คำตอบที่ 1
       ชมรมบูมเมอแรง ออฟโรด จ.ตรัง เห็นด้วยกับข้อความกระทู้นี้ ของป้าแจม 100 ชมรม ครับ ที่ จ.ตรัง มีชนเผ่าซาไก(จะเรียกว่าคนป่า ก็ได้)อยู่แถวน้ำตกโตนตก อ.ปะเหลียน ความเป็นอยู่ยังคงความเป็นซาไกครับ ไม่รู้ภาษาไทย ส่วนเสื้อผ้าพอมีใช้เป็นอยู่บ้าง ก็เป็นพวกผู้ชาย ส่วนผู้หญิงไม่เคยพยครับ สิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือ เกลือ ข้าวสารและยาเส้น(ยาสูบ) เท่านั้น เห็นด้วยที่จะไม่ไปเปลี่ยนวิถีชีวิตของพวกเขา

คำตอบที่ 2
       เห็นด้วยกับป้าแจมครับ
และโอกาสนี้อยากขอทราบความคิดเห็นจากเพื่อนๆชาวออฟโรด ว่าในอีกแนวทางหนึ่งที่พวกกระผมกำลังทำอยู่ เช่นการทำให้ผู้ที่อยู่ในถิ่นทุระกันดาล โดยเฉพาะโรงเรียนในป่าลึก มีไฟฟ้าใช้ เพื่อจะได้รับความสะดวกในการดำรงค์ชีพ และรับสื่อการเรียนการสอนจากโลกภายนอก
ท่านทั้งหลายมีความเห็นอย่างไรช่วยแนะนำด้วยครับ
ตัวอย่างกิจกรรมดังนี้ครับ
http://www.weekendhobby.com/offroad/kia/Question.asp?ID=5359

คำตอบที่ 3
       เห็นด้วยครับป้าแจ่มความคิดดีครับและอยากให้ชาวเรารักสามัครคีกันให้มากๆ
ช่วยเหลือสังคมต่อไปครับ
คิดถึงป้าแจ่มเหมือนกันแม้เคยเจอกันแค่สองครั้ง

คำตอบที่ 4
       เห็นด้วยกับป้าแจมครับ

เคยดูหนังเค้าบอกว่า "ถ้าคุณหัดให้เค้ากินปลา เค้าก็กินเพียงครั้งเดียวเท่านั้น... แต่...ถ้าคุณหัดให้เค้าจับปลาด้วย เค้าก็จะมีปลากินไปตลอดชีวิต".........

คำตอบที่ 5
       เรียกชื่อผิดเลยป้าแจมไม่ใช่ป้าแจ่มขอโทษครับ

คำตอบที่ 6
       เห็นด้วยกับค่านิยมแบบนี้

คำตอบที่ 7
      
เคยนำเสื้อผ้าไปแจกชาวเขา
แต่ถูกผู้ใหญ่บ้านต่อว่า
ที่ทำให้เสียวัฒนธรรมของชาวกระเหรี่ยง
เด็กผู้หญิงแทนที่จะใส่ชุดขาว
กลับใส่เสื้อยืดกางเกงวอร์ม
ผู้ชายไม่มีใครใส่ชุดชนเผ่าเลย
กลุ่มผู้หญิงฝากบอกถ้ามาแจกครั้งหน้า
ขอผ้าอนามัยเพราะจำเป็นมาก
ขอบคุณแนวคิดของป้าแจม

คำตอบที่ 8
       เห็นด้วยจ้า ป้าแจม ความคิดป้าแจม ตรงใจแป๊ะเลย
คิดถึงป้าแจม นะคะ แวะมาขอนแก่นอีกเด้อ สิพาไปย้อนรอย รับรอง ไม่ถึงตี4 ดอก อิอิ

คำตอบที่ 9
       ป้าแจมของผมบรรลุแล้ว

คำตอบที่ 10
       เห็นด้วยครับท่านประชาสัมพันธ์สมาพันธ์ฯช่วงนี้หน้าฝนก็ลองประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูเผื่อจะได้รับการสนับสนุนจากทั้งหน่วยงานของรัฐและเอกชน..ครับ

