WeekendHobby.com


เรื่อง"ทริปความทรงจำแห่งวังมะนาว" ชาว22นอ.
p_nimsiri
จาก สมาชิก 110
เสาร์ที่ , 26/11/2548
เวลา : 16:21

อ่าน = 1065
203.156.73.4
       4.00 น. “ติ๊ด...ตี๊ด” เสียงนาฬิกาปลุกเตือนว่าได้เวลาเดินทางสู่ วังมะนาวแล้วนะ สมาชิกทางกทม.นัดเจอกันที่ปั้มเจท ข้างม.กรุงเทพ ทางด้านพี่วิจัยและพี่แป๋งก็ออกทางกบินทร์ ป๋าช๊วนก็นำหน้าไปรอที่ปั้ม ปตท. เลยสระบุรีไปนิดหน่อย เสียงยางสแวมเปอร์ใหม่ของพี่นวย 024 ดังลั่นถนน มาถึงปั้มเจ็ทก็หลายคันแล้วสมาชิกที่ร่วมเดินทางก็มี 001 พี่โจ้ แมงหวี่ตัวเก่งมานำขบวนให้ง่วงนอนเล่น ๆ 003 ท่านประธานธีรชัย มาคู่กับรถคุณภาพ 009 อาจารย์กับเชโรกีที่เพิ่งซ่อมเสร็จตอนตี 3

012 พี่วัลลภ ไทเกอร์พี่ใหญ่ที่แข็งใจมาพร้อมกับไข้หวัดนิดหน่อย 017 พี่ขวด ไทเกอร์
รอบนี้ตั้งใจที่จะตะกุยเต็มที่รอบพุเตยไม่ได้ไป 018 พี่จืดควบฟอร์ดเรนเจอร์คู่ใจมาจากราชบุรีตอนตี 1 023 เตี่ยชาตรีของเรามาคู่กับ ปาเจรา ที่ติดวินซ์เพลาบั้งเบ่อเร่อ กะเอากำลังส่งเต็มที่เลย 024 พี่อำนวยพาวีโก้ตัวเก่ง ที่เพิ่งเปลี่ยนสแวมเปอร์ 34 มาใหม่เอี่ยม กะไว้ว่ารอบนี้วินซ์ไม่ต้อง

026 พี่สวัสดิ์ที่มาพร้อมกับไมตี้เอ็กซ์คันโปรดที่ติดวินซ์มาได้สักพัก 031 พี่เกียรติ สปอร์ตไรเดอ์ รถคุณภาพเต็มสูตรรอบนี่ SURF เสร็จไม่ทันไม่งั้นจะเอามาลุยด้วย 040 พี่ปรีชา วีโก้รอบนี้ขอเต็มที่พก 9.5XP มาใหม่เอี่ยมเอาล่ะรอบนี้คงจะได้ลองของใหม่เลย 074 ป๋าช๊วนของเราก็มาควบคู่กับฟอร์ดคุณภาพคู่ใจ 079 พี่แป๋ง ฟอร์ดจอมซ่าซ่อมรถเสร็จทันเวลางานเนี้ยบมาก แต่พก HUB ของเทียมมาเพียบเผื่อจะระเบิดเหมือนทุกทริปที่ผ่านมา

091 พี่แอ้ม กับวีโก้ที่กำลังจะยกรอบนี้แอบมาดูสถานที่แล้วก็ตีรถกลับกทม.เลย 099 พี่วิจัย
ควบแมงหวี่อัดมาเต็มสูตรเหมือนกันทริปนี้ 112 พี่พิชิตประกบมากับ LN คานแข็งเจ้าตัวบอกงานนี้เต็มที่อยู่แล้ว ว่าที่สมาชิก 127 พี่เชษฐ์ พาอีซูซุ ดราก้อนอายใส่สแวมเปอร์เพื่อมาลุยทริปนี้เหมือนกัน ทั้งหมด 17 คัน
*********************************************

“ฮาโหล...พี่สุเดินทางถึงไหนแล้วครับ” 110 โทรศัพท์หา 012 เพราะไม่เห็นมาถึงสักที “เอ่อ.....ตอนนี้พี่ถึงหลักสี่แล้ว ออกกันไปก่อนเลยพี่จะตามไป” พี่สุบอกเสียงแฮบ ๆ เพราะไม่ค่อยสบายทั้งคู่เลย “เอ้า...ขึ้นรถ ๆ ปั้มเปิดแล้วเติมน้ำมันกันไปเลย” 024 บอกทุก ๆ คันที่จอดรออยู่ “นวย ๆ น้ำมันเกียร์ผมรั่วเป็นทางเลย” เสียงท่านประธานวอมา “จะจอดดูก่อนไหมหรือว่าไง” 031 วอถาม

