คำตอบที่ 8
.....มุ่งหน้าไปตามเส้นทางเรื่อยๆ จากหมู่บ้านแม่หอย ข้างทางดูเปล่าเปลี่ยว มุ่งสู่หมู่บ้านแม่ซาระยะทาง 7 กิโลเมตร ถึงแม้เส้นทางจะลำบาก แต่ชาวบ้านที่นี่ก็ไม่ได้ยากจนอย่างที่เราคิด พวกเขามีบ้านไม้ หลังคามุงกระเบื้อง มีรถยนต์ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง แทบจะทุกบ้านมีไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar cell) มีจานรับสัญญาณโทรทัศน์
.... ผ่านหมู่บ้านแม่ซา 18 กิโลเมตร จะพบทางแยก ซ้ายมือ ไปโรงเรียนบ้านห้วยผา (17 กม.) , โรงเรียนบ้านขุนแม่รวม แยกขวามือไปโรงเรียนบ้านขุนแม่รวม (16 กม.) เป็นทางแยกที่ไม่ได้ระบุในแผนการเดินทางเลย??? ทำอย่างไรดีหนอ?? .......
.....ตัดสินใจ "ไปทางขวาก่อน ถ้าผิดทางค่อยกลับทางเดิมมาตั้งต้นใหม่" คิดในใจอย่างงี้ ..... ว่าแล้วก็หักพวงมาลัยเลี้ยวไปตามทางแยกขวามือ ผ่านทุ่งนา..... ของชาวบ้านแถบนั้นได้สักพัก พบกับสายน้ำใสจนมองเห็นผืนทราย เห็นก้อนหินที่อยู่ในนั้น สายธารที่มีต้นกำเนิดจากขุนเขาใหญ่ สายน้ำที่เปรียบเสมือนแม่ คอยหล่อเลี้ยงผู้คนหลายเผ่าพันธุ์ ชื่อของเธอคือ "แม่แจ่ม" ถนนลูกรังตัดขึ้นสู่ยอดเขาสูงชันอีกครั้ง ถนนที่เคียงคู่ไปกับ "แม่แจ่ม" ..... ตะวันบ่ายคล้อย กับเส้นทางที่ยังไปไม่ถึง ..... จุดหมายปลายทางข้างหน้าคือที่ใดกันเล่า ...... ใครจะหยั่งรู้ได้.... เส้นทางบนดอยสูงชันมองลงมาเห็น ธารน้ำใสอยู่เบื้องล่าง .... ป่าแถบนี้ดูมีชีวิตชีวากว่าที่ผ่านมามากนัก ต้นไม้เขียวขจี ดอกไม้ป่าบางชนิด ออกดอกสีสดสวยอวดความงามตามฤดูกาล บางครั้งถนนตัดสู่ยอดดอยสูงจนไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องล่าง ทิวเขาและพุ่มไม้บดบังสายธารจนมองไม่เห็น เส้นทางแคบลง และอันตรายมากขึ้น ครั้นขับรถลงมาตามถนน ก็จะพบกับลำน้ำแม่แจ่มให้ฉ่ำชื่นหัวใจ มีข้ามสะพานหลายครั้ง จนจำไม่ได้ แต่เส้นทางข้างหน้ายังยาวไกล...... เริ่มเห็นชาวบ้านออกหาปลาบ้าง.... คงใกล้ถึงหมู่บ้านแล้ว.....ในใจหวังไว้เพราะตะวันเริ่มอ่อนแสงแล้วยังไปไม่ถึงไหนเลย....
..... จากทางแยก 16 กิโลเมตร มาถึงหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยง เส้นทางที่ยากลำบาก ไม่ได้ทำให้ชาวบ้านแถบนี้ด้อยโอกาสอย่างที่เราคิดไว้ บ้านก็ยังเป็นบ้านไม้หลังคากระเบื้อง ชาวบ้านมีรถยนต์ใช้ และเช่นกันกับหมู่บ้านที่ผ่านๆ มาคือมีไฟฟ้าใช้ สอบถามจากชาวบ้านทราบมาว่าชื่อ "หมู่บ้านสบแม่รวมใต้" หากเดินทางต่อไป จะเป็นหมู่บ้านสบแม่รวมเหนือ เส้นทางยากกว่าที่ผ่านมา ....
.....ขับรถต่อไปจากหมู่บ้านได้สักนิดก็พบกับสายธารที่ทอดขวางอยู่ สายน้ำแม่แจ่มไม่ได้ลึกอย่างที่คิด พอที่จะขับรถข้ามไปอย่างสบายๆ แต่พอมองเห็นหนทางข้างหน้าไต่ขึ้นตามไหล่เขา ไม่สามารถหยั่งรู้อนาคตของตนเองได้ แสงตะวันเริ่มอ่อนลง ใจคนก็อ่อนตาม ด้วยหนทางที่ไม่ได้มีในแผนการเดินทาง ความลังเลจึงบังเกิดขึ้นในจิตใจ ด้วยหนทางที่ผ่านมาข้ามสะพานมาตลอด มาครั้งนี้ต้องลุยข้ามลำน้ำไป ...
....ขับรถย้อนไปย้อนมาอยู่สองสามครั้งแล้วมาหยูดนิ่งอยู่ข้ามลำธารนั้น จะทำอย่างไรดี??? ในใจเริ่มครุ่นคิด "ทางข้างหน้าไปไหน ?? จะถึงเมื่อไหร่??"