คำตอบที่ 1
       เพิ่มเติมครับ รถผมเพิ่งวิ่งได้ 98000 กว่าๆ และก็เปลี่ยนถ่ายของเหลว น้ำมันเครื่อง แล้วก็ยังๆไม่หายครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       อาการนี้ไม่เกี่ยวกับการถ่ายน้ำมันเครื่องหรือของเหลวต่าง ๆ นะครับ เอาไปเปลี่ยนถ่ายก็ไม่มีประโยชน์ เพราะมันไม่ใช่การซ่อม

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รถวิ่งมาน้อย 98,000 กิโลเมตร เพราะรถคุณอายุถ้าเทียบตามอายุน่าจะใช้งานเพียงปีล่ะ 10000-18000 กิโลเมตรเท่านั้น ผมบอกอะไรให้อีกอย่างนึง รถที่วิ่งมาน้อยจะซ่อมมากกว่ารถที่วิ่งมาเยอะ เป็นอาการปกติของเครื่องจักรเกือบทุกชนิดบนโลกนี้
เมื่อคืนไปงานฌาปนกิจคุณพ่อของสมาชิกท่านนึง รถ ซีอาร์วี ของเขาวิ่งน้อยมาก เลขไมล์ต่ำจริง ๆ แต่เพิ่งจะซ่อมไป 2 หมื่นกว่า เพราะรถวิ่งน้อยจะมีปัญหาเรื่องชิ้นส่วนเสื่อมสภาพ ไม่เหมือนรถวิ่งเยอะจะซ่อมตามตารางการบำรุงรักษา อันนี้ไม่น่ากลัวสภาพเอาไปใช้แล้วมั่นใจกว่ารถที่วิ่งน้อย

ผมมีตัวอย่างกับรถ Hilux 2.7 4wd คันของผมเองที่บ้าน ช่วงนี้จอดอีกแล้วเพราะน้องชายผมที่ใช้ประจำไปราชการทหาร 1-2 เดือนกลับมาจึงเอารถออกมาวิ่งทีนึง เอาไปซ่อมอู่อาจารย์รุ่ง 2 อาทิตย์แล้วจึงเจอสาเหตุ ที่เครื่องเดินไม่เรียบ วันหลังจึงจะเล่าให้ฟังว่าเพราะอะไร เมื่อวานนี้ผมให้น้องชายขับโคโรล่า 3 ห่วง ของพี่สาวไปซ่อมที่อู่อาจารย์รุ่งเหมือนกัน รถวิ่ง 170,000 ไมล์แท้วิ่งน้อยมาก แต่เจอปัยหาเพราะไม่ได้ใช้รถนี่แหละ ทำให้ชิ้นส่วนเสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนด อาการเข้าเกียร์ D ตอนติดไฟแดงเครื่องดับ อาจารย์รุ่งเจอสาเหตุแล้วแต่ขอนัดมาทำอาทิตย์หน้า

เจอลูกค้าคนนึงในอู่อาจารย์รุ่งใช้โคโรน่า Exisor ราคาคุยมากเข้าใจผิด เกี่ยวกับรถ วิ่งน้อยวิ่งเยอะ เขาซื้อรถมือ 2 มาวิ่งน้อยไมล์แท้ยังวิ่งไม่ถึง 1 แสนโล ด้วยไมล์ที่น้อยเกินไป ถ้าเทียบตัวรถ เขาบอกว่าในตลาดมีรถที่วิ่งมาเยอะ 2- 3 แสนโล เขาไม่ซื้อหรอกเอามาทำไมรถวิ่งเยอะขนาดนั้น ผมนึกในใจแล้วรถที่มันซื้อมาวิ่งเลขไมล์น้อยเอามาซ่อมทำไม เพราะอุปกรณ์หลายส่วนมันเสื่อมสภาพหลังจากรถเอามาวิ่งเยอะ ๆ เห็นทันที ต้องไล่ซ่อมกันหลายจุดมาก เลยเบือนหน้าหนีกันไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ของคุณไม่ทราบว่าติดแก๊สมานานเท่าไหร่แล้วหรือว่าเพิ่งมาติด
เคยได้ถอดล้างลิ้นปีผีเสื้อหรือไม่ ถ้ามีการล้างปีกผีเสื้อหรือติดกล่องคันเร่งไฟฟ้ามาก่อน อาจเจออาการนี้ก็เป็นได้