“ไม่เป็นไร ๆ ออกเดินทางได้เลย เดี๋ยวผมซื้อน้ำมันแถวนี้แหละ” 003 บอกแบบนั้น ทุกคันเดินทางมุ่งหน้าเข้า จ.สระบุรี เสียงยางของทุกคัน ไม่ว่าจะเป็นตีนตะขาบ จังเกิ้ล สแวมเปอร์ ก.ไก่ ของ 003 ดังสนั่นหวั่นไหวตลอดเส้นทาง และแล้วก็มาถึงปั้มปตท. ที่ป๋าช๊วนจอดรออยู่พร้อมกับพี่วัลลภที่ออกมาทีหลังแต่ถึงก่อน ทุกคนลงจากรถยืดเส้นยืดสาย ยามเช้าตรู่ของวันเสาร์
เวลา 06.13 น. ทุกคันมาพร้อมเหลือ อาจารย์ที่ทุกคนไม่แน่ใจเลยว่าจะมารึป่าว “ฮาโหล..แววถึงไหนกันแล้ว” 031 สอบถามทางโทรศัพท์ “พี่เกียรติ...กำลังเก็บของขึ้นรถอยู่อีกสักครึ่งชั่วโมงจะออกเดินทาง” พี่แววตอบกลับมา ทุกคนรับข้อมูลเรียบร้อยเตรียมเดินทางต่อแล้วให้อาจารย์ตามหลังมาแล้วกัน

“อ้าว..ไปขึ้นรถ ๆ” 024 ตะโกนบอก ทุกคันเดินทางมุ่งสู่ อ.ปักธงชัย ยามฟ้ากำลังเปิด “โจ้ ๆ ไปเชียงรายจะเอาแมงหวี่นำไปหรือเปล่า” 031 ถามแซวทางวิทยุ “โอ้ย...พี่เกียรติเอาคันนี้ไปก็ต้องใช้เวลาวันเต็ม ๆ ล่ะ” 001 กล่าว “ง่วงนอน...โว้ย..เฮ่อ” 024 แซว 001 ในวิทยุ “ไปได้เท่านี้แหลพี่นวย 80 90 ประหยัดดีจะได้มีตังค์ไว้แต่งรถไง” 001 ตอบกลับมาทันที “ถ้าเอาแมงหวี่นำไปเชียงรายโจ้นำไป 1 วันเลยนะโจ้” 012.1 แซวเข้ามา

ทุกคันแซงกันไปแซวกันมาอย่างสนุกสนานเป็นสีสันของคาราวาน 22นอ. จนเวลา 08.05 น. ก็ถึง อ.สีคิ้ว พวกเราแวะพักเข้าห้องน้ำห้องท่ากันที่ปั้ม ปตท. เสร็จแล้วเราก็เริ่มทำเดินทางต่อ ในขณะนี้นั้น 009 ก็ยังอยู่บนโทลล์เวย์อยู่เลย พวกเรามุ่งหน้าสู่เส้น 304 เข้า อ.ปักธงชัย ติดไฟแดงก่อนถึง อ.ปักธงชัย

“ขบวนข้างหน้ารอด้วยครับติดไฟแดงอยู่” เสียงพี่จืดบอก “ติดต่อไปล่ะกัน” พี่นวยตอบกลับทันควัน แล้วเราก็มาถึงตลาดปักธงชัยเสียที “พี่ ๆ 22นอ. ครับได้ยินแป๋งไหมครับ” เสียงวอร์
ซ่า ๆ มาจาก 079 ถามมา “แป๋ง ๆ ว่าไง..ได้ยิน ๆ” พี่เกียรติตอบรับ “ตอนนี้อีก 22 กิโลครับพี่จะถึง อ.ปักธงชัย ผมจะเข้าไปโหลดของก่อนยังไม่ได้โหลดมาครับพี่เกียรติ” “โอเค ๆ แป๋งเข้ามาโหลดของเลยพวกพี่จะเข้าไปโหลดของเหมือนกันแล้วจะหาข้าวเช้ากินด้วย” พี่วัลลภตอบกลับไป

หลังจัดการภารกิจ ทานข้าวมันไก่ หมูแดง ก๋วยเตี๋ยวกันในตลาดปักธงชัยเรียบร้อยแล้ว ก็ออกมาโหลดน้ำแข็งกันทุกคันที่ร้าน 99 น้ำแข็งหลอด เป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในปักธงชัย ขายน้ำขวดเขียวด้วย ก็รู้ ๆ กันอยู่น้ำขวดเขียวมันคือ “HEINEKEN” นั่นเอง พี่ ๆ เลยอัดกันมาเต็มลังน้ำแข็งเลย เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ออกไปรอกันที่ปั้ม ESSO ซึ่งมีพี่เกียรติไปรออยู่ที่นั่นแล้ว เลยตลาดไปประมาณ 1 กิโลเมตร

ตรวจเช็คสภาพรถพร้อมกับรอการซ่อมเกียร์ของ 003 ท่านประธานในตลาด “ปั่บ..ปั่บ..ปั่บ ๆๆๆ” เสียงตีนตะขาบของ 079 วิ่งมาด้วยความเร็วผ่านหน้าปั้มไปเพื่อเข้าไปโหลดของในตลาด
“พี่เกียรติครับ พี่เกียรติได้ยินผมไหมครับ วิจัยครับ” เสียงพี่วิจัย 099 สอบถามมายังขบวน “ได้ยินครับพี่วิจัย อยู่ไหนครับเนี่ย” 110 ซึ่งนั่งอยู่ในรถ 024 ตอบกลับแทน เพราะว่าพี่เกียรติลงไปคุยกันด้านนอกรถ “ตอนนี้พี่อยู่ที่ปากทางเข้าโรงงานน้ำตาลครบุรีแล้ว จะจอดรอขบวนอยู่ที่นี่นะยังไงบอกพวกพี่ ๆ ด้วย” 099 บอก

“ครับผมรับทราบครับ” 110 ตอบกลับไปและแล้วรถท่านประธานก็มาเสียทีซ่อมเสร็จแล้วแต่น้ำมันยังซึม ๆ ที่ซีนอยู่เลยแต่ก็ดีขึ้นเยอะ ทุกคันเริ่มออกเดินทางต่อไปรวมกันที่ปากทางเข้าโรงงานน้ำตาลครบุรี ซึ่งเลยตลาดมาได้ประมาณ 7-8 กิโลก็เห็นป้ายเลี้ยวซ้ายเข้าโรงงานน้ำตาลครบุรี แล้วพวกเราก็เจอแมงหวี่ 009 จอดรออยู่ซึ่งมีสมาชิกรุ่น 8 นนท์ 122 ติดรถมาด้วยนั่งกระดกเบียร์กระป๋องอยู่หน้าร้านโชว์ห่วยกับลุงแถวนั้นอย่างเอร็ดอร่อย

แล้วตอนนี้ทุกคันก็มาพร้อมยกเว้น 079 และ 009 ซึ่ง 009 ตอนที่พวกเราทานข้าวกันอยู่ที่ตลาดปักธงชัยก็ได้มาถึง อ.สีคิ้วเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ปี๊น...ๆ..ปี๊น..ๆ” เสียงช้างของ 079 ทักทายขบวนที่จอดรออยู่เหมือนเช่นเคย “แป๋ง มาแว้ว...คร๊าบบ” เสียงพี่แป๋งตะโกนทักทายทุก ๆ คนที่รอและนั่งกินข้าวหลามกันดัง “ซ่วบ...ซ่วบ” ก็เหลือแต่อาจารย์ที่กำลังตามมาทีหลัง

จากปากทางเข้าสู่โรงงานน้ำตาลก็ 25 กิโล พวกเราวิ่งเจอ Y 2 Y เรายึดเอา Y ขวาเป็นหลักเสมอ ซึ่งเลยทางที่จะเลี้ยวเข้าโรงงานน้ำตาลประมาณ 6 กิโลก็เจอป้ายเลี้ยวขวาเข้าหน่วยพิทักษ์ไฟป่าซับสะเดา ซึ่งด้านซ้ายจะเป็นป้ายบอกว่าบริเวณนี้คือ บ้านอังกอน แล้วพวกเราก็เดินทางเข้าสู่เส้นทางลูกรังเป็นระยะทาง 17 กม. จากปากทางเข้ามาวิ่งมาได้สักพัก

“โหล เทส โหล ๆ ตอนนี้รถพี่ชาตรี โช้คระเบิดแล้ว โช้คหน้าซ้ายระเบิดครับ” เสียงพี่ปุ๋ยซึ่งมากับพี่ชาตรีวอบอกในขบวนให้รับรู้ “โอเค ๆ ตอนนี้พวกผมมาถึงหน่วยแล้วตามเข้ามาเลย” พี่พิชิต 112 ตอบกลับไป แล้วรถก็มาพร้อมกันทุกคัน 17 คัน ณ หน่วยพิทักษไฟป่าซับสะเดา ก็ลงมายืดเส้นยืดสาย ทุกคันก็ลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่คันละ 100 บาท พอมาดูโช้คพี่ชาตรีก็ถึงกับอึ้งว่า ขนาดนี้เลยหรอ ดังที่เห็นในรูปนั่นหล่ะ

พวกเราก็นั่งรับประทานอาหารกลางวันกันที่หน่วยนี่ก่อนออกเดินทางในระดับ 3 ต่อไป เสร็จเรียบเตรียมออกเดินทาง ปรากฎว่ารถ 017 พี่ขวด HUB เกิดหมุนเข้า LOCK ไม่ได้ หมุนเท่าไหร่ก็หมุนไม่ได้เลยต้องให้พี่วัลลภมาจัดการให้นั่งงมกันอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งในขณะนี้ก็เป็นเวลา 12.30 น. เข้าไปแล้ว สถานการณ์ต่อไปก็เกิดขึ้น HUB พี่จืดก็หมุนไม่ได้เช่นกันสำหรับ รถของพี่จืดก็ถูกพี่ปุ๋ยจัดการให้เรียบร้อย ตอนนี้ทุกคันเตรียมพร้อมออกเดินทาง พี่แอ้ม 091 ก็ขอตัวลากลับกทม. เลยทันที

เสียงสตาร์ทรถทุกคันเริ่มดังกันทั่วหน่วย โดยเจ้าหน้าที่บอกว่าช่วงนี้น้ำเยอะ ระยะทางประมาณ 18 กม. ให้ แมงหวี่ 001 นำทางเข้าไป ไปได้สัก 700 เมตร “ตอนนี้ท่านประธานติดหล่มอยู่นะครับ รอก่อน” ทุกคนก็สงสัยว่าข้างหน้าเป็นหล่มอะไร พอเห็นก็ถึงกับไม่เชื่อว่าทางน้ำขังจะทำให้รถติดได้ขนาดนี้ แล้วพี่เกียรติก็ลากขึ้นมา จากนั้นพี่เกียรติก็ตามไปอีกไลน์นึงออกไลน์ขวาไปก็ติดเหมือนกัน

ด้านล้อซ้ายจมน้ำรถเอียงจนแทบจะคว่ำลงมาจนต้องรีบช่วยกันโหนรถเอาไว้ไม่ให้เอนลงไปด้านซ้ายมากไปกว่านี้แล้วรถก็ขึ้นไปจนได้ ต่อจากนั้นรถพี่วัลลภก็ผ่านไปได้อย่างสบายเพราะว่าสูงอยู่แล้ว พี่ขวดก็ไปไลน์กลาง LN พี่พิชิตก็ตามไป วีโก้ยิ่งสบายใหญ่เลยแรงมหาศาล พอมาถึงอาจารย์เปิดไลน์ด้านซ้ายใหม่ลุยเข้าไปในโพรงหญ้าเพื่อไม่ลงน้ำ เพราะลงไปติดแน่นอน อย่างว่านะครับ รถเตี้ยจริง ๆ ของอ.

แล้วทุกคันก็เริ่มเข้ามาลึกขึ้น ๆ ป่ารกมาก ๆ “ฟี๊ด ๆ ฟิ๊ด ๆ” เสียงลมยางของ 031 ด้านหน้าซ้ายซึมออกมาทางขอบกะทะล้อ พี่นวยก็เอา ไฮลิฟแจ็ค มาถอดยางล้าง ๆ เพื่อเอาเศษทรายออกจากข้างใน แล้วเติมลมด้วยหม้อลมของ 031 เองที่ติดมาพร้อมกับ AIR LOCKER แล้วพวกเราก็เดินทางต่อเข้าไปขณะนี้ก็ปาเข้าไป 13.57 น. “ซิ๊ด...ซิ๊ด” เสียงเสียวฟันของหลายคนต้องแสดงออกมาเพราะว่าทั้งกิ่งไม้และต้นหญ้าขูดสีรถด้านนอกดังมาถึงข้างใน

เรียกได้ว่าป่านี้ก็เจอทุกรูปแบบมีต้นไม้ หินลอย ทราย โคลน เหวเนิน เจอหมดเลย และแล้วพวกเราก็มาถึงลำธารเสียทีขณะนี้ก็ 16.25 น. ทางที่จะข้ามลำธารนั้นเห็นแล้วต้องตกใจนิดหน่อยว่ามันลึกลง ลึกลงเรื่อย ๆ เพราะว่ามีขบวนเข้ามาทุกอาทิตย์ แต่ว่าขบวนของเราเป็นขบวนสุดท้ายที่อนุญาตให้เข้ามาได้ “ขอจอบหน่อย..เร็ว” เสียงท่านประธานบอก แล้วก็ลุยแต่งไลน์เป็นคนแรกเลยสักพักเริ่มหอบ ด้วยความเหนื่อย ก็ให้คนหนุ่ม ๆ มาตกแต่งต่อไป

