คำตอบที่ 1
       เบนซินอยู่ที่ 53.75 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
และดีเซลอยู่ที่ 71.28 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ราคาในบ้านเราต่างกันนิดหน่อยครับ ดีเซลยังสูงกว่าอยู่นิด ๆ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 2
       เบนซินอยู่ที่ 53.75 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
และดีเซลอยู่ที่ 71.28 เหรียญสหรัฐฯ

ราคาในบ้านเราเบนซินถูกกว่านิดหน่อยเท่านั้น

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 3
       ถ้าเทียบอัตราสิ้นเปลืองระหว่างแก๊สกับน้ำมันแล้ว ต้องให้ราคาน้ำมัน(โซฮอล 95)ลดลงมาที่เท่าไหร่ จึงจะมีอัตราสิ้นเปลืองเท่ากับแก๊ส กำหนดให้ราคาแก๊สอยู่ที่ 11.80 บาท รบกวนช่วยคำนวณให้หน่อยครับ

แก๊ส 1 ลิตร วิ่งได้ระยะทาง ?? (ลิตรละ 11.8)
โซฮอล95 1 ลิตร วิ่งได้ระยะทาง ??

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 4
       คุณเอกไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ
เพราะราคาน้ำมันถูกก็จริงแต่เป็นเดี๋ยวเดียว
แบบช่วงมกราปีก่อนที่ลดลงมาที่ 22 บาท จากนั้นก็ดีดตัวกลับไปอีก
เป็นวัฎวักรมานานแล้วครับ
เพราะราคาน้ำมันกับ ทองคำมันเก็งกำไรได้
ช่วงนี้เสรษฐกิจอเมริกากำลังแย่ จีนก็ไม่ได้ใช้น้ำมันมากอย่างที่คาด
ราคาก็เลยดิ่งลงอย่างเดียวเท่านั้นเอง
ถ้าฟื้นตัวเมื่อไหร่ก็กลับมาแพงเหมือนเดิม




เรื่องราคาเดี๋ยวจะคิดให้ ถ้าน้ำมันถูกมาก ๆก็ไปใช้น้ำมัน
พอแพงก็กลับมาใช้แก๊ส แค่นั้นเอง
เพราะเรามีทางเลือกดีกว่าทนใช้น้ำมันอย่างเดียว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 5
       จาก เอกนคร
ถ้าเทียบอัตราสิ้นเปลืองระหว่างแก๊สกับน้ำมันแล้ว ต้องให้ราคาน้ำมัน(โซฮอล 95)ลดลงมาที่เท่าไหร่ จึงจะมีอัตราสิ้นเปลืองเท่ากับแก๊ส


คิดด้านปกติตอนใช้น้ำมันจะสิ้นเปลืองอยู่ราว 8.5-9 km/l ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ตอนนี้ อยู่ที่ 21.29 บาท / ลิตร
คิดเป็นอัตราสิ้นเปลืองประมาณ 2.34-2.48 บาทต่อกิโลเมตร โดยประมาณ


แกสลิตรล่ะ 11.80 บาท คิดอัตราสิ้นเปลืองที่ 6.5-7 km/l
คิดเป็นอัตราสิ้นเปลืองประมาณ 1.69-1.82 บาทต่อกิโลเมตร โดยประมาณ
ซึ่งดูจากตัวเลขนี้การใช้แก๊ส LPG ยังคุ้มค่ากว่าใช้น้ำมัน









แต่ถ้าลองดูราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล 95 ราคาลดต่ำลงมาจะต้องให้ลดลงมาเหลือลิตรล่ะ 14-16 บาท/ ลิตรจึงจะคุ้มค่าให้ได้ความประหยัดใกล้เคียงกัน

