คำตอบที่ 1
       ของเดิมใช้ Kia อยู่ ถ้าเทียบกันแล้ว 2.7 สบายใจกว่ามากเวลาหาอะไหล่ และราคาอะไหล่ รวมถึงช่างซ่อมเทียบกันแล้วแตกต่างแน่นอน

รถ 2.7 ไม่ค่อยเกี่ยวกับปี เพราะว่าในเครื่องเบนซินไม่ค่อยปรับเปลี่ยนอะไรมากนัก
ไม่เหมือนดีเซลปี 2002-2005 ก็ช่วงนึง จาก 2005-2009 ก็ช่วงนึง จากปี 2010-2012 ก็ช่วงนึง แต่พอมาปี 2012 นี่ก็คนละเรื่อง คือถ้าเป็นดีเซลเปลี่ยนแปลงเยอะมากเหมือนกัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       เวลาดูรถมือ 2 อย่าไปสนใจเรื่องหลักกิโลเมตรที่วิ่งมา หลายคนชอบสนใจเรื่องนี้จนทำให้มีผู้ขายเอารถไปกรอเลขไมล์กลับมาแหกตาผู้ซื้อว่ารถไมล์น้อย จริง ๆ แล้ววรถวิ่งน้อยวิ่งมากถ้าเป็นปิคอัพไม่ว่าดีเซลหรือเบนซินไม่ค่อยน่าสนใจเอามาเป็นจุดคิดเท่าไหร่นัก
เวลาคิดต้องคิดที่สภาพของรถเป็นหลัก แล้วก็ถ้ารถคันนั้นซ่อมเช็คศูนย์ทุกระยะมาด้วยยิ่งดี
จากประสบการณ์ที่ผมซื้อรถมือ 2 มาใช้ รถที่ซ่อมศูนย์ทุกระยะเปลี่ยนอะไหล่แท้ของศูนย์ทุกระยะตามกาลเวลา เมื่อเราเอามาใช้ต่อมันไม่มีอะไรแฝงในการซ่อมถึงมีก็น้อยมาก สบายใจถ้าซื้อไปใช้ต่อก็เข้าศูนย์ต่อได้เลยที่เดิม
แต่ถ้ารถไม่เข้าศูนย์ ผมเห้นมา 100 ทั้ง 100 ถึงแม้สภาพดีภายนอกแต่เมื่อซื้อไปมักมีงานซ่อมแอปแฝงเอาไว้

รถปิคอัพวิ่ง 3 แสนกิโลเมตร กับรถเก๋งวิ่ง 3 แสนกิโลเมตร วิ่งเท่ากันก็จริงแต่แตกต่างกันเยอะน่ะครับ ในเรื่องสภาพการใช้งาน
เพราะว่าปิคอัพไม่ว่าเครื่องดีเซลหรือเบนซินพื้นฐานจะออกแบบมาให้ทนทานค่าซ่อมถูก
แต่รถเก๋งทนทานน้อยกว่า ค่าซ่อมแพงกว่ากันมาก ถึงแม้ผมต่อให้คุณซื้อมาเป็นเก๋งดีเซล ก็ตาม สภาพจะทรุดโทรมกว่ากันมาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       รถปิคอัพ 2.7 หรือ Fortuner 2.7 วิ่ง 2 แสนโล ผมเห็นแล้วเฉย ๆ เพราะหลายคนซื้อมาก็ปรับปรุงซ่อมตามสภาพไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ถ้าได้มาสภาพดี บางคนได้มารถก็วิ่งเกิน 3.5 แสนกิโลเมตรไปแล้ว เพราะว่ารถเจ้าของเก่าก็ใช้เยอะเนื่องจากใช้ดีใช้คุ้ม ไม่ได้ซื้อมาจอดกันเฉย ๆ พอเห็นว่าประหยัดก็วิ่งกันเยอะเลขไมล์ขึ้นเยอะตามไปด้วย
เพราะฉะนั้นจะซื้อรถแบบนี้ดูที่สภาพเป็นหลักเลยครับ

