คำตอบที่ 181
       MAZDA BT 50 ออกรถปิคอัพ CNG จากโรงงานมาแล้วนะครับ เป็นรถที่ไม่มี Option อะไรเลย กระจกมือหมุน มองข้างปรับมือ อุปกรณ์อื่นไม่มี ทำมาเพื่อเป้นรถเพื่อการพาณิชย์โดยเฉพาะ มีถุงลมด้านคนขับมาให้ 1 ใบ นอกนั้นควรห้อยหลวงพ่อเกจิวัดดัง ๆ บนหน้าปัทม์เพื่อเป็นอุปกรณ์เสริมพิเศษ

Mazda BT-50 PRO Freestyle Cab CNG รุ่น FSC 2.5 S ราคา 683,000 บาท

Mazda BT-50 PRO Double Cab CNG รุ่น DBL 2.2 S ราคา 723,000 บาท


http://auto.siam-vip.com/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2-mazda-bt-50-pro-cng.html

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 182
       MAZDA 2 จะเข้ามาทำตลาดในไทยแล้วนะครับ มาด้วยเครื่องยนต์ Sky active ดีเซล 1.5 ลิตร ครั้งแรกของวงการรถยนต์เมืองไทย ที่เครื่องดีเซลมาอยู่กับรถเก๋งขนาดเล็กและอยู่ในราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 speed ข่าวว่าราคาเปิดตัวประมาณ 7.5 แสนบาท
ความประหยัดน้ำมันสูงสุดอยู่ที่ 26.6 km/l
ถ้าใครหวังประหยัดน้ำมันอยากซื้อรถขนาดเล็กเพื่อลดค่าใช้จ่ายในชีวิตปรจำวัน เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก ถึงแม้ราคาน้ำมันดีเซลจะขึ้นราคามาอยู่ที่ 32-35 บาท ก็ยังเป็นทางเลือกที่น่าซื้ออยู่ดี

แต่ต้องโน๊ตไว้ในใจนิดนึงว่า Mazda เป็นรถที่ขึ้นชื่อมากในเรื่องศูนย์บริการที่ห่วยมาก และห่วยเข้าขั้นติดอันดับในเมืองไทยยี่ห้อนึงทีเดียว ในด้านการบริการก็งั้น ๆ ไม่ว่ารถคุณจะแพงหรือถูกแค่ไหน ทำใจไว้เลยได้รับบริการที่เหมือนกันหมด คือ ห่วย เข้าเช็คระยะก็ต้องรออะไหล่ ถ้าเกิดอุบัติเหตุต้องซ่อมขึ้นมาก็รออะไหล่อีกเช่นกัน เพราะว่า Mazda จะสั่งผลิตอะไหล่ให้ลูกค้าตามออเดอร์เท่านั้นไม่มีการสต็อกอะไหล่ ซึ่งถ้าใครไม่ได้มีรถในบ้านเป็นคันที่ 2 -3 แล้วไม่แนะนำให้เล่นรถ Mazda ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมามักไม่มีอะไหล่ซ่อมหรือรอซ่อมรถนานมาก อีกทั้งช่างในศูนย์แก้ปัญหาให้ลูกค้าไม่ค่อยได้ call center ของ Mazda ก็ขึ้นชื่อว่าแก้ปัญหาให้ลูกค้าไม่ได้เลยแถม กวนส้นตรีนลูกค้าทำให้ มีปัญหาร้องเรียนกันประจำ ถ้ารับสภาพได้กับการบริการของ mazda ตัวรถและเทคโนโลยีของ MAZDA ก็น่าซื้อครับ

 แก้ไขเมื่อ : 6/10/2557 11:09:52

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 183
       ขออนุญาตบอกกล่าวเรื่อง ข้อคิดสำหรับผู้ที่จะลงเทอรโบกับรถ 2.7

เช้านี้มีโทรศัพท์มาจากคุณทวีศักดิ์สมาชิกท่านนึงที่ลงเทอรโบไปกับ 2.7 ปรากฎว่าขณะขับอยู่ที่ความเร็ว 60 km/h เครื่องพังเสื้อสูบแตกทะลุ เคสเสื้อสูบทะลุสำหรับผู้ที่ลงเทอร์โบใน 2.7 มีมาแล้วหลายคัน ผมบอกกล่าวในนี้เลยว่าผู้ที่จะลงเทอรโบขอให้จำไว้ว่าค่าบูสมาตรฐานที่เซทมาว่าควรอยู่ที่เท่าไหร่อย่าบูสหนักเกินไป เพราะเจตนาในการลงเทอรโบเพื่อให้รถขับสนุกขึ้นไม่ได้เอาไว้ให้แรง หรือบูสขึ้นมาหนัก ๆ เพราะเสื้อสูบ ฝาสูบทนไม่ไหว กระจายแน่นอน อย่างของคุณทวีศักดิ์ที่สอบถามมานั้นมาตรฐานเขาอยู่ที 0.7 สำหรับโบที่เขาลงมา แต่เขาปรับบูสขึ้นไป 1.0 คิกดาวน์ไปก็เครื่องพังเลย ใน 2.7 มีคนพังมาแล้วหลายรายแต่ไม่ค่อยได้เอามาพูดกัน ผมก้ไม่ค่อยสนับสนุนการตบแต่งที่ผิดไปจากเดิมเท่าไหร่นัก เพราะมันคือการตบแต่งที่ผิดไปจากเสปกเดิมซึ่งผู้ที่จะตบแต่งดัดแปลงแก้ไข ควรเผื่อใจล่วงหน้าว่าข้อผิดพลาดอาจมีขึ้นได้ เพราะมันไม่ใช่ค่ามาตรฐานโรงงาน ซึ่งการซ่อมแซมเรื่องเสื้อสูบแตกนั้นมันมีราคาที่ท่านต้องจ่ายค่อนข้างมหาศาล เพราะฉะนั้นควรระวังเรื่องการบูส และเตรียมเงินเตรียมอู่ ซ่อมถ้ามันถึงเวลาต้องซ่อมเอาไว้ด้วย
เทอรโบสำหรับรถดีเซลจากโรงงานต้องเพิ่มเงินอย่างน้อย 1.5 แสนบาท เครื่องเบนซินก็ต้องมีอย่างน้อย 1 แสนบาทเช่นกัน แต่คนไทยไม่ทราบหรือทราบแต่ไม่อยากจ่าย ในอดีตมีมาแล้วคือ Vios เทอรโบ ปรากฎว่าขายไม่ออกลูกค้าไม่อยากได้ ปัจจุบันก็มี Pulsar เทอโบราคาเกือบ 1
ล้านบาทขายไม่ออกเช่นกันลูกค้าไม่อยากได้ บริษัทรถยนต์เขาก็วิจัยตลาดออกมาแล้วว่าลูกค้าไม่อยากได้ ทำออกมาก็ไม่มีลูกค้าซื้อ ถ้าใครปรารถนาความแรง เป็นชีวิตจิตใจไม่เหมาะจะเล่น 2.7 แน่นอนเพราะกำลังมันมีสำหรับการใช้งานในรอบต่ำ ไม่เหมาะจะเล่นกับรอบสูง มันต่างกันกับเครื่อง JZ ที่เน้นความแรงมากกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 184
       เมือสองสามวันที่ผ่านมาผมได้ไปลอง ไฮแลนเดอร์ตัวเก่าเครื่อง 3.0 iteq turbo มาเพราะจะเอาไปขนของ รถเดิมๆ คนรุ่นเก่าขับ ส่วนตัวผมในชีวิตไม่เคยขับดีเซลเทอร์โบเลยแม้แต่ของวีโก้ เพราะใจชอบเบนซินอยู่ก่อนตั้งนานแล้ว ( ก่อนเจอเวปนี้ด้วยครับ ) มาถึงผมก็ลองเลย จัดให้เต็มทุกเกียร์ ปรากฏว่า.... ไม่เห็นเหมือนที่ชาวอีผุผุว่าไว้เลยครับ อืดเป็นเรือเกลือ 2.7 ยังจะเร็วกว่า ( ในแง่บรรทุกนะฮะ คหสต ) วิ่ง 80 นี่ยังเหนื่อย ( แต่ถ้าไม่ได้บรรทุกขับเจ้าโก้นี่ก็เหนื่อยฮะ ท้ายเบา ผมเคยถอดโครงไปทาสีแล้วเอามาวิ่งตัวเปล่าดู ไปไม่เป็นเลย รถจะลอยๆ ) บรรทุกเต็มคันเจ้าวิ่ง 150-160 ก็วิ่งมาแล้ว เส้นร้อยเอ็ด-จตุรพักรฯ ไม่เหนื่อยไม่เสียวด้วยฮะ นิ่งมาก ตอนแรกผมก็อยากทำเหมือนกันลงโบ แต่ถ้าเปอร์เซ็นเสียมันเยอะกว่า ก็ต้องขอบาย เพราะไม่ได้เอาไว้แข่งกะใคร ( เปลืองน้ำมันเพราะยังไม่ได้ติดแก๊ส ) แต่ถ้าจะแข่งจริงก็อยู่ที่ใจมากกว่าฮะ ใครจะยกก่อน 2.7 นี่ถ้าลากรอบแบบรถเก๋งก็พอตัวอยู่นะฮะเพราะเคยลองแล้ว ( แต่คันเกียร์สั่นมากไม่รู้เพราะอะไร ) คหสต นะฮะ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 185
       เชื่อว่าหลายๆคนยังมีข้อกังขาและสงสัยเกี่ยวกับน้ำมัน E85 กันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย บางคนอยากจะเติมใช้แต่ก็กลัวว่าจะมีปัญหาตามมาเพราะคิดว่ารถที่ใช้อยู่ไม่ได้ทำมารองรับ โตโยต้านนทบุรีจะขอสรุปข้อมูลมาให้เลย