วิธีคิด ถ้าราคาน้ำมันอยู่ที่ลิตรล่ะ 15 บาท
ถ้าเราใช้น้ำมันอัตราสิ้นเปลืองแบบประหยัด 8.5-9 km/l
จะมีค่าใช้จ่าย 1.67-1.76 บาท
อัตราค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรที่เท่ากันแบบนี้ สามารถเปลี่ยนจากแก๊สมาเป็นน้ำมันได้เลยครับ คุ้มกว่าใช้แก๊ส
ซึ่งถ้าราคาน้ำมันลงอีกประมาณ 6-7 ครั้ง ครั้งล่ะ 80 สตางค์ก็พอมีหวังครับที่จะได้กลับไปใช้น้ำมันกันอีก






แต่เวลานั้นคงมาถึงยากพอควรเพราะนี่ใกล้ได้เวลายกเลิกน้ำไฟฟรี สรรพสามิตค่าน้ำมันแล้วด้วย

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 6
       ชัดเจนเลยครับ ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 7
       ขุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รอยกเลิกอุ้มดีเซล แล้ววันของเบนซินจะมาถึง

แก๊สโซฮอล 91 26.58
แก๊สโซฮอล 95 27.9
แก๊สโซฮอล E20 25.18
แก๊สโซฮอล E85 22.08
ดีเซล 26.09
เบนซิน 95 34.96
ก๊าซ CNG (NGV) 12.5
ก๊าซ LPG 15


ราคา ณ วันที่ 15 มการาคม 2558

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 8
       ขณะเดียวกัน แก๊สทุกชนิดก็ขึ้นราคามาเยอะทีเดียว ถ้าประเทศเราทำแบบนี้ตั้งแต่แรกไม่มีการชดเชย และไม่เก็บเงินเข้ากองทุน ลดภาษีสรรพสามิตลงไปและไม่มีการอุ้มใคร ปล่อยตามกลไกตลาด
ปั๊มแก๊สทั่วประเทศจะไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน อู่ติดตั้งแก๊สจะไม่ขยายตัวมากมายเช่นวันนี้
รวมถึงพฤติกรรมการเลือกซื้อรถของลูกค้าคนไทยด้วย

ตอนนี้ถ้าเป็นรถเล็ก ๆ หรือขนาดกลางที่มีอัตราการกินน้ำมัน 14-15 km/l ขึ้นไป ก็ไม่มีใครสนับสนุนให้ไปติดแก๊สแล้วล่ะ

การที่ปั๊มแก๊สและอู่ติดแก๊สมันขยายตัวมากในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา นับแต่ปี 2551 เป็นผลมาจากนโยบายด้านพลังงานของไทยเรา ที่มีการเก็บเงินเข้ากองทุน อุ้มดีเซล ชดเชยราคาก๊าซ ขณะเดียวกันก็ปล่อยเพดานให้ราคาเบนซินสูงขึ้นไปแบบไม่มีเหตุผล พอมีการใช้มากขึ้นก็อ้างแก๊ส LPG ต้องนำเข้า เป็นก๊าซที่ไม่ควรนำมาใช้กับรถยนต์ เป็นที่มาของผลพวงทุกวันนี้ วันนี้ทำแบบนี้ปั๊มแก๊สทั่วประเทศแทบจะพินาศลงในอนาคตอันใกล้นี้ เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 9
       น้ำมันตอนนี้น่าจะลงจนสุดแล้วต่อไปคงเป็นขาขึ้นล่าสุดวันนี้ราคาตลาดโลกขึ้นไป 2 เหรียญแล้วแต่ที่บ้านเรายังลงก็เพราะราคาที่ต่างประเทศเป็นราคาซื้อขายล่วงหน้า

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 10
       น้ำมันลงราคาถือเป็นโบนัสแต่มันก็คงลงไม่นาน เพราะกลุ่มโอเปกไม่มีทางให้ราคาน้ำมันถูกแบบนี้ไปตลอด ราคาที่พวกเขาตั้งใจขายอยู่ที่ 100 เหรียญต่อบาเรล สักวันมันก็กลับมาแพงอีก มันคงไม่ตกต่ำนานเกินไปหรอก ซึ่งมันก็เป็นแบบนี้มาตลอด