ทีนี้มาต่อเวลาเราดูรถมือ 2 แน่นอนว่ามันต้องใช้ประสบการณ์ความสามารถ ซึ่งเราไมได้มีอาชีพเป็นพ่อค้าเต๊นท์รถ เราดูอย่างเค้าไม่ได้แน่นอน
แต่มันมีวิธีอื่นที่ดีกว่า คือ

1. ให้ทดลองขับรถคันนี้ให้แน่ใจ ซื้อรถไม่ว่ารถใหม่หรือรถเก่าต้องลองขับว่าเราพอใจ เราชอบใจถูกใจกับรถรุ่นนี้จริงหรือเปล่าแล้วค่อยตัดสินใจซื้อ ห้ามซื้อรถโดยที่ไม่เคยลองขับ แม้ว่าเราจะซื้อป้ายแดงก็ตาม เพราะเราไม่สามารถรู้เลยว่ารถรุ่นนั้นเราชอบเราพอใจจริงหรือไม่
2. ถ้าเป็นไปได้ข้อนี้ผมอยากให้คุณไปเช่ารถเพื่อทดลองขับดูก่อนซักวันนึง รถรุ่นไหนของ 2.7 ก็ได้ที่คุณจะซื้อตามเต๊นท์รถเช่ามีแน่นอน หรือมีโอกาสไปเชียงใหม่ลองติดต่อคุณ TOP เขาทำกิจการรถเช่าอยู่ ลองดูเบอร์ในกระทู้เก่าหรือโทรมาหาผมก็ได้ ลองขับดูให้แน่ใจอย่างน้อยควรขับซัก 1 วันเต็ม ๆ มันช่วยในการตัดสินใจได้เยอะมาก

3. ให้เราดูรถที่เราจะซื้อให้พอใจ ว่าเราพอใจกับรถคันนี้แน่นอนแล้ว จากนั้นให้นำรถไปขึ้น TEST CAR เป็นศูนย์ทดสอบรถมือ 2 โดยที่เราไม่ต้องพาช่างหรอใครไปดู เพราะที่นี่จะแสดงผลออกมาเป็นกราฟค่าต่าง ๆให้เราดูว่า รถคันนี้ประสิทธิภาพแรงม้าเป็นอย่างไร เกียร์ช่วงล่าง เครื่องยนต์มีสภาพอย่างไร สีของรถแชสซีย์มีการเชื่อมตัดแต่งที่ไหนมาหรือไม่มันสามารถ X-RAY ดูหมด
ทั้งหมดนี่เสียค่าใช้จ่าย 3200-3500 บาท / คัน มีส่วนอย่างมากให้เราตัดสินใจซื้อรถมือ 2 คันนั้น (ที่ TEST CAR ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพียงแต่แสดงข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ให้คุณตัดสินใจเท่านั้น )

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       http://www.testcar.co.th/thai.aboutus.php

เทสคาร์ เป็นบริษัทที่ให้บริการตรวจเช็ครถมือสองที่ไม่ขึ้นกับผู้ใดและมีความเป็นกลางอย่างที่สุด
แห่งแรกในประเทศไทย เทสคาร์นำเทคโนโลยีการตรวจวิเคราะห์ด้วยคอมพิวเตอร์ใหม่ล่าสุดมา
ใช้เพื่อตรวจเช็ครถอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยอุปกรณ์ทันสมัยที่ให้ความแม่นยำที่สุด

หากวันนี้คุณกำลังอยากเป็นเจ้าของรถมือสองสักคัน แต่ยังไม่มั่นใจในสภาพที่คุณหมายปอง
เทสคาร์และทีมงานมืออาชีพ ช่วยแ่บ่งเบาความหนักใจของคุณได้ด้วยการตรวจสอบสภาพอย่าง
ละเอียด สำหรับรถทุกรุ่นทุกยี่ห้อไม่ว่าจะเป็นรถเก่าหรือใหม่ เพื่อคุณจะได้รู้ถึงสภาพของรถมือ
สองก่อนตัดสินใจซื้อ/ขาย เราอยากให้ผู้ที่ต้องการซื้อรถมือสองได้มั่นใจว่า จะได้รถที่มีคุณภาพ
คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป สำหรับรถใหม่คุณสามารถตรวจสอบสภาพรถกับเทสคาร์ ก่อนหมดประกัน
จากผู้ผลิตรถยนต์ได้เช่นกัน ทุกชิ้นส่วนสำคัญของคุณ คือความพิถีพิถันในการตรวจสอบของเรา

