จาก Auto IP:61.90.149.126
จันทร์ที่ , 30/6/2551
เวลา : 18:45
อ่านแล้ว = ครั้ง
เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
|
ตลาดก๊าซ "แอลพีจี" ยังปั่นป่วนหนัก! รมว.พลังงาน ประกาศเลื่อนการแยกราคา 2 ตลาด ตามแผนเดิม 1 ก.ค.ออกไป โดยไม่มีกำหนด จนกว่าสถานะการณ์จะนิ่ง ยอมรับ ยังไม่ทราบต้นตอปัญหาที่แท้จริง ขณะที่พาณิชย์ นัดถกผู้ค้ารายใหญ่ พร้อมบี้ ปตท.คายก๊าซให้รายย่อย
วันนี้ (30 มิ.ย.) พล.ท.หญิง พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีข้อสรุปเรื่องการประกาศลอยตัวราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) และยังไม่กำหนดว่าจะปรับขึ้นจากระดับราคาในปัจจุบันเป็นท่าไร และกำหนดให้ปรับขึ้นได้เมื่อใด
ส่วนปัญหาก๊าซแอลพีจีขาดตลาดในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมานั้น รมว.พลังงาน กล่าวว่า ตนเองจะหารือร่วมกับกรมธุรกิจพลังงาน และกรมการค้าภายใน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดมาจากจุดใด
ทั้งนี้ รมว.พลังงานได้เชิญชวนให้ประชาชนหันมาใช้เชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติ(เอ็นจีวี) เนื่องจากมีอัตราการสิ้นเปลืองเฉลี่ยเพียงกิโลเมตรละ 56 สตางค์ ขณะที่การใช้ก๊าซแอลพีจีมีอัตราการสิ้นเปลืองที่กิโลเมตรละ 1 บาทเศษ และถึงแม้ในปีหน้าราคาเอ็นจีวีจะปรับขึ้นไปเป็นกิโลกรัมละ 12 บาท แต่ก็มีอัตราการสิ้นเปลืองเพียงกิโลเมตรละ 86 สตางค์เท่านั้น
ขณะที่ นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่า วันพรุ่งนี้(1 ก.ค.) จะยังไม่มีการปรับราคาก๊าซแอลพีจี แต่จะมีการพิจารณาทบทวนนโยบายลอยตัวราคาก๊าซแอลพีจีตามแผนงานที่กำหนดก่อนหน้านี้ ซึ่งจะกำหนดราคาตามประเภทการใช้งาน ได้แก่ ภาคครัวเรือน และภาคขนส่งและอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานเคยส่งสัญญาณเรื่องการลอยตัวราคาก๊าซแอลพีจีมาตั้งแต่ปลายปี 50 เนื่องจากปริมาณความต้องการใช้มีเพิ่มมากขึ้นจนส่งผลให้กำลังการผลิตในประเทศไม่เพียงพอต่อความต้องการจนต้องนำเข้า ซึ่งภาครัฐต้องแบกรับภาระจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อตรึงราคาไว้ที่ตันละ 300 กว่าเหรียญสหรัฐ ทั้งที่ราคาในตลาดโลกอยู่ที่ 900 เหรียญสหรัฐ
สำหรับปัญหาก๊าซแอลพีจีขาดตลาดในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการขนส่งไม่ใช่การกักตุนเพื่อเก็งกำไร ซึ่งกระทรวงพลังงานได้แก้ปัญหาด้วยการนำสต๊อกก๊าซสำรองออกมาใช้ชั่วคราวเพื่อบรรเทาผลกระทบ ทำให้สถานการณ์ขณะนี้กลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว
"เมื่อคืนวันพฤหัสฯ (26 มิ.ย.) เรือเข้าไปรับก๊าซที่เขาบ่อยาไม่ได้ เรือ 4 ลำก็ราว 2 พันกว่าตัน เนื่องจากท่าเรือซ้อมการป้องกันอุบัติภัย พอประชาชนคิดว่าขาด(ตลาด)ก็ตื่นตระหนกแห่ไปเติมกัน"
สำหรับผลการสำรวจบริเวณสถานีบริการแอลพีจี ย่านจตุจักร พบว่ามีรถแท็กซี่จำนวนมากรอเข้าแถวเพื่อเติมแก๊สแอลพีจี นางสตรีรัตน์ ธรรมอินทร์ เจาของสถานีบริการเอสเอสจี คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ปกติจะมีรถจากบริษัทสยามแก๊ส มาส่งวันละ 2 รอบ แต่ในช่วง 1 - 2 วันนี้ มาส่งเพียงแค่รอบเดียวเท่านั้น ซึ่งได้รับแจ้งว่าบริษัทถูกตัดโควต้าปริมาณแอลพีจี
ด้านนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้หารือร่วมกับกรมธุรกิจพลังงาน ผู้ค้าแก๊สหุงต้ม หรือแอลพีจีรายใหญ่ 3 ราย คือ บริษัท ปตท. บริษัทเวิลด์แก๊ส และบริษัทยูนิแก๊ส ทั้งหมดมีสัดส่วนการตลาดกว่า 70% เป็นการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์แก้ปัญหาการขาดแคลนเชื้อเพลิงชนิดนี้
นายยรรยง กล่าวว่า ปตท.ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ ไม่สามารถจัดสรรเชื้อเพลิงชนิดนี้ให้เพียงพอกับความต้องการได้ เนื่องจากมีสถานีจำหน่ายเพียง 27 แห่งทั่วประเทศ ส่วนผู้ค้ารายย่อยก็ประสบปัญหาการขนส่งทางเรือ จึงเสนอให้ ปตท.เพิ่มปริมาณการจัดสรรแก๊สให้กับผู้ค้ารายย่อย ทั้งนี้ คาดกันว่าภาคอุตสาหกรรม และยานยนต์จะปรับราคาเพิ่มกิโลกรัมละ 2 - 3 บาท ทำให้ราคาจำหน่ายตามปั๊มอยู่ที่ 25 บาท จากปัจจุบัน 10 - 11 บาท
http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9510000076749
|