.4 เบนซิน คนที่จะใช้งานระยะยาวให้รถวิ่งเกิน 500,000 กิโลเมตร นั้นในอนาคต Mitsu Triton 2.4 เบนซินจะมีจำนวนหลงเหลือมากกว่าแน่นอน เพราะคนที่จะแบกภาระวิ่ง 5 แสนโลใช้รถเกิน 10 ปี สำหรับดีเซลคอมมอนเรลในปัจจุบันมักไม่ค่อยทำกันแล้ว เพราะทนภาระไม่ไหว
แต่ในขณะ Triton 2.4 เบนซินทำได้แม้ในอนาคตจะเกิดภาระเรื่องเครื่องหลวมต้องซ่อม หรือบริการฝาสูบซีลวาล์วแต่ค่าใช้จ่ายตรงนี้มันถูกมากกว่าดีเซลเยอะ เพราะเครื่องรุ่นเก่ามากสำหรับเบนซินตัวนี้อะไหล่ไม่แพง Mitsu ก็ส่งนอกด้วยเยอะด้วยเครื่องตัวนี้
จาก Auto
202.80.239.130
จันทร์, 9/5/2554 เวลา : 10:14 IP : 202.80.239.130
แก้ไขคำตอบ
ลบคำตอบ
25527
คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>>
1 2
website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์ เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่
Since 22, Feb 2001
View My Stats
Truehits.net
วันพุธ,25 ธันวาคม 2567
(Online 1411 คน)