E85 มีคุณสมบัติกัดกร่อนสูงจริงหรือ
ข้อนี้จริง แต่ไม่ได้เยอะอย่างที่คิดครับ แม้แต่น้ำมันเบนซินเองก็กัดด้วยเหมือนกัน
(ลองเทใส่มือดูก็คงจะพอทราบว่าการกัดกร่อนนี้เป็นยังไงและผู้ผลิตรถยนต์ก็ทราบถึงปัญหานี้มาตั้งแต่เริ่มมีการเปลี่ยนมาใช้น้ำมันไร้สารตะกั่วในท้องตลาด จึงมีการเปลี่ยนไปใช้วัสดุที่ทนต่อการกัดกร่อนของเบนซินไร้สารตะกั่วนี้ได้มาตั้งแต่ต้นปี 90 แล้ว (ยุคเดียวกับที่เริ่มเปลี่ยนมาเป็นเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด)ดังนั้นปัญหาจริงๆของ E85 ไม่ใช่เรื่องของคุณสมบัติการกัดกร่อน แต่กลับเป็นคุณสมบัติดูดความชื้นของแอลกอฮอล์ต่างหาก ซึ่งถ้าเราปล่อยเอธานอลทิ้งไว้นานๆ ตัวมันก็จะเริ่มดูดความชื้นสะสมเอาไว้เรื่อยๆ และถ้าหากภาชนะที่บรรจุนั้นเป็นเหล็ก ผลที่ได้ก็คือสนิมนั่นเอง
แน่นอนครับว่าผู้ผลิตก็ทราบถึงเรื่องนี้ และก็ได้เปลี่ยนจากท่อน้ำมันที่เคยเป็นเหล็กล้วนตอนสมัยเครื่องคาร์บูฯเป็นท่ออลูมิเนียม ถังเหล็กก็มีการชุบสารกันสนิมเคลือบไว้ด้านใน หรืออย่างช่วง 10 ปีที่ผ่านมาก็ใช้เป็นถังและท่อน้ำมันพลาสติกแทนแล้ว นอกจากนี้ก็ยังเป็นถังระบบปิด กันอากาศและความชื้นเข้าออกเอาไว้อีกด้วย โดยรวมแล้วก็พอจะพูดได้ว่า รถที่เป็นเครื่องหัวฉีดมาจากโรงงานนั้นมีความพร้อมที่จะใช้ E85 ได้เกิน 90% อยู่แล้ว

ในส่วนของยางกับเอธานอลนั้น ความเสียหายจะเป็นคนละสาเหตุกับเหล็ก กล่าวคือไม่ใช่ความเสียหายจากการกัดกร่อนหรือสนิม แต่เกิดจากคุณสมบัติความ "แห้ง" ของแอลกอฮอล์ซึ่งทำให้เนื้อยางกรอบและแตกร้าวได้ แต่โชคดีที่ความเสียหายที่ว่านี้จะเกิดเฉพาะกับยางธรรมชาติเท่านั้นครับ ส่วนยางที่นำมาใช้ในการผลิตรถยนต์ในช่วงเวลาเดียวกับที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เปลี่ยนเป็นยางผสมหรือยางสังเคราะห์ซึ่งจะไม่มีการแตกตัวในลักษณะอย่างที่ว่าแทนไปแล้ว ดังนั้นหากสำรวจแล้วว่าท่อยางที่ใช้งานยังอยู่ในสภาพที่ดี ก็สามารถเติม E85 ได้เลย (ต่อให้ไม่ได้คิดจะเติมใช้ ถ้าเห็นท่อน้ำมันเบนซินเริ่มมีรอยแตกแล้วก็เปลี่ยนเถอะครับ)

มีบทความจากเวปนอกเขียนไว้ว่่า หนึ่งในเหตุผลที่ยังต้องมีการผสมน้ำมันเบนซินเอาไว้ 15% ก็เพราะต้องการอาศัยความ "มัน" มาเป็นตัวช่วยกันไม่ให้ท่อยางแห้งเกินไป แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเป็นเหตุผลในการทำ Denatured Alcohol* มากกว่า

เติมแล้วทำให้ปั๊มติ๊กพังหรือกรองตันหรือเปล่า?
- อย่างที่เขียนไปในคำตอบแรก ถ้าหากเป็นปั๊มติ๊กที่มีชิ้นส่วนเป็นเหล็ก และมีการปล่อยทิ้งไว้นานก็จะทำให้ปั๊มเป็นสนิมได้จริง ถ้าเป็นรถที่มีอายุมากๆ ผ่านการใช้งานมานาน พอเติม E85 ใส่ลงไป จะทำให้คราบจำพวกสารหล่อลื่นหรือสารเติมแต่งอื่นๆที่ผสมมากับน้ำมันเบนซินที่เกาะอยู่ในถังละลายออกมา ซึ่งอาจจะทำให้กรองเบนซินหรือปั๊มติ๊กอุดตันได้ถ้าหากมีประมาณเยอะพอ ซึ่งตรงนี้ส่วนตัวยังไม่เคยเจอ บางคันอายุเกิน 15 ปีแล้วก็ยังเติมใช้ได้ปกติดี ตรงนี้อาจจะใช้วิธีเปลี่ยนกรองเบนซินหลังจากใช้งานไปสักพักแล้วก็น่าจะหมดปัญหา

เติม E85 ทำให้เครื่องพังได้ใหม?
- ถ้าเป็นรถที่ไม่ได้ทำมารองรับ E85 แล้วเผลอเติมไปสักถังก็ไม่ต้องตกใจครับ แค่ถ่ายออก แล้วเติมน้ำมันปกติลงไปก็จบครับ แต่ถ้าฝืนใช้ไปนานๆโดยไม่มีการใส่อุปกรณ์ปรับส่วนผสมใดๆเลย ก็อาจจะทำให้เครื่องพังจากส่วนผสมบางได้ครับ ซึ่งยังไงก็ไม่ใช่พังในทันทีแน่นอน

เติม E85 แล้ววิ่งได้ระยะทางน้อยลงรึเปล่า?
- จริงครับ แต่น้อยลงประมาณ 10-15% เท่านั้น เทียบกับราคาน้ำมันที่ถูกกว่าเกือบครึ่งก็ยังถือว่าประหยัดได้มากกว่าพอสมควร ถ้าหากราคาน้ำมันต่างกันไม่เกิน 20% ก็คงไม่คุ้มที่จะเติมครับ

E85 มีพลังงานน้อยกว่าเบนซิน ทำให้รถแรงน้อยกว่าเดิมหรือเปล่า?
- จริงอยู่ที่พลังงานจาก E85 น้อยกว่าน้ำมันเบนซิน "เมื่อเทียบจากการเผาไหม้ในปริมาณที่เท่ากัน" แต่ด้วยคุณสมบัติที่ทำให้ต้องเพิ่มปริมาณการจ่าย E85 สำหรับการเผาไหม้ให้มากขึ้นกลับกลายเป็นข้อดีที่ทำให้อุณหภูมิในการเผาไหม้ของ E85 มีความเย็นมากกว่าและเผาไหม้ได้นานกว่า แทนที่จะเป็นการระเบิดแบบรุนแรงในระยะเวลาสั้นๆ ก็กลายเป็นการระเบิดที่ยาวตลอดการเคลื่อนที่ลงของลูกสูบ ส่งผลให้มีแรงบิดที่ต่อเนื่องกว่า เครื่องยนต์เดินเรียบกว่าอย่างชัดเจน

ข้อสรุปในการตัดสินใจสำหรับคนที่คิดจะใช้ E85 นะครับ
- รถที่ต้องการจะเติม มีชิ้นส่วนของระบบน้ำมันที่ยังอยู่ในสภาพที่ดี ไม่แตกร้าว ถังน้ำมันยังคงความเป็นระบบปิดอยู่
- ต้องการใช้น้ำมันที่มีค่าออกเทนสูงสำหรับเครื่องยนต์ที่ต้องการสมรรถนะ หรือต้องการใช้น้ำมันราคาถูกเพื่อความประหยัด
- อาศัยอยู่ใกล้หรือเส้นทางที่ใข้ประจำมีปั๊มน้ำมันที่มี E85 จำหน่าย ถ้าต้องขับไปเติมไกลๆ อาจจะไม่คุ้มเท่าไหร่
- ใช้รถเป็นประจำ ไม่ได้จอดทิ้งไว้นานเป็นเดือน
- ต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์ในการปรับส่วนผสมเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นชุดคิทสำเร็จ กล่องพ่วง หรือกล่อง standalone

http://www.toyotanon.com/article_detail.php?article_id=43

รถติดแก๊สเองก็ไม่ควรเติมแก๊สโซฮอลเนื่องจากเหตุผลดังกล่าวที่หยิบยกมาข้างต้นครับ รวมถึงรถที่ไม่ได้ติดแก๊สแต่ไม่ได้ใช้งานประจำก็ไม่ควรเติมแก๊สโซฮอลเช่นกัน

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 186
       http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,40874.0.html
เอารายงานผลสถิติการสิ้นเปลืองน้ำมันดีเซลของรถปิคอัพดีเซลแต่ล่ะยี่ห้อให้ดู ซึ่งกระทู้นี้ทางคุณ Jimmy ของเวปไซด์ Headlighmag ทดสอบเอาไว้ ที่ต้องการเอาลงเพื่อไม่ให้แต่ล่ะท่านเอามาซีเรียสกับการกินน้ำมันหรือการกินแก๊สกันมากเกินไป
เพราะรถ ที่เป็นกลุ่มเดียวกันคู่แข่งเดยวกัน ไม่มีใครทำใรถให้มันแตกต่างกันมากมายหรอก รถ ไม่ว่าจะเป็น 4x4 4x2 เกียร์ MT AT 2.2 2.5 2.8 3.2 การกินน้ำมันแทบไม่ได้มีความแตกต่างกันเลย อยุ่ในกลุ่มเดียวกันแทบทั้งสิ้น บางยี่ห้อบางรุ่น สมมุติว่าเราจะซื้อถ้าลองเปรียบเทียบกัน รุ่น คือ Mitsu 4x2 AT การทดสอบคือกินน้ำมัน 13.01 km/l น้ำมันดีเซลลิตรล่ะ 30 บาท คิดเป็น 2.31 บาท / กม. อีกรุ่นนึง Ford 2.2 6AT กินน้ำมันมากกว่าอีกรุ่นนึง 12.5 km/l 2.40 บาท/กม ส่วนต่างคือ กิโลเมตรละ 0.14 บาท ถ้าเทียบกับความแตกต่างที่ได้ 1 แสนโลจะมีความแตกต่างกัน 9,408.15 บาท ให้ลองคิดดูว่าคุณต้องขับรถกี่ปีกว่าจะได้ 1 แสนโล โดยเฉลี่ยคือ 1 แสนโลในเวลา 5 ปี หรือบางคนอาจจะนานกว่านั้นมาก ค่าน้ำมันที่แตกต่างกันปีนึงเฉลี่ยไม่เกิน 2000 บาท ด้วยซ้ำ พอบางคนใช้รถไป 1 แสนกว่าโล 6-7 ปีขายออกอีก สรุปเรื่องการสัมผัสค่าน้ำมันที่แตกต่างกันของแต่ละรุ่น ล้วนมโนภาพกันไปเองทั้งนั้น เพราะไม่มีใครสัมผัสได้เป็นตัวเลขจริง ๆ ในรูปธรรมได้เลย เห็นแต่ได้เป็นนามธรรม ว่ารุ่นนี้เซฟน้ำมันกว่าอีกรุ่นนึงแต่ก็แค่นิดหน่อยเท่านั้น ถ้าจะซื้อรถต้องลองขับลองนั่ง เลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานของเราเอง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 187
       ฝากไว้หลายเรื่อง

