จาก ฝ่ายข่าว@WeekendHobby.Com IP:61.90.97.4
พุธที่ , 6/8/2557
เวลา : 13:31
อ่านแล้ว = ครั้ง
เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
|
16-18 กพ. 44 พาเที่ยวสะเดิ่ง-ทิไล่ป้า
สวัสดีเพื่อนๆชาวออฟโรดทุกท่าน ทริปนี้ได้ช่างถ่ายภาพ คือคุณนพและคุณเจี๊ยบ ช่วยส่งภาพทั้งหมดมาให้ บางภาพตัดจากวีดีโอ จึงทำให้สีและรายละเอียดของภาพ ไม่ดีเท่าที่ควรครับ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ไปชมภาพกันเลยครับ มีทั้งหมด 133 ภาพครับ
กลับมากันแล้วกับ ทริปบ้านทิไล่ป้า งานนี้มีลุ้นนายหนอนชิงรางวัลตุ๊กตาทอง ส่วนขนมิ้ง ชิงรางวัลผกก.คิวบู๊ยอดเยี่ยม เรื่องจะเป็นอย่างไรเรามาติดตามกันเลยนะครับ เรานัดกันไว้ว่าจะพบกันก่อนที่กรุงเทพฯ 5 คัน ที่ปั๊มJET ถนนเพชรเกษมแล้วไปเจอกันอีก 4 คันที่กาญจนบุรี ที่จุดนัดพบที่กรุงเทพฯ คุณณรงค์กับคุณรศ มาเป็นคันแรกกับรถคู่ใจมิตซูบิชิปาเจโร่ 3 ประตู พร้อมกับเจ้าน้ำตาล พันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (หมาออฟโรด) ตามมาด้วย นายหนอน /ขนแมว /ขนมิ้ง และคุณนพ เป็นคันสุดท้าย ออกจากปั๊มเวลาสองทุ่ม เดินทางไปเกือบถึงกาญจนบุรี ได้แวะสอบถามเส้นทางกับกลุ่มออฟโรดของเมืองกาญฯ เพราะได้ข่าวมาว่ามี การปิดด่านไม่ให้นักท่องเที่ยว เข้าไปยังสะเดิง-บ้านทิไล่ป้า เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม พี่เล็ก หนึ่งในกลุ่มออฟโรดเมืองกาญฯ เล่าว่าเมื่อวันเด็ก ที่ผ่านมาได้เข้าไป เพื่อที่จะนำ ของไปแจกเด็กๆ แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาติให้เข้า เมื่อได้ข้อมูลเรียบร้อย จึงเดินทางต่อถึงที่นัดหมาย ร้านข้าวสวยในตัวเมืองกาญฯ เมื่อมาถึงจุดนัดหมายที่ 2 เราก็พบกับคุณโกกุยมากับน้องเขย (หน้าอ่อน) ขับจี๊ป 4 ลิตรมาจอดรอ พร้อมกับริชาร์ด(ชาวอังกฤษ) นั่งรอพร้อมกับคุณเต้ย(ภรรยา) ขับไทเกอร์คู่ใจอุปกรกู้ภัยครบครัน รออยู่ก่อนแล้วที่ร้านโกกุย แอบกระซิบกระซาบว่ามารอ กับริชาร์ดเห็นรถริชาร์ดแล้วกลับไปมองดูรถตัวเองแล้วใจแป้ว เพราะรถริชาร์ด ดูแข็งแรงเหลือเกิน กลัวตัวเอง จะเป็นพระเอกในงานนี้ พอเห็นคันอื่นๆ ตามมาค่อยใจชื้นหน่อย โดยเฉพาะรถของคุณนพ นอกจาก จะเตี้ยที่สุดแล้วยางยังเป็นแบบ AT ด้วย อีกซักพัก กระสุน กับ ฉลามขาวก็ตามมาสมทบ เมื่อครบทุกคันแล้ว จึงหารือเพื่อและได้ข้อสรุปว่า เรจะลองเข้าไปก่อน ถ้าเข้าไม่ได้ค่อยว่ากันอีกทีโดยมีแผนสำรอง ไว้ที่น้ำตกผาสวรรค์ หลังจาก ได้ข้อสรุปก็ได้ฤกษ์เดินทางต่อ โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 323 จุดหมายอยู่ที่โรงแรมบ้านชายแดนก่อนถึงทางแยกเข้าทองผาภูมิ เป็นบังกาโล ราคา 400 บาท/คืน ที่พักสะดวกสบาย มีที่จอดรถ ถึงที่พักประมาณเที่ยงคืน ต่างคนต่างแยกย้ายเข้าพักผ่อน เอาแรงเพื่อเตรียมพร้อม สำหรับวันรุ่งขึ้น
รุ่งขึ้นแปดโมงเช้า กลุ่มเราก็ฝากท้องไว้กับร้านข้าวแกงรสเด็ด อยู่ติดถนน ก่อนทางเลี้ยวซ้าย ไปที่พัก ร้านนี้อร่อยเด็ดถึงเครื่องจริง ๆ ระดับฉลามขาว กุ๊กใหญ่ของเรายังชมเปาะคนเดียวฟาดไปสามจานรวด โดยเฉพาะผัดพริกหน่อไม้ กับแกงเขียวหวาน ส่วนโกกุยเจอดีต้องไปปะยางแต่เช้า เพราะยางโดนตะปูรั่ว ได้ข่าวว่าจะขายยางสี่เส้นนี้อยู่รอมร่อราคาเลยตกไปในพริบตา เมื่อครบขบวนแล้ว ก็ออกเดินทางแวะตลาดซื้อของเล็กน้อย ก็มุ่งหน้าสู่เส้นทางอำเภอ สังขละบุรีทันที
จากเส้นทางไปอำเภอสังขละบุรี จนถึงทางแยกเข้าบ้านทิไล่ป้า ตลอดเส้นทาง มีทั้งทางโค้งหักศอก และทางราบต้องระวังพอสมควร ส่วนบรรยากาศ ริมข้างทาง เป็นลำน้ำเขื่อนเขาแหลม มีแพชาวบ้านและ แพท่องเที่ยวสลับกับวิวภูเขา ทำให้ขับรถ ไม่เครียดนัก คณะของเราวิ่งลัดเลาะมาเขื่อนเขาแหลม มาจนถึงปากทางทิไล่ป้า จำต้องเลี้ยวขวาเข้าไป (ทางไปทุ่งใหญ่นเรศวร) ขบวนของเราใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อถึงทางแยกเข้าทิไล่ป้า ทางช่วงต้นเป็นทางผ่านหมู่บ้านเล็ก ๆ เป็นทางลูกรังอัดแน่น ค่อนข้างสบาย เมื่อพ้นจากหมู่บ้านก็เลี้ยวซ้าย เส้นทางเริ่มขรุขระมากขึ้น ต้นไม้เริ่ม หนาแน่นเหมือนเป็นสัญญาณเตือนให้พวกเราพร้อมลุยได้แล้ว
เริ่มเข้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าพวกเราให้รถริชาร์ดนำขบวน เพราะเป็นรถที่มีสัมถนะสูงที่สุด (ถ้าริชาร์ดไปไม่ได้ พวกเราก็กลับกันเถอะ เป็นคำพูดอยู่ตลอดทริปการเดินทาง) เส้นทางเป็นดินลูกรังปนทราย มีหินกรวดทั้งใหญ่เล็กสลับกันไป บางช่วงเป็นร่องลึก ต้องดูไลน์กันพอสมควร แต่ก็มีทางราบ สลับอยู่บ้างทำให้พอทำความเร็วได้ ข้ามห้วยแรกไม่ลึกมากประมาณครึ่งล้อ วิ่งมาเรื่อย ๆ จนถึงด่านตรวจการลักลอบล่าสัตว์ป่า หน่วยพิทักษ์ป่าสะเนพ่อง (ตรงนี้ต้องลงเซ็นต์ ชื่อกันหน่อยนะจ๊ะ เจ้าหน้าที่จะปล่อยรถเข้าทีละ 3 คัน ทุก 10 นาที เพื่อป้องกันสัตว์ตื่น และ ง่ายต่อการสันจรของชาวบ้าน) พ้นจากด่านไปเส้นทาง เริ่มยากขึ้น ป่าเริ่มทึบขึ้น ห้วยสอง ที่เจอดูเหมือนเป็นหลุมโคลนมากกว่าห้วย ทางลง มีหลุมซ้ายค่อนลึกแต่ก็ผ่านได้ด้วยดี แต่ก็เล่นเอาล้อหลังชี้ฟ้ากันทุกคันนะ ผ่านห้วยที่สาม จะมีขอนไม้ใหญ่ ขวางก่อนทาง ลงห้วยและ มีหินก้อนใหญ่อยู่ด้านซ้ายต้องลงไปดูไลน์ ต้องใช้วิธีหยอดกันพอสมควร แต่ก็ผ่านไปได้ทุกคัน หลังจากนั้นมีการข้าม ห้วยอีกหลายต่อ หลายห้วย มีบางห้วยที่เป็นร่องน้ำลึก แต่ก็ใช้วิธีเลี่ยง เส้นทางรถไปยังด้านน้ำตื้นทำให้ไม่จมเพราะมีรถบางคันไม่ได้ติดสน็อกเกิ้ล อาจจะดับกลางน้ำได้ เส้นทางขับรถไม่ยากไม่ง่ายเกินไปสนุกสนานพอสมควรมีการดูไลน์เป็นระยะ ๆ
เวลาล่วงเลยไปเที่ยงกว่า ยังไม่ถึงด่านเกาะสะเดิ่ง จึงตัดสินใจแวะตั้งวงกินข้าวกลางวันกันริมลำธาร น้ำใส ไหลเอื่อย ๆ เย็นสบาย เจ้าน้ำตาล ก็ได้ออกมาวิ่งเล่นทานข้าวกลางวันกับเขาด้วย กินอิ่มก็เดินหน้ากันต่อไป มีเส้นขับลุยผ่านตามห้วยน้ำเป็นระยะทางประมาณ 300 เมตร สวยน่าดู เลยตั้งรถเรียงแถวถ่ายรูปมาอวดกัน งานนี้เต้ย (แฟนริชาร์ด) รับหน้าที่เป็นตากล้อง กับ เนว์ฯ ท่าทางทะมัดทะแมง น่าอิจฉาริชาร์ดจริง ๆ พ้นห้วยนี้จะเป็นทางชันขึ้นเขาเป็นส่วนมากมีร่องลึกบ้าง เป็นหินบ้าง
ถึงหน่วยพิทักษ์ป่าเกาะสะเดิ่ง มีที่กางเตนท์ บรรยากาศร่มรื่น ผีเสื้อบินว่อนเป็นฝูง มีกลุ่มออฟโรดกางเต๊นท์อยู่แล้ว 3-4 หลัง ทั้งหมดเป็นรถกระบะไทเกอร์(ใส่เสื้อด้วย) ขนแมวสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ความว่าจะไปบ้านทิไล่ป้าต้องใช้ระยะทางถึง 30 กิโลเมตร
ก็เลยให้ตัดสินใจกันว่าจะไปต่อหรือไม่เพราะห่วงคุณเจี๊ยบที่กำลังท้อง 4 เดือน แต่คุณเจี๊ยบบอกว่าไม่มีปัญหา พร้อมกับเสียง ส่วนใหญ่เห็นว่าน่าจะไปกันต่อเพราะเป้าหมายเราคือบ้านทิไล่ป้า ซึ่งเป็นเขตชายแดนติดกับประเทศพม่า เดินทางกันต่อไปเรื่อย ๆ เส้นทางยากบ้างง่ายบ้างสลับกันไป จะมีทางร่องน้ำเก่าลึกบ้างพอสมควร ถ้ารถเดิม ๆ ไม่ได้มีการยกสูงเลยอาจติดได้ในบางจุด บางช่วงมีต้นไม้ล้มขวางทางให้รถลอดผ่าน ให้เสียวเล่นๆ บางคันผ่านไม่ได้สูงไปต้องใช้ทางเบี่ยงด้านข้าง รอบ ๆ เส้นทางเป็นป่าทึบร่มรื่น ช่วงนี้ได้ขัดสมุนไพรกันพอสมควร