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       1. เทสคาร์ เป็นบริษัทที่ให้บริการตรวจสอบสภาพรถยนต์อิสระ ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งกับผู้ซื้อและผู้ขาย
2. เพื่อคุณจะทราบว่ารถมือสองที่คุณกำลังจะซื้อมีสภาพเป็นเช่นไร
3. เราเป็นบริษัทแรกและบริษัทเดียวที่ใช้เลเซอร์สแกนเนอร์ในการตรวจวัดแชสซี ซึ่งให้ความละเอียด
เป็นมิลลิเมตร เพื่อหาความผิดปกติของแชสซี
4. เพื่อหาร่องรอยของการซ่อมแซมตัวถัง เราใช้อุปกรณ์ตรวจสอบซึ่งสามารถวัดชั้นสีของตัวถังมีความ
ละเอียดเป็นไมครอน (1 ส่วน 1000 มิลลิเมตร)
5. ตรวจที่ศูนย์ของเทสคาร์จะได้รับผลรายงานทันทีหลังจากที่เราทำการตรวจสอบเรียบร้อยรวมทั้งจะได้
รับคำอธิบายจากพนักงานผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย โดยไม่ต้องเสียเวลารอรับรายงานในวันถัดไป
6. เราใช้อุปกรณ์ที่หลากหลายในการตรวจสอบการทำงานของระบบต่าง ๆ ของรถยนต์ และเปรียบเทียบ
ผลที่ได้กับค่ามาตรฐานของผู้ผลิต เราไม่ได้ตรวจเพียงแค่การใช้เช็คลิสต์ (check list)
7. เราใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ตรวจการทำงานของระบบสมองกล (ECU) ในรถยนต์ซึ่งการตรวจนี้เป็น
เพียงแค่ส่วนหนึ่งของการตรวจสอบทั้งหมดของเราเท่านั้น
8. ด้วยมาตรฐานเดียวกันกับศูนย์บริการในประเทศเยอรมนี รถที่เข้ารับบริการจะได้รับการตรวจสอบความ
ปลอดภัยด้วย Test laneและวัดกำลังของเครื่องยนต์ด้วยDynoทุกคันและเปรียบเทียบผลที่ได้กับค่า
มาตรฐานของผู้ผลิต


ประโยชน์ที่เราจะได้รับ โดยทีเราไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่องการดูรถยนต์และสามารถตัดสินใจในเรื่องการซื้อรถคันนั้นได้อย่างถูกต้อง


1. รู้ถึงปัญหาของรถยนต์คันนั้น
2. ช่วยให้ผู้ซื้อตัดสินใจในการซื้อได้ง่ายขึ้นด้วยการพิจารณาจากรายงาน
3. สามารถประเมินราคาของรถยนต์ได้ง่ายขึ้น
4. ง่ายต่อการประเมินราคาค่าซ่อมหรือการต่อรองราคาในกรณีที่เกิดการซ่อมรถขึ้น
5. รู้ว่ารถคันดังกล่าวเคยประสบอุบัติเหตุหรือไม่
6. รู้ว่ารถคันดังกล่าวปลอดภัยต่อการขับขี่หรือไม่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       สอบถามเพิ่มเติมครับ
แล้วเราจะเอารถที่จะซื้อจากเต๊น หรือรถบ้านไปเทสได้ยังครับ เขาจะให้ยอมให้เราเทส ก่อนที่จะซื้อรถหรอครับ
จริงๆรถ kia sportage ที่ใช้ติดแก๊สไม่มีปัญหาอะไรมากหรอกครับ แต่มันก็มีจุกจิกตาามสภาพของมันเพราะผมเข้า
อู่พี่ยุทธ ตลอด อู่พี่เขาก็บริการดีมากครับ เป็นกันเองราคายุติธรรม เพียงแต่ผมอยากได้รถที่ใหญ่ขึ้นด้วยครับ
ส่วนแฟนผมไม่รู้จะชอบรุ่น 2.7 ไหม แต่เขาชอบรุ่น 7 ที่นั่งอยู่ครับถ้าแฟนชอบจริงๆ จะเก็บตังแล้วจะโทรไปถามพี่ครับ
ไม่ทราบพี่ Auto รู้จักกับพี่ War ประธานชมรม Kia ไหมครับ