1. ถ้าจะซื้อรถมือ 2 ควรทดลองขับให้แน่ใจก่อนซื้อ เพราะการซื้อรถมือ 2 ต้องลอง ถ้าไม่ลองให้ไป Test car จะดีกว่าลอง แต่ถ้าไมได้ลองรถเลยอย่าซื้อโดยเฉพาะการซื้อรถกับเต๊นท์ในปัจจุบันหลายเต๊นท์ไม่ให้ลองขับ ถ้าจะลองขับต้องวางเงิน 5000 บาท ถ้าไม่ซื้อก็ริบเงินเรา แบบนี้ถ้าเราไม่มีโอกาสลองขับระยะทางยาวดูแล้วหรือเสียดายเงินไม่ควรซื้อครับ

2. การติดแก๊สรถถ้าท่านไม่ตัดปั๊มติ๊กผลกรรมอยู่ที่ตัวท่านเอง บางคนเชื่อช่างติดแก๊สขี้เกียจตัดปั๊มติ๊ก ถึงเวลามีปัญหาช่างเปิดตรูดหนีหายไปไหนไม่รู้ หรือเวลานั้นไม่มีใครช่วยแก้ปัญหาให้ท่านได้ ผลกรรมอยุ่ที่คนใช้รถอย่างเรา ๆ ทั้งนั้น ตัดปั๊มติ๊กแล้วลองศึกษาวิธีการใช้งานของรถที่ตัดปั๊มติ๊กด้วยนะ ไม่ใช่เอะอะอะไรก็บอกเนียนเหมือนน้ำมัน โดนเขาหลอกยังไม่รู้ตัวอีก
ตัดปั๊มติ๊กเถอะ ก่อนที่ปัญหายุ่งยากจะตามมา อาการสำคัญหลังจากปั๊มติ๊กพัง
--------2.1 สตาร์ทแก๊สไม่ได้ ผมเพิ่งทราบเร็ว ๆ นี้เองว่าปั๊มติ๊กพังจนไหม้ มันไปช๊อตกับกล่องฟิวส์ EFI ด้วยผลคือสตาร์ทแก๊สไม่ได้อยู่ดี ไฟไม่มาที่หัวเทียน เรื่องมันเริ่มยุ่งเข้าไปทุกที
-----------2.2 เปลี่ยนปั๊มติ๊กแล้ว พบบ่อยมากคือการสตาร์ทยาก กลายเป็นโรคติดตัวเรื้อรังไปเลย เปลี่ยนปั๊มติ๊กใหม่ในศูนย์ราคาประมาณ 8-9 พันบาท แต่เปลี่ยนนอกศูนย์เอาของเทียบ Lucus มาให้ราคา 2-3 พันบาท กับหาของมือ 2 แต่ได้ของเทียบแท้เป็นรุ่นอื่น อาการสตาร์ทยากก็ตามมาอีก 2 กรณีเป็นเหมือนกันหมด
********ถ้าไม่อยากมีปัญหาไปตัดปั๊มติ๊กเถอะ และอย่าเติมแก๊สโซฮอลลงไป ถ้าคิดว่าจะติดแก๊สใช้แก๊สกับรถ

3. มีเคสนึงโทรมาใช้ Fortuner 2.7 4x4 แต่งรถ Bull bar ล้อ 265/75 ใส่ LSD และทำท่อมาด้วยแคทไม่มีแล้ว แต่รถวิ่งได้แค่ 120 ผมงงกับอาการทีแรกแนะนำไปว่าต้องทดเฟือง แต่อาการปัญหามานึกขึ้นได้สมาชิกเราแต่งแบบนี้ก็ไม่หายแบบนี้ แสดงว่าทดเฟืองก็ไม่พอมันไม่ใช่อาการที่แท้จริง ให้ลองไปแก้ท่อไอเสียก่อน เพราะแรงปลายมันหายไปเฉย ๆ รถเบนซินคนที่แต่งท่อเป็นมีไม่กี่ราย ส่วนใหญ่ทำแล้วดีก็ไม่เกิดผลดีเพราะมันมองไม่ค่อยเห็นผล แต่ทำแล้วแย่มีเยอะเพราะมันไม่เหมือนดีเซล
เคสนี้ผมเลยแนะนำอีกอย่างว่าไปถอดของแต่งออฟโรดออกซะเถอะ ปีนึงคุณวิ่งลุยกี่ครั้งแต่งซะเต็มยศ แต่ไม่ได้ไปไหนเลย ผมบอกให้เทียบพวกเราในบอร์ดดูว่าแต่งอะไรกันบ้าง จะได้ไม่หลงทางแล้วไปเที่ยวได้จริงไหม ไม่ได้แต่งแค่โชว์หรือแต่งไว้คุยสุดท้ายใช้งานไม่มีความสูขรวมถึงลุยไม่ได้อีกต่างหากเพราะที่แต่งมามันไม่ใช่แนวการไปลุย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 188
       UPDATE 25 ตค.57

จากกรณีที่สมาชิกท่านนึงลงเทอร์โบแล้วเสื้อสูบทะลุ ก้านสูบขาด คุณทวีศักดิ์ไปถามราคาเครื่องยนต์ 2TR-FE ล่าสุด มือ 2 มาจากในตลาด
ราคาล่าสุดตอนนี้เปิดที่ 110,000 บาทครับ หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นบาทครับ

ใครที่ไม่ใส่ใจเครื่องยนต์ บำรุงรักษาน้อย ไม่เปลี่ยนพวกชุดหล่อเย็นตามกำหนด ตะบี้ตะบันใช้แก๊สโดยไม่เปลี่ยนมาใช้น้ำมัน วิ่งอัดทางยาว ๆ ตบแต่งเครื่องยนต์ผิดจากสเปกเดิม ชอบโมแต่ง ยังไงพึงระลึกค่าซ่อมไว้บ้างนะครับ เดี๋ยวหงายท้องกันหมด
หันมาใส่ใจเครื่องยนต์ของเราตั้งแต่วันนี้ดีกว่า เพราะค่าซ่อมมันแพง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 189
       พลังงานจะเลื่อนการปรับราคาทั้งหมดเป็นหลังปีใหม่ 2558 นะครับ จากเดิมที่มีการปรับราคาแก๊สไปแล้ว 2 ครั้ง และจะมีการปรับอีกครั้งในเดือน ธันวาคม 2557 แต่จาการประชุมล่าสุดของคุณมนูญ ศิริวรรณ จะเลื่อนเป็นปรับปีหน้าทั้งหมด และเป็นการปรับขึ้นยกแผงนะครับไม่ใช่ปรับแค่ราคาแก๊สอย่างเดียว แต่จะมีการปรับขึ้นในกลุ่มน้ำมันดีเซลและเบนซินรวมแก๊สโซฮอลด้วย
โดยแก๊ส LPG ที่จะปรับราคาขึ้นนั้นเพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงของราคาพลังงาน แต่ก็เชื่อว่าประชาชนจะรับผลกระทบไม่เยอะเพราะเป็นการปรับขึ้นแค่ไม่มากนักยังไงก็มีราคาถูกกว่าน้ำมันอยู่ดี ในขณะที่น้ำมันดีเซลที่คงอัตราไว้ที่ไม่เกิน 30 บาท / ลิตร จะมีการปรับขึ้นในครั้งนี้เช่นกันแต่จะทยอยปรับขึ้น โดยทางกระทวงพลังงานเห้นว่าช่วงราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงจึงเป็นผลดีในการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันไว้ให้มากที่สุดก่อน เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบมากนัก



ปล. ถ้าแก๊สขึ้นไปลิตรล่ะประมาณ 17-18 บาท E85 ราคาไม่เปลี่ยนแปลงเตรียมหันมาเติม E85 แทนการใช้แก๊สได้เลยครับ ไม่ต้องเปลี่ยนรถน่ะครับเพราะไม่คุ้ม รถใหม่สไตล์ PPV ราคาแพงขึ้นจากเดิมสมัยปี 2005 เยอะ ถ้าจะเอาเงินมาซื้อป้ายแดงตรงนั้นอีก ถ้าจะไม่คุ้ม ใครจะหนีไปดีเซลให้คำณวนด้วยว่าถ้าอนาคตดีเซลอยู่ที่ราคาจริง 32-35 บาท จะรับไหวหรือไม่ ถ้าไหวคือจบ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 190
       Ford Everest เปิดตัวแล้วที่จีน OPTION ของรถจัดเต็มมาพร้อมทุกอย่างจนแทบไม่ต้องไปทำอะไรอีก ที่น่าห่วงมีแค่
1. ศูนย์บริการที่ห่วยทุกศูนย์ ไม่สามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้เลย
2. อ๊อพชั่นที่มาขนาดนี้ ราคารถเกิน 1.5 ล้านบาทค่อนข้างแน่นอนแล้ว อยู่ที่จะจับกดราคาไว้ไม่ให้เกิน 1.8 ล้านได้หรือไม่เท่านั้นเอง อาจต้องมีการตัดอ๊อพชั่นบางรายการออก เหมือนกระบะ Ranger 3.2 Wildtrack ไม่งั้นทำราคาไม่ได้

รถดีทุกอย่าง อ๊อพชั่นมาเต็มมาก ๆ ใช้งานได้เลยแทบไม่ต้องแต่งเพิ่มอะไรอีกแล้ว ล้อ 20 นิ้ว หลังคาแบบพาโนรามิก มูนรูฟแอร์อิสระแยกหน้าหลังปรับอุณหภูมิได้ มี Heater หน้าหลัง อ๊อพชั่นสำหรับขับเคลื่อน 4wd fulltime ไม่ใช่แบบ Part time อีกต่อไป ถ้าลูกค้าคนไทยไม่บ้าไปถามหารถ ( 2wd ) Rear diff lock ไฟฟ้าจัดเต็มมาให้แล้ว ใช้ลุยทางออฟโรดได้เลย
คืออ๊อพชั่นเอาแค่ระบบ 4wd + Rear diff lock ไฟฟ้า = 2 อย่างนี้ราคารวมกันก็ทำให้ราคารถนั้นขยับขึ้นไปเกือบ 2 แสนบาทแล้ว