แนะนำว่าต้องเข้าศูนย์ตรวจดูคันเร่งไฟฟ้ากับปีกผีเสื้อ เพราะเหมือนกับว่าไม่สั่งการให้เร่ง ถ้าศูนย์ เช็ค OBD อาจจะทราบก็ได้
หรือมีอีกอย่างนึงคือเพิ่งติดแก๊สมาไม่นานช่วงแรกปกติเพิ่งมาเจอปัญหาช่วงหลังแบบนี้อาจเกี่ยวกับ เรื่องแก๊สที่ดึงสัญญาณมาทำให้ Save mode ทำให้เร่งไม่ได้ อีกเรื่องนึงคือเคยมีสมาชิกเราเจอมาแล้วที่ช่างลืมถุงมือในกรองอากาศทำให้อุดตันเร่งไม่ได้

ปล. อาการนี้ไม่เกี่ยวกับหัวเทียนและกรองอากาศ เผื่อมีคนแนะนำให้เปลี่ยนจะได้ไม่ต้องเสียเงินเปล่า
ยกเว้นคุณใช้หัวเทียนเข็ม อิริเดียม แบบนี้เปลี่ยนใส่ของแท้ตรงรุ่นกลับมาเถอะ แล้วดูวาเร่งมีปัญหาอีกหรือไม่

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       อีก1อย่างที่เป็นไปได้คือ ตรวจสอบระดับน้ำมันเกียร์autoว่าอยู่ในระดับหรือไม่ หรือถ้าเพิ่งเปลียนถ่ายต้องถามช่างว่าเอาน้ำมันเกียร์อะไรใส่ให้ถูกเบอร์หรือป่าว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       ขอบคุณพี่ๆครับ ตอนนี้รถอาการดีขึ้นแล้วคับ ทำการเปลี่ยนหัวเทียนใหม่ แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นอีก เวลารถวิ่ง ล้อด้านหลังดังเอิ๊ยดๆ เหมือนมีอ่ะไรมาสีกันมันดังตามความเร็วเลยครับ พอไปเช็คเบรคที่บีควิก ผ้าเพรคก็ยังไม่หมด แต่สกปรกมากๆ จึง ใช้สเปร์ทำความสะอาดฉีด และก็อักจารบี ตามจุดเบรคต่างๆครับ ไม่รู้ว่าแก้ไขถูกจุดหรือป่าว ปกติรถก็ใช้ทุกวันนะครับ แต่ใช้วันหนึ่งไม่เกิน 20 กิโลเอง นานๆจะออกต่างจังหวัดไปเที่ยวซักที ขอคำแนะนำด้วยนะครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       รถถ้าใช้น้อยแบบนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเรื่องเงินในการเข้าศูนย์มากนัก ผมแนะนำให้เข้าศูนย์ทุกระยะจะดีกว่านะครับค่าเช็คระยะ 1xxx กว่าบาททุกทุกระยะ 10,000 กิโลเมตร กับการเข้าศูนย์ 1 ครั้ง ไม่น่าจะแพงเกินไปสำหรับคนใช้รถน้อย
เพราะว่านอกจากเช็คระยะเพื่อแจ้งเจ้าของรถตามอาการที่ต้องซ่อมทั่วไปแล้ว จุดที่ต้องบำรุงรักษาเขาจะทำให้เรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอัดจารบี ทำการหล่อลื่นตัวกลไกของเบรคทั้งหน้าหลัง การถอดเบรคมาทำความสะอาด และอื่น ๆ ซึ่งตรงจุดนี้เราต้องยอมรับว่าช่างข้างนอกทั่วไปทำไม่ได้ ซึ่งหลาย ๆ คนไปฝากความหวังในการทำรถเช็คระยะกับบีควิกหรือช่างที่รู้จักกันข้างบ้าน มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนัก
ถ้าคิดว่าเข้าศูนย์แพงเกินไป ผมก็ได้แนะนำทางเลือกให้แล้วคือหาศูนย์ที่รับน้ำมันของเหลวของโตโยต้าแท้จากภายนอกได้ แล้วเราหิ้วเข้าศูนย์ไปทั้งหมดเลย ก็เป็นทางเลือกที่ทำให้ประหยัดเงินไปได้มากแล้วรถยังได้รับการดูแลจากศูนย์บริการตามระยะที่ถูกต้องอีกด้วย
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เบรคหลังถอดทำความสะอาดแล้วต้องหล่อลื่นตามจุดต่าง ๆ ของกลไกเบรคและฉีดเสปรย์เอนกประสงค์ที่สปริง ด้วย อย่าลืมตรวจการรั่วของเบรคทั้งหมด ถ้ารถใช้น้อยมาก ๆ มักจะมีปัญหาเบรคสึกไม่เท่ากัน อาจต้องปรับตั้งกันใหม่ เพราะกลไกเบรคฝืดไม่ค่อยเคลื่อนตัว แล้วก็ต้องระวังเรื่องตามดในกระบอกเบรคสำหรับรถใช้งานน้อย ๆ จะมีปัญหาเรื่องการรั่วซึม ถ้าเป็นรถใช้งานเยอะไม่น่ากลัวเท่าไหร่ในจุดนี้แต่รถใช้น้อยปัญหานี้อาจจะเกิดได้เสมอ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ขอถามหน่อยครับว่า ช่วง 80,000 กิโลเมตรได้เปลี่ยนหัวเทียนของแท้ densoถูกต้องตามเบอร์ตามระยะทางด้วยหรือเปล่า หรือว่าเปลี่ยนของรุ่นอื่นมาใส่ จึงเกิดปัญหาขึ้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       คือผมดันไปใช้หัวเทียนเข็มอ่ะครับ แต่ตอนนี้ ใช้ของ ศูนย์โตโยต้าเลยครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       นั่นแหละครับ ที่ผมหมายเหตุใน ปล. ไว้
ผมเคยเขียนบอกสมาชิกในเวปนี้ไปแล้ว หัวเทียนต้องเปลี่ยน ทุก 40,000 โล และให้ใช้หัวเทียน Denso K-20 RU ให้ตรงรุ่นของเครื่อง 2.7 หัวล่ะ 60 บาทเท่านั้น ไม่ให้ไปใช้หัวเทียนแบบอื่น ๆ ถึงแม้ใครหลายคนจะบอกว่าเคยใช้อิริเดียมกับรถรุ่นอื่น ๆ แล้วไม่เห็นเป็นไร แต่ทำไมใน 2.7 จึงใช้ไม่ได้

คือผมก็ตอบไม่ได้ทั้งหมดหรอกว่าเพราะอะไร แต่ทฤษฎีเก่า ๆ ความรู้เก่า ๆ บางทีมันเอามาใช้กับของใหม่ ๆ ไม่ได้เหมือนกัน
เช่นเดียวกับน้ำมันของเหลวโตโยต้าที่หลายคนต้องกลับมาใช้ของโตโยต้าทั้งหมด ไม่สามารถไปใช้ยี่ห้ออื่นได้ทั้งที่ทางทฤษฎีมันเทียบเบอร์ให้ตรงก็น่าจะใช้ได้แล้วแต่กลับใช้ไม่ได้อย่างที่คิด สุดท้ายใช้ของโตโยต้าดีที่สุด ทำตามคู่มือและสิ่งที่ผมเขียนแนะนำไปเสียเงินน้อยที่สุดคุ้มค่าที่สุดไม่ต้องไปลองผิดลองถูกกันให้เสียเวลาอีก

แสดงความคิดเห็นย่อย