ขอบคุณพี่มากๆครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       รถเต๊นท์ไม่มีปัญหาเรื่องการลองขับ เพราะเขาอนุญาตให้ทดลองขับได้เต็มที่อยู่แล้ว
แต่เรื่องไป test car ต้องคุยกับเจ้าของเต๊นท์อีกครั้งว่าเขาอนุญาตหรือไม่ ( เราเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเรื่องเทสต์เอง ) ถ้ารถอยู่โซนศรีนครินทร์ยิ่งสะดวกเลยเพราะ TEST CAR อยู่ใกล้กันจะง่ายในการคุย


ส่วนรถบ้านถ้าอยู่ในกรุงเทพ ปริมณฑลคุยกับเจ้าของอย่างตรงไปตรงมาเลยครับ เราอยากขึ้นเทสต์ เพื่อดูสภาพรถก่อนซื้อขายถ้าผลออกมาดีมันก็คุ้มที่เราจะซื้อแต่ถ้าไม่ดีก็ตัดสินใจไปดูคันอื่น ถ้าเขาไม่ยอมก็ผ่านไปคันอื่นเลย รถราคาไม่ใช่ถูก ๆ โดยเฉพาะรถสปอร์ตหรือ SUV ราคาแพงถ้าซื้อขายกันโดยไม่ขึ้นเทสต์รถนี่ไม่ได้เลย เพราะเหมือนเราตาบอดแล้วไปซื้อรถจะมืดเปล่า ๆ ( เสียหายเยอะ จะโดนหลอกไม่คุ้มเสีย) แต่ถ้าได้เทสต์รถเหมือนตาสว่างกับคันนั้นทีเดียว
เรื่องนี้ไม่ต้องกลัวเพราะเจ้าของรถเขาไม่ได้เสียอะไรอยู่แล้ว ค่าใช้จ่ายในการเทสต์รถเราก็เป็นคนออกเอง รถเขาก็ไม่เสียหายอะไรเพราะเอาขึ้นไดนาโม Drumtest ไม่ไช่การขับทดสอบบนถนนเบรคกันล้อลากซักหน่อย scan สีรถแชซซีย์รถดูกันให้เห็นจะจะไปเลย เรื่องนี้ต้องคุยกับเจ้าของให้เข้าใจ ...............ถ้าเขาไม่ยอมให้เทสต์ก็ผ่านไปอย่าซื้อเลยครับ เพราะรถเราซื้อโดยไม่ดูสภาพ เสี่ยงกับเราเอง เงินก็เงินเราเอง
TEST CAR ก็ตั้งมานาน คนส่วนใหญ่ก็ยอมรับเอารถไปขึ้นเทสต์กันเยอะแล้ว ไม่ว่ารถที่แต่ง รถติดแก๊สเพราะเขาต้องการวัดประสิทธิภาพของรถเป็นหลัก




KIA เป็นรถเกาหลี แต่ถ้าเทียบกับ TOYOTA บ้านเราแล้ว ชื่อเสียงเป็นรองในด้านอะไหล่ บริการหลังการขาย ค่าเซอร์วิส ความทนทานในการใช้กับเมืองร้อนอย่างเมืองไทย TOYOTA เหนือกว่า แน่นอนว่ารถคันนึงคุณจะใช้คุ้มใช้ยาวเกิน 10 ปี รถยี่ห้อ TOYOTA กินขาดรถจากค่ายเกาหลีแน่นอน ศุนย์บริการมีให้เลือกเยอะ โดยที่ลูกค้าไม่จำเป็นต้องไปหาอู่นอก เพราะราคาบางรายการอู่นอกทำไม่ได้ ทำไม่ดี หรือทำแล้วราคาแพงกว่าซ่อมศูนย์ สิ่งเหล่านี้มันทำให้ได้เปรียบกว่าใช้รถที่มีประชากรน้อย เวลาซ่อมทีต้องหาอู่เฉพาะ อู่ประจำ ไปไหนต่างจังหวัดกังวลว่าจะไม่มีอุ่ หรือคนใช้รถต่างจังหวัดก้ไม่สะดวกเรื่องซ่อมหรืออู่ประจำ เพราะซ่อมได้ก็ขาดอะไหล่ สมการทั้งหมดนี้ TOYOTA 2.7 ได้เปรียบรถจากค่ายเกาหลีมาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       การเทสต์รถ กับไดโนเทสต์ เราจะทราบข้อมูลคร่าว ๆ ดังนี้

- โช๊คเสีย
-ช่วงล่างเริ่มหลวมคลอน
- เบรคไม่ค่อยจับหรือปล่อย
บางทีเราเจออาการแบบนี้ แต่รถสภาพอื่นดีหมด สีไม่เสีย ไม่เคยผ่านการชนหนักมาก่อน เครื่องยนต์ดี เกียร์ดี
เราสามารถขอต่อรองกับเจ้าของได้ว่าขอต่อร่องเป็นค่าซ่อมนิดหน่อย พวกช่วงล่างลูกหมาก แบบนี้เป็นการต่อสมเหตุสมผลและยอมรับได้ทั้งผู้ซื้อผุ้ขายและเป็นความพอใจสูงสุดของทุกฝ่ายในการพบกัน ไม่ใช่ต่อแบบหนักหน่วง หรือไม่ต่อเลย


แต่ถ้าพบว่า
- เกียร์มีปัยหา
- เครื่องมีปัญหา
-หรือรถผ่านการชนหนักมากมาก่อน
เราดูแล้วรับได้อยากซื้อในสภาพนี้แต่เห็นว่าราคาสูงเกินไปก็สามารถต่อรองมาในราคาสมเหตุสมผลได้
หรือเราคิดแล้วว่าเราซื้อแล้วต้องซ่อมอีก ในราคาซ่อมเครื่องและเกียร์ เกินงบประมาณไปมาก เราก็สามารถขอผ่านคันนี้ไปดูคันอื่นแทนได้
มันเป็นประโยชน์แน่นอนทุกฝ่าย เรื่องการย้อมแมวมันจะหายไปเยอะ ที่สำคัญเรามั่นใจได้ในสภาพรถที่เราจะซื้อ เพราะเราทราบตั้งแต่ต้นแล้วว่ารถมีสภาพไหน เพราะเห็นจนทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       มันไม่มีอะไรยุ่งยากอย่างที่คิด ตราบใดที่เรายังไม่ลองทำ TESTCAR ไม่น่ากลัว เราจะพบความจริงสิ่งใหม่ ๆ อีกมากมาย
ลองเอ่ยปากกล้าที่จะพูดกับเจ้าของก็ได้ มันเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะตัวเราเองที่เป็นคนจ่ายเงิน