พูดตามตรงแบบไม่อายเลยนะครับ ถ้าเป็นค่าย ISUZU TOYOTA จัดอ๊อพชั่นมาให้เต็มที่แบบ ระบบ 4wd + Rear diff lock ไฟฟ้า + Heater + หลังคาแบบพาโนรามิก มูนรูฟแอร์อิสระแยกหน้าหลัง ระบบช่วยเหลืออื่น ๆ ราคารถ 2 ค่ายนี้ 2 ล้าน + - บวกลบแน่นอนเพราะมันทำราคาไม่ได้เลย ขนาด ISUZU MUX ตัว Top 4wd อีอพชั่นหายไปเพียบ ไม่เหมือนตัวส่งนอกไปออสเตรเลีย ค่ายตรีเพชรยังทำราคาไว้ที่ 1.4 ล้านกว่าเลย Fortuner 3.0 V 4X4 TRD ราคาก็ปาเข้าไป 1.5 ล้านแล้ว อ๊อพชั่นก็ไม่ครบขาดอีกเพียบเช่นกัน
รถ PPV บ้านเราราคาขนาดนี้ ลูกค้าจะไม่กล้าซื้อ อ๊อพชั่นที่มาขนาดนี้ คุณไปซื้อรถอย่าง CRV HRV XV X-trail พวกนั้นก็สู้ที่ Ford everest ให้มาไม่ได้ เพราะอ๊อพชั่นต่างกันเยอะมาก PPV ที่ฟอร์ดจัดมาให้คราวนี้จัดเต็มจริง ๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 191
       เทคโนโลยีสุดล้ำในเอเวอเรสต์ใหม่

-ระบบแจ้งเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน (Lane Departure Warning) จะใช้กล้องบริเวณด้านหน้ารถส่องหาเส้นแบ่งเลนบนพื้นถนนข้างหน้า โดยจะเตือนผู้ขับขี่ด้วยการสั่นพวงมาลัยหากรถเริ่มเบนออกจากเลนโดยไม่เปิดไฟเลี้ยวที่ความเร็วเกินกว่า 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากรถยังคงเบนออกจากเลนเดิมอยู่

- ระบบรักษาเลน (Lane Keeping Aid) จะเปิดการทำงานของระบบควบคุมพวงมาลัยแบบอิเล็กทรอนิกส์ และค่อยๆ แทรกแซงการทำงานของผู้ขับขี่ด้วยการเบนรถกลับมาในเลนเดิม โดยที่ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าแรงสั่นและระดับการทำงานของฟังก์ชั่นทั้งสองได้ตามต้องการ

- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) ปัญหานี้จะหมดไปด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว เพื่อสั่งให้ระบบสแกนหาช่องจอดที่เหมาะสม โดยเมื่อพบช่องจอดดังกล่าวแล้ว ระบบจะควบคุมพวงมาลัยให้โดยอัตโนมัติ ผู้ขับขี่เพียงควบคุมคันเร่ง เบรก และเกียร์ เท่านั้น

- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) จะทำหน้าที่ควบคุมความเร็วให้เหมาะสมได้โดยอัตโนมัติ โดยจะทิ้งช่องห่างจากรถคันหน้าเพื่อความปลอดภัยที่ความเร็ว 30 กิโลเมตรขึ้นไป หากระบบเรดาร์พบว่ามีรถวิ่งช้าอยู่ข้างหน้า ตัวรถก็จะลดความเร็วลงเอง ก่อนที่จะเร่งความเร็วกลับไปสู่ความเร็วที่ผู้ขับขี่ตั้งค่าไว้เมื่อถนนเปิดโล่งอีกครั้ง

- ระบบตั้งค่าจำกัดความเร็ว (Adjustable Speed Limiter) ในฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สามารถล็อกความเร็วสูงสุดของรถให้ตรงกับความต้องการของผู้ขับขี่ได้ โดยมีค่าความเร็วสูงสุดแยกต่างหากสำหรับการขับขี่ทั่วไป และในสถานการณ์พิเศษ เช่น การขับรถลงเขา หากผู้ขับขี่ต้องการขับด้วยความเร็วเกินกว่าขีดจำกัดที่ตั้งค่าไว้ ก็สามารถทำได้โดยการเหยียบคันเร่งให้ลึกกว่าปกติ

- ระบบควบคุมการเข้าโค้ง (Curve Control) ที่เปิดตัวในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลางแบบออฟโรดเป็นครั้งแรก เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้อย่างแม่นยำหากเข้าโค้งผิดพลาด ระบบควบคุมการเข้าโค้งนี้จะตรวจจับได้ว่ารถกำลังเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงเกินไปหรือไม่ และสั่งให้เบรกทั้งสี่ล้อทำงาน ควบคู่กับกาลดแรงบิดของเครื่องยนต์ลง จนทำให้ความเร็วของรถลดลงสูงสุดถึง 16 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ ภายในเวลาประมาณ 1 วินาทีเท่านั้น

- ระบบเตือนและป้องกันการชนด้านหน้า (Forward Alert with Collision Mitigation) ใช้สัญญาณเรดาร์วัดระยะห่างระหว่างส่วนหน้ารถกับวัตถุต่างๆ โดยหากระบบคาดการณ์ได้ว่าอาจเกิดการชนกันขึ้นภายในเวลาน้อยกว่าที่ตั้งค่าปกติเอาไว้ ระบบจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยสัญญาณไฟบนกระจกหน้ารถและสัญญาณเสียง หากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนอง ระบบจะเบรกรถให้โดยอัตโนมัติเพื่อชะลอความเร็วลงด้วยอัตรา 0.3g ทันทีที่ปล่อยคันเร่ง

- ระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Information System หรือ BLIS) ของฟอร์ด ใช้เซนเซอร์เรดาร์ค้นหาว่ามีรถยนต์คันอื่นอยู่ในจุดบอดที่ผู้ขับขี่อาจมองไม่เห็นหรือไม่ ในขณะขับขี่ที่ความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป โดยจะใช้ไฟแอลอีดีบริเวณกระจกมองข้างเป็นสัญญาณเตือนหากตรวจพบรถยนต์ในมุมบอด เพื่อให้ผู้ขับขี่รับทราบและสามารถขับรถต่อไปได้อย่างไม่ต้องกังวล

- ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (Roll Stability Control) จะคอยสังเกตการเคลื่อนที่ของตัวรถบนพื้นถนน โดยจะส่งแรงเบรกและลดแรงบิดเครื่องยนต์ลงโดยอัตโนมัติหากพบว่ามีโอกาสที่รถจะพลิกคว่ำ ขณะที่ระบบควบคุมการทรงตัว (Electronic Stability Program) ช่วยให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เกาะถนนในทุกสภาพการขับขี่ โดยเฉพาะบนพื้นผิวที่ลื่นไถลได้ง่าย โดยการเบรกและลดแรงบิดเครื่องยนต์แบบอัตโนมัติเช่นกัน

- ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High Beam Control) โดยใช้กล้องด้านหน้ารถตรวจจับแสงไฟจากบนถนนและข้างถนน พร้อมทั้งยังวิเคราะห์ว่าเป็นแสงจากวัตถุประเภทใด เช่น ไฟจราจรหรือไฟจากถนน เพื่อตั้งค่าการเปิด-ปิดไฟสูงแบบอัตโนมัติได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้ผู้ขับขี่ยังคงมองเห็นเส้นทางได้ชัดเจนในเวลากลางคืน ลดความเครียดในขณะขับรถ โดยไม่ก่อความรำคาญให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น

ทั้งนี้ ไฟหน้าของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีทั้งหลอดไฟส่องสว่างแบบ HID (High-Intensity Discharge) และไฟแอลอีดีสำหรับเวลากลางวัน (Daytime Running Lights; DRLs) แบบประหยัดพลังงาน ที่มีระบบควบคุมอัจฉริยะ สามารถปรับการทำงานได้อัตโนมัติตามระดับแสงในสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ โดยไฟ DRL จะเปิดใช้งานตลอดเวลาเพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนมองเห็นตัวรถได้ง่ายขึ้น และยังถือเป็นเอกลักษณ์ที่แสดงถึงความโดดเด่นของรถฟอร์ดได้ในทุกการเดินทางอีกด้วย

***ความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้มีความปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานของฟอร์ด และตอบโจทย์ด้านมาตรฐานความปลอดภัยทั่วโลกด้วยเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย อาทิ โครงสร้างตัวถังนิรภัยที่เลือกใช้โลหะซึ่งมีทนทานสูงสุด รวมถึงเหล็กกล้าผสมโบรอน ส่วนห้องโดยสารมีถุงลมนิรภัยติดตั้งมาทั้งสิ้น 7 ตำแหน่ง ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และระดับเข่า พร้อมด้วยเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ และตัวยึดเบาะนั่งพิเศษสำหรับเด็กเล็กบริเวณเบาะนั่งแถวสองและสาม

เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ระบบช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน (Emergency Assistance) ของฟอร์ด พร้อมให้คุณได้อุ่นใจด้วยฟังก์ชันการติดต่อเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือฉุกเฉินผ่านระบบซิงก์ ที่พร้อมให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ ทั้งนี้หากถุงลมนิรภัยทำงาน หรือมีการตัดการทำงานของปั๊มเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์โดยกะทันหัน ฟอร์ด ซิงก์ จะใช้โทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่ออยู่กับระบบติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ โดยหากผู้ขับขี่ไม่อยู่ในสภาพที่จะสื่อสารได้ ระบบจะเปิดข้อความอัตโนมัติเพื่อรายงานว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้น ก่อนจะแจ้งสถานที่เกิดเหตุด้วยพิกัด GPS

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 192
       ห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง กว้างขวาง มากับเทคโนโลยีระดับพรีเมียมมากมายทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นหนึ่งในรถยนต์อเนกประสงค์ที่ล้ำสมัยที่สุดในตลาด ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (adaptive cruise control) ระบบเชื่อมต่อการสื่อสารซิงก์ 2 (SYNC2) หรือคุณสมบัติใหม่ที่มีให้ใช้งานในรถอเนกประสงค์ระดับนี้เป็นครั้งแรก เช่น ระบบควบคุมการเข้าโค้ง (Curve Control) ระบบรักษาเลน (Lane Keeping Aid) และระบบตรวจจับรถในจุดบอดพร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อถอยหลังจากที่จอด (Blind Spot Information System with Cross Traffic Alert) และระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (เทียทางเท้า) (active park assist for hands-free reverse parallel parking)

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีตัวเลือกเครื่องยนต์ 3 รุ่น ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน อีโคบูสต์ 2.0 ลิตร รุ่นล่าสุด และเครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ก TDCi อีกสองรุ่น 2.2 และ 3.2 โดยทำงานคู่กับระบบส่งกำลัง 6 สปีดแบบอัตโนมัติหรือธรรมดา


