คำตอบที่ 1
       ของทุกตัวในโลกนี้มีโอกาสเสียทั้งนั้นครับ แต่................. ถ้าจะบอกว่ารถ 4x4 มีแล้วไม่เคยเอาไปลุยออฟโรดอะไรที่ไหนแล้วเพลาจะไม่เสีย รถจะทนทานมีสภาพดีกว่ารถทั่วไปน่ะไม่ใช่แน่นอน เป็นความเข้าใจของคนอีกหลาย ๆ คนที่ผิด


รถผมปีนี้เข้าปีที่ 8 ผ่านการใช้งานมาแล้ว 7 ปี ใน 7 ปีนี้เข้าเกียร์ 4wd แทบทุกวันกับการใช้งานบนถนนจริง ๆ ในชีวิตประจำวัน แถมทุกวันนี้ยังต้องกด Switch Diff lock ไฟฟ้าที่เฟืองท้ายหลังเพิ่มแรงบิดที่เฟืองท้ายให้ใช้งานเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก เพราะไม่งั้นล้อหน้าฟรีทิ้งปีนข้ามร่องน้ำเกาะกลางถนนไม่ได้ ไม่นับรวม ไปท่องเที่ยวเข้าป่า ปีนเขา ข้ามลำธารสายน้ำอีกมานับไม่ถ้วน
แม้แต่ยางเพลาขับไม่เสีย ยังไม่เคยเสีย ไม่เคยฉีกขาด หรือต้องเปลี่ยน แต่อย่างใด
ตัวเพลาขับ ของ Vigo Fortuner (ของแท้) อายุการใช้งานบอกแล้วจะตกใจ แต่ยังไม่บอก

ผมจึงบอกไงล่ะว่ารถพวกนี้เป็นรุ่น 4wd จะคุ้มค่าน่าใช้งานกว่ารุ่น 2wd มาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       ตัวเพลาขับยังต้องรับแรงกระทำจากด้านล่างด้วย รถผมขับปีนข้ามสะพานไม้ เจอสะพานก็เหินหาวลงจากบนคอสะพาน เวลาขับไปเจอฝนตกที่มีแอ่งน้ำ ไม่มีคำว่าเหยียบเบรค แต่ใส่คันเร่งมากขึ้นไปอีก น้ำกระจายสูงยิ่งกว่าหลังคารถเมล์
ยางเพลาขับไม่เสีย ไม่ฉีกขาด หรือต้องเปลี่ยน แต่อย่างใด เพลาขับก็ไม่มีปัญหา (แต่รถต้องถูกเซทช่วงล่างมาก่อนนะ ใส่พวกโช๊คเทพ ๆ จะทำได้ )
รถทั้งช่วงล่างและเพลาขับจะทนทานมาก สำหรับรถพวก chassis on frame 4wd แบบนี้ ซึ่งยังไงก็ต่างกับรถ2wd หรือจะต่างจากรถ Suv ที่เป็นพวกครอสโอเวอร์ หรือพวกเก๋งยกสูง มากเพราะกลุ่มนั้น ช่วงล่างจะไม่ทนทานรับงานหนักได้ในแบบนี้ เลย

รถผมฟอร์จูนปี2012 trd เที่ยวออฟโรดแบบไม่โหดมาก ช่วงล่างยังปกติดีครับ จาก : shooter22(shooter22) 18/8/2561 15:24:39 [116.68.159.79]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       รถตา Top ณ เชียงใหม่ ก็อีกตัวอย่างนึง รถ Hilux Vigo 2.7 4x4 เขาใช้ขึ้นดอย วิ่งโครงการเกษตรบนดอยเส้นทางออฟโรดมากมายในภาคเหนือ ทั้งงานลาก ทั้งล้อฟรี เพลาขับกับยางเพลาขับน่าจะยังไม่เสียมั้ง ถ้านับการใช้งานถึงวันนี้ รถเขาใช้งานบนพื้นที่จริงและบางทียังต้องพันโซ่ล้อรถด้วยเพลาขับยังไม่เสียหายแต่อย่างใด ความทนทานของพวกนี้ถือว่าทนทานมากมายกว่ารถปกติ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       แต่........................... ทุกอย่างในโลกนี้มีคำว่าแต่ทั้งนั้น คือมันมีเงื่อนไขอยู่เหมือนกัน ที่เพลาขับพวกนี้อาจจะเสียหายได้