เด็ก ๆ ก็ลงเล่นน้ำกันยกใหญ่เลย เพราะว่าน้ำกับเด็กเข้ากันอยู่แล้วเห็นเป็นไม่ได้เชียว และแล้วไลน์ก็แต่งเสร็จด้านฟากนู้นก็เป็นป่าไผ่ที่ค่อนข้างรถแล้วเป็นเนินสูงชัน 003 ก็นำรถลงเป็นคนแรกเลยค่อย ๆ ลงมาจนมาถึงลำธารก็ล้อจมไปเกือบมิดล้อเหมือนกัน พอถึงเนินขึ้นฝั่งคันนู้นก็เทคตัวขึ้นอย่างแรงแต่ก็ไม่ขึ้น 003 ก็ไม่ยอมแพ้เพื่อไม่ให้เสียชื่อยาง ก.ไก่ เทคจนขึ้นไปจนได้เล่นปั่นซะเป็นล่องลึกเลย คันที่สองตามมาเป็นพี่ชาตรี ทีนี้ไม่ขึ้นแล้วทุก ๆ คันเรื่อยมาเล่นวินซ์กันหมด เพราะขึ้นไม่ได้เป็นล่องลึกมากขึ้นไปได้นิดหน่อยก็ลากวินซ์กันเลย

และแล้วก็มาถึงฟอร์ดซ่า 079 เร่งเครื่องตั้งแต่ยังอยู่ในน้ำอยู่เลย พอคันหน้าขึ้นไปเสร็จทีนี้ 079 ก็เร่งรอบเข้าไปถึง 2500 รอบ แล้วก็เทคตัวขึ้นไปทันใดนั้นเอง “ตึ๊บ” ทุก ๆ คนหันมองที่รถพี่แป๋งทันที แล้วมันก็เกิดขึ้นอีกแล้วเหมือนทุกทริปที่ผ่านมา คริๆๆ ทีนี้ก็เหลือ 2 ขาตามเคย จากนั้นพี่ขวด ก็พาไทเกอร์มาจ่อไว้ พอพี่แป๋งโดนลากขึ้นไปเสร็จ ทีนี้พี่ขวดก็เร่ง 2000 รอบขึ้นมาบ้าง “ปั๊ก” เสียงดังมาจากแถวเพลาหน้าของพี่ขวด และแล้วก็เกิดเรื่องขึ้นรถพี่ขวดวิ่งได้แค่ 3 ล้อเท่านั้น

ตอนนี้ก็เวลา 17.50 น. เข้าไปแล้ววินซ์กันเกือบหมดแระป๋าช๊วนก็กำลังลากขึ้นไปอีกคัน คันที่ต่อมาเป็น วีโก้ 024 นั่นเองก็ลงจากรถเพื่อมาดูไลน์เอาหินไปเสริมบ้าง กลบหลุมบ้าง ทีนี้
“พี่นวย..วีโก้ NO วินซ์สักหน่อยไหม” 110 ลองแซวพี่นวยดู พี่นวยหัวเราะ แล้วทันใดนั้นเองเสียงเครื่องวีโก้ก็คำรามที่ 3000 รอบ กระโจนขึ้นไปอย่างไม่ลืมหูลืมตาเพียงแวปเดียวเท่านั้นก็ขึ้นไปได้อย่างไม่น่าเชื่อทุกคนถึงกับกระโดดหนีเพราะว่าเล่นลอยขึ้นมาเหมือนอะไรเลย

จากนั้นพี่ปรีชาก็ตามมาด้วยวีโก้เหมือนกันกะจะทำให้ได้เหมือนวีโก้ 024 แต่ก็ไปไม่รอดเพราะว่ารอบตกเสียก่อนไม่งั้นวีโก้ก็จะกระโจนขึ้นมาอีกคันเหมือนกัน แต่ก็เป็นผลดีอีกอย่างด้วยเพราะว่า 040 ติดวินซ์ 9.5XP ใหม่เอี่ยมมาเลยได้ลองใช้ไปในตัววินซ์ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม ดึงเจ้าวีโก้ขึ้นมาได้อย่างสบาย ๆ โดยไม่ต้องออกแรงรถเลย