ตอนผมซื้อฟอร์จูเนอร์ 2.7 เบนซินจำได้ว่าปีนั้นปี 2007 ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 24.xx บาท / ลิตร ส่วนเบนซินโซฮอล อยู่ที่ 24.xx บาท / ลิตร เช่นกัน ตอนนี้เท่ากับว่าเราอุ้มอยู่กับกองทุนน้ำมันทำให้แพงกว่าสมัยก่อนทั้งเบนซินดีเซล

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 11
      

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 12
       ตอนนี้ถ้าหารถเก๋งดี ๆ ใช้งานเอาแบบที่ประหยัดน้ำมันมากไม่เน้นเครื่องใหญ่และรถที่ใหญ่ คือหารถเล็กใช้งาน ประจำวัน
ไม่ต้องติดแก๊สดีกว่า คือสามารถเลือกกลุ่มนี้ได้เลย

ตอนนี้รถ Mazda 2 ดีเซล สกายแอ๊กทีฟคือดาวดวงใหม่ที่เกิดขึ้น เนื่องจากใช้เครื่องดีเซล อัตราการกินน้ำมันตอนนี้ 21 km/l คิดเป็นอัตราสิ้นเปลืองกิโลเมตรล่ะ 1 บาทนิด ๆ ดีกว่าซื้อรถเบนซินมาติดแก๊ส จากการใช้งานจริงของลูกค้าที่เริ่มรีวิวกันออกมาบ้างแล้ว ตอนนี้ลูกค้าบางรายเริ่มรับรถกันแล้วนะครับ
แต่มันเป็นรถที่เหมาะสำหรับขับขี่ให้สนุกมากกว่าเอาไปใช้งานนั่งแบบครอบครัวนะครับ เหมาะนั่งแค่คนขับคนเดียวหรือมีแค่กิ๊กนั่งข้าง ๆ เท่านั้น ถ้าแฟนตัวใหญ่ ๆ นั่งข้าง ๆ อาจไม่ชอบก็ได้ ถ้าซื้อเอาไปขับทำงานในชีวิตประจำวันก็เหมาะ และควรเป็นคนที่มีรถสำรองใช้ไว้งานด้วยเพราะอะไหล่ มาสด้า ไม่มีสต๊อกส่วนมากรออะไหล่ ถ้ารถเกิดอุบัติเหตุจอดแช่อู่ยาวแน่นอน เอาแค่เคลมประกัน 1 แสนโลจะมีอะไหล่หรือเปล่ายังไม่รู้เลย อีกทั้งศูนย์บริการที่ไม่ค่อยตอบสนองเท่าไหร่นัก และค่าอะไหล่มาสด้าค่อนข้างแพง ราคาป้ายแดงตอนนี้แพงมาก ถ้าจะเล่นก็ทำใจตรงนี้



ใครจะนำรถอะไรไปติดแก๊สตอนนี้คิดหนัก ๆ หน่อยครับ ทางที่ดีตอนนี้อย่าไปติดเลยดีกว่า ถ้าเป็นรถที่ประหยัดน้ำมันอยู่แล้ว

แสดงความคิดเห็นย่อย

คำตอบที่ 13
       วันนี้ไปลองขับ Mazda 2 ดีเซล sky active มาแล้ว เงินในกระเป๋าพลุ้งพล่านไปหมด อยากจองจริง ๆ แค่ 3000 บาท ยั่วใจมาก
เรื่องความสวยหรืออื่น ๆ การคมคุมรถ ข้ามไปมันสไตล์มาสด้าเขาอยู่แล้ว
สิ่งที่ประทับใจเลยคือ