*****************************************************

บอกตามตรงตอนนี้ผมรัก Fortuner 2.7 Exclusive 4x4 ของผมมาก ไม่ใช่อะไรนะครับ รถ PPV ใหม่ที่จะมาถึง Ford จะเปิดตัว พค. 58 ปีหน้าสำหรับประเทศไทย ราคารถมันเกินกำลังกว่าที่ผมจะซื้อไปแล้ว ถ้าลำพังได้รถขนาดนี้ การมีอยู่ของ Fortuner รุ่นเดิมคุ้มค่ากว่ามากได้รถขนาดนี้ราคาประมาณนี้ เพราะรุ่นใหม่ของ FORD อะไรก็ดีแต่ราคาน่าจะไปไกลเช่นกัน ส่วนค่าย TOYOTA ยังไงก็ไม่มีทางจัดเต็มเท่า Ford ไปได้ เพราะราคาคือปัญหาเรื่องใหญ่ มาก ถ้าให้ อ๊อพชั่น เท่าฟอร์ด ราคายังไงก็มี 2 ล้าน

ขับ Fortuner 2.7 4x4 เค้าถึงว่าคุ้มค่าทั้งวันนี้และวันหน้าครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 193
       พอดีเมื่อคืนเปิดดู facebook เห็นพี่ยศ 2.7 Exclusive แชร์กันเรื่อง ตัดปั๊มติ๊กแล้วรถเกิดไฟไหม้ มีคนถูกใจกัน 3 พันกว่าคน
ผมจะบอกให้ว่าบางอย่างที่แชร์กันผิด ๆ เยอะ ไม่มีข้อมูลและหลักฐานเลย ที่บอกมาก็ไม่ใช่ ข้อมูลมันก็มั่ว ๆ


ผมจะบอกให้ว่าบริษัทที่ผมทำงานอยู่ ธุรกิจหลัก ๆ จริง มันมีหลายอย่างที่พี่เห็นในเมืองไทยธุรกิจแค่นี้มันอยู่ไม่ได้หรอกครับ แต่ที่ทำกันจริง ๆ มานานแล้ว กว่า 40 ปี คือการออกแบบและผลิตเครื่องยนต์เบนซินให้กับบริษัท TOYOTA เครื่องยนต์เบนซินทุกเครื่องรวมถึงเบนซิน + ไฮบริด บริษัทที่ผมทำงานอยู่คือผู้ผลิตโนฮาวขึ้นมา เป็นผู้ขายเทคโนโลยีและค้นคว้าเทคโนโลยีเครื่องยนต์เบนซินที่จะนำมาวางให้กับรถยนต์ TOYOTA ทุกรุ่นในไทยและที่ขายกันทั่วโลกรวมถึงสหรัฐมันก็ออกมาจากบริษัทนี้ บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น **** ไม่ใช่แค่ทำโนฮาวอย่างเดียว แต่เป็นผู้ผลิตคิดค้นเครื่องยนต์เบนซินให้กับเลกซัสและเป็นโรงงานประกอบ เครื่องยนต์เบนซินให้กับเลกซัสแล้วจึงส่งไปโรงงานประกอบเลกซัส อีกทีนึง
รถแข่งที่เป็นเครื่องยนต์เบนซินของ TOYOTA และฟอร์ดบางรุ่นก็ถูกออกแบบโมดิฟายจากบริษัทนี้ทั้งนั้น เครื่องยนต์เบนซินของ TOYOTA ทำไมจึงได้รับการกล่าวขานมาก มันมีทั้งดีและแย่ แต่ก็เพราะความรู้ของบริษัทนี้ที่งานหลักคือค้นคว้าเรื่องเครื่องยนต์เบนซิน ไฮบริด เครื่องยนต์เรือ Marine เครื่องยนต์ ATV UTV ยานยนต์ขับเคลื่อนบนหิมะ เครื่องยนต์เฮลิคอปเตอร์ ก็ทำโนฮาวกันที่นี่ เพราะนี่คือธุรกิจหลักที่ทำให้ยืนอยู่ได้ของบริษัท ไม่ใช่ผลิตภัณท์ที่ทุกคนเห็นจากภายนอก

ถามว่าผมทำไมจึงมีความรู้ตั้งแต่รถเบนซิน 2.7 มันวางตลาดในเมืองไทยครั้งแรก ๆ ตั้งแต่ปี 2005 แล้วผมจึงตัดสินใจซื้อ ในขณะนั้นผมเองเริ่มเขียนข้อมูลลงเวปปี 2007 เพราะในขณะนั้นคนส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดมีข้อมูลผิดผิดกันมากมายแชร์ต่อ ๆ กันทางเวปไซด์ พูดง่ายๆ มั่วกันนั่นเอง ผมเลยเขียนแย้งกับคนอื่นมาตลอด ผมไม่ได้เก่งแต่ที่ผมทำงานอยู่วิศรกรแผนกเครื่องยนต์และเครื่องยนต์เรือ Marine เขาจะมีวิศวกรชาวญี่ปุ่นจะผลัดกันเข้ามาสอนโนฮาวสำหรับเครื่องยนต์แต่ละโมเดล สำหรับผู้เชี่ยวชาญของญี่ปุ่นสาขาต่าง ๆ คนญี่ปุ่นคนนึงก็ออกแบบรับผิดชอบเครื่องยนต์เครื่องนึงพร้อมทีมงาน พออีกโมเดลนึงก็จะเป็นญี่ปุ่นอีกคนนึงพร้อมทีมงานกลุ่มอื่นที่เข้ามาเมืองไทย ผมจึงรู้ซึ่งเปรียบไปก็ตามที่ผมบอก คือ เหมือนเล่นไฮโล ผมไม่ได้เก่งกว่าคนอื่น มีคนที่เก่งกว่าผมอีกมากมายในบริษัทรถยนต์เพียงแต่เขาไม่พูดไม่เขียนออกมา เพียงแต่ผมรู้คำตอบอยู่ก่อนหน้านั้นแล้วว่าจะออกอะไรและเขียนลงไปในเวป ผมจึงอธิบายเรื่องเครื่องเบนซินกับดีเซลเปรียบเทียบไว้นานแล้ว ซึ่งแต่ละเครื่องมันก็จะไม่เหมือนกัน

เรื่องที่พี่ยศ แชร์กันในเฟสออกมาเรื่องตัดปั๊มติ๊กแล้วไฟไหม้อะไรนั้นผมบอกเลยว่ามันผิด ผมเห็นคนอื่นแชร์กันออกไปแล้วเดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันใหญ่จะเกิดผลเสียมากกว่า ซึ่งหลักการ Design ของเครื่องยนต์ TOYOTA MAZDA FORD ไม่ใช่แนวคิดนั้นเลย ทุกค่ายที่ผมกล่าวมานี้ไม่มีแนวคิดการ Design เครื่องยนต์และการส่งน้ำมันตัดน้ำมันแบบนั้น

แต่เรื่องการตัดปั๊มติ๊กนั้น ทุกท่านจะตัดหรือไม่ตัดก็แล้วแต่.... ไม่ได้บังคับ เพียงจะบอกให้รู้ว่า ไอ้ที่แชร์กันในโลกออนไลน์ นะผิด แน่นอน

******************************************************



ไหน ๆ แล้วก็พูดอีกซักหน่อย บริษัทหลาย ๆ บริษัทที่เราเห็นกันนั้น หน้าฉากเราเห็น กับข้างในมันอาจเป็นคนล่ะอย่าง อย่างหลานแฟนผมเรียนจบเคมีจากมศว ทำงานบริษัทลูกอมยี่ห้อนึง แต่บริษัทที่ผลิตลูกอมนี้เขาไม่ได้ขายลูกอม อย่างเดียว การผลิตลูกอมเป็นแค่หน้าฉาก มันเลี้ยงบริษัทไม่ได้หรอก แต่บริษัทนี้คือผู้ผลิตเครื่องสำอางครีมอาบน้ำที่เราใช้กันทุกวันนี้นั้นเอง ชื่อลูกอมมันก็เป็นเพียงแค่ชื่อ
หรือบริษัทที่ทำรถมอไซด์บิ๊กไบค์ของญี่ปุ่นยี่ห้อนึง หน้าฉากมีรถมอไซด์มากมายแต่ที่จริงมันคือธุรกิจที่มีไว้เพียงแค่การสร้างชื่อเสียงเท่านั้น เพื่อทำ CSR ให้กับสังคม แต่ธุรกิจหลักจริง ๆ คือโรงงานนิวเคลียร์ที่มีมูลค่ามหาศาลในญี่ปุ่น เจ้าของโนฮาวโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ รวมถึงกังหันใบพัดเครื่องบินของทุกบริษัททั่วโลกก็ต้องซื้อที่นี่เท่านั้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 194
       กรณีน้ำล้นน้ำหายออกจากหม้อพัก พอดีผมนึกเคสออกแล้วอาการนี้เพื่อนเอกหัวไทรก็เป็น เพราะตอนเขาซื้อรถมานั้นไปซื้อฝาหม้อน้ำของเทียมจากร้านข้างนอกราคา 150 บาท ใช้งานปกติไม่เห็นอาการแต่มาเห็นอาการช่วงหลังก่อนไปออกทริปที่เหมืองเต่าดำเห็นเขามาถามผมใน facebook ฝาหม้อน้ำที่เปลี่ยนมาเป็นของเทียมนั้นจะทำให้น้ำล้นหายออกไปจากระบบหล่อเย็น ทางแก้ทางเดียวที่ง่ายที่สุดแต่ไม่ค่อยทำกันคือ เปลี่ยนฝาหม้อน้ำของแท้ซื้อศูนย์นั่นแหละครับ เป็นทางแก้วิธีเดียวซึ่งรถ 2.7 จะแปลกกว่าชาวบ้านตรงที่ฝาหม้อน้ำตัวนี้ใช้ได้เฉพาะของแท้ตรงรุ่นเท่านั้น เอาของอื่นมาใส่แทนไม่ได้เกิดปัญหาทุกคัน รถคุณบายเองที่ไปกับทริปเราด้วยที่เหมืองเต่าดำแล้วเจอปัญหานี้เหมือนกัน ฝาหม้อน้ำเขาใช้ของเทียมมาใส่
ข้อควรระวังคือถึงแม้จะซื้อฝาหม้อน้ำที่ศูนย์ก็ตามช่างศูนย์ชอบหยิบบของผิดรุ่นเอาของวีออสมาใส่ให้ เป็นกันหลายรายนะครับต้องระวังให้ดี

นอกจากนี้มีบางท่านที่ไปซื้อรถ Fortuner หรือดีเซลมือ 2 มาใช้เพราะเห็นว่าราคารถถูกมาก รถดีเซลกลุ่มนี้อันดับแรกที่ต้องเปลี่ยนเลยคือวาล์วน้ำเพราะเจ้าของเดิมส่วนใหญ่เปลี่ยนสายพานราวลิ้นที่ระยะ 1 .5 แสนโลแล้วไม่ยอมจับเปลี่ยนวาล์วน้ำ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 195
       http://www.weekendhobby.com/offroad/kia/Question.asp?ID=16927

เอาตัวอย่างจากเวปเพื่อนบ้านด้านข้าง หลังจากเจอปัญหาเครื่องฮีท เพราะวาล์วน้ำตาย
รถ KIA CARNIVAL เจ้าของถอดใจไม่ซ่อมต่อแล้วนะครับ อายุการใช้งานแค่ 1.7 แสนโล วาล์วน้ำก็เสียแล้วนะครับ

ใครที่ใช้รถมาถึงอายุหรือซื้อรถมือ 2 มาทั้งดีเซลและเบนซิน อายุวาล์วน้ำที่ 1 แสนกว่าโลต้องรีบจับเปลี่ยนทันที

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 196
       วีโก้ติดแก๊สสองถังจะไหวมั๊ยครับ ติดทั้งตรงท่อพักและยางอะไหล่?