และแล้วสปอร์ตไรเดอร์ของพี่เกียรติก็ตามตูดมาติด ๆ พร้อมกับเปิด AIRLOCKER ล่ะ งานนี้ขอชมสมรรถนะหน่อยแล้วกัน ทันใดนั้นก็ 031 ก็เร่ง 2000 รอบรักษารอบมาเรื่อย ๆ ขึ้นมานิ่ม ๆ เลย “โอ้...โห” เสียงทุกคนร้องขึ้นมาด้วยความทึ่งในสมรรถนะของ AIRLOCKER ตัวเก่งของ 031 มาถึงคันปิดท้ายของ อ. เชโรกี กะจะกระโดดมาแบบรถคุณภาพแต่แล้วก็ติดต้องลากวินซ์ขึ้นมาเหมือนกัน..แล้วทุกคันก็ขึ้นมากันหมด โดยรถมีปัญหาไปสองคัน

จากนั้นก็เริ่มเดินทางต่อ..ออกไปได้สัก 5 นาที “รอสักครู่ครับ...ตอนนี้พี่ชาตรีรถลื่นไปติดกับต้นไม้อยู่” 001 รายงาน แล้วทุกคนก็ลงมาจากรถเพื่อมาดูสถานการณ์ว่าเป็นไงกันบ้าง แล้วก็ถึงกับตะลึงว่ารถพี่ชาตรีไถลขึ้นไปได้ยังไง ก็ลองสอบถามกับพวกพี่ ๆ ดู แล้วได้ข้อสรุปว่า

รถพี่ชาตรีเหลือแค่ 2 ล้อนั้น วิ่งมาไม่รู้ว่าเหลือแค่ 2 ล้อ ตั้งแต่ข้ามลำธารมาขึ้นเนินมาก็ยัง 4 ล้ออยู่เลย แล้วตรงนี้เป็นโคลนลื่นมาก ๆ เลยปั่น ๆ แล้วก็ไถลพิงกะต้นไม้เลย ตัวถังบุบนิดหน่อย กระจกข้างซ้ายหลุด แล้วทีนี้ก็มืดแล้วด้วยเวลา 20.30 น. เข้าไปแล้วทุกคนเริ่มที่จะหิวข้าวแล้วด้วย ทีนี้ก็ยืนประชุมกันกลางป่าเลยว่าเอาไงดี

ถ้าไปต่อเกรงว่าจะเสียหายเยอะขึ้น เพราะมีแต่หินทั้งนั้นแล้วทางก็มืดมาก ๆ ในป่าด้วย แล้วก็ได้มติออกมาว่ากลับไปนอนฝั่งนู้นกันเพราะคงไปต่อไม่ได้แล้ว จากทางที่ข้ามมาเป็นทาง
แคบ ๆ ปกคลุมด้วยกอหญ้าที่สูงท่วมรถก็ต้องถอยกลับรถเข้าไปในกอหญ้าถางกันจนราบเรียบเลย
แล้วพี่นวยก็นำขวานมาตัดต้นไม้ที่พิงรถพี่ชาตรีออก “หนึ่ง...สอง..สาม..เอ้า” เสียงพี่ ๆ 3 4 คนช่วยกันจับต้นไม้ลากออกมาทีละนิดล่ะนิด

แล้วทุกคันก็กลับรถเรียบร้อย โดยพี่วัลลภเป็นคันแรกที่ข้ามกลับไปฝั่งนู้นได้ทางขึ้นอย่างสบาย ๆ ตามสไตล์ Walking Speed คันหลัง ๆ มาทางขึ้นเริ่มลื่นขึ้น ลื่นขึ้น ก็ต้องเทคตัวตาม ๆ กัน รถที่เหลือ 2 ล้อก้อต้องวินซ์กันระนาว ไฮไลท์ของขาขึ้นรอบนี้เห็นจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก 099 แมงหวี่พี่วิจัย ที่เทคตัวลอยขึ้นมา 2 ล้อหน้านี่ลอยขึ้นจากพื้นฟุตกว่า ถ้าเกิดปล่อยคันเร่งมีโอกาสหงายท้องแน่ ๆ เลย แล้วทุกคันก็ขึ้นมาจนหมดจยเวลา 21.45 น. ต่างคนต่างหาที่เหมาะเจาะลงกลางเต้น ทำกับข้าว

“โป๊ง...เป๊ง...โป๊ง...เป๊ง” เสียงครัวแต่ละครัวดังสนั่นหวั่นไหวท่ามกลางป่าเขา ด้วยความหิวโหยและเหนื่อยทำให้ทุกคนรับประทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อยนั่งคุยกันยันห้าทุ่มเที่ยงคืน บางคนก็ไม่ได้อาบน้ำนอนไปด้วยความเหนื่อยหล้าเพื่อออกแรงในวันรุ่งขึ้นต่อไป

05.50 น. “เจี้ยว...จ๊าว ๆ ๆ” เสียงเด็ก ๆ ลงไปเล่นน้ำกันแต่เช้าเลยอากาศหนาวเย็นสบายดี อุณหภูมิ 22 องศา แม่ครัวก็ตื่นขึ้นมาหุงข้าวทำกับข้าวกินกันยามเช้า ทอดหมูบ้าง ต้มจืดบ้าง เนื้อรวก อะไรพวกนี้ข้าวเหนียวจากฝีมือ 112.1พี่น้องนั่นเองอร่อยกันถ้วนหน้า แล้วก็ถึงเวลากลับจนได้ 10.50 น. ล้อทุกคันเริ่มหมุนเดินทางกลับมุ่งสู่ภูมิลำเนาของตนเอง

งานนี้ 112 LN คานแข็งขอนำหน้าไปก่อนเพราะว่าห้าโมงเย็นมีธุระที่บางนา ก้อเลยต้องนำหน้าไปก่อน แล้วขบวนก็ตามกันมาเรื่อยรถสองล้อก็ตามหลังกัน พี่ขวดก็ตามหลังพี่เกียรติ
พี่แป๋งก็ตามหลังพี่นวย พี่ชาตรีก็ตามหลังอาจารย์ ต่างคนตางลากกันมา มีพี่ขวดที่ค่อนข้างไปได้ 3 ล้อก็เลยไม่ต้องลากเลย ที่ลากหนักเลยก็เห็นเป็น 079 ที่เอาเชือกลากขึ้นเนินชัน แล้วหินลอยเพียบเลย แต่ต้องยอมรับถึงสมรรถนะของวีโก้ที่ลากฟอร์ดขึ้นมาอย่างสบาย ๆ พอมาบนเนินเขาก็จอดรอขบวนอาจารย์ที่ตามขึ้นมา


“เห้ย...อะไรว่ะเนี่ย..ถ่ายรูป ๆ เซ็นถ่ายรูปไว้” เสียง 079 ตะโกนขึ้นมา แล้วชี้ไปที่ลูกปืนกะโหลกของรถใครไม่ทราบพอตอนหลังทราบอีกทีว่าเป็นของ ป๋าช๊วน 074 นั่นเอง “พี่วัลลภครับพี่วัลลภ...ผมพิชิตครับได้ยินไหมครับ” เสียงวอจาก 112 เรียกขานมา “ตอบครับตอบ” พี่วัลลภตอบกลับไป “ตอนนี้มีขบวนรถของโคราช 6 คันกำลังสวนขึ้นไปนะครับ” 112 แจ้งขึ้นมา “รับทราบครับรับทราบ” 012 แจ้งกลับไป “ทุก ๆ คนเราจะทำการหลบขบวนอยู่บริเวณหอดูไฟนะครับ” 012 แจ้งให้ทุกคันได้รับทราบ

แล้วขบวนรถจากโคราชก็ผ่านมาถึง พวกเขาจะเข้าไปเล่นแล้วก็จะกลับออกมาไม่ได้ค้างคืน แล้วพวกเราก็เดินทางออกไปเรื่อย ๆ “ตอนนี้ยางหน้าผมมีปัญหาครับ ขบวนรอก่อน” เสียง อ. วอบอกขบวนให้หยุดรอ ปรากฏว่าคันชักล้อน็อตขาดออกจากเบ้าเลย ต้องใช้การเชื่อมล่ะทีนี้ พี่ปุ๋ยงานนี้จัดการเชื่อมเองเลยหลังจากเมื่อคืน อ. ไปซ่อมที่อู่ของพี่ปุ๋ยมาตอนตี 3

“คันชักมันหักเพราะว่าเจ้าของรถจ่ายตังค์ไม่ครบเนี่ยเห็นป่าว” พี่ปุ๋ยพูดแซวอาจารย์ อ.ก็หัวเราะ “เหอะ ๆ ๆ” เชื่อมเสร็จแล้วก็เดินทางกันต่อตอนนี้ขบวนแรกก็ออกมาถึงหน่วยนั่งกินข้าวกลางวันกันอย่างเอร็ดอร่อยเหลือแต่ขบวน อาจารย์ที่ยังมาไม่ถึง มาจนถึงบริเวณล่องน้ำขังที่ติดกันล่องแรกตอนที่เข้ามา รถ อ. เอาอีกแล้ว “เออ..ตอนนี้คันชักผมหักครับ” คันชักอ.หักงอเป็นครั้งที่สองครั้งนี้ต้องทำการแต่งรูใหม่และดัดเหล็กใหม่ด้วยการเป่าไฟตอนนี้ก็ปาเข้าไป 14.30 น. แล้วก็นั่งทำนั่งเคาะไปเรื่อย ๆ จนเสร็จ

16.30 น. ทุก ๆ คันกลับมาถึงที่หน่วยได้อย่างปลอดภัย กินข้าว กินปลา แล้วก็เดินทางออกจากหน่วยพิทักษ์ไฟป่าซับสะเดาเป็นที่เรียบร้อย เดินทางมาเรื่อย ๆ “ระวังหลุมด้านหน้าด้วยหักซ้ายออกนะ” 001 บอกให้ทุกคนได้รับทราบ ผ่านมาสัก 2 นาที “ตอนนี้รถคุณภาพกระแทกหลุมครับ สะบัดเป็นงูเลย วิ่งได้ไม่เกิน 40” เสียงพี่จืดพูดด้วยสำเนียงอ่อย ๆ

เนื่องจากพี่จืดคานแข็งมาแบบไม่ยอมเบรกกระแทกหลุมเข้าไปจัง ๆ ลืมใส่กันสะบัดอีกต่างหาก แล้วทุกคันก็ออกมาเจอถนนดำจนได้ โผล่ออกมาเส้น 304 เพื่อกลับทางเส้นกบินทร์บุรี แล้วก็จอดรวมกันที่ปั้ม ปตท. เลยทางออกมาประมาณ 5 กม. แล้วทุกคนก็ทำการขอตัวลากลับกันก่อนเนื่องจากเด็ก ๆ ต้องเรียนเช้าพรุ่งนี้และอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง
*************************************
“สำหรับทริปนี้ก็จบลงด้วยความภาคภูมิใจของทุก ๆ คนชาว 22นอ.
ไฮต์ไลท์ของทริปนี้ให้ชื่อว่า “รถคุณภาพ...ไปไม่ถึง..แต่กลับได้”
แล้วพบกันใหม่ทริปหน้าทำบุณวัดป่าอาชาทองครับ อ.แม่จัน จ.เชียงราย
วันที่ 9-12 ธันวาคม พ.ศ. 2548
****************************************





เครื่องมือในการใช้งาน website =>> สมัครสมาชิก | Login | Logout | เปลี่ยนไอคอนส่วนตัว | เกี่ยวกับเรา | ติดต่อโฆษณา         View stat by Truehits.net


   
   

คำตอบที่ 1
       วังมะนาวช่วงนี้ทางโหดมากครับ เส้นทางเปลี่ยนไปจากเดิมเยอะ อ่านบทความผมคิดว่าพวกพี่ๆ ข้ามคลองหนึ่งเข้าไปประมาณไม่เกินครึ่ง กม. น่าจะอยู่แถวๆ ป่าไผ่ ยิ่งลึกเลยเข้าไปเส้นทางยิ่งโหดครับ ครั้งล่าสุดผมยังเข้าไปไม่ถึงที่หมายเลยครับ



จาก ช้างหมา  58.147.19.221  เสาร์, 26/11/2548 เวลา : 22:24   


คำตอบที่ 2
       กลุ่มโคราช ออฟโรดเอารถมาโชว์หน่อย แบบว่าพี่แต่งกันเจ๋ง จริงงๆ ถ้าไม่ไปเจอในป่าก็ไม่รู้ว่า กลุ่มนี้สุดยอดเหมือนกันครับ ที่ผมจำได้มีคันนี้ด้วย แล้ว LN100 หลายคันแต่จำไม่ได้ครับ





จาก เขียวสะอี๋  61.91.223.246  อาทิตย์, 27/11/2548 เวลา : 11:03   


      

Since 22, Feb 2001 hit counter View My Stats  Truehits.net      วัน<%=WeekdayName(Weekday(Date))%>,<%=formatdatetime(date(),1)%> (Online <%=Application("OnlineUsers")%> คน)
                                       

เพื่อลดภาระของ ฐานข้อมูล ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก เพราะเวบเปิดมากว่า 10 ปี
จึงทำให้เวบช้าลงมาก ทีมงานจึงขออนุญาต แปลงข้อมูลจาก ฐานข้อมูลหลักเป็น SHTML File
เพื่อลดภาระการทำงานของ ฐานข้อมูลหลักครับ การแปลงฐานข้อมูลนี้ จะทำให้กระทู้นี้
ไม่สามารถตอบคำถามได้อีกต่อไปครับ แต่จะสามารถค้นหาชื่อกระทู้ และ Link ตรงมาที่หน้านี้ได้เหมือนเดิมครับ

ด้วยความนับถืออย่างสูง ทีมงาน Weekendhobby.com


Convert on : 26/8/2554 7:08:07

Error processing SSI file