ดีเซลรถเก๋งแบบนี้เครื่องยนต์เงียบมาก คนเคยใช้กะบะมาก่อน โดยเฉพาะปิคอัพยุคพระเจ้าเหา ถ้าลองมาขับดีเซลในรถเก๋งแบบนี้ต้องบอกคนล่ะเรื่อง คือมันไม่ต่างจากเบนซินและที่สำคัญการขับขี่สนุกตามสไตล์ Mazda Zoom Zoom และเป็นดีเซลที่ลงกับรถเก๋งขนาดเล็กทำให้การขับขี่ต่างสไตล์ออกไป คือเราต้องแยกออกมาก่อนระหว่างปิคอัพดีเซลกับเก๋งดีเซล ถึงแม้จะเป็นเครื่องดีเซลเหมือนกัน แต่บุคลิกการขับขี่และสไตล์มันต่างกันมาก รถทุกรุ่นจะมี Push start และ Iderl stop เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน Heater ระบบทำความร้อนเครื่องปรับอากาศ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่มีมาให้ทุกรุ่นเช่นกัน


ข้อเสีย
กล่อง ECU วางในแนวนอนด้านหน้าถัดมาด้านข้างกับเครื่อยนต์หน้ามูเลย์สายพาน เข้าใจว่าไม่มีที่ให้วางเพราะเครื่องยนต์แน่นไปหมดภายใต้ฝากระโปรง จึงต้องวางด้วยสภาพบังคับเช่นนี้ ถ้าเกิดอุบัติเหตุชนกันด้านหน้า สงสัยงานจะเข้าแน่ และคันที่ผมทดลองขับระบบ Idle stop ไม่ทำงาน เซลมาบอกว่าต้องลงจูนโปรแกรมก่อน จึงจะใช้ได้ ขับรถแบบนี้ค่าบำรุงรักษามีตามมาแน่นอน น่าจะเยอะประหยัดค่าน้ำมันมาจ่ายค่าซ่อมเทคโนโลยี กลิ่นทะแม่ง ๆ จากสัญชาตญาณการขับรถมันเริ่มเข้ามาล่ะ แล้วรถน่ะฟรีค่าแรงแค่ 3 หมื่นโลเท่านั้น นอกนั้นอีก 7 หมื่นโลเสียเงินเอง ซึ่งรถมาสด้าเป็นรถที่ค่าบริการไม่ถูกแน่นอน ยี่ห้อนี้เชื่อมั่นเลยว่าแพง เซลก็ยิ้มในข้อนี้ เพราะไม่มีอะไรจะปฏิเสธ

คอมเม้นอื่น ๆ
ส่วนคันเร่งไม่ได้ตอบสนองไวนักเข้าใจว่าหน่วงไว้เพื่อความปลอดภัยไม่ให้รถเล็กแบบนี้ขับในเมืองแล้วเกิดความรู้สึกว่าขับยากเกินไป พวงมาลัยก็ไม่ตอบสนองเร็วเกินไปเพื่อให้การควบคุมที่ง่าย สำหรับผู้หญิงและการขับในความเร็วสูง
ส่วนอัตราการกินน้ำมันฟังจากเซลบอก คงประหยัดมากจริง ๆ เพราะเติมน้ำมันครั้งแรกไปไม่เยอะแต่ลูกค้าเวียนกันมาทดลองขับไม่ขาดสาย คนแน่นโชว์รูมจริง ๆ น้ำมันยังเหลืออีกเพียบ ใครอยากได้เก๋งดีเซลเทคโนโลยีแห่งอนาคตไม่ใช่ดีเซลสมัยพระเจ้าเหา หรือดีเซลรถปิคอัพ
ราคาเก๋งดีเซลที่จับต้องได้ ประหยัดน้ำมันเป็นเลิศแต่ค่าบริการจุกจิกและแพง ต้อง Mazda 2 ดีเซลสกายแอคทีฟคันนี้ ใช่เลย

แสดงความคิดเห็นย่อย