จาก met ประจวบฯ ออฟโรดคลับ IP:125.27.244.107
ศุกร์ที่ , 29/4/2554
เวลา : 22:42
อ่านแล้ว = ครั้ง
เก็บเข้ากระทู้ส่วนตัว
แจ้งลบ
ส่งหาเพื่อน
|
หากย้อนไปในอดีต จะเห็นว่าธรรมชาติได้จัดวงจรชีวิตบนโลกไว้อย่างมีระบบ มีความสมดุล และโลกได้อาศัยความสมดุลของธรรมชาติเป็นภูมิคุ้มกัน รักษาและบำบัดตัวเอง จากอดีตถึงปัจจุบัน โลกของเราได้เสียความสมดุลของธรรมชาติไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยรักษาความสมดุลของโลกใบนี้
แม้ปัจจุบันสัดส่วนการตัดไม้ทำลายป่าเริ่มลดลง และมีการปลูกใหม่ทดแทนเพิ่มขึ้น แต่หากมองดูภาพรวมปัจจุบัน โลกมีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่เพียง 31 % ของพื้นดิน ยิ่งไปกว่านั้นพัฒนาการด้านเทคโนโลยี ที่ถูกคิดค้นและประดิษฐ์ เพื่อสนองความต้องการของมนุษย์ ได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว จากกระบวนการผลิต และการใช้เทคโนโลยี ได้ทำให้เกิดการปล่อยมลภาวะต่างๆ ออกมาสู่ชั้นบรรยากาศโลกมากมาย และที่ร้ายที่สุดคือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาโลกร้อน ในปัจจุบัน
การรณรงค์เพื่อลดโลกร้อน ด้วยการลดใช้พลังงานในทุกรูปแบบ การปลูกต้นไม้ ปลูกป่าชายเลน สร้างฝายชะลอน้ำ และอีกหลากหลายวิธี ล้วนเป็นหนทางของการแก้ไขปัญหาโลกร้อนร่วมกันของมนุษย์ ซึ่งจากรายงานของ ไอพีซีซี ระบุว่าปัญหาภาวะโลกร้อนนั้น เกิดจากฝีมือ มนุษย์ ไม่น้อยกว่า 90%
ความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ เห็นได้จากภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกอยู่ในขณะนี้ เป็นสิ่งชี้ชัดว่าโลกกำลังเจ็บป่วย สิ่งเดียวที่จะช่วยรักษาโลกได้ คือ มนุษย์ ฉะนั้นเราจำเป็นต้องช่วยกันฟื้นฟูบำบัดธรรมชาติ เพื่อฟื้นคืนความสมดุลให้กับโลก
การปลูกฝังเยาวชนให้เกิดจิตสำนึก และให้เห็นความสำคัญของธรรมชาติ นอกเหนือจากการเรียนรู้ในห้องเรียนแต่ละโรงเรียนแล้ว จำเป็นต้องให้เยาวชนได้เรียนรู้จากห้องเรียนธรรมชาติด้วย เพื่อการลงมือปฏิบัติจริง ได้ศึกษาระบบนิเวศ จากสภาพแวดล้อมจริง ทั้งยังควรผลักดันให้เกิดการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและตลอดไป
บริษัทสยามไวเนอรี่ เทรดดิ้งพลัส จำกัด ได้มีส่วนในการผลักดันและส่งเสริม ให้เยาวชน และประชาชนทั่วไป เห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด จากโครงการ จากป่าใหญ่สู่ชายเลน เมื่อช่วงปลายปี 2553 ถึงโครงการค่ายเยาวชน ปลูกฝังคนรุ่นใหม่หัวใจอนุรักษ์ เมื่อวันที่ 22-24 เมษายน 2554 ซึ่งโครงการดังกล่าวได้เกิดขึ้นจากแนวคิดของ คุณชยพล ศรศิลป์ ผู้รับผิดชอบ ส่วนงานกิจกรรมรับผิดชอบต่อสังคม บริษัทสยามไวเนอรี่ เทรดดิ้งพลัส จำกัด และยังเป็นส่วนหนึ่งของชมรมประจวบออฟโรดคลับ ในฐานะที่ปรึกษาชมรมฯ โดยได้ประสานงานขอความร่วมมือจากอุทยานแห่งชาติกุยบุรี และอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด เพื่อขอใช้เป็นสถานที่ในการฝึกอบรมมครั้งนี้
โครงการค่ายเยาวชน ปลูกฝังคนรุ่นใหม่หัวใจอนุรักษ์ หนึ่งในโครงการของบริษัท สยามไวเนอรี่ เทรดดิ้งพลัส จำกัด จัดขึ้นเพื่อที่จะปลูกฝังความรู้ แก่เยาวชนรุ่นใหม่เพื่อรณรงค์ปลูกจิตสำนึก ให้เยาวชนเกิดความตระหนักและการใส่ใจในการดำเนินชีวิตที่กระทบหรือรบกวนสิ่งแวดล้อมอย่างเกินพอดี ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน พร้อมช่วยกันคิดหาวิธีการที่จะช่วยบรรเทาผลที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งขยายการสร้างจิตสำนึกและรณรงค์ให้คนในชุมชนได้ตระหนักถึงอีกด้วย โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
1. เพื่อรณรงค์ให้เยาวชน โรงเรียน และชุมชนตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาภาวะโลกร้อนใน ปัจจุบัน
2. เพื่อปลูกจิตสำนึกให้เยาวชน โรงเรียน และชุมชนมีความรู้ความเข้าใจต่อการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติ 3. เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนและชุมชน ในการร่วมมือกันดำเนินกิจกรรม อันจะนำไปสู่
การช่วยแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนได้อย่างยั่งยืน
4. เพื่อให้เยาวชนใช้เวลาว่างในวันหยุดให้มีคุณค่าต่อชุมชนและสังคม.
มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 7 โรงเรียน จาก 4 ภาค ดังนี้
1. กลุ่มรักพ่อแม่ ต.บางม่วง อ.เมือง จ.นครสวรรค์
2. โรงเรียน:บ้านโอทะลัน อ.จรัส จ.สุรินทร์
3. โรงเรียน:บ้านคอกช้างพัฒนา ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
4. โรงเรียน:สมถวิล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
5. โรงเรียน:กิตติคุณ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
6. โรงเรียนบ้านรวมไทย อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
7. กลุ่มโรงเรียนเครือข่ายรักนกเงือกเทือกเขาบูโด จ.นราธิวาส
มีนักเรียนพร้อมคณะครูผู้ควบคุมดูแล และอาสาสมัคร เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ จำนวน 120 คน
ในระหว่างการจัดกิจกรรม นักเรียนได้รับความรู้เรื่องสภาวะโลกร้อน รวมถึงวิธีการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ได้เรียนรู้ระบบนิเวศของป่ากุยบุรี และระบบนิเวศป่าชายเลน ในพื้นที่เขาสามร้อยยอด ที่ล้วนแต่มีความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น ซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากวิทยากรของอุทยานแห่งชาติทั้งสองแห่ง และยังได้รับความรู้เรื่องการอนุรักษ์นกเงือก จากกลุ่มเครือข่ายรักนกเงือกเทือกเขาบูโด จากนั้นทุกคนได้ช่วยกันสร้างฝายชะลอน้ำ ปลูกป่าชายเลน ร่วมกิจกรรมส่องนก และเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ในยามค่ำคืนมีการละเล่น และการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านของแต่ละโรงเรียน สร้างความสนุกสนานและประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมโครงการอย่างไม่รู้ลืม
ความรู้ที่ได้รับจากวิทยากร และประสบการณ์ ที่ได้จากห้องเรียนธรรมชาติ ได้ช่วยกระตุ้นจิตสำนึกความรู้สึกรักหวงแหนธรรมชาติ รวมถึงช่วยกระตุ้นการสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น
ช่วงเวลา 3 วัน 2 คืน ของการเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ ทำให้นักเรียนทั้ง 4 ภาค 7 โรงเรียนเกิดความผูกพัน ฉันท์พี่น้องคนไทย สายเลือดไทย แม้บางโรงเรียนอยู่ห่างกันเกือบ 1,700 ก.ม. และด้วยภาษาที่แตกต่างอาจทำให้เกิดปัญหาในการสื่อสารบ้างในช่วงวันแรกๆ แต่ไม่ใช่ปัญหาเลยในช่วงวันท้ายๆ กลับคุยแทบจะไม่หยุดปาก
สุดท้าย งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ต่างคน ต่างเก็บภาพความทรงจำที่ดี กลับไปยังถิ่นฐานบ้านตน และนำความรู้ที่ได้รับทั้งหมดกลับไปถ่ายทอดให้เพื่อนๆ ในโรงเรียนได้รับรู้ และเชิญชวนทุกๆ คนให้ช่วยกันรักษาโลกของเราให้น่าอยู่ต่อไป
พบกันใหม่ ในโครงการค่ายเยาวชน ปลูกฝังคนรุ่นใหม่หัวใจอนุรักษ์ รุ่นที่ 2 นะครับ
.............ส่วนงานกิจกรรมรับผิดชอบต่อสังคม บ.สยามไวเนอรี่ เทรดดิ้งพลัส จำกัด , กลุ่มสื่อเสียงสร้างสรรค์ , ฝ่ายประชาสัมพันธ์และประสานงานชมรมประจวบออฟโรดคลับ.....
แก้ไขเมื่อ : 29/4/2554 23:23:03
|