1. พวกที่ชอบหักพวงมาลัยมาก ๆ ใช้รัศมีวงเลี้ยวแคบ ๆ ให้ล้อหักมุมไปมาก ๆ คิดว่าตัวเองขับรถเก๋งมีฝีมือในการเข้าจอดซองแคบ ๆ เป็นประจำ พวกนี้เป็นคนที่ชอบขับรถเข้าจอดตามห้างตามอาคารใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ ๆ เป็นหลัก และต้องขับรถแบบนี้เป็นประจำ เพลาขับและลูกปืนเพลามีโอกาสเสียได้ง่ายมาก
2. เวลาจอดรถไม่ตั้งพวงมาลัยให้ตรงแต่ให้ล้อหมุนออกไปทางใดทางนึง ค้างไว้แบบนี้จะทำให้เพลาขับเสียหายง่าย
3. ชอบเข้าโค้งแรง ๆ ซัดโค้งแรง ๆ
4. คนที่ตบแต่งช่วงล่างผิดไปจากเดิม เช่น ลงล้อแม๊กใหญ่ ๆ ล้อใหญ่ ใส่ยางใหญ่ ยกสูงขึ้น ทำให้มุมเพลาขับผิดไปจากเดิม เพลาขับจะรับภาระการใช้งานมากกว่าปกติการสึกหรอจะสูง
5. ใช้ยางเพลาขับของเทียม หรืออะไหล่เทียมแบบอื่น ๆ จะเปิดโอกาสให้น้ำหรือสิ่งสกปรกเข้าไปทำลายเพลาขับ
6. จอดรถแช่น้ำ แช่โคลน เป็นเวลานาน จนน้ำเข้าไปในลูกปืนเพลาขับ
7. รถที่จอดมากกว่าใช้ หรือไม่ค่อยได้ใช้รถ จะเกิดความสกปรกหรือตามดขึ้นในชุดแบริ่ง
8. รถที่ขับแบบประเภท ช่วงล่างเดิม ๆ ไม่ค่อยได้เปลี่ยนโช๊ค แต่เจอหลุมเป็นหยอด ขับแบบค่อย ๆ ย่องเหมือนขับรถเก๋ง
9. ปล่อยให้ยางหุ้มเพลาขับขาดและไมได้รีบซ่อมแซมทันทีแต่ยังใช้งานรถต่อไป จะเสียหายได้เร็วมาก

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       บอกอายุเพลาขับหรือยังครับ


บอกเถอะครับ เดี๋ยวผมนอนไม่หลับ (อยากรู้ง่ะ.....)

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       ให้ลองนึกสภาพ เฉพาะรถเก๋ง TOYOTA Altis ตัวใหม่ ๆ นะ อายุการใช้งานอยุ่ราว ๆ 3-4 แสนโล เพลาขับจึงจะมีอาการเสีย (ถ้ายางหุ้มเพลาขับไม่ฉีกขาดไปเสียก่อน หรือมีการใช้งานผิดประเภท แบบที่ผมบอกตามคำตอบที่ 4 ก็จะทนทานกว่านี้ ) ถ้าเอามาวิ่งในเมืองบ่อย ๆ อายุเพลาขับจะลดลงตามสภาพการใช้งาน
ถ้าเป็นชุดเพลาขับของ Vigo Fortuner การใช้งานในเงื่อนไขเดียวกัน คือไม่ได้เอามาใช้ผิดประเภทแบบคำตอบที่ 4 ที่บอกเอาไว้ อายุการใช้งานเพลาขับวิ่งได้เกิน 5 แสนกิโลเมตรก็ยังไม่พัง เพราะเพลาขับพวกนี้จะสามารถรองรับงานหนักได้มากกว่าพวกรถเก๋งอยู่แล้ว ที่ใช้กันอยุ่ทั่วไป สำหรับการออกแบบมาใช้งานสมบุกสมบัน บางคนใช้รถ Fortuner มาเกิน 3 แสนกว่ากิโลเมตร เห็นว่ารถเก่าแล้วใช้มาคุ้มแล้วก็เลยอยากขายรถออกไป รถคันนั้นยังไม่เคยแม้แต่จะซ่อมเพลาขับหรือเปลี่ยนยางเพลาขับแต่อย่างใด หรือไม่เคยซ่อมระบบ 4wd อย่างอื่นแต่อย่างใดเลย