ตัวอย่าง
รถสปอร์ตคันนึง ราคา 1 -2 ล้านบาท จากเยอรมันดาวสามแฉก ตลอดเวลาใช้น้อยเก็บในร่ม แต่ว่าขับทีเหมือนลงสนามแข่งตลอด แต่งกล่องไปเยอะ จูนน้ำมันไม่สมดุล รถแบบนี้คนซื้อเห็นแค่สภาพภายนอกก็ผ่านแต่ภายในเครื่องยนต์และเกียร์ ต้องลองขับแบบหนักหน่วงจึงจะทราบ
ผมถามหน่อยเวลาคุณซื้อรถมือ 2 คนซื้อมีใครกล้าขับแบบ 160 ขึ้นไปหรือเปล่า เจ้าของเก่าน่าจะด่า กรุไม่ขายแล้ว นั่งไปด้วยกลัวตายกันพอดี กลัวรถจะพังก่อนขาย เรื่องแบบนี้ไม่ยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ในการซื้อขายอย่างแน่นอน คนซื้อก็ลองได้ไม่เต็มที่ คนขายก็ไม่สบายใจกลัวรถพัง
เขาจึงแก้ปัญหานี้ด้วยการเอารถขึ้นไดโนเทสต์ ของ TEST CAR ให้คอมพิวเตอร์วัดค่าจุดบกพร่องของเครื่องยนต์ การคายไอเสีย รถสมบูรณ์จริงไหม ดีจริงไหม รถสปอร์ตแบบนี้ราคาไม่ใช่ถูก ๆ ราคาเป็นล้าน การตัดสินใจซื้อรถเพียงแค่มาลองขับ 1-2 กิโลเมตร มันไม่ใช่แน่นอนครับ
เดี๋ยวนี้ทุกฝ่ายเขาจึงต้องมาให้ เครื่องจักร และคอมพิวเตอร์ ที่มีคุณภาพเป็นตัวตัดสิน
คนซื้อก็พอใจ คนขายก็พอใจเพราะรถไม่มีอะไรเสียหาย หรือไม่ช้ำ ไม่ต้องไปผ่านมือใครมากมายเพื่อลองรถ เอาใบรับรองยืนยันได้เลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       ขอบคุณพี่ Auto อีกครั้งครับ แต่ลองหาในดูเวปรถมือสองทั่วไป
หายากมาเลยครับ วีโก้รุ่น 2.70 เปิดดูเยอะมากกว่าจะเจอ 1 คัน
สุดท้ายต้อง รอถามแฟนว่าจะเอาด้วยหรือไม่ พยายามพูดกรอกหู
อยุ่ครับ 555 เพราะงบที่มี อาจจะได้แค่ วีโก้เครื่องเบนซิน
แต่แฟนดันไปชอบ มิตซูปาเจโร่สปอร์ต ซึ่งมันแพงมากใจก็อยาก
แต่กำลังทรัพย์เราไม่พอ ก็เลือกที่เรามีดีกว่าครับ

ขอบคุณพี่อีกครั้งครับ สำหรับข้อมูลดีๆครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ธรรมดานั่นแหละครับ เพราะจำนวนรถในท้องตลาดมีน้อย ตอนเป็นรถใหม่ป้ายแดงคนไม่สนใจจะซื้อ ทำให้พอเป็นมือ 2 จะหาซื้อมันก็ยากตามไปด้วย คนที่มีก็ไม่ค่อยอยากปล่อย รถดีก็หายากเป็นธรรมดา
แต่ถ้าในตลาดมีกันเกลื่อนจอดกันเต็มเต๊นท์ ได้มาก็ไม่ค่อยภูมิใจอยู่ดี เพราะใคร ๆ ก็มีเหมือนเรา

ก็ขอให้สมหวังสมความตั้งใจนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       ความเห็นส่วนตัว สำหรับรถวีโก้ 2.7 มือสอง
ถ้าเอาแค่ Cab 2WD ตัว Minor change ตัว 2008 ขึ้นมา น่าสนใจที่สุดครับ
ได้ Smart-Cab เกียร์ Auto , Airbag, ABS ในขณะที่ตัวรถมีอายุแค่ 3-4 ปี
ถ้าเข้าศูนย์ตลอด ก็ยังไม่มีอะไรต้องกังวลมากนัก ติดแก๊สมาด้วยยิ่งคุ้ม
ถ้าไม่เกิน 500K ผมว่าน่าสนมาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       รุ่น DOUBLECAB 4WD หายากมาก
ราคาก้เอาเรื่องเหมือนกัน แต่ดูสภาพตามเต็นแล้ว ก็น่าเล่นครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย