คำตอบที่ 1
       1. ถังดับเพลิงขนาดเล็กที่ซื้อกันติดรถไปดูได้ที่โฮมโปรทุกสาขา ราคาน่าจะไม่เกิน 1000 บาท
แต่บอกไว้ก่อนนะครับ ซื้อมาแค่อุ่นใจเอาไว้ช่วยรถคันอื่น ไม่ได้เอาไว้ช่วยรถตัวเอง เพราะว่าเวลาไฟลุกไหม้ไม่ว่าจะเป็นเชื้อเพลิงแก๊สหรือน้ำมัน ถังดับเพลิงควรเป็นถังสารเคมีใหญ่ประมาณ 2 ถัง จึงจะดับได้ ถังขนาดเล็กแบบนั้นเอาไว้ดับกองไฟขนาดเล็ก ที่มีพวกกระดาษพลาสติกเป็นเชื้อเพลิงที่ไม่ได้จุดเชื้อเพลิงด้วยแก๊สหรือน้ำมัน

2. ปั๊มติ๊กถ้าจะตัดต้องใส่กล่องตัดปั๊มติ๊ก 1 ตัว ข้างในเป็นชุดรีเลย์เพื่อตัดปั๊ม ราคากล่องประมาณ 500 บาท เมื่อตัดแล้วต้องมีปรับจูนแก๊สอีกนิดหน่อย เพื่อหน่วงเวลาการฉีดของน้ำมันให้นานขึ้นอีกนิดนึงเพื่อการตัดต่อแก๊สจะไม่สดุด ค่าจูนแก๊สประมาณ 150-300 บาท ไม่เกินนี้ อันนี้โทรสอบถามที่ซื้อกล่องรีเลย์กับที่ทำกับผมอีกครั้ง

3.แคทตาไลติกไม่ต้องไปตัด ไม่ต้องไปยุ่งกับมันทั้งนั้น ตัวแคทที่ตัดกันในคลับเรามี 2 แบบ
3.1 ตัดเพราะว่าเขาใส่ถังแก๊สวางที่หม้อพัก แต่เอายางอะไหล่ไว้ จึงจำเป็นต้องตัดแคทตัวที่ 2 ไป
3.2 ทำท่อไอเสียใหม่ ท่อสูตร ท่อแต่ง จึงไม่มีแคท ปัจจุบันไม่ค่อยมีใครนิยมแล้ว
ตัวแคทจึงห้ามยุ่งกับมันถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ของผมขอนอกเรื่องนะ
ยินดีด้วยครับกลับความประหยัดขึ้นที่จะได้รับ
-เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีแก๊สเกือบเทียบเท่าน้ำมันแล้วแต่อัตตราความสึกหลอก็ไวหน่อยเพราะความร้อนในการเผาไหมสูงกว่าน้ำมันเยอะ
-อย่าลืมตรวจเช็ค PM ประจำวันนะครับเปิดดูสักหน่อยก็ดีกว่าเพื่อแก๊สรั่ว
-ขับแก๊สไปสักพีกใหญ่และขับมาลองขับน้ำมัน 95 แล้วจะได้ความรู้สึกดีขึ้นมาอีกนิส

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       2. ปั๊มติ๊กถ้าจะตัดต้องใส่กล่องตัดปั๊มติ๊ก 1 ตัว ข้างในเป็นชุดรีเลย์เพื่อตัดปั๊ม ราคากล่องประมาณ 500 บาท เมื่อตัดแล้วต้องมีปรับจูนแก๊สอีกนิดหน่อย เพื่อหน่วงเวลาการฉีดของน้ำมันให้นานขึ้นอีกนิดนึงเพื่อการตัดต่อแก๊สจะไม่สดุด ค่าจูนแก๊สประมาณ 150-300 บาท ไม่เกินนี้ อันนี้โทรสอบถามที่ซื้อกล่องรีเลย์กับที่ทำกับผมอีกครั้ง

-ถ้าตัดแล้วมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร
-ถ้าไม่ตัดจะมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร
พอดีว่าทางช่างที่ติดตั้งไม่แนะนำให้ตัด บอกว่าถ้าตัดแล้วเกิดปัญหากับระบบแกส เครื่องจะดับทันทีและจะสตาร์ทไม่ติด งงมากครับ

 แก้ไขเมื่อ : 11/3/2556 23:04:28

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       การตัดปั๊มติ๊กได้มีการเคยบอกข้อดีข้อเสียไว้แล้วในกระทู้ของเวปนี้
ซึ่งทางพวกเราที่ติดแก๊สไป รุ่นแรก ๆ ได้เคยมีการลองผิดลองถูกในเรื่องการตัดปั๊มติ๊กกันมาแล้ว ผลสรุปคือ การตัดปั๊มติ๊กเมื่อรถใช้แก๊สคือทางเลือกที่ดีที่สุดในการใช้งาน แต่ไม่ใช่ว่าการไม่ตัดปั๊มแล้วจะเลวร้ายเสมอไปมันก็ใช้ได้ แต่โลกเรานี้อย่างที่บอกว่า มันมี 2 ด้านเสมอมา
อุ่ติดแก๊สบอกคุณ น่ะถูกเพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งนึง ผมล่ะไว้ ?