แต่บางคนวิ่งมาแค่ 2 แสนโลยางเพลาขับก็ขาดแล้ว เพราะว่ามีการหักพวงมาลัยจนสุดยางหุ้มเพลายืดระยะออกไปมากทำให้ยางเพลาขับฉีกขาด ในขณะที่วิ่งในเมืองบ่อย ๆ และถ้าเป็นประเภทคนไม่ดูแลรถ ปล่อยรถวิ่งผ่านน้ำท่วมขังหรือถนนที่มีฝนตก กรวดทราย หรือน้ำ โคลนเข้าไปในเพลาขับ ส่วนใหญ่ก็จะเสีย 100% ถึงแม้ตอนหลังจะเปลี่ยนจารบีซ่อมเปลี่ยนยางหุ้มเพลาขับแล้วก็ตามเพลาขับก็เสียอยู่ดี เพราะในร่องเฟืองและแบริ่งมันมีรอยหรือตามดเกิดขึ้นมาแล้ว การสึกหรอจะเกิดอย่างรวดเร็ว

*******************************************************************

ปล. ทั้งนี้ไม่เกี่ยวกับเพลาขับของพวก LN 111 หรือรถตระกูล Toyota Tiger หรือรถยี่ห้ออื่น ๆ ที่จะเอามาเปรียบเทียบกัน เพราะมันไม่ได้ทนทานเท่านี้ หรือมากกว่านี้ เป็นที่การออกแบบ Design ของงานมันจะแตกต่างกัน ตามการใช้งานและตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       พวกรถขับ4 เวลาเพลาขับหน้าชำรุด ตอนเลี้ยววงแคบๆ เช่นตอนกลับรถ มันมีเสียงขลุกๆแบบรถเก๋งไหมครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       เสียงมีได้ครับ เพราะชุดเพลาขับหน้ามีแบริ่งเหมือนกันทุกรุ่น เวลามันจะเสียส่วนใหญ่มันเริ่มมาจากมีเสียงดังก่อนเสมอ

***************************************

ตรงเฟืองขับหน้า มันจะมีร่องที่ฟันเฟือง ตรงนี้เขาเรียกว่าร่อง Seretion เป็นลักษณะ SPine คืองานสวมแต่ไม่ใช่สวมอัด ตรงร่องนี้ปกติแล้วไม่เสียหายแต่อย่างใดหรือเสียก็น้อยมาก งานตรงนี้ต้องผ่านการ HEAT TREATMENT ผิวหน้ามาก่อนทั้งนั้นทำให้งานมีความแข็งแรงสูงมาก กับการใช้งาน ส่วนใหญ่ที่จะเสียก็คือตัวแบริ่งที่สวมอัดของเพลาตัวนี้ เพราะเวลาใช้งานรถคงไม่มีใครขับรถด้วยแนวตรง ๆ โดยไม่มีการหักเลี้ยวพวงมาลัย แรงบิดกระทำที่ออกมาทางด้านข้าง ถ้ามีมุมในการหักเลี้ยวเยอะ ๆ สำหรับรถยนต์ที่ใช้ในเมืองใหญ่บ่อย ๆ หรือวิ่งเจอฝนตกบ่อย ๆ มีอากาศชื้น ก็สึกหรอสูงกว่ารถปกติ หรือมีแรงโหลดมากระทำมากกว่า STD. อย่างเช่นคนที่ใส่แม๊กใหญ่ ๆ ลงล้อยางใหญ่ ๆ แบบนี้ก็จะสึกหรอสูงเช่นกัน

อย่างไรก็ดีเพลาขับหน้าของรถแบบนี้อายุการใช้งานค่อนข้างยาวนานกว่ารถเก๋งมาก ถ้าไม่เจอปัยหาแบบคำตอบที่ 4 อายุการใช้งานมีมากกว่า 5 แสนกิโลเมตร แต่จะไม่เกิน 1 ล้านกิโลเมตร จะต้องได้เปิดออกมาซ่อมเปลี่ยนเพลาขับแน่นอน เพราะปัญหาจากแบริ่ง
แต่ถ้านับอายุการใช้งาน ราคาค่าซ่อมที่ต้องซ่อม (เฉพาะของแท้) ความคุ้มค่าที่เลือกใช้แล้ว ถือว่าคุ้มค่ามากกว่าใช้รถ 2wd แน่นอนครับ เพราะบางคนวิ่งจนรถขายไปแล้วยังไม่ต้องเปิดออกมาซ่อมเลย ซึ่งลุกค้าส่วนใหญ่ไปกลัวกันว่ารถ 4wd ซ่อมแพงไอ้โน่นไอ้นี่ ขนาดรถกระเทย รถครอสโอเวอร์ อย่างพวก CRV ลูกค้าใช้งานจนขายรถกันไปแล้วยังไม่มีใครต้องซ่อมระบบ 4wd แต่อย่างใดเลย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       รถผมแกนเพลาข้างล้อหลังซ้ายเปลี่ยนไปแล้วครับ สาเหตุเนื่องจากลูกปืนล้อหลังแตกแล้วฝืนขับต่อไปอีกหลายร้อยกิโล ปลอกลูกปืนเลยไปครูดกับแกนเพลาสึกไปเล็กน้อย จากนั้นก็เปลี่ยนลูกปืนแล้วใช้งานมาได้อีกปีกว่าๆ จนแกนเพลาสึกมาก สลักล็อคลูกปืนล็อคไม่อยู่ ลูกปืนไหลออกจากตำแหน่ง น้ำมันเฟืองท้ายรั่วออกมาที่ดุมล้อหลัง

เฟืองท้าย 8:39 เฟืองบายศรี+เดือยหมู แตก+บิ่น ไปแล้ว2ชุด สาเหตุ เนื่องจาก เปลี่ยนเฟืองท้ายจากอัตราทดเดิม 9:41 เป็น8:39 แต่ลูกเฟืองท้ายที่เอามาใช้ เป็นเฟืองท้ายเสื้อเล็ก ลูกเฟืองท้ายจะมีขนาดเล็กกว่าของติดรถวีโก้ อาจจะไม่เหมาะกับรถวีโก้ก็เป็นได้ คือรองรับแรงบิดและการใช้งานหนักๆไม่ไหว , ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเฟืองท้าย 8:39+LSD (ลูกที่3) เป็นเฟืองท้ายเสื้อใหญ่แล้วครับ

Auto-Difflock น่าจะเสื่อมสภาพ เฟืองดอกจอกหลวมมาก เวลาเปลี่ยนเกียร์เดินหน้า-ถอยหลัง มีอาการกระชากค่อนข้างจะแรง จนอาการล่าสุด มีเสียงหอนดังมาก ก็เลยถอดออกไม่ได้ใช้แล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       "เวลาเปลี่ยนเกียร์เดินหน้า-ถอยหลัง มีอาการกระชากค่อนข้างจะแรง" อาการนี้เป็นในรถเดิมๆวิ่งบนถนนดำอย่างเดียว ช่วยวิเคราะห์ได้มั๊ยครับว่าเกิดจากอะไรได้บ้าง

ลองอัดจารบีเพลากลางดูก่อนครับ ถ้ายังไม่หายก็เช็คพวกกากบาทต่างๆ จ�ก : ^Top^(^Top^) 2/4/2557 13:09:04 [49.230.154.21] ถ้ายังไม่หายก็ต้องเปิดเฟืองท้ายมาเช็ค หรืออาจจะต้องตั้งระยะเฟืองท้ายใหม่ จาก : ^Top^(^Top^) 2/4/2557 13:12:08 [49.230.154.21]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
       ถ้าอัดจารบีแล้วไม่หาย ที่เป็นอาการนั้น อาจจะเป็นที่ลูกปืนกากบาทเพลากลางหรือตุ๊กตาเพลากลาง ไปซะแล้วก็เป็นได้ คือตัวลูกปืนสึกหรอไปหมดแล้วก็ทำให้กระตุกแรงเวลาเเปลี่ยนเกียร์ หรืออีกแบบนึงก็ยางแท่นเครื่องแท่นเกียร์มันสึกหรอมากแล้ว ถ้าไม่ใช่ทุกแบบก็คงต้องเปิดเฟืองท้ายออกมาตั้งระห่างของแผ่นชิม แต่โอกาสเป็นไปได้ยากมากสำหรับกรณีหลังสุดเพราะการสึกหรอมันจะเกิดน้อยมากในกรณีหลัง

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       ผมทำมาทั้งหมดแล้วครับทุกอย่างที่กล่าวมา
1. อาจจะเป็นที่ลูกปืนกากบาทเพลากลางหรือตุ๊กตาเพลากลาง ผมให้ช่างถอดออกมาเช็ดดูแต่ไม่ได้ถอดออกดูลูกปืน แต่สามารถหมุนได้ทั้ง2แกนปกติ
2.อัดจารบีแล้ว
3.เปิดเฟืองท้ายออกมาตั้งระยะห่าง
4. ยางแท่นเครื่องแท่นเกียร์ ทางศูนย์สกลนครแจ้งว่ายังปกติดี

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       อาการที่คุณ ka-kook กล่าวมาไม่น่าจะเป็นเพลาข้าง ไม่ว่าหน้าหรือหลังถ้ามันเสียจะไม่ออกอาการแบบนี้ คือมันคนล่ะอย่าง
อาการกระชาก มันน่าจะเกิดจากกลุ่มเพลากลาง คือลูกปืน ยางแท่นเครื่องแท่นเกียร์ แต่เมื่อตรวจสอบยงแท่นเครื่องเกียร์แล้วปกติ ก็ให้ข้ามจุดนี้ไป
ขอถามต่ออีกนิด รถคันนี้คุณ ka_kook ใช้งานมาเองงตั้งแต่ป้ายแดงหรือไม่ ถ้าใช่จะถามต่อว่า

- รถคันนี้ไม่ค่อยได้ใช้งานหรือไม่
- รถคันนี้ ขับในเมืองบ่อยหรือไม่
-หรือชอบจอดรถหรือหันพวงมาลัยค้างไว้หรือไม่

ถ้าใช่ กรณีดังกล่าวน่าจะลองเปลี่ยนลูกปืนกากาบาทเพลากลางทั้งหมดดูก่อน ราคาไม่แพงนัก
แต่ถ้าไม่ใช่ในกรณีดังกล่าวเลย กรณีรถคันนี้อยู่สกลนคร ไม่ได้วิ่งในเมืองตลอด ลองหาร้านที่ fLasging น้ำมันเกียร์ออโตได้ ลองเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ออโต T-IV ทั้งระบบ ใช้ประมาณ 2- 3 แกลลอน เอาน้ำมันของเดิมออกให้หมด ดูว่าอาการดีขึ้นหรือไม่
ถ้าอาการดีขึ้นแสดงว่าอาจจะต้องยกเกียร์ลงมาซ่อม เปลี่ยน เซนเซอร์ 16 ตัว ภายในเกียร์ตัวใดตัวนึงเสีย หรือชุดกรองเกียร์เกียร์ออโตหรือชุดคลัทซ์เกียร์ออโตแล้ว

ผมซื้อต่อเขามาอีกทีครับ เจ้าของเดิมใช้ในเมือง เช็คศูนย์ตลอด ผมตรวจสอบกับโตโยต้าแล้วครับ จาก : ka_kook(ka_kook) 3/4/2557 20:25:48 [1.20.206.208] ลูกปืนกากบาทราคาประมาณเท่าไรครับ จาก : ka_kook(ka_kook) 3/4/2557 20:27:07 [1.20.206.208]   แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 14
       Top เอาเฟืองที่บอกว่าเสื้อเล็กนี้ มันใช่ของที่นำมาใช้กับกลุ่ม TOYOTA LN 111 หรือไทเกอร์ตัวแรก ๆ หรือเปล่าครับ เอามาใช้ผิดประเภท
ถ้าใช่แสดงว่าเป็นตามที่ผมบอก เพลาและเฟืองพวกนี้ไม่ทนเท่าของ Vigo Fortuner เป็นจากการ Design ของ LN มาตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะรถมันคนล่ะยุคกัน มันข้ามช่วงเวลาของการเปลี่ยนยุคของรุ่นรถไปแล้ว
ตัวเพลาและเฟืองของ Vigo Fortuner จะออกแบบมาคนละอย่างกัน ต่างตรง sheaving gear ขั้นตอนสุดท้ายของการ Machine เพลาและเฟือง เกียร์ก่อนนำไป Heat treatment องศาและ Dimension จะต่างกันนิดหน่อย รถมันข้ามยุคของช่วงเวลาเดิมไปแล้ว ซึ่งมันจะทนทานกว่ารถรุ่นเดิม ๆ ในอดีต และใช้งานได้ในระยะกิโลเมตรที่ยาวนานกว่า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 15
       iราคากากบาทเพลากลาง เมื่อก่อนรถรุ่นเก่า ๆ นะเคยซื้อนานแล้วตัวล่ะ 250 บาท เดี๋ยวนี้ไม่ทราบว่าราคาเท่าไหร่แล้ว
แต่จาการใช้งานมาแบบที่คุณบอก คือใช้แต่ในเมือง สมควรจับเปลี่ยนเพราะตอนนี้มันเกิดอาการแล้ว น่าจะลองเสี่ยงดูในการเปลี่ยนถึงแม้จะไม่รับประกันว่าหาย แต่เป็นการซ่อมเบื้องต้นตามอาการก่อน

แสดงความคิดเห็นย่อย