คำตอบที่ 3
ติดGPS Trackingไว้ด้วยสิครับ ราคามีตั้งแต่8พันกว่าบาท พอๆกับราคากันขโมยบางยี่ห้อ จนถึงราคา2หมื่นกว่าบาท แตกต่างกันตรงที่ความสะดวกในการใช้งาน,รายละเอียดของแผนที่และออฟชั่นที่มีมาให้ใช้
ค่าบริการมีทั้งแบบจ่ายรายเดือน,รายปี หรือไม่ต้องจ่ายเลยก็ได้ แค่เติมเงินเข้าsimโทรศัพท์ไว้ไม่ให้ตัด
เงินทำประกันชั้น1ปีละหมื่น สองหมื่น ยังจ่ายได้ ไม่ต้องไปเพิ่มเบี้ยคุ้มครองรถหาย เอาเงินส่วนนี้มาจ่ายเป็นค่ารายปีGPS Trackingยังอุ่นใจได้มากกว่า ว่าถ้าเกิดหายขึ้นมายังมีโอกาสตามเจอได้ ถ้าไม่โดนขับไปต่างประเทศซะก่อนนะ(ก็จะได้รู้ว่าไม่ต้องตามแล้ว เคลมประกันโลด!!) หรือถ้าโจรนำไปชำแหละแยกชิ้น แล้วเจอกล่องGPSขึ้นมา มีหวังได้อพยพจนรังแตกแน่ๆ เพราะเจ้าของรถรู้แน่นอนว่าตำแหน่งสุดท้ายที่สัญญาณขาดหายอยู่ตรงไหน โจรที่ไหนจะนั่งรอให้ตำรวจมาจับล่ะ
ส่วนเรื่องเอามือถือไว้ในรถเหมือนForward Mail ไม่ต้องไปทำนะครับ เสียเวลาเปล่าๆ กว่าจะได้ข้อมูลจากผู้ให้บริการโทรศัพท์ รถไปอยู่ไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้ ไม่ใช่ว่าโทรถามปุ๊ปแล้วรู้ปั๊ปซักหน่อย อ่อ...แล้วข้อมูลจากสัญญาณโทรศัพท์มันก็บอกได้แค่บริเวณตำแหน่งคร่าวๆ ไม่ได้เป๊ะซักหน่อย รถก็เคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ call centerที่ไหนจะมีเวลามานั่งแจ้งตำแหน่งได้ตลอดเวลา
ผมให้ความสำคัญในการลดความเสี่ยงไว้ตามลำดับดังนี้ครับ (ป้องกัน-ติดตาม-คุ้มครอง)
1. ติดอุปกรณ์"ป้องกัน"การสูญหาย
2. ติดอุปกรณ์"ติดตาม"หากเกิดการสูญหาย
3. ทำประกัน"คุ้มครอง"ในกรณีที่เกิดการสูญหาย
หากเกิดการสูญหายขึ้นมาจริงๆ ประกันคุ้มครองแค่ตัวรถ แต่ไม่ได้คุ้มครองถึงความรู้สึกรวมถึงทรัพย์สินที่มีอยู่ภายในรถที่บางครั้งไม่อาจประเมิณค่าได้
ปล.รถใครเคยหาย หากซื้อรถคันต่อไป มีผลต่อการพิจารณาสินเชื่อด้วยนะครับ