ติดที่ยางอะไหล่ 2 ถังก็เพียงพอ หม้อพักไม่ต้องยุ่งกับมัน จาก : Auto.(Auto.) 17/11/2557 0:15:34 [124.120.113.176] สองถังมันได้สูงสุดกี่ลิตรฮะ? จาก : ooAmmYoo(ooAmmYoo) 19/11/2557 2:18:18 [49.230.208.162] 48+48 หรือ 58+36 หรือ 36+36 เลือกเอาครับ จาก : Auto.(Auto.) 21/11/2557 17:32:46 [202.80.239.130] ขอบคุณครับ :) จาก : ooAmmYoo(ooAmmYoo) 21/11/2557 23:28:55 [49.230.155.28]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 197
       วันนี้มีรายงานการใช้จากสมาชิกท่านนึงเป็นรถที่บ้านของคุณ rap-bank ที่เอาไว้ส่งของ HilUX 2.7 J ตอนเดียว บรรทุกหนัก 1-2 ตันตลอดทุกวัน ระยะทางที่ใช้งานไปทั้งหมด 420,000 กิโลเมตร ในเวลาเพียง 5 ปี มีใครในกลุ่มเราวิ่งถึงขนาดนี้หรือยังครับ
รายการซ่อมบำรุงที่ทำกับรถไปแล้ว

1. หม้อต้มแก๊สเปลี่ยนมาแล้ว 3 ลูก
2.หัวฉีดแก๊ส Valtex 2 ชุด
3.ยกคลัทซ์เกียร์ธรรมดาไป 3 ครั้ง
4.เบรค ยาง ตามระยะทาง

ทั้งหมดติดตั้งแก๊สและซ่อมบำรุงแก๊ส ยกคลัทซ์ ที่อู่อาจารย์รุ่งที่บางคล้า ฉะเชิงเทราครับ
รายการชุดหล่อเย็นทั้งหมดยังไม่มีการเปลี่ยนแต่อย่างใด กับระยะทาง 420,000 กิโลเมตร ปกติรถที่วิ่งเยอะจะสภาพดีกว่ารถวิ่งน้อย ไม่เหมือนรถบ้านที่วิ่งกันน้อย ภาระการซ่อมบำรุงจะเยอะกว่า แต่เนื่องด้วยระยะทางที่มากแล้ว + กับระยะเวลาการใช้งานรถมาถึง 5 ปี ผมเลยบอกว่าน่าจะเปลี่ยนชุดหล่อเย็นได้แล้ว พวกวาล์วน้ำ ท่อน้ำ ฝาหม้อน้ำ ท่อ บายพาสที่ยังเป็นพลาสติกเดิม น่าจะเปลี่ยนพร้อมกันหมดในคราวนี้เลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 198
      
ราคาน้ำมันดีเซลหลังปีใหม่ 2558 จะทยอยปรับขึ้นตามประกาศของรัฐบาล คสช เพื่อจัดเก็บภาษีสรรสามิตน้ำมันดีเซลตามภาวะที่แท้จริงหลังจากก่อนหน้านี้ไม่มีการจัดเก็บเงิน จะส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลมีราคาประมาณ 32-35 บาท / ลิตร พอพอกันกับน้ำมันเบนซิน


ส่วนราคาแก๊ส LPG หน้าปั๊มถนนกิ่งแก้ว มีราคาลิตรล่ะ 13.90 บาท หลังจากก่อนหน้านี้มีการทยอยปรับขึ้นมา 3 ครั้ง คือ 13.25 , 13.60 และ 13.90 บาท ตามลำดับ และในช่วงปี 2558 ราคาแก๊สทั้งหมดก็จะทยอยปรับขึ้นมาอีกจนราคาน่าจะอยู่ราว ๆ 14-15 บาท / ลิตรในเขตกรุงเทพและใกล้เคียง


ใครที่อยากเห็นราคาเชื้อเพลิงตามต้นทุนที่แท้จริงก็คงจะได้เห็นในปี 2558 นี้ชัดเจนแล้วนะครับ
ส่วนใครที่แผนรอซื้อรถยนต์เชื้อเพลิงดีเซลอยู่ในตลาดรถมือ 2 น่าจะชลอไปก่อน เพื่อรอดูราคารถตลาดรถมือ 2 ดีเซลทั้งหมดจะมีความปั่นป่วนกันไม่น้อย เนื่องจากปีหน้าจะมีการปรับราคาน้ำมันดีเซลครั้งใหญ่สุดในรอบหลายปี ราคารถดีเซลน่าจะตกลงมาเยอะ ตลาดจึงยังไม่มีความแน่นอนในช่วงนี้และมีความสั่นคลอนมาก ใครที่ขายยรถเบนซินไปแล้วและซื้อรถดีเซลมาแทนที่ ลองคำณวนค่าใช้จ่ายให้ดีว่ารับได้ไหมกับราคาน้ำมันดีเซลที่ลิตรล่ะ 32-35 บาท ตามราคาที่แท้จริงมันจะอยู่เท่ากันกับเบนซิน รัฐบาลยังใจดีไม่ขายแพงกว่าเบนซิน ค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ของรถปิคอัพดีเซลอยู่ที่ 3.2-4.0 บาท ต่อกิโลเมตร ในขณะที่เชื้อเพลิงแก๊สแม้ว่าจะมีการปรับขึ้นราคาอีกครั้งหลังปีใหม่ราคาก็ยังถูกกว่าใช้น้ำมัน แต่ต้องทำใจว่าค่าใช้จ่ายแพงขึ้นแน่นอน อย่างน้อยต้องเกินโลล่ะ 2 บาท ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องปรับตัว
อีกทั้งถ้าจะลงทุนทำปั๊มแก๊สช่วงนี้ อาจจะแย่เพราะราคาแก๊สขึ้นสูงสุดในรอบหลายปีและคงไม่มีทางลงมาอีกแล้ว คนใช้รถยังไม่รู้พฤติกรรมจะเป็นอย่างไรต่อไป
บางทีคนไทยอาจเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาใช้รถเล็ก เครื่องเบนซินที่มีความประหยัดน้ำมันต่อลิตรมากกว่าการซื้อปิคอัพดีเซลมาใช้ โดยที่ไม่ได้บรรทุกอะไรเลยแล้วต้องมาจ่ายค่าเชื้อเพลิงแพง ๆ ก็เป็นได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 199
       ราคาแก๊สในจังหวัดทางภาคเหนือตั้งแต่ จ. ตากเป็นต้นไป ผมถามจาก Top ล่าสุดที่เชียงใหม่ราคา 16.xx บาท / ลิตรแล้วนะครับ คือแพงพอสมควร ถ้าเป็นรถปิคอัพที่วิ่งอยู่ตามตจว. ที่มีราคาแก๊สแพง ๆ แบบนี้ ไม่ได้มีโปรแกรมวิ่งทั่วไทยหรือไม่ได้วิ่งแถวกทม. แต่ใช้งานอยู่กับพื้นที่เลยที่มีราคาแก๊สแพง หันมาใช้ปิคอัพดีเซลตอนนี้น่าจะคุ้มกว่า แต่ควรเป็นดีเซลยุคใหม่หลังปี 2012 เป็นต้นมาแล้วนะครับจะได้ความประหยัดมี 2 บาท + นิดหน่อยหรือมากกว่านั้นขึ้นกับรถแต่ละรุ่นแต่ละขนาด ถ้าเป็นดีเซลรุ่นเก่าถึงแม้จะเป็นคอมมอนเรลก็ยังไม่ประหยัดเท่านี้
ถ้าใครยังใช้เฉพาะปิคอัพ 2.7 อยู่ ยังไม่เปลี่ยนรถก็ไม่เป็นไรนะครับเพราะราคาแก๊สถ้าเทียบแล้วก็ยังถูกกว่าใช้น้ำมันเบนซิน และถ้าเทียบกับปิคอัพดีเซลแล้วยังถือว่าไม่หนีกัน คือไมได้แตกต่างกัน เพียงแต่ใครจะซื้อรถใหม่ในพื้นที่ที่ราคาแก๊สแพง ๆ และยังคงใช้พื้นที่นั้นเป็นหลักไม่ได้วิ่งออกไปไหน น่าจะมองไปที่ปิคอัพดีเซลมากกว่า ในการซื้อป้ายแดง

ส่วนบางท่านใช้ปิคอัพ 2.7 ติด NGV วิ่งส่งของอยู่ความประหยัดยังไงก็คุ้มกว่าใช้ดีเซลครับ พวกรถส่งของที่ติด NGV ยังใช้กันอยู่มากเพราะได้รายได้เพิ่มขึ้นกว่าใช้ดีเซล
*********************************
ราคาน้ำมันปัจจุบันนี้ลดต่ำลงก็จริงแต่อย่าลืมว่ามันเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ เพราะไม่มีครั้งไหนที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะลดลงต่ำเตี้ยติดดินแบบยาวนาน อีกสักพักก็จะดีดกลับขึ้นไป ราคาน้ำมันนะครับไม่ใช่สินค้าเกษตรจะได้ตกต่ำ อีกสักพักโอเปกก็ร่วมมือกันลดเพดานการผลิตน้ำมันลงอยู่ดี เพียงแต่ครั้งนี้ซาอุเองยังไม่เล่นบทนั้น มีหลายครั้งทางกลุ่มโอเปกที่ผู้นำอย่างซาอุดิอารเบียจะลดราคาน้ำมันลงในขณะที่ผู้คนกำลังแสวงหาพลังงานทางเลือกที่มีราคาต่ำกว่าน้ำมัน สุดท้ายแล้วพลังงานทางเลือกมักไม่ได้เกิดขึ้นแบบจริงจังซักทีเพราะจุดคุ้มทุนกับราคาน้ำมันแล้วไม่ส่งผลให้เกิดการพัฒนาต่อหรือเอามาใช้ได้จริงจังคุ้มค่าเท่ากับราคาน้ำมัน
ผมจำได้ว่าตอนปี 2007 นั้นราคาน้ำมันบ้านเราดีเซลอยู่ที่ลิตรล่ะ 25 บาท และเบนซินโซฮอล 95 อยู่ที่ 24 บาทกว่า ปัจจุบันแม้ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะมีมูลค่าที่ดลงมากแต่ราคาน้ำมันขายหน้าปั๊มในบ้านเรายังคงมีราคาดีเซลลิตรล่ะ 28 บาทกว่า เบนซินโซฮอล 95 ยังอยู่ที่ 30 บาทกว่า / ลิตร นั่นแสดงว่ากลไกราคาน้ำมันบ้านเราขึ้นจริงและ ลดราคาลงยาก แนวโน้มมีแต่เพิ่มขึ้นและลดลงแค่ในระยะสั้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 200
       ช่วงนี้ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที 26.78 บาท / ลิตร แต่เป็นผลมาจากซาอุและอเมริกาเล่นสงครามราคากับรัสเซีย กะถล่มรัสเซียจนยับเยิน
ราคาน้ำมันในบ้านเราไม่น่าจะลดต่ำลงมากกว่านี้แล้ว ถึงลงก็คงไม่เยอะกว่านี้ รอการขึ้นราคาอยู่
ถ้าจะใช้ดีเซลให้เผื่อใจราคาไว้ที่ ลิตรล่ะ 32-33 บาท ถ้าราคามันวิ่งอยู่แถวนี้แล้วคิดว่าเรารับตรงนี้ได้ ให้ซื้อรถดีเซลจะเป็นรถเก๋งหรือปิคอัพแล้วแต่ท่าน เพราะราคาน้ำมันที่ลดลงในช่วงนี้มันแค่ระยะสั้นไม่ได้ลดลงระยะยาวไปอีก 2-3 ปี

ส่วนเบนซินก็เช่นกันราคาจะอยู่ที่ 32-35 บาท ราคามันก็วิ่งอยู่ราว ๆ นี้ ถ้าคิดว่ารับได้ก็ซื้อเบนซิน
แต่ถ้ามีช่องทางเลือก E85 ได้ก็เลือก เพราะว่า E85 จะเป็นตัวเดียวที่ได้รับการอุดหนุนให้ราคาอยู่ที่ 22.85 บาท / ลิตรไปอีกนาน จนกว่าจะมีคนหันมาใช้กันเต็มประเทศแล้วคงมาอ้างบุญคุณเพื่อขอขึ้นราคา


พลังงานตอนนี้ยกเลิกการอุดหนุนไปเกือบทั้งหมดแล้วแต่ยังไงก็ควรรอดูสถานการณ์แนวโน้มกันอีกครั้งนึงเพราะ
1.NGV ยังมีความพยายามที่จะปรับราคาให้อยู่ที่ 15 บาท ให้ได้เพราะต้นทุนค่าขนส่งบ้านเราแพง ปตท.ไม่อยากขายราคานี้ 12.55 / kg.
2. LPG ยังไงก็เป็นผู้ร้าย แม้ว่าตอนนี้ไม่ต้องมีการชดเชยก็ตาม เป็นราคาแท้จริงแล้วก็ตามแต่ว่าถ้า NGV ดีดขึ้นไปได้สำเร็จที่ 15 บาท / kg. ราคา LPG ก็จะต้องขึ้นไปเป็น 17-18 บาท / ลิตร ซึ่งถ้าถึงตอนนั้น E85 คือทางเลือกเดียวที่ดีที่สุดครับ
ปั๊มแก๊สยังไงก็คงร่อแร่ถ้ามีการปรับราคาแก๊สอีก คนส่วนใหญ่คงจะเลิกใช้แก๊สเกือบทุกชนิด

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 201
       ใช้ 95 อยู่ที่ 9-10 โล/ลิตร
ใช้ lpg อยู่ที่ 7.3-7.5 โล/ลิตร
ถ้าใช้ E85 น่าจะอยู่ท่กี่โล/ลิตรครับ
เผื่อวันนึงถ้าราคาแก๊สขึ้นไประดับนั้น แล้วหันไปหา E85 ทางไหนจะคุ้มค่ากว่า

Ans ตามทฤษฎี E85จะกินน้ำมันมากกว่าครับ แต่ของจริงจะต้องลองเติมแล้วเทียบอัตราสิ้นเปลืองเอาเองระหว่างน้ำมันแต่ละชนิด แม้จะเป็นรถรุ่นเดียวกันก็ไม่อาจจะกินน้ำมันเท่ากันได้ และต่างรุ่นต่างยี่ห้อก็กินน้ำมันไม่เท่ากัน เพราะการปรับไฟจุดระเบิด การปรับองศาไทมิ่งการออกแบบห้องเผาไหม้ ต้องลองเติมพิสูจน์ในรถแต่ละคันเอาเองครับ ว่ารถคันไหนจะเหมาะกับแบบใด
by Auto

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 202
       มีอีกเรื่องนึง เช้านี้ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ที่ไปเที่ยวออกทริปด้วยกัน ไม่เอ่ยว่าใคร

มีปัญหาเรื่องการตัดเข้าแก๊ส คือระบบไม่ค่อยเปลี่ยนเป็นแก๊สหรือเปลี่ยนช้า ก่อนหน้านี้มีอาการสตาร์ทติดยากให้เปลี่ยนหม้อต้มที่อู่อาจารย์รุ่งอาการน่าจะหายไปแล้ว แต่มาเจออาการใหม่แทรกซ้อนผมเลยถามว่าซื้อตัววัดไฟแบตเตอรี่มาติดที่รถหรือยังเขาบอกซื้อมาแล้ว ผมเลยถามว่าตอนนี้ก่อนสตาร์ทรถไฟแบตเตอรี่ขึ้นโชว์ตัวเลขที่เท่าไหร่ ปรากฎว่าขึ้น 12v ผมบอกนั่นแหละคืออาการไฟแบตเตอรี่ไม่พอจะไปเลี้ยงกล่อง ECU ของแก๊ส มันมีสัญญาณเตือนว่าแบตไฟอ่อนแล้ว ECU ผมเลยแนะนำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ว่ายังไงก็ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ก่อนแล้ว ไม่ช้าไม่นานก็ต้องเปลี่ยนเพราะไฟเริ่มไม่พอ

ท่านที่ซื้อตัววัดโวลท์แบตเตอรี่มายังไงก็ควรอ่านค่าแบตให้เป็นด้วยนะครับ ผมได้สอนตัวเลขการอ่านค่าที่เราพอเข้าใจไว้แล้วในกระทู้ ไดชาร์จของ 2.7 ซ่อมได้ที่คุณ Sembe ตั้งไว้ ท่านซื้อตัววัดโวลท์มาไม่เคยอ่านค่าเลย หรืออ่านค่าไม่เป็นหรือไม่เข้าใจค่าที่อ่านมันก็ไม่มีประโยชน์อันใด แต่ถ้าท่านยังไม่ซื้อมาใช้งาน ก็ควรซื้อมาใช้ได้แล้ว มันมีประโยชน์มากมายกว่าที่ท่านคิด ดีกว่าไปให้ร้านแก๊สหลอกฟันเอาเปล่า ๆ หรือร้านไดนาโมฟันเอาตามใจชอบ บางคนซื้อมาไม่เคยอ่านค่าเลยหรืออ่านค่าแล้วก็ปล่อยผ่านไป อย่างเช่นไฟแบตปล่อยให้ไฟแบตเตอรี่ลดต่ำลงเหลือ 12V แสดงว่าแบตเตอรี่ใกล้หมดสภาพเต็มทนแล้ว แบบนี้ไม่ควรเลย แปลว่าท่านละเลยการดูแลหรือการป้องกันปัญหาที่มันจะเกิดขึ้นก่อนเวลาอันควร ถ้าเป็นรถปิคอัพดีเซลเครื่องยนต์ใหญ่ไฟแบตเตอรี่เหลือเพียงแค่น้อยไฟไม่พอแม้แต่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ เพียงแต่นี่โชคดีที่เป็นเครื่องเบนซินมอเตอร์สตาร์ทลูกเล็กมากเพราะทดรอบได้ ไฟยังพอสตาร์ทต่อไปได้

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 203
       Update ข่าวในวงการยานยนต์ ที่อาจจะเกี่ยวกับทุกท่าน

1. SUV PPV ใหม่ของ TOYOTA จะเปิดตัวประมาณเดือนสิงหาคมน่ะครับ เปิดตัวหลังจาก New Hilux เปิดตัว มีนาคม - เมษายน 2558 โดยสิ่งที่เพิ่มมาด้วยคือดิสค์เบรคหลังมีมาแน่นอน แต่จะมีครบทุกรุ่นย่อยหรือไม่อันนี้ตอบไมได้เพราะต้นทุนแพงทางโตโยต้าถนัดลดต้นทุน และสิ่งที่ทุกท่านรอคอยคือ รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินจะไม่มีการลง 4wd fulltime มาให้ โดยจะมีเฉพาะรุ่น Top ดีเซลเท่านั้นที่จะลงระบบ 4wd fulltime มาให้ และไม่แน่ในอนาคตจะมีการประกอบรุ่นเบนซินขายในไทยตลอดหรือไม่เนื่องจากติดเรื่องอัตราภาษีในการปล่อยมลพิษ ที่จะทำให้ราคารถขยับขึ้นตามการปล่อยไอเสีย ซึ่งเครื่องยนต์เบนซินใหญ่แบบนี้อาจต้องเป็นยุคที่ต้องเข้าหาเทอร์โบเพื่อให้ไอเสียสะอาดขึ้น แต่ในตลาดโลกโตโยต้ายังไม่ได้ปรับปรุงเครื่องรุ่นนี้เพื่อลงเทอร์โบแต่อย่างใด ส่วนฟิลลิ่งการขับขี่ไม่มีใครเคยลองแต่คาดว่าน่าจะไม่ได้หนีจากตัวปัจจุบันมากเกินไปนัก

2. อนาคตของ Ford New Everest ที่จะมาทำตลาดในไทยปีนี้หลังจากเปิดหน้าตาให้เห็นกันแล้ว จะใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 และ 3.2 เท่านั้น ที่จะทำตลาด ส่วนเครื่องยนต์เบนซิน Ecoboost อันเป็นตัว TOP สุงสุดของรุ่นนี้ นั้นฟอร์ดประเทศไทยจะผลิต New Everest ตัวนี้เพื่อการส่งออกอย่างเดียวเนื่องจากเครื่องยนต์เครื่องนี้เป็นเบนซินและมีแรงม้าเกิน 240 แรงม้า ไม่สามารถทำตลาดในประเทศไทยได้เนื่องจากติดเรื่องอัตราภาษีจะทำให้ราคาตัวรถกระโดดขึ้นไปเกิน 2 ล้านบาท ทาง Ford sale ประเทศไทยจึงจะทำตลาดเฉพาะรุ่นรองลงมา ซึ่งใช้เครื่องดีเซล 2.2 และ 3.2 ตามลำดับ

3. ฟากค่าย Mitsubishi ที่กำลังซุ่มทำโปรเจกต์ใหม่ให้หน้าตารถ ไทรทันใหม่สวยขึ้นอีกนั้นจะมีการออกรุ่นพิเศษที่มีกระจังหน้า กันชนหน้าแตกต่างจากที่เปิดตัวรถอยู่ในเวลานี้ ซึ่งไม่ใช่หน้าตาแบบตัวปัจจุบันที่คนติติงว่ากระจังหน้าไม่สวย
อีกทั้งตัว New Pajero ใหม่ที่เป็น PPV จะทำตลาดบ้านเราจะใส่ระบบ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4wd fulltime มาให้ด้วยหลังจากได้รับการพิสูจน์แล้วว่ารถที่ใช้ระบบ 4wd fullime ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋งหรือ SUV ประสิทธิภาพการขับขี่ยังไงก็เหนือว่ารถที่ใช้ระบบ 2wd ในการขับเคลื่อนทุกรูปแบบ ทั้งในเมืองและนอกเมือง แต่นักเลงรถชาวไทย ส่วนใหญ่มักจะไม่เลือกรุ่น 4wd ก็จบข่าว แต่ข่าวนี้ยังไม่ยืนยัน 100% ว่าระบบขับเคลื่อนจะเป็น 4wd fulltime จริงหรือไม่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 204
       ก่อนสิ้นปี 2014 ที่ผ่านมาผมหยุดงานเร็ว เลยไปเข้าศูนย์เพื่อจะเปลี่ยนซีลฝาครอบวาล์วที่ศูนย์ โตโยต้านครธน สาขาเทพารักษ์ใกล้บ้าน ปรากฎว่าอะไหล่ไม่มีนะครับ ที่บ้านโพธิ์ไม่มีสต๊อกอะไหล่ ก็เลยไม่ได้เปลี่ยน โทรไปวันนี้ก็ไม่มีของอีก
ของคุณอาเฮงที่เปลี่ยนไดชาร์จข้างนอกไป เพราะไม่มีของนั้นผมไม่แปลกใจเลย เพราะอะไหล่รายการอื่น ๆ ก็ไม่มีของเช่นกัน แต่สต๊อกรถของ TOYOTA น่ะบานเต็มลานจอดรถแต่สต๊อกอะไหล่ไม่มี
ผมว่าหลายยี่ห้อก็น่าจะประสบปัญหาแบบนี้คือการสต๊อกอะไหล่ ที่รถปัจุจบันไม่ได้เก็บอะไหล่สต๊อกรอให้ลูกค้ามาเบิกแบบก่อนแล้ว ต้องมี Order ไปจึงจะทำให้
ล่าสุดอ่านเจอเคสของ Mazda เครื่องยนต์ตระกูล MZR เขามีท่อน้ำข้างเครื่องและด้านหลังเครื่องแบบ เครื่องยนต์ 2TR-FE มีการพบปัยหาว่าท่อน้ำรั่วแบบของเราเหมือนกันทั้งที่รถก็ไม่ติดแกสและวิ่งไม่เยอะ แต่พอเข้าศูนย์ก็บอกไม่มีอะไหล่

ตอนนี้ลากไปอยู่ที่ศูนย์เจริญนครแล้ว ทางศูนย์แจ้งว่าน้ำแห้ง
- ท่อน้ำหลังฝาสูบ (หลังเครื่อง) เสียหาย
- ท่อเหล็กที่เสียบติดฝาสูบ (ตรงหลังเครื่อง) ที่ต่อมาจากท่อน้ำอีกที
แต่ปัญหาคือว่า เป็นรถ เค้าไม่สามารถหารหัสอะไหล่ในระบบได้ กลัวเอามาผิดตัวแล้วศูนย์ต้องมารับผิดชอบเอง อะไหล่บางตัวก็ไม่แน่ใจว่ามี คนบริการแนะนำให้เอาเข้าอู่นอก ผมก็เลยไม่รู้จะเอาไปเข้าศูนย์มาสด้าทำไมตั้งแต่แรก

****************************************************

ซื้อรถ TOYOTA ก็ไม่ใช่ว่าอะไหล่จะพร้อมน่ะครับ เพราะเดี๋ยวนี้บริหารงานคล้ายกัน เพียงแต่ข้างนอกมีอะไหล่เทียบพอหาได้ง่ายกว่าเนื่องจากในบ้านเรารถยี่ห้อโตโยต้ามีบนถนนเยอะกว่าเท่านั้นเอง แต่ไปหายี่ห้ออื่นก็หนักกว่าเก่าอีก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 205
       เอารถ Vios แฟนไปเข้าศูนย์เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
ก่อนหน้านี้ใช้บริการอู่นอกใกล้บ้าน แต่ปรากฎว่าอุู่นอกเหล่านี้คิดราคาตั้งแต่ 100 เพิ่มมาเป็น 200 ก็เลยเลิกใช้บริการ
ผมก็เลยหันมาเข้าศูนย์แทนเหมือนอย่างเดิม ก็ได้รับคำแนะนำจากลูกค้าที่มาซื้อน้ำมันเครื่องที่ผมไป พวกเขาไปใช้บริการกันที่ศูนย์ไหน ผมก้เลยเอารถเข้ามามั่ง วิ่งเลยไปไกลแต่โอเคครับ
เพราะว่าสุนย์ยังไงก็ทำงานได้ดีกว่าอู่ครับ เนื่องจากอู่ทำได้แค่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง แต่ไม่ได้ทำอย่างอื่น ยังไงก็ถือว่าแพงอยู่ดี

แต่ศูนย์นี้ที่ผมใช้บริการมาครั้งแรกกับศุนย์นี้ก็ประทับใจนะครับ TSB เช็ครถฟรีหลายรายการมาก ล้างรถ car spa ฟรี 250 ก็คุ้มแระขณะที่อู่ซ่อมรถทำให้ไปแบบนี้ไม่ได้ ต้นทุนต่างกันมาก รายเล็กไม่อาจสู้การค้ารายใหญ่ได้ พวกลูกค้าผมเขาถึงมาใช้บริการกันที่นี่ เขาบอกคือมันล้างรถให้ด้วย พวกเขาพอใจกันมากกว่าซ่อมรที่อู่ครับ

พอดีเจอเช็ครายการรถตามระยะให้ด้วยช่างแจ้งเปลี่ยนหลายรายการ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 206
       พอดีเจอเช็ครายการรถตามระยะให้ด้วยช่างแจ้งเปลี่ยนหลายรายการ
ถ้าคนที่เข้าอู่นอกอย่างเดียวก็แค่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง อย่างอื่นเราไม่ได้ทำ ต่อให้คุณใช้น้ำมันเครื่องดีแค่ไหนวิเศษที่สุดในโลกแต่รายการอื่นไม่ได้ทำ รถก็ไม่อาจอยู่ในสภาพที่ดีได้ ใช้น้ำมันของเหลว TOYOTA เข้าศูนย์บริการโตโยต้าจัดการ ค่าใช้จ่ายไม่ได้แพงกว่าอู่นอกเท่าไหร่เลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 207
       รายการราคาอะไหล่ของวีออส ไม่ได้แพงมากมาย อู่นอกโดนฟันพอกันหรืออาจแพงกว่านี้แล้วแต่อู่
ช่างศูนย์เช็ครถให้ละเอียดพอควร เปลี่ยนซีลน้ำมันเครื่องที่ฝาครอบวาล์วด้วย ก่อนหน้านี้ไม่เห็นอาการรั่วมาก่อน ต้องเปิดฝาครอบเครื่องจึงเห็น บริการเบรคทั้งหมด โช๊คช่วงล่างเช็คให้หมดฟรี

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 208
       ราคารวมจ่ายทั้งหมด 2033 บาท รวมค่าแรงเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแล้ว ยกเว้นน้ำมันเครื่องไส้กรองหิ้วเข้าศูนย์เอง
ส่วนรายการอื่นเพิ่มเติมโช๊คหน้าหลังหมดอายุแล้ว สมควรเปลี่ยนแต่อะไหล่บ้านโพธิ์ของไม่ครบ เพราะยางเบ้าโช๊คขาดต้องเปลี่ยนด้วย เลยนัดมาซ่อมทีหลัง ราคาค่าอะไหล่ลด 15% นัดมาทำทีหลังอาจไปซ่อมศุนย์อื่นก็ได้ ที่ได้ส่วนลดประมาณนี้
ผ้าเบรคหมดหน้าหลัง เอาไปเปลี่ยนเองข้างนอกผ้าเบรค TRW เนื่องจากผ้าเบรคแท้ของศูนย์แพงเกินไป แต่ไปเปลี่ยนเองข้างนอกดันไปเจอร้านที่ฟันค่าแรงอะไหล่แพงเกินไปอีก
โช๊คเลยตัดสินใจโทรไปนัดศูนย์เปลี่ยนที่ศูนย์เลยดีกว่าบอกอะไหล่มาเมื่อไหร่แจ้งด้วย ไม่เข้าทำอุ่ข้างนอกแน่นอน กลัวโดนฟันอีก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 209
       เจอปํญหาออกซิเจนเซนเซอเสียวิ่งน้ำมันได้เเต่ใช้เอ็นจีวีวิ่งไม่ออก ศูนบอกไม่เปลี่ยนได้เพราะรถวิ่ง2.2เเสนเเล้วใช้เเก๊สเปลี่ยนไปก็จะเสียอีกเพราะเครื่องยนต์ไม่สมบูณร์เเล้ว อาการเเบบนี้เอาไปร้านเเก๊สบอกไฟโชวต้องเเก้ก่อนที่ออกซิเจนเซนเซอร ขอคำเเนะนำหน่อยครับ เปลี่ยนเลยใช่ไหมครับตัวละ 6 พันกว่า

สมควรเปลี่ยนเลยครับ จาก : Auto.(Auto.) 15/1/2558 0:49:04 [124.120.70.113]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 210
       เป็นไปได้ว่าจูนแก็สบางไปในรอบใช้งานครับ ทำให้ความร้อนไอเสียสูง ส่งผลให้ O2 ร้อนจัด นาน ๆ จึงพังไว

แสดงความคิดเห็นย่อย