1. ถ้าไม่ตัดปั๊มติ๊ก
- ต้องเติมน้ำมันไว้อย่างน้อย 1/ 4 ถังเสมอ หรือมากกว่านั้น
- ถ้าท่อน้ำมันแตกหรือเกิดอุบัติเหตุรถชนกันด้านหน้า ท่อน้ำมันจะยังไหลไม่หยุด เพราะระบบใช้งานแก๊ส แต่ระบบน้ำมันจะทำงานอยู่ตลอดเวลา
- มีโอกาสที่ปั๊มติ๊กจะพัง เพราะว่าความร้อนในการที่น้ำมันน้อยเกินไปในการเลี้ยงปั๊มติ๊ก โดยเฉพาะเวลาขึ้นเขาลงเขาการเปลี่ยนแปลงน้ำมันในถังค่อนข้างสูงมาก จุดนี้เจ้าของรถไม่ทันสังเกตุ
- มีภาระในการเติมน้ำมันต่อเดือนมากกว่ารถที่ไม่ได้ตัดปั๊มติ๊ก เพราะต้องเติมน้ำมันไว้มาก ในขณะเดียวกันต้องพยายามระบายหรือใช้น้ำมันเก่าให้หมดภายในเวลา 1- 3 เดือน ห้ามเอาน้ำมันเก่าคาถังไว้นาน ๆ



2. ถ้าตัดปั๊มติ๊ก
- เสียตังค์เพิ่มขึ้น
- เครื่องยนต์อาจมีสดุดบ้างเล็กน้อย
- มันจะรู้เลยว่าอู่ติดแก๊ส จูนรถได้โคตรเทพเนียนจริงหรือเปล่า ถ้าตัดปั๊มติ๊กไปแล้ว หรือจะรู้เลยว่าชุดแก๊สนั้นเนียนจริงหรือไม่
- ข้อดีอื่นไม่พุดถึงแล้วกันเอาเฉพาะข้อเสีย

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

รถผมตัดปั๊มติ๊กไปทุกคันตั้งแต่ติดแก๊ส ไม่มีการมาตัดทีหลังเด็ดขาด เพราะเสียเงินเสียเวลามาก ยังไงก็ต้องตัดอยู่ดี ถ้าช่างไม่ตัดผมก็ไม่ติดกับช่างคนนั้นอยุ่แล้ว และรถทุกคันที่ตัดปั๊มติ๊ก มาก็ไม่มีปัญหาในเรื่องสดุดดับ เพราะวอร์มเครื่องก่อนออกจากบ้านก็ตัดเข้าแก๊สแล้วอาการสดุดจึงไม่เจอว่าเป็นปัญหา เครื่องไม่เคยดับหลังจากตัดต่อแก๊ส ถ้าดับแสดงว่าระบบแก๊สนั่นแหละอาจจะมีปัญหา หรือกับการจูนแก๊สของช่างติดแก๊สห่วยแตกสิ้นดีจึงทำให้มีปัญหา ซึ่งรถที่บ้านผมไม่เคยเจอว่าเป็นแบบนั้น
ส่วนรถสมาชิกรุ่นเก่าที่ติดตั้งไปแล้วตัดปั๊มติ๊กไปรุ่นแรก กับช่างที่เขาติดไปเนียน ๆ ทุกวันนี้ก็ไม่เคยเจอว่าใครมีปัยหา จะเติมน้ำมันหรือไม่เติมก็ยังได้ ปั๊มติ๊กก็ไม่พัง ไม่เคยสนใจอะไรอยุ่แล้ว เขาก็ใช้รถกันสบายใจกว่าคนไม่ตัดปั๊มติ๊กซะเอง แถมเกือบทุกคนผมแนะนำใหเติมเบนซิน 91 ด้วย พอ 91 ไม่มี ก็เปลี่ยนมาเติม 95 วิ่งสะใจกว่าเก่า พวกแก๊สโซฮอล อย่าหวังจะได้เติมถ้าไม่มีจริง ๆ นั่นแหละจึงเติม


เคยมีเคสเดียวที่เรามีปัญหากันตอนเข้าป่าทุ่งใหญ่นเรศวร รถคันนึงสตาร์ทไม่ติด เพราะว่าขารีเลย์ปั๊มติ๊กหลวม ขยับใหม่ให้ได้แล้ว มีแค่นั้น


______________________________________________________________________________________________________________

หลายเรื่องในเวปผมได้เขียนเป็นความรู้ไปให้ทำกันอยู่แล้ว ไม่ต้องไปลองผิดลองถูกเองให้เสียเวลา บางทีไปสียเงินกันเองโดยเปล่าประโยชน์ หรือทำได้ไม่ได้อย่างที่คาดหวัง บางเรื่องก็ไม่ได้ทำ บางเรื่องทำไปก็ไม่ได้อะไร ไปเสียเวลาเสียเงินกันเปล่าประโยชน์

แสดงความคิดเห็นย่อย