WeekendHobby.com
เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


นี่หรือ “เรื่องก๊าซ ไม่มีใครหลอกใคร!” / ประสาท มีแต้ม
Auto.
จาก Auto
IP:202.80.239.130

จันทร์ที่ , 24/9/2555
เวลา : 16:38

อ่านแล้ว = ครั้ง
 เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งตรวจสอบกระทู้
 แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน ส่งหาเพื่อน

       นับตั้งแต่ประมาณเดือนเมษายนปีนี้ (2555) ก่อนที่บริษัท ปตท.จำกัดจะขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี ได้มีโฆษณาผ่านทางโทรทัศน์หลายช่อง โดยทำเป็นรูปการ์ตูนประมาณ 10 ตอน ใช้ชื่อชุดว่า “รู้ทันก๊าซ” ซึ่งสาระที่ทำให้คนจำได้ก็คือ “เรื่องของก๊าซ ไม่มีใครหลอกใคร ความไม่รู้ต่างหากที่หลอกเรา”

วัตถุประสงค์ของโฆษณาชุดนี้ ก็เพื่อตอบโต้ข้อมูลของภาคประชาชนที่ออกมารณรงค์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์เล็กๆ ที่ตั้งคำถามว่า ทำไมในขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลก และตลาด Henry Hub ลดลงจาก $4.25 (กันยายน 2554) เหลือ $1.70 (พฤษภาคม 55) ต่อล้านบีทียู หรือลดลง 2.5 เท่า แต่ประเทศไทยเรากลับสวนทางอย่างไม่รู้จักอายฟ้าอายดิน (http://www.wtrg.com/daily/oilandgasspot.html) ราคาเอ็นจีวีได้ขึ้นจาก 8 บาท มาอยู่ที่ 10.50 บาทต่อกิโลกรัม และจะขึ้นต่อไปอีก ราคาก๊าซหุงต้มก็กำลังจ่อคิวตามมา

ที่น่าเกลียดมาก นอกจากการ์ตูนชุดนี้ได้ให้ข้อมูลต่อสาธารณะไม่ครบถ้วน และบิดเบือนความจริงบางอย่างแล้ว ยังไม่ปรากฏชื่อผู้จัดทำ ไม่ทราบว่าเป็น ปตท. หรือกระทรวงพลังงาน หรือบริษัทใดกันแน่เป็นผู้ผลิต แต่เราทราบว่า กระทรวงพลังงานจ่ายค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ประมาณปีละ 126 ล้านบาท มากกว่าบริษัทขายรถยนต์ยี่ห้อดังๆ เสียด้วยซ้ำ เป็นหน่วยงานของรัฐแท้ๆ เขาหวังอะไรกันหนักหนา?

บทความนี้ไม่ต้องการจะตอบโต้ในรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องก๊าซในชุดโฆษณาดังกล่าว แต่ต้องการชี้ให้เห็นความจริง 2 อย่าง ที่ทางกระทรวงพลังงานได้หลอกประชาชนมาตลอดคือ

หนึ่ง เราจำเป็นต้องเก็บค่าภาคหลวงในอัตราต่ำๆ เพราะแหล่งปิโตรเลียมของเรามีขนาดเล็ก ทำให้เกิดต้นทุนต่อหน่วยผลผลิตในการดำเนินการของบริษัทสูง สอง การให้สัมปทานแหล่งปิโตรเลียมครั้งใหม่ก็เพราะเพื่อลดการพึ่งพิงปิโตรเลียมจากต่างประเทศ และสาม ปริมาณปิโตรเลียมที่เจาะได้มาถึงจุดสูงสุดแล้วต่อไปมีแต่จะร่อยหรอ ผมมีตัวอย่างมาค้านแย้งดังนี้ครับ
http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9550000117161



1 like
จาก : canoe(canoe) 25/9/2555 15:46:28 [110.77.161.36]
 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

แจ้งเพื่อเก็บขึ้นกระทู้พิเศษ คลิ๊กที่นี่แจ้งเพื่อนำขึ้นกระทู้พิเศษ

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  

คำตอบที่ 1
       แปลงสัมปทานเอราวัณ เป็นแหล่งแรกของการสำรวจ อยู่ในอ่าวไทยทางทิศตะวันออกของอำเภอขนอม จ.นครศรีธรรมราช (ดูภาพประกอบ) ตามเอกสารของบริษัทเชฟรอนระบุว่า มีปริมาณก๊าซไม่น้อยกว่า 1.0 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต แต่เอกสารของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (ในรูปเพาว์เวอร์พอยต์ เรื่อง กฎหมายปิโตรเลียม ไม่ระบุวันที่) ระบุว่า มีปริมาณก๊าซ 1.58 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต โดยจะผลิตวันละ 250 ล้านลูกบาศก์ฟุต เริ่มจากมิถุนายน 2525 ขอย้ำว่า ทางราชการอ้างว่ามีก๊าซธรรมชาติเพียงอย่างเดียว ไม่ระบุว่ามีน้ำมันดิบ หรือคอนเดนเสท (ปิโตรเลียมเหลวเมื่อกลั่นแล้วจะได้น้ำมันสำเร็จรูปชั้นดี)

อย่าเพิ่งปวดหัวกับตัวเลขมากนักนะครับ ผมจะจิ้มเครื่องคิดเลขให้เองครับ พบว่าถ้าเป็นอย่างนี้จริงก็จะหมดเมื่อขุดไปได้ 17 ปีกับ 4 เดือน นั่นคือหมดในปลายปี 2542

แต่จนถึงวันนี้ (2555) แหล่งเอราวัณยังคงผลิตอยู่ครับ นี่หมายความว่าอะไร ท่านอาจจะคิดว่าก็เขาอาจจะผลิตน้อยกว่าแผนก็ได้ แต่จากรายงานเรื่อง 40 ปี กฎหมายปิโตรเลียมไทย (หน้า 82) ระบุว่า นับถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2554 แหล่งเอราวัณได้เจาะก๊าซธรรมชาติไปแล้ว 2.715 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต ขุดมาแล้วเกือบ 30 ปี (นับถึง 31 ธันวาคม 54) วันละ 252 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต มากกว่าอัตราที่อยู่ในแผนเสียด้วยซ้ำ ก็ยังไม่หมด นอกจากนี้ ยังพบมีสำรองอีก 0.599 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต (ใช้ได้อีกประมาณ 7 ปี รวมทั้งหมด 37 ปี ทั้งๆ ที่เคยคาดว่าได้ 17 ปีเท่านั้น)

นี่แปลว่าปริมาณที่ขุดเจาะไปแล้วบวกกับปริมาณสำรองคิดเป็น 3.3 เท่าของปริมาณต่ำสุดที่บริษัทระบุ หรือ 2.1 เท่าของที่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเคยทราบ

ยังไม่หมดเท่านี้ครับ แหล่งเอราวัณได้ให้ก๊าซธรรมชาติเหลวแล้ว 94.45 ล้านบาร์เรล แถมยังมีสำรองอีก 20.21 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ ยังมีน้ำมันดิบ 0.58 ล้านบาร์เรล

จากข้อมูลที่กล่าวมาแล้ว และประสบการณ์ของภาคประชาชน ผมได้ข้อสังเกตดังนี้ (1) เรามั่นใจได้อย่างไรว่า บริษัทผู้สำรวจจะบอกความจริงแก่รัฐบาล หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ เกษมศรี (อดีตวิศวกรวางท่อก๊าซ และผู้สืบค้นหาความจริงด้านปิโตรเลียม) ได้บอกแก่สาธารณะว่า ประเทศกัมพูชาจะว่าจ้างให้บริษัทขุดเจาะอย่างน้อย 2 บริษัทเพื่อการตรวจสอบข้อมูลกัน แต่ของไทยไม่มีครับ ชุดเดียว

(2) ข้าราชการระดับสูงของกระทรวงพลังงานยืนยันกับภาคประชาชนมาตลอดว่าแหล่งก๊าซของไทยไม่มีน้ำมันดิบ จริงอยู่ครับว่าถึงน้ำมันดิบมีก็น้อยมาก (สำหรับแหล่งเอราวัณ-ตามที่เขาบอก!) แต่แหล่งอื่นๆ ที่จะกล่าวต่อไปก็มีเยอะครับ







 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 จันทร์, 24/9/2555 เวลา : 16:40  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32487

คำตอบที่ 2
       อันนี้เป็นข่าวอีกเช่นกัน แต่ผมไม่ได้ตัดมาให้


ปตท. สผ. ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการขุดเจาะ บ่อน้ำมันที่ประเทศแอลจีเรีย บ่อที่ 5 คาดว่าจะมีน้ำมันไหลผ่าน 535 บาเรลต่อวัน
อย่างไรก็ดีปตท. สผ. มีแผนจะขุดให้ได้ถึง 15 หลุม ภายในปีหน้า หลังจากได้สัมปทานการขุดน้ำมันที่แอลจีเรีย

ร่วมแสดงความยินดีกับ ปตท. อีกครั้งนึง



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 จันทร์, 24/9/2555 เวลา : 16:42  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32488

คำตอบที่ 3
       ยินดีกับกรรมของคนไทย ที่จะได้ใช้พลังงานแพงเหมือนเดิมหรือแพงกว่าเดิม?



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

teelaban จาก teelaban 203.155.220.236 อังคาร, 25/9/2555 เวลา : 10:27  IP : 203.155.220.236   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32494

คำตอบที่ 4
       ทำใจอย่างเดียวครับ เพราะทำอะไรไม่ได้เลย ถึงแม้รวมตัวกันต่อต้านหนัก ๆ เข้าสักพักเรื่องก็คงเงียบเช่นเดิม



 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

noom4w จาก นายกัน 203.154.225.41 พุธ, 26/9/2555 เวลา : 08:57  IP : 203.154.225.41   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32501

คำตอบที่ 5
       กระทรวงพลังงานมีแต่โฆษณาชวนเชื่อให้ปลดดินพอกหางหมูตรงเรื่องการอุดหนุนราคาก๊าซ จริง ๆการยกเการอุดหนุนราคาก๊าซสามารถทำได้
แต่ว่า มันมีที่มาของคำถามมากมาย แล้วเรื่องสินค้าเกษตร ข้าวเปลือก ยางพารา หรืออื่น ๆ การที่รัฐเข้าไปอุดหนุนราคามันผิดหรือไม่ ดินพอกหางหมูนับหมื่นล้านบาทโกงกันมหาศาล ทำไมจึงเลือกปฏิบัติ
นอกจากนี้แล้วยังมีความไม่เป็นธรรมที่ซ่อนอยู่แล้วไม่ได้บอกความจริงทั้งหมด การนำเข้าก๊าซจริงอยู่ที่เราจะนำเข้าจริง ปริมาณการใช้ก๊าซเพิ่มขึ้นทุกเดือน แต่เป็นการเพิ่มตามจำนวนการใช้งานโดยกลุ่มที่มีการใช้ก๊าซมากที่สุดคือกลุ่มปิโตรเคมี ที่ส่วนใหญ่ ปตท. เข้าไปถือหุ้นอยู่แทบทั้งนั้นซึ่งเหมือนอัดยายซื้อขนมยายหรือถ่ายจากกระเป๋าซ้ายออกกระเป๋าขวา ไม่ว่าขึ้นราคาก๊าซหรือไม่ขึ้นราคาแต่กำไรมหาศาลจะตกอยู่กับใคร ถ้าขึ้นราคาใครจะได้ประโยชน์ที่แท้จริง ซึ่งไม่ใช่ภาคประชาชนและบริษัทอุตสาหกรรมแน่นอน
อีกกลุ่มนึงที่มีการใช้ LPG กันมากคือภาคครัวเรือนเพราะมีการเติบโตกว่า 10 ปีก่อนอย่างมาก ส่วนรถยนต์การใช้ก๊าซก็ยังไม่มากนัก

จริง ๆ แล้วถ้ารัฐบาลจะเลิกอุดหนุนราคาก๊าซทั้งหมดก็สามารถทำได้แต่ว่า โครงสร้างพลังงานที่ผิดรูปไปนี้ รัฐบาลไม่ว่าใครไม่เคยพูดว่าจะแก้ไข เพราะต่างก็มีผลประโยชน์ทั้งสิ้น ถ้าจะยกเลิกการอุดหนุนดีเซลแล้วขายราคาตลาดโลก สิ่งที่ควรต้องทำมีดังนี้

1. ราคาน้ำมันเบนซิน 91 เพื่อนบ้าน เขมร ซื้อจากไทยไปขายราคาลิตรล่ะ 36 บาท ประเทศไทยจะกลับมายืนราคาที่แท้จริงได้หรือไม่ ว่าราคาน้ำมันเบนซินบ้านเราไม่ได้แพง แต่โดนกองทุนน้ำมัน ภาษี สรรพสามิตร ภาษีอบจ. แวต กองทุนเด็กและสตรี อีกมากมายเก็บเงินกันจนบักโกรกแบบนี้ไม่นับมูลค่าการตลาดและกำไรจากการกลั่นและกำไรหน้าปั๊มอีก ลิตรล่ะ 80 สตางค์ -1.5 บาท / ลิตร ทำให้ราคาน้ำมันในไทยสูงเกินความเป็นจริงไปมาก ถ้ารัฐบาลลอยตัวก๊าซแล้วได้บอกหรือไม่ว่าจะแก้เรื่องนี้อย่างไร เพราะราคาเบนซินแท้จริงต้องขายไม่เกิน 36 บาท

2. แก๊สโซฮอลเป็นปัญหามานานทำให้โครงสร้างพลังงานบิดเบี้ยวออกไป อีกทั้งยังเป็นภาระในการใช้อีกหลายกลุ่ม เป็นไปได้หรือไม่ว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่ต้องเลิกการใช้แก๊สโซฮอลเสียที เนื่องจากไม่ใช่พลังงานที่เหมาะสมจะเอาเป็นของทดแทน แล้วยังไม่มีใครนิยมใช้ยกเว้นประเทศไทยและอเมริกาใต้

3. ราคาน้ำมันดีเซลจะยกเลิกการอุดหนุนหรือไม่ ในเมือก๊าซจะขายเท่าราคาตลาดโลก แล้วราคาน้ำมันดีเซลต้องขายในราคาที่แท้จริงด้วยหรือไม่หรือจะอุดหนุนต่อไปเพื่อสร้างความไม่เป็นธรรมต่อไปอีก ราคาน้ำมันดีเซลที่แท้จริงต้องแพงกว่าเบนซินหรือเท่ากับเบนซิน ในเมื่อเบนซิน 91 ราคาแท้จริงตอนนี้ที่สามารถขายได้อยู่ที่ 36 บาท ราคาน้ำมันดีเซลต้องอยู่ที่ 35-37 บาท ไม่ใช่ประชุมทุกเดือนเพื่อเลื่อนเวลาการเก็บเงินกองทุนน้ำมันดีเซล

4. ใครใช้ก๊าซมากคนนั้นต้องรับผิดชอบ จะอุดหนุนเฉพาะกลุ่ม
อยากทราบว่ากลุ่มปิโตรเคมีจะเป็นผู้รับผิดชอบเองได้หรือไม่ เพราะในเมื่อภาคส่วนอื่นมีปริมาณการใช้ที่เพียงพออยู่แล้ว


สิ่งเหล่านี้ที่พูดมาเป็นสิ่งที่รัฐบาลทุกชุดทำไม่ได้ทั้งสิ้น แต่ที่จะทำมีเพียงเรื่องเดียวคือขึ้นราคาก๊าซให้ได้กำไร เนื่องจากปริมาณการนำเข้าและผลิตเองต่อ / เดือน ถ้าก๊าซขึ้นราคาจาก 18 บาท / kg. เป็น 31 บาท / kg จะมีกลุ่มนึงที่ร่ำรวยขึ้นอีกมากมาย




 แสดงความคิดเห็นย่อย แสดงความคิดเห็นย่อย

Auto. จาก Auto 202.80.239.130 พุธ, 3/10/2555 เวลา : 08:36  IP : 202.80.239.130   

edit แก้ไขคำตอบ   delete ลบคำตอบ 32554

      

คำตอบแบ่งหน้าละ 30 คำตอบ ขณะนี้คุณอยู่ที่หน้า 1 จาก >>> 1  



website รองรับการใช้งานทุกระบบปฏิบัติการของ PC Tablet SmartPhone ทุกระบบสามารถโพสข้อความและรูปภาพได้โดยไม่ต้องย่อไฟล์
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ website WeekendHobby.Com สมาชิก เท่านั้น จึงจะตั้งกระทู้ หรือ ตอบกระทู้ได้ครับ
Login Click ที่นี่
สมัครสมาชิก Click ที่นี่



Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วันพฤหัสบดี,26 ธันวาคม 2567 (Online 9743 คน)