คำตอบที่ 11
       จริงครับ ผมเห็นขยะ พวกถุง ขนม และกระป๋อง ขวด ทิ้งตาม ข้างทาง และตามหมู่บ้าน กระทั่งที่เรา เคยไป เยอะ จริงๆๆ เนาะป้า เนาะ

คำตอบที่ 12
       เห็นด้วยครับ

คำตอบที่ 13
       ตั้งกระทู้ แล้ว มาตอบมั่งนะครับ... เจอกันอีก ผมขอกิน สัปรด อีกนะป้าแจม

คำตอบที่ 14
       ขอบคุณทุกๆคนนะค่ะที่มีความอดทนในการอ่านแนวคิดนี้จะขอแนวร่วมเพื่อนๆที่จะร่วมทำกิจกรรมดีๆกับมูลนิธิพอ.สว.ถ้ามีกิจกรรมดีๆก็เริ่มได้เลยค่ะ จะได้เที่ยวอย่างมีคุณค่าสร้างสังคม

คำตอบที่ 15
       เห็นด้วยกับป้าแจมและทุกท่านที่กล่าวมาแล้ว จริงงงงๆๆๆๆ

คำตอบที่ 16
       มัวแต่เที่ยว..ถ้าไม่มีใครว่าก็จะไม่ตอบกระทู้ใช่..เปล่า? เป็นไง?ไปเที่ยวปิเต็งมา...

คำตอบที่ 17
       เห็นด้วยกับป้าแจม ....ครับ..ยิ่งออฟโรดตกเป็นจำเลยสังคมอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าข้อหาทำถนนชาวบ้านพังบ้างละ...ไปกันเยอะๆส่งเสียงรบกวนชาวบ้าน บ้างละ...สารพัดข้อกล่าวหา...ออฟโรดดีๆก็มีเยอะไป...

คำตอบที่ 18
       เห็นด้วยนะที่ชาวออฟโรดจะทำประโยชน์เพื่อสังคมไม่ว่าจะทางด้านไหนก็ตาม เพราะที่เราได้ยินมาตอนนี้ภาพลักษณ์ของชาวออฟโรดไม่ค่อยดีนัก เค้าว่า เป็นพวกเผาผลาญพลังงานชาติ ดังนั้น ขอให้เร่งทำคุณประโยชน์ให้กับสังคมที่เดือดร้อนจริงๆ กันดีกว่า อย่างพวกบริจาคเสื้อผ้าและของแห้งน่ะไม่ต้องหรอก เราว่าเปลี่ยนความคิดมาติดตั้งไฟฟ้าหรือไฟทาง ก็ดีเหมือนกันนะ

คำตอบที่ 19
       .ใครรู้สูตรทำแชมพูสระสมบ้างทำจากวัตถุดิบตามธรรมชาติช่วยบอกด้วยจะเริ่มนำไปใช้ร่วมกับโครงการเด็กดอยคอยหมอ เพราะป้าแก่แล้วไม่อยากเที่ยวดอยแล้วเป็นเหาตอนแก่

คำตอบที่ 20
       เห็นด้วยค่ะ
แชมพูสมุนไพรสด สูตรรำข้าวค่ะป้า
ส่วนประกอบนะคะ 1. มะกรูด 1 ผล
2. ฝักส้มป่อย 1 ฝัก
3. รำข้าวละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ 1. นำมะกรูดและฝักส้มป่อยไปเผาไฟให้มีกลิ่นหอม
2. ผ่าซีกมะกรูดนำไปต้มรวมกับฝักส้มป่อยในน้ำ 1 ชาม ต้มจนเดือด
3. นำน้ำที่ต้มได้ผสมกับน้ำเย็น 1 กะละมัง
4. เติมรำข้าว คนให้เข้ากัน เอาน้ำที่ได้ไปชะโลมเส้นผม นำกะละมังมารองน้ำที่ใช้โชลมแล้วกลับมาทำซ้ำอีก ใช้หวีซี่ห่างสางผมไปด้วย ทำเช่นนี้ไป 10 - 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
**สูตรนี้ทำให้ผมนิ่ม ไม่พันกัน รักษารังแคด้วยค่ะ
ถ้ามีเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบนะจ๊ะป้า

คำตอบที่ 21
       เมื่อกี้นี้คือสูตรที่ทำจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์นะคะ
เพราะว่าส่วนมากจะต้องใช้ส่วนผสมอื่นๆ ที่ต้องหาซื้อจากที่นี่ เช่น หัวแชมพู ผงฟอง ผงข้น ลาโนลีน ฯลฯหน่ะค่ะ

คำตอบที่ 22
       เห็นด้วยครับ เมื่อก่อนชาวบ้านบนดอยอยู่กันได้แบบเศรษฐกิจพอเพียง แต่ปัจจุบันต้องรอคอยแต่ของบริจาค ไม่ค่อยทำการเกษตรแล้ว เช่นปลูกผักสวนครัว,พืชผลกินได้ หรือการเลี้ยงสัตว์ ตอนนี้ไม่ค่อยทำกันแล้ว ประกอบกับมีการทำลายป่าไม้กันมากขึ้นเพราะไม่รู้คุณค่าของป่าไม้ ดังนั้นควรปลูกฝังค่านิยมที่ถูกต้องให้พวกเขา

คำตอบที่ 23
       ผ่านมาเจอขอแสดงความคิดเห็นด้วยคนครับ
ปกติชาวบ้านที่อยู่กับธรรมชาติจริงๆเวลาปลูกผักหักฟืนเค้าจะใช้วิธีแบบธรรมชาติ ถ้าเค้าได้ต้นกล้า หรือ เมล็ดพันธ์พืชผัก เค้าจะดูแลโดยไม่พึ่งสารเคมีเลย เยี่ยมครับ บางทีโอกาสหน้าถ้าพวกเรากลับเข้าไปอีกครั้ง เราพกเตาแก๊สไป อาจได้กินผัดผักบุ้งครับ

คำตอบที่ 24
       เป็นไอเดียที่เจ๋งมาก อยากให้ทำได้จริงๆ ขอเป็นกำลังใจโครงการกู๊ดๆ แบบนี้สานต่อได้สำเร็จ นะเจ้าคะ

คำตอบที่ 25
       ชอบครับป้า

คำตอบที่ 26
       เห็นด้วย อย่างแรง ครับ

คำตอบที่ 27
       แจ่มมากๆๆๆๆๆคับป้าแจม

คำตอบที่ 28
       ไอเดียนี้เยี่ยมยอดครับ เห็นด้วยจริงๆ แต่ก็ต้องมองในแง่อื่นด้วยนะครับเพราะโลกย่อมต้องมีการพัฒนาเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น คนต้องเรียนรู้เพื่อไม่ให้โดนเอาเปรียบ บางทีผู้ที่ด้อยโอกาสบางส่วนเขาก็มีความต้องการเสื้อผ้าเก่าที่ใช้งานได้ ซึ่งเขาไม่ได้ต้องการมากมายนักเพราะต้องใช้เวลาในการทอผ้าแล้วนำมาเย็บเป็นเสื้อนานหลายเดือนกว่าจะได้แต่ละตัว แต่ควรที่จะตรวจสอบความเหมาะสมของเสื้อผ้าที่จะนำไปให้ก่อน อย่างเช่นเสื้อยืด , เสื้อกันหนาวเป็นต้น ไม่ใช่นำเสื้อผ้าแฟชั่นหรือพวกสายเดี่ยวไปแจก ส่วนเรื่องแนวคิดในการใช้วัตธุดิบท้องถิ่นมาทำประโยชน์นั้นเห็นด้วยล้าน% แต่การพึ่งพาตนเองผมคิดว่าเขาทำได้อยู่แล้ว
สุดท้ายนี้ก็ขอวิงวอนให้เพื่อนสมาชิกท่องเที่ยวแบบออฟโรดอย่างมีคุณค่ามากที่สุดได้ทั้งความสุขกายสบายใจและได้ทำคุณประโยชน์แก่สังคมทดแทนคุณแผ่นดินสร้างสมบุญบารมีให้กับตัวเอง