คำตอบที่ 2
ข่าวหน้า 9 วันที่ 7 ธันวาคม 2549 ใน นสพ.มติชน
นายบุญส่ง จันทร์ส่องรัศมี รองประธานกลุ่มอนุรักษ์กาญจน์ เปิดเผยว่า จากการที่กลุ่มอนุรักษ์กาญจน์ลงพื้นที่บ้านคลิตี้ล่าง ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านถึงปัญหาความเดือดร้อน กรณีเส้นทางสัญจรในหมู่บ้านเสียหายจากการใช้เส้นทางของนักท่องเที่ยวที่ใช้รถยนต์ขนาดใหญ่ (คาราวานออฟโรด) ในการใช้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวตะลุยป่าในเขตเตรียมประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติลำคลองงู
"เส้นทางดังกล่าวชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางหลักในการสัญจรไปมา เป็นเส้นทางรับส่งเด็กนักเรียนคลิตี้ล่างไปยังโรงเรียนทุ่งเสือโทน ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านคลิตี้บน เนื่องจากบ้านคลิตี้ล่างไม่มีโรงเรียน โดยในทุกๆ วัน เด็กนักเรียนจะต้องเดินทางไปกลับรวมระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร ทำให้ลำบากในการเดินทาง อีกทั้งยังทำให้เนื้อตัวเลอะเทอะสกปรกมอมแมม นอกจากนี้เส้นทางดังกล่าวยังใช้ในการบรรทุกผลผลิตทางการเกษตรอีกด้วย"
นายบุญส่งกล่าวด้วยว่า การใช้เส้นทางของคาราวานออฟโรด ส่งผลให้เส้นทางดังกล่าวเสียหายใช้การไม่ได้ โดยบางจุดของเส้นทางยุบเป็นหล่มลึกกว่า 1 เมตร เป็นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านกว่า 60 หลังคาเรือนเดินทางด้วยความยากลำบาก ชาวบ้านต้องช่วยกันซ่อมแซมปรับปรุงเส้นทางครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เมื่อคาราวานออฟโรดเข้าไปลุยอีก เส้นทางที่ชาวบ้านลงแรงช่วยกันซ่อมแซมก็พังเสียหายอีก โดยคาราวานออฟโรดระบุว่า ได้จ่ายเงินค่าใช้เส้นทางในอัตราคันละ 500 บาท ให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบแล้ว จึงเป็นเหตุให้คาราวานออฟโรดไม่สนใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
"ปัญหานี้ส่งผลกระทบกับชาวบ้าเป็นอย่างมาก จึงมีข้อเรียกร้องต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบดังนี้ 1.ในช่วงเดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝนขอให้ปิดเส้นทางจากบ้านคลิตี้บน-คลิตี้ล่าง เป็นระยะทาง 12 กิโลเมตร เพราะต้องรับ-ส่งเด็กไปโรงเรียนทุกวัน และถนนรอบหมู่บ้านเป็นระยะทาง 5 กิโลเมตร ซึ่งใช้เป็นเส้นทางขนส่งผลผลิตของชาวบ้าน 2.หากนักท่องเที่ยวประสงค์จะเดินทางเข้าไปเที่ยวน้ำตก ชาวบ้านยินดีบริการด้วยรถอีแต๊ก ซึ่งจะไม่ทำให้ถนนเสียหาย หากหน่วยงานที่รับผิดชอบยังไม่ดำเนินการใดๆ ชาวบ้านชุมชนคลิตี้ล่างจะปิดถนนด้วยตนเอง" นายบุญส่งกล่าว