ขับรถเส้นทางลุยกันนานติดต่อหลายชั่วโมงก็เมื่อยล้าเต็มที เมื่อถึงที่ขนแมวก็ร้องเสียงหลงดีใจ ต่างคนต่างสำรวจสถานที่ พบมีลำธารใสแจ๋วอยู่ด้านล่างบรรยากาศเยี่ยม กะว่าจะกางเต๊นท์ตั้งแคมป์ใกล้ลำธาร แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าจุดนี้เป็นเขตแดนพม่าแล้วกางไม่ได้ ไม่บอกไม่รู้หลงเดินเล่นต่างประเทศตั้งนาน แถมเจ้าหน้าที่ยังหยอดข่าวเพิ่มอีกว่าจะมีทหารพม่ามาขึ้นฝั่งในวันสองวันนี้ ฟังแล้วชักเสียว ด้วยยังมีความกลัวตายและห่วงเรื่องความปลอดภัยของผู้ร่วมขบวน จึงตัดสินใจกางเตนท์ตั้งแคมป์หน้าศูนย์เสียเลย เขตไทยแน่นอน (ห่างจากเขตพม่า 300 เมตร ไกลจริงๆ) ที่สำคัญมีห้องน้ำที่เจ้าหน้าที่ผู้ใจดีให้ยืมใช้ถึง 2 ห้อง แต่ยังไม่วายกลัวโดนพม่าบุก เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่เคยมีใครมาตั้งแค้มปตรงนี้เลย เราเป็นกลุ่มแรก เพราะปรกติจะไปตั้งแค้มที่โรงเรียนซึ่งอยู่ก่อนประมาณ 800 เมตร
ถึงเวลาเย็น ก็ได้เวลามาล้อมวงทานข้าวเย็นร่วมกัน งานนี้ขาดพี่นิด กับฉลามขาวไม่ได้ เด็ดขาด เพราะเป็นพ่อครัวและแม่ครัวคนสำคัญ อาหารอุดมสมบูรณ์จริง ๆ มีหมูกระทะ น้ำจิ้มสูตรเด็ดเหมือนเดิม 3 กะทะใหญ่ อย่าลืมยำไข่เค็มของคุณกุ้งด้วยหล่ะ เห็นแอบบ่นคนเดียวว่าทำไมขมจังยำไข่เค็มสูตรไหนเนี๊ย ส่วนคุณณรงค์กับ แฟนหลังจากกางเตนท์เสร็จ ก็เอาอาหารให้เจ้าน้ำตาล ดูมันระริกระรี้ดีอกดีใจที่ได้มาเที่ยว เล่นแต่กับสาว ๆ ทำเสื้อขาดเป็นรู ๆ และขาดไม่ได้งานนี้ มือกีตาร์พี่นก เริ่มต้นด้วยเพลงมิดะ ฟังเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ กล่อมเจ้าน้ำตาลจนนิ่ง พร้อมกับนิทานขำขันเรื่องเห็บ 2 ตัว จากโกกุย มาเป็นระยะ ๆ เห็นนิ่ง ๆ ไม่นึกเลยโกกุย...... ว่าจะให้ฉายาใหม่ว่า โกกุยเห็บ 2 ตัว นะครับ ใครอยากฟังติดต่อ โกกุยไปร่วมทริปได้ ในที่สุดงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ประมาณเที่ยงคืนกว่าแยกย้ายกันไปนอน บางคนตื่นเช้ามายัง ไม่รู้ตัวเลยว่าเดินกลับมานอนเอง หรือถูกหามมา
เช้าวันกลับ ช่วงเช้าอากาศเย็นสบาย วัดอุณหภูมิได้ 14 องศา มีเสียงไก่ป่าขัน เสียงนกร้อง แบบแปลก ๆ ตอนเช้าไปเก็บรูปริมลำธารเจอนกเจ้าฟ้าสิรินธรสวยมากแต่ไม่ได้เก็บรูปไว้ เดินกลับมาได้กลิ่นกาแฟหอมฟุ้ง เลยทานอาหารเช้า
มีทั้งแซนด์วิช น้ำส้มสูตรเดียวกับของสายการบินไทย ข้าวต้มเครื่อง กุ๊กใหญ่ฉลามขาวอีกแล้ว โฮะ โฮะ ฟังแล้วไม่เหมือนมาออฟโรด สาบานได้มีอย่างนี้จริง ๆ เก็บของเสร็จก็แว่บไปอาบน้ำอาบท่าริมลำธาร มีเสียงน้ำตกเล็กๆ ซู่ซ่า อาบแล้ว เย็นตัว สบายตัวสดชื่นจริง ๆ เตรียมพร้อมลุยทางขาออกอีกที
เส้นทางขาออกใช้เส้นทางเดิมแต่ไม่ธรรมดา อย่างที่บอกนายหนอนได้เป็นพระเอกก็เส้นทางนี้แหละ มีจุดหนึ่งเป็นทางชันขึ้นเขา ด้านขวาเป็นหินระเกะระกะก้อนใหญ่ ด้านซ้ายเป็นเหว มีหินใหญ่ขวางอยู่เหมือนกันเรียกว่า มีทั้งทางซ้ายทางขวา จุดนี้ตอนขาเข้าขนมื้งขับลงไปได้แต่พลาด ด้านท้ายกระแทกกับหินเสียงดังอย่างแรง แต่ก็ไม่มีปัญหาส่วนขากลับต้องปีนหินขึ้นไปด้านซ้าย แล้วต้องหักกลับหลบหินมาด้านขวาทันที ทุกคนขึ้นไปได้ ยกเว้นคันของคุณนพ ติดล้อหมุนฟรีไม่สามารถ ข้ามมาเนื่องจากเป็นยางธรรมดา จะถอยก็ไม่ได้แล้ว เพราะข้างล่างเป็นเหว โชคดีที่ตามหลังโกกุยมีวินซ์ ต้องใช้วินซ์ลากจึงจะขึ้นมาได้ โกกุยขอบอก ขอบใจใหญ่ว่าได้ใช้วินซ์ซะที ผ่านจากจุดนี้ไป ก็เป็นเส้นทางขึ้นเขาลงห้วยแบบเดิม ๆ จนมาถึงด่านพิทักษ์เกาะสะเดิ่ง จึงตั้งวงทานอาหารกัน มีการจัดขบวนกันใหม่ ริชาร์ดนำขบวน คุณนพเป็นคนสุดท้ายตามหลังนายหนอน
ออกจากด่านพิทักษ์เกาะสะเดิ่ง ประมาณ 5 โมงเย็น อากาศเริ่มมืดลงและเย็นลงทุกที ก็มาเจอบ่อโคลน ขนมิ้ง ผ่านไปได้คราวนี้นายหนอนติดหล่มขวาขึ้นไม่ได้ ชันและลื่นโคลน ต้องใช้วินซ์ต่อกับรถ ขนมิ้งดึงขึ้นไปอีกที ส่วนคุณนพก็ติดเหมือนกันต้องให้นายหนอนลากขึ้นอีกที งานนี้ไม่ได้วินซ ์กับขนมิ้ง สงสัยได้นอนกลางป่ากินข้าวลิงแน่นอน (บอกคุณเจี๊ยบแล้วว่า อย่าซื้อกล้วย เข้าป่าไม่เชื่อ) ขับตามกันมาเรื่อยๆ เริ่มติดต่อกับขบวนข้างหน้าได้ ปรากฏว่ายังรอ พวกเรา อยู่ที่ร้านอาหารชนบทเวลาขณะนั้นประมาณสามทุ่มกว่า นี่แหละทริปนี้ไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว เมื่อครบรถครบขบวนก็ถึงเวลาล่ำลาต้องแยกย้ายกันไปตามทาง ประทับใจ มากกับ ทริปนี้แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้า
..สำหรับทริปนี้สวัสดีค่ะ
รายงานโดย เจี๊ยบ